แชร์

แดงจนอัปลักษณ์

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-07 00:24:56

สวีซื่อกับรองเจ้ากรมมู่เอ่ยถามเจียอีอีกสองสามประโยค เมื่อเห็นว่านางไม่เป็นอันใดแล้วจึงได้วางใจลง

“รู้ตัวว่าเป็นไข้ เหตุใดยังมาอีก” มู่เฟยหย่าเอ่ยถามเจียอีขึ้นมา นางมองที่กำไลข้อมือทั้งสองข้างและปิ่นปักผมอย่างไม่พอใจนัก

“ข้าบอกท่านแม่แล้ว ข้าก็ไม่ได้อยากจะมาเสียหน่อย” นางบ่นเสียงเบา ก่อนจะหันไปสนใจของว่างที่อยู่ตรงหน้าแทน หากได้มองหน้ามู่เฟยหย่าต่อ นางอาจจะเผลอโต้ตอบออกไปก็ได้

“เว่ยอ๋องเสด็จ” เสียงขันทีประกาศเสียงดัง เพื่อให้ทุกคนลุกขึ้นทำความเคารพ ตะเกียบในมือของเจียอีกชะงักค้าง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วถอยไปอยู่ด้านหลังของมู่เฟยหย่า เพื่อไม่ให้เขาเห็นนาง

นางมองสังเกตว่ามู่เฟยหย่าจะมีอาการเช่นไร และก็เป็นอย่างที่นางคิด เมื่อดวงตาของมู่เฟยหย่าจับจ้องสนใจอยู่ที่ตัวของเว่ยอ๋องจนเขาเดินไปถึงที่นั่ง

นางได้เห็นทั้งสองสบตากันครู่หนึ่งด้วย จึงได้ก้มหน้าลงเช่นเดิม แล้วลอบยิ้มในใจ ผู้ใดที่เห็นพี่สาวนางแล้วจะไม่ตกหลุมรักบ้างเล่า คงไม่มีแน่

เชื้อพระวงศ์ ทั้งหมดเข้ามาภายในงานเลี้ยงแล้ว เสียงดนตรี และอาหารเริ่มทยอยเข้ามาด้านใน เจียอีได้แต่ก้มหน้าลงสนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้าของนาง หรือเงยหน้าขึ้นมามองการแสดงเป็นบางครั้งเท่านั้น

“โอ๊ยยย” นางร้องออกมาเบาๆ เมื่อถูกอะไรไม่รู้ที่หน้าผากของนาง

“อีอีเป็นอันใดไปลูก” สวีซื่อที่นั่งติดกับบุตรสาวเอ่ยถามอย่างสงสัย

“ท่านแม่” เจียอีเอามือที่กุมหน้าผากออกเพื่อให้บิดามารดาได้เห็น ดวงตาของนางเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาอย่างน่าสงสาร

“สวรรค์ เจ้าโดนอันใดมา” สวีซื่อยกมือขึ้นปิดปาก รองเจ้ากรมใบหน้าเคร่งเครียดก่อนจะหันไปมองรอบข้างว่าผู้ใดที่ทำร้ายบุตรสาวของตน มู่เฟยหย่ายังตกใจจนตาค้างที่เห็นหน้าผากของเจียอีแดงก่ำ

“ข้าไม่รู้ แต่ข้าเจ็บ ข้าอยากกลับจวนแล้ว” เจียอีไม่อยากอยู่ที่วังหลวงแล้ว นางคิดว่าเกิดแต่เรื่อง ไม่รู้ว่าผู้ใดที่ดีดก้อนหินใส่หน้าผากของนาง

พอหันไปเห็นเว่ยอ๋องเลิกคิ้วมองอย่างยียวนนางจึงรู้ได้ทันทีว่าเป็นเขาที่ทำร้ายนาง เว่ยอ๋องเพียงแต่ดีดเมล็ดถั่วใส่นางเท่านั้น ไม่ใช่ก้อนหินอย่างที่นางคิด เพราะเขาโมโหที่นางไม่คิดจะมองมาทางเขาเลยสักนิด แต่พอเห็นหน้าผากของนางแดงก่ำก็อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้

“เช่นนั้น พ่อจะให้คนพาเจ้ากลับ”

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพ่อ” เจียอียิ้มขอบคุณบิดา แต่ดูเหมือนว่ามารดาของนางยังอยากให้นางอยู่ต่อจนงานเลี้ยงจบ

เจียอีถูกเสี่ยวถิงประคองออกไปจากงานเลี้ยงอย่างเงียบๆ ผู้อื่นคิดว่านางคงไปทำธุระส่วนตัว จึงไม่ค่อยได้มีใครสนใจว่านางออกไปจากงานเลี้ยงเพื่อกลับจวน

“คุณหนู รอบ่าวตรงนี้สักครู่ บ่าวจะไปหาน้ำร้อนมาประคบให้ท่าน”

“ไม่ต้อง กลับจวนค่อยทำ” เจียอีไม่อยากจะอยู่ที่วังหลวงต่อแม้แต่นาทีเดียว

นางให้คนไปแจ้งไทเฮากับไป๋หรันว่านางกลับจวนก่อน เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย

“คุณหนูมู่ เชิญทางนี้สักครู่เถิด” แต่ก่อนที่นางจะเดินถึงหน้าประตูวังหลวง ก็มีขันทีเดินเข้ามาเอ่ยพูดกับนาง

“เอ่อ...กงกงมีเรื่องอันใดหรือไม่ พอดีข้ามิค่อยสบายจะรีบกลับจวนก่อน” เจียอียังใช้ผ้าปกปิดหน้าผากของนางไว้

“มีคนต้องการพบคุณหนูขอรับ เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น”

เจียอีเม้มปากแน่น เพราะนางไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่ต้องการพบตัวนาง “นำทางเถิดเจ้าค่ะ” นางถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินตามขันทีไปพร้อมกับเสี่ยวถิง

นางถูกพามาที่สวนดอกไม้ใกล้กับประตูทางออกจากวัง พอหันไปจะเอ่ยพูดคุยกับเสี่ยวถิงเพื่อรอผู้ที่ต้องการจะพบนางมาหา แต่กลับไม่เห็นเสี่ยวถิงอยู่กับนางแล้ว

เจียอีเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา จึงคิดที่จะหันกลับไปทางเดิม เพื่อไปขึ้นรถม้ากลับจวน แต่ก็ถูกฉุดมือไว้เสียก่อน

“จะรีบไปที่ใด เปิ่นหวางยังมิได้บอกให้เจ้ากลับ” เสียงเย็นด้านหลังที่เอ่ยพูดขึ้นมา ทำให้เจียอีขนหัวลุกทันที

“ทะ ท่านอ๋อง มีเรื่องใดที่จะพูดกับหม่อมฉันเพคะ” นางก้มหน้าลงเพื่อซ่อนดวงตาที่กำลังเผยความหวาดกลัวออกมา

“เงยหน้าขึ้น” เจียอีเม้มปากแน่น นางจะหนีก็ไม่ได้ มือของนางถูกเขาจับไว้แน่น

เมื่อเห็นว่านางไม่ยอมที่จะเงยหน้า เว่ยอ๋องจึงเชยคางของนางขึ้น

“แดงจนอัปลักษณ์” เขาลูบรอยแดงที่หน้าผากของนาง ก็พบว่ามันบวมไม่น้อยเลยทีเดียว เว่ยอ๋องคิดว่าตนใช้แรงในการดีดไม่มากแล้วนะ แต่เหตุใดถึงได้แดงมากเช่นนี้

“ปล่อยหม่อมฉันเพคะ” เจียอีสะบัดมือของเขาออก มาว่านางอัปลักษณ์ได้อย่างไร

“อืม แรงดีไม่น้อย คงหายดีแล้ว เช่นนั้นก็กลับเข้าไปในงานเลี้ยงเถิด”

เจียอีถลึงตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่เพคะ หม่อมฉันจะกลับจวน หากท่านองค์ไม่มีสิ่งใดที่จะพูด เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อน” เจียอีหันหลังเดินกลับออกไปอย่างไม่พอใจ

“กรี๊ดด...อุ๊บ...” นางกรีดร้องออกมาได้เพียงนิดเดียวก็ถูกมือหนาปิดปากของนางไว้ นางถูกพลิกตัวกลับมาทางเขา

“หากยังร้องขึ้นมาอีก เปิ่นหวางจะตัดลิ้นเจ้าเสีย” แววตาของเจียอีสั่นไหวไปด้วยความกลัว นางรู้ว่าเขาพูดจริง เมื่อเห็นแววตาที่แข็งกร้าวของเขา นางจำใจพยักหน้ารับอย่างเสียมิได้

“ดี” เขาปล่อยมือออกจากปากของนาง “กลับเข้าไปในงานเลี้ยง”

“แต่หม่อมฉันอยากกลับจวนแล้ว ท่านอ๋องดูหน้าผากของหม่อมฉัน เป็นท่านที่ทำให้เป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่” เจียอีเริ่มจะหายกลัวเขาแต่เปลี่ยนเป็นรำคาญแทน

“ไม่เห็นจะเป็นอันใด หน้าตาเช่นเจ้าผู้ใดจะมองกัน” เขากอดอกเลยเยาะเย้ยนาง

“ท่านกลับเข้างานเลี้ยงไปก่อนเลยเจ้าค่ะ หม่อมฉันจะอยู่ด้านนอกสักครู่ หากหายแดงแล้วจะกลับเข้าไป”

“หากเจ้าพูดปดรู้หรือไม่จะเกิดสิ่งใดขึ้น” เขายื่นหน้ามาใกล้นาง พร้อมทั้งขู่ให้นางหวาดกลัว

“เพคะ รู้เพคะ ว่าท่านอ๋องทำได้ทุกอย่าง”

“ดี” เว่ยอ๋องเดินหายออกไปในทันที เมื่อนางรับปากเขาแล้ว

“เหอะ ผู้ใดจะกลับเข้าไป ประสาท” เจียอีเห็นเว่ยอ๋องหายลับไปแล้วจึงกล้าพูดออกมา

นางเดินกลับไปทางประตูวังก็เห็นเสี่ยวถิงยืนรอนางพร้อมกับขันทีที่มาตามนางเมื่อครู่อย่างร้อนใจ

“ขอบคุณกงกงมากเจ้าค่ะ” นางยิ้มให้เขาเล็กน้อย แต่ดวงตาของนางไม่ได้ยิ้มไปด้วย

“มิได้ขอรับ เป็นหน้าที่ของข้าน้อย” เขาก้มหัวให้เจียอี ก่อนจะเดินห่างออกไป

“ไป กลับเถิด”

“คุณหนู ไปพบผู้ใดมาเจ้าคะ” เสี่ยวถิงเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล หากนายท่านรู้ว่านางถึงคุณหนูไว้กับผู้ใดไม่รู้เพียงลำพังคงได้ถูกลงโทษอย่างแน่นอน

“คนสติไม่ค่อยดีนะ ไม่มีอันใดแล้ว เจ้าอย่าได้กังวล” ทั้งสองออกจากวังหลวงและกลับไปที่จวนทันที

เว่ยอ๋องที่นั่งรอนับครึ่งชั่วยาม (1ชั่วยาม=2ชั่วโมง) แล้ว แต่ไม่เห็นเจียอีนางจะกลับมา ก็มีโทสะไม่น้อย

“นางกล้านัก” เขายกสุราขึ้นดื่มติดๆ กันถึงสามจอกเพื่อดับโทสะเรื่องที่เจียอีไม่ฟังคำสั่งเขา

มู่เฟยหย่า มองเว่ยอ๋องอยู่ตลอดเวลา นางไม่คิดว่าพยัคฆ์ร้ายที่คนพูดถึงจะรูปงามเช่นนี้ ถึงหวงเต๋อฟานจะรูปงามทั้งยังเป็นรองแม่ทัพ แต่ความสง่ากับสู้เว่ยอ๋องมิได้สักนิด เพียงแค่สบตาเขาในตอนแรกนางก็ใจสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   นางลืมไปได้อย่างไร

    เว่ยอ๋องที่เห็นว่านางยังดื้อรั้นจึงได้จุมพิตนางอีกครั้ง เพื่อเตือนนางว่าอย่าได้ขัดใจเขา “โอ๊ยย” นางร้องออกมาเบาๆ เมื่อเขาขบริมฝีปากที่ปิดแน่นของนาง“เจ้าดื้อกับเปิ่นหวางเอง อีอี” เขาตะโบมจุมพิตนางอย่างดุดัน ทั้งยังจับยึดตัวของนางไว้ให้ดิ้นรนถอยหนี“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าเปิ่นหวางตามหาเจ้าตลอด”“ยะ อย่า” นางเอ่ยขอร้องเสียงสั่น เมื่อฝ่ามือร้อนของเขาปลดเชือกที่รัดเอวของนางออก“ขออภัย” เขาซุกหน้าลงกับซอกคอของนาง เพื่อปรับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านให้สงบลง แต่กลิ่นกายของนางก็ราวกับเป็นกำหนัดชั้นดี ยิ่งสูดดมเขายิ่งอยากจะรังแกนางเสียในคืนนี้เลย“ท่านอ๋อง” เจียอีเอ่ยเรียกเสียงเบา เมื่อรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่เริ่มถี่ขึ้นของเขา“อีอี เจ้าทรมานเปิ่นหวาง” เขาดูดเม้มที่ติ่งหูของนาง“เป็นท่านเองที่ทำตัวเอง กลับไปได้แล้ว” นางดันตัวเขาที่คร่อมทับนางอยู่ออก เพราะดูเหมือนส่วนล่างของเขาจะพร้อมรบเสียแล้ว“ช่วยเปิ่นหวางได้หรือไม่” เขามองนางอย่างอ้อนวอน“ไปหอคณิกาเลย” นางเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมา“ไม่เอา ต้องเป็นเจ้าเพียงผู้เดียว” เขาจับมือน้อยๆ ของนางอย่างแฝงไปด้วยความหมาย“ไม่ได้ ไม่เอา” นางดึงมือกลับ แต่กลับถูกเขาดึงฉ

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   หยกพกสีดำ

    มื้อเย็นเจียอีนางก็ยังมิได้ออกไปทานที่เรือนหลัก นางยังคงทานที่เรือนของตนเองเช่นเดิม“ข้าต้องกินอีกแล้วรึ” นางมองถ้วยยาน้ำสีดำที่ทั้งเหม็นทั้งขม จากมือของเสี่ยวถิงที่ยื่นมาตรงปากของนาง“กินเถิดเจ้าค่ะ คุณหนูจะให้แข็งแรงเร็วๆ” เสี่ยวถิงจ่อไปให้ถึงปากของนาง เหลือเพียงแค่บีบปากแล้วกรอกยาลงไปเจียอีจำต้องรีบกลืนลงคอไปให้เร็วที่สุด แต่อย่างไรนางก็เกือบจะอ้วกออกมาอยู่ดี “พรุ่งนี้ข้าไม่กินแล้ว เจ้าไม่ต้องต้มมาแล้ว” นางรีบดื่มน้ำตามลงไปหลายจอกทันทีเสี่ยวถิงยังคงดูแลจนเจียอีเข้านอน พอเจียอีนางหลับสนิท นางก็ถอยกลับไปนอนที่เรือนพักบ่าวที่อยู่ด้านหลังเว่ยอ๋องที่มาถึงห้องเจียอี ก็เห็นว่านางหลับไปแล้ว ครั้งนี้เขาไม่คิดจะปลุกนาง แต่กลับขึ้นไปซุกตัวเข้าผ้าห่มนอนลงข้างกายของนางแทน“อื้อออ” เจียอีซุกตัวเข้าหาไออุ่น เมื่อนางหันหลังหนีไม่ยอมพลิกมาทางเขา เขาจึงแย่งผ้าห่มของนางไปเสียหมด เพื่อให้นางหันมาทางเขา“หึ เป็นเจ้าเองนะที่กอดเปิ่นหวาง” เขาดึงตัวเจียอีมาสวมกอดไว้แน่น แล้วเอ่ยออกมาอย่างหน้าหนาองครักษ์เงาที่ซ่อนตัวอยู่ด้านนอกได้ยินคำพูดของผู้เป็นนายก็แทบจะร่วงหล่นลงมาจากต้นไม้ที่ซ่อนตัวอยู่ “สวรรค์ ท

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   บททดสอบแรก

    ระหว่างทางที่นางเดินกลับ ก็พบเข้ากับบุรุษผู้หนึ่งที่รีบร้อนเดินมาทางนาง พอเขาเข้ามาใกล้นางจึงเห็นใบหน้าของเขาได้ถนัด จะเป็นผู้ใดไปได้เล่าถ้าไม่ใช่ หวงเต๋อฟาน“หยุด!!! ท่านเข้ามาด้านในได้อย่างไร” เจียอียกมือขึ้นห้ามไม่ให้เขาเดินเข้ามาใกล้นาง“คุณหนูรอง หย่าหย่าเล่า เห็นนางหรือไม่ นางบอกให้ข้ามาพบที่ศาลาริมน้ำ”“เช่นนั้นท่านเข้าไปรอนางก่อนแล้วกัน ข้าขอตัว” เจียอีรีบหมุนตัวกลับไปทางเรือนพักของนางให้เร็วที่สุด ด้วยกลัวว่าหากมีคนมาพบเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันในยามนี้จะเข้าใจผิดคิดว่านางลอบนัดพบกับว่าที่พี่เขยของตนเองแต่เหมือนสวรรค์จะส่งบททดสอบแรกมาให้นาง เมื่อเสียงฝีเท้าของจำนวนคนไม่น้อยกำลังมุ่งหน้ามาทางที่ทั้งสองยืนอยู่“กะ อุ๊บ” เจียอีนางยังไม่ทันได้กรีดร้องออกมาก็ถูกมือตะครุบปิดปากนางไว้เสียก่อนตัวของนางลอยขึ้นจากพื้นทะยานไปต้นไม้แล้วต้นไม้เล่า จนมาหยุดอยู่ที่เรือนพักของนางหวงเต๋อฟานยืนนิ่งอึ้งด้วยคนตกใจ หากเขามองไม่ผิด บุรุษที่มาพาตัวคุณหนูรองมู่ออกไป ต้องเป็นเว่ยอ๋องอย่างแน่นอน“ไหน อีอี นางอยู่ที่ใด” มู่เฟยหย่าเอ่ยถามด้วยเสียงอันดัง พร้อมกับเดินเข้ามาทางหวงเต๋อฟาน แล้วมองสำรวจรอบๆ บร

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   คุณหนูใหญ่ให้บ่าวมาตาม

    เว่ยอ๋องรู้สึกว่ามีคนจ้องมองมาทางเขา เขาจึงหันไปมองก็พบว่าเป็นมู่เฟยหย่า พอเห็นว่าเป็นนางเขาก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที“บุตรสาวรองเจ้ากรมมู่เป็นฝาแฝดรึ” เขาหันไปเอ่ยถามขันทีข้างกาย“พ่ะย่ะค่ะ คุณหนูมู่เฟยหย่าแฝดคนพี่ กำลังเอ่ยเรื่องหมั้นหมายกับคุณชายหวง ส่วนคนน้องคุณหนูมู่เจียอี บ่าวยังมิได้ข่าวเรื่องงานดูตัวของนางพ่ะย่ะค่ะ”“มู่เจียอี งั้นรึ” เว่ยอ๋องยกยิ้มที่มุมปาก แต่รอยยิ้มเช่นนี้ขันทีข้างกายได้แต่ขนลุกไปทั้งตัว ยิ้มเช่นนี้ทีไรมีเรื่องทุกทีมู่เฟยหย่าเห็นขันทีมองมาทางนางแล้วกระซิบบอกกล่าวเว่ยอ๋อง ยิ่งเห็นรอยยิ้มน้อยๆ ของเขา นางก็เขินอายขึ้นมาทันที คงสนใจตัวนางเช่นบุรุษอื่นเป็นแน่เจียอีที่กลับมาถึงจวน เสี่ยวถิงก็รีบร้อนไปหาน้ำร้อนมาประคบให้นางทันที พอกลับมาถึงเรือน นางก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่ จึงได้เห็นรอยแดงบนหน้าผากจากคันฉ่องว่ามันบวมแดงแค่ไหน“นี่ขนาดกระจกเหลืองขนาดนี้ ยังเห็นรอยแดงชัด ถ้ากระจกใสจะเป็นเช่นใดเนี่ย” นางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างมีโทสะ ก่อนจะทิ้งกระจกในมือลงบนที่นอนเสี่ยวถิงประคบร้อนให้นางอยู่นานกว่ารอยบวมจะยุบลง บิดามารดา และมู่เฟยหย่าที่กลับมาจากงานเลี้ยงก็รีบมา

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   แดงจนอัปลักษณ์

    สวีซื่อกับรองเจ้ากรมมู่เอ่ยถามเจียอีอีกสองสามประโยค เมื่อเห็นว่านางไม่เป็นอันใดแล้วจึงได้วางใจลง“รู้ตัวว่าเป็นไข้ เหตุใดยังมาอีก” มู่เฟยหย่าเอ่ยถามเจียอีขึ้นมา นางมองที่กำไลข้อมือทั้งสองข้างและปิ่นปักผมอย่างไม่พอใจนัก“ข้าบอกท่านแม่แล้ว ข้าก็ไม่ได้อยากจะมาเสียหน่อย” นางบ่นเสียงเบา ก่อนจะหันไปสนใจของว่างที่อยู่ตรงหน้าแทน หากได้มองหน้ามู่เฟยหย่าต่อ นางอาจจะเผลอโต้ตอบออกไปก็ได้“เว่ยอ๋องเสด็จ” เสียงขันทีประกาศเสียงดัง เพื่อให้ทุกคนลุกขึ้นทำความเคารพ ตะเกียบในมือของเจียอีกชะงักค้าง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วถอยไปอยู่ด้านหลังของมู่เฟยหย่า เพื่อไม่ให้เขาเห็นนางนางมองสังเกตว่ามู่เฟยหย่าจะมีอาการเช่นไร และก็เป็นอย่างที่นางคิด เมื่อดวงตาของมู่เฟยหย่าจับจ้องสนใจอยู่ที่ตัวของเว่ยอ๋องจนเขาเดินไปถึงที่นั่งนางได้เห็นทั้งสองสบตากันครู่หนึ่งด้วย จึงได้ก้มหน้าลงเช่นเดิม แล้วลอบยิ้มในใจ ผู้ใดที่เห็นพี่สาวนางแล้วจะไม่ตกหลุมรักบ้างเล่า คงไม่มีแน่เชื้อพระวงศ์ ทั้งหมดเข้ามาภายในงานเลี้ยงแล้ว เสียงดนตรี และอาหารเริ่มทยอยเข้ามาด้านใน เจียอีได้แต่ก้มหน้าลงสนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้าของนาง หรือเงยหน้าขึ้นมามองการแสดงเป

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   ถึงกับเป็นลม

    เจียอีถูกพาไปที่ตำหนักวังหลัง ระหว่างทางเดินมีคนเดินสวนไปมาไม่น้อย เจียอีที่มัวแต่มองความงามของวังหลวงก็บังเอิญชนเข้ากับคนผู้หญิง“โอ๊ยยย” นางเซหงายหลังเกือบที่จะล้มไปกองกับพื้น แต่ถูกคว้าโอบรอบเอวไว้ก่อนที่จึงมิได้ล้มลงไป“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าไม่ทันมอง” นางรีบขอโทษ พร้อมทั้งดันตัวเขาออกมา“เดินเยี่ยงไร ถึงมิได้ดูทาง” เจียอีเงยหน้าขึ้นไปมองบุรุษที่ตำหนินางเสียงเย็น“เห้ยยย” นางตกใจถอยหลังหนี ด้วยรีบร้อนเกินไปจึงได้ล้มไปกองกับพื้นทันที“อย่างไรกัน คุณหนูจวนใดถึงได้ไร้มารยาทเช่นนี้”เจียอีถูกนางกำนัลพยุงลุกขึ้น นางรีบไปแอบอยู่ด้านหลังของนางกำนัลทันที ความกลัวพุ่งสูงจนเหงื่อซึมออกมาตามใบหน้าและแผ่นหลัง ใบหน้าของนางซีดขาวจนนางกำนัลต้องเข้าไปประคองนางไว้“ขออภัยอีกรอบเพคะ” นางก้มหน้านิ่งไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมาสบสายตาของเขา“ท่านอ๋องเพคะ พระองค์กำลังทำให้คุณหนูมู่หวาดกลัวอยู่เพคะ” จางมามา นางกำนัลข้างกายของไทเฮาเอ่ยบอกเว่ยอ๋องที่กำลังจ้องมองเจียอีอยู่“เหอะ เปิ่นหวางเป็นปีศาจหรืออย่างไร ถึงได้หวาดกลัวเสียจะเป็นลมเช่นนี้”“หะ หามิได้เพคะ” เจียอีเอ่ยเสียงสั่นออกมาเช่นนี้แล้วผู้ใดจะเชื่อว่านา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status