ログインตอนที่ 4 'พื้นที่' ของรั่วซี
รั่วซีไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว เธอใช้ชีวิตเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทดลองใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน สิ่งของภายในบ้านสามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งแตกต่างจากด้านนอกบ้านที่ไม่สามารถย้ายได้
รั่วซีตัดชุดไว้ให้ลูกและสามีจำนวนมาก และตัดชุดให้ครอบครัวพี่สามจนครบทุกคน ที่สามารถตัดชุดได้เยอะเพราะมีผ้าพับจำนวนมากวางเรียงรายหลากหลายสี จนรั่วซีอยากเอาออกไปให้ทุกคนที่เธอรักและดีกับเธอ ในตอนที่เธอจากมา สิ่งของพวกนี้มีค่าและหายากมาก
ตอนนี้ในบ้านมีอาหารและมีขนมมากมายที่รั่วซีทดลองทำขึ้นมา และยังทดลองใช้เครื่องผลิตสบู่ มีทั้งสบู่ก้อนและสบู่เหลว ยังดีที่มีสถานที่เก็บสิ่งของเหล่านี้ หากเป็นไปตามที่หน้าจอสั่งงานแจ้งรายละเอียด สิ่งของเหล่านี้ไม่เน่าไม่เสีย แต่หากเอาออกไปใช้แล้วจะหมดไป อยากได้เพิ่มก็แค่ทำขึ้นมาใหม่เท่านั้นเอง
ในส่วนวัตถุดิบที่ต้องนำมาใช้นั้นจะมีมาเติมให้ทุกเดือน แต่จำนวนสิ่งของที่ได้จะแตกต่างออกไป จะเป็นจริงอย่างที่อ่านมาไหมนั้น... รั่วซีก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน ทุกอย่างต้องรอดูกันต่อไป
พื้นที่ด้านนอกมีกำแพงเป็นต้นผลไม้รอบเขตพื้นที่ มีผิงกั่ว(แอปเปิล) จวี๋จื่อ (ส้ม) ซื่อจื่อ (ลูกพลับ) ผลไม้หลากหลายชนิด มีนาข้าวที่เหลืองอร่าม มีสวนผัก และแปลงเฉ่าเหมย (สตรอว์เบอร์รี) มีบ่อปลา มีคอกเลี้ยงสัตว์ มีไก่ เป็ด วัว หมู ทุกอย่างที่มีนั้น เธอก็กดจากหน้าจอสั่งงานทั้งหมด
ที่หน้าจอสั่งงานจะแสดงสถานะของสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ แจ้งจำนวนของสิ่งมีชีวิตและบอกรายละเอียดไว้ทั้งหมด แม้แต่ไข่ไก่ที่เพิ่งถูกฟักออกมายังมีรายละเอียดแจ้งไว้ทั้งหมด ซึ่งรั่วซีคิดว่าแบบนี้มันดีมาก ทุกอย่างสะดวกเพียงแค่กดหน้าจอสั่งงานเพียงเท่านั้น ผลผลิตจะถูกเก็บเกี่ยวและถูกจัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย
รั่วซีมีโกดังเก็บของขนาดใหญ่ที่แยกเป็นสองฝั่ง ด้านขวาจะเก็บพวกธัญพืชต่าง ๆ ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอาหารกระป๋อง ซึ่งสิ่งของบางอย่างนั้นมีอยู่ตั้งแต่แรก ไม่รู้ว่ามาจากไหนเหมือนกัน ทางด้านซ้ายของโกดังจะเก็บพวกเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ เนื้อปลา ของสดทุกอย่างจะถูกเก็บไว้ที่ฝั่งนี้ทั้งหมด
สิ่งที่เกิดขึ้นในนี้มันน่าเหลือเชื่อมาก ๆ แต่เธอก็เชื่อ เพราะคิดว่าตัวเองคือวิญญาณ และคิดว่าวิญญาณบางตนมีแบบนี้เหมือนกัน แต่อาจทำงานชดใช้กรรมของตัวเองแตกต่างกันไป...
รั่วซีเข้ามาดูผลไม้ที่ถูกแบ่งออกมา เพื่อที่จะได้เอาเข้าไปเก็บในบ้าน เธอทดลองทำอาหารมากมายหลายอย่าง เพราะเธอไม่ต้องลงมือทำงานด้านนอก เลยทำแต่อาหารคาวหวานและขนมเก็บไว้ พอมีสิ่งของมากมายรั่วซีก็อยากเอาออกไปให้ครอบครัว หากขายได้ก็อยากขายเพื่อเพิ่มรายได้ สิ่งของเหล่านี้ต้องขายได้เงินมากแน่ ๆ
"หากอยากขายก็ต้องแอบขาย" รั่วซีพึมพำเบา ๆ และคำว่า ตลาดมืด ก็เข้ามาในหัวของเธอ
"ตลาดมืด สามารถขายได้อย่างเสรี ไม่ต้องใช้คูปองอีกด้วย" รั่วซียังคงคุยกับตัวเอง
เท่าที่จำได้... หากใช้คูปองซื้อของที่สหกรณ์หรือที่ห้างจะมีกำหนดว่าครอบครัวหนึ่งจะซื้อข้าวสารได้ไม่เกิน 30 ชั่งต่อเดือน และราคาขายนั้นค่อนข้างแพง แต่หากเป็นที่ตลาดมืดจะจ่ายถูกกว่า และที่สำคัญไม่ต้องใช้คูปองอีกด้วย
หากจำไม่ผิด ช่วงก่อนที่เธอจะไปอยู่กับกัวเหลียง เนื้อหมูที่ตลาดมืดหนึ่งชั่งขายในราคา 12 หยวน แต่หลังจากนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเป็นยังไง ถูกขังไม่ได้ออกมารู้เรื่องราวของโลกภายนอกอีกเลย
พอคิดเรื่องนี้ทีไรก็นึกถึงครอบครัวของตัวเอง คิดย้อนกลับไปถึงวันแรกที่วิญญาณของเธอออกจากร่าง แล้วกลับมาที่บ้านพ่อและแม่ ได้รู้ได้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย...
พ่อของเธอชอบไปเที่ยวผู้หญิง พ่อจะรู้ไหมว่าลูกสาวของตัวเองก็ถูกขายเหมือนกัน อยากรู้จริง ๆ หากพ่อไปเจอเธอในสถานที่ที่เขาไปหาความสุขนั้น... พ่อจะทำยังไง จะช่วยเหลือเธอไหม...
ส่วนแม่ก็ชอบเล่นการพนัน หากไม่ได้เห็นกับตา เธอก็คงไม่เชื่อว่าแม่จะชอบเล่นการพนัน ทั้งที่ช่วงเวลานั้นคือช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก...
พี่ชายคนโตก็อยากให้เธอออกไปอยู่ไกล ๆ เพราะกลัวอาหารที่บ้านไม่เพียงพอกับคนในครอบครัว ทุกเดือนเธอจะมาขอยืม หรือบางทีก็จะมาขออาหารจากพวกเขา เพราะสามีทำงานคนเดียวเลยทำให้อาหารไม่พอกินในแต่ละเดือน
พี่สาวของเธอเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบเธอ เพียงเพราะหึงหวง ไม่อยากให้เธออยู่ใกล้พี่เขย ทั้งที่รั่วซีเองก็มีสามีอยู่แล้ว ทำไมถึงคิดแบบนี้ก็ไม่รู้ พี่สาวพยายามพูดให้เธอออกไป หากเธอไปแล้วต้องพบเจอแต่สิ่งดี ๆ อย่างแน่นอน ทำทุกอย่างเหมือนหวังดี แต่จริง ๆ แล้วก็มีจุดประสงค์แอบแฝง
คงจะมีเพียงพี่สามเท่านั้นที่คอยช่วยเหลือ คอยตักเตือนเธอ แต่เธอกลับดื้อรั้นไม่เชื่อพี่สาม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเธอไม่โทษพวกเขา เพราะเธอเลือกเดินเส้นทางนั้นเอง พวกเขาแค่หว่านล้อม หากเธอไม่ไป พวกเขาก็ไม่สามารถบังคับเธอได้อยู่ดี คงโทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเอง...
เธอเลือกผิด...
คงโทษใครไม่ได้...
"ฮึก ฮึก" รั่วซีกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนร้องไห้
เสียงสะอื้นที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
เสียงใคร...
เสียงดังมาจากไหน...
และภาพทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าก็เริ่มพร่ามัว
เหมือนมีหมอกจาง ๆ ทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ชัดเจน...
ก่อนที่หมอกจะจางหายไปพร้อมกับแรงดึงดูดมหาศาล... หอบเอาตัวรั่วซีไปยังสถานที่แห่งหนึ่งทันที...
ตอนที่ 11 ตลาดมืดเมื่อวานนี้รั่วซีพยายามหลบเลี่ยงกัวเหลียง ดีที่มีกลุ่มหัวหน้าหมู่บ้านเข้ามาพูดคุย ทำให้รั่วซีกับลูก ๆ ปลีกตัวออกมาได้ง่าย ๆ เหตุการณ์เมื่อวานทำให้รั่วซีเกิดอาการหวาดผวา แค่สามีเอามือมาแตะเธอเบา ๆ ก็สะดุ้งแล้ว แต่พอรู้ว่าเป็นสามีเลยต้องพูดเอาตัวรอดไปเรื่อย ๆ ดีที่แต่ก่อนเธอไม่ค่อยได้คุยกับเขามากนักเลยทำให้เขาไม่สงสัยอะไร...จือหยวนเลยต้องรับหน้าที่เอาสิ่งของและอาหารไปให้ครอบครัวพี่สาม เพราะเห็นว่าภรรยาเหมือนจะไม่ค่อยสบาย และเขาไม่อยากให้ภรรยาต้องเดินตากลมและเจออากาศเย็น ๆ อาจทำให้ไข้กลับมาอีก...วันรุ่งขึ้นครอบครัวของรั่วซีก็พากันเข้าเมือง เพื่อหาลู่ทางสร้างรายได้ให้กับครอบครัว หากเดินเข้าเมืองก็ต้องใช้เวลานาน ทั้งสองสามีภรรยาจึงตัดสินใจไปขึ้นรถแทรกเตอร์หน้าหมู่บ้าน จะได้ถึงที่หมายโดยเร็วเด็ก ๆ ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อออกมาพร้อมกันทั้งครอบครัว ดีที่เด็
ตอนที่ 10 หลีกเลี่ยงไม่ได้"กลับเลยไหมครับ" จือหยวนถามภรรยา หลังจากที่ได้รับส่วนแบ่งเรียบร้อยแล้ว"จะรีบกลับไปไหน" เจ้าหรูถามน้องเขยกับน้องสาวที่เหมือนรีบร้อนจะกลับ"พอดีผมมีงานต้องไปทำต่อครับ" จือหยวนตอบพี่สาวของภรรยา"เขามีประชุมต่อไม่ใช่เหรอ" เจ้าหรูก็บอกในสิ่งที่ตัวเองรู้มาเช่นเดียวกัน"ประชุมอะไรเหรอคะ" ประโยคเบาหวิวนั้นมาจากรั่วซี"ไม่รู้เหมือนกัน หัวหน้าหมู่บ้านมาแจ้งเมื่อวานตอนเย็น ๆ " เจ้าหรูคิดว่าน้องสาวก็คงไม่รู้อีกตามเคย บ้านอยู่ไกลจากคนอื่นขนาดนั้น คงไม่มีใครไปแจ้งข่าว และปกติแล้วน้องสาวจะมาบ้านแทบทุกวัน ยังไงก็รู้ต้องรู้ข่าว หัวหน้าหมู่บ้านเลยไม่ไปแจ้ง จะแจ้งที่บ้านที่เดียว แล้วคนที่บ้านจะไปบอกครอบครัวของน้องสาวเอ
ตอนที่ 9 แจกจ่ายผลผลิตเมื่อเข้ามาในพื้นที่ สามีก็เดินดูสิ่งของในโกดัง ส่วนรั่วซีเข้ามาเตรียมอาหารที่พอจะแบ่งไปให้พี่สามได้ แล้วอ้างว่าได้มาจากครอบครัวของสามี เพราะมีหลายคนเห็นสามีของเธอเข้าไปในเมือง เธอเลยจะบอกพี่ชายแบบนั้น"แม่คะ... เหยาเหยาอยากเก็บเฉ่าเหมยที่อยู่ข้าง ๆ แปลงดอกไม้" เหยาเหยาเดินเข้าครัวมาบอกแม่ จริง ๆ เหยาเหยาอยากออกไปเก็บเลย แต่พี่ใหญ่บอกต้องมาบอกแม่ก่อน..."จะเก็บเฉ่าเหมยหรือว่าเก็บดอกไม้" รั่วซีวางมือจากงานที่ทำอยู่ ก่อนจะหันไปมองเจ้าตัวเล็กที่อยากออกไปเล่นข้างนอกอย่างรู้ทัน"ไม่เก็บ ไม่เก็บ เหยาเหยาแค่จะไปดูเฉย ๆ " เหยาเหยารีบบอกทันที มันอยู่แบบนั้นสวยอยู่แล้ว และที่สำคัญไม่มีใครมาแย่งต้นไม้เหยาเหยาได้ หากเก็บไปอาจมีคนมาแย่งจากมือก็ได้"ได้ค่ะ แต่เฉ่าเหมยเก็บแค่พอกินนะคะ อาเฉิงดูน้องได้ไหมคะ เดี๋ยวแม่ตามออกไ
ตอนที่ 8 สำรวจพื้นที่และวางแผนจือหยวนออกมายืนมองพื้นที่รอบ ๆ ปกติเวลานี้เขาต้องหลับสนิทแล้ว แต่เพราะมีเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเลยทำให้เขาไม่สามารถข่มตาหลับได้ เดินสำรวจทั่วทั้งบ้านและตอนนี้ออกมายืนดูแปลงเฉ่าเหมยที่ออกผลแดงเต็มต้น เขาเดินเข้าไปเก็บและส่งเข้าปากเพื่อชิมรสชาติ ซึ่งเฉ่าเหมยมีรสชาติหวานมาก ตอนที่เขาเป็นยุวชนเคยได้ลองกินแต่ไม่หวานแบบนี้จือหยวนเดินเข้าออกตามสถานที่ต่าง ๆ และลองกดที่หน้าจอสั่งงานที่ภรรยาสอนไว้ ภรรยาคงรู้ว่าเขาคงนอนไม่หลับ เลยสอนให้เขาใช้หน้าจอสั่งงาน ยังดีที่มีตัวหนังสือบอกไว้ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจำได้ไม่หมดแน่นอนรั่วซีตื่นเช้ามาก็มองหาสามีทันที... ยังดีที่เห็นเขานอนอยู่ข้าง ๆ นึกว่าจะนอนไม่หลับเสียอีก วันนี้รั่วซีเลือกนอนห้องนอนรวมที่มีเตียงขนาดใหญ่ สามารถนอนรวมกันได้ทั้งหมด และเธอคิดว่าอีกนานกว่าที่เด็ก ๆ จะตื่น เพราะได้นอนที่นอนอุ่น ๆ นุ่ม ๆ เลยปล่อยให้ทั้งพ่อและลูกนอนก
ตอนที่ 7 เปิดเผยความจริง"ฉันจะตอบคุณทุกคำถามที่คุณอยากรู้ แต่หลังจากที่คุณกินข้าวอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว... ดีไหมคะ" เมื่อเข้ามาถึงในตัวบ้าน รั่วซีก็หันไปบอกสามีทันทีที่ต้องบอกแบบนั้นเพราะดูจากท่าทางเหนื่อยล้าของสามีแล้ว ควรให้เขากินข้าวให้อิ่มท้อง อาบน้ำให้สบายตัว หลังจากนั้นเขาอยากรู้อะไรเธอจะบอกเขาเอง... แต่คงไม่ทุกอย่าง... เพราะเธอยังละอายกับเรื่องที่เธอทิ้งเขากับลูกไป ยกเว้นเรื่องนี้ ให้เธอรู้เพียงคนเดียวก็พอแล้ว..."ครับ" จือหยวนตอบรับภรรยาเช่นทุกครั้ง ไม่ว่าภรรยาจะว่าแบบไหนเขาก็ตอบรับเสมอ ถึงแม้สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้เขาสงสัยมากก็ตาม เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ภรรยาและลูกใส่ รวมถึงของเล่นที่ลูกกำลังถือ ขนมที่หาซื้อได้แค่ในเมือง ไม่รู้สิ่งของเหล่านี้มาจากไหน เขามั่นใจว่าภรรยาไม่ได้ออกไปไหน เพราะว่าภรรยาไม่สบายมาหลายวันแล้ว...
ตอนที่ 6 ตั้งตารอ... เพื่อพบเจออีกครั้งรั่วซีจับลูกทั้งสองอาบน้ำจนสะอาด แต่ละคนมีกลิ่นหอมของสบู่ติดตัว เจ้าตัวเล็กดีดดิ้นกับชุดใหม่ที่ได้ใส่ ไม่รู้ว่าดีใจหรือว่ายังไง ส่วนเจ้าตัวโตก็อมยิ้มหยิบชายเสื้อมาสูดดมกลิ่นหอมบ่อย ๆ"อยู่ในนี้ก่อน แม่ขอไปเก็บครัวและตรวจดูอะไรหน่อย เสร็จแล้วเราค่อยออกไปรอพ่อพร้อมกัน" รั่วซีพาลูกทั้งสองเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นคอกกั้น พื้นปูด้วยพรมนุ่ม ๆ ตอนแรกที่เห็นสิ่งนี้เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ตอนนี้เธอรู้แล้ว ในนั้นกว้างพอสมควร มีทั้งลูกบอลกลม ๆ หลากสีวางเรียงรายอยู่เต็มพื้นทำให้เจ้าตัวเล็กทั้งสองวิ่งเข้าไปอยู่ โดยที่เธอไม่ได้บังคับเลยสักนิดเดียว รั่วซีออกจากห้องโถงแล้วตรงเข้าไปในครัว เพื่อดูว่ามีอาหารอะไรบ้าง เธอยังมีเวลาสามารถทำอาหารเพิ่มได้ อาหารมื้อใหญ่เป็นการกินเพื่อแสดงความยินดีให้กับตัวเองที่ได้กลับมาอีกครั้งรั่วซีทำอาหา







