공유

บทที่ 8 ชาเผือก

last update 최신 업데이트: 2025-12-09 11:32:57

บทที่ 8 ชาเผือก

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณยามอิ๋น (03:00น.-04:59น.) ทุกคนยังหลับกันอยู่ จินเยว่ลืมตาขึ้นมาค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินย่องออกจากห้อง นางนอนครุ่นคิดทั้งคืนว่าจะทำอย่างไรกับจางลี่ดี สุดท้ายก็นึกขึ้นได้ว่าที่ครัวมีหัวเผือกที่เก็บไว้อยู่ โฉมสะคราญค่อยๆ เดินไปที่ห้องครัวใช้ผ้าห่อมือจับหัวเผือกขูดกับมีดขนาดเล็ก เปลือกภายนอกของเผือกค่อยๆ ร่วงหล่นลงไปในน้ำที่จินเยว่ใส่ชามไว้

“ตอนแรกก็ว่าจะเป็นคนดี แต่ถ้ามัวแต่ให้อภัยแล้วเมื่อไหร่จะได้แก้แค้น

กันเล่า” จินเยว่พึมพำอยู่คนเดียวเบาๆ

เมื่อขูดเผือกเสร็จนางก็จัดการเอาหัวเผือกไปเก็บ จินเยว่กรองน้ำที่มีเปลือกของหัวเผือกลอยผสมอยู่ออก และนำน้ำในชามรินใส่ถ้วยชาไว้ จินเยว่

นึกขึ้นมาได้ว่านางมีช่องในมิติอยู่จึงนำถ้วยชาที่มีน้ำเกือบเต็มถ้วยไปซ่อนในห้วงมิติ

ยามเหม่า (05:00น.-06:59น.)

จินเยว่ตื่นมาแปรงฟันและล้างหน้าล้างตายิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนทุกคนแปลกใจ

“อารมณ์ดีอะไรกันน้องข้า พี่เห็นเจ้ายิ้มกว้างตั้งแต่เช้าแล้ว”

เจียวจิ้นถามด้วยความสงสัย

“วันนี้อากาศดีเจ้าค่ะท่านพี่ อากาศดีจิตใจข้าก็ดีตามไปด้วย” พูดจบก็ส่งยิ้มให้พี่ชาย

ณ ห้องโถงกลางบ้าน

ภายในห้องโถงทุกคนมาพร้อมหน้า กู้ซีฮันและภรรยานั่งอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะ ครอบครัวหวังหย่งนั่งอยู่ใกล้ๆ กันและตามมาด้วยครอบครัวของจินเยว่ ร่างเล็กกำลังยกกาน้ำชาเทใส่ถ้วยชาของแต่ละคน นางเริ่มจากนำถ้วยชาให้คนชราทั้งสองก่อน และกำลังจะยกถ้วยชาไปให้หวังหย่งแต่แล้วกู้จินเยว่ก็ทำท่าโอนเอนไปมาจนน้ำชา

ในถ้วยหกใส่ศีรษะของจางลี่เต็มๆ

“กรี๊ดดด เจ้าทำอะไรของเจ้าเนี่ย” จางลี่ส่งเสียงโวยวาย

“พี่จางลี่ ข้าขอโทษเจ้าค่ะข้าไม่ได้ตั้งใจ” จินเยว่ก้มหน้าขอโทษอีกฝ่าย แต่

ริมฝีปากหยัดยิ้ม

“ไม่ได้ตั้งใจอะไรกัน ก็เห็นอยู่ว่าเจ้าจงใจราดน้ำชาใส่ข้า” พูดไปก็นึกขึ้นมาได้ว่าน้ำชาในถ้วยของท่านปู่มีควันลอยขึ้นมาแต่ทำไมน้ำชาที่ราดตัวนางถึงเย็นเฉียบ

จินเยว่หันไปคุกเข่าต่อหน้าผู้เฒ่าทั้งสองของบ้าน “ข้าไม่ได้ตั้งใจนะเจ้าคะท่านปู่ พวกท่านก็เห็นใช่หรือไม่ข้าแค่เวียนหัวจนเซทำหกใส่พี่จางลี่” จินเยว่แก้ตัว

น้ำขุ่นๆ

“นั่งเด็กสารเลวเมื่อคืนเจ้ายังไม่เข็ดใช่หรือไม่” ฮุ่ยชิวลุกขึ้นไปหาเรื่อง

“เบาเสียงลงหน่อยเถอะฮุ่ยชิว เจ้าจะเรียกคนทั้งหมู่บ้านมาหรือไร” กู้ซีฮันก็ยังเป็นคนที่ห่วงแค่หน้าตาของเขาเสมอ

ฮุ่ยชิวฮึมฮำไม่พอใจแต่ก็ยอมถอย

“ท่านย่าอย่าทำอะไรน้องสาวข้าเลยนะขอรับ พวกเราต่างเห็นว่านางเซจวนจะล้มอยู่แล้ว หากท่านต้องการจะลงโทษก็มาทำที่ข้าเถอะขอรับ” เจียวจิ้น

ออกโรงปกป้องน้องสาวดั่งทุกครั้ง

“เอาเถิดหลานก็ไม่ได้ตั้งใจ พวกเจ้าพาจางลี่ไปล้างเนื้อล้างตัวก่อน” กู้ซีฮันพูดตัดรำคาญ เมื่อผู้อาวุโสที่สุดในบ้านออกคำสั่งทุกคนก็ต้องฟัง

ซูฮวาพาจางลี่มาล้างตัวที่ห้องอาบน้ำ เมื่อคืนก็ต้องนั่งคุกเข่าทั้งคืนแล้วนี่ยังมาโดนสาดน้ำใส่อีกมันจะมากเกินไปแล้วนะกู้จินเยว่ จางลี่โมโหจนมือสั่นไปหมด

“ข้าเกลียดมันยิ่งนักท่านแม่” ไฟแค้นในใจจางลี่ค่อยๆ โหมกระพือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“เจ้าอดทนไว้หน่อยเถิด พ่อกับแม่ย่อมต้องจัดการให้เจ้าแน่” นางวางแผนไว้แล้วอย่างไรก็ต้องกำจัดพวกมันออกไปให้ได้ ทั้งจินเยว่ที่ขัดวาสนาจางลี่กับเฟยหรง ทั้งพ่อมันที่อยู่คอยส่วนแบ่งสมบัติของตระกูลกู้ นางและสามีจะต้องกำจัดพวกมันไปให้หมด ตระกูลกู้ถึงจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ถือว่าพอมีกินมีใช้กว่าบ้านอื่นอยู่บ้าง แต่ถ้าหากต้องแบ่งเป็นหลายส่วนจะพอได้อย่างไรกัน

หลังจากทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้วครอบครัวจินเยว่ก็ออกไปทำงาน

ในไร่เหมือนทุกวัน จินเยว่ก็ออกไปช่วยพวกเขาด้วย

“ท่านพี่ ท่านพอจะมีเงินให้ข้าสักสิบอีแปะหรือไม่เจ้าคะ” จินเยว่ถามเจียวจิ้น

“พี่ก็พอจะมีเหลืออยู่บ้าง เจ้าจะเอาไปทำอะไรหรือ” นางเป็นผู้หญิงคงอยากได้ของสวยๆ งามๆ กับเขาบ้าง

“ข้าจะเอาไปซื้อของจำเป็นของผู้หญิงเจ้าค่ะ ท่านพาข้าไปตลาดได้หรือไม่เจ้าคะ” นางยังคงถามต่อไป

“ได้สิ เดี๋ยวตอนเที่ยงพักกินข้าวเสร็จแล้วพี่จะพาไปนะ” เมื่อเห็นว่าเป็นของจำเป็นของผู้หญิงเขาก็ไม่ซักไซ้ต่อ

เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงจินเยว่รีบกินข้าวและชวนเจียวจิ้นไปตลาดด้วยกัน

“ท่านรอข้าตรงนี้นะเจ้าคะเดี๋ยวข้ามา” เจียวจิ้นยื่นเงินให้จินเยว่สิบอีแปะตามที่นางขอและหาที่นั่งรอตามที่นางบอก

จินเยว่เดินตรงไปที่ร้านขายเมล็ดพันธุ์ทันทีเป็นร้านที่ไม่ใหญ่นักแต่ดูสะอาดสะอ้าน

“ท่านลุงท่านมีเมล็ดพันธุ์แตงโมหรือไม่เจ้าคะ” ร่างเล็กถามเจ้าของร้านที่ยืนอยู่หน้าร้าน

“เจ้ารู้จักแตงโมด้วยหรือ” เจ้าของร้านแปลกใจแตงโมเป็นพืชที่ไม่สามารถหาได้ในหมู่บ้านแถบนี้

“เจ้าค่ะ ข้าอยากลองปลูกดู”

“ปกติข้าไม่มีขายหรอก แต่สหายเก่าข้าพึ่งมาเยี่ยมเยียนเขามอบเมล็ดแตงโมไว้ให้ข้าเล็กน้อย ข้าจะแบ่งให้เจ้าไปส่วนหนึ่ง” เขาเคยทดลองปลูกแตงโมจากเมล็ดนี้แล้วแต่ทำอย่างไรมันก็ไม่ขึ้นให้นังหนูนี่ไปก็ไม่เสียหาย

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านลุง เท่าไหร่หรือเจ้าคะ”

เจ้าของร้านส่ายหน้าพร้อมโบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอกนังหนู ข้าลองปลูกแล้วแต่มันไม่ขึ้นเสียทีเจ้ารับไปเถอะ”

จินเยว่ทำท่าขอบคุณเขาเสียยกใหญ่ จากนั้นนางก็เดินกลับไปหา

เจียวจิ้นที่รออยู่และพากันเดินกลับไปทำงานสวนต่อ

หลังจากเหตุการณ์ที่จินเยว่ทำน้ำชาหกใส่จางลี่ก็ผ่านมาได้สักพักแล้ว หลังจากที่ไปล้างเนื้อล้างตัวทำกิจวัตรประจำวันกู้จางลี่ก็รู้สึกเริ่มระคายเคืองผิว ทั้งคันคะเยอทั้งแสบ หญิงสาวเกาใบหน้าโดยไม่รู้ตัวว่านางเกาจนหน้าแดงเถือกไปหมด

บางจุดเริ่มมีเลือดซิบแต่กู้จางลี่ไม่สามารถหยุดเกาได้

“กรี๊ดดดดด ท่านแม่! ท่านแม่!!” กู้จางลี่ที่กำลังเกาใบหน้าอยู่หางตาเหลือบไปเห็นว่าที่มือมีเลือดติดอยู่บางส่วนจึงร้องเรียกซูฮวา

ซูฮวาที่กำลังนอนกลางวันเมื่อได้ยินเสียงบุตรสาวโวยวายก็รีบลุกเดินไปดูด้วยความเป็นห่วง

“เป็นอะไรลูก ใครทำอะไรเจ้าบอกแม่มา” นางพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน

จางลี่ค่อยๆ เอามือที่กุมแก้มซ้ายไว้ออก “ท่านแม่ ท่านดูใบหน้าให้ข้าหน่อยว่ามันเป็นอย่างไร ข้าไม่กล้าส่องคันฉ่อง” น้ำตาจางลี่รื้นเต็มหน่วย

ซูฮวาที่เห็นแผลบนใบหน้าลูกก็ตกใจสุดขีดบนใบหน้านางปรากฏรอยแผลขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็เห็นชัด ผู้หญิงสำคัญก็ที่หน้าตาหากใบหน้ามีรอยแผลก็จะเป็นหญิงมีตำหนิ แต่นางไม่อยากให้บุตรสาวเสียขวัญไปมากกว่านี้จึงเลี่ยงที่จะไม่พูด

ตามตรง

“แผลนิดเดียวเองลูก ไม่ต้องร้องไห้แม่จะช่วยเจ้าเอง”

“มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกันเจ้าคะ ลูกไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ใบหน้าของลูกมันทั้งแสบและคันไปหมดเลยเจ้าค่ะท่านแม่” น้ำตาที่เคยคลอหน่วยตาบัดนี้ไหลลงอาบแก้มสร้างความปวดแสบปวดร้อนเข้าไปใหญ่

“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะลูกรักของแม่ แม่กับพ่อจะหาทางช่วยเจ้าเอง” นางกอดปลอบบุตรสาวอันเป็นที่รัก

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 18 หมูกรอบ

    บทที่ 18 หมูกรอบเช้านี้จินเยว่และเจียวจิ้นออกไปขายของตามปกติ จินเยว่รู้สึกได้ว่าวันนี้นางขายดีกว่าสองวันแรก เพียงเปิดร้านไม่ถึงครึ่งชั่วยามส้มที่เตรียมมาประมาณร้อยผลก็หมดเกลี้ยงขนาดปิดร้านแล้วยังมีคนมาถามหาอยู่เลย ถ้าขายดีแบบนี้ทุกวันก็ดีสิแต่อะไรก็ไม่แน่นอนคนเราคงไม่สามารถกินส้มได้ทุกวันหรอกนางจะต้องหาสินค้ามาขายเพิ่มก่อนจะกลับบ้านจินเยว่ก็นึกขึ้นได้ว่านางยังไม่มีอุปกรณ์สำคัญสำหรับมื้อเย็นนี้เลยชวนเจียวจิ้นไปยังร้านที่ต้องการทันที“เจ้าจะซื้ออะไรอีกหรือเมื่อวานเราก็ใช้จ่ายไปเยอะแล้วนะ” เจียวจิ้นเอ่ยปากเตือนน้องสาว เขากลัวว่าน้องสาวจะกลายเป็นคนฟุ่มเฟือยภายหน้าจะเดือดร้อนได้“ข้าอยากได้เหล็กแหลมลักษณะคล้ายเข็มที่เราเอาไว้เย็บผ้าแต่ขนาดใหญ่กว่าหน่อยเจ้าค่ะ” จินเยว่บอกก่อนจะหันไปถามเจ้าของร้าน“ท่านลุงมีเหล็กแหลมความยาวประมาณฝ่ามือความใหญ่ประมาณตะเกียบไหมเจ้าคะ”“ตอนนี้ไม่มีหรอก ถ้าอยากได้เจ้ามารับพรุ่งนี้ลุงจะทำให้ใหม่”“งั้นข้าเอาสักสองอันนะเจ้าคะ”“ได้สิ ทั้งหมดก็ยี่สิบห้าอีแปะนะเจ้าสั่งจำนวนน้อยราคาก็จะสูงหน่อย”“ไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะมารับช่วงสายๆ นะเจ้าคะ”จินเยว่รู้สึกเ

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 17 คนที่ไม่อยากเจอ

    บทที่ 17 คนที่ไม่อยากเจอบ่ายวันนั้นจินเยว่เข้าไปเก็บส้มในมิติ นางไม่ต้องกังวลว่าส้มพวกนี้จะหมดเพราะพวกมันมีมากมายเหลือเกินแต่อาจจะต้องเอาสินค้าอย่างอื่นไปขายเพิ่มมาหมุนเวียนไปเรื่อยๆเมื่อเก็บส้มเสร็จก็พากันกลับบ้าน จินเยว่นึกขึ้นได้ว่านางลืมเปลือกหอยที่อาสี่นำมาให้เมื่อวานไปเลย โฉมสะคราญเดินไปในห้องครัวนำเปลือกหอยใส่ตะกร้าและเติมน้ำลงไปใช้มือวนๆ จนน้ำกลายเป็นสีขุ่นก็เปลี่ยนน้ำ นางเอาแปรงมาขัดเพื่อช่วยให้มันสะอาดมากยิ่งขึ้น ทำแบบนี้อยู่หลายครั้งเปลือกหอยที่อยู่ในตะกร้าดูสะอาดขึ้นก็เทน้ำออกจนหมด ก่อนจะนำเปลือกหอยไปวางตากแดดไว้เมื่อถึงเวลานัดส่งสินค้าสองพี่น้องก็นำส้มมาส่งที่ร้านอ้ายเหม่ย พวกเขาตกแต่งร้านสวยงามขนาดของร้านก็น่าจะเป็นร้านเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในตลาดนี้ ร้านอ้ายเหม่ยนี้มีขายทั้งเครื่องประดับมากมายและยังมีพวกเครื่องประทินโฉมอีกด้วย“พวกข้านำจวี๋จื่อมาส่งเจ้าค่ะ” จินเยว่ที่เห็นหญิงชรากำลังคุยกับลูกค้าอยู่ก็รอจนนางคุยเสร็จจึงจะเอ่ยทัก“มาแล้วหรือ มาๆ เข้ามาก่อน” หญิงชราบอกอย่างใจดี“นี่เงินค่าจวี๋จื่อ และนี่ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากยายถือว่าตอบแทนที่คราวก่อนแม่หนูแถมให้ยา

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 16 มันกินได้จริงหรือ

    บทที่ 16 มันกินได้จริงหรือสองพี่น้องพากันเดินมาถึงที่บ้านหยอกล้อกันมาตลอดทาง ชีวิตพวกเขาสองสามวันมานี้รู้สึกเหมือนสุนัขที่โดนปลดโซ่คล้องคอออก พวกเขาสามารถทำสิ่งใดที่ใจคิดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะต้องโดนว่ากล่าวหรือทุบตี ถึงบ้านหลังนี้จะเก่าทรุดโทรมแต่มันก็ให้ความอบอุ่นเป็นบ้านที่เจียวจิ้นไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เขาไม่ต้องโดนกดหัวใช้งานหรือโดนดูถูกเหยียดหยามจากคนในครอบครัววันนี้หนิงเทียนทำกับข้าวเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นคือผักป่าเอาไปผัดใส่เกลือเล็กน้อยกินกับข้าวต้ม จินเยว่รีบไปล้างมือล้างหน้าเตรียมตัวเพื่อที่จะเข้าครัวทำอาหารต่อ“ท่านแม่ไม่ต้องช่วยข้าหรอกเจ้าค่ะ ข้าทำคนเดียวได้” เอ่ยบอกกับมารดาที่รอช่วยนางอยู่ในครัวร่างเล็กนำเห็ดไปล้างในน้ำสะอาดจนมั่นใจแล้วว่าพวกมันสะอาดไร้สิ่งปนเปื้อนใดๆ ก่อนจะนำไปวางตากลมไว้ให้แห้งสักพัก ระหว่างรอเห็ดแห้งร่างเล็กก็ตักแป้งที่อยู่ในห่อออกมาประมาณหนึ่ง ใส่ชามผสมก่อนที่จะเทน้ำลงไปผสมให้เข้ากันและนำเห็ดใส่ลงไปคลุกเคล้าจนแป้งเหลวๆ เคลือบทั่วทุกอณูของเห็ดเหล่านั้น จินเยว่นำกระทะมาตั้งบนเตาที่หนิงเทียนก่อไฟไว้เมื่อเห็นว่าไอร้อนเริ่มแผ่ออกมาก็ค่อยๆ ใส่เห็ดล

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 15 ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกเสมอ

    บทที่ 15 ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกเสมอ“ท่านป้าหมายถึงใครหรือเจ้าคะ” จินเยว่ยิ้มแต่สิ่งที่นางพูดออกมาทำอีกฝ่ายโกรธจนควันแทบออกหู “ใครเป็นป้าเจ้า!” นางตะโกนออกไปจนลืมว่าเมื่อครู่พึ่งบ่นจินเยว่ที่ตะโกนเสียงดังข้าอายุแค่สามสิบจะมาเป็นป้าใครได้ที่ไหนกัน นังเด็กนี่ปากเสียจริงๆ “ก็ท่านนั่นแหละเจ้าค่ะ ป้า ” จินเยว่เน้นเสียงหนักๆที่คำท้าย“หึ ไม่มีหัวคิดแบบนี้น่ะสิถึงได้นำแค่จวี๋จื่อออกมาขาย”แม่ค้าแผงผักเห็นว่าคนเริ่มมามุงดูนางทะเลาะกับเด็กสาวแผงข้างๆเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มเรียกสติของตัวเองได้ นางขายตรงนี้มานานถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างดีเหมาะสมกับค่าเช่าแผง ถ้าทะเลาะกันจนโดนไล่ไปที่อื่นนางและครอบครัวจะต้องเดือดร้อนแน่ๆ “ข้าไม่อยากเถียงกับเด็กอย่างเจ้าแล้ว” แม่ค้าแผงผักพูดกระแทกเป็นการตัดบทจินเยว่ที่เห็นว่าอีกฝ่ายล่าถอยไปแล้วก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดแต่อย่างใด นางมาขายของก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับใครอยู่แล้ว ร่างเล็กเริ่มส่งเสียงเรียกลูกค้าอีกครั้งแต่คนที่มุงดูอยู่เมื่อกี้ก็ทยอยเดินหนีกันหมด แม่ค้าแผงผักข้างๆแอบยิ้มเยาะที่นางไม่สามารถขายจวี๋จื่อได้ จินเยว่กัดฟันกรอด “ไม่ต้องเสียใจไปหรอก พี

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 14 ค้าขายครั้งแรก

    บทที่ 14 ค้าขายครั้งแรก“พรุ่งนี้ท่านไม่ต้องไปหางานหรอก เราเข้าป่าไปหาของมาขายดีกว่าเจ้าค่ะ” จินเยว่บอกกับพี่ชายที่นั่งกลุ้มอยู่“จะดีหรือ ในป่าก็ไม่ค่อยมีอะไรที่ขายได้ราคา แล้วก็ไม่ค่อยมีใครรับซื้อด้วยนะเยว่เอ๋อร์” เจียวจิ้นคิดตามที่เขาบอกกับน้องสาว การเก็บผักผลไม้ในป่าไปขายมีชาวบ้านทำกันเยอะแยะ แต่ก็มักจะโดนกดราคาจนแทบไม่คุ้มที่ต้องเสี่ยงเข้าไปในป่า“พวกเราลองไปกันก่อนเถอะเจ้าค่ะ จะได้หาเงินมาซื้ออาหารและเครื่องปรุงเข้าบ้านด้วย ข้าไม่อยากกินผักต้มทุกวันนะเจ้าคะ” จินเยว่หน้างอเช้าวันต่อมา แสงแดดอบอุ่นยามเช้าทำให้จินเยว่รู้สึกจิตใจสงบ ร่างเล็กและพี่ชายทานอาหารเช้าเสร็จแล้วพากันเดินทางเพื่อไปหาของในป่าพวกเขาเดินเข้ามาไม่ลึกมากนัก จินเยว่มาที่นี่อย่างมีเป้าหมาย ร่างเล็กจำได้ว่าในป่านี้มีผลไม้หลากหลายชนิดโดยเฉพาะจวี๋จื่อหรือส้ม มันขึ้นเต็มไปหมดเป็นผลไม้ที่หาได้ทั่วไปทำให้ไม่ค่อยมีราคา โดยปกติก็จะขายกันจินละ2-3อีแปะเท่านั้น “เจ้าอย่าเดินไปไกลนะพี่ขอตัดไม้ตรงนี้ก่อนเราจะได้เอาไปทำฟืนกัน ฟืนที่ตัดไปครั้งก่อนเกือบหมดแล้ว” เจียวจิ้นหันมาบอกจินเยว่เสร็จก็หันกลับไปตัดไม้ต่อ“เจ้าค่ะท่านพี่ข

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 13 เปลือกหอย

    บทที่ 13 เปลือกหอย“ที่ดินที่หลังบ้านพวกเราสามารถทำการเกษตรได้หรือไม่เจ้าคะข้าเห็นมันยังว่างอยู่” จินเยว่ถามอย่างกระตือรือร้น“จะว่าได้มันก็ได้อยู่หรอก แต่ที่ดินนี้มันมีปัญหาอยู่ ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอันใดปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นสักอย่าง ถึงขึ้นก็เหี่ยวเฉาตายเสียหมด” หนิงเทียนทำหน้ากลุ้มใจ ปัญหานี้มีมานานแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามหาทางแก้อย่างไรก็ไม่สามารถปลูกอะไรบนที่ผืนนี้ได้เลย นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ที่ดินท้ายหมู่บ้านนี้ไม่มีราคา ชาวบ้านที่อยู่แถบนี้ค่อนข้างยากจนเสียส่วนใหญ่เพราะพวกเขาเพาะปลูกในที่ดินของตัวเองไม่ได้ บางคนก็ไปเป็นลูกจ้างโดนกดค่าแรง บางคนก็ไปเช่าที่ดินของคนอื่นเพื่อทำการเพาะปลูก “งั้นข้าขอลองไปดูหน่อยนะเจ้าคะเผื่อจะทำอะไรได้บ้าง”จินเยว่เดินไปยังที่ดินหลังบ้าน นางเดินสังเกตที่ดินไปเรื่อยๆก็พบว่า ต้นไม้ที่ขึ้นรอบๆที่ยังมีชีวิตอยู่ก็มีลักษณะใบเหลือง ลำต้นของพวกมันแคระแกร็น“นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้วนะเนี่ย” จินเยว่พูดอย่างหนักใจนางเดินสังเกตมาสักพักไม่พบคราบเกลือบนผืนดินและหน้าดินบริเวณนั้นก็มีลักษณะออกสีเหลืองๆอีกด้วยนางเดาได้ทันทีว่าที่ดินพวกนี้ปลูกอะไรไม่ขึ้น

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status