แชร์

ถึงกับเป็นลม

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-07 00:24:42

เจียอีถูกพาไปที่ตำหนักวังหลัง ระหว่างทางเดินมีคนเดินสวนไปมาไม่น้อย เจียอีที่มัวแต่มองความงามของวังหลวงก็บังเอิญชนเข้ากับคนผู้หญิง

“โอ๊ยยย” นางเซหงายหลังเกือบที่จะล้มไปกองกับพื้น แต่ถูกคว้าโอบรอบเอวไว้ก่อนที่จึงมิได้ล้มลงไป

“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าไม่ทันมอง” นางรีบขอโทษ พร้อมทั้งดันตัวเขาออกมา

“เดินเยี่ยงไร ถึงมิได้ดูทาง” เจียอีเงยหน้าขึ้นไปมองบุรุษที่ตำหนินางเสียงเย็น

“เห้ยยย” นางตกใจถอยหลังหนี ด้วยรีบร้อนเกินไปจึงได้ล้มไปกองกับพื้นทันที

“อย่างไรกัน คุณหนูจวนใดถึงได้ไร้มารยาทเช่นนี้”

เจียอีถูกนางกำนัลพยุงลุกขึ้น นางรีบไปแอบอยู่ด้านหลังของนางกำนัลทันที ความกลัวพุ่งสูงจนเหงื่อซึมออกมาตามใบหน้าและแผ่นหลัง ใบหน้าของนางซีดขาวจนนางกำนัลต้องเข้าไปประคองนางไว้

“ขออภัยอีกรอบเพคะ” นางก้มหน้านิ่งไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมาสบสายตาของเขา

“ท่านอ๋องเพคะ พระองค์กำลังทำให้คุณหนูมู่หวาดกลัวอยู่เพคะ” จางมามา นางกำนัลข้างกายของไทเฮาเอ่ยบอกเว่ยอ๋องที่กำลังจ้องมองเจียอีอยู่

“เหอะ เปิ่นหวางเป็นปีศาจหรืออย่างไร ถึงได้หวาดกลัวเสียจะเป็นลมเช่นนี้”

“หะ หามิได้เพคะ” เจียอีเอ่ยเสียงสั่นออกมา

เช่นนี้แล้วผู้ใดจะเชื่อว่านางไม่ได้กลัวเขา เว่ยอ๋องเดินอ้อมนางกำนัลไปหาเจียอีที่อยู่ด้านหลัง พร้อมทั้งก้มลงกระซิบข้างหูของนาง

“ครั้งนี้เปิ่นหวางจะมิเอาความ แต่ครั้งต่อไปไม่แน่หัวของเจ้าอาจจะหลุดจากบ่าหากมิระวังอีก”

เพียงแค่คำว่าหัวหลุดจากบ่า ภาพที่นางถูกม้าแยกร่างก็ปรากฏขึ้นมาทันที เจียอีตัวสั่นเทาไปด้วยความกลัว ก่อนที่นางจะหมดสติไปทันที

“คุณหนูมู่ ท่านอ๋องท่านพูดอันใดกับนางเพคะ” จางมามาเอ่ยถามด้วยความเอือมระอา

เนื้อแท้ของเว่ยอ๋องแท้จริงแล้วมิใช่คนโหดร้าย เรื่องนี้จางมามานางรู้ดี แต่เพราะความโหดร้ายของวังหลวงทำให้พระองค์จะอ่อนแอมิได้ ทั้งยังต้องคอยเป็นกำลังสำคัญให้ฮ่องเต้ที่เป็นพี่ชาย จึงได้แสดงนอกแต่ด้านที่ดุร้ายออกมา

“มิได้พูดอันใดเสียหน่อย จางมามารีบพานางไปตำหนักเสด็จแม่เถิด” เว่ยอ๋องลูบจมูกแก้เก้อ ไม่คิดว่าเพียงคำขู่เล็กน้อยนางจะถึงกับเป็นลมหมดสติไปเลย

เว่ยอ๋องเดินตามนางกำนัลที่กำลังช่วยกันแบกร่างที่สลบไสลของเจียอีไปที่ตำหนักไทเฮา

“สวรรค์ อีอี เป็นอันใด” ไทเฮาลุกจากที่นั่งเดินมาดูเจียอีที่ถูกแบกมาด้วยตนเอง

“ท่านอ๋องเพคะ จะทรงเล่าเองหรือให้หม่อมฉันเล่า” จางมามาหันไปมองเว่ยอ๋องอย่างตำหนิ

คนในวังหลวงมีเพียงไม่กี่คนที่กล้าจะตำหนิเขา จางมามาเป็นหนึ่งในนั้น เพราะเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่น้อย

“พวกเจ้าออกไปก่อน” ไทเฮาเอ่ยปากไล่สตรีที่อยู่ในห้องโถงของนางให้ออกไปด้านนอกก่อน

“เพคะ/เพคะ” คุณหนูที่มาคารวะไทเฮาต่างมองที่เว่ยอ๋องตาเป็นประกาย

“ไปตามหมอหลวงมาดูอาการนาง ส่วนเจ้าตามแม่มา” ไทเฮาถลึงตามองบุตรชายตัวดี ที่ก่อเรื่องไม่เว้นวันตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าเมืองหลวง

เว่ยอ๋องนั่งลงด้านข้างของไทเฮา ทั้งเอ่ยเล่าในสิ่งที่เขาพูดออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน ราวกับว่าเขามิได้ทำสิ่งใดผิด

“สวรรค์ เจ้านี่มัน!!! หากนางเป็นอันใดมาก แม่จะลงโทษเจ้า”

“เสด็จแม่ นางอ่อนแอเอง แล้วจะโทษลูกได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”

“เหอะ” ไทเฮาหันหน้าหนีไปทางอื่น ด้วยไม่รู้จะตำหนิเขาเช่นไรแล้ว

หมอหลวงที่มาตรวจอาการของเจียอี เดินออกมาด้านนอก พร้อมกับจางมามา

“คุณหนูมู่ มิได้เป็นอันใดมากพ่ะย่ะค่ะ นางเพียงแต่ตกใจจนหมดสติพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจัดเทียบยาให้นางแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ขอบใจเจ้ามาก จางมามาส่งหมอชุยด้วย” ไทเฮาโบกมือให้หมอหลวงออกไป

“หากหมดเรื่องแล้ว ลูกขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยอ๋องเตรียมจะลุกขึ้นเพื่อออกไปด้านนอก

“ยังไปไม่ได้ อยู่รอจนกว่านางจะฟื้น” ไทเฮาชี้มือให้บุตรชายนั่งลง

“โถ่ เสด็จแม่ หากนางฟื้นขึ้นมาเห็นลูก ไม่ตกใจจนตายเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“นี่เจ้า!!! เช่นนั้นไปดูนาง ก่อนที่จะออกไป ไม่ต้องเอ่ยแล้ว ไป!!!” ไทเฮานั่งกุมขมับ

เว่ยอ๋องจำต้องเดินเข้าไปดูเจียอีที่อยู่ในห้องอย่างเสียมิได้ เขาเห็นนางนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ที่ข้างเตียงนาง

“จะแสร้งหลับเพื่ออันใด ฟื้นแล้วก็ลุกขึ้นเสีย”

เจียอีเมื่อได้ยินเสียงของเว่ยอ๋อง นางก็อยากจะสลบต่อไปอีกสักรอบ แต่พอเห็นว่าเขามิเดินออกไปเสียที นางก็ค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมอง

“เห้ยยย” นางเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อใบหน้าของเว่ยอ๋องยื่นมามองนางใกล้ๆ จนเกือบจะชิดกันแล้ว

“หึ จะสลบอีกรอบเลยหรือไม่”

เจียอีลืมตามาจ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ เว่ยอ๋องที่เห็นดวงตาคู่งามของนาง เขาก็ตกตะลึงไปชั่ววูบหนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาเป็นเช่นเดิม

"ถ้าไม่เป็นอันใดแล้ว เปิ่นหวางขอตัว” เขารีบร้อนเดินออกจากห้องไปทันที

“เป็นบ้าอะไร” นางพึมพำขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะจับหัวใจที่เต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว

เจียอีนั่งกอดเข่าครุ่นคิดอยู่บนเตียง นางอยากจะหนีกลับจวนเสียตอนนี้เลย แต่ไม่รู้จะหาคำแก้ตัวใดที่จะหนีออกไปได้

“คุณหนูมู่ ฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ” จางมามาเดินเข้ามาดูเจียอี

“เจ้าค่ะ รบกวนจางมามาแล้ว”

“หามิได้ หากไม่เป็นอันใดมากแล้ว มาเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิดเจ้าค่ะ งานเลี้ยงใกล้จะเริ่มแล้ว”

“จางมามา ข้ามิได้อาชุดมาเปลี่ยน เช่นนั้นข้าขอตัวกลับจวนเลยได้หรือไม่” นางมองจางมามาอย่างอ้อนวอน

“หึหึ ชุดของคุณหนูไทเฮาเมตตาจัดเตรียมไว้ให้แล้วเจ้าค่ะ งานยังมิเริ่มจะกลับก่อนได้อย่างไร” จางมามาเรียกนางกำนัลเข้ามาภายในห้อง เพื่อช่วยเจียอีแต่งตัว

“พอแล้วเจ้าค่ะ” เจียอีจับมือจางมามาที่กำลังจะใส่เครื่องประดับให้นางเพิ่ม

“ได้อย่างไรเจ้าคะ ไทเฮารับสั่งไว้ให้ข้าน้อยแต่งตัวใหม่ให้คุณหนู เครื่องประดับทั้งหมดที่เห็นก็เป็นของที่ไทเฮาให้คุณหนูมู่ ในเรื่องที่ท่านอ๋องทำไว้เจ้าค่ะ”

“มิเป็นไรเลยเจ้าค่ะ เป็นข้าที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจึงได้เป็นลม อย่าได้โทษท่านอ๋องเลยเจ้าค่ะ” นางกลัวว่าหากโทษเขา ภายหลังเขาจะมาเอาเรื่องนาง

“เด็กดี เจ้ายอมให้จางมามาแต่งตัวให้เจ้าเถิด” ไทเฮาเดินเข้ามาได้ยินสิ่งที่เจียอีพูดพอดี

“ถวายบังคมไทเฮาเพคะ หม่อมฉันเสียมารยาทแล้ว”

“ยังจะคุกเข่าอีก เจ้าเด็กคนนี้ เร็วรีบแต่งตัวเข้างานจะเริ่มแล้ว”

เจียอีจำต้องยอมให้จางมามาและนางกำนัลประโคมเครื่องประดับใส่บนตัวของนาง ก่อนจะเข้าไปประคองไทเฮาเดินเข้างานเลี้ยงพร้อมกัน

แขกในงานเลี้ยงเริ่มเข้ามานั่งประจำที่ของตนเองแล้ว พอใกล้ถึงลานจัดเลี้ยงเจียอีก็ขอตัวแยกกลับไปนั่งที่ของนาง เพราะไม่อยากเป็นจุดสนใจให้สายตาทุกคู่มองมาทางนาง

แต่สุดท้ายทุกสายตาก็แทบจะมองมาที่นางเป็นจุดเดียว เมื่อเสื้อผ้าที่นางสวมใส่ดูงดงามอย่างมาก ไหนจะเครื่องประดับที่อยู่บนตัวของนาง กำไลขอมือหยกขาวมันแพะที่อยู่บนข้อมือทั้งสองข้างยิ่งขับให้ผิวขาวราวน้ำนมของนางดูน่าลูบคลำยิ่งกว่าเดิม

ปิ่นหยกขาวมันแพะแกะสลักรูปดอกโบตั๋น ที่เข้ากับกำไลข้อมือก็ยิ่งทำให้คนอื่นจ้องมองด้วยความอิจฉา

“อีอี เหตุใดเจ้าถึงได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเล่า” สวีซื่อเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง

“เมื่อครู่ตอนที่จางมามา พาลูกไปที่ตำหนักไทเฮา ลูกเป็นลมหมดสติเจ้าค่ะ ไทเฮาจึงเมตตาประทานเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ลูก”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   บทส่งท้าย

    วันที่นางเดินทางกลับบ้านเดิม ข้าวของที่ตำหนักอ๋องจัดเตรียมไปมอบให้บ้านพระชายาก็มากกว่าห้าคันรถม้า คนไม่น้อยที่ต่างอิจฉาในวาสนาของรองเจ้ากรมมู่ที่มีบุตรสาววาสนาดีเช่นเจียอีและอีกไม่นานตำแหน่งเสนาบดีที่ว่างอยู่คงตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน สิ่งที่ชาวเมืองกับพวกขุนนางคิดไว้ก็ไม่ผิดไปจากนั้น เมื่อพระราชโองการแต่งตั้งรองเจ้ากรมมู่ ขึ้นเป็นเสนาบดีแทนที่ตำแหน่งของเสนาบดีกงที่ว่างอยู่ หลังจากที่เจียอีนางแต่งออกไปได้เพียงห้าวันเท่านั้นก่อนวันที่มู่เฟยหย่าจะออกเรือน เจียอีกลับไปนอนที่จวนตระกูลมู่ โดยไร้เงาเว่ยอ๋องติดตามไปด้วย เพราะน้องจะนอนกับพี่สาวของนางก่อนที่นางจะแต่งออกไป“อีอี แล้วท่านอ๋องยอมปล่อยเจ้ามาได้อย่างไร” มู่เฟยหย่าเอ่ยถามน้องสาวอย่างสงสัย เมื่อได้ข่าวจากเสี่ยวถิงเรื่องที่เว่ยอ๋องเป็นเงาคอยติดตามน้องสาวของนาง“ก็ข้าจะมานอนกับพี่หญิง แล้วเขาจะมาเพื่ออันใดเล่าเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาร่วมดื่มสุรามงคลก็พอแล้ว” นางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจให้นางได้หยุดพักหายใจบ้างเถิด ในแต่ละคืนเขาเคี่ยวกรำนางไม่น้อย ยิ่งรู้ว่านางจะกลับจวนตระกูลมู่เพื่อมานอนกับมู่เฟยหย่า ก่อนวันแต่งของนางเขาก็บังคับให้นางพาเข้

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   น้ำวิเศษ วิเศษสมชื่อนัก

    เว่ยอ๋องอยู่ในชุดมงคลสีแดง ปักลายพยัคฆ์คำรามสูงส่งดูน่าเกรงขามยิ่งนัก ตลอดทางนางกำนัลขันทีต่างโปรยเงินตำลึงและขนมหวานไปตลอดทางองครักษ์กองทัพพยัคฆ์ของเขาก็อยู่ในชุดมงคลสีแดงเช่นกัน ต่างแบกเกี้ยวมงคลแปดคนหามหลังใหญ่ ทั้งแบกสินสมรสที่ยาวหลายลี้เจียอีถูกจางมามา ประคองออกจากเรือนของนางมาที่ส่วนหน้า เพื่อทำพิธีกราบลาบิดามารดาเว่ยอ๋องทำทุกอย่าง อย่างเร่งรีบ ก่อนจะอุ้มเจ้าสาวไปขึ้นเกี้ยว โดยไม่รอให้น้องชายแต่งมารดาของเจียอีเดินไปส่งนางแต่ก่อนที่เขาจะวางนางลงบนเกี้ยวเขาเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวออก เพื่อดูว่าเป็นเจียอีหรือมู่เฟยหย่ากันแน่“ว้ายยยย” จางมามากรีดร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นเว่ยอ๋องเปิดผ้าคลุมหน้าดู ก่อนจะที่จะวางเจ้าสาวลงในเกี้ยว“ท่านนี่มัน” เจียอีทุบที่แขนของเขาอย่างมันเขี้ยว“เปิ่นหวางต้องตรวจดูให้แน่ใจเสียก่อน” เขายกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะปิดหน้านางไว้เช่นเดิมพิธีกราบไหว้ฟ้าดินที่ตำหนักอ๋องมีฮ่องเต้และไทเฮาเสด็จออกจากวังหลวงมาร่วมงานเว่ยอ๋องยังสร้างความตกตะลึงให้คนที่มาร่วมงาน เมื่อเขาประกาศสาบานต่อหน้าฟ้าดิน“ข้าเยี่ยนเซวียน สาบานต่อหน้าฟ้าดิน ทั้งชีวิตนี้จะมีเพียงมู่เจียอี เป็นภ

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   เจ้าของปิ่นมรกต

    เจียอีเดินเข้าไปโอบกอดมู่เฟยหย่าไว้แน่น พร้อมทั้งตบที่หลังของนางเบาๆ เพื่อปลอบประโลม“ไม่ต้องร้องแล้วเจ้าค่ะ ไม่ว่าท่านจะฝันเห็นสิ่งใด แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว” มู่เฟยหย่าเอ่ยขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมาและร้องไห้ออกมาเสียงดัง จนบ่าวที่อยู่ในเรือนอดที่จะร้องไห้เพราะสงสารคุณหนูของตนไม่ได้สุดท้ายเจียอีก็พูดจนมู่เฟยหย่ายอมรับเครื่องประดับทั้งหมดไว้ สองพี่น้องจึงได้กลับมาคุยเล่นเช่นเดิมได้อีกครั้ง เมื่อเอ่ยเรื่องที่ติดค้างในใจออกมาเว่ยอ๋องที่ถูกคุมตัวอยู่ภายใต้สายตาของไทเฮา เขาหงุดหงิดใจไม่น้อยที่ไม่ได้แอบไปหาเจียอีนางที่เรือน“เหอะ ท่าทางเช่นนี้ไม่ใช่รังแกอีอีนางไปแล้วเล่า” เมื่อไม่มีใครอยู่ในห้องโถงไทเฮาก็เอ่ยตำหนิบุตรชายออกมาวันนั้นที่จัดการเรื่องในวังหลวงเสร็จ เว่ยอ๋องหายตัวออกไปจากวังหลวงทั้งคืน กลับมาอีกทีก็ฟ้าสว่างแล้ว จะไม่ให้ไทเฮาสงสัยได้อย่างไร“ลูกเป็นเช่นนั้นรึอย่างไรเล่าเสด็จแม่” เว่ยอ๋องเกาจมูกแก้เก้อ“เพ้ย ไม่เป็นเช่นนั้นแล้วจะเป็นเช่นใด” ไทเฮาถลึงตามองบุตรชายตัวดีของนาง“เสด็จแม่ ให้ลูกกลับตำหนักเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เขานอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว เมื่อไม่มีเนื้อชิ้นงามอยู่ในอ้อมแขน

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   เพราะท่านเป็นพี่สาวของข้า

    นางถูกเขาวางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม สายตาของเว่ยอ๋องมองเรือนร่างของนางอย่างปรารถนา ก่อนจะเริ่มเล้าโลมนางอีกครั้งเจียอีหลุดเสียงครางออกมาด้วยความรู้สึกที่เสียวซ่านยามลิ้นร้ายของเขาเลียไปทั่วเรือนร่างของนาง นิ้วมือของเขาก็รุกเข้าไปในส่วนที่คับแคบของนางอย่างต่อเนื่อง จนเจียอีกระตุกเกร็งขึ้นมาอย่างสุขสมเมื่อโดนรังแกทั้งด้านบนและด้านล่างเช่นนี้เมื่อเห็นว่านางพร้อมแล้ว เว่ยอ๋องปลดเสื้อผ้าที่เกะกะออกอย่างรีบร้อน ก่อนจะจ่อลำทวนไปที่ช่องรักของนาง เพียงส่วนหัวที่เข้าไปด้านใน เจียอีก็สะดุ้งสุดตัวไปด้วยความเจ็บปวด“โอ๊ยยย เอาออกไปเถิด ข้าเจ็บ” นางร้องออกมาอย่างน่าสงสาร แต่เว่ยอ๋องจะยอมตามใจนางในเรื่องนี้ได้อย่างไร“เพียงครู่เดียวเจ้าก็ไม่เจ็บแล้ว” เขาค่อยๆ กดลำทวนเข้าไปช้าๆ เพื่อให้เจียอีนางปรับตัว ทั้งยังเล้าโลมนางไปด้วยเพื่อให้นางคลายความเจ็บปวด"อื้มมมม" นางร้องออกมาเบาๆ เมื่อหายเจ็บปวดแต่แทนที่ด้วยความคับแน่นแทน“หายเจ็บแล้วใช่หรือไม่” เขาจูบที่ข้างริมฝีปากของนางอย่างรักใคร่“อืม” นางพยักหน้าอย่างเขินอายท่าทางน่าเอ็นดูเช่นนี้ ทำให้เว่ยอ๋องใจอ่อนยวบ เอวหน้าเริ่มขยับทำหน้าที่ของมันอย่างรู้งาน

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   หรือว่าเรื่องที่เห็นเคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ตอนที่เว่ยอ๋องเดินเข้ามาในห้องขัง นางถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัว เพราะมีดสั้นที่อยู่ในมือของเขา“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้ใด ถึงได้ใจกล้าเช่นนี้” เว่ยอ๋องเอ่ยเสียงเหยียบเย็นที่ดูราวกับจะมาเอาชีวิตของนางไปเขาเดินช้าๆ มาหยุดนั่งย่องๆ ที่ตรงหน้าของนาง แม้แต่เสียงร้องขอชีวิตก็ไม่อาจจะเปล่งออกมาได้“ยิ่งเห็นใบหน้าเจ้า เปิ่นหวางอยากจะอาเจียนออกมา”ยามที่มีดสั้นบรรจงเฉือนเนื้อส่วนใบหน้าของมู่เฟยหย่าออกทีละนิด มันแสนเจ็บปวดจนนางต้องกรีดร้องออกมา นางโดนทรมานเช่นนั้นอยู่นับสองชั่วยาม ก่อนจะมีหมอมารักษานาง เพื่อยื้อไม่ได้ตายเร็วเกินไปนางถูกทรมานจนไม่อาจนับวันคืนได้ จนวันหนึ่งนางก็จบชีวิตลงอย่างน่าสมเพชภายในคุกใต้ดินของตำหนักอ๋องแม้แต่หลุมฝังศพ เว่ยอ๋องก็ไม่ยอมให้นางได้อยู่ เขาสั่งให้องครักษ์นำร่างของมู่เฟยหย่าไปโยนทิ้งที่สุสานศพไร้ญาติ โดยไม่มีการฝังแต่อย่างใด ปล่อยให้หมาป่ากัดกินเนื้อส่วนที่เหลือของนางมู่เฟยหย่าสะดุ้งเฮือกขึ้นมานั่งหอบหายใจ อยู่ที่บนเตียงของนาง เสียงกรีดร้องของนางทำให้คนในตระกูลมู่ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากวังหลวงต่างรีบร้อนเข้ามาดูนาง“หย่าหย่า เจ้าเป็นอันใด” สวีซื่อเดินเข้าไปจับ

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   ได้โปรด ลืมตาตื่นเถิด

    เจียอีรีบเดินไปที่บ่อน้ำอย่างร้อนใจ นางไม่เคยพบเจอว่าผู้ใดที่แช่น้ำในบ่อแล้วจะเรียกไม่ฟื้น“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเพคะ” นางเอ่ยเรียกเขาเสียงสั่น ทั้งยังประคองใบหน้าของเขาไว้แล้วตบเรียกสติเบาๆเว่ยอ๋องที่ยังคงวนเวียนอยู่ในภาพฝัน เงยหน้าขึ้นมาจากหลุมศพของเจียอี แล้วมองหาเสียงเรียกของนาง“อีอี เป็นเจ้ารึ เจ้าอยู่ที่ใด” เขาลุกขึ้นมองหา โดยที่ยังได้ยินเสียงเรียกที่ร้อนใจของนางอยู่ไม่ขาด“ท่านอ๋อง ได้โปรด ลืมตาตื่นเถิดเพคะ” เจียอีจรดหน้าผากของนางติดกับหน้าผากของเว่ยอ๋อง แล้วเอ่ยเรียกเขาเสียงสั่นเทาน้ำตาของเจียอีไหลรินลงที่ใบหน้าที่หลับใหลของเว่ยอ๋อง นางยังคงเอ่ยเรียกเขาไว้ไม่ขาด เพียงไม่นานเว่ยอ๋องก็ลืมตาตื่นขึ้นมา“อีอีรึ” เขากะพริบตาที่พร่ามัว ด้วยไม่เชื่อว่าตรงหน้าของเขาจะเป็นนางไปได้“ท่านฟื้นเสียที” นางยิ้มออกทั้งน้ำตาด้วยความดีใจเพิ่งจะได้รู้ว่าต้องการเขามากเพียงใด ก็ต่อเมื่อเรียกเขาแล้วไม่มีการตอบโต้กลับ ในภพที่แล้วคู่ชะตาของเขาจะใช่นางรึไม่ ตอนนี้เจียอีไม่สนใจแล้ว นางต้องการเพียงแค่เขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็พอ“อีอี เปิ่นหวางมิได้ฝันใช่หรือไม่” เขาดึงนางเข้ามากอดไว้แน่น เขาแยกไม่ออกแล้วว่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status