Masuk“เสียนอ๋อง” หนึ่งในพระญาติของพระเอกและตัวร้ายที่รับบรรดาศักดิ์ต่อจากท่านปู่ของตน และก็นับว่าเป็นญาติผู้พี่ของนางด้วย ฝ่ายมารดาของเขาคือคนจากสกุลเสิ่น แต่จนถึงตอนล่าสุดที่ได้อ่าน นางก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ข้างใครระหว่าง ‘หนิงอ๋องหรือรัชทายาท’
“ว่าที่พระชายาในหนิงอ๋อง แท้จริงแล้วก็ยังไม่ตาย แต่กลับมาอยู่ในที่ดินปกครองของข้าเสียได้ น่าประหลาดใจนัก”
“คนนั้นยังไม่สลบ เขาได้ยินแล้วว่าข้ายังไม่ตาย” นางชี้ไปที่นักฆ่าคนหนึ่งที่เพียงแค่ตัวชากระตุกเพราะเครื่องช็อตไฟฟ้า และได้ยินญาติผู้พี่เฉลยตัวตนของเสิ่นลี่อิงออกมาจนหมดเปลือก
เสียนอ๋องเห็นเช่นนั้นก็ให้สัญญาณกับองครักษ์ให้ฆ่าทิ้งเสีย แม้เสิ่นลี่อิงจะปวดใจเพราะงานของนางคือการช่วยคน แต่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตนางหรือชีวิตศัตรู นางย่อมเลือกตนเอง
“คนที่นำดาบชี้ข้า มาใหม่หรือ”
เสียนอ๋องพยักหน้า อ๋องหนุ่มสะบัดมือให้เหล่าองครักษ์หลบออกไปก่อน “จะเอาผิดหรือไม่”
“ไม่ล่ะ เสียเวลา ท่านมาที่นี่ทำไม”
“นี่มันเขตการปกครองของข้า เจ้าต่างหากยังไม่ตายเหตุใดจึงไม่กลับไป”
“ถูกตามล่าเช่นนี้ หากกลับไปข้าย่อมลำบาก ศัตรูอยู่ในที่ลับ ตัวข้าอยู่ในที่แจ้ง ตระกูลเสิ่นคงกำลังตามหาข้าอยู่ แล้วว่าที่สามีผู้นั้นเล่า ตามหาข้าบ้างหรือไม่”
“ไม่เลย จวนหนิงอ๋องไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใดๆ ตั้งแต่ก่อนเจ้าหายไปเสียอีก”
“หมายความเช่นไรกัน” นางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แม้เรื่องราวในช่วงนี้จะถูกข้ามไปในนิยาย แต่การหายเงียบไปของหนิงอ๋องตัวร้ายของเรื่องจะไม่สำคัญพอให้กล่าวถึงเลยหรือ เช่นนี้สาเหตุที่ไม่ได้มาตามหาเปาหลงให้พบจนตกเป็นเครื่องมือของผู้อื่น ก็เป็นเพราะหนิงอ๋องเองก็อยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดีใช่หรือไม่ ความคิดของเสิ่นลี่อิงกำลังยุ่งเหยิงอย่างถึงที่สุด
หากกลับไปตอนนี้ก็ใช่ว่าข้าจะได้พบหนิงอ๋องสินะ
“หลังเจ้าออกเดินทางไม่นานนัก หนิงอ๋องก็จำเป็นต้องส่งอ๋องน้อยเข้าเมืองหลวง แต่ในระหว่างนั้น จู่ๆ หนิงอ๋องก็ไม่ปรากฏตัวที่ใด จวนอ๋องเองก็ปิดเงียบไม่รับแขก หลังจากนั้นก็เป็นเจ้าที่ตกผา และอีกไม่นานผู้คนก็รู้ว่าอ๋องน้อยก็หายตัวไป เพราะไปไม่ถึงเมืองหลวงตามกำหนดการ”
นางก้มหน้าหลุบตามองพื้น คิดหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนิงอ๋อง นางเชื่อว่าเขาต้องไม่ตายเพราะเหตุการณ์หลังจากนี้เขาคือตัวการหลัก
หนิงอ๋องยังอยู่ในจวนหรือหายตัวไปแล้วกันแน่
“คนที่มากับอ๋องน้อย ไม่เหลือเลยหรือ…ข้าควรทำอย่างไร” เสิ่นลี่อิงสะท้อนใจนัก ผู้ติดตามของนางและเปาหลงล้วนตายสิ้น นางและเปาหลงต้องอยู่รอด และไม่ให้การเสียสละนั้นสูญเปล่า
“ไม่เหลือ”
“เจ้า…ตระกูลเสิ่นเป็นห่วงเจ้ามาก จะให้ทุกคนเข้าใจไปเช่นนี้หรือ โดยเฉพาะบิดามารดาเจ้า กินไม่ได้นอนไม่หลับกันทีเดียว” เสียนอ๋องอย่างไรก็เป็นญาติผู้พี่ของเสิ่นลี่อิง เขาย่อมมีความเป็นห่วงเป็นใยให้นางอยู่บ้าง
เสิ่นลี่อิงเงียบลงไม่รู้จะตอบสิ่งใด นางรู้สึกผิดต่อเจ้าของร่างนัก เมื่อแปรเปลี่ยนเป็นวิญญาณซาร่ามาอยู่ ก็ไร้ซึ่งความรู้สึกผูกพันมิได้นึกให้ละเอียดรอบคอบว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของร่างนี้จะรู้สึกแหลกสลายสักเพียงใด “ข้า…”
“เห้อ…พ่อของเจ้าถึงกับประกาศกร้าวว่าหากยังไม่เจอศพ ก็จะขอตามหาเจ้าจนกว่าชีวิตตนจะสิ้นไป”
“เรื่องนี้ข้าเองก็รู้สึกผิดอยู่ แต่ศัตรูของข้ามิได้มีเพียงคนนอก”
แม้นางจะมีของวิเศษติดตัวแต่น้ำกลิ่นจันทร์ก็แก้ได้เพียงพิษ หากพวกเขาจัดการนางด้วยวิธีอื่น เสิ่นลี่อิงย่อมมีความเสี่ยง “ห้ามแพร่งพรายเรื่องของข้า จนกว่าจะรู้ความเป็นไปของหนิงอ๋อง”
อย่างน้อยหากมีหนิงอ๋อง บุญคุณที่ดูแลเลี้ยงดูเปาหลงจนปลอดภัยคงช่วยให้เขาใส่ใจความเป็นอยู่ของข้าบ้าง แต่ถ้าประมุขของจวนยังหายเงียบ ศัตรูหน้าไหนจะมาเกรงใจ
“ไปอยู่ที่จวนเสียนอ๋องดีกว่าหรือไม่ ข้าจะได้ดูแลเจ้าได้ มาอยู่ห่างหูห่างตาผู้อื่นอย่างนี้ปลอดภัยแน่หรือ”
“ไม่สะดวกไปอยู่หรอก แบบนั้นน่าจับตามองเกินไป เสียนอ๋องผู้ไร้ซึ่งชายารองพาแม่นางน้อยเข้าจวนคงได้เป็นข่าวลือไปถึงเมืองหลวง แต่ข้าขอฝากสิ่งนี้ให้ท่านพ่อท่านแม่ของข้าแทน” นางส่งถุงหอมที่เสิ่นลี่อิงคนเดิมใช้ติดกายเสมอไปให้เสียนอ๋อง
“บอกพวกเขาว่าข้าไม่เป็นอันใด ลดกำลังตามหา แต่อย่าหยุดเด็ดขาด แสดงให้แนบเนียน ถึงเวลาข้าจะกลับไปเอง”
“ย่อมได้ แต่เจ้าต้องบอกข้าว่าอาวุธของเจ้าคือสิ่งใด”
“อาวุธนี้ได้มาตอนหยุดหายใจ ท่านเทพประทานให้”
สายตาของเสียนอ๋องเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเขาจ้องหน้านางนิ่ง เสียนอ๋องและเจ้าของร่างเก่าเคยสนิทกันมาก แต่หลังจากมารับบรรดาศักดิ์ เสียนอ๋องก็ต้องมาอยู่ไกลจากเมืองหลวงจึงห่างเหินกันไป
นางรอเขาพูดเรื่องวันนี้ แต่เมื่อเขาไม่คิดจะบอกว่าเหตุใดจึงถูกตามฆ่านางก็จะไม่ถาม ญาติผู้พี่ของนางผู้นี้ตามความทรงจำของคุณหนูเสิ่น หากยิ่งถามก็จะยิ่งเก็บเงียบ เมื่อไม่มีใครพูดกันอีก ลี่อิงจึงต้องพูดทำลายความเงียบขึ้นมาเอง
“เสียเวลามากแล้ว เจ้าก็ลืมไปเสียว่าเจอข้า หากมีข่าวหนิงอ๋องให้จัดงานชมจันทร์ในจวนเสียนอ๋องข้าจะไปพบท่านเอง” เมื่อเห็นว่าญาติตนพยักหน้ารับ และยื่นป้ายเข้าออกจวนมาให้เรียบร้อยแล้ว เสิ่นลี่อิงก็ก้าวเท้าสับๆ ออกจากป่ามาทันที
ต้องมีเรื่องให้ถามเปาหลงอีกเสียแล้ว
.
.
“ลี่อิง! เจ้ามาเสียที ข้ากำลังจะให้สามีไปตามเจ้าในป่า ไปนานเหลือเกิน เกิดอันใดขึ้น” จินเหมยร้องออกมาทันทีที่เห็นเงานางเดินมา
“ในป่ามืดนัก ข้าเดินวนอยู่ครู่ใหญ่จึงออกมาช้า เปาหลงเล่าพี่จิน”
“ร้องไห้เป็นห่วงเจ้าจนหลับไปเสียแล้ว เด็กเคยหลงป่า เมื่อเห็นเจ้าไม่มาคงคิดไปเสียมากมาย เจ้าอุ้มกลับเถิด”
.
.
.
เปาเปาเอ๋ย เกิดสิ่งใดขึ้นกับพ่อเจ้ากันแน่นะ
เสิ่นลี่อิงอุ้มเปาหลงวางลงบนเตียง ก่อนจะนั่งลงข้างกัน นางคิดว่าการจัดการครั้งนี้อาจเป็นฝีมือของผู้บงการคนเดียวกันก็ได้! คนที่มีความเกี่ยวข้องกับจวนหนิงอ๋องถูกจัดการในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งหมด จัดการด้วยวิธีการเดียวกัน มีเพียงหนิงอ๋องที่นางยังไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใด
แผนการที่สามารถลบคนออกจากกระดานได้สามคนในคราวเดียวจะต้องมีเกลือเป็นหนอนจึงจะสำเร็จได้ เห็นทีตอนนี้จวนหนิงอ๋องจะอันตรายที่สุดเสียแล้ว ใครบ้างที่มือยาวพอจะสาวเข้าไปถึงภายในจวนอ๋อง
คนต่างแคว้น ฮองเฮา ซูเฟย หรือจะเป็นพระเอกในนิยายแต่ตอนนี้น่าจะอายุแค่สิบสองสิบสาม ไม่น่าใช่.. ปวดหัวจริง! หนิงอ๋องศัตรูของท่านมีมากเกินไปหรือไม่
บทพิเศษ 17 ต้องช่วยเหลือนาง เวลาของความสุขผันผ่านไปรวดเร็วเพียงชั่วกระพริบตา ชินอ๋องและพระชายาอยู่ในวัยใกล้ฝั่งเสียแล้ว บุตรล้วนเติบใหญ่ให้ได้ภาคภูมิใจมีครอบครัว และหลานมากมายให้ชื่นใจ ส่วนตนและฮูหยินคู่ใจก็ใช้เวลาส่วนใหญ่นึกย้อนถึงวันเวลาเก่าๆ แต่การหวนย้อนคิดเหล่านี้ ทำให้ชินอ๋องนึกถึงภาพฝันที่เคยอยู่เป็นเพื่อนยามค่ำคืนเสมอมา ตู้หนิงหลงในวัยชรากลับมาฝันถึงแม่นางผู้หนึ่งมาติดต่อกันหลายคืนแล้ว ความฝันนี้เป็นฝันเช่นเดียวกับยามเยาว์วัย เขามักจะฝันเห็นนางยิ้มหัวเราะ บางคราก็โกรธเกรี้ยว สลับกับการไปช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในอันตรายร่วมกับแม่นางผู้นั้น เหตุการณ์ในฝันนั้นไม่ค่อยปะติดปะต่อกันนัก แต่สุดท้ายก็มักจะจบลงเช่นเดิมคือ เขาและนางไปช่วยดับไฟสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อขึ้นไปด้านบน แม่นางผู้นั้นจะตกลงในหลุม จากนั้นเขาก็จะตกลงมาเช่นกัน แต่ร่างของชินอ๋องในฝันนั้น จะถูกโลหะแท่งใหญ่ปักทะลุอก กระอักเลือดออกมาคำโต จนแม่นางผู้นั้นกรีดร้องออกมาคล้ายดวงใจแตกสลาย ทว่าครานี้ฝันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ภาพที่ปรากฏยังคล้ายเดิม เพียงแต่ไม่มีร่างที่สมควรจะเป็นตัวของเขาอยู่ในฝันนั้น
บทพิเศษ 16 เผยเรื่องน่าอาย ตู้หนิงหลงผู้เป็นถึงชินอ๋องกำลังรอดักเรียกบุตรชายผู้เป็นรุ่ยอ๋อง เพราะยามกลับมาถึงจวนทีไร ก็มาในสภาพคลุกเคล้าไปด้วยฝุ่นผงทุกวัน ทั้งยังมีข่าวคราวหนาหูเกี่ยวกับว่าที่รุ่ยหวางเฟยให้ได้ยินนั่นอีก แต่เมื่อจะเรียกมาสอบถามกลับหลบหนีหายไปทุกครั้ง จนผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินรองจากฮ่องเต้ต้องมายืนพิงกำแพงจวน รอบุตรชายกลับมาด้วยตนเอง“เปาหลง” ชินอ๋องเอ่ยเรียก ตั้งมั่นว่าครานี้ต้องรู้เรื่องราวให้ได้ อ๋องน้อยผู้นี้บิดพลิ้วหนีคนที่สั่งให้มาตาม ปิดโอกาสสืบความใดไปเสียหมด“ท่านพ่อ! เหตุใดมาอยู่ตรงนี้ ข้าตกใจหมด” เปาเปาที่แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เมื่อยามอยู่กับบิดาและมารดาเลี้ยง ก็กลับไปมีท่าทีเป็นเด็กเล็กๆ ไปทุกครา“ตามพ่อมา” หนิงหลงไม่ลื่นไหลไปกับบทสนทนาที่พยายามจะนอกเรื่องหาทางหลีกหนี เมื่อกล่าวจบก็พยักหน้าให้ทหารหิ้วปีกมุ่งไปที่ห้องหนังสือ“ท่านพ่อ ทำเช่นนี้ไม่ได้ ไม่รักษาภาพพจน์ข้าบ้างหรือ บุตรชายของท่านเป็นถึงรุ่ยอ๋องเชียวนะ” เปาหลงโวยวายเมื่อถูกลากเข้าจวน และยกทั้งร่างมาวางไว้ในเรือนกลางของผู้เป็นพ่อ... เปาหลงที่หันมองหาทางหนีทีไล่ ถอนหายใจอย่า
บทพิเศษ 15 รุกล้ำในชุดแดงวันมงคลของเสิ่นลี่อิงและองค์ชายเก้าเกิดขึ้นในวันที่ถัดมาจากวันที่ครบพันปีหนึ่งวันพอดิบพอดี เมื่อเซียนลี่บอกให้ตู้หนิงหลงผู้นี้รอไปพันปี เขาก็ทำเช่นนั้นตามข้อตกลงแต่องค์ชายผู้นี้ก็ยังคงไม่ยอมรับต่อหน้าคนรักอยู่ดีว่าการตัดสินใจให้เป็นคนรักกันไปพันปีของนางเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว หากขืนยอมรับไปเขาได้รับคำย้ำเตือนไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่แน่ ว่าทำอันใดก็ให้เชื่อนางจึงจะออกมาดีตู้หนิงหลงกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังห้องหอด้วยใจระทึก เขาถูกพี่ชายทั้งหลายล้อเลียนว่าเป็นเด็กแก่แดดแต่งงานตัดหน้าทุกคน และถูกบังคับให้กินเหล้าหลายจอกจนทรงตัวแทบไม่อยู่&nbs
บทพิเศษ 14 เป็นคนรักกันไปพันปีเมื่ออยู่ต่อหน้าเทียนจวินองค์ชายเก้าตู้หนิงหลงทำอย่างที่ลั่นวาจาไว้ เขากล่าวต่อหน้าผู้คนทั้งท้องพระโรงว่าต้องการสมรสพระราชทานให้เสิ่นลี่อิง มาเป็นพระชายาเอกในองค์ชายเก้า แรกเริ่มนางก็คิดหวังว่าอาจมีองค์เทพที่กล่าววาจาคัดค้านว่าเซียนเล็กๆ เช่นนาง แม้จะผลคะแนนแซงหน้าบุตรหลานชาวสวรรค์แต่กำเนิด แต่ที่มาไร้ความสูงส่งเช่นนี้ก็ไม่ใคร่ว่าจะเหมาะสมแต่ทว่าเรื่องนี้ก็ผิดความคาดหมายของเสิ่นลี่อิง เพราะนอกจากจะไม่มีใครคัดค้านแล้ว ยังเห็นดีเห็นงามว่าควรมีเซียนตัวเล็กตัวน้อยแต่งเข้าราชวงศ์ในตำแหน่งใหญ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเผ่าสวรรค์นั้นไม่คิดรังเกียจแบ่งแยกผู้ใดเอ้า! จะมาใช้ข้าเป็นโครงการป
บทพิเศษ 13 ภารกิจจบการศึกษาเสิ่นลี่อิงที่ตื่นขึ้นมาแต่เช้าในวันที่ต้องไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย สองวันก่อนท่านอาจารย์ให้ทั้งสามสุ่มเลือกภารกิจที่พวกตนต้องรับผิดชอบ โดยที่จะไม่มีอาจารย์ท่านใดคอยช่วยเหลือนาง หนิงหลง และหลิวหยาง หากไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายจนถึงตายไม่แน่ว่าทั้งสามโชคดีหรือร้าย เพราะภารกิจที่สุ่มได้มานั้นเป็นสัตว์อสูรที่มีผู้พบเห็นน้อยมาก ความรู้เกี่ยวกับสัตว์อสูรชนิดนี้มีเพียงหนึ่งบรรทัด ความอันตรายไม่แน่ชัดนัก เป้าหมายคือการจับเป็นเพื่อนำมาศึกษาหากให้ไปกำจัดอสูรร้ายคงง่ายกว่าเพราะทำจากระยะไกลได้“พี่สาววันนี้มีพี่หานมารอท่านด้วยอีกคน รีบออกมาเถิด องค์ชายเก้าดูกระวนกระวายใจ
บทพิเศษ 12 ม้ามืดฟ้าสดใสเปล่งประกายครึ่งปีที่ผ่านมาองค์ชายเก้ามันหาเรื่องราวให้ได้มาอยู่ใกล้เสิ่นลี่อิง หากนางรำคาญก็จะเปลี่ยนเป้าหมายไปตีสนิทเปาหลงแทน อ้างความเป็นพ่อลูกในภพมนุษย์จึงทำให้รู้สึกอยากสนิทด้วย“นี่วังของท่านไม่มีท้อให้กินหรือ เหตุใดต้องมาแย่งของเซียนเล็กๆ อย่างข้ากับพี่สาวด้วย” เปาหลงที่เห็นองค์ชายตู้หนิงหลงกินอย่างอิ่มเอมก็อดจิกกัดออกไปไม่ได้“วันนี้เป็นวันสอบทฤษฎี ข้าก็ต้องมาสอดส่องว่าคู่แข่งของข้าทำสิ่งใด” หนิงหลงยักไหล่คล้ายว่าตนไม่ได้ทำอันใดแปลกประหลาด“อย่างไรอันดับหนึ่งสองและสามก็ย่อมได้ไปสอบปฏิบัติเพื่อโอกาสที่จะจบการศึกษาเร็วกว่าเพื่อนในรุ่นครึ่งปีอยู่แล้ว







