/ รักโบราณ / ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น / ตอนที่ 6 หนามแหลมในมือแม่เลี้ยง

공유

ตอนที่ 6 หนามแหลมในมือแม่เลี้ยง

last update 최신 업데이트: 2025-07-24 02:07:07

ในยามสายวันรุ่งขึ้น ลี่อินได้รับคำสั่งจากฮูหยินรองเจินซูเม่ย ให้นางเข้าไปช่วยจัดของในห้องเก็บตำราสำคัญของจวน

“ห้องเก็บตำรา?”

“ในอดีต ข้าจำได้ว่าเคยถูกล่อเข้าไปที่นั่น แล้วถูกกล่าวหาว่าขโมยหยกของฮูหยินรอง”

“คุณหนู อย่าไปนะเจ้าคะ” เสี่ยวจูเอ่ยอย่างร้อนรน

“ห้องนั้น ข้าได้ยินว่าวันก่อนซูหรูเพิ่งให้คนเข้าไปทำความสะอาด ข้าเกรงว่ามันจะเป็นกับดัก”

ลี่อินวางมือบนไหล่เสี่ยวจู บีบเบา ๆ

“เจ้าเคยบอกข้าว่ากลัว หากต้องอยู่ในเงามืดเพียงลำพังใช่หรือไม่?”

“ข้าเองก็กลัว แต่ข้าจะไม่หนีอีก ยิ่งพวกมันกล้าลงมือเร็ว ข้ายิ่งแน่ใจว่ามันเริ่มหวาดหวั่นแล้ว”

ยามเฉิน

ลี่อินก้าวเข้าสู่เรือนใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ภายในเรือนตกแต่งหรูหรา ทุกกระเบื้องและมุมเสาล้วนประณีตงดงาม แต่สำหรับนางแล้ว มันไม่ต่างจากคุกสีทองที่เคยกักขังนาง

นางเดินตามบ่าวรับใช้จนถึงหน้าห้องเก็บตำรา ซึ่งตั้งอยู่ด้านในสุดของห้องปีกตะวันออก

“เข้าไปได้เลยเจ้าค่ะ ฮูหยินรออยู่ข้างในแล้ว”

เมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่ปรากฏกลับไม่ใช่เจินซูเม่ย หากแต่เป็นเพียงห้องที่ว่างเปล่า เงียบสงัด และมีกล่องเก็บผ้าโบราณซ้อนกันสูงจนบดบังแสง ทันใดนั้น ประตูไม้ก็ปิดดังปัง ตามมาด้วยเสียงล็อกจากด้านนอก

“นังเด็กสวะ อยู่ในนั้นไปเถอะ!” เสียงเจินซูเม่ยดังลอดจากอีกฝั่ง

“หากเจ้าตะโกนลั่น ข้าจะกล่าวหาว่าเจ้าลอบเข้าเรือนใหญ่ แล้วขโมยหยกของข้า”

เสียงหัวเราะเหี้ยมเกรียมเจือสะใจดังตามมา

“อยู่ในนั้นไปจนกว่าจะสำนึก!”

ภายในห้องมืด ลี่อินยืนอย่างสงบ ไม่ตกใจ ไม่ร้องไห้ นางค่อย ๆ หยิบเหรียญทองแดงที่พกมาด้วยขึ้นมา เคาะเบา ๆ กับกระเบื้องมุมพื้นสามครั้ง

แกรก…แกรก…

เสียงฝีเท้าดังขึ้นนอกหน้าต่าง ไม่นานบานไม้ซ่อนที่ติดอยู่กับผนังด้านข้างก็เปิดออก ชายชุดดำสวมหน้ากากก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบ

“คุณหนู ข้าได้รับคำสั่งให้ตามติดท่าน ขออภัยที่ล่าช้าเพราะต้องรอสัญญาณ”

ลี่อินยิ้มบาง ๆ “ไม่เป็นไร แค่เจ้ายังตามแผนทันก็พอ”

นางเดินตรงไปที่ตู้เก็บเอกสารกลางห้อง หยิบกระบอกไผ่เล็ก ๆ ขึ้นมาหนึ่งชิ้น

“ในนี้ คือสำเนาเอกสารเบิกงบหลวงที่เซียวเฟิงเฉินเซ็นเองกับมือ และซุกซ่อนไว้ตรงนี้ตลอดสิบปี”

“หากข้าไม่มีโอกาสมาในวันนี้ คงไม่มีวันได้มันมา”

ชายชุดดำรับไว้ทันที “ข้าจะนำส่งให้ท่านอ๋องขอรับ”

เมื่อนางคลานออกทางบานซ่อนลับหลังจากส่งของแล้ว ลี่อินกลับไปโผล่ที่เรือนของตนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในขณะเดียวกัน บ่าวเรือนใหญ่ก็เริ่มแตกตื่น เมื่อพบว่าห้องเก็บตำราที่ควรถูกล็อกไว้นั้นว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของลี่อิน…

เจินซูเม่ยโกรธจนหน้าเขียว

“มัน…มันหนีไปได้อย่างไร! ข้าให้คนเฝ้าห้องนั้นทุกมุมแล้วนี่!”

ซูหรูรีบร้อนตอบ “บะ...บ่าว บ่าวไม่ทราบเลยเจ้าค่ะ”

เจินซูเม่ยกำพัดแน่นจนหัก ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ

“นังสารเลว มันไม่ใช่คนโง่งมเหมือนเดิมแล้วจริง ๆ!”

คืนนั้น ลี่อินนั่งอยู่ใต้แสงจันทร์ในสวนหลังเรือน ดวงหน้าสงบ ดวงตาทอประกายเยือกเย็น

“เจินซูเม่ย เจ้าอยากขังข้าไว้ในที่มืด แต่เจ้าคงลืมไปว่า ข้าคือเงาที่มืดกว่าความมืดของเจ้าเสียอีก!”

ฤดูใบไม้ผลิในเมืองหลวงแคว้นต้าหลิงเริ่มเข้าสู่ช่วงกลาง ราตรีอบอุ่นลง แต่ในจวนสกุลเซียว กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย็นยะเยือก

ข่าวลือในจวนค่อย ๆ แผ่ขยายทีละเส้น จากห้องครัวไปถึงเรือนคนใช้ จากโรงม้าไปถึงตลาดกลางเมือง

คุณหนูลี่อิน

กลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง

และกำลังเป็นที่จับตาของคนในวังหลวง

แม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบเล่าลือ หากแต่สำหรับผู้ที่ยืนอยู่บนยอดอำนาจอย่างเจินซูเม่ยแล้ว เสียงนั้นดังยิ่งกว่ากลองศึก

เช้าวันนั้น เจินซูเม่ยนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาหลังเรือนใหญ่ พลางทอดสายตาไปยังสวนเมฆหยกที่ล้อมรอบด้วยต้นเหมยขาวซึ่งกำลังผลิดอก สายลมพัดให้กลีบเหมยปลิวลงสู่พัดในมือนางพอดิบพอดี ทว่านางกลับเหวี่ยงพัดทิ้งอย่างไร้เยื่อใย

“พาตัวเซียวลี่อินมาหาข้า”

ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม บ่าวไพร่ก็นำเซียวลี่อินเข้ามาพบ หญิงสาวในชุดผ้าฝ้ายสีเทาหม่น ย่อกายอย่างสงบนิ่ง เจินซูเม่ยมองนางจากศีรษะจรดปลายเท้า ไม่พูดอะไรอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็แย้มยิ้มอ่อนหวานอย่างเสแสร้ง

“ลี่อิน เจ้าโตเป็นสาวแล้วจริง ๆ ที่แม่เล็กลงโทษเจ้าวันนั้น เจ้าคงจะสำนึกแล้วใช่หรือไม่”

“ฮูหยินรองกล่าวเกินไปแล้ว” นางตอบเรียบ ๆ ไม่โอนอ่อน แต่ก็ไม่แข็งกร้าว

“หลายวันมานี้ ข้าได้ยินชื่อเจ้าบ่อยนัก ไม่ว่าจะจากห้องรับแขก ห้องอาหาร หรือแม้แต่จากปากของเทียนหยู เจ้าทำให้เด็กน้อยอย่างเทียนหยูประทับใจได้ ถือว่าเจ้ามีความสามารถ”

ลี่อินยิ้มบาง เอ่ยเสียงอ่อนโยน

“เทียนหยูเป็นคนเฉลียวฉลาด บุตรสาวที่ไม่เป็นที่สนใจเช่นข้า ได้พูดคุยกับคุณชายน้อยเซียวก็นับว่าเป็นเกียรติ”

เจินซูเม่ยหัวเราะเบา ๆ “เป็นเกียรติหรือ? ข้าว่ามันมากกว่านั้น”

นางลุกขึ้นจากตั่ง เดินเข้ามาใกล้แล้วก้มลงกระซิบข้างหูลี่อิน

“ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้ากำลังจะทำสิ่งใด แต่จงจำไว้ให้ดี พ่อเจ้ามอบอำนาจดูแลคนในจวนให้ข้า ในจวนนี้รองจากพ่อเจ้าข้าใหญ่สุด สิบหกปีมานี้ข้าไม่เคยแพ้ใคร ไม่เคยแพ้แม่ที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ ของเจ้า และยิ่งจะไม่แพ้เจ้า!!”

ลี่อินยังคงก้มศีรษะอยู่ แต่ดวงตากลับแฝงแววราวคมมีด น้ำเสียงอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ

“ข้าก็จดจำทุกก้าวย่างของฮูหยินรองมาตลอดสิบหกปีเช่นกัน…”

ลี่อินพูดเพียงเท่านั้นและเดินออกไปทันที ทำเอาเจินซูเม่ยโกรธจนเหวี่ยงถ้วยชาลงพื้นจนแตกกระจาย

“เซียวลี่อิน! เจ้ากล้าท้าทายข้า!!”

“ฮูหยินรองโปรดใจเย็นเจ้าค่ะ” ซูหรูรีบคุกเข่าก้มหน้าไม่กล้าสบตา

เจินซูเม่ยกัดฟันแน่น พยายามระงับอารมณ์

“ซูหรู! เตรียมของขวัญ องค์หญิงใหญ่รับสั่งให้ข้าไปเข้าเฝ้าในวังหลวงอีกสามวันข้างหน้า และหากข้าคาดไม่ผิด คงไม่ใช่เพียงข้าหรอก ที่องค์หญิงทรงอยากพบ...”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 39 เล่ห์กลในเงาจันทร์

    หลังจากงานเลี้ยงผ่านไปไม่กี่วัน ข่าวลือเรื่องเซียวลี่อินเดินเคียงจิ้งอ๋องเข้าร่วมงานเลี้ยงในหอเลี้ยงยังคงแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงเหล่าสตรีน้อยใหญ่ต่างเอ่ยถึงเรื่องของนางด้วยทั้งความอิจฉาและเกรงขามขุนนางหลายคนเริ่มจับตามองนางในฐานะ ผู้ที่อ๋องเจ็ดยกย่องแต่ภายในจวนสกุลเซียว กลับเงียบงันราวกับพายุที่กำลังสะสมแรงเจินซูเม่ยนั่งอยู่หน้าโต๊ะบูชา ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ“นางกล้าหักหน้าข้าต่อหน้าผู้คน ข้าจะไม่มีวันปล่อยไปแน่!”เซียวถิงฮวารีบเข้ามา“ท่านแม่ เราจะทำอย่างไรต่อดี”เจินซูเม่ยยกผงยาสีขาวขึ้นจากกล่องไม้เล็ก ๆ“เพียงแค่โรยสิ่งนี้ในน้ำชา ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม นางก็จะอับอายต่อหน้าผู้คน”ในอีกฟากหนึ่ง เซียวลี่อินนั่งอยู่ใต้แสงจันทร์ในเรือนเล็ก สายลมพัดเส้นผมปลิวไหว แววตาของนางสงบนิ่ง แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มเย็น“เจินซูเม่ย เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้ทันเล่ห์กลกระจอก ๆ ของเจ้าเช่นนั้นหรือ”จังหวะนั้นเอง เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นก็ดังขึ้น หวังจิ้งเหยียนก้าวเข้ามาพร้อมกับองครักษ์สองคน“ข้าได้ข่าวว่ามีคนเคลื่อนไหวใกล้เรือนเจ้าอีกแล้ว”เซียวลี่อินหันไปสบตากับเขา“เช่นนั้นหม่อมฉันก็จะรอดู ว่าเล่ห์กลภายใต้เ

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 38 คมดาบในงานเลี้ยง

    ค่ำคืนวันนั้น จวนเจ้ากรมพิธีการจัดงานเลี้ยงใหญ่เพื่อต้อนรับคณะทูตจากแคว้นเหนือเหล่าขุนนางและสตรีผู้สูงศักดิ์ต่างแต่งกายหรูหรา เสียงดนตรีและกลิ่นสุรารินไหลเคล้าบรรยากาศเซียวลี่อินก้าวเข้าสู่หอจัดงานเลี้ยงพร้อมกับจิ้งอ๋องที่เดินเคียงข้างเพียงแค่ปรากฏตัว ทั้งห้องโถงก็เหมือนเงียบลงไปชั่วขณะสายตานับไม่ถ้วนหันมามอง มีทั้งความตกตะลึงและเสียงซุบซิบแผ่วเบา“นั่นคุณหนูใหญ่สกุลเซียวไม่ใช่หรือ นางมาพร้อมกับท่านอ๋องเจ็ดเชียวหรือนั่น”“ท่าทีดูสง่างามนัก ต่างจากแต่ก่อนโดยสิ้นเชิงเลยนะ”“ก็นั่นน่ะสิ”เจินซูเม่ยและเซียวถิงฮวาที่นั่งอยู่เบื้องหน้า แววตาแทบลุกเป็นไฟการที่เซียวลี่อินเดินเข้าสู่หอจัดงานเลี้ยงพร้อมกับจิ้งอ๋องเช่นนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าสองแม่ลูกนั้นตรง ๆ ต่อหน้าผู้คนเซียวถิงฮวากัดฟันกระซิบ“ท่านแม่ นางจงใจ! นางจงใจเย้ยหยันข้า นางจงใจทำให้คนทั้งเมืองหลวงรู้ว่าท่านอ๋องอยู่ข้างนาง”เจินซูเม่ยกำผ้าเช็ดหน้าแน่น แต่ก็ยังฝืนยิ้มไว้จิ้งอ๋องกวาดสายตาไปทั่วห้องโถงก่อนเอ่ยเสียงทุ้มเรียบ“วันนี้ข้ามาเพื่อร่วมดื่มสักจอก มิได้มาเพื่อฟังเสียงซุบซิบนินทาของใคร”เพียงคำพูดเดียว เสียงพูดคุยทั้งห

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 37 รอยร้าวในจวนสกุลเซียว

    ข่าวสมุนไพรปนเปื้อนที่ถูกจับได้กลางทางแพร่สะพัดราวกับไฟลามทุ่ง จากตลาดเข้าสู่วังหลวง จากวังสู่หูเหล่าขุนนาง และสุดท้ายก็ย้อนกลับมาถึงจวนสกุลเซียวภายในเวลาไม่กี่วันเรือนใหญ่ภายในจวนบัดนี้เต็มไปด้วยบ่าวไพร่ที่ซุบซิบนินทา“ว่าแต่ฮูหยินรอง...เป็นนางจริงหรือไม่ที่อยู่เบื้องหลัง”“ชู่ว์! ระวังปากหน่อย หากนางได้ยินเข้า พวกเราจะซวยเอา”แต่ยิ่งห้าม เสียงเล่าลือก็ยิ่งดังไปทั่วภายในห้องโถง เจินซูเม่ยสีหน้าซีดขาว มือสั่นจนถ้วยชาร่วงแตกกับพื้น เซียวถิงฮวารีบคุกเข่าข้างกาย“ท่านแม่ อย่าหวาดหวั่นไป! เราต้องหาทางพลิกสถานการณ์ มิฉะนั้นเรื่องนี้จะกลายเป็นหลักฐานชัดเจนมัดตัวเรา”เจินซูเม่ยกัดฟันกรอด“ข้าไม่ยอมแพ้แน่ ข้าจะไม่ยอมให้นังเด็กนั่นมาทำให้ชีวิตข้าพัง!”ในอีกฟากหนึ่ง ลี่อินนั่งจิบชาในเรือนเล็กอย่างสงบ รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนใบหน้างาม ยิ่งนางดิ้น ข่าวลือก็จะยิ่งมัดรอบคอนางเองเสียงฝีเท้าหนักดังขึ้นจากนอกโถง เซียวเฟิงเฉินก้าวเข้ามา สีหน้าเคร่งเครียดผิดปกติ เขาได้รับฎีกาลับจากวังที่สอบถามเรื่องเกวียนสมุนไพรปนเปื้อน หากพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องกับจวนสกุลเซียว ชื่อเสียงและตำแหน่งเจ้ากรมคลังของเขาจะสั่นคลอนท

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 36 ไฟลุกโชนกลางเงามืด

    ข่าวการที่สมุนไพรปนเปื้อนถูกตรวจพบก่อนถูกส่งเข้าวังหลุดรอดไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ชื่อของตระกูลเซียวถูกซุบซิบนินทาตามตลาด ร้านน้ำชา โรงเตี๊ยม และแม้แต่ในหมู่ขุนนางของราชสำนักภายในเรือนใหญ่ของจวนสกุลเซียว เจินซูเม่ยขว้างถ้วยชาจนแตกกระจาย“ผู้ใด! ผู้ใดมันกล้าใส่ร้ายข้าเช่นนี้!”เซียวถิงฮวารีบเข้ามาปลอบผู้เป็นมารดา“ท่านแม่ ใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ หากเราร้อนรน ผู้คนก็จะยิ่งสงสัยนะเจ้าคะ”แต่แววตาของเซียวถิงฮวาเองก็กังวลไม่น้อย เพราะในใจนางเริ่มหวาดระแวงว่าผู้ที่ทำทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นเซียวลี่อินขณะเดียวกัน เซียวลี่อินกำลังนั่งจิบชาเงียบ ๆ ในเรือนเล็ก ใบหน้าเรียบสงบ แต่ภายในเต็มไปด้วยเพลิงเย็นของความพึงพอใจนี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น หลังจากนี้ยังจะมีอีกหลายก้าวที่เจินซูเม่ยไม่มีทางหนีรอด!จังหวะนั้นเอง จิ้งอ๋องก็ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่ส่งข่าวล่วงหน้า เขาก้าวเข้ามาในห้องอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะทอดสายตามองนาง“ครั้งนี้เจ้าทำได้เด็ดขาดยิ่งนักจนแม้แต่ข้าเองก็เกือบไม่ทันตั้งตัว”ลี่อินยกยิ้มบาง “เพราะหม่อมฉันไม่อยากให้ศัตรูมีเวลาหายใจเพคะ หากศัตรูมีเวลาได้หายใจ ก็อาจจะไหวตัวทัน”เซียวลี่อินหันไปมองจิ้ง

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 35 คลื่นใต้น้ำในจวนสกุลเซียว

    เซียวลี่อินกลับถึงเรือนเล็กในยามสนธยา แสงตะวันย้อมผนังเรือนเป็นสีส้มหม่น แต่ในหัวใจนางกลับไม่อุ่นเลยสักนิดข่าวลือแผ่ว ๆ จากพวกบ่าวไพร่ทำให้นางหยุดฟังอย่างตั้งใจ“ว่าแต่คุณหนูใหญ่นี่นางช่างดวงแข็งนัก ถึงกลับมามีชีวิตอยู่ได้”“เงียบปากเสีย! หากฮูหยินรองได้ยินเข้าเจ้าจะถูกโบย”บ่าวสาวสองคนรีบก้มหน้าก้มตาเมื่อเห็นเซียวลี่อินเดินผ่าน นางเพียงปรายตาเย็นชามองเล็กน้อยแล้วเดินต่อไปเจินซูเม่ย เจ้ากำลังคิดจะทำสิ่งใดอีกกันไม่นาน เสี่ยวจู สาวใช้คนสนิทของลี่อินก็เข้ามารายงาน“คุณหนูเจ้าคะ ข้าได้ยินมาว่าฮูหยินรองเรียกพ่อบ้านไปหารืออย่างลับ ๆ ทั้งยังสั่งให้คนออกไปนอกเมืองตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างอีกด้วยเจ้าค่ะ”ลี่อินเลิกคิ้วเล็กน้อย“ไปนอกเมือง? ไปเพื่อติดต่อผู้ใดกัน”เสี่ยวจูส่ายหน้า“ข้าไม่อาจเข้าใกล้ได้ แต่จากที่ได้ยิน คราวนี้ดูเหมือนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสมุนไพรบางชนิดเจ้าค่ะ”เซียวลี่อินนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนดวงตาจะวาวขึ้นสมุนไพร...ใช่แล้ว หากข้าจำไม่ผิด ในชาติก่อนมีคดีทุจริตส่งสมุนไพรปนเปื้อนเข้าวัง และหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องก็คือเจินซูเม่ยริมฝีปากของนางยกยิ้มเย็น“ดี เสี่ยวจู เช่นนั้นเจ้าช่วยข้า

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 34 สายลมพัดต้องใจ

    บ่ายวันนั้น เซียวลี่อินออกจากจวนสกุลเซียวเพื่อตรงไปยังตลาดใหญ่ นางตั้งใจจะไปหาซื้อสมุนไพรหายากเพื่อนำไปให้ท่านหมอเทวดาที่ช่วยรักษาผู้ป่วยยากไร้ ได้ยินมาว่าหากได้สมุนไพรนี้ไว้ จะมีค่าราวกับทองคำในยามจำเป็นผู้คนในตลาดคึกคัก เสียงตะโกนเรียกลูกค้าสลับกับกลิ่นอาหารหอมกรุ่นจากแผงลอย เซียวลี่อินก้าวเดินไปตามตรอกแคบด้วยท่าทีระวัง จนกระทั่งเสียงเกือกม้าดังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วตึก ตึก ตึก!นางเงยหน้าขึ้นทันที เห็นขบวนทหารม้าสวมเกราะดำมุ่งตรงมาทางตรอก ผู้คนรีบหลบลี้กันจ้าละหวั่น แต่เพราะช่องทางแคบนัก ลี่อินจึงถูกเบียดจนเกือบล้มก่อนที่ร่างจะกระแทกพื้น มือใหญ่แข็งแรงกลับคว้าข้อมือนางไว้มั่น แรงดึงพานางให้ซบเข้าสู่อ้อมอกที่อบอุ่นและมั่นคง“เหตุใดถึงเดินอยู่ตรงนี้คนเดียว”เสียงทุ้มเย็นนั้นดังขึ้นชิดข้างหูเซียวลี่อินเงยหน้าขึ้น เห็นใบหน้าคมคายที่นางจำได้ดี เป็นเขา จิ้งอ๋อง หวังจิ้งเหยียนแววตาคมกริบของเขามองนางอย่างจับจ้อง จนหัวใจของนางเต้นสะดุดไปชั่วขณะ“หม่อมฉันมีธุระ”นางตอบสั้น ๆ พลางพยายามถอยห่าง แต่ฝ่ามือเขายังจับมั่นไม่ปล่อยหวังจิ้งเหยียนเหลือบตามองขบวนทหารที่เคลื่อนผ่านอย่างเร่งรีบ ก่อน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status