Share

บทที่ 15  อันตรายในป่า

last update Last Updated: 2025-10-26 19:44:31

บทที่ 15  อันตรายในป่า

       เสิ่นลี่อิงร้องบอกให้ไฉ่หม่ากลับไปทำงาน ไม่ได้สนใจจะพูดคุยกับฉินเปาแม้เพียงครึ่งคำ 

“แม่นางมาพอดี น้ำเดือดมาได้สักพักแล้ว” ไฉ่ตู้ที่กำลังเปิดฝาดูไม่ให้น้ำแห้งเอ่ยออกมา

“ข้าจัดการต่อเอง ขอบคุณมาก” เสิ่นลี่อิงเติมน้ำเล็กน้อยและใส่ขี้เลื่อยที่ได้มาลงไปด้วย นางต้องปล่อยให้น้ำต้มนี้เดือดไปอย่างน้อยหนึ่งชั่วยาม เวลาระหว่างนั้นนางจึงทำถู่โต้วทอด กินคู่กับเนื้อหมูสันคอย่างชิ้นโต ราดซอสงาขาว เคียงด้วยยำแตงกว่ารสเผ็ดเล็กน้อย แต่สำหรับเปาเปาเขาได้ทานแครอทหั่นแท่งแทน 

       เจ้าของบ้านอย่างลี่อิงแบ่งอาหารให้กับสองพี่น้องไฉ่ด้วย ไฉ่ตู้ชื่นชมนางไม่ขาดปาก หลังกินเสร็จก็เร่งงานยิ่งกว่าเดิม ส่วนอีกคนก็กินแรงตามเคย ทั้งยังบ่นมาตามลมว่านางมีข้าวสารมากมาย แต่ขนเส้นเดียวก็ไม่ยอมถอน

“ไม่ถูกใจก็ไม่ต้องกิน!” ลี่อิงเองก็เหลืออดเหลือเกิน จึงพูดกระทบกระเทียบกลับไปบ้าง การกินข้าวของนางจึงได้เงียบสงบลงมาเสียที

       กินเสร็จเสิ่นลี่อิงก็ดับไฟและปิดฝาไว้ “รอให้เย็นก่อนนะ” ระหว่างนั้นก็ให้เปาเปาเอากิ่งไม้มาฝึกเขียนอักษรบนพื้นดิน พร้อมนางที่นั่งทำเสี่ยวหลงเปาอยู่ข้างกัน 

       ลุงไฉ่นำน้ำแกงมาส่งให้ตอนนางไปซื้อถังกับลุงกู้ ท่าทางลุงไฉ่คนคำนวณแล้วว่าหากนำมารอบสุดท้ายคงจะเปลืองเนื้อที่เกินไป

       เมื่องานเสร็จกิ่งไม้ก็เย็นแล้ว นางให้เปาเปาบีบน้ำออกให้พอหมาดแล้วใส่ลงในถังที่รองด้วยผ้าขาวบางไว้ ส่วนลี่อิงก็นำก้านเห็ดที่เริ่มมีเชื้อเดินมาหั่นโรยลงไป สลับเช่นนี้จนเต็ม และนำฝามาปิดไว้ นำไปวางเรียงในเพิงไม้ นางนำแผ่นไม้มาปิดทางเข้าให้มืดถือเป็นอันเสร็จ

“เปาเปาต้องมาพ่นน้ำวันละสองครั้งนะ พรุ่งนี้ข้าสอน” นางที่คุยกับเปาเปาก็เห็นพี่น้องไฉ่เดินมาพอดี

“แม่นาง พวกข้าขอกลับก่อน พรุ่งนี้จะมาทำต่อ” นางไม่ว่าอะไร เพียงแค่เดินออกไปดูว่าทั้งคู่ออกไปจากบริเวณบ้านนาง ก็พบว่าฉินเปายังยืนส่องดูบ้านของตนจากไกลๆ

ช่างเป็นตัวน่ารำคาญเสียจริง!

“เปาเปาเข้าบ้าน” ลี่อิงเรียกเปาเปาแต่ตาจ้องมองจ้องไปให้ฉินเปารู้ตัวเสียทีว่านางเห็นเขาเข้าแล้ว ชายผู้ไม่หลาบจำจึงหมุนหลบไป ส่วนนางเองก็เข้าบ้านมาตรวจดูน้ำเกลือว่าใช้ได้แล้วหรือยัง 

“น้ำเต็มแล้วพี่สาว” 

“ใช่แล้ว เจ้าไปอยู่รอบ้านน้าจินเหมยได้หรือไม่ ข้าจะเข้าป่าไปเอาต้นหนามจางครู่เดียวเท่านั้น” 

“เอามาทำสิ่งใดขอรับ เย็นแล้ว รอพรุ่งนี้”

“เอามาวัดความเค็มของน้ำเกลือ หากใส่ไปแล้วหนามจางลอยก็ถือว่าใช้ได้” 

“ระวังด้วย”

“รู้แล้ว” นางนำเปาเปาไปฝากจินเหมยไว้พร้อมด้วยกับข้าวสามอย่างมีผัดฟักทอง หมูมะนาว แกงกะหรี่ไก่ และนมช็อกโกแลตสำหรับเปาหลงและลู่เว่ยอีกคนละแก้ว จากนั้นก็มุ่งหน้าเข้าไปเก็บกิ่งต้นหนามจางในป่าทันที

       เสิ่นลี่อิงเข้าป่ามาในเวลาเย็นย่ำ ป่าที่มีต้นไม้สูงเรียงรายก็ยิ่งมีให้แสงลอดผ่านเข้ามาน้อยลงกว่าเดิม แต่นั่นไม่ได้ทำให้นางรู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย คุณหนูเสิ่นที่ตกยากเดินสบายๆ มุ่งหน้าไปยังเส้นทางเดิม เก็บกิ่งต้นหนามจางใส่มิติแล้วก็เร่งสาวเท้าเดินออกจากป่าให้ทันก่อนที่ป่านี้จะมืดสนิท

นางเดินกลับมาสักพักก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าคน แต่เมื่อนางหยุดเสียงนั้นก็เงียบลงไปตามเดิม ลี่อิงหลับตาตั้งสมาธิฟังก็ไม่ได้ยินเสียงใดอีกจึงเริ่มเดินต่อ ครานี้เสียงฝีเท้าเดินย่ำแปรเปลี่ยนเป็นเสียงวิ่งมุ่งตรงมาที่ด้านหลังของนาง

นี่!?

       ร่างกายเคลื่อนไหวไปเร็วกว่าความคิดนางตวัดขากลับไปถีบยอดหน้าคนที่พุ่งเข้ามา อีกมือจิกผม แล้วฟาดเข้ากับต้นไม้ด้านข้างซ้ำๆ ตะเกียงที่ถือมาตกไปอยู่ที่พื้นเสียแล้ว แต่เสิ่นลี่อิงก็หาได้สนใจไม่ นางหันกลับไปใช้เท้ากระทืบลงบนท้องของคนที่โดนถีบเมื่อตอนแรก จากนั้นจึงได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของไฉ่หม่า “ลี่อิงฆ่าคนแล้ว นางกระทืบคน”

ห๊ะ?! สองคนนั้นอยู่นู่น แล้วนี่ใคร??

“หนีเร็ว” ฉินเปาตะโกนบอกให้ไฉ่หม่าวิ่งหนีกับตน แต่กลับถูกชายผู้หนึ่งดักไว้ และจัดการให้พวกเข้าสลบเสียก่อน เมื่อสถานการณ์กลับตาลปัตรเช่นนี้ เสิ่นลี่อิงจึงหันมองทางหนีทีไล่ด้านในป่า 

       นางกลับออกไปไม่ได้เด็ดขาด หากนี่เป็นกลุ่มนักฆ่าที่มาตามหาเปาหลง ลี่อิงต้องล่อพวกมันไปให้ไกลที่สุด ไม่มีเวลาให้คิดอันใด นางหยิบดาบจากนักฆ่าสองคนที่จัดการในตอนแรก แล้ววิ่งลึกเข้าไปในป่า

       เสิ่นลี่อิงไม่รู้ว่าเดินมาพบสิ่งใดเข้า แต่นางรู้สึกหงุดหงิดยิ่งนัก หากนี่ไม่ใช่กลุ่มนักฆ่าที่ตามล่าเปาเปา ป่าแห่งนี้ก็คงนับว่าเป็นขวัญใจนักฆ่า ไม่รู้เหตุใดจึงจับจองมาไล่ฆ่ากันที่ป่านี้อยู่ได้

ป่าอื่นมันฆ่ากันไม่ได้เหรอ

‘ปัก พึ่บ พั่บ ตุบ’ เสียงต่อสู้ดังมาจากข้างหน้า นางที่หวังจะวิ่งหนีไปอีกทางกลับถูกสังเกตเห็นเสียก่อน จากที่โดนนักฆ่าวิ่งตามมาผู้หนึ่งอยู่แล้วก็ต้องมารับมือกับนักฆ่าอีกผู้หนึ่งที่หมายจะฆ่านางปิดปากไปเสีย โชคยังดีที่ครานี้ตัวนางมิใช่เป้าหมาย จึงต้องรับมือกับนักฆ่าเพียงแค่สองคน 

“ส่งของมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”

“ไม่มีทาง”

“เช่นนั้นก็ตายอยู่ในป่าแห่งนี้เสีย”

        เสียงกลุ่มนักฆ่าและชายผู้หนึ่งตะคอกเถียงกันออกมา เสิ่นลี่อิงจึงสบายใจแล้วว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้มาตามล่าเปาหลงตัวน้อยของนาง เพราะความไม่ชำนาญในการต่อสู้ด้วยดาบ และเป็นฝ่ายที่กำลังถูกรุมจึงทำให้เสิ่นลี่อิงตกเป็นรองพวกนักฆ่าในเวลาไม่นาน คราแรกนางเพียงโชคดีที่พวกมันไม่ทันได้ตั้งตัวเท่านั้น

       เมื่อถึงคราวเข้าตาจน นางจึงต้องนำเครื่องช็อตไฟฟ้าออกมาจากมิติ เพื่อจี้จัดการนักฆ่า แต่ก็ยังต้องเสียแรงต่อสู้อยู่บ้าง เพราะต้องจี้ให้โดนจุดรวมประสาทจึงจะทำให้ชาทั้งร่างกายหรือสลบได้ 

       เสิ่นลี่อิงจัดการพวกเขาทีละคนจนนักฆ่าเริ่มหันมาสนใจนาง ชายที่ต่อสู้อยู่กับพวกเขาจึงต้องเปลี่ยนมาช่วยเสิ่นลี่อิงแทน “อย่าฆ่าหมด” 

“แค่สลบ ไม่ตาย” สิ้นคำลี่อิงก็จี้เครื่องช็อตไฟฟ้าใส่ท้ายทอยนักฆ่าคนสุดท้าย เมื่อจัดการทุกคนครบแล้วก็เกิดการประลองสายตาย่อมๆ ขึ้นในป่าอันมืดมิด 

       คนทั้งสองทำเพียงแค่จ้องตากันด้วยแววตายากที่จะอธิบาย ไม่มีสายตาแสดงความขอบคุณ แต่สายตานั้นกลับให้ความรู้สึกว่ากำลังลอบประเมินกันเสียมากกว่า ก่อนทั้งสองจะถูกขัดด้วยเสียงของผู้คนวิ่งเข้ามาหาชายตรงหน้า

       หนึ่งในคนที่มาใหม่ยกดาบชี้หน้านาง ส่วนที่เหลือคุกเข่าลงต่อหน้าชายผู้นั้น “ขอท่านอ๋องโปรดลงอาญา พวกกระหม่อมไร้สามารถปกป้องท่านมิได้”

“บอกคนของท่านให้เอาดาบออกจากหน้าข้าด้วย”

       เขาพยักหน้าเล็กน้อย สั่งให้องครักษ์หน้านิ่งตรงหน้านางให้ทำตามทันที “ลดดาบ”

“ท่านช่างปฏิบัติกับผู้มาช่วยเหลือได้แปลกดีแท้”

“เจออ๋องแล้วไม่คำนับแปลกดีแท้”

“ข้าเป็นแม่นางตัวเล็กๆ พึ่งผ่านเหตุการณ์น่าระทึกขวัญจิตใจย่อมไม่ปกติ”

“ข้าเป็นอ๋องจิตไม่ปกติสั่งลงโทษคนอย่างไร้สาเหตุยังกล้าทำ”

“อ้อ เช่นนั้นหรือ” พูดจบเสิ่นลี่อิงยอมย่อตัวลงแสดงความเคารพคนตรงหน้า “ถวายพระพรเพคะ”

“ไม่ต้องมากพิธีไปหรอกคุณหนูเสิ่น”

_______

ขนเส้นเดียวก็ไม่ยอมถอน หมายถึงขี้งกมาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 19 ผันตัวมาเปิดแผงอาหาร

    บทที่ 19 ผันตัวมาเปิดแผงอาหารท่ามกลางบรรยากาศที่ยังคงมืดมิดนั้น มีแสงตะเกียงส่องสว่างอยู่หน้าโรงเรือนเห็ดของเสิ่นลี่อิง นางลุกขึ้นมาตั้งแต่ยามอิ๋นเพื่อเพาะเห็ดหลินจินดำและเห็ดหลินจือแดงตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เห็ดที่พรมน้ำกลิ่นจันทร์ไว้เริ่มเกิดเชื้อเห็ดปกคลุมแล้ว จึงต้องรีบนำมาเพาะเสียก่อน เห็ดอื่นที่นางเพาะไว้ก็เริ่มเติบโตแล้วเช่นกัน เห็นทีพรุ่งนี้นางคงได้นำเห็ดไปขายแลกเงินแล้วเมื่อจัดการกับหลินจือทั้งสามถังเรียบร้อยแล้ว นางก็นำขวดสเปรย์ในมิติมาฉีดพ่นน้ำเล็กน้อย จากนั้นก็ไปเตรียมตัวออกไปขายของในเมืองเสิ่นลี่อิงปลุกเปาเปาในยามเหม่าจับเด็กน้อยอาบน้ำแต่งตัวให้หอมฉุย เพื่อใช้ความน่ารักของเด็กน้อยมาเรียกลูกค้า “วันนี้ใครผ่านมาหน้าแผ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 18 หาเงินสำรองไว้

    บทที่ 18 หาเงินสำรองไว้เมื่อกลับมาถึงบ้านไฉ่ตู้ก็นำรถเข็นมาส่งกับนางพอดีพร้อมๆ กันนั้นลุงไฉ่เองก็นำน้ำแกงบะหมี่ของวันมาส่งไว้ให้ด้วยเช่นกัน “แม่นางมาพอดี รถเข็นนี้บ้านป้าสู่ไม่ใช้แล้วขายให้เจ้าหนึ่งร้อยอีแปะ รถยังดีอยู่ ข้าว่าเหมาะสม”“ขอบใจมาก นำเข้าบ้านได้เลย ขอบคุณลุงไฉ่เช่นกันเจ้าค่ะน้ำแกงเดี๋ยวข้ายกเอง”เสิ่นลี่อิงตรวจสอบรถเข็นที่ได้มาก็พบว่ายังดีอยู่จริงๆ หากจะซื้อของใหม่จากในเมืองมีราคาสูงถึงห้าร้อยอีแปะ แม้จะมีเงินมากแต่ผู้ใดจะล่วงรู้อนาคต หากวันใดที่นางต้องพาเปาหลงหนีก็คงออกมาหาเงินไม่ได้อีก“เปาเปาเจ้าเข้าบ้านก่อน ถึงเวลาดื่มนมแล้ว” นางเรียกเปาหลงที่กำลังวิ่งเล่นบนผืนดิน

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 17 ใช้ชีวิตต่อไป

    บทที่ 17 ใช้ชีวิตต่อไปเช้านี้เสิ่นลี่อิงลุกขึ้นจากเตียงอย่างยากเย็น แม้หนิงอ๋องจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับนาง แต่จากการที่เปาหลงยังนึกถึงและกล่าวถึงพ่อของตนเสมอ ก็ทำให้นางเป็นห่วงเขาไม่น้อยเช่นกัน และที่สำคัญคือความรู้สึกของเปาหลง หากรู้ว่าพ่อของตนมิรู้ว่าเป็นเช่นไรจะกังวลหรือไม่ ลี่อิงก็คิดห่วงไปมากมายนางลืมตามองเพดานอยู่นานจนเปาหลงต้องตื่นมาเขย่าให้นางลุกขึ้น เพราะหน้าบ้านไฉ่ตู้กำลังส่งเสียงเรียกนางอยู่ “พี่สาวมีคนมา”“แม่นางลี่อิง! ท่านอยู่หรือไม่ ข้ามาถอนหญ้าต่อ แม่นาง!”“พี่สาว ไฉ่ตู้มา ท่านลุกขึ้น”“ขอเวล

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่

    บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่“เสียนอ๋อง” หนึ่งในพระญาติของพระเอกและตัวร้ายที่รับบรรดาศักดิ์ต่อจากท่านปู่ของตน และก็นับว่าเป็นญาติผู้พี่ของนางด้วย ฝ่ายมารดาของเขาคือคนจากสกุลเสิ่น แต่จนถึงตอนล่าสุดที่ได้อ่าน นางก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ข้างใครระหว่าง ‘หนิงอ๋องหรือรัชทายาท’“ว่าที่พระชายาในหนิงอ๋อง แท้จริงแล้วก็ยังไม่ตาย แต่กลับมาอยู่ในที่ดินปกครองของข้าเสียได้ น่าประหลาดใจนัก”“คนนั้นยังไม่สลบ เขาได้ยินแล้วว่าข้ายังไม่ตาย” นางชี้ไปที่นักฆ่าคนหนึ่งที่เพียงแค่ตัวชากระตุกเพราะเครื่องช็อตไฟฟ้า และได้ยินญาติผู้พี่เฉลยตัวตนของเสิ่นลี่อิงออกมาจนหมดเปลือก เสียนอ๋องเห็นเช่นนั้นก็ให้สัญญาณกับองครักษ์ให้ฆ่าทิ้งเสีย แม้เสิ่นลี่อิงจะปวดใจเพราะงานของนางคือการช่วยคน แต่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตนางหรือชีวิตศัตรู นางย่อมเลือกตนเอง“คนที่นำดาบชี้ข้า มาใหม่หรือ” เสียนอ๋องพยักหน้า อ๋องหนุ่มสะบัดมือให้เหล่าองครักษ์หลบออกไปก่อน “จะเอาผิดหรือไม่”“ไม่ล่ะ เสียเวลา ท่านมาที่นี่ทำไม”“นี่มันเขตการปกครองของข้า เจ้าต่างหากยังไม่ตายเหตุใดจึงไม่กลับไป”“ถูกตามล่าเช่นนี้ หากกลับไปข้าย่อมลำ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 15  อันตรายในป่า

    บทที่ 15 อันตรายในป่า เสิ่นลี่อิงร้องบอกให้ไฉ่หม่ากลับไปทำงาน ไม่ได้สนใจจะพูดคุยกับฉินเปาแม้เพียงครึ่งคำ “แม่นางมาพอดี น้ำเดือดมาได้สักพักแล้ว” ไฉ่ตู้ที่กำลังเปิดฝาดูไม่ให้น้ำแห้งเอ่ยออกมา“ข้าจัดการต่อเอง ขอบคุณมาก” เสิ่นลี่อิงเติมน้ำเล็กน้อยและใส่ขี้เลื่อยที่ได้มาลงไปด้วย นางต้องปล่อยให้น้ำต้มนี้เดือดไปอย่างน้อยหนึ่งชั่วยาม เวลาระหว่างนั้นนางจึงทำถู่โต้วทอด กินคู่กับเนื้อหมูสันคอย่างชิ้นโต ราดซอสงาขาว เคียงด้วยยำแตงกว่ารสเผ็ดเล็กน้อย แต่สำหรับเปาเปาเขาได้ทานแครอทหั่นแท่งแทน เจ้าของบ้านอย่างลี่อิงแบ่งอาหารให้กับสองพี่น้องไฉ่ด้วย ไฉ่ตู้ชื่นชมนางไม่ขาดปาก หลังกินเสร็จก็เร่งงานยิ่งกว่าเดิม ส่วนอีกคนก็กินแรงตามเคย ทั้งยังบ่นมาตามลมว่านางมีข้าวสารมากมาย แต่ขนเส้นเดียวก็ไม่ยอมถอน“ไม่ถูกใจก็ไม่ต้องกิน!” ลี่อิงเองก็เหลืออดเหลือเกิน จึงพูดกระทบกระเทียบกลับไปบ้าง การกินข้าวของนางจึงได้เงียบสงบลงมาเสียที กินเสร็จเสิ่นลี่อิงก็ดับไฟและปิดฝาไว้ “รอให้เย็นก่อนนะ” ระหว่างนั้นก็ให้เปาเปาเอากิ่งไม้มาฝึกเขียนอักษรบนพื้นดิน พร้อมนางที่นั่งทำเสี่ยวหลงเปาอยู่ข้างกัน ลุงไฉ่

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 14  งานการมากมาย

    บทที่ 14 งานการมากมาย เสิ่นลี่อิงนำดินที่นางขุดออกมาจากมิติ และให้เปาเปานำขี้ทาเกลือคล้ายทรายมาผสมกับดินที่นางขุดมา เมื่อผสมเสร็จแล้วลี่อิงจึงนำถังไม้ขนาดกำลังดีออกมาสองถัง ถังหนึ่งนางใช้ตะปูตอกให้เป็นรูเล็กๆ เพียงสองรู และนำผ้าขาวบางรองไว้ที่ก้นถัง ก่อนจะสั่งให้เด็กน้อยนำดินที่คลุกผสมทั้งสองส่วนเรียบร้อยแล้วมาตักลงใส่ถังที่มีผ้าขาวบางรองไว้อยู่ “ครานี้เจ้าใช้มือกดลงไปให้แน่นๆด้วยแล้วค่อยเติมลงไปเพิ่ม หากไม่แน่นน้ำจะไหลผ่านเร็วและได้เกลือน้อย”“ขอรับ” เด็กน้อยรับคำสั่งและใช้มือของตนตบดินลงไปจนแน่น เสิ่นลี่อิงเห็นว่าเด็กน้อยทำสุดแรงของตนแล้ว นางจึงใช้มือของตนในการกดลงบ้าง เมื่อนางเห็นว่าแน่นดีแล้วก็พยักหน้าให้เปาเปาตักดินใส่ชั้นต่อไปได้ ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนเต็มถังไม้ เสิ่นลี่อิงวางถังไม้ที่มีดินอยู่ไว้ด้านบนและถังไม้ที่ไม่มีสิ่งใดไว้ด้านล่างนางตักน้ำใส่ถังที่มีดินลงไป ก่อนจะยกขึ้นดูเล็กน้อยว่ามีน้ำหยดออกมาหรือไม่ เมื่อเห็นว่ามีน้ำหยดแล้ว นางจึงรอให้น้ำด้านบนซึมลงไปก่อนจากนั้นค่อยตักน้ำใส่เพิ่มทีละน้อยทีละน้อย “เหลือเพียงแต่รอแล้ว หากน้ำไหลออกมาเต็มถังนี้ และเค็มเพียงพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status