Share

เรียกตัวเข้าวัง 4

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-07-23 07:15:18

ณ วังหลวงในเวลาเดียวกันนั้น องค์หญิงเวินอี๋ที่กำลังมุ่งหน้าไปตามทางเดินของตำหนักปีกเพื่อมุ่งสู่ตำหนักไทโฮ่วด้วยท่าทีอารมณ์ดีอย่างยิ่ง นางมองกระดาษในมือที่เพิ่งได้มาจากนางกำนัลในจวนเป่ยหนานหวังอีกครั้ง ก่อนเก็บใส่ไว้ในแขนเสื้ออย่างแนบเนียน จากนั้นใช้เวลารอไม่นานนักเพื่อที่จะให้กูกู่ (นางกำนัลอาวุโส) ของตำหนักไปรายงาน นางก็ได้พบกับสตรีสูงศักดิ์ที่มีชันษาเฉียดห้าสิบ กระนั้นก็ยังเหลือเค้าความงามในอดีตอย่างเต็มเปี่ยม พระนางกำลังผ่อนคลายอิริยาบถอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว มือหนึ่งถือตำรา มือข้างหนึ่งถือกล้องยาสูบยกขึ้นสูบอึกหนึ่ง ก่อนปล่อยให้ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งเป็นสายยาวจากริมฝีปากแดง เวินอี๋ไม่รอช้ารีบย่อกายคารวะทันที “ถวายบังคมเสด็จย่า”

“เวินอี๋เองหรือ วันนี้ลมอันใดหอบหลานรักของข้ามาถึงที่นี่ได้เล่า” น้ำเสียงนุ่มนวลเจือด้วยความเอื้อเอ็นดูดังขึ้น นางวางกล้องยาสูบและตำราที่อ่านค้างไว้บนโต๊ะเล็กข้างตัว

เวินอี๋นั่งลงข้างๆ นาง แขนเรียวขาวกลมกลึงทั้งสองสวมกอดอย่างออดอ้อนเท่าที่หลานสาวคนโปรดผู้หนึ่งจะทำได้ก่อนเอ่ย “เป็นเพราะลมหวนคิดถึงเสด็จย่าเพคะ ไม่ได้พบพระองค์หลายวันแล้ว หม่อมฉันคิดถึงยิ่งนัก”

“อายุ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เข้าเฝ้าไทโฮ่ว 2

    “ใจจริงตัวข้าก็อยากสอนสั่งหย่งเยี่ยด้วยตนเอง แต่เจ้าตัวดื้อของข้ายืนกรานว่าจะไม่ยอมเรียนกับข้าเด็กขาด” ไทโฮ่วว่าพลางจิ้มแก้มขาวเนียนของหลานชายที่กำลังหยิบขนมพันชั้นเข้าปาก “เสด็จย่าของเจ้าเป็นถึงปราชญ์หญิงแห่งยุคเชียวนะ ถ้าเจ้ายอมมาเรียน เสด็จย่าก็พร้อมที่จะทุ่มเทกำลังสอนสั่งเจ้าเป็นอย่างดี”หย่งเยี่ยเคี้ยวขนมหมุบหมับ ตอบด้วยน้ำเสียงไหลลื่น “ถ้าเสด็จย่าต้องทุ่มเทกำลังสอนหลาน เกรงว่าต้องโมโหหย่งเยี่ยจนประชวรเป็นแน่ หย่งเยี่ยอยากให้เสด็จย่าอยู่ด้วยกันไปนานๆ จึงไปเรียนที่หอตำรากับเสด็จอาดีกว่า”“ชักแม่น้ำทั้งห้าใส่ตัวข้าเช่นนี้ แสดงว่าแม่นางหานของเสด็จอาเจ้าสอนดี” นางเอ่ยขณะปรายตาไปยังหานฉงหรง จากนั้นจึงหันไปพูดคุยกับหย่งเยี่ยต่ออย่างแนบเนียน ไหนเจ้าเล่าให้เสด็จย่าฟัง ว่าช่วงนี้เจ้าเรียนอันใดบ้างหย่งเยี่ยยิ้มแป้นราวกับรอคอยจังหวะเวลานี้มานาน เด็กน้อยหยิบกล่องไม้จากแขนเสื้อตัวยาวออกมาวางบนมือไทโฮ่ว “ช่วงนี้หลานเรียนประสมอักษรพ่ะย่ะค่ะ”“เรียนประสมอักษร อย่างไร?” ไทโฮ่วว่าขณะโบกมือให้นางกำนัลเก็บขนมน้ำชาไปเก็บเพื่อให้เด็กน้อยเทของที่อยู่ในกล่อง จากนั้นมือน้อยๆ ก็เกลี่ยกระดาษเหล่านั้นให้ปน

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เข้าเฝ้าไทโฮ่ว 1

    หานฉงหรงกะพริบตาปริบหลังจากคุกเข่ารับฟังนางกำนัลอาวุโสของไทโฮ่วถ่ายทอดรับสั่งของพระนางด้วยตนเองด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งชัดเจน จากนั้นพอกล่าวจบก็จากไปโดยไม่แม้แต่จะรับสินน้ำใจที่หลี่ฉางผู้เป็นขันทีคนสนิทมอบให้เสียด้วยซ้ำ“ที่ไทโฮ่วมีรับสั่งเรียกตัวเจ้ากับหย่งเยี่ยเข้าวัง คงเพราะมีเวินอี๋ยุยง” อวิ๋นรุ่นที่ยืนรับฟังอยู่ตั้งแต่ต้นเอ่ยเรียบๆ “กัดไม่ปล่อยโดยแท้”“หม่อมฉันเข้าใจดีเพคะ” หญิงสาวพยักหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ก็พอจะคาดเดาได้ว่าสักวันเรื่องนี้ก็คงเกิดขึ้น แต่ไม่นึกจะรวดเร็วขนาดว่าเป็นในอีกไม่กี่วันเช่นนี้เอาเถอะ วันนั้นนางยอมให้ถูกตบโดยไม่เอาคืนเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายสถานะสูงศักดิ์และนางเองก็ไม่ทันตั้งตัว แต่การที่จะบันดาลโทสะพุ่งเข้าไปตบตีอีกฝ่ายด้วยไร้การไตร่ตรองใดๆ นับว่าไม่ต่างการเอาไข่ไปกระทบหิน เป็นการกระทำที่โง่งมโดยแท้ และถ้ามีใครยุยงให้นางทำแบบนั้น นางก็จะหันกลับไปด่าสักยกเป็นรางวัลในการยุ่งไม่เข้าเรื่องด้วยการจะแก้แค้นคนใหญ่คนโตต่างจากการเล่นงานคนธรรมดาอย่างฉางซื่อหลางมากนัก มันต้องค่อยๆ เก็บเกี่ยวไปเรื่อยๆ รอวันสุกงอมค่อยจัดการทีเดียวน่าจะเป็นการเหมาะสมที่สุด“นิ่งเงียบเช่นนั้น

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เรียกตัวเข้าวัง 4

    ณ วังหลวงในเวลาเดียวกันนั้น องค์หญิงเวินอี๋ที่กำลังมุ่งหน้าไปตามทางเดินของตำหนักปีกเพื่อมุ่งสู่ตำหนักไทโฮ่วด้วยท่าทีอารมณ์ดีอย่างยิ่ง นางมองกระดาษในมือที่เพิ่งได้มาจากนางกำนัลในจวนเป่ยหนานหวังอีกครั้ง ก่อนเก็บใส่ไว้ในแขนเสื้ออย่างแนบเนียน จากนั้นใช้เวลารอไม่นานนักเพื่อที่จะให้กูกู่ (นางกำนัลอาวุโส) ของตำหนักไปรายงาน นางก็ได้พบกับสตรีสูงศักดิ์ที่มีชันษาเฉียดห้าสิบ กระนั้นก็ยังเหลือเค้าความงามในอดีตอย่างเต็มเปี่ยม พระนางกำลังผ่อนคลายอิริยาบถอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว มือหนึ่งถือตำรา มือข้างหนึ่งถือกล้องยาสูบยกขึ้นสูบอึกหนึ่ง ก่อนปล่อยให้ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งเป็นสายยาวจากริมฝีปากแดง เวินอี๋ไม่รอช้ารีบย่อกายคารวะทันที “ถวายบังคมเสด็จย่า”“เวินอี๋เองหรือ วันนี้ลมอันใดหอบหลานรักของข้ามาถึงที่นี่ได้เล่า” น้ำเสียงนุ่มนวลเจือด้วยความเอื้อเอ็นดูดังขึ้น นางวางกล้องยาสูบและตำราที่อ่านค้างไว้บนโต๊ะเล็กข้างตัวเวินอี๋นั่งลงข้างๆ นาง แขนเรียวขาวกลมกลึงทั้งสองสวมกอดอย่างออดอ้อนเท่าที่หลานสาวคนโปรดผู้หนึ่งจะทำได้ก่อนเอ่ย “เป็นเพราะลมหวนคิดถึงเสด็จย่าเพคะ ไม่ได้พบพระองค์หลายวันแล้ว หม่อมฉันคิดถึงยิ่งนัก”“อายุ

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เรียกตัวเข้าวัง 3

    ฉงหรงเห็นอีกฝ่ายเลิกคิ้วคล้ายเป็นเชิงถาม นางก็รีบอธิบายต่อ “เอ่อ...บิดาหม่อมฉันเคยกล่าวว่า การศึกษามิใช่เรื่องที่ควรปิดกั้นอยู่แต่เพียงผู้ที่มีฐานะ สี่ชนชั้นควรได้โอกาสเรียนหนังสืออย่างเท่าเทียม...”“อนุญาต”“เพคะ?”อวิ๋นรุ่นวางรายงานลงกับโต๊ะพลางเอ่ย “ข้าบอกว่าข้าอนุญาต เจ้าจะมาเปลืองน้ำลายอธิบายให้มากความทำอันใด”หานฉงหรง “...”ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “หรือว่าเจ้ามีปัญหา”ผ่านไปชั่วเสี้ยววิบตานางพลันคลี่ยิ้ม ก่อนย่อกายลงน้อยๆ “มิมีเพคะ ขอบพระทัยท่านอ๋องที่เมตตาเสี่ยวมี่”อวิ๋นรุ่นมองท่าทีนั้นก็รู้ว่ากลั่นแกล้งอีกฝ่ายสำเร็จ พลันคลี่ยิ้มออกมา “แน่นอนว่าข้าไม่ปิดกั้นโอกาสผู้ที่ต้องการแสวงหาความรู้ หากแต่ว่านางกำนัลเด็กผู้นั้นเพิ่งมาเรียนทีหลังหย่งเยี่ย ให้มาเรียนด้วยกันเช่นนี้จะไม่เป็นการกีดมือขวางเท้าเขาหรือ?”“หามิได้เพคะ ตรงกันข้าม การเรียนของหย่งเยี่ยมีแต่จะดีขึ้น”อวิ๋นรุ่นเงยหน้ามอง คล้ายอยากให้นางเฉลยในสิ่งที่เขาสงสัย หานฉงหรงเพียงอมยิ้มบาง “ไว้ถ้าท่านอ๋องมีเวลา ก็เสด็จมาทอดพระเนตรที่หอตำราได้ทุกเมื่อเพคะ”อวิ๋นรุ่นคร้านจะซักไซ้ ขณะที่จะบอกให้อีกฝ่ายกลับไปพักผ่อน สายตาพลันเหลือบไปเห็นร

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เรียกตัวเข้าวัง 2

    “เสี่ยวมี่เด็กดี เจ้ากับข้าต่างเป็นนางกำนัลดุจเดียวกัน มิต้องพิธีรีตองให้มากความหรอก” หานฉงหรงยิ้มเอ่ย ก่อนวางพู่กันแล้วเดินไปหาเสี่ยวมี่พลางประคองให้เด็กน้อยลงมาจากเก้าอี้อย่างปลอดภัย “ถึงท่านอ๋องจะบอกให้เจ้าคอยดูแลรับใช้ แต่ก็แค่เฉพาะช่วงที่ข้าต้องติดเตาทำอาหาร กับจุดเทียนและคอยดับเทียนตอนกลางคืนเท่านั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอันใดนอกเหนือจากนั้น ถ้าเจ้าอยากช่วย ก็แค่เรียนเป็นเพื่อนเขาช่วยข้าสอดส่องดูแลหย่งเยี่ยมิให้เขาเกียจคร้านการเรียนกับอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับเขาก็พอ”หย่งเยี่ยที่เพิ่งกลืนขนมหมดคำพลันอ้าปากหวอ ทะลึ่งขึ้นจากเก้าอี้ยาว “เรื่องเป็นเพื่อนเล่นกัน หย่งเยี่ยรับได้ แต่ไฉนจึงให้เสี่ยวมี่มาคอยสอดส่องข้าด้วยเล่า”“เวลาเรียนเจ้าชอบวอกแวกฟุ้งซ่านง่าย ให้มีคนเรียนเป็นเพื่อนกับเจ้าอีกสักคนนั่นล่ะดีแล้ว” นางว่าพลางหันไปทางเสี่ยวมี่อีกครั้ง “ว่าอย่างไร ตกลงหรือไม่”“แต่พี่สาว เสี่ยวมี่เป็นผู้หญิง ที่บ้านเดิมมิเคยให้เรียนหนังสือ บอกว่าโตไปเสี่ยวมี่ถ้าไม่แต่งงานก็ต้องคอยรับใช้ผู้อื่น จะเรียนมากไปทำอันใด” เด็กหญิงว่าพลางทำมือไม้พันกันอยู่ไม่สุขหานฉงหรงเพียงยกมือลูบศีรษะเล็กนั้นแล้วเอ่ย

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เรียกตัวเข้าวัง 1

    หานฉงหรงรู้ว่าเป่ยหนานหวังอวิ๋นรุ่นผู้นั้นเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว แต่นึกไม่ถึงว่าทันทีที่นางลืมตาตื่นในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น นอกจากหย่งเยี่ยที่มากระโดดเหยงๆ อยู่ข้างเตียงเพื่อคอยปลุกนางอย่างเช่นทุกวันแล้ว ยังมีเด็กผู้หญิงที่คาดว่าจะเป็นนางกำนัลเด็กเพิ่งเข้ามาใหม่ได้ไม่นานยืนอยู่ข้างๆ ด้วย นางปรือตาที่ง่วงงุนขึ้นมองก็พบว่าเป็นเด็กที่ดูโตกว่าหย่งเยี่ยประมาณสองสามปี ดวงตากลมโตสุกใสจ้องมาที่นางอย่างสงสัยใคร่รู้ระคนกระตือรือร้น“ท่านแม่ ดีจริง ท่านตื่นแล้ว” หย่งเยี่ยว่า “ข้ากำลังคิดกับเสี่ยวมี่ว่าถ้าท่านไม่ตื่นพวกเราจะช่วยกันจั๊กจี้เท้าของท่านจนกว่าจะตื่นอยู่พอดี”เขาพูดพลางพยักพเยิดไปทางเสี่ยวมี่ตัวน้อยที่กำลังเดินไปตลบผ้าห่มท่อนล่างของนางขึ้นพร้อมถอดถุงเท้าข้างหนึ่งของหานฉงหรงมาถือไว้ในมือหานฉงหรงถอนใจพลางลุกขึ้นนั่งแล้วอ้าแขนรับหย่งเยี่ยที่ทิ้งตัวลงนอนพิงอกของนางอย่างสบายอกสบายใจ “พ่อเจ้าประคุณของข้า ไม่ต้องทำเช่นนั้นข้าก็ตื่นแล้วล่ะ” จากนั้นจึงสบตากับเสี่ยวมี่ที่จัดแจงสวมถุงเท้าให้นางกลับที่ดังเดิม แล้วยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น “แล้วเจ้าคือ...”“ข้าน้อยชื่อเสี่ยวมี่ ท่านอ๋องให้ข้าน้อยมาคอยดูแลรับ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status