Share

บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่

last update Last Updated: 2025-10-26 19:44:37

บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่

“เสียนอ๋อง” หนึ่งในพระญาติของพระเอกและตัวร้ายที่รับบรรดาศักดิ์ต่อจากท่านปู่ของตน และก็นับว่าเป็นญาติผู้พี่ของนางด้วย ฝ่ายมารดาของเขาคือคนจากสกุลเสิ่น แต่จนถึงตอนล่าสุดที่ได้อ่าน นางก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ข้างใครระหว่าง ‘หนิงอ๋องหรือรัชทายาท’

“ว่าที่พระชายาในหนิงอ๋อง แท้จริงแล้วก็ยังไม่ตาย แต่กลับมาอยู่ในที่ดินปกครองของข้าเสียได้ น่าประหลาดใจนัก”

“คนนั้นยังไม่สลบ เขาได้ยินแล้วว่าข้ายังไม่ตาย” นางชี้ไปที่นักฆ่าคนหนึ่งที่เพียงแค่ตัวชากระตุกเพราะเครื่องช็อตไฟฟ้า และได้ยินญาติผู้พี่เฉลยตัวตนของเสิ่นลี่อิงออกมาจนหมดเปลือก 

       เสียนอ๋องเห็นเช่นนั้นก็ให้สัญญาณกับองครักษ์ให้ฆ่าทิ้งเสีย แม้เสิ่นลี่อิงจะปวดใจเพราะงานของนางคือการช่วยคน แต่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตนางหรือชีวิตศัตรู นางย่อมเลือกตนเอง

“คนที่นำดาบชี้ข้า มาใหม่หรือ”

       เสียนอ๋องพยักหน้า อ๋องหนุ่มสะบัดมือให้เหล่าองครักษ์หลบออกไปก่อน “จะเอาผิดหรือไม่”

“ไม่ล่ะ เสียเวลา ท่านมาที่นี่ทำไม”

“นี่มันเขตการปกครองของข้า เจ้าต่างหากยังไม่ตายเหตุใดจึงไม่กลับไป”

“ถูกตามล่าเช่นนี้ หากกลับไปข้าย่อมลำบาก ศัตรูอยู่ในที่ลับ ตัวข้าอยู่ในที่แจ้ง ตระกูลเสิ่นคงกำลังตามหาข้าอยู่ แล้วว่าที่สามีผู้นั้นเล่า ตามหาข้าบ้างหรือไม่”

“ไม่เลย จวนหนิงอ๋องไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใดๆ ตั้งแต่ก่อนเจ้าหายไปเสียอีก”

“หมายความเช่นไรกัน” นางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แม้เรื่องราวในช่วงนี้จะถูกข้ามไปในนิยาย แต่การหายเงียบไปของหนิงอ๋องตัวร้ายของเรื่องจะไม่สำคัญพอให้กล่าวถึงเลยหรือ เช่นนี้สาเหตุที่ไม่ได้มาตามหาเปาหลงให้พบจนตกเป็นเครื่องมือของผู้อื่น ก็เป็นเพราะหนิงอ๋องเองก็อยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดีใช่หรือไม่ ความคิดของเสิ่นลี่อิงกำลังยุ่งเหยิงอย่างถึงที่สุด 

หากกลับไปตอนนี้ก็ใช่ว่าข้าจะได้พบหนิงอ๋องสินะ

“หลังเจ้าออกเดินทางไม่นานนัก หนิงอ๋องก็จำเป็นต้องส่งอ๋องน้อยเข้าเมืองหลวง แต่ในระหว่างนั้น จู่ๆ หนิงอ๋องก็ไม่ปรากฏตัวที่ใด จวนอ๋องเองก็ปิดเงียบไม่รับแขก หลังจากนั้นก็เป็นเจ้าที่ตกผา และอีกไม่นานผู้คนก็รู้ว่าอ๋องน้อยก็หายตัวไป เพราะไปไม่ถึงเมืองหลวงตามกำหนดการ”

       นางก้มหน้าหลุบตามองพื้น คิดหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนิงอ๋อง นางเชื่อว่าเขาต้องไม่ตายเพราะเหตุการณ์หลังจากนี้เขาคือตัวการหลัก 

หนิงอ๋องยังอยู่ในจวนหรือหายตัวไปแล้วกันแน่

“คนที่มากับอ๋องน้อย ไม่เหลือเลยหรือ…ข้าควรทำอย่างไร” เสิ่นลี่อิงสะท้อนใจนัก ผู้ติดตามของนางและเปาหลงล้วนตายสิ้น นางและเปาหลงต้องอยู่รอด และไม่ให้การเสียสละนั้นสูญเปล่า

“ไม่เหลือ”

“เจ้า…ตระกูลเสิ่นเป็นห่วงเจ้ามาก จะให้ทุกคนเข้าใจไปเช่นนี้หรือ โดยเฉพาะบิดามารดาเจ้า กินไม่ได้นอนไม่หลับกันทีเดียว” เสียนอ๋องอย่างไรก็เป็นญาติผู้พี่ของเสิ่นลี่อิง เขาย่อมมีความเป็นห่วงเป็นใยให้นางอยู่บ้าง

       เสิ่นลี่อิงเงียบลงไม่รู้จะตอบสิ่งใด นางรู้สึกผิดต่อเจ้าของร่างนัก เมื่อแปรเปลี่ยนเป็นวิญญาณซาร่ามาอยู่ ก็ไร้ซึ่งความรู้สึกผูกพันมิได้นึกให้ละเอียดรอบคอบว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของร่างนี้จะรู้สึกแหลกสลายสักเพียงใด “ข้า…”

“เห้อ…พ่อของเจ้าถึงกับประกาศกร้าวว่าหากยังไม่เจอศพ ก็จะขอตามหาเจ้าจนกว่าชีวิตตนจะสิ้นไป”

“เรื่องนี้ข้าเองก็รู้สึกผิดอยู่ แต่ศัตรูของข้ามิได้มีเพียงคนนอก” 

       แม้นางจะมีของวิเศษติดตัวแต่น้ำกลิ่นจันทร์ก็แก้ได้เพียงพิษ หากพวกเขาจัดการนางด้วยวิธีอื่น เสิ่นลี่อิงย่อมมีความเสี่ยง “ห้ามแพร่งพรายเรื่องของข้า จนกว่าจะรู้ความเป็นไปของหนิงอ๋อง” 

อย่างน้อยหากมีหนิงอ๋อง บุญคุณที่ดูแลเลี้ยงดูเปาหลงจนปลอดภัยคงช่วยให้เขาใส่ใจความเป็นอยู่ของข้าบ้าง แต่ถ้าประมุขของจวนยังหายเงียบ ศัตรูหน้าไหนจะมาเกรงใจ

“ไปอยู่ที่จวนเสียนอ๋องดีกว่าหรือไม่ ข้าจะได้ดูแลเจ้าได้ มาอยู่ห่างหูห่างตาผู้อื่นอย่างนี้ปลอดภัยแน่หรือ” 

“ไม่สะดวกไปอยู่หรอก แบบนั้นน่าจับตามองเกินไป เสียนอ๋องผู้ไร้ซึ่งชายารองพาแม่นางน้อยเข้าจวนคงได้เป็นข่าวลือไปถึงเมืองหลวง แต่ข้าขอฝากสิ่งนี้ให้ท่านพ่อท่านแม่ของข้าแทน” นางส่งถุงหอมที่เสิ่นลี่อิงคนเดิมใช้ติดกายเสมอไปให้เสียนอ๋อง 

“บอกพวกเขาว่าข้าไม่เป็นอันใด ลดกำลังตามหา แต่อย่าหยุดเด็ดขาด แสดงให้แนบเนียน ถึงเวลาข้าจะกลับไปเอง”

“ย่อมได้ แต่เจ้าต้องบอกข้าว่าอาวุธของเจ้าคือสิ่งใด”

“อาวุธนี้ได้มาตอนหยุดหายใจ ท่านเทพประทานให้”

       สายตาของเสียนอ๋องเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเขาจ้องหน้านางนิ่ง เสียนอ๋องและเจ้าของร่างเก่าเคยสนิทกันมาก แต่หลังจากมารับบรรดาศักดิ์ เสียนอ๋องก็ต้องมาอยู่ไกลจากเมืองหลวงจึงห่างเหินกันไป

      

       นางรอเขาพูดเรื่องวันนี้ แต่เมื่อเขาไม่คิดจะบอกว่าเหตุใดจึงถูกตามฆ่านางก็จะไม่ถาม  ญาติผู้พี่ของนางผู้นี้ตามความทรงจำของคุณหนูเสิ่น หากยิ่งถามก็จะยิ่งเก็บเงียบ เมื่อไม่มีใครพูดกันอีก ลี่อิงจึงต้องพูดทำลายความเงียบขึ้นมาเอง

“เสียเวลามากแล้ว เจ้าก็ลืมไปเสียว่าเจอข้า หากมีข่าวหนิงอ๋องให้จัดงานชมจันทร์ในจวนเสียนอ๋องข้าจะไปพบท่านเอง” เมื่อเห็นว่าญาติตนพยักหน้ารับ และยื่นป้ายเข้าออกจวนมาให้เรียบร้อยแล้ว เสิ่นลี่อิงก็ก้าวเท้าสับๆ ออกจากป่ามาทันที

ต้องมีเรื่องให้ถามเปาหลงอีกเสียแล้ว

.

.

“ลี่อิง! เจ้ามาเสียที ข้ากำลังจะให้สามีไปตามเจ้าในป่า ไปนานเหลือเกิน เกิดอันใดขึ้น” จินเหมยร้องออกมาทันทีที่เห็นเงานางเดินมา

“ในป่ามืดนัก ข้าเดินวนอยู่ครู่ใหญ่จึงออกมาช้า เปาหลงเล่าพี่จิน”

“ร้องไห้เป็นห่วงเจ้าจนหลับไปเสียแล้ว เด็กเคยหลงป่า เมื่อเห็นเจ้าไม่มาคงคิดไปเสียมากมาย เจ้าอุ้มกลับเถิด”

.

.

.

เปาเปาเอ๋ย เกิดสิ่งใดขึ้นกับพ่อเจ้ากันแน่นะ 

       เสิ่นลี่อิงอุ้มเปาหลงวางลงบนเตียง ก่อนจะนั่งลงข้างกัน นางคิดว่าการจัดการครั้งนี้อาจเป็นฝีมือของผู้บงการคนเดียวกันก็ได้! คนที่มีความเกี่ยวข้องกับจวนหนิงอ๋องถูกจัดการในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งหมด จัดการด้วยวิธีการเดียวกัน มีเพียงหนิงอ๋องที่นางยังไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใด 

       แผนการที่สามารถลบคนออกจากกระดานได้สามคนในคราวเดียวจะต้องมีเกลือเป็นหนอนจึงจะสำเร็จได้ เห็นทีตอนนี้จวนหนิงอ๋องจะอันตรายที่สุดเสียแล้ว ใครบ้างที่มือยาวพอจะสาวเข้าไปถึงภายในจวนอ๋อง

คนต่างแคว้น ฮองเฮา ซูเฟย หรือจะเป็นพระเอกในนิยายแต่ตอนนี้น่าจะอายุแค่สิบสองสิบสาม ไม่น่าใช่.. ปวดหัวจริง! หนิงอ๋องศัตรูของท่านมีมากเกินไปหรือไม่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 19 ผันตัวมาเปิดแผงอาหาร

    บทที่ 19 ผันตัวมาเปิดแผงอาหารท่ามกลางบรรยากาศที่ยังคงมืดมิดนั้น มีแสงตะเกียงส่องสว่างอยู่หน้าโรงเรือนเห็ดของเสิ่นลี่อิง นางลุกขึ้นมาตั้งแต่ยามอิ๋นเพื่อเพาะเห็ดหลินจินดำและเห็ดหลินจือแดงตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เห็ดที่พรมน้ำกลิ่นจันทร์ไว้เริ่มเกิดเชื้อเห็ดปกคลุมแล้ว จึงต้องรีบนำมาเพาะเสียก่อน เห็ดอื่นที่นางเพาะไว้ก็เริ่มเติบโตแล้วเช่นกัน เห็นทีพรุ่งนี้นางคงได้นำเห็ดไปขายแลกเงินแล้วเมื่อจัดการกับหลินจือทั้งสามถังเรียบร้อยแล้ว นางก็นำขวดสเปรย์ในมิติมาฉีดพ่นน้ำเล็กน้อย จากนั้นก็ไปเตรียมตัวออกไปขายของในเมืองเสิ่นลี่อิงปลุกเปาเปาในยามเหม่าจับเด็กน้อยอาบน้ำแต่งตัวให้หอมฉุย เพื่อใช้ความน่ารักของเด็กน้อยมาเรียกลูกค้า “วันนี้ใครผ่านมาหน้าแผ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 18 หาเงินสำรองไว้

    บทที่ 18 หาเงินสำรองไว้เมื่อกลับมาถึงบ้านไฉ่ตู้ก็นำรถเข็นมาส่งกับนางพอดีพร้อมๆ กันนั้นลุงไฉ่เองก็นำน้ำแกงบะหมี่ของวันมาส่งไว้ให้ด้วยเช่นกัน “แม่นางมาพอดี รถเข็นนี้บ้านป้าสู่ไม่ใช้แล้วขายให้เจ้าหนึ่งร้อยอีแปะ รถยังดีอยู่ ข้าว่าเหมาะสม”“ขอบใจมาก นำเข้าบ้านได้เลย ขอบคุณลุงไฉ่เช่นกันเจ้าค่ะน้ำแกงเดี๋ยวข้ายกเอง”เสิ่นลี่อิงตรวจสอบรถเข็นที่ได้มาก็พบว่ายังดีอยู่จริงๆ หากจะซื้อของใหม่จากในเมืองมีราคาสูงถึงห้าร้อยอีแปะ แม้จะมีเงินมากแต่ผู้ใดจะล่วงรู้อนาคต หากวันใดที่นางต้องพาเปาหลงหนีก็คงออกมาหาเงินไม่ได้อีก“เปาเปาเจ้าเข้าบ้านก่อน ถึงเวลาดื่มนมแล้ว” นางเรียกเปาหลงที่กำลังวิ่งเล่นบนผืนดิน

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 17 ใช้ชีวิตต่อไป

    บทที่ 17 ใช้ชีวิตต่อไปเช้านี้เสิ่นลี่อิงลุกขึ้นจากเตียงอย่างยากเย็น แม้หนิงอ๋องจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับนาง แต่จากการที่เปาหลงยังนึกถึงและกล่าวถึงพ่อของตนเสมอ ก็ทำให้นางเป็นห่วงเขาไม่น้อยเช่นกัน และที่สำคัญคือความรู้สึกของเปาหลง หากรู้ว่าพ่อของตนมิรู้ว่าเป็นเช่นไรจะกังวลหรือไม่ ลี่อิงก็คิดห่วงไปมากมายนางลืมตามองเพดานอยู่นานจนเปาหลงต้องตื่นมาเขย่าให้นางลุกขึ้น เพราะหน้าบ้านไฉ่ตู้กำลังส่งเสียงเรียกนางอยู่ “พี่สาวมีคนมา”“แม่นางลี่อิง! ท่านอยู่หรือไม่ ข้ามาถอนหญ้าต่อ แม่นาง!”“พี่สาว ไฉ่ตู้มา ท่านลุกขึ้น”“ขอเวล

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่

    บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่“เสียนอ๋อง” หนึ่งในพระญาติของพระเอกและตัวร้ายที่รับบรรดาศักดิ์ต่อจากท่านปู่ของตน และก็นับว่าเป็นญาติผู้พี่ของนางด้วย ฝ่ายมารดาของเขาคือคนจากสกุลเสิ่น แต่จนถึงตอนล่าสุดที่ได้อ่าน นางก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ข้างใครระหว่าง ‘หนิงอ๋องหรือรัชทายาท’“ว่าที่พระชายาในหนิงอ๋อง แท้จริงแล้วก็ยังไม่ตาย แต่กลับมาอยู่ในที่ดินปกครองของข้าเสียได้ น่าประหลาดใจนัก”“คนนั้นยังไม่สลบ เขาได้ยินแล้วว่าข้ายังไม่ตาย” นางชี้ไปที่นักฆ่าคนหนึ่งที่เพียงแค่ตัวชากระตุกเพราะเครื่องช็อตไฟฟ้า และได้ยินญาติผู้พี่เฉลยตัวตนของเสิ่นลี่อิงออกมาจนหมดเปลือก เสียนอ๋องเห็นเช่นนั้นก็ให้สัญญาณกับองครักษ์ให้ฆ่าทิ้งเสีย แม้เสิ่นลี่อิงจะปวดใจเพราะงานของนางคือการช่วยคน แต่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตนางหรือชีวิตศัตรู นางย่อมเลือกตนเอง“คนที่นำดาบชี้ข้า มาใหม่หรือ” เสียนอ๋องพยักหน้า อ๋องหนุ่มสะบัดมือให้เหล่าองครักษ์หลบออกไปก่อน “จะเอาผิดหรือไม่”“ไม่ล่ะ เสียเวลา ท่านมาที่นี่ทำไม”“นี่มันเขตการปกครองของข้า เจ้าต่างหากยังไม่ตายเหตุใดจึงไม่กลับไป”“ถูกตามล่าเช่นนี้ หากกลับไปข้าย่อมลำ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 15  อันตรายในป่า

    บทที่ 15 อันตรายในป่า เสิ่นลี่อิงร้องบอกให้ไฉ่หม่ากลับไปทำงาน ไม่ได้สนใจจะพูดคุยกับฉินเปาแม้เพียงครึ่งคำ “แม่นางมาพอดี น้ำเดือดมาได้สักพักแล้ว” ไฉ่ตู้ที่กำลังเปิดฝาดูไม่ให้น้ำแห้งเอ่ยออกมา“ข้าจัดการต่อเอง ขอบคุณมาก” เสิ่นลี่อิงเติมน้ำเล็กน้อยและใส่ขี้เลื่อยที่ได้มาลงไปด้วย นางต้องปล่อยให้น้ำต้มนี้เดือดไปอย่างน้อยหนึ่งชั่วยาม เวลาระหว่างนั้นนางจึงทำถู่โต้วทอด กินคู่กับเนื้อหมูสันคอย่างชิ้นโต ราดซอสงาขาว เคียงด้วยยำแตงกว่ารสเผ็ดเล็กน้อย แต่สำหรับเปาเปาเขาได้ทานแครอทหั่นแท่งแทน เจ้าของบ้านอย่างลี่อิงแบ่งอาหารให้กับสองพี่น้องไฉ่ด้วย ไฉ่ตู้ชื่นชมนางไม่ขาดปาก หลังกินเสร็จก็เร่งงานยิ่งกว่าเดิม ส่วนอีกคนก็กินแรงตามเคย ทั้งยังบ่นมาตามลมว่านางมีข้าวสารมากมาย แต่ขนเส้นเดียวก็ไม่ยอมถอน“ไม่ถูกใจก็ไม่ต้องกิน!” ลี่อิงเองก็เหลืออดเหลือเกิน จึงพูดกระทบกระเทียบกลับไปบ้าง การกินข้าวของนางจึงได้เงียบสงบลงมาเสียที กินเสร็จเสิ่นลี่อิงก็ดับไฟและปิดฝาไว้ “รอให้เย็นก่อนนะ” ระหว่างนั้นก็ให้เปาเปาเอากิ่งไม้มาฝึกเขียนอักษรบนพื้นดิน พร้อมนางที่นั่งทำเสี่ยวหลงเปาอยู่ข้างกัน ลุงไฉ่

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 14  งานการมากมาย

    บทที่ 14 งานการมากมาย เสิ่นลี่อิงนำดินที่นางขุดออกมาจากมิติ และให้เปาเปานำขี้ทาเกลือคล้ายทรายมาผสมกับดินที่นางขุดมา เมื่อผสมเสร็จแล้วลี่อิงจึงนำถังไม้ขนาดกำลังดีออกมาสองถัง ถังหนึ่งนางใช้ตะปูตอกให้เป็นรูเล็กๆ เพียงสองรู และนำผ้าขาวบางรองไว้ที่ก้นถัง ก่อนจะสั่งให้เด็กน้อยนำดินที่คลุกผสมทั้งสองส่วนเรียบร้อยแล้วมาตักลงใส่ถังที่มีผ้าขาวบางรองไว้อยู่ “ครานี้เจ้าใช้มือกดลงไปให้แน่นๆด้วยแล้วค่อยเติมลงไปเพิ่ม หากไม่แน่นน้ำจะไหลผ่านเร็วและได้เกลือน้อย”“ขอรับ” เด็กน้อยรับคำสั่งและใช้มือของตนตบดินลงไปจนแน่น เสิ่นลี่อิงเห็นว่าเด็กน้อยทำสุดแรงของตนแล้ว นางจึงใช้มือของตนในการกดลงบ้าง เมื่อนางเห็นว่าแน่นดีแล้วก็พยักหน้าให้เปาเปาตักดินใส่ชั้นต่อไปได้ ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนเต็มถังไม้ เสิ่นลี่อิงวางถังไม้ที่มีดินอยู่ไว้ด้านบนและถังไม้ที่ไม่มีสิ่งใดไว้ด้านล่างนางตักน้ำใส่ถังที่มีดินลงไป ก่อนจะยกขึ้นดูเล็กน้อยว่ามีน้ำหยดออกมาหรือไม่ เมื่อเห็นว่ามีน้ำหยดแล้ว นางจึงรอให้น้ำด้านบนซึมลงไปก่อนจากนั้นค่อยตักน้ำใส่เพิ่มทีละน้อยทีละน้อย “เหลือเพียงแต่รอแล้ว หากน้ำไหลออกมาเต็มถังนี้ และเค็มเพียงพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status