เมื่อตั้งสติได้อวี้จินจึงรีบผละออกจากชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะซัดหมัดเข้าไปที่หน้าท้องของเขาอย่างแรงจนคนถูกต่อยถึงกับหน้าเขียวหน้าแดง แต่เขากับไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักแอะเพราะกลัวว่าจะทำให้อวี้จินเดือดร้อน
หญิงสาวตรงหน้าตอนนี้มีใบหน้าแดงระเรื่อ ท่าทีของเธอทั้งประหม่าทั้งวางตัวไม่ถูก
อวี้จินลนลานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อยู่ดีๆเธอก็ล้มลงไปจูบเขาเสียได้
"โอย มือเธอหนักชะมัดเลย ฉันเจ็บแล้วนะ"
"ใครใช้ให้พี่ไม่ดูตาม้าตาเรือเล่า"
อวี้จินเอ่ยโดยที่ไม่มองหน้าของกู้อวิ๋นฟาน ให้ตายเถอะ เธอไม่อาจทำใจมองเขาตอนนี้ได้ เขาไม่รู้ตัวเลยหรือยังไงกันว่าใบหน้าของเขาตอนนี้มันหล่อเหลามากมายขนาดไหน
อวี้จินเคยนึกสงสัยในตัวของกู้อวิ๋นฟานอยู่หลายครั้ง ทั้งที่เขาบอกว่าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา แต่ความรู้สึกส่วนลึกบอกกับเธอว่าเขาอาจไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา ผิวพรรณของเขาขาวสะอาด ท่าทางสำอางเหมือนคุณชายที่ใช้ชีวิตในเมืองหลวงจนเคยชิน ไม่เหมือนกับหนุ่มบ้านนอกยากจนที่ต้องมาหากินเลี้ยงชีพต่างหมู่บ้านเลยแม้แต่น้อย
แต่เขาจะเป็นใครก็ช่างเถอะ หากไม่สร้างปัญหาให้เธอ เธอก็ยินดีคบหาเป็นเพื่อนกับเขา
กู้อวิ๋นฟานมองออกว่าอวี้จินเขินอายแต่ยังคงวางท่านิ่งเฉย เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"จินจิน เธอรุนแรงมากไปแล้วนะ ฉันเสียหายทั้งตัวแล้วยังต้องมาเสียใจอีก"
อวี้จินถึงกับหันขวับไปมองกู้อวิ๋นฟาน
"เสียตัวเสียใจ พี่พูดอะไร"
กู้อวิ๋นฟานไม่ลดละความพยายาม เขาขยับเข้ามาใกล้หญิงสาว อวี้จินเกรงว่าจะมีคนมาเห็นจึงไม่กล้าขยับตัวส่งเดช ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเขาและเธออยู่ใกล้กันแค่เพียงฝ่ามือกั้น จมูกของทั้งสองแทบจะแนบชิดติดกัน
"ใช่น่ะสิ เธอจูบหน้าผากฉันแล้ว ฉันก็ต้องตกเป็นของเธอ ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน แต่เธอกลับจูบฉัน"
จะบ้าตายจริงๆ อวี้จินไม่เคยพบเจอคนหน้าด้านหน้าทนและมั่นใจในตัวเองขนาดนี้มาก่อน
อวี้จินถอนหายใจออกมาอย่างสุดจะทน และอธิบายกับเขาอย่างใจเย็น"คืออย่างนี้นะ ฉันว่าพี่คงเข้าใจอะไรผิด ฉันไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุ"
"มันคือวาสนาต่างหากเล่า ให้ตายเถอะ ในที่สุดฉันก็เจอเนื้อคู่จนได้"
อวี้จิน "....."
อวี้จินยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ยิ่งพูดกับเขาเธอยิ่งปวดหัว
"ฉันจะไปนอนแล้ว พรุ่งนี้เปิดเรียนวันแรก ฉันจะต้องรีบตื่นนอนแต่เช้าพี่ก็รีบกลับไปพักเถอะ"
กู้อวิ๋นฟานมีท่าทีเสียดายอย่างเห็นได้ชัด เขามองเธอด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ อวี้จินไม่เข้าใจว่าเธอมีอะไรน่ามองกันเขาถึงตามแทะโลมเธอไม่หยุดขนาดนี้ ทั้งที่ตัวเองก็อายุยี่สิบแล้ว แต่เธอเป็นเพียงเด็กสาวอายุน้อยที่ยังไม่ประสาเท่านั้น
เหลือเกินจริงๆ
อวี้จินทำเป็นมองไม่เห็นสายตาอาลัยอาวรณ์ของกู้อวิ๋นฟานเธอรีบเดินกลับเขาบ้านทันที
ด้านกู้อวิ๋นฟานนั้นหลังจากที่รอจนห้องนอนของอวี้จินปิดไฟลงแล้ว เขาก็ออกมาจากบ้านตระกูลอวี้ เดินเตร็ดเตร่ไปตามริมถนนอย่างไม่รีบไม่ร้อน ชาติก่อนเขาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองซานซูจนคุ้นชิน ทุกตรอกซอกซอยเขาล้วนรู้จักมันดี
คืนนี้นอกจากมาหาอวี้จินแล้ว เขายังมีเรื่องอื่นให้ต้องจัดการอีก
กู้อวิ๋นฟานยังจำได้ไม่ลืมว่า หลังจากที่เขามาที่นี่ได้ไม่นาน โรงงานก็เกิดปัญหาขึ้น
เขาต้องเริ่มสืบหาเบาะแสจากตรงนี้ กู้อวิ๋นฟานจำได้ว่า บ้านของผู้รับเหมาก่อสร้างที่เขาจ้างให้มาทำงานอยู่ไม่ไกลจากบ้านของอวี้จินเท่าใดนัก ไม่นานเขาก็เดินมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่โตเท่าไรชายหนุ่มซ่อนตัวหลบอยู่ที่ข้างต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับบ้านของผู้รับเหมาก่อสร้างคนนั้น รออยู่ไม่นานในที่สุดก็เห็นผู้รับเหมาคนนั้นกำลังเดินกลับมาที่บ้าน และยังมีคนตามหลังเขามาด้วยอีกคนหนึ่ง
กู้อวิ๋นฟานขมวดคิ้ว พยายามหลบซ่อนตัวอย่างมิดชิดเพื่อไม่ให้ถูกจับได้
"นายท่านสั่งมาแล้ว นายจะต้องทำให้การก่อสร้างของตระกูลกู้เกิดปัญหาให้ได้มากที่สุด เอาให้ล่าช้าได้ยิ่งดี อ้อ แล้วก็เรียกเก็บเงินมามากหน่อย แต่ใช้วัสดุก่อสร้างชั้นเลวให้พวกมัน หากงานสำเร็จนายและครอบครัวจะสบายไปทั้งชาติแน่นอน"
ผู้รับเหมาคนนั้นพยักหน้ารับอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าใดนัก
ก่อนหน้านี้ตระกูลกู้ติดต่อให้เขามาทำงานก่อสร้างโรงงาน อีกทั้งยังให้ค่าตอบแทนที่ดีมาก แต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากที่รับงานให้ตระกูลกู้ได้เพียงไม่กี่เดือน กลับมีชายปริศนามาพบเขาที่บ้าน ทั้งยังยื่นข้อเสนอเป็นเงินก้อนโตให้กับเขา แลกกับการทำให้โรงงานตระกูลกู้เกิดปัญหา
คนที่อยู่เบื้องหลังที่ว่านั้นเขาไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้าค่าตา เรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงนั้นเขาเองไม่อยากมีส่วนพัวพัน แต่เพราะเกรงว่าหากไม่ยอมตกปากรับคำคนในครอบครัวอาจได้รับอันตราย เขาจึงต้องตอบตกลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เข้าใจแล้ว ฉันจะพยายาม"
"จำไว้ ทำงานให้ดี แล้วก็เก็บเรื่องนี้ให้เป็นความลับหากทำไม่สำเร็จ อย่าหวังว่าครอบครัวนายจะสงบสุข ฉันไปละ"
เอ่ยจบคนผู้นั้นที่สวมแว่นตาและสวมหมวกปิดบังอำพรางใบหน้าก็เดินจากไปทันที ผู้รับเหมามีท่าทีเคร่งเครียด ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไป
เมื่อไม่มีคนแล้ว กู้อวิ๋นฟานจึงออกมาจากที่ซ่อนแววตาของชายหนุ่มฉายแววเย็นชาอย่างไม่ปิดบัง
ที่แท้เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็มีคนจงใจสร้างปัญหาให้ตระกูลกู้
ว่าแต่มันเป็นใครกัน
ตระกูลกู้เป็นที่นับหน้าถือตามาตลอด เขาเองจำได้ว่าพ่อและแม่ไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร
แล้วใครกันที่คิดเล่นงานตระกูลกู้จนย่อยยับในชาติที่แล้ว
ยิ่งคิดกู้อวิ๋นฟานก็ยิ่งมีสีหน้าเคร่งเครียด เขารีบเดินกลับมาที่ร้านโจ๊ก เมื่อกลับมาถึงก็พบกับลุงหม่าที่กำลังรออยู่
"นายน้อย ผมเป็นห่วงแทบแย่ หากนายน้อยยังไม่กลับมาผมจะส่งคนออกไปตามหาแล้วนะครับ"
กู้อวิ๋นฟานเข้าใจดีว่าลุงหม่าเป็นห่วงเขามากแค่ไหน ชาติก่อนลุงหม่าป่วยตายเพราะสุขภาพไม่สู้ดี เขาเองไม่เคยทำดีกับลุงหม่าเลยสักครั้ง
ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ยตอบ
"ไม่ต้องห่วงน่าตาแก่ ผมปลอดภัยดี อ้อ ลุงหม่า เช้าวันพรุ่งนี้สั่งให้ผู้รับเหมาก่อสร้างคนที่เพิ่งจ้างมาหยุดงานซะ แล้วจ่ายค่าเสียหายให้เขาไป บอกว่าเราได้คนใหม่แล้ว"
ลุงหม่าถึงกับขมวดคิ้ว ก่อนจะรีบเอ่ยถาม
"ทำไมล่ะครับ เขาก็ทำงานดีนี่ครับ"
"ไม่ต้องถามมากน่า ไปจัดการเถอะ ให้เร็วด้วย แล้วถามชาวบ้านละแวกนี้ว่ามีผู้รับเหมาก่อสร้างฝีมือดีอีกไหม เลือกคนที่ทำงานสุจริต หากว่ามีก็ให้จ้างเขามาทำงาน แล้วให้พักที่โรงงานของเราเลย ผมจะส่งคนไปเฝ้าระวังเอาไว้ เรามาอยู่ต่างถิ่นแบบนี้ต้องระวังเอาไว้ให้ดี หากหาคนไม่ได้จริงๆ ค่อยให้พ่อส่งมาให้"
"ครับผม"
ลุงหม่ารับคำทั้งที่ในใจสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่ออีกให้มากความ
กู้อวิ๋นฟานกลับเข้ามาในห้องนอน ชายหนุ่มมองออกไปที่นอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด
เขาจะทำทุกทางเพื่อให้ตระกูลกู้ยังคงอยู่ ไม่พินาศล้มละลายเหมือนเช่นในชาติที่แล้ว ที่สำคัญจะต้องหาตัวคนที่บงการชักใยอยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้
เรื่องราวทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หลังจากเกิดเรื่องกับฟ่านหยวน ฟ่านหลีก็ถูกรับตัวกลับไปที่บ้าน เธอสูญเสียแม่ไป และพี่ชายก็ติดคุก โชคดีที่พ่อฟื้นกลับมาได้ เธอจึงตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตใหม่ ตัดใจจากกู้อวิ๋นฟาน ก้าวเดินไปตามทางของตนเอง แบกรับภาระหน้าที่ของตระกูลแทนพี่ชายกู้อวิ๋นฟานอาการดีขึ้นมากแล้ว เพราะเกิดเรื่องทำให้เขาไม่ได้กลับบ้าน นายพลกู้รีบมาที่เมืองซานซูพร้อมครอบครัวเพื่อดูอาการลูกชาย นั่นทำให้อวี้จินได้พบกับครอบครัวของกู้อวิ๋นฟาน พวกท่านใจดีมาก อีกทั้งยังสนทนากับเธออย่างไม่ถือตัว ทำให้อวี้จินไม่รู้สึกเกร็งเลยแม้แต่น้อยอวี้จินอยู่เฝ้ากู้อวิ๋นฟานที่โรงพยาบาลทุกวัน จนอาการของเขาดีขึ้นและสามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ กู้อวิ๋นฟานกอดอวี้จินเอาไว้และปลอบโยนเธอเรื่องของหยางเมี่ยว อวี้จินยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร หยางเมี่ยวได้เลือกทางเดินของตนเองแล้ว เธอเคารพการตัดสินใจของเพื่อนรัก งานศพของหยางเมี่ยวนั้นไป๋เซียงและฟางมู่เองก็มาแสดงความไว้อาลัยและเสียใจไม่ต่างจากอวี้จินเช่นเดียวกันตอนนี้หยางเมี่ยวคงได้พบกับแม่ของเธอบนสวรรค์แล้วคนตระกูลกู้พักอยู่ที่เมืองซานซูจนอาการขอ
กู้อวิ๋นฟานไม่ได้เกรงกลัวฟ่านหยวนเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขามองฟ่านหยวนเหมือนมองคนแปลกหน้า"ฟ่านหยวน ที่ผ่านมาระหว่างพวกเรามีสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด แล้วมันเพราะอะไรกันที่ทำให้นายคิดจะฆ่าฉัน คิดจะทำร้ายฉันและตระกูลกู้ ต้นเหตุมันมาจากอะไรกันแน่"ฟ่านหยวนเมื่อได้ยินก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยัน"ต้นเหตุของเรื่องนี้น่ะเหรอ.."เขาจ้องมองกู้อวิ๋นฟานราวศัตรูคู่อาฆาต ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กู้อวิ๋นฟานได้ฟังอย่างไม่มีตกหล่น ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแม่ของเขาและพ่อของกู้อวิ๋นฟาน ไปจนถึงเรื่องที่แม่ของเขาตั้งท้องและแต่งเข้าตระกูลฟ่าน ต้องถูกคนตระกูลฟ่านกดขี่ ถูกสามีทุบตีเหมือนวัวเหมือนลาอวี้จินหันมามองกู้อวิ๋นฟานพร้อมกับจับมือเขาเอาไว้แน่น กู้อวิ๋นฟานที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ถึงกับชะงักไปชั่วขณะพ่อของเขาและแม่ของฟ่านหยวนเคยมีความสัมพันธ์กันอย่างนั้นเหรอและฟ่านหยวนแท้จริงก็เป็นพี่น้องกับเขา!นี่มันเรื่องอะไรกันกู้อวิ๋นฟานไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่ฟ่านหยวนเล่ามาจะเป็นความจริง ที่ผ่านมาพ่อและแม่ของเขารักกันดีมาตลอด พ่อไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ และแม่ของเขาก็ไม่เคยเอ่ยถึงเช่นกัน
หลายสิบวันต่อจากนั้น ก็มีคนนำอาหารกระป๋องราคาถูกกว่าโรงงานของตระกูลกู้มาขาย เมื่อกู้อวิ๋นฟานที่ทราบเรื่องไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกเท่าใดนัก ตอนนี้เขาค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าฟ่านหยวนคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแต่ครั้งนี้ฟ่านหยวนกลับไม่ได้เปิดโรงงานโดยใช้ชื่อคนอื่นบังหน้าเหมือนที่เคยทำในครั้งก่อนอีก แต่กลับเลือกเอามาขายโดยผ่านพ่อค้าคนกลาง เปิดเป็นร้านขายอาหารกระป๋องธรรมดาทั่วไป อวี้จินเมื่อได้ทราบเรื่องก็ตรงมาหากู้อวิ๋นฟาน และพูดคุยหารือกับเขาในเรื่องนี้"ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของฟ่านหยวนจริงๆ"กู้อวิ๋นฟานเพียงยกยิ้มมุมปากและไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงมีท่าทีครุ่นคิดเล็กน้อยเมื่อสองคืนก่อนเขาฝันถึงเรื่องในชาติก่อนอีกครั้ง ครั้งนี้ความฝันชัดเจนกว่าครั้งก่อนๆ เขาเห็นแผ่นหลังของฆาตกรที่ฆ่าเขาในชาติที่แล้ว แม้จะเห็นเพียงแผ่นหลังแต่เขากลับจำได้ดีเป็นฟ่านหยวน!คนที่ฆ่าเขาในชาติก่อนก็คือฟ่านหยวนทุกอย่างล้วนปะติดปะต่อร้อยเรียงและเกี่ยวพันกับฟ่านหยวนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงแต่แรงจูงใจที่ทำให้ฟ่านหยวนผูกใจเจ็บจนอาฆาตแค้นเขามันคือเรื่องอะไรกันแน่อวี้จินไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก เธอนั่งอยู่ข้
ในที่สุดวันหยุดก็มาถึง อวี้จินได้ทำตามที่กู้อวิ๋นฟานบอกเอาไว้ นั่นก็คือชวนหยางเมี่ยวไปที่บ้านของกู้อวิ๋นฟานด้วยกัน เธอบอกเพียงว่าจะจัดงานฉลองให้กับตัวเองที่ทำคะแนนสอบได้ดี กินกันแค่สองคนออกจะเหงาเกินไป ย่าก็ไม่สะดวกไปร่วมงานเลี้ยงเพราะแก่แล้ว ส่วนพ่อของอวี้จินก็ไม่ได้ลงรอยกับกู้อวิ๋นฟาน เธอจึงชวนหยางเมี่ยวไปด้วยกัน แรกเริ่มหยางเมี่ยวลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อหลายวันก่อนฟ่านหยวนบอกกับเธอว่าเขาอยากได้ขั้นตอนการผลิตอาหารกระป๋องของกู้อวิ๋นฟานให้เธอหลอกถามจากอวี้จิน แต่อวี้จินกลับไม่รู้อะไรเลย เธอจึงยังไม่มีข้อมูลไปให้เขาวันนี้ได้ไปที่บ้านของกู้อวิ๋นฟานนับว่าเป็นเรื่องดีแม้ในใจจะรู้สึกผิด แต่หยางเมี่ยวไม่มีทางเลือกเธอกลัวว่าคนตระกูลอวี้จะต้องลำบาก ตระกูลอวี้มีบุญคุณกับเธอ หยางเมี่ยวไม่ใช่คนเนรคุณคน เธอไม่มีทางทำให้บ้านตระกูลอวี้ต้องประสบภัยแม้นี่จะฟังดูเหมือนเป็นเหตุผลที่ดี แต่ภายในส่วนลึกแล้วมันเป็นเพราะว่าเธอรักฟ่านหยวนเธอหลงรักคนสารเลวนั่นจนหมดหัวใจ!ท่าทีของหยางเมี่ยวล้วนอยู่ในสายตาของอวี้จิน เธอเดาไม่ผิดจริงๆ หยางเมี่ยวมีเรื่องบางอย่างที่กำลังปิดบังเธอเอาไว้แต่อ
วันคืนก็ผ่านพ้นไปเช่นนี้ ในที่สุดโรงงานของกู้อวิ๋นฟานก็ได้เปิดรับคนงานเข้ามาทำงานเสียที ครั้งนี้พ่อของเขาส่งพ่อบ้านคนใหม่มาช่วยดูแลเขาแทนลุงหม่า กู้อวิ๋นฟานแม้ภายนอกจะทำตัวปกติ แต่เขารู้ดีอยู่ในใจว่าไม่มีใครแทนลุงหม่าได้อวี้จินยังคงไปเรียนตามปกติ เพราะระยะนี้ใกล้ถึงวันสอบแล้วเธอจึงเอาแต่อ่านหนังสือและไม่ค่อยได้พบกับกู้อวิ๋นฟานเท่าใดนัก ต่างคนต่างมีงานให้ต้องจัดการสุขภาพของย่าช่วงนี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก อวี้จินค่อนข้างเป็นกังวล แต่คุณย่าบอกกับเธอว่าย่าแก่มากแล้ว การเจ็บป่วยอย่างไรย่อมเป็นเรื่องธรรมดา แต่อวี้จินกลับหวั่นใจ ชาตินี้เธอช่วยย่าไม่ให้ตายอย่างปริศนาได้แล้ว แต่เธอไม่ได้เตรียมใจที่จะสูญเสียย่าไปอีก แม้ว่ามันจะต้องเป็นไปตามครรลองก็ตามทุกคนล้วนมีเรื่องที่ตนยึดติดไม่ใช่หรืออวี้จินวางหนังสือในมือลง ก่อนจะเดินลงมาที่ชั้นล่าง ตอนนี้ย่าของเธอกำลังนอนหลับตอนกลางวัน ส่วนพ่อก็ไปที่สวนผัก ตั้งแต่เกิดเรื่องในครั้งนั้น อวี้จินสังเกตได้ว่าพ่อของเธอดูเปลี่ยนไปมาก เขาพยายามพูดคุยและทำดีกับเธอ แต่อวี้จินกลับไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งเท่าใดนัก อาจเพราะความเจ็บปวดในชาติก่อนมันยังคงกัดกินจิตใจของเธอ
เวลาก็ผ่านไปเช่นนี้ การก่อสร้างโรงงานของกู้อวิ๋นฟานนับว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทุกอย่างราบรื่นเป็นอย่างมากวันนี้อวี้จินไม่มีเรียน เธอจึงมาหาเขาที่บ้านพร้อมกับนำอาหารมื้อกลางวันติดมือมาด้วย กู้อวิ๋นฟานที่เห็นว่าคนรักมาแล้วก็อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก อวี้จินวางอาหารลงบนโต๊ะและยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน"ฉันทำอาหารมาให้พี่หลายอย่างเลย พี่ลองชิมดูสิว่าชอบไหม""อะไรที่เธอทำพี่ก็ชอบหมด"อวี้จินยิ้มตาหยี ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปหาชายหนุ่มและมอบจูบที่แสนหวานให้กับเขา กู้อวิ๋นฟานมองอวี้จินด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนจะจูบตอบหล่อนอย่างดูดดื่มในขณะที่คนทั้งสองกำลังมีความสุขแสนหวานชื่น ฟ่านหลีก็เดินเข้ามามาพอดี เธอเห็นเต็มสองตาว่าสองคนนั้นกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ฟ่านหลีกำมือแน่น รู้สึกเจ็บปวดในใจเป็นอย่างมาก เธอหลงรักกู้อวิ๋นฟานมานานหลายปี แต่เขากลับไม่สนใจเธอและยังมาเลือกเด็กสาวบ้านนอกคนนี้อีกอวี้จินและกู้อวิ๋นฟานหันมามองฟ่านหลีพร้อมกัน เป็นกู้อวิ๋นฟานที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย"ฟ่านหลี มีอะไรเหรอ"ฟ่านหลียิ้มออกมาอย่างฝืดเฝื่อน"ฉันให้คนทำอาหารมาให้พี่ พี่ลองชิมดูสิ"เอ่ยจบหล่อนก็นำอาหารมาวางบนโต๊ะ
หยางเมี่ยวมองฟ่านหยวนด้วยความหวาดหวั่น เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชายหนุ่มที่สุภาพอ่อนโยนคนนั้น แท้จริงแล้วจะซ่อนความอำมหิตเอาไว้เธอพอจะรู้เรื่องของกู้อวิ๋นฟานมาบ้าง เพราะอวี้จินเล่าทุกอย่างให้เธอฟัง กู้อวิ๋นฟานเป็นลูกชายของนายพลกู้ มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก แต่ที่เขามาที่นี่เพราะต้องการมาช่วยกิจการของที่บ้าน เธอก็รู้เพียงเท่านี้ แต่ไม่เคยรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของตระกูลคนมีอำนาจมากกว่านี้เลยแม้แต่เรื่องเดียวทั้งที่ฟ่านหยวนเป็นเพื่อนสนิทของกู้อวิ๋นฟานแต่กลับคิดจะฆ่าเพื่อนของตนเองและทำร้ายตระกูลกู้แท้จริงแล้วพวกเขามีเรื่องบาดหมางอะไรกันแน่หยางเมี่ยวเอ่ยอะไรไม่ออก เธอเดินเข้ามารู้เรื่องราวนี้เอง คาดว่านับจากวันนี้คงไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว แต่จะให้เธอทำอะไรได้ หากชะตาชีวิตกำหนดมาว่าให้เธอต้องตายอยู่ที่นี่นั่นก็คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เสียดายก็แต่ไม่อาจช่วยอวี้จินและคนรักของเพื่อนได้ ไม่ทันได้ตอบแทนบุญคุณก็ต้องมาจากไปเสียก่อนฟ่านหยวนมองหยางเมี่ยวด้วยแววตาที่ครุ่นคิด เด็กสาวคนนี้แต่ก่อนเขาไม่ได้สนใจจะมองหน้าตาของหล่อนให้มากนัก แต่วันนี้เมื่อได้มองดูให้ชัดเจนก็พบว่าสวยไม่เบาเลย อยู่ๆ ความ
ระยะนี้กู้อวิ๋นฟานและอวี้จินสนิทสนมกันมากกว่าเดิม ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองก็คืบหน้าไปไม่น้อยเลย เขามักจะไปรับส่งเธอที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ ตั้งแต่ที่เขาบอกความจริงว่าตัวเองเป็นใครนั้น กู้อวิ๋นฟานก็ไม่ได้กลับไปนอนที่ร้านโจ๊กอีก เดิมทีคิดว่าจะปิดร้านไปซะ แต่มันกลับขายดีและทำเงินได้เขาจึงให้ลุงหม่าเปิดร้านต่อไป กู้อวิ๋นฟานซื้อบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของอวี้จิน แม่เฒ่าอวี้และอวี้ตงออกจะตกใจไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่าฐานะของกู้อวิ๋นฟานไม่ธรรมดา อีกทั้งยังกังวลเป็นอย่างมาก แต่อวี้จินกลับบอกว่านั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเธอไม่นานมานี้คนของกู้อวิ๋นฟานมารายงานว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างคนก่อนที่ถูกเขายกเลิกงานไปได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นแล้ว จากนั้นไม่นานก็บ้านแตกสาแหรกขาด ผู้รับเหมาจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย มองผิวเผินแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่สำหรับกู้อวิ๋นฟานกลับรู้สึกว่ามันผิดปกติ ดูแล้วราวกับเป็นการจัดฉากเพื่อฆาตกรรมเสียมากกว่ากู้อวิ๋นฟานมีท่าทีครุ่นคิด เขามาอยู่ที่ซานซูนานแล้ว หาทางปิดช่องโหว่ทุกอย่าง พ่อของเขาเองเมื่อได้ทราบเรื่องน่าสงสัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในทุกๆ คืนเขามักจะ
กู้อวิ๋นฟานเมื่อได้เห็นชายหญิงทั้งสองคน แววตาเขาก็ทอประกายความเป็นมิตรขึ้นมาหลายส่วนสองคนนี้เป็นคนที่สนิทกับเขาตอนอยู่ที่เมืองหลวงชื่อว่าฟ่านหยวนและฟ่านหลี ฟ่านหยวนเป็นเพื่อนรักของเขา มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อว่าฟ่านหลี สองพี่น้องตระกูลฟ่านเป็นลูกของนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง มีโรงงานหลายแห่ง และที่สำคัญฟ่านหยวนเองก็กำลังจะมีโครงการก่อสร้างโรงงานที่เมืองซานซูเช่นเดียวกัน แม้จะทำธุรกิจเหมือนกัน แต่เขาและฟ่านหยวนกลับไม่ได้เป็นศัตรูกัน อีกทั้งยังเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่นานมานี้ฟ่านหยวนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้"อาหยวน นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่"กู้อวิ๋นฟานไม่ได้ตอบคำถามของฟ่านหลี แต่กลับเอ่ยถามฟ่านหยวนแทน ฟ่านหยวนยิ้มและเอ่ยตอบ"เพิ่งกลับมาไม่กี่วันนี้ อีกอย่างโรงงานใกล้จะสร้างแล้ว ฉันเลยต้องมาดูเสียหน่อย""มีที่พักหรือยัง""มีแล้ว ฉันซื้อบ้านเอาไว้หลังหนึ่ง"เอ่ยจบฟ่านหยวนก็หันมามองอวี้จินพร้อมกับส่งยิ้มให้หล่อน อวี้จินเพียงยิ้มตอบอย่างมีมรรยาทเมื่อเห็นว่ากู้อวิ๋นฟานเมินตน ฟ่านหลีก็รู้สึกไม่พอใจ เธอถลึงตาใส่อวี้จินทันที ก่อนจะเดินเข้ามาหมายจะแทรกกลางคนทั้งสอง แต