Home / รักโบราณ / ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี / ตอนที่ 3 นางอยากแต่งกับข้าหรือ

Share

ตอนที่ 3 นางอยากแต่งกับข้าหรือ

last update Huling Na-update: 2025-11-05 14:33:49

รุ่งเช้าวันใหม่ กัวหยุนจัดเตรียมข้าวของเพื่อนำไปขายให้พ่อค้าที่รออยู่ริมฝั่งทะเล หอยที่เก็บไว้ตั้งแต่เมื่อวานยังมีไม่มากนัก นางเดินตรงไปยังชายฝั่ง เพื่อจะนำหอยในตะกร้าเล็ก ๆ ไปขายที่ตลาด ซึ่งหนึ่งตะกร้านั้นแลกเงินได้เพียงราวสามร้อยเหวิน แม้จะเป็นเงินไม่มาก แต่ก็พอถูไถไปได้ในแต่ละวัน

หลังจากขายของจนหมด นางมุ่งหน้าไปยังท่าเรือของหมู่บ้าน สถานที่ที่ชาวเรือมักใช้เป็นที่พัก หากคิดจะหาตัวตงจวิน นั่นย่อมเป็นที่แรกที่ควรมองหา

เพียงเหลือบสายตามองเข้าไป นางก็เห็นเขาทันที ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มทำให้สะดุดตาอย่างง่ายดาย

“ตงจวิน!” กัวหยุนเปล่งเสียงเรียกด้วยน้ำเสียงชัดเจน

เขาหันกลับมาอย่างรวดเร็ว พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้เรียกเป็นกัวหยุน ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาด้วยท่าทางสงสัย

“ท่านเรียกข้าหรือ?”

“ข้ามีเรื่องอยากคุย… ได้หรือไม่?” น้ำเสียงของนางแฝงแววกังวล แม้ลูกสาวจะยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ทว่านางก็ยังไม่แน่ใจว่าฝ่ายชายจะคิดเช่นไร

ตงจวินกวาดตามองรอบด้าน เมื่อเห็นว่าแถวนั้นยังเงียบเชียบเพราะเป็นเวลาเช้า จึงพานางไปนั่งใต้ร่มไม้ริมทะเล

“มีเรื่องใดกันหรือ?” เขาถามขึ้น สีหน้าแฝงความใคร่รู้ แม้ในใจก็พอคาดเดาได้อยู่บ้าง

กัวหยุนสูดลมหายใจลึก ก่อนตัดสินใจเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา

“เรื่องเมื่อวาน… ข้าขอบใจเจ้ามาก แต่ในเมื่อชื่อเสียงของหลิวซินเสียหายแล้ว เจ้าก็ยังเป็นชายโสด ข้า…จึงอยากให้เจ้ารับนางเป็นภรรยา”

คำพูดของนางพรั่งพรูออกมารวดเดียวจากความร้อนใจและห่วงใย

“ข้า?” ตงจวินชี้ที่ตัวเองอย่างไม่แน่ใจ “แต่…ลูกสาวของท่านมิใช่ว่ามีใจให้ชายอื่นอยู่?”

ภาพของหลิวซินที่เคยไปเฝ้าอยู่บ้านชายอีกคนยังติดตา จึงอดตั้งคำถามไม่ได้

กัวหยุนส่ายหน้าเบา ๆ แววตาหนักแน่น

“เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องกังวล แต่ก่อนนางอาจคิดน้อยไป… แต่ตอนนี้นางเปลี่ยนไปแล้ว นางบอกข้าว่า หากต้องแต่งกับเจ้า นางก็ไม่ขัดข้อง”

รอยยิ้มบางคลี่ขึ้นบนใบหน้าเมื่อกล่าวจบ

“นาง…ไม่โกรธข้าเลยหรือ? ถ้านางไม่โกธข้า ข้าก็ตกลง” เขาถามอีกครั้ง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ

“เปล่าเลย นางยังกล่าวขอบคุณเจ้าด้วยซ้ำ ในเมื่อเจ้าตกลงแล้ว ก็อย่าลืมให้แม่สื่อมาสู่ขอด้วยเล่า” กัวหยุนย้ำเตือนด้วยความหวังดี เพราะรู้ดีว่าตงจวินอยู่ลำพัง คงไม่สันทัดในเรื่องพิธีการ

“ข้ารู้แล้ว หากได้วันใดจะรีบมาบอกท่าน” เขารับคำอย่างมั่นคง แม้รู้ดีว่าชื่อเสียงของหลิวซินอาจไม่งดงามนักในสายตาผู้อื่น แต่หากใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความเข้าใจ วันหนึ่ง… บางทีนางอาจเปิดใจให้เขาก็เป็นได้

“ตกลงตามนี้ เช่นนั้น… ข้าขอตัวก่อน” นางกล่าวด้วยแววตาเบาใจ ก่อนรีบเดินกลับไปแจ้งข่าวดีกับบุตรสาว

ตงจวินมองตามแผ่นหลังของหญิงวัยกลางคนด้วยความครุ่นคิด ในเมื่อชีวิตคู่กำลังจะเริ่มต้น เขาก็ต้องหมั่นออกเรือมากขึ้น แม้เงินที่มีจะเพียงพอสำหรับตั้งตัวโดยไม่ให้นางต้องลำบาก แต่เขายังอยากมอบชีวิตที่ดีกว่าให้กับหลิวซิน

ฝ่ายกัวหยุน หลังได้รับคำตอบอันน่าพึงใจ นางเดินผ่านลานทรายซึ่งชาวบ้านมักมารวมตัวกันเก็บหอยยามเช้า แต่ยังไม่ทันได้นั่งพัก เสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน

“กัวหยุน! ได้ข่าวว่าลูกสาวเจ้าจมน้ำ แล้วใครเป็นคนช่วยไว้ล่ะ?”

นางเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง พบหญิงวัยกลางคนผู้ไม่ค่อยคุ้นเคยนัก จึงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ใครจะช่วย นั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเจ้าหรอก”

แต่คำถามกลับยังไม่จบเพียงเท่านั้น เสียงของป้าหูหลัน ผู้เห็นเหตุการณ์เมื่อวาน เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“จะเป็นใครได้ล่ะ ก็เจ้า ตงจวิน นั่นแหละที่กระโดดลงไปช่วย!”

คำพูดนั้นดังกังวานจนผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต่างหันมาฟังกันเป็นตาเดียว

“ตงจวินงั้นหรือ? เขาเป็นผู้ชายนะ แบบนี้ชื่อเสียงของหลิวซินจะไม่เสียหายหรือไร?”

เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบบริเวณ บรรดาชาวบ้านที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บหอย ต่างชะงักมือ แล้วเงยหน้าขึ้นรับฟังเรื่องราวด้วยความสนใจ

กัวหยุนกวาดตามองโดยรอบ เห็นแววตาของทุกคนจับจ้องมาอย่างอยากรู้ นางจึงไม่คิดจะปิดบังอีกต่อไป หากความจริงนี้ถูกเปิดเผยเสียตั้งแต่ต้น เรื่องซุบซิบนินทาก็คงไม่ลุกลามไปไกลกว่านี้

“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องลูกสาวของข้าอีกแล้ว” นางประกาศเสียงดัง “อีกไม่กี่เดือน ทั้งสองจะแต่งงานกันอย่างเป็นทางการ ข้าขอให้พวกเจ้ารับรู้ไว้ จะได้ไม่เอาเรื่องของหลิวซินไปพูดเพี้ยนให้ใครเข้าใจผิดอีก”

เมื่อสิ้นเสียงประกาศ นางก็หมุนตัวเดินจากไปทันที ไม่ต้องการเสียเวลากับคำพูดของผู้คนที่เอาแต่ตัดสินผู้อื่นจากเปลือกนอก

“เมื่อครู่… นางพูดว่าอะไรนะ? หรือว่าข้าหูฝาด?”

หญิงคนหนึ่งหันไปถามเพื่อนบ้านที่ยืนอยู่ใกล้

“เจ้าไม่ได้ฟังผิดหรอก กัวหยุนบอกว่า…หลิวซินจะแต่งงานกับตงจวิน!”

“ไม่น่าเชื่อเลย ว่าหลิวซินจะยอมตกลงง่ายดายถึงเพียงนี้…”

เสียงซุบซิบเริ่มกระจายออกไปทั่วบริเวณ บรรดาชาวบ้านต่างถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน บ้างยินดี บ้างสงสัย บ้างตั้งข้อครหา แต่ในหมู่ผู้คนเหล่านั้น มีเพียงหญิงสาวคนหนึ่งที่รับฟังด้วยหัวใจแตกสลาย

เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปดั่งใจ นางจึงค่อย ๆ ถอยออกจากฝูงชนด้วยความเงียบงัน ราวกับไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นความปวดร้าวในแววตา

“พี่ตงจวินจะแต่งงานแล้ว… แถมยังเป็นกับหลิวซินอีกด้วย…”

เหอซานพึมพำกับตนเองเบา ๆ ใจหนึ่งก็อยากเอ่ยถามความจริงจากปากเขา แต่เวลานี้ชายหนุ่มคงออกเรือไปกลางทะเลเสียแล้ว สายเกินกว่าจะไขความสงสัยให้กระจ่าง

ในขณะที่ผู้คนยังวุ่นวายกับความคิดของตน หลิวซินกลับเงียบงัน ราวกับไม่ได้ยินเสียงใด ๆ นางกำลังจมอยู่ในห้วงความทรงจำเก่า ก่อนจะย้อนกลับมาเกิดใหม่อีกครา

ในชาติที่แล้ว นางแต่งเข้าสู่เรือนของตงจวิน แต่กลับทอดทิ้งมารดาให้อยู่ลำพัง มิหนำซ้ำ ยังเพิกเฉยต่อสามี ไม่เคยดูแลเขาอย่างที่ควร ท่าทีของตงจวินก็ไม่ต่างกัน เย็นชา ห่างเหิน ทั้งสองไม่เคยมีคำพูดดี ๆ ต่อกันเลยสักครั้ง

ยามนี้ หมู่บ้านอิ่นชวนยังคงเป็นเพียงชายฝั่งสงบเงียบ แต่ไม่นานจากนี้ จะกลายเป็น “ท่าเรืออิ่นชวน” แหล่งค้าขายที่ทางการจะเข้ามาพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ

ในอนาคตจะมีร้านรวงเกิดขึ้นมากมาย และที่ดินแถบนี้จะมีค่าจนยากจะเอื้อมถึง

ชาติที่แล้วนางมัวเมาอยู่กับเรื่องของบุรุษ จนละเลยเรื่องเงินทองและอนาคต ครานี้… นางจะไม่ยอมพลาดอีก เป้าหมายของนางมีเพียงสิ่งเดียว ครอบครัว

อีกเหตุผลหนึ่งที่ยอมแต่งกับตงจวิน ก็คือบ้านของเขาตั้งอยู่ติดชายฝั่ง มีที่ดินกว้างขวาง และศักยภาพในการพัฒนา นางตั้งใจจะสร้างรายได้จากจุดนั้น แต่แผนทุกอย่างยังต้องพูดคุยกับตงจวินให้ชัดเจนอีกครั้ง

เมื่อตัดสินใจได้แน่วแน่ นางจึงลุกขึ้น เดินตรงไปยังชายฝั่ง

ครั้งหนึ่งนางว่ายน้ำไม่เป็น แต่บัดนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ในอีกโลกหนึ่ง นางเคยฝึกว่ายน้ำจนชำนาญ เคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว

กลับเข้าบ้าน นางค้นหาเสื้อผ้าที่ใช้ลงน้ำได้ พบเพียงผ้าสีดำที่เมื่อเปียกน้ำแล้วจะรัดแนบเนื้อจนเห็นสัดส่วนชัดเจน หากสวมใส่ต่อหน้าผู้คน อาจกลายเป็นเป้าสายตาโดยไม่ตั้งใจ

แต่ทว่าจะมีเสื้อผ้าแบบใดบ้างหรือที่สามารถใส่ลงน้ำโดยไม่แนบเนื้อ?

ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น นางจึงตัดสินใจหาสถานที่ลับให้พ้นจากสายตา

ทันใดนั้น ภาพของเกาะเล็ก ๆ ซึ่งเคยไปพบโดยบังเอิญก็ผุดขึ้นในความคิด มันตั้งอยู่ไม่ไกลจากฝั่ง และเงียบสงบพอจะใช้เป็นที่เปลี่ยนเสื้อผ้าได้อย่างปลอดภัย

นางไม่รอช้า รีบหยิบตะกร้ามาคล้องแขน ใส่ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ลงไป ก่อนมุ่งหน้าไปยังทะเลอีกครั้ง วันนี้… นางตั้งใจว่าจะต้องหาเงินให้ได้มากที่สุด

ระหว่างทาง นางเดินผ่านกลุ่มชาวบ้านที่กำลังทำงาน ต่างก็หันมามองนางด้วยสายตาฉงน

น่าแปลกนัก… หรือว่าทุกคนรู้กันหมดแล้วว่านางตอบรับการแต่งงานกับตงจวิน?

หากเป็นเช่นนั้นก็ดี จะได้ไม่มีใครมาซักไซ้ให้มากความอีกต่อไป

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 11 ได้วันแต่งงาน

    หลิวซินรีบออกมาจากมิติ เมื่อถึงยามเที่ยงก็เห็นมารดาเดินหอบตะกร้ากลับมา นางรีบวิ่งออกไปช่วยถือของเข้าบ้านด้วยท่าทางคล่องแคล่ว“เจ้าไม่ต้องช่วยแม่หรอก มือของเจ้ายังเจ็บอยู่มิใช่หรือ” กัวหยุนเหลือบตามองแผลของลูกสาวด้วยความห่วงใย“ตอนนี้มือของข้าดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่เพิ่งกลับมา เหนื่อยทั้งเช้า ควรกินข้าวเสียก่อน” หลิวซินเอ่ยพลางมองมารดาด้วยแววตาเวทนา ตั้งแต่บิดาสิ้นชีวิต มารดาก็เป็นผู้แบกรับทุกสิ่ง เลี้ยงดูนางเพียงลำพัง“ท่านแม่เหนื่อยหรือไม่เจ้าคะ” เสียงของนางอ่อนโยน แฝงความสงสารอย่างจริงใจกัวหยุนชะงักไป ดวงตาคู่สวยแดงก่ำขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่เลี้ยงลูกสาวมาก็ไม่เคยได้ยินถ้อยคำห่วงใยเช่นนี้ “แม่ไม่เหนื่อยหรอก ยังมีแรงเลี้ยงหลานเจ้าได้อีกหลายคน” นางยิ้มบาง ๆ ทั้งยังแอบฝันเงียบ ๆ ว่าอยากอยู่ดูหลานน้อยในอนาคตหลิวซินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ใจเจือด้วยความอบอุ่น ชาติที่แล้วมารดามีอายุไม่ยืน ครั้งนี้ข้าจะทำให้ทุกความปรารถนาของท่านเป็นจริงให้ได้… เมื่อแต่งงานแล้ว จะรับท่านแม่ไปอยู่ด้วย แต่เรื่องนี้นางยังมิได้เอ่ยออกไป“วันนี้ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนี้ หรือว่าตอนตกน้ำศีรษะกระแทกจนเปลี่ยนไป” มารด

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 10 แสดงละครให้ใครดูกัน

    “ท่านมาหาข้าที่นี่ คงไม่ใช่เพียงเรื่องเล็กน้อยใช่หรือไม่?” นางหรี่ตาคมมองชายตรงหน้าอย่างคาดคั้นเจียงหมินหัวเราะเบา ๆ พลางทำท่าทางใสซื่อเช่นที่นางเคยชอบ “พี่ไม่ได้ตั้งใจมารบกวนหรอก เรื่องที่จะพูด อาจทำให้น้องลำบากใจอยู่บ้าง” เขาอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยออกมาในที่สุด“อีกเจ็ดวันพี่ต้องเดินทางไปสอบที่เมืองตงชาง จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย แต่เงินที่พี่มีไม่เพียงพอ” เขาเหลือบมองนางด้วยแววตาน่าสงสาร “น้องพอจะช่วยพี่ได้หรือไม่”หลิวซินไม่แปลกใจ นางคิดไว้แล้วว่าเขาจะต้องมาขอเรื่องนี้ หากเป็นเมื่อก่อน นางคงควักเงินที่มี หรือแม้กระทั่งแอบขโมยจากมารดามอบให้เขาจนหมด แต่ตอนนี้…อย่าหวังเลยว่าจะได้แม้แต่อีแปะเดียวจากนางนางแสร้งไอเบา ๆ “ช่วงนี้ข้าไม่ค่อยสบาย ท่านก็รู้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน ข้าตกน้ำจนป่วย และวันนี้ยังล้มจนมือบาดเจ็บอีก จำเป็นต้องใช้เงินในการรักษาตัวอยู่มาก ข้ากำลังตั้งใจจะไปหาท่านพอดี อยากจะขอยืมเงินจากท่านสักเล็กน้อย พอเป็นค่ารักษายา” นางหยุดพูดพลางไอออกมาอีกครั้ง“ท่านพอจะมีให้ข้าบ้างหรือไม่ เงินที่ข้ามี หมดไปกับค่ารักษาข้าหมดแล้ว ไหน ๆ อีกไม่นานเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วไ

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 9 คำหวานของคนเลว

    หลิวซินมองการกระทำของเขาอย่างตั้งใจ ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อได้เพ่งพินิจชัด ๆ จึงเห็นว่าเขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ใด ถึงจะไม่เรียบร้อยงดงามแบบบัณฑิตในเมืองใหญ่ แต่ร่างสูงใหญ่สง่างาม ใบหน้าคมแฝงความอ่อนหวานอย่างลงตัว ริมฝีปากได้รูปรับกับสันจมูกโด่งผึ่งผาย… นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นหน้าของตงจวินอย่างจริงจัง ‘สามีเช่นนี้ เหตุใดชาติก่อนข้าถึงตามืดบอด มองไม่เห็นคุณงามความดีของเขากันเล่า’ในขณะที่นางกำลังยิ้มบางมองเขาอยู่นั้น พอดีกับที่ตงจวินเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาสบเข้ากับรอยยิ้มหวานแฝงความลึกซึ้งทันทีหลิวซินสะดุ้งเล็กน้อย รีบหุบยิ้ม มือที่ถูกเขาจับอยู่ค่อย ๆ ดึงกลับ “ข้าขอบคุณท่านมาก” นางเอ่ยเสียงเบา แม้เขาจะทำแผลให้นาง แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บเท่าใดนัก“เจ้าแน่ใจหรือไม่ ว่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนผลักเจ้า” เขาถามด้วยความเป็นห่วงทันใดนั้น ภาพเหตุการณ์ย้อนเข้ามา แม้นางหันหลังอยู่ แต่ยังพอมองเห็นร่างหนึ่งรีบก้าวออกจากโขดหินอย่างลนลาน และนางจำแผ่นหลังนั้นได้ชัดเจน เหอซาน หญิงสาวที่แอบรักตงจวินข้างเดียว นางเลือกที่จะไม่บอกเรื่องนี้ออกไป หากอีกฝ่ายหมายเอาชีวิตตน เช่นนั้นนางก็จะตอบแทนก

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 8 หน้ามืดตาบอด

    หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย หลิวซินก็แบกตะกร้าเดินตามมารดาออกมาหาของขายริมทะเล ช่วงนี้นางยังไม่คิดหาหนทางสร้างรายได้ด้วยตนเองนัก จึงตั้งใจลองติดตามมารดามาดูเผื่อจะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆทว่าเมื่อมาถึงกลับเห็นว่ามีผู้คนจับจองพื้นที่กันอยู่ก่อนแล้ว ชาวบ้านมากมายต่างกระจายกันหาของขาย ไม่ใช่ว่านางมาช้า เพียงแต่คนอื่นมาก่อน จึงทำให้หลิวซินกับมารดากลายเป็นจุดสนใจในสายตาผู้คนทันทีสายตาของเหอซานสะดุดเข้ากับหลิวซินตั้งแต่นางก้าวเข้ามาเพียงไม่กี่ก้าว ยิ่งเห็นใบหน้างดงามของอีกฝ่าย ความขุ่นมัวในใจยิ่งก่อตัวแรงขึ้น หลังได้ยินคำยืนยันจากชายหนุ่มที่ตนหมายปอง ความริษยาที่มีอยู่แต่เดิมก็ยิ่งทวีขึ้น จากเดิมที่อิจฉาเพียงเพราะความงาม กลับกลายเป็นทั้งอิจฉาและเกลียดชังจนอยากให้หลิวซินเลือนหายไปจากโลกนี้เสียจริงหลิวซินยิ้มทักทายชาวบ้านรอบข้าง ทว่าความรู้สึกเหมือนถูกสายตาใครบางคนจ้องมอง ทำให้นางเผลอเหลียวตาม และดวงตาก็สบเข้ากับเหอซานพอดี แววตาของหญิงสาวผู้นั้นเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร หลิวซินหวนคิดถึงชาติก่อน เหอซานก็มีบทบาทอยู่ในชีวิตนางเช่นกัน เพียงแต่ไม่เคยแสดงท่าทีเกลียดชังโจ่งแจ้งเช่นตอนนี้ ทว่าเรื่องน

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 7 ไม่ใช่ใข่มุกธรรมดา

    กัวหยุนเห็นว่าลูกสาวไม่อยากอยู่ตรงนั้นนาน นางจึงไม่รั้งรีบพาเดินตรงไปยังร้านผ้าตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อไปถึงก็เลือกผ้าสีแดงสดผืนใหญ่ขึ้นมา สีสันนั้นช่างขับผิวของบุตรสาวให้งามยิ่งนัก นางไม่ลังเลที่จะควักเงินเก็บจ่ายทันทีหลิวซินมองมารดาที่กำลังยิ้มชื่นชมผ้าสีแดง รู้สึกอบอุ่นใจ แต่ก็อดเอ่ยถามไม่ได้ “ท่านแม่… ผ้าผืนนี้ช่างใหญ่ยิ่งนัก ท่านซื้อเกินไปหรือไม่” เพราะด้วยขนาดนี้ นอกจากจะทำชุด ยังพอเย็บผ้าห่มหรือผ้าม่านได้อีกหลายผืนเลยทีเดียวกัวหยุนหัวเราะเบา ๆ พลางลูบผืนผ้าในมือ “ไม่ใหญ่ไปหรอก แม่จะตัดชุดให้เจ้า ทำผ้าห่ม หมอน และยังทำผ้าม่านสีเดียวกันอีกด้วย ลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่จะแต่งงานทั้งที ย่อมต้องจัดให้สมเกียรติ อย่าให้ผู้ใดมาดูถูกได้”น้ำเสียงอบอุ่นแฝงความหวังลึก ๆ ว่าอีกไม่นานบ้านหลังนี้คงจะไม่เงียบเหงา หากมีเสียงหัวเราะและเสียงก้าวเดินเล็ก ๆ ของหลาน ๆเมื่อได้ยินถ้อยคำนั้น ใบหน้าของหลิวซินก็แดงซ่าน ความหมายที่มารดาสื่อออกมา นางเข้าใจดีจนอยากแทรกแผ่นดินหนีกัวหยุนเห็นท่าทีเขินอายของลูกสาวก็พลอยยิ้มเอ็นดู หลังจากเลือกผ้าที่ต้องการเสร็จ ทั้งสองก็แวะไปยังร้านขายหมูต่อหลิวซินกวาดตามอง เห

  • ย้อนเวลาครั้งนี้ข้าจะดูแลสามีให้ดี   ตอนที่ 6 ความเขินอายของสองคน

    “ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะถูกตัวเจ้า” ตงจวินเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” หลิวซินตอบพลางก้มหน้า เสียงแผ่วเกือบขาดหาย ถึงแม้ครั้งหนึ่งนางจะเคยแต่งงานกับเขามาแล้ว แต่ความใกล้ชิดเช่นนี้ก็ยังทำให้นางไม่เคยชินทั้งสองจึงแยกย้ายไปนั่งประจำที่ของตน ตงจวินบังคับเกวียนวัวให้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวลกัวหยุนที่มองเหตุการณ์อยู่ตลอด อดยิ้มกรุ้มกริ่มไม่ได้ นางหันไปมองลูกสาวด้วยแววตาล้อเลียน“ท่านแม่…ยิ้มอันใดกันหรือเจ้าคะ” หลิวซินเงยหน้าถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นรอยยิ้มของมารดา“ก็ยิ้มไปตามเรื่อง เมื่อเห็นสิ่งที่ข้าพอใจก็ยิ้มเท่านั้นเอง” กัวหยุนตอบพร้อมแกล้งหยอกเล็กน้อย“ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว” หลิวซินทำเสียงงอน ก่อนหันสายตาออกไปมองสองข้างทางแทน“เอาเถอะ อย่างไรเจ้าสองคนก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว สนิทกันไวเสียหน่อยจะเป็นไรไป” มารดากล่าวพลางหัวเราะเบา ๆ ราวกับเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าเอ็นดูหลิวซินได้ยินเช่นนั้นก็หันขวับมามองค้อนทันที ถึงมารดาจะไม่ถือ แต่นางถือ เรื่องแบบนี้น่าอายจนใจเต้นแรงแทบระเบิดตงจวินรับฟังเงียบ ๆ มิได้กล่าวแทรก แต่แววตากลับสะท้อนความอบอุ่นอย่างที่เจ้าตัวเองยังไม่รู้

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status