공유

บทที่ 9 ข้าวเม็ดอวบอ้วน

last update 최신 업데이트: 2025-12-10 12:24:49

บทที่ 9 ข้าวเม็ดอวบอ้วน

คืนนั้นจินเยว่แอบเข้าไปในมิติอีกครั้ง นางได้เข้าไปคุยกับภูตน้อยที่กำลังนั่งแกว่งขาไปมาอย่างอารมณ์ดี

“เป็นอย่างไรบ้างเจียวเจี้ย อยู่คนเดียวเหงาหรือไม่”

“เหงานิดหน่อยขอรับท่านแม่ แต่ข้าก็มีเพื่อนเล่นเป็นพี่ๆ ปลาในลำธารด้วยขอรับ”

จินเยว่ส่งยิ้มอบอุ่นไปให้ “ดีแล้วแหละลูก วันนี้แม่มีอะไรให้เจ้าช่วย”

“อะไรหรือขอรับท่านแม่” เด็กน้อยถามด้วยความตื่นเต้น

“พวกเรามาปลูกแตงโมกันเถิด”

“จริงหรือขอรับท่านแม่ ข้าจะได้ปลูกพืชผักแล้วหรือขอรับ” เด็กน้อยมีความสุขยิ่งนัก ยิ่งพืชในมิติมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเติบโตและมีพลังมากขึ้น

“จริงสิ เรามาเริ่มกันเลยเถอะ”

ทั้งสองช่วยกันขุดดินและหยอดเมล็ดลงไป ปิดท้ายด้วยการรดน้ำจากน้ำตกผิงอาน

“แม่ฝากเจ้าดูแลแตงโมของพวกเราด้วยนะ คอยรดน้ำมันทุกวันด้วยเล่า” จินเยว่บอกภูตน้อยก่อนจะออกจากมิติและกลับไปนอนดังเดิม

หลังจากที่จินเยว่นำเมล็ดแตงโมที่ซื้อมาไปปลูกในมิติและฝากเจียวเจี้ยรดน้ำทุกวันก็ผ่านมาได้ราวเกือบสัปดาห์แล้ว หลายวันที่ผ่านมาจินเยว่ออกไปช่วยครอบครัวทำสวนทุกวันมีบางครั้งที่เข้าไปดูแตงโมในมิติบ้างพวกมันเจริญเติบโตไวยิ่งนัก

วันนี้ครอบครัวจินเยว่ก็มาทำงานที่สวนดังเดิม พวกเขาช่วยกันขยันทำงานทุกวันแต่น่าเสียดายที่ต่อให้ทำมากแค่ไหนพวกเขาก็ไม่ได้ค่าตอบแทนอย่างที่ควรเป็น

“ท่านแม่ ท่านว่าข้าวแปลงนี้เมล็ดมันดูอวบอ้วนกว่าแปลงอื่นๆ หรือไม่ขอรับ” เจียวจิ้นที่เห็นข้าวแปลงที่จินเยว่แอบเอาน้ำจากน้ำตกผิงอานรดทุกวันถามขึ้น อีกทั้งข้าวในแปลงนี้ยังดูเหมือนมีผลผลิตเยอะกว่าแปลงอื่นๆ อีกด้วย

หนิงเทียนหันมาตามทางที่เจียวจิ้นบอก “จริงด้วยลูก ปีนี้พวกเราโชคดีแล้ว ข้าวเยอะขึ้นพวกเราก็จะได้ส่วนแบ่งอาหารมากขึ้นด้วย ดีจริงๆ” ลูกๆ ของนางผอมซูบเกินไปแล้ว ปีนี้ผลผลิตเยอะขึ้นก็ต้องขุนให้อ้วนขึ้นเสียหน่อย

เจียวจิ้นจะดีใจก็ไม่เต็มอก ผลผลิตเยอะขึ้นก็ใช่ว่าพวกเขาจะได้ค่าตอบแทนจากพวกมันเพิ่มขึ้นเสียเมื่อไหร่อย่างดีก็แค่ได้ส่วนแบ่งอาหารเพิ่มขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น

จินเยว่ที่เห็นคนอื่นกำลังมีความสุขนางก็แอบอมยิ้มไปด้วย ร่างเล็กเดินหลบไปหลังต้นไม้และหลบเข้าไปในมิติ ทักทายภูตน้อยและเป็นไปตามคาดการณ์ แตงโมที่นางลงเมล็ดไว้และฝากเจียวเจี้ยดูแลบัดนี้ผลผลิตโตเต็มที่แล้ว เจียวจิ้นลงเมล็ดพันธุ์ไปแค่หนึ่งส่วนเท่านั้นอีกอีกเก้าส่วนไว้ปลูกในภายหลัง

จินเยว่เอามีดพกที่แอบเหน็บไว้ในเสื้อออกมาผ่าแตงโมและยื่นให้เด็กน้อยที่ยืนอ้าปากน้ำลายไหลอยู่ตรงหน้า

“แตงโมมันอร่อยหอมหวานจริงๆ ขอรับท่านแม่ ข้าไม่เคยกินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยขอรับ” เด็กน้อยเคี้ยวแก้มตุ่ย พลางเอ่ยชมไม่หยุดปาก

“อร่อยก็ดีแล้ว ส่วนนี้ของเจ้า ส่วนที่เหลือนี้แม่จะเอาไปแบ่งคนอื่นๆ กิน”

“ข้าขอปลูกอีกได้หรือไม่ขอรับท่านแม่ข้าชอบมันยิ่งนัก”

“ได้สิ แต่เหลือไว้ปลูกวันหลังด้วยเล่า ถ้างั้นแม่ไปก่อนนะ” ล่ำลา

ภูตน้อยแล้วก็อุ้มแตงโมสามลูกขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ออกจากมิติ จินเยว่ตัดแตงโม

มาทั้งหมด5ผลโดยหนึ่งในนั้นนางเอาไปเก็บไว้ในช่องว่างมิติ จินเยว่เดินไปยังจุดที่ครอบครัวนางยืนอยู่

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ หยุดพักก่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้าเก็บผลไม้มาได้จาก

ในป่า เรามาแบ่งกันกินเถอะ” จินเยว่กวักมือเรียกทุกคน

พวกเขามองไปตามทางที่จินเยว่กำลังเดินมา เมื่อร่างเล็กพูดจบ

พวกเขาก็เดินไปพักใต้ต้นไม้ใหญ่กิ่งก้านของมันแผ่ร่มเงาเป็นวงกว้าง

“มันคืออะไรหรือเยว่เอ๋อร์ พ่อไม่เคยเห็นมาก่อน” กู้ซีห่าวถามด้วยความสงสัยแทนทุกคน

“สิ่งนี้เรียกว่าแตงโมเจ้าค่ะ เปลือกด้านนอกของมันจะมีสีเขียวแต่ถ้าผ่าข้างในออกมาแล้วจะมีสีแดง รสชาติของมันหวานฉ่ำมากเจ้าค่ะ” ร่างเล็กบรรยายไปมือก็ผ่าแตงโมออกเป็นชิ้นๆ ยื่นให้กับทุกคน

“แต่เม็ดสีดำข้างในมันกินไม่ได้นะเจ้าคะ” นางเอ่ยเตือนก่อน

หนิงเทียนยิ้ม “เจ้าไปเอามาจากที่ใดหรือเยว่เอ๋อร์”

“เมื่อกี้ข้าไปเดินเล่นที่ทางเข้าป่าแล้วเจอเข้าก็เลยตัดผลมันมาเจ้าค่ะ” จินเยว่รีบแก้ตัว

“พวกท่านชิมแล้วรสชาติเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ก่อนที่จะมีใครสงสัย

ไปมากกว่านี้ร่างเล็กก็รีบถามตัดบทก่อน

“หวานอร่อยจริงๆ ตามที่เจ้าบอก” เจียวจิ้นเอ่ยชมไปตามความจริง

“รสชาติดีมากเลยลูก” หนิงเทียนพูดน้ำเสียงอบอุ่น สายตาเอ็นดูบุตรสาว

“ลูกพ่อเก่งจริงๆ รู้จักของอร่อยแบบนี้ด้วย”

“ที่เหลืออีกสองลูกเจ้าก็เก็บไปให้คนที่บ้านเถอะเยว่เอ๋อร์” กู้ซีห่าวยังไม่วายนึกถึงคนอื่นๆ ในครอบครัว

“ข้าให้ท่านปู่กับท่านย่าได้หนึ่งลูกเจ้าค่ะ ส่วนอีกลูกข้าจะเอาไปให้

ท่านหมอเกาตอบแทนที่เขาเคยรักษาข้าและให้ยามารักษาแผลของท่านแม่คราวก่อน” ที่จริงมันก็แบ่งให้ได้อยู่แหละแต่นางหมั่นไส้จางลี่อดกินไปเถอะ

“ตามใจเจ้าเถอะ นี่เป็นของที่เจ้าหามาได้พ่อไม่อาจบังคับเจ้าได้”

จินเยว่ส่งยิ้มไร้เดียงสาให้คนเป็นพ่อ “งั้นเดี๋ยวข้ามานะเจ้าคะ”

ร่างเล็กเดินออกไปตามทางที่นึกขึ้นมาได้ในความทรงจำของร่างเดิม

บ้านของท่านหมอเกานี้อาจจะไม่ไกลมากแต่ก็เหนื่อยหอบอยู่เหมือนกัน

ระหว่างทางที่เดินไปโฉมสะคราญก็รับรู้ได้ถึงสายตาหลากหลายที่มองเข้ามา ว่างกันนักหรือไงไม่เอาเวลาไปทำมาหากินกันนะ วันๆ มัวแต่ยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่ได้ ข้ารู้แล้วว่าข้าเป็นหญิงสารเลวในสายตาพวกเจ้า ถึงข้าไม่ได้ทำผิดอะไรเลยข้าก็จะรับมันไว้แล้วกัน ถ้าข้าชั่วร้ายนักพวกเจ้าก็อย่าเข้ามาใกล้ข้าเล่า จินเยว่คิดในหัวพลาง

เบะปากคว่ำ บางคนจ้องมองนางจนจินเยว่อดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มกลับไปแต่มันเป็นรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาสักนิด

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 18 หมูกรอบ

    บทที่ 18 หมูกรอบเช้านี้จินเยว่และเจียวจิ้นออกไปขายของตามปกติ จินเยว่รู้สึกได้ว่าวันนี้นางขายดีกว่าสองวันแรก เพียงเปิดร้านไม่ถึงครึ่งชั่วยามส้มที่เตรียมมาประมาณร้อยผลก็หมดเกลี้ยงขนาดปิดร้านแล้วยังมีคนมาถามหาอยู่เลย ถ้าขายดีแบบนี้ทุกวันก็ดีสิแต่อะไรก็ไม่แน่นอนคนเราคงไม่สามารถกินส้มได้ทุกวันหรอกนางจะต้องหาสินค้ามาขายเพิ่มก่อนจะกลับบ้านจินเยว่ก็นึกขึ้นได้ว่านางยังไม่มีอุปกรณ์สำคัญสำหรับมื้อเย็นนี้เลยชวนเจียวจิ้นไปยังร้านที่ต้องการทันที“เจ้าจะซื้ออะไรอีกหรือเมื่อวานเราก็ใช้จ่ายไปเยอะแล้วนะ” เจียวจิ้นเอ่ยปากเตือนน้องสาว เขากลัวว่าน้องสาวจะกลายเป็นคนฟุ่มเฟือยภายหน้าจะเดือดร้อนได้“ข้าอยากได้เหล็กแหลมลักษณะคล้ายเข็มที่เราเอาไว้เย็บผ้าแต่ขนาดใหญ่กว่าหน่อยเจ้าค่ะ” จินเยว่บอกก่อนจะหันไปถามเจ้าของร้าน“ท่านลุงมีเหล็กแหลมความยาวประมาณฝ่ามือความใหญ่ประมาณตะเกียบไหมเจ้าคะ”“ตอนนี้ไม่มีหรอก ถ้าอยากได้เจ้ามารับพรุ่งนี้ลุงจะทำให้ใหม่”“งั้นข้าเอาสักสองอันนะเจ้าคะ”“ได้สิ ทั้งหมดก็ยี่สิบห้าอีแปะนะเจ้าสั่งจำนวนน้อยราคาก็จะสูงหน่อย”“ไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะมารับช่วงสายๆ นะเจ้าคะ”จินเยว่รู้สึกเ

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 17 คนที่ไม่อยากเจอ

    บทที่ 17 คนที่ไม่อยากเจอบ่ายวันนั้นจินเยว่เข้าไปเก็บส้มในมิติ นางไม่ต้องกังวลว่าส้มพวกนี้จะหมดเพราะพวกมันมีมากมายเหลือเกินแต่อาจจะต้องเอาสินค้าอย่างอื่นไปขายเพิ่มมาหมุนเวียนไปเรื่อยๆเมื่อเก็บส้มเสร็จก็พากันกลับบ้าน จินเยว่นึกขึ้นได้ว่านางลืมเปลือกหอยที่อาสี่นำมาให้เมื่อวานไปเลย โฉมสะคราญเดินไปในห้องครัวนำเปลือกหอยใส่ตะกร้าและเติมน้ำลงไปใช้มือวนๆ จนน้ำกลายเป็นสีขุ่นก็เปลี่ยนน้ำ นางเอาแปรงมาขัดเพื่อช่วยให้มันสะอาดมากยิ่งขึ้น ทำแบบนี้อยู่หลายครั้งเปลือกหอยที่อยู่ในตะกร้าดูสะอาดขึ้นก็เทน้ำออกจนหมด ก่อนจะนำเปลือกหอยไปวางตากแดดไว้เมื่อถึงเวลานัดส่งสินค้าสองพี่น้องก็นำส้มมาส่งที่ร้านอ้ายเหม่ย พวกเขาตกแต่งร้านสวยงามขนาดของร้านก็น่าจะเป็นร้านเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในตลาดนี้ ร้านอ้ายเหม่ยนี้มีขายทั้งเครื่องประดับมากมายและยังมีพวกเครื่องประทินโฉมอีกด้วย“พวกข้านำจวี๋จื่อมาส่งเจ้าค่ะ” จินเยว่ที่เห็นหญิงชรากำลังคุยกับลูกค้าอยู่ก็รอจนนางคุยเสร็จจึงจะเอ่ยทัก“มาแล้วหรือ มาๆ เข้ามาก่อน” หญิงชราบอกอย่างใจดี“นี่เงินค่าจวี๋จื่อ และนี่ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากยายถือว่าตอบแทนที่คราวก่อนแม่หนูแถมให้ยา

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 16 มันกินได้จริงหรือ

    บทที่ 16 มันกินได้จริงหรือสองพี่น้องพากันเดินมาถึงที่บ้านหยอกล้อกันมาตลอดทาง ชีวิตพวกเขาสองสามวันมานี้รู้สึกเหมือนสุนัขที่โดนปลดโซ่คล้องคอออก พวกเขาสามารถทำสิ่งใดที่ใจคิดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะต้องโดนว่ากล่าวหรือทุบตี ถึงบ้านหลังนี้จะเก่าทรุดโทรมแต่มันก็ให้ความอบอุ่นเป็นบ้านที่เจียวจิ้นไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เขาไม่ต้องโดนกดหัวใช้งานหรือโดนดูถูกเหยียดหยามจากคนในครอบครัววันนี้หนิงเทียนทำกับข้าวเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นคือผักป่าเอาไปผัดใส่เกลือเล็กน้อยกินกับข้าวต้ม จินเยว่รีบไปล้างมือล้างหน้าเตรียมตัวเพื่อที่จะเข้าครัวทำอาหารต่อ“ท่านแม่ไม่ต้องช่วยข้าหรอกเจ้าค่ะ ข้าทำคนเดียวได้” เอ่ยบอกกับมารดาที่รอช่วยนางอยู่ในครัวร่างเล็กนำเห็ดไปล้างในน้ำสะอาดจนมั่นใจแล้วว่าพวกมันสะอาดไร้สิ่งปนเปื้อนใดๆ ก่อนจะนำไปวางตากลมไว้ให้แห้งสักพัก ระหว่างรอเห็ดแห้งร่างเล็กก็ตักแป้งที่อยู่ในห่อออกมาประมาณหนึ่ง ใส่ชามผสมก่อนที่จะเทน้ำลงไปผสมให้เข้ากันและนำเห็ดใส่ลงไปคลุกเคล้าจนแป้งเหลวๆ เคลือบทั่วทุกอณูของเห็ดเหล่านั้น จินเยว่นำกระทะมาตั้งบนเตาที่หนิงเทียนก่อไฟไว้เมื่อเห็นว่าไอร้อนเริ่มแผ่ออกมาก็ค่อยๆ ใส่เห็ดล

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 15 ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกเสมอ

    บทที่ 15 ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกเสมอ“ท่านป้าหมายถึงใครหรือเจ้าคะ” จินเยว่ยิ้มแต่สิ่งที่นางพูดออกมาทำอีกฝ่ายโกรธจนควันแทบออกหู “ใครเป็นป้าเจ้า!” นางตะโกนออกไปจนลืมว่าเมื่อครู่พึ่งบ่นจินเยว่ที่ตะโกนเสียงดังข้าอายุแค่สามสิบจะมาเป็นป้าใครได้ที่ไหนกัน นังเด็กนี่ปากเสียจริงๆ “ก็ท่านนั่นแหละเจ้าค่ะ ป้า ” จินเยว่เน้นเสียงหนักๆที่คำท้าย“หึ ไม่มีหัวคิดแบบนี้น่ะสิถึงได้นำแค่จวี๋จื่อออกมาขาย”แม่ค้าแผงผักเห็นว่าคนเริ่มมามุงดูนางทะเลาะกับเด็กสาวแผงข้างๆเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มเรียกสติของตัวเองได้ นางขายตรงนี้มานานถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างดีเหมาะสมกับค่าเช่าแผง ถ้าทะเลาะกันจนโดนไล่ไปที่อื่นนางและครอบครัวจะต้องเดือดร้อนแน่ๆ “ข้าไม่อยากเถียงกับเด็กอย่างเจ้าแล้ว” แม่ค้าแผงผักพูดกระแทกเป็นการตัดบทจินเยว่ที่เห็นว่าอีกฝ่ายล่าถอยไปแล้วก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดแต่อย่างใด นางมาขายของก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับใครอยู่แล้ว ร่างเล็กเริ่มส่งเสียงเรียกลูกค้าอีกครั้งแต่คนที่มุงดูอยู่เมื่อกี้ก็ทยอยเดินหนีกันหมด แม่ค้าแผงผักข้างๆแอบยิ้มเยาะที่นางไม่สามารถขายจวี๋จื่อได้ จินเยว่กัดฟันกรอด “ไม่ต้องเสียใจไปหรอก พี

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 14 ค้าขายครั้งแรก

    บทที่ 14 ค้าขายครั้งแรก“พรุ่งนี้ท่านไม่ต้องไปหางานหรอก เราเข้าป่าไปหาของมาขายดีกว่าเจ้าค่ะ” จินเยว่บอกกับพี่ชายที่นั่งกลุ้มอยู่“จะดีหรือ ในป่าก็ไม่ค่อยมีอะไรที่ขายได้ราคา แล้วก็ไม่ค่อยมีใครรับซื้อด้วยนะเยว่เอ๋อร์” เจียวจิ้นคิดตามที่เขาบอกกับน้องสาว การเก็บผักผลไม้ในป่าไปขายมีชาวบ้านทำกันเยอะแยะ แต่ก็มักจะโดนกดราคาจนแทบไม่คุ้มที่ต้องเสี่ยงเข้าไปในป่า“พวกเราลองไปกันก่อนเถอะเจ้าค่ะ จะได้หาเงินมาซื้ออาหารและเครื่องปรุงเข้าบ้านด้วย ข้าไม่อยากกินผักต้มทุกวันนะเจ้าคะ” จินเยว่หน้างอเช้าวันต่อมา แสงแดดอบอุ่นยามเช้าทำให้จินเยว่รู้สึกจิตใจสงบ ร่างเล็กและพี่ชายทานอาหารเช้าเสร็จแล้วพากันเดินทางเพื่อไปหาของในป่าพวกเขาเดินเข้ามาไม่ลึกมากนัก จินเยว่มาที่นี่อย่างมีเป้าหมาย ร่างเล็กจำได้ว่าในป่านี้มีผลไม้หลากหลายชนิดโดยเฉพาะจวี๋จื่อหรือส้ม มันขึ้นเต็มไปหมดเป็นผลไม้ที่หาได้ทั่วไปทำให้ไม่ค่อยมีราคา โดยปกติก็จะขายกันจินละ2-3อีแปะเท่านั้น “เจ้าอย่าเดินไปไกลนะพี่ขอตัดไม้ตรงนี้ก่อนเราจะได้เอาไปทำฟืนกัน ฟืนที่ตัดไปครั้งก่อนเกือบหมดแล้ว” เจียวจิ้นหันมาบอกจินเยว่เสร็จก็หันกลับไปตัดไม้ต่อ“เจ้าค่ะท่านพี่ข

  • ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนผักของนางร้าย   บทที่ 13 เปลือกหอย

    บทที่ 13 เปลือกหอย“ที่ดินที่หลังบ้านพวกเราสามารถทำการเกษตรได้หรือไม่เจ้าคะข้าเห็นมันยังว่างอยู่” จินเยว่ถามอย่างกระตือรือร้น“จะว่าได้มันก็ได้อยู่หรอก แต่ที่ดินนี้มันมีปัญหาอยู่ ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอันใดปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นสักอย่าง ถึงขึ้นก็เหี่ยวเฉาตายเสียหมด” หนิงเทียนทำหน้ากลุ้มใจ ปัญหานี้มีมานานแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามหาทางแก้อย่างไรก็ไม่สามารถปลูกอะไรบนที่ผืนนี้ได้เลย นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ที่ดินท้ายหมู่บ้านนี้ไม่มีราคา ชาวบ้านที่อยู่แถบนี้ค่อนข้างยากจนเสียส่วนใหญ่เพราะพวกเขาเพาะปลูกในที่ดินของตัวเองไม่ได้ บางคนก็ไปเป็นลูกจ้างโดนกดค่าแรง บางคนก็ไปเช่าที่ดินของคนอื่นเพื่อทำการเพาะปลูก “งั้นข้าขอลองไปดูหน่อยนะเจ้าคะเผื่อจะทำอะไรได้บ้าง”จินเยว่เดินไปยังที่ดินหลังบ้าน นางเดินสังเกตที่ดินไปเรื่อยๆก็พบว่า ต้นไม้ที่ขึ้นรอบๆที่ยังมีชีวิตอยู่ก็มีลักษณะใบเหลือง ลำต้นของพวกมันแคระแกร็น“นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้วนะเนี่ย” จินเยว่พูดอย่างหนักใจนางเดินสังเกตมาสักพักไม่พบคราบเกลือบนผืนดินและหน้าดินบริเวณนั้นก็มีลักษณะออกสีเหลืองๆอีกด้วยนางเดาได้ทันทีว่าที่ดินพวกนี้ปลูกอะไรไม่ขึ้น

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status