เหวินหนิงเจ็บปวดรุนแรง เธอยกมือขึ้นและตบหน้าชายผู้ทำร้ายเธอ พื้นที่บนรถที่มันก็คับแคบอยู่แล้วก็ดูจะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างแย่ลงมือของเขาที่บีบกรามของเธออยู่ค่อยๆ ลดมาบีบคอเรียวเล็กของเธอ ลมหายใจของเขา...ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้น "เธอทำตัวแปลกๆ มาทั้งวัน พูดให้ชัดทีว่ามันมีปัญหาอะไรกันแน่"ในที่สุดเจียงชูหานก็ตระหนักได้ว่าเหวินหนิงไม่ได้ล้อเล่นเธอเป็นคนสำรวมและมีเหตุผลมาตลอด หากเธอแค่โกรธ เธอคงไม่เอะอะโวยวายทำให้เรื่องใหญ่โตหลังจากที่เขาเมินที่เธอพูดตอนเช้าเหวินหนิงมองและจับข้อมือของชายหนุ่มก่อนจะพูดว่า "สำนักงานเขตกำลังจะปิดภายในยี่สิบนาทีนี้ เข้าไปจัดการเอกสารหย่าให้เรียบร้อยกันเถอะ""เหวินหนิง!" ชายคนนั้นหายใจติดขัดด้วยความโกรธอย่างรุนแรงเหวินหนิงดึงมือของเขาออกและผลักเขาออกไป ทว่าชายคนนั้นกลับยืนแข็งราวกับก้อนหิน เธอจ้องเขาด้วยความโมโหสุดท้ายแล้ว เจียงชูหานก็หมดความอดทนจนหมดสิ้นและตัดสินใจพาเธอกลับบ้านมีเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ เขาคงจะกลับไปทำงานไม่ได้แล้วในวันนี้ระหว่างทางกลับบ้านนั้น คนขับรถดูจะขับรถด้วยความเร็วที่ไม่ค่อยมั่นคงนักด้วยรังสีอำมหิตที่แผ่
ในมื้ออาหารกลางวันเจียงชูหานรับสายจากบริษัทหลายครั้งและยังไม่ได้กินอะไรสักทีในระหว่างนั้นในขณะเดียวกัน เหวินหนิงกลับนั่งกินข้าวอย่างเงียบๆ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เพิ่งจะขอหย่ากับสามียังกินข้าวได้อย่างเอร็ดอร่อยไร้ความกังวลนายน้อยเจียงเห็นดังนั้นก็หงุดหงิด ดวงตาเจ้าเสน่ห์ของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจในเหวินหนิงหลังจากเขาวางสายจากบริษัท เขากล่าว "ฉันต้องไปทำงานที่หนานซีบ่ายนี้ น่าจะต้องอยู่นั่นสักประมาณสามวัน"ออกไปสักสองสามวันคงจะดีเขาหวังว่าในระหว่างนี้เธอจะสงบสติอารมณ์ และเมื่อเขากลับมาจะไม่ได้ยินปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในวันนี้จากเธออีกในที่สุดเหวินหนิงก็เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาสวยงามจ้องมองไปที่เขา เธอสะบัดผมยาวของเธออย่างสง่างามที่อาจทำให้คนที่มองถึงกับลืมหายใจม่านตาของเจียงจูหานหรี่ลงและร่างกายของเขาตอบสนองอย่างแรงต่อท่าทางดังกล่าวของเธอ แม้ว่าจะแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว เขาก็ยังไม่อาจต้านทานต่อเสน่ห์ของเธอได้ทว่าเหวินหนิงไม่ได้รับรู้ว่าชายตรงหน้าคิดอะไรอยู่ ขนตายาวสลวยของเธอกระตุกเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าชายคนนี้ก็จะต้องไปทำงานนอกเมืองบ่ายนี้ในชีวิตที่แล้วเช่
ค่ำคืนนั้นเอง เธอนอนไม่หลับ!เหวินหนิงใช้เวลาทั้งคืนค่อยๆ นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตที่แล้วโดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เจียงชูหานและมู่อินอยู่ด้วยกัน รวมไปถึงความใจดำของเจียงชูหานที่ขอให้เธอกรอกแบบฟอร์มยืนยันว่าเธอยินยอมเพื่อที่จะผ่าตัดกระจกตาเธอไม่อยากจะนึกถึงภาพความทรงจำอันสวยงามที่เคยมีต่อเจ็ดปีของความรักและสามปีของการแต่งงานของพวกเขาเมื่อบ่ายวานนี้ เหวินหนิงได้ส่งข้อตกลงการหย่าไปยังศูนย์วิเคราะห์ลายมือ เมื่อเธอตื่นขึ้นมาจึงรีบโทรไปถามผลทันทีหลังจากที่ตกลงนัดกับทางศูนย์แล้ว เธอก็ตรงไปยังสถานที่ที่นัดหมายกับซูไป๋ไว้ซูไป๋มาถึงก่อนและรอเหวินหนิงที่ประตู เธอสวมเสื้อโค้ททับกับชุดทำงานแบบเดียวกับที่เป็นลุคโปรดของเหวินหนิง ทว่าหลังจากเธอแต่งงานกับเจียงชูหาน เธอก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนั้นอีกเลยทุกครั้งที่เธอเห็นซูไป๋ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะอิจฉาในความดูเป็นผู้ใหญ่ของเพื่อนเหวินหนิงถาม "ทำไมไม่เข้าไปก่อนล่ะ""ทุกที่ที่คุณนายเจียงไปล้วนต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น พวกเขาไม่ต้อนรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกอย่างฉันหรอก" ซูไป๋ตอบคำพูดดังกล่าวทำให้เหวินหนิงชะงักไปเธอมองซูไป๋อย่างรู้สึกผิด "ฉันขอโทษ
"หนิงหนิง เธอไม่จำเป็นต้องมาข้องเกี่ยวกับเรื่องของฉันกับพวกเขาหรอก" ซูไป๋มองเหวินหนิงอย่างทุกข์ใจเมื่อเห็นเหวินหนิงออกมาปกป้องเธอเห็นได้ชัดว่าเธอกังวลที่เห็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของเหวินหนิงในตระกูลเจียง โดยเฉพาะในขณะนี้ที่การหย่าร้างยังไม่เกิดขึ้น เพราะการเป็นลูกสะใภ้ของบ้านคนรวยไม่ใช่เรื่องง่ายหวินหนิงปัด "พวกเขาก็ไม่ได้ดูแลอะไรฉันดีขนาดนั้นอยู่แล้ว ตอนนี้ฉันกำลังจะหย่าก็ไม่จำเป็นจะต้องไปสุภาพอะไรกับพวกเขา"เป็นเพราะเจียงชูหาน ไม่ว่าจะมีคนในครอบครัวเจียงกี่คนทำเรื่องแย่กับเธอ เธอก็จะพยายามอย่างหนักให้พวกเขาพอใจหวังว่าพวกเขาจะยอมรับเธอทว่าคนพวกนี้ไม่มีวันยอมรับหรอกมีเพียงแต่ทำตัวว่าเธออยู่เท่ากันแค่นั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นอยู่ เธอหยิบออกมาเห็นเป็นเจียงชูหาน เธอหันไปมองซูไป๋ "นั่นไง มาแล้ว!"ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยเพราะเธอรู้ว่าเป็นเรื่องของเจียงชูซีเธอรับสาย "ว่าไง""เธอพูดอะไรกับซีซี?""นายไม่รู้เหรอว่าฉันพูดอะไรไป? ว่าแต่ฉันเห็นเธออยู่กับคุณมู่ ไม่ยักจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นสนิทสนมกับครอบครัวของนายมาก"เหวินหนิงกระแทกเสียงตรงคำว่า "ครอบครัวของนาย"แม้เพียงผ่านสายโทรศัพท์ เ
ในช่วงบ่ายวันนั้น เจียงชูหานก็กลับมาหลังจากโทรศัพท์หลายต่อหลายครั้งในห้องอ่านหนังสือ เหวินหนิงก็ออกมาในที่สุด เธอสวมชุดอยู่บ้านและดูอ่อนโยนมากเธอสวมเดรสน่ารักและอุ้มหมูจิ๋วไว้ในอ้อมแขน หมูตัวน้อยนั้นถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีเขาตรงเข้าไปหาเธอดึงหมูออกจากอ้อมแขนแล้วโยนมันลงบนโซฟา เหวินหนิงมองดูเขาด้วยสีหน้าโกรธเคืองที่ไม่อาจระงับได้!มู่อินถูกลักพาตัว แล้วนี่เขามาวุ่นวายทำบ้าอะไรกับเธอเนี่ย? "นายทำอะไรของนายเนี่ย?""ฉันมีเรื่องจะถามเธอ""ถามอะไรก็ถามมาสิ เจียงเจียงไม่ได้ผิดอะไรด้วยจะไปขว้างมันทำไม?"เจียงชูหานไม่สามารถระงับความโกรธของตัวเองได้อีกต่อไป เขามาที่นี้ด้วยความกังวลมากแต่ผู้หญิงคนนี้กลับจะมาชวนทะเลาะเพราะเรื่องหมูที่เธอเลี้ยงเนี่ยนะ!?เธอเก่งเหลือเกินกับการทำให้เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เขานั่งลงและค่อยๆ โยนหมูน้อยไปไกลๆเหวินหนิงมองด้วยความตะลึงและจับหมูน้อยขึ้นมาอย่างเงียบๆ ก่อนจะค่อยๆ อุ้มมันไว้ในอ้อมแขนเพื่อปลอบใจ "เจียงเจียงหนูน้อย พวกเราไม่คุยกับคนบ้าเนอะ"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพราะนิสัยแบบนี้ไงเธอเลยทำให้คนที่โกรธอยู่แล้วโกรธมากขึ้นไปอีก"วันนี้เธอเจอมู่อินมา เธ
"ฉันขอหย่ากับเจียงชูหานตั้งแต่เมื่อวานนี้! ถ้าบริษัทตระกูลเจียงจะล้มละลายในอนาคนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักนิด"เมื่อเผชิญกับการดุด่าผ่านโทรศัพท์ เหวินหนิงตอบโต้กลับขณะที่เล่นกับหมูเลี้ยงของเธอเฉินหรานที่ต่อว่าต่อขานเธอในปลายสายก็ชะงักงันหลังจากได้ยินสิ่งที่เธอพูดก่อนจะขึ้นเสียงแหลม "เธอว่าอะไรนะ?""ฉันจะหย่ากับเขา"บรรยากาศนิ่งเงียบเห็นได้ชัดว่าแม่สามีอันสูงส่งที่อยู่ปลายสายไม่ได้ตอบสนองต่อท่าทีของเหวินหนิงที่เปลี่ยนไป เธอเพียงพูดสองสามคำบอกให้ไปหาที่บ้านเก่ายามเช้าตอนนี้ยังกล้าจะพูดแบบนี้อีกเหรอ?เหวินหนิงตัดสัมพันธ์กับตระกูลเจียงโดยสิ้นเชิงแล้วตอนนี้ ตอนเช้ากับเจียงชูซีและตอนนี้กับแม่สามีของเธอเฉินหรานเธอโล่งใจสุดๆเป็นเวลาสามปีแล้วที่เธออยู่อย่างไร้ตัวตนในครอบครัวนี้ แม้กระทั่งตอนที่เธอท้อง พวกเขาก็วางแผนแย่งชิงมันไปจากเธอคำพูดที่กล่าวว่าแม่นั้นจะมีค่ามากขึ้นเมื่อมีลูกไม่มีอยู่ในตระกูลนี้ความรู้สึกของพวกเขาช่างเฉยเมยอย่างน่าเจ็บใจ"อะไรที่ทำให้เธอขอหย่ากัน? เหวินหนิง เธอก็ไม่ได้ดูเหมือนต้องการจะหย่า..."ปลายสายหมดท่าทางสง่างามโดยสิ้นเชิงและเริ่มก่นด่าเธอต่อ แต่เหวิน
ขณะที่เหวินหนิงออกมาจากสถานีตำรวจรถของเจียงชูหานและซูไป๋จอดอยู่ข้างกัน ทั้งคู่ยืนอยู่นอกรถด้วยใบหน้าที่เย็นชา เมื่อเจียงชูหานเห็นเหวินหนิง เขาก็ปรี่ไปหาเธอด้วยสายตาที่ฉายความละอายใจเหวินหนิงไม่ได้หันไปมองเขา เธอเดินผ่านเขาไปยังรถของซูไป๋ทว่ามีแรงมาดึงข้อมือของเธอไว้ "ฉันจะพาเธอกลับบ้าน" เจียงชูหานกล่าว"บ้านเหรอ?"เหวินหนิงยิ้มอย่างกับว่ามันน่าขันเสียกว่าอะไรดี"ที่นั่นไม่ใช่บ้านของฉันอีกต่อไป" เธอดึงมือของเขาออกและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบหัวใจมันตายไปจากวิกฤติแล้ว!แต่พูดไปตอนนี้ก็คงไม่มีใครเข้าใจเพราะว่าเจียงชูหานยืนอยู่บนสถานะที่เหนือกว่ามาตลอด ช่วงเวลานี้ในชีวิตที่แล้วเธอจึงสับสนตื่นตระหนก เมื่อถูกพามาที่สถานีตำรวจ เธอก็ไม่ได้ออกมาเลยจนกระทั่งสามวันต่อมาและนั่นเป็นเพราะซูไป๋มาประกันตัวเธอออกไป"เหวินหนิง!" ชายคนนั้นร้องเสียงหลงเหวินหนิงหันหน้าไปหาเขาเธอจ้องมองไปยังเบ้าตาลึกของเขา จมูกโด่งและรูปหน้าที่สมบูรณ์แบบ ทุกส่วนบนร่างกายของเขาช่างน่าหลงใหลผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจเลยแม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้ว ผู้หญิงอื่นก็ยังอยากได้เขาโดยไม่สนใจถึงศีลธรรมขนาดเ
เหวินหนิงกลับไปยังคฤหาสน์หงเย่ เมื่อเธอเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ ป้าจางเปิดประตูมา แววตาฉายแววความไม่สบายใจ "คุณหญิงมาที่นี่ค่ะ"เหวินหนิงเลิกคิ้ว!เมื่อนึกถึงท่าทีที่เธอทำกับเฉินหรานเมื่อเช้าวานนี้ เธอก็กลัวว่าเฉินหรานอาจเข้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อฆ่าเธอเธอม้วนจัดผมที่ยุ่งเหยิงก่อนจะเข้าไปเห็นเฉินหรานนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ท่าทางราวกับราชินีในชีวิตที่แล้ว ทุกครั้งที่เหวินหนิงเห็นเฉินหรานเป็นแบบนี้ เธอจะรีบเอาน้ำและชาไปเสิร์ฟให้ราวกับสาวใช้ก็ไม่ปานตอนนั้นเธอตั้งใจที่จะทำให้ครอบครัวของเจียงชูหานพอใจทว่ายิ่งเธอดูสุภาพนอบน้อมเท่าไหร่ คนพวกนี้กลับเหยียดหยามเธอมากขึ้นเท่านั้นเธอเปลี่ยนรองเท้าแล้วโยนกระเป๋าลงบนโซฟาอย่างเรียบง่าย"ป้าจาง""ค่ะ คุณผู้หญิง" ป้าจางรีบเดินเข้ามาหาเฉินหรานอย่างเคารพขณะนี้ผู้ที่ยังถือว่าเป็นแม่สามีมองไปยังเหวินหนิงด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามและไม่อาจซ่อนความเกลียดชังได้เลยเสียงดังจากเฉินหรานกระทบเข้าหูให้เธอได้ยินทันที "รีบฆ่าเชื้อเดี๋ยวนี้เลยนะ เดี๋ยวมันจะนำพาโชคร้ายที่ติดออกมาจากสถานีตำรวจ พวกเราตระกูลเจียงไม่รู้หรอกว่าจะมีหายนะอะไรเกิดขึ