หน้าหลัก / รักโบราณ / ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น / ตอนที่ 6 หนามแหลมในมือแม่เลี้ยง

แชร์

ตอนที่ 6 หนามแหลมในมือแม่เลี้ยง

ผู้เขียน: นิ่งเฟยหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-24 02:07:07

ในยามสายวันรุ่งขึ้น ลี่อินได้รับคำสั่งจากฮูหยินรองเจินซูเม่ย ให้นางเข้าไปช่วยจัดของในห้องเก็บตำราสำคัญของจวน

“ห้องเก็บตำรา?”

“ในอดีต ข้าจำได้ว่าเคยถูกล่อเข้าไปที่นั่น แล้วถูกกล่าวหาว่าขโมยหยกของฮูหยินรอง”

“คุณหนู อย่าไปนะเจ้าคะ” เสี่ยวจูเอ่ยอย่างร้อนรน

“ห้องนั้น ข้าได้ยินว่าวันก่อนซูหรูเพิ่งให้คนเข้าไปทำความสะอาด ข้าเกรงว่ามันจะเป็นกับดัก”

ลี่อินวางมือบนไหล่เสี่ยวจู บีบเบา ๆ

“เจ้าเคยบอกข้าว่ากลัว หากต้องอยู่ในเงามืดเพียงลำพังใช่หรือไม่?”

“ข้าเองก็กลัว แต่ข้าจะไม่หนีอีก ยิ่งพวกมันกล้าลงมือเร็ว ข้ายิ่งแน่ใจว่ามันเริ่มหวาดหวั่นแล้ว”

ยามเฉิน

ลี่อินก้าวเข้าสู่เรือนใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ภายในเรือนตกแต่งหรูหรา ทุกกระเบื้องและมุมเสาล้วนประณีตงดงาม แต่สำหรับนางแล้ว มันไม่ต่างจากคุกสีทองที่เคยกักขังนาง

นางเดินตามบ่าวรับใช้จนถึงหน้าห้องเก็บตำรา ซึ่งตั้งอยู่ด้านในสุดของห้องปีกตะวันออก

“เข้าไปได้เลยเจ้าค่ะ ฮูหยินรออยู่ข้างในแล้ว”

เมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่ปรากฏกลับไม่ใช่เจินซูเม่ย หากแต่เป็นเพียงห้องที่ว่างเปล่า เงียบสงัด และมีกล่องเก็บผ้าโบราณซ้อนกันสูงจนบดบังแสง ทันใดนั้น ประตูไม้ก็ปิดดังปัง ตามมาด้วยเสียงล็อกจากด้านนอก

“นังเด็กสวะ อยู่ในนั้นไปเถอะ!” เสียงเจินซูเม่ยดังลอดจากอีกฝั่ง

“หากเจ้าตะโกนลั่น ข้าจะกล่าวหาว่าเจ้าลอบเข้าเรือนใหญ่ แล้วขโมยหยกของข้า”

เสียงหัวเราะเหี้ยมเกรียมเจือสะใจดังตามมา

“อยู่ในนั้นไปจนกว่าจะสำนึก!”

ภายในห้องมืด ลี่อินยืนอย่างสงบ ไม่ตกใจ ไม่ร้องไห้ นางค่อย ๆ หยิบเหรียญทองแดงที่พกมาด้วยขึ้นมา เคาะเบา ๆ กับกระเบื้องมุมพื้นสามครั้ง

แกรก…แกรก…

เสียงฝีเท้าดังขึ้นนอกหน้าต่าง ไม่นานบานไม้ซ่อนที่ติดอยู่กับผนังด้านข้างก็เปิดออก ชายชุดดำสวมหน้ากากก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบ

“คุณหนู ข้าได้รับคำสั่งให้ตามติดท่าน ขออภัยที่ล่าช้าเพราะต้องรอสัญญาณ”

ลี่อินยิ้มบาง ๆ “ไม่เป็นไร แค่เจ้ายังตามแผนทันก็พอ”

นางเดินตรงไปที่ตู้เก็บเอกสารกลางห้อง หยิบกระบอกไผ่เล็ก ๆ ขึ้นมาหนึ่งชิ้น

“ในนี้ คือสำเนาเอกสารเบิกงบหลวงที่เซียวเฟิงเฉินเซ็นเองกับมือ และซุกซ่อนไว้ตรงนี้ตลอดสิบปี”

“หากข้าไม่มีโอกาสมาในวันนี้ คงไม่มีวันได้มันมา”

ชายชุดดำรับไว้ทันที “ข้าจะนำส่งให้ท่านอ๋องขอรับ”

เมื่อนางคลานออกทางบานซ่อนลับหลังจากส่งของแล้ว ลี่อินกลับไปโผล่ที่เรือนของตนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในขณะเดียวกัน บ่าวเรือนใหญ่ก็เริ่มแตกตื่น เมื่อพบว่าห้องเก็บตำราที่ควรถูกล็อกไว้นั้นว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของลี่อิน…

เจินซูเม่ยโกรธจนหน้าเขียว

“มัน…มันหนีไปได้อย่างไร! ข้าให้คนเฝ้าห้องนั้นทุกมุมแล้วนี่!”

ซูหรูรีบร้อนตอบ “บะ...บ่าว บ่าวไม่ทราบเลยเจ้าค่ะ”

เจินซูเม่ยกำพัดแน่นจนหัก ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ

“นังสารเลว มันไม่ใช่คนโง่งมเหมือนเดิมแล้วจริง ๆ!”

คืนนั้น ลี่อินนั่งอยู่ใต้แสงจันทร์ในสวนหลังเรือน ดวงหน้าสงบ ดวงตาทอประกายเยือกเย็น

“เจินซูเม่ย เจ้าอยากขังข้าไว้ในที่มืด แต่เจ้าคงลืมไปว่า ข้าคือเงาที่มืดกว่าความมืดของเจ้าเสียอีก!”

ฤดูใบไม้ผลิในเมืองหลวงแคว้นต้าหลิงเริ่มเข้าสู่ช่วงกลาง ราตรีอบอุ่นลง แต่ในจวนสกุลเซียว กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย็นยะเยือก

ข่าวลือในจวนค่อย ๆ แผ่ขยายทีละเส้น จากห้องครัวไปถึงเรือนคนใช้ จากโรงม้าไปถึงตลาดกลางเมือง

คุณหนูลี่อิน

กลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง

และกำลังเป็นที่จับตาของคนในวังหลวง

แม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบเล่าลือ หากแต่สำหรับผู้ที่ยืนอยู่บนยอดอำนาจอย่างเจินซูเม่ยแล้ว เสียงนั้นดังยิ่งกว่ากลองศึก

เช้าวันนั้น เจินซูเม่ยนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาหลังเรือนใหญ่ พลางทอดสายตาไปยังสวนเมฆหยกที่ล้อมรอบด้วยต้นเหมยขาวซึ่งกำลังผลิดอก สายลมพัดให้กลีบเหมยปลิวลงสู่พัดในมือนางพอดิบพอดี ทว่านางกลับเหวี่ยงพัดทิ้งอย่างไร้เยื่อใย

“พาตัวเซียวลี่อินมาหาข้า”

ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม บ่าวไพร่ก็นำเซียวลี่อินเข้ามาพบ หญิงสาวในชุดผ้าฝ้ายสีเทาหม่น ย่อกายอย่างสงบนิ่ง เจินซูเม่ยมองนางจากศีรษะจรดปลายเท้า ไม่พูดอะไรอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็แย้มยิ้มอ่อนหวานอย่างเสแสร้ง

“ลี่อิน เจ้าโตเป็นสาวแล้วจริง ๆ ที่แม่เล็กลงโทษเจ้าวันนั้น เจ้าคงจะสำนึกแล้วใช่หรือไม่”

“ฮูหยินรองกล่าวเกินไปแล้ว” นางตอบเรียบ ๆ ไม่โอนอ่อน แต่ก็ไม่แข็งกร้าว

“หลายวันมานี้ ข้าได้ยินชื่อเจ้าบ่อยนัก ไม่ว่าจะจากห้องรับแขก ห้องอาหาร หรือแม้แต่จากปากของเทียนหยู เจ้าทำให้เด็กน้อยอย่างเทียนหยูประทับใจได้ ถือว่าเจ้ามีความสามารถ”

ลี่อินยิ้มบาง เอ่ยเสียงอ่อนโยน

“เทียนหยูเป็นคนเฉลียวฉลาด บุตรสาวที่ไม่เป็นที่สนใจเช่นข้า ได้พูดคุยกับคุณชายน้อยเซียวก็นับว่าเป็นเกียรติ”

เจินซูเม่ยหัวเราะเบา ๆ “เป็นเกียรติหรือ? ข้าว่ามันมากกว่านั้น”

นางลุกขึ้นจากตั่ง เดินเข้ามาใกล้แล้วก้มลงกระซิบข้างหูลี่อิน

“ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้ากำลังจะทำสิ่งใด แต่จงจำไว้ให้ดี พ่อเจ้ามอบอำนาจดูแลคนในจวนให้ข้า ในจวนนี้รองจากพ่อเจ้าข้าใหญ่สุด สิบหกปีมานี้ข้าไม่เคยแพ้ใคร ไม่เคยแพ้แม่ที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ ของเจ้า และยิ่งจะไม่แพ้เจ้า!!”

ลี่อินยังคงก้มศีรษะอยู่ แต่ดวงตากลับแฝงแววราวคมมีด น้ำเสียงอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ

“ข้าก็จดจำทุกก้าวย่างของฮูหยินรองมาตลอดสิบหกปีเช่นกัน…”

ลี่อินพูดเพียงเท่านั้นและเดินออกไปทันที ทำเอาเจินซูเม่ยโกรธจนเหวี่ยงถ้วยชาลงพื้นจนแตกกระจาย

“เซียวลี่อิน! เจ้ากล้าท้าทายข้า!!”

“ฮูหยินรองโปรดใจเย็นเจ้าค่ะ” ซูหรูรีบคุกเข่าก้มหน้าไม่กล้าสบตา

เจินซูเม่ยกัดฟันแน่น พยายามระงับอารมณ์

“ซูหรู! เตรียมของขวัญ องค์หญิงใหญ่รับสั่งให้ข้าไปเข้าเฝ้าในวังหลวงอีกสามวันข้างหน้า และหากข้าคาดไม่ผิด คงไม่ใช่เพียงข้าหรอก ที่องค์หญิงทรงอยากพบ...”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 10 ดอกเหมยที่รอวันผลิบาน

    เสียงกระจกหน้าต่างฝั่งตรงข้ามแตกดังแกรก นักฆ่าคนที่สองพุ่งตัวเข้ามาพร้อมควันไฟที่ถูกจุดล่อเบี่ยงความสนใจ แต่นางยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม นั่นเพราะเงาร่างสีขาวเคลื่อนผ่านแสงตะเกียงด้วยความเร็วราววิหคเหิน เขายกตะเกียงในมือโบกขึ้น เป่าดับไฟ แล้วแทงคมมีดกลับไปยังต้นเสียงโดยไม่ต้องมอง เสียงร่างกระแทกพื้นดังตึง ร่างที่สามลอบเข้ามาจากประตูหลัง หยุดกึกกลางทางเงาของไป๋อวิ๋นยืนนิ่งอยู่ตรงกลางห้อง และเสียงของลี่อินก็เอ่ยขึ้นเบื้องหลังเขา“ถ้าเจ้าไม่ถอยออกไป จะไม่มีโอกาสได้ตายดี”นักฆ่าคนสุดท้ายลังเลชั่วครู่ ก่อนจะโยนอะไรบางอย่างลงพื้น มันคือกระบอกไม้ไผ่ที่มีตราสัญลักษณ์ลบลายบนปลอก“จงส่งสาส์นนี้คืนไปยังผู้ส่งมันมา…” ลี่อินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “…และบอกมันว่า นับแต่นี้ ข้าจะไม่ยอมทนอยู่เงียบ ๆ อีก!”รุ่งเช้าในวันถัดมา เสี่ยวจูเปิดประตูเรือนก็พบว่าหน้าประตูถูกกวาดเรียบจนไม่มีแม้ร่องรอยของการต่อสู้ ไป๋อวิ๋นจากไปแล้วเช่นทุกครั้ง ไม่เอ่ยคำร่ำลา ไม่ปล่อยแรอยเท้าไว้เบื้องหลัง แต่สิ่งหนึ่งที่เหลืออยู่คือลายมือสั้น ๆ บนกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งที่วางใต้หม้อน้ำชา“ครั้งหนึ่งข้าเคยพลาด ครั้งนี้ข้าจะไม่ยอมพลาด

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 9 บุรุษชุดขาวในสายลมราตรี

    ค่ำคืนเงียบงันยิ่งกว่าที่เคย ลมเย็นพัดเบา ๆ ผ่านแนวต้นหลิวที่ปลิดใบอย่างเชื่องช้า ในจวนสกุลเซียว แม้ภายนอกจะดูเงียบสงบ หากแต่ในความมืดของราตรีนั้น จิตใจของใครหลายคนต่างเต็มไปด้วยแรงเคลื่อนไหวที่ยากจะหยุดยั้งเรือนหลังที่เงียบเชียบของเซียวลี่อินกลับไม่มืดสนิทเหมือนเช่นทุกคืน ตะเกียงน้ำมันถูกจุดไว้ตรงกลางห้อง ราวกับนางตั้งใจ ‘เปิดทาง’ ให้ใครบางคนที่กำลังจะมาเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นหน้าประตูหลัง ลี่อินไม่แสดงท่าทีแปลกใจ นางลุกขึ้นอย่างสงบ แล้วเปิดประตูออกด้วยมือนิ่งมั่นบุรุษในชุดผ้าฝ้ายสีขาวยืนอยู่ตรงหน้า รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมครึ่งหน้านั้นมีเพียงดวงตาคมลึกที่จ้องมองนางนิ่ง ๆ“เจ้าคือผู้ที่จิ้งอ๋องส่งมาหรือ?” ลี่อินเอ่ยเสียงเบาบุรุษชุดขาวพยักหน้า “ข้า ไป๋อวิ๋น เคยเป็นองครักษ์ลับประจำกรมคลัง เมื่อหกปีก่อนข้าเห็นสิ่งหนึ่ง แต่ไม่อาจกล่าวออกมาได้”เสียงของเขานุ่มทุ้ม แต่ทว่าเย็นยะเยือกคล้ายลมภูผา“และข้าจะไม่พูดกับใคร หากไม่มีเหตุผลพอ”ลี่อินไม่ตอบในทันที นางเชื้อเชิญเขาเข้าไปนั่งในเรือนอย่างสงบ ตะเกียงสว่างเพียงพอให้เห็นเงาบนฝาผนังสั่นไหว แต่ไม่มากพอให้เห็นสีหน้าของทั้งสองช

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 8 เสียงกระซิบใต้ม่านหยก

    วังหลวงแห่งแคว้นต้าหลิงยามย่ำค่ำยิ่งดูเงียบสงบงดงาม โคมแก้วหินลอยเหนือคูน้ำทอดยาวรอบตำหนัก เงาสะท้อนของดวงจันทร์สาดลงบนพื้นศิลาหยกขาวนวล แต่ภายใต้เงาสว่างนั้น มีบางอย่างเคลื่อนไหวในความมืดอย่างเงียบงันภายในตำหนักซ่างอิงขององค์หญิงจ้าวฮุ่ย บ่าวรับใช้ก้มหน้าอย่างเคารพเมื่อหญิงสาวในชุดเรียบหรูเดินตามขันทีเข้ามาเซียวลี่อิน ถูกเชิญให้มาเข้าเฝ้าองค์หญิงอย่างเป็นทางการครั้งแรกนางน้อมคำนับอย่างงดงาม “หม่อมฉัน เซียวลี่อิน ถวายบังคมองค์หญิงเพคะ”บนบัลลังก์หยกขาวกลางตำหนัก องค์หญิงจ้าวฮุ่ยทอดพระเนตรหญิงสาวเบื้องหน้าด้วยสายตาที่คมดุจหอก“เจ้าคือบุตรสาวคนโตของเซียวเฟิงเฉินหรือ?” น้ำเสียงนั้นเรียบนิ่ง ทว่าหนักแน่น“เพคะ” ลี่อินตอบโดยไม่ลังเล “หม่อมฉันเป็นบุตรภรรยาเอก แต่ถูกถอนชื่อจากทะเบียนเรือนตอนอายุสิบสาม”ดวงตาขององค์หญิงหรี่ลง “เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น?”ลี่อินเงยหน้าขึ้น สบตากับองค์หญิงอย่างสงบนิ่ง“เพราะหม่อมฉันเป็นลูกของภรรยาที่ไม่ชื่นชอบ และไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อในสายตาผู้เป็นบิดา”คำตอบนั้นทำให้องค์หญิงนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนแย้มพระโอษฐ์“เจ้าพูดอย่างสงบนิ่งทั้งที่ความจริงนั้นราวกับน้ำก

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 7 องค์หญิงจ้าวฮุ่ย

    สามวันถัดมา ภายในตำหนักซ่างอิงของวังหลวง ที่ประทับขององค์หญิงจ้าวฮุ่ย พระธิดาองค์โตของฮ่องเต้ ผู้มีอำนาจทั้งในวังหน้าและวังใน เป็นสตรีมากบารมีแห่งแคว้นต้าหลิงภายนอกตำหนักนั้นเงียบสงบด้วยมารยาทแห่งราชสำนัก แต่ภายใน สายตาขององค์หญิงกลับเต็มไปด้วยความคมกล้า เจินซูเม่ยนั่งชูคอขณะที่เข้าเฝ้าองค์หญิงร่วมกับฮูหยินขุนนางอีกหลายคน“เซียวเฟิงเฉิน เป็นผู้ดูแลกรมการคลังมานานปี ข้าได้ยินมาว่า เขามีบุตรสาวคนโตชื่อเซียวลี่อิน แต่กลับไม่ปรากฏนามในบรรดารายชื่อหญิงงามในงานราชพิธีใด ๆ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?”ขันทีข้างกายรายงานด้วยเสียงเบา “ทูลองค์หญิง กระหม่อมได้ยินมาว่านางเป็นบุตรีที่ไม่ได้รับความสนใจจากเสนาบดีเซียว เนื่องจากเป็นคนแข็งกร้าวไม่เชื่อฟังพะยะค่ะ”“งั้นหรือ บางครั้งข่าวลือที่ได้ยินมาก็มิอาจเชื่อถือได้ เจ้าว่าเช่นไรเล่า เจินซูเม่ย”“ทูลองค์หญิง สกุลเซียวให้ความใส่ใจกับบุตรทุกคน ข่าวลือนั้นไม่จริงเลยเพคะ”“เช่นนั้นหรือ ซูกงกง เจ้ายังได้ยินเรื่องใดมาอีก ว่าต่อสิ”“ทูลองค์หญิง กระหม่อมยังได้ยินมาอีกว่า เมื่อไม่นานมานี้คุณหนูเซียวผู้นี้ถูกฮูหยินรองเซียวกักขังในห้องตำรา แต่แล้วก็หายตัวออกมาได้เอ

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 6 หนามแหลมในมือแม่เลี้ยง

    ในยามสายวันรุ่งขึ้น ลี่อินได้รับคำสั่งจากฮูหยินรองเจินซูเม่ย ให้นางเข้าไปช่วยจัดของในห้องเก็บตำราสำคัญของจวน“ห้องเก็บตำรา?”“ในอดีต ข้าจำได้ว่าเคยถูกล่อเข้าไปที่นั่น แล้วถูกกล่าวหาว่าขโมยหยกของฮูหยินรอง”“คุณหนู อย่าไปนะเจ้าคะ” เสี่ยวจูเอ่ยอย่างร้อนรน“ห้องนั้น ข้าได้ยินว่าวันก่อนซูหรูเพิ่งให้คนเข้าไปทำความสะอาด ข้าเกรงว่ามันจะเป็นกับดัก”ลี่อินวางมือบนไหล่เสี่ยวจู บีบเบา ๆ“เจ้าเคยบอกข้าว่ากลัว หากต้องอยู่ในเงามืดเพียงลำพังใช่หรือไม่?”“ข้าเองก็กลัว แต่ข้าจะไม่หนีอีก ยิ่งพวกมันกล้าลงมือเร็ว ข้ายิ่งแน่ใจว่ามันเริ่มหวาดหวั่นแล้ว”ยามเฉินลี่อินก้าวเข้าสู่เรือนใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ภายในเรือนตกแต่งหรูหรา ทุกกระเบื้องและมุมเสาล้วนประณีตงดงาม แต่สำหรับนางแล้ว มันไม่ต่างจากคุกสีทองที่เคยกักขังนางนางเดินตามบ่าวรับใช้จนถึงหน้าห้องเก็บตำรา ซึ่งตั้งอยู่ด้านในสุดของห้องปีกตะวันออก“เข้าไปได้เลยเจ้าค่ะ ฮูหยินรออยู่ข้างในแล้ว”เมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่ปรากฏกลับไม่ใช่เจินซูเม่ย หากแต่เป็นเพียงห้องที่ว่างเปล่า เงียบสงัด และมีกล่องเก็บผ้าโบราณซ้อนกันสูงจนบดบังแสง ทันใดนั้น ประตูไม้ก็ปิดดั

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 5 เสียงหัวเราะในเงามืด

    เสียงหัวเราะของเด็กชายดังขึ้นภายในสวนหลังเรือนใหญ่ เป็นเสียงที่สดใสเกินไปสำหรับสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเย็นเยียบแห่งความชิงชังและการหลอกลวงเซียวเทียนหยู บุตรชายของเจินซูเม่ย เด็กชายในวัยสิบสามปีผู้เป็นที่รักของบิดายิ่งนักแม้ในชาติก่อนเขายังเยาว์วัยนัก แต่กลับเป็นผู้ที่กล่าวหานางว่าลอบขโมยของหลวง และเป็นผู้ที่ผลักดันให้บิดาสั่งลงโทษนางและแม่ในช่วงท้ายของชีวิตอย่างไร้เมตตา“ในชาติก่อน แม้จะยังเด็ก แต่ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส เป็นอสรพิษในคราบเด็กน้อย”“ในชาตินี้ ข้าจะขุดรากเจ้า ก่อนที่เขี้ยวจะงอก!”บ่ายวันนั้น ลี่อินปรากฏตัวในสวน นางแต่งกายเรียบง่าย เอาผ้าบางคลุมศีรษะ ถือกระเช้าผลไม้เดินตรงเข้าไป“เทียนหยู ข้านำผลไม้มาให้เจ้า”เด็กชายชะงักเล็กน้อย แต่ก็ยืดอกพูดด้วยท่าทีจองหอง“พี่หญิงใหญ่!”“ใช่ ข้าเอง”“วันนั้น ท่านคือคนที่ทำถาดหล่นใส่ท่านอ๋องใช่หรือไม่”เสียงหัวเราะเหี้ยม ๆ จากปากเด็กชายทำเอาคนรับใช้รอบตัวสะอึก แต่ลี่อินกลับยิ้มบาง ย่อตัวลงนอบน้อม“ข้าสะเพร่าไปหน่อย เพียงแค่อยากไปช่วยงาน”เซียวเทียนหยูเลิกคิ้วอย่างงุนงง ก่อนจะโบกมือ “วางไว้ตรงนั้น แล้วไปเถอะ”ทว่าก่อนนางจะผละไป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status