ログインตอนที่ 10 หลีกเลี่ยงไม่ได้
"กลับเลยไหมครับ" จือหยวนถามภรรยา หลังจากที่ได้รับส่วนแบ่งเรียบร้อยแล้ว
"จะรีบกลับไปไหน" เจ้าหรูถามน้องเขยกับน้องสาวที่เหมือนรีบร้อนจะกลับ
"พอดีผมมีงานต้องไปทำต่อครับ" จือหยวนตอบพี่สาวของภรรยา
"เขามีประชุมต่อไม่ใช่เหรอ" เจ้าหรูก็บอกในสิ่งที่ตัวเองรู้มาเช่นเดียวกัน
"ประชุมอะไรเหรอคะ" ประโยคเบาหวิวนั้นมาจากรั่วซี
"ไม่รู้เหมือนกัน หัวหน้าหมู่บ้านมาแจ้งเมื่อวานตอนเย็น ๆ " เจ้าหรูคิดว่าน้องสาวก็คงไม่รู้อีกตามเคย บ้านอยู่ไกลจากคนอื่นขนาดนั้น คงไม่มีใครไปแจ้งข่าว และปกติแล้วน้องสาวจะมาบ้านแทบทุกวัน ยังไงก็รู้ต้องรู้ข่าว หัวหน้าหมู่บ้านเลยไม่ไปแจ้ง จะแจ้งที่บ้านที่เดียว แล้วคนที่บ้านจะไปบอกครอบครัวของน้องสาวเอง
"ซีซีเป็นอะไร ปวดหัวเหรอ" จือหยวนรีบถามภรรยาทันทีที่เห็นเหงื่อของภรรยาออกตามไรผมทั้งที่อากาศเย็น มีแต่คนไม่สบายเท่านั้นที่มีอาการแบบนี้
"ปะ... ปวดหัวนิดหน่อยค่ะ" รั่วซีพยายามพูดให้น้ำเสียงเป็นปกติที่สุด แต่เพราะเธอไม่สามารถเก็บอาการได้ดีเท่าที่ควร จึงทำให้คนที่ได้ยินและเห็นเหมือนว่ารั่วซีไม่สบายมาก ๆ
"กลับไปพักก็ได้ เดี๋ยวให้พี่ใหญ่ไปบอกว่าเขาประชุมเกี่ยวกับอะไร" เจ้าหรูเห็นท่าทางน้องสาวเหมือนจะยังไม่หายดีเลยให้รีบกลับไปพัก
จือหยวนรับลูกชายมาอุ้มพาดบ่าไว้ ส่วนอีกมือถือธัญพืช รั่วซีมองหน้าสามีพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง พยายามปลอบตัวเองไม่ให้ตื่นกลัว... อาจไม่ใช่อย่างที่เธอคิดก็ได้...
"ไม่เป็นไรค่ะ นั่งพักสักหน่อยน่าจะดีขึ้น เผื่อต้องลงชื่อด้วย" รั่วซีบอกสามี ซึ่งความหมายของประโยคนั้นส่งไปหาสามีให้เขาได้เข้าใจ... หากลงชื่อเร่งด่วนจะต้องมีคนไปตามที่บ้าน ซึ่งเธอยังไม่พร้อมให้คนอื่นรู้เรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของครอบครัวเธอในตอนนี้
"ครับ อยากได้อะไรหรือหิวไหมครับ" จือหยวนรู้ได้ทันทีว่าภรรยาหมายความว่าอย่างไร ในเมื่อภรรยาต้องการแบบนั้น เขาก็ไม่ขัด เลยได้แต่ถามภรรยาว่าต้องการอะไรไหม
รั่วซีส่ายหน้าพร้อมกับหยิบกระบอกน้ำขึ้นมาค่อย ๆ จิบน้ำ เผื่อจะดีขึ้น เพราะสิ่งที่เคยเจอมาในชีวิตก่อนนั้น... มันยังติดตาฝังอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ถึงจะได้ย้อนกลับมา แต่สิ่งที่เธอโดนกระทำมันยังทำให้หวาดผวาอยู่ตลอด แค่ได้ยินว่ามีประชุมก็มีอาการทันที
เธอจำได้ว่าก่อนที่จะเจอกับกัวเหลียง ที่หมู่บ้านมีเรียกประชุมเกี่ยวกับการพัฒนาฟื้นฟูชุมชน จะมีนักโทษชั้นดีมาช่วยซ่อมถนน ขุดลอกคลอง พัฒนาชุมชน กัวเหลียงคือหนึ่งในทหารที่ทำหน้าที่ควบคุมนักโทษมาทำงาน เป็นระยะเวลาสามเดือนที่เขาจะมาอยู่ที่นี่ และวันที่เขากลับไป เธอก็กลับไปพร้อมกับเขา...
หากอยากรู้อะไรมากกว่านี้ เธอต้องอยู่ฟังการประชุม จะได้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่จะได้เจอกับเขา คลองหน้าหมู่บ้านคือสถานที่ที่ได้เจอกัน หากรู้ช่วงเวลาที่พวกเขามา เธอจะหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนั้น
"ดีขึ้นไหม" เจ้าหรูถาม แต่สายตามองน้องเขยที่คอยซับเหงื่อให้ภรรยา จริง ๆ แล้วไม่แปลกที่น้องเขยจะทำแบบนั้น แต่ที่แปลกคือน้องสาวนั่นแหละ ปกติไม่ให้สามีทำแบบนี้ ยิ่งมีคนอื่นอยู่ด้วยจำนวนมาก น้องสาวจะชอบหลีกเลี่ยงเสมอ
"ดีขึ้นมาหน่อยแล้วค่ะ" รั่วซีตอบพี่สาว ไม่ได้สนใจว่าพี่สาวจะสงสัยหรือแปลกใจอะไร ทำอย่างไรได้ ในเมื่อเธอไม่สามารถควบคุมได้ ยังคงหวาดผวา... ทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าเริ่มต้นใหม่แล้ว... แต่เหมือนทุกอย่างที่เจอมาจะฝังใจเธอไปแล้ว
"ถามจริง ๆ ทำไมถึงยอมให้สามีทำแบบนั้น" เมื่อเห็นน้องเขยไปนั่งอีกฝั่งของน้องสาวแล้ว เจ้าหรูก็กระซิบถามเสียงเบา
"ทำแบบไหนคะ" รั่วซีหันไปมองพี่สาวที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนกำลังสงสัย
"ปกติ... ไม่ชอบให้สามีถูกเนื้อต้องตัวไม่ใช่เหรอ" ถึงน้องสาวไม่เคยพูดออกมาตรง ๆ แต่เท่าที่เห็น น้องสาวจะหลีกเลี่ยงตลอด
"พี่รองคงเข้าใจผิด หากไม่ให้สามีซับเหงื่อให้ แล้วจะให้ใครทำ" รั่วซีตอบกลับเพื่อให้พี่สาวได้เข้าใจ
"มันก็จริง แต่น้องเล็กไม่ชอบสามีของตัวเองไม่ใช่เหรอ" เจ้าหรูก็ยังไม่เข้าใจหลายอย่าง
"ไม่ชอบแล้วฉันจะมีลูกถึงสองคนเหรอ หากไม่ชอบให้แตะเนื้อต้องตัว จะมีลูกได้อย่างไร" รั่วซีพูดให้พี่สาวเข้าใจตัวเธอเสียใหม่ อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ เธอไม่พูดเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับสามี... เลยทำให้คนอื่นคิดกันไปเอง
เพียะ!! เมื่อได้ยินน้องสาวพูดแบบนี้ เจ้าหรูก็เลยตีแขนไปหนึ่งที
"ถึงจะเป็นเรื่องจริง... เวลาอยู่ข้างนอกไม่ควรพูดแบบนั้น" ตีเสร็จก็สอนน้องสาวทันที
"พี่รอง.. หากฉันไม่พูด พี่ก็เข้าใจไปอีกอย่าง ก่อนหน้านี้ฉันไม่อยากให้คนอื่นพูดเสีย ๆ หาย ๆ เลยเลือกที่จะเงียบ พอฉันเงียบ พี่ก็คิดว่าฉันไม่ชอบ ฉันแค่บอกความจริงไปก็เท่านั้น" เมื่อมีโอกาสพูดให้คนอื่นเข้าใจ ก็รีบบอกทันที
จือหยวนได้ยินที่ภรรยาพูดก็ยกยิ้มขึ้น เขาก็เพิ่งจะรู้ว่าภรรยาคิดแบบนี้ ก่อนหน้านี้เขาก็คิดไม่แตกต่างจากพี่ภรรยามากนัก เพราะภรรยาไม่ค่อยพูดเรื่องแบบนี้ ถึงภรรยาจะเป็นคนคุยเก่ง แต่ภรรยาไม่ค่อยพูดค่อยคุยกับเขามากนัก เพิ่งจะมาไม่กี่วันนี้เองที่ภรรยาพูดคุยกับเขาเยอะขึ้น
เจ้าหรูคิดตามที่น้องสาวพูด... มันก็จริง... เพราะน้องสาวไม่พูด เธอเลยคิดไปแบบนั้น พอคิดแบบนั้นแล้วเลยไม่ติดใจเรื่องที่ว่าน้องสาวแปลกไป...
"มากันแล้ว" รั่วซีพูดขึ้นทันทีที่เห็นพ่อกับแม่เดินมา และมีชาวบ้านอีกหลายคนที่เดินมาพร้อมกัน
"ไม่สบายไม่ต้องไปหรอก นั่งอยู่นี่แหละ" เจ้าหรูบอกน้องสาวเพราะหากเข้าไปเจอคนเยอะเกิดเป็นลมขึ้นมาจะทำยังไง ไปหาหมอไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
รั่วซีพยักหน้ารับคำพี่สาว เธอก็ยังไม่อยากไปเจอพ่อแม่ในตอนนี้มากนัก การที่คนเราได้รู้ในบางอย่าง ก็ใช่ว่าจะดีทั้งหมด... ถึงแม้เธอจะเป็นคนเลือกเอง แต่ก็ยังมีคำถามว่าพ่อกับแม่จะรู้ไหมว่าเธออยู่ยังไงแบบไหน เคยไปถามหาบ้างไหม หรือคิดว่าไปแล้วไปเลย สิ่งเหล่านี้รั่วซีไม่รู้คำตอบเลย พวกเขาอาจจะไปตาม แต่กัวเหลียงอาจบอกอีกอย่าง หรืออาจจะไม่ไป เพราะคนส่วนมากหากย้ายไปแต่งงานที่อื่นก็ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กันสักเท่าไร อาจเป็นได้หลายอย่างเลยแหละ... แค่เธอไม่รู้ว่าเป็นแบบไหนเท่านั้นเอง...
"คุณไปฟังใกล้ ๆ ให้อาเฉิงนอนหนุนตักฉันได้" รั่วซีหันไปบอกสามี
"ไหวแล้วใช่ไหมครับ" จือหยวนยังคงห่วงภรรยา ถึงแม้ว่าอาการเริ่มเป็นปกติแล้วก็ตาม
"ดีแล้วค่ะ ฉันรออยู่ตรงนี้นะคะ"
"มีอะไรก็ตะโกนดัง ๆ ได้เลยนะครับ" จือหยวนบอกก่อนที่จะออกไป
"เห็นอาหรูบอกว่ายังไม่หายไม่ใช่เหรอ แล้วจะออกมาทำไม ให้สามีมาคนเดียวก็ได้" พอสามีออกไป แม่ของรั่วซีก็เข้ามาทันที
"ที่ไม่สบายดีขึ้นแล้วค่ะ เพิ่งจะมาเวียนหัวสักพักนี่เอง" เมื่อรู้ว่าเป็นใคร รั่วซีก็ตอบกลับทันที
"ได้รับส่วนแบ่งแล้วเหรอ" เหอชุนผิง เห็นว่าข้าง ๆ ลูกสาวเป็นถุงธัญพืช จึงได้เอ่ยถาม
"ได้แล้วค่ะ ฉันคืนแม่แค่บางส่วนก่อนได้ไหมคะ" ในเมื่อแม่มาแล้วก็คืนเลยจะได้ไม่ต้องไปหาที่บ้าน สำหรับเธอ... ความรู้สึกมันยังใหม่เกินไปที่จะไปพบหน้าพวกเขาพร้อมกันทุกคนในตอนนี้ ขอเวลาเธออีกสักหน่อย แค่นี้ก็ไม่รู้จะพูดแบบไหนยังไง รู้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตัวเอง แต่ก็ยังอึดอัดใจเวลาเจอพวกเขาอยู่ดี...
"ได้ไม่เป็นไร ไม่พอก็มาเอา" เห็นลูกสาวแต่งตัวดูดีกันทั้งบ้าน คนเป็นแม่ก็ดีใจด้วย ลูกสาวคนเล็กเป็นคนสวย น่าจะสุขสบายมากกว่านี้ ไม่น่าจะต้องมาแต่งงานกับลูกเขยคนนี้เลย
"ถ้าอย่างนั้นแม่แบ่งเองได้ไหมคะ หลานหลับทั้งคู่เลย" ที่รั่วซียอมให้แม่ทำเองเพราะจากที่เคยเห็นมา แม่ไม่ได้เอาเปรียบเธอในเรื่องนี้ จะบอกว่าแม่ใจร้ายกับเธอก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ค่อนข้างดีกับเธอมากด้วย แต่ไม่ชอบสามีของเธอ และไม่สนิทกับลูกของเธอมากนัก
สำหรับรั่วซีแล้วมันอธิบายลำบาก จะบอกว่าแม่ผิดก็ไม่ใช่ หากให้มองในมุมมองของแม่ที่อยากให้ลูกสบาย และยังมีคนเอาเงินมาให้ มีแต่ได้กับได้ มีใครบ้างไม่อยากได้เงิน หากแม่รู้ว่าเธอถูกจับไปขาย แม่อาจจะไม่ให้เธอไปก็ได้
ตั้งแต่เล็กจนโตแม่ไม่ได้หวงของกินกับเธอ ส่วนมากจะเรียกเธอไปกินข้าวด้วย มีอะไรก็แบ่งปันให้เธอ แต่แค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่แม่หยิบยื่นให้ ส่วนหลาน ๆ ก็ไม่ได้สนิทกับยายมากนัก
ลูกของเธอจะเรียกหาแต่พ่อและชอบพูดถึงพ่อบ่อย ๆ อาจทำให้แม่ไม่ค่อยชอบ เพราะแม่ไม่ชอบลูกเขยอยู่แล้ว สิ่งนี้คือการคาดเดาของเธอเอง แต่จริงไหมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
"ได้ ๆ ทีหลังหากยังไม่หายก็อย่าเพิ่งออกมาเข้าใจไหม" คนเป็นแม่ก็เอ่ยเตือนลูกสาวอีกครั้ง ก่อนจะเดินถือถุงธัญพืชออกไป
รั่วซีนั่งรอสักพักใหญ่ ๆ จนเจ้าตัวเล็กเริ่มบิดตัวไปมา ก่อนจะลืมตาแล้วส่งยิ้มหวานมาให้คนเป็นแม่
"พี่ใหญ่หลับอยู่... เหยาเหยาอย่าเพิ่งเสียงดังนะ" รั่วซีบอกลูกสาวตัวน้อย ก่อนที่จะล้วงหยิบสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าออกมาให้ลูก
"เหยาเหยาไม่พูดดัง" เหยาเหยาขยับตัวออกจากตักแม่ทันที เพราะรู้ว่าพี่ชายจะต้องนอนหนุนตักของแม่ เธอทั้งสองคนชอบนอนแบบนี้ประจำ
"จิบน้ำอุ่นก่อนค่ะ" เพราะอากาศเย็น ลูกสาวเสียงแหบนิด ๆ รั่วซีเลยต้องให้จิบน้ำไว้ก่อน
"จิบ ๆ ค่ะ" เหยาเหยาเลียนเสียงแบบแม่พร้อมกับหัวเราะคิกคัก
รั่วซีมองลูกสาวแล้วก็ยิ้มตามทันที ช่างพูดช่างเจรจา พอเห็นแบบนั้นก็ยื่นมือเข้าบีบจมูกน้อย ๆ ของลูกสาวทันที...
"ลูกสาวเหรอครับ... " เป็นเพียงคำถามปกติ แต่คนที่ได้ยินถึงกับขนลุกชันขึ้นมาทันที
รั่วซีหันไปมองทางที่มาของเสียง... ในตอนแรกยังยิ้มแย้มกับลูกสาวตัวน้อยอยู่เลย แต่ตอนนี้... รอยยิ้มของรั่วซีได้หายไปแล้ว เสียงแบบนี้ ใบหน้าและท่าทางที่สุภาพแบบนี้ มีเพียง กัวเหลียง เท่านั้น...
"ค่ะ" รั่วซีพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้ตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะไม่อยากให้คนอื่นสังเกตเห็นอาการได้
"คุณอยู่หมู่บ้านนี้เหรอครับ" กัวเหลียงยังคงถามต่ออย่างสุภาพ
"ค่ะ" รั่วซีก็ยังตอบรับคำเดียวเหมือนเดิม
"แม่... แม่... หาพ่อ หาพ่อ" เหยาเหยาเห็นพ่อมองมาแล้ว เหมือนกำลังเรียกเธอเลย
"อยู่กับแม่นี่แหละ เดี๋ยวพ่อก็มา" รั่วซีไม่อยากอยู่คนเดียวในตอนนี้ อย่างน้อยมีเหยาเหยาคุยด้วยก็ยังดี
"แม่แบ่งอย่างละครึ่ง... เดี๋ยวซีซีไม่พอกิน" ชุนผิงเอาธัญพืชที่เหลือมาส่งให้ลูกสาวพร้อมกับชูที่ตัวเองแบ่งไว้ให้ลูกสาวดู
"แม่... อยู่กับฉันจนกว่าพ่อของเด็ก ๆ จะมาได้ไหม ฉันรู้สึกเวียนหัวอีกแล้ว" เมื่อเห็นว่าแม่มาแล้วจึงชวนให้อยู่ด้วยก่อน เธอไม่อยากจะคุยกับกัวเหลียงสักเท่าไร
"กลับไปนอนพักที่บ้านก่อนไหม เพิ่งจะดีขึ้นก็ออกมาตากลมเย็น ๆ " ชุนผิงว่าลูกสาวแต่สายตากลับมองไปที่พ่อหนุ่มคนด้านหลัง ไม่รู้ว่าเป็นใคร ไม่เคยเห็นมาก่อน
"พ่อหนุ่มย้ายมาอยู่ใหม่หรือยังไง" พอสงสัยชุนผิงก็ถามทันที
"ครับ... ผมจะมาประจำการอยู่ที่นี่ครับ วันนี้แค่มาคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านเท่านั้นครับ" กัวเหลียงตอบกลับอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า
ตอนนี้รั่วซีแทบฟังอะไรไม่รู้เรื่อง ยอมรับว่าตัวเองยังกลัว ทั้งที่พยายามทำใจแล้ว ยังไงก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เธอไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ชีวิตก่อนเธอเจอเขาที่คลองหน้าหมู่บ้าน แต่ชีวิตนี้เธอกลับเจอเขาในเวลานี้ หรือว่า... เรื่องราวได้เปลี่ยนไปแล้ว...
ตอนที่ 11 ตลาดมืดเมื่อวานนี้รั่วซีพยายามหลบเลี่ยงกัวเหลียง ดีที่มีกลุ่มหัวหน้าหมู่บ้านเข้ามาพูดคุย ทำให้รั่วซีกับลูก ๆ ปลีกตัวออกมาได้ง่าย ๆ เหตุการณ์เมื่อวานทำให้รั่วซีเกิดอาการหวาดผวา แค่สามีเอามือมาแตะเธอเบา ๆ ก็สะดุ้งแล้ว แต่พอรู้ว่าเป็นสามีเลยต้องพูดเอาตัวรอดไปเรื่อย ๆ ดีที่แต่ก่อนเธอไม่ค่อยได้คุยกับเขามากนักเลยทำให้เขาไม่สงสัยอะไร...จือหยวนเลยต้องรับหน้าที่เอาสิ่งของและอาหารไปให้ครอบครัวพี่สาม เพราะเห็นว่าภรรยาเหมือนจะไม่ค่อยสบาย และเขาไม่อยากให้ภรรยาต้องเดินตากลมและเจออากาศเย็น ๆ อาจทำให้ไข้กลับมาอีก...วันรุ่งขึ้นครอบครัวของรั่วซีก็พากันเข้าเมือง เพื่อหาลู่ทางสร้างรายได้ให้กับครอบครัว หากเดินเข้าเมืองก็ต้องใช้เวลานาน ทั้งสองสามีภรรยาจึงตัดสินใจไปขึ้นรถแทรกเตอร์หน้าหมู่บ้าน จะได้ถึงที่หมายโดยเร็วเด็ก ๆ ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อออกมาพร้อมกันทั้งครอบครัว ดีที่เด็
ตอนที่ 10 หลีกเลี่ยงไม่ได้"กลับเลยไหมครับ" จือหยวนถามภรรยา หลังจากที่ได้รับส่วนแบ่งเรียบร้อยแล้ว"จะรีบกลับไปไหน" เจ้าหรูถามน้องเขยกับน้องสาวที่เหมือนรีบร้อนจะกลับ"พอดีผมมีงานต้องไปทำต่อครับ" จือหยวนตอบพี่สาวของภรรยา"เขามีประชุมต่อไม่ใช่เหรอ" เจ้าหรูก็บอกในสิ่งที่ตัวเองรู้มาเช่นเดียวกัน"ประชุมอะไรเหรอคะ" ประโยคเบาหวิวนั้นมาจากรั่วซี"ไม่รู้เหมือนกัน หัวหน้าหมู่บ้านมาแจ้งเมื่อวานตอนเย็น ๆ " เจ้าหรูคิดว่าน้องสาวก็คงไม่รู้อีกตามเคย บ้านอยู่ไกลจากคนอื่นขนาดนั้น คงไม่มีใครไปแจ้งข่าว และปกติแล้วน้องสาวจะมาบ้านแทบทุกวัน ยังไงก็รู้ต้องรู้ข่าว หัวหน้าหมู่บ้านเลยไม่ไปแจ้ง จะแจ้งที่บ้านที่เดียว แล้วคนที่บ้านจะไปบอกครอบครัวของน้องสาวเอ
ตอนที่ 9 แจกจ่ายผลผลิตเมื่อเข้ามาในพื้นที่ สามีก็เดินดูสิ่งของในโกดัง ส่วนรั่วซีเข้ามาเตรียมอาหารที่พอจะแบ่งไปให้พี่สามได้ แล้วอ้างว่าได้มาจากครอบครัวของสามี เพราะมีหลายคนเห็นสามีของเธอเข้าไปในเมือง เธอเลยจะบอกพี่ชายแบบนั้น"แม่คะ... เหยาเหยาอยากเก็บเฉ่าเหมยที่อยู่ข้าง ๆ แปลงดอกไม้" เหยาเหยาเดินเข้าครัวมาบอกแม่ จริง ๆ เหยาเหยาอยากออกไปเก็บเลย แต่พี่ใหญ่บอกต้องมาบอกแม่ก่อน..."จะเก็บเฉ่าเหมยหรือว่าเก็บดอกไม้" รั่วซีวางมือจากงานที่ทำอยู่ ก่อนจะหันไปมองเจ้าตัวเล็กที่อยากออกไปเล่นข้างนอกอย่างรู้ทัน"ไม่เก็บ ไม่เก็บ เหยาเหยาแค่จะไปดูเฉย ๆ " เหยาเหยารีบบอกทันที มันอยู่แบบนั้นสวยอยู่แล้ว และที่สำคัญไม่มีใครมาแย่งต้นไม้เหยาเหยาได้ หากเก็บไปอาจมีคนมาแย่งจากมือก็ได้"ได้ค่ะ แต่เฉ่าเหมยเก็บแค่พอกินนะคะ อาเฉิงดูน้องได้ไหมคะ เดี๋ยวแม่ตามออกไ
ตอนที่ 8 สำรวจพื้นที่และวางแผนจือหยวนออกมายืนมองพื้นที่รอบ ๆ ปกติเวลานี้เขาต้องหลับสนิทแล้ว แต่เพราะมีเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเลยทำให้เขาไม่สามารถข่มตาหลับได้ เดินสำรวจทั่วทั้งบ้านและตอนนี้ออกมายืนดูแปลงเฉ่าเหมยที่ออกผลแดงเต็มต้น เขาเดินเข้าไปเก็บและส่งเข้าปากเพื่อชิมรสชาติ ซึ่งเฉ่าเหมยมีรสชาติหวานมาก ตอนที่เขาเป็นยุวชนเคยได้ลองกินแต่ไม่หวานแบบนี้จือหยวนเดินเข้าออกตามสถานที่ต่าง ๆ และลองกดที่หน้าจอสั่งงานที่ภรรยาสอนไว้ ภรรยาคงรู้ว่าเขาคงนอนไม่หลับ เลยสอนให้เขาใช้หน้าจอสั่งงาน ยังดีที่มีตัวหนังสือบอกไว้ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจำได้ไม่หมดแน่นอนรั่วซีตื่นเช้ามาก็มองหาสามีทันที... ยังดีที่เห็นเขานอนอยู่ข้าง ๆ นึกว่าจะนอนไม่หลับเสียอีก วันนี้รั่วซีเลือกนอนห้องนอนรวมที่มีเตียงขนาดใหญ่ สามารถนอนรวมกันได้ทั้งหมด และเธอคิดว่าอีกนานกว่าที่เด็ก ๆ จะตื่น เพราะได้นอนที่นอนอุ่น ๆ นุ่ม ๆ เลยปล่อยให้ทั้งพ่อและลูกนอนก
ตอนที่ 7 เปิดเผยความจริง"ฉันจะตอบคุณทุกคำถามที่คุณอยากรู้ แต่หลังจากที่คุณกินข้าวอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว... ดีไหมคะ" เมื่อเข้ามาถึงในตัวบ้าน รั่วซีก็หันไปบอกสามีทันทีที่ต้องบอกแบบนั้นเพราะดูจากท่าทางเหนื่อยล้าของสามีแล้ว ควรให้เขากินข้าวให้อิ่มท้อง อาบน้ำให้สบายตัว หลังจากนั้นเขาอยากรู้อะไรเธอจะบอกเขาเอง... แต่คงไม่ทุกอย่าง... เพราะเธอยังละอายกับเรื่องที่เธอทิ้งเขากับลูกไป ยกเว้นเรื่องนี้ ให้เธอรู้เพียงคนเดียวก็พอแล้ว..."ครับ" จือหยวนตอบรับภรรยาเช่นทุกครั้ง ไม่ว่าภรรยาจะว่าแบบไหนเขาก็ตอบรับเสมอ ถึงแม้สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้เขาสงสัยมากก็ตาม เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ภรรยาและลูกใส่ รวมถึงของเล่นที่ลูกกำลังถือ ขนมที่หาซื้อได้แค่ในเมือง ไม่รู้สิ่งของเหล่านี้มาจากไหน เขามั่นใจว่าภรรยาไม่ได้ออกไปไหน เพราะว่าภรรยาไม่สบายมาหลายวันแล้ว...
ตอนที่ 6 ตั้งตารอ... เพื่อพบเจออีกครั้งรั่วซีจับลูกทั้งสองอาบน้ำจนสะอาด แต่ละคนมีกลิ่นหอมของสบู่ติดตัว เจ้าตัวเล็กดีดดิ้นกับชุดใหม่ที่ได้ใส่ ไม่รู้ว่าดีใจหรือว่ายังไง ส่วนเจ้าตัวโตก็อมยิ้มหยิบชายเสื้อมาสูดดมกลิ่นหอมบ่อย ๆ"อยู่ในนี้ก่อน แม่ขอไปเก็บครัวและตรวจดูอะไรหน่อย เสร็จแล้วเราค่อยออกไปรอพ่อพร้อมกัน" รั่วซีพาลูกทั้งสองเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นคอกกั้น พื้นปูด้วยพรมนุ่ม ๆ ตอนแรกที่เห็นสิ่งนี้เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ตอนนี้เธอรู้แล้ว ในนั้นกว้างพอสมควร มีทั้งลูกบอลกลม ๆ หลากสีวางเรียงรายอยู่เต็มพื้นทำให้เจ้าตัวเล็กทั้งสองวิ่งเข้าไปอยู่ โดยที่เธอไม่ได้บังคับเลยสักนิดเดียว รั่วซีออกจากห้องโถงแล้วตรงเข้าไปในครัว เพื่อดูว่ามีอาหารอะไรบ้าง เธอยังมีเวลาสามารถทำอาหารเพิ่มได้ อาหารมื้อใหญ่เป็นการกินเพื่อแสดงความยินดีให้กับตัวเองที่ได้กลับมาอีกครั้งรั่วซีทำอาหา







