Share

บทที่ 6 น้าเล็กคนปากจัด

last update Last Updated: 2025-06-11 13:58:38

ในขณะที่เรื่องราวดำเนินไปอย่างราบรื่น ก็มีเสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา

"นั่นเธอกำลังทำอะไรน่ะ ทำร้ายคนในที่สาธารณะมันผิดกฎหมายนะ"

ไป๋เหยาเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบกับตำรวจผู้หนึ่งที่เดินเข้ามาและมองเธออย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ไป๋เหยาเม้มริมฝีปากแน่น เธอใจร้อนเกินไปแต่หลัวจิ้งมันจะลวนลามเธอก่อนจริง ๆ เธอต้องปกป้องตัวเองสิ

ตำรวจคนนั้นมองเธออย่างไม่ละสายตา แล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน

"อะไรกัน อายุยังน้อยอยู่เลย แต่หัดทุบตีคนเสียแล้ว เธอรู้ไหมหากว่าเจอทหารอาสาเธอจะเดือดร้อนมากขนาดไหน โชคดีที่มาเจอตำรวจใจดีแบบฉัน ไปสถานีตำรวจกับฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะแจ้งให้ผู้ปกครองของเธอมารับทราบพฤติกรรม"

ไป๋เหยาร้องในใจว่าแย่แล้ว เธอลงมืออย่างใจร้อนเกินไปจริง ๆ

ในขณะที่ไม่รู้ว่าจะพูดแก้ตัวอย่างไรดี ก็มีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งขัดขึ้นมาเสียก่อน

"ผมเป็นผู้ปกครองของเธอเองครับคุณตำรวจ ก่อนหน้านี้ผมบอกให้เธอรออยู่ที่นี่ผมจะไปซื้อขนมที่ร้านฝั่งตรงข้าม เมื่อกลับมาก็เห็นว่าผู้ชายคนนี้กำลังลวนลามหลานสาวของผม และจะจับขาของเธอด้วย หลานสาวผมก็ต้องปกป้องตัวเอง  การปกป้องตัวเองคงไม่นับว่าเป็นความผิดใช่ไหมครับ"

ไป๋เหยาหันขวับมาทันที ก่อนจะพบกับมู่เฉิน ชายหนุ่มมองเธอด้วยแววตาที่เรียบเฉย ก่อนจะหันไปจัดการเจรจากับตำรวจตรงหน้า

เมื่อตำรวจคนนั้นได้ฟังเรื่องราวจากปากมู่เฉินท่าทางของเขาก็ดูอ่อนลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังจัดการลากตัวหลัวจิ้งไปที่สำนักงานตำรวจอีกด้วย หลัวจิ้งร้องไม่เป็นภาษา บอกว่าเขาไม่ได้ลวนลามไป๋เหยา แต่ตำรวจคนนั้นกลับไม่เชื่อ อีกทั้งยังมีมู่เฉินคอยผสมโรงบอกว่าเขาลวนลามเธอจริง ๆ หลัวจิ้งจึงไม่อาจหาสิ่งใดมาแก้ต่างได้อีก

ด้านไป๋เย่รั่วที่กำลังเดินกลับมา เมื่อเห็นว่าหลัวจิ้งถูกตำรวจลากตัวไปก็ตกอกตกใจเป็นอย่างมาก 

        ก่อนหน้านี้เพราะเธอไม่อยากเห็นภาพบาดตาจึงเดินไปหลบ รอให้สงบใจแล้วจึงจะกลับมา แต่เมื่อมาถึงก็เกิดเรื่องเสียแล้ว

นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้

หญิงสาวจ้องมองไป๋เหยาอย่างขุ่นเคือง ก่อนที่เธอจะมองเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้างกายไป๋เหยา

เขาแต่งกายดูดีมาก อีกทั้งยังสวมแว่นตาอีกด้วย มันช่างชวนมองจนละสายตาไม่ได้จริง ๆ

เธอจำได้ว่าเขาคือมู่เฉิน ลูกชายคนเดียวของตระกูลมู่ เธอเคยเห็นเขาตามงานสังคมต่าง ๆ แต่ไม่ได้รู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัว แล้วไป๋เหยาไปรู้จักและสนิทสนมกับเขาขนาดนี้ได้อย่างไรกันนะ 

เมื่อใคร่ครวญแล้วไป๋เย่รั่วก็จำได้ว่า มู่เฉิน ยังเคยช่วยพาไป๋เหยาไปส่งโรงพยาบาลกาชาด เพื่อนสนิทไป๋เหยามีชื่อว่ามู่จิน  ซึ่งมู่จินมักจะมองเธอด้วยสายตาดูแคลนอย่างไม่ปิดบัง

มู่เฉินน่าจะเป็นญาติของมู่จิน เพราะแบบนี้พวกเขาสองคนจึงสนิทสนมกันสินะ

ไม่ได้การแล้วเธอจะต้องรีบเข้าไป เผื่อว่าไป๋เหยาจะแนะนำให้เธอรู้จักกับเขามากขึ้น หากว่าเขาสนใจเธอจะได้ถีบหัวส่งหลัวจิ้งไปเสีย

ไป๋เย่รั่วพยายามระงับอารมณ์ที่หวาดหวั่นรีบร้อนเดินเข้าไปหาไป๋เหยาพลางถามน้องสาว

"เสี่ยวเหยาเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ ทำไมพี่หลัวจิ้งถึงถูกจับตัวไปแล้วล่ะ"

ไป๋เหยาหันกลับมามองไป๋เย่รั่ว เธอมองเห็นว่าแม้ปากจะเอ่ยถามถึงหลัวจิ้ง แต่ดวงตาของไป๋เย่รั่วกลับเอาแต่มองมู่เฉินตาไม่กะพริบ

ไป๋เหยาส่งเสียงเหอะในใจ พี่สาวบัดซบผู้นี้ของเธอนอกจากจะเจ้าแผนการแล้วยังบ้าผู้ชายจนอาการหนักเสียด้วย

มู่เฉินมีหรือจะมองไม่เห็นสายตาของไป๋เย่รั่วที่จงใจยั่วยวนเขาอย่างโจ่งแจ้ง แต่เขาไม่มีทางสนใจผู้หญิงประเภทนี้ 

เมื่อเห็นว่ามู่เฉินไม่สนใจตนเอง ไป๋เย่รั่วก็หน้าเสีย เธอรีบเปลี่ยนเรื่องไปสนทนากับไป๋เหยาแทน

"เสี่ยวเหยา ว่ายังไง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่"

"พี่หลัวจิ้งเขาลวนลามฉันค่ะ เขาจะจับขาฉัน แต่บังเอิญว่ามีคุณตำรวจมาเห็นพอดี นี่เหรอคะคนที่พี่บอกว่าเขาดีมาก ว่าแต่เขาเคยลวนลามพี่ไหม พี่บอกฉันได้เลยนะ ฉันจะได้ให้คุณตำรวจจัดการเขาให้หลาบจำ"

ไป๋เย่รั่วย่นหัวคิ้ว เธอยิ้มเจื่อนแล้วตอบอย่างไม่เต็มเสียง

"จะเป็นไปได้อย่างไรกัน เขาเป็นคนดีและสุภาพมากเลยนะ ตั้งแต่พี่รู้จักกับเขามา เขาไม่เคยลวนลามพี่เลย เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเสี่ยวเหยา"

ไป๋เหยายังไม่ทันได้อ้าปากตอบ มู่เฉินกลับพูดขึ้นมาเสียก่อน

"ฉันเห็นกับตาว่าเขาลวนลามน้องสาวเธอ แต่เธอกลับเข้าข้างคนชั่วแบบนั้น เธอเป็นพี่สาวประเภทไหนกัน นอกจากจะไม่เข้าข้างน้องสาวแล้วยังปล่อยให้น้องสาวอยู่กับผู้ชายคนอื่นตามลำพังอีก หรือว่าเธอมีแผนการอะไรในใจ"

ไป๋เย่รั่วหน้าซีดเผือดรีบร้อนปฏิเสธและแก้ตัวเป็นพัลวัน ไป๋เหยาถึงกับขมวดคิ้ว พร้อมกับมองมู่เฉินด้วยความสงสัย แต่ก่อนมู่เฉินไม่เคยพูดจารุนแรงกับผู้หญิงแบบนี้เลยสักครั้ง เขาออกจะสุภาพกับหญิงสาวทุกคน แต่ตอนนี้เขากลับพูดจาเสียดแทงไป๋เย่รั่วเหมือนรู้ทันความคิดของพี่สาวเธอเสียอย่างนั้น

มู่เฉินเองเมื่อถูกไป๋เหยามองก็ไม่ยี่หระ เขามองตอบเธอเช่นเดียวกัน 

"ทำไม ยังไม่รีบขอบคุณน้าเล็กอีก ฉันช่วยเธอแก้สถานการณ์เอาไว้เชียวนะ ไม่อย่างนั้นเธอคงแย่แน่"

ไป๋เหยาพลันได้สติ เธอยิ้มแล้วจึงกล่าวกับเขา

"ขอบคุณมากนะคะน้าเล็ก ฉันขอตัวกลับก่อน วันนี้เหนื่อยแล้ว ไม่รบกวนน้าเล็กแล้วค่ะ"

ไม่รอให้มู่เฉินเอ่ยจบ ไป๋เหยาก็รีบเดินจากไปทันที มู่เฉินมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวไปจนลับสายตา เขาครุ่นคิดในใจว่าจะต้องหาทางคุยกับไป๋เหยาให้รู้เรื่องเสียแล้ว

ส่วนไป๋เย่รั่วนั้นเธอรีบเดินเข้ามาหามู่เฉินและพูดกับเขาอย่างประจบสอพลอ

"คุณมู่เฉินคะ ฉันเคยเห็นคุณในงานเลี้ยง แต่ตอนนั้นคุณอยู่ไกลจึงมองเห็นไม่ชัด และฉันจำได้ว่าคุณช่วยพาเสี่ยวเหยาไปส่งโรงพยาบาลด้วย วันนี้ได้มาเห็นคุณในระยะใกล้ คุณหล่อเหลาสมคำร่ำลือจริง ๆ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ และขอบคุณมากที่คุณช่วยเสี่ยวเหยาเอาไว้ เสี่ยวเหยายังเด็กไม่รู้ความ จึงทำตัวไร้มารยาทกับคุณไปไม่น้อย ฉันต้องขออภัยแทนน้องสาวด้วยค่ะ"

ไป๋เย่รั่วกล่าวจบก็ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม มู่เฉินมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา และพูดตัดบทเธออย่างไม่ไว้หน้า

"เลิกตีหน้าซื่อเสียทีเถอะ เสแสร้งตลอดเวลาไม่เบื่อบ้างเหรอ ฉันเกลียดจริง ๆ ผู้หญิงบัดซบแบบเธอน่ะ!"

เอ่ยจบเขาก็หันหลังเดินจากไปทันที ทิ้งไป๋เย่รั่วให้ยืนปากอ้าตาค้างเอ่ยคำพูดอะไรไม่ออก

นี่เขาด่าเธออย่างนั้นหรือ

ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนด่าเธอด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนี้มาก่อน!

ไป๋เย่รั่วทั้งอับอายทั้งโมโหจนใบหน้าแดงก่ำ เธอทิ้งกายนั่งลงที่โต๊ะไม้ ไม่คิดจะตามไป๋เหยาไปเลยแม้แต่น้อย

ตอนนี้มีเรื่องที่น่าปวดหัวยิ่งกว่านั้นก็คือหลัวจิ้งโดนจับตัวไปแล้ว ใครจะประกันตัวเขาออกมากันล่ะทีนี้

ช่างเถิด ทำงานไม่ได้เรื่องก็นอนในคุกไปก่อนก็แล้วกัน!

ด้านไป๋เหยานั้นเธอเดินมาหยุดอยู่ที่สถานีรถโดยสารหน้ามหาวิทยาลัย ยังไม่ทันได้ข้ามถนนกลับไปอีกฝั่งก็มีมือของใครบางคนมาดึงแขนของเธอเอาไว้ เมื่อหญิงสาวหันไปมองก็พบว่าเป็นมู่เฉินนั่นเอง

"น้าเล็ก มีอะไรอีกเหรอคะ"

"มากับฉัน"

"นี่จะพาฉันไปไหนคะน้าเล็ก!"

"ฉันมีเรื่องอยากพูดกับเธอ เดี๋ยวนี้ตอนนี้!"

ไป๋เหยาย่นหัวคิ้ว เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ปฏิเสธ ก็พบว่ามู่เฉินถือวิสาสะอุ้มเธอขึ้นมาและพาเธอเข้ามานั่งในรถของเขา ไป๋เหยาจ้องชายหนุ่มตรงหน้าเขม็ง และถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจ

"น้าเล็กนี่คุณจะทำอะไรคะ"

"ไป๋เหยา เธอกลับมาเหมือนฉันใช่ไหม เราสองคนย้อนเวลากลับมาเหมือนกันใช่ไหม เธอตอบมาสิ แล้วขอบอกไว้ก่อนว่าห้ามโกหกแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันจะจูบเธอในรถเป็นการลงโทษ!"

ไป๋เหยา "..."

      

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80   ตอนจบ

    ตอนนี้ทุกอย่างที่เมืองตงฉางราบรื่นดี ใช้เวลาร่วมเดือนงานก่อสร้างก็คืบหน้าไปมาก มู่เฉินที่เห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเป็นห่วงแล้ว จึงคิดจะเดินทางกลับเมืองหลิงชุน เขาเองก็ไม่ค่อยอยากอยู่ที่ตงฉางมากนัก ที่นี่เงียบเกินไปเขาที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมานานปีจึงไม่ค่อยคุ้นชินเท่าใดนักเขาพาไป๋เหยาและมู่จินขับรถกลับเมือง หลิงชุนด้วยกันในเช้าวันต่อมา มู่จินมองเพื่อนรักและน้าเล็กของตนพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย เรื่องระหว่างคนทั้งสองเธอรู้หมดแล้วและไม่ได้คัดค้านอะไร ออกจะดีใจมากด้วยซ้ำที่จะได้เพื่อนรักมาเป็นน้าสะใภ้ของตนเองคนทั้งสามกลับมาถึงเมืองหลิงชุนในช่วงเย็นของวันนั้น คุณนายไป๋ไม่ได้ซักถามอะไรลูกสาวบอกเพียงให้รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและมากินมื้อเย็นด้วยกัน ไป๋เหยาเม้มริมฝีปากยังไม่กล้าบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าช่วงที่อยู่เมืองตงฉาง เธอและมู่เฉินมีความสัมพันธ์กันหลายครั้งแล้ว แม้จะมั่นใจว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางทอดทิ้งเธอ แต่ไป๋เหยาก็ยังรู้สึกประหม่าเหลือเกินด้านมู่เฉินนั้นเมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลมู่เขาก็จัดการเก็บของตนเองเอาไว้ในห้องและไปอาบน้ำ หลังจากเปลี่ยนชุดและลงมาที่ด้านล่างก็พบว่าเป็นเวลามื้อเย็นแล้ว

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80   บทที่ 23 ช่วยทำมากกว่าจะจูบได้ไหม

    ท้ายที่สุดมู่เฉินก็ตัดสินใจแจ้งเรื่องนี้กับสำนักงานตำรวจเมืองตงฉางและส่งตัวหลัวจิ้งให้ทางการทันที ตำรวจเข้าค้นที่เกิดเหตุและส่งหญิงสาวเหล่านั้นกลับบ้าน อีกทั้งยังเอาผิดพ่อแม่ของเธอที่ขายลูกสาวอย่างผิดกฎหมาย ถูกปรับหลายร้อยหยวน มู่เฉินที่ตามไปดูเหตุการณ์รู้สึกเวทนาพวกเขาไม่น้อย เพราะความยากจนทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจทำแบบนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจจ่ายค่าเสียหายแทนพวกเขาเป็นเงินหลายพันหยวน และหางานให้หญิงสาวเหล่านั้นทำ ตอนนี้ที่เมืองตงฉางมีโรงงานตระกูลมู่ที่สร้างเสร็จและกำลังเปิดรับคนเข้าไปทำงาน เขาจึงให้พวกเธอไปสมัครงานที่โรงงานของเขาจะได้มีเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวส่วนหลัวจิ้งนั้นยังคงไม่ซัดทอดไปถึงใครทั้งนั้น เขาปิดปากเงียบและถูกจับกุมตัวเอาไว้ทางด้านเฉียนฟานที่เพิ่งเดินทางมาถึงและทราบเรื่องก็ลอบก่นด่าหลัวจิ้งเป็นร้อยครั้งที่ทำงานได้อย่างบัดซบที่สุด ซ้ำยังถูกตำรวจจับตัวได้อีก ครั้งนี้เขาทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากต้องล่าถอยและรีบกลับเมืองหลิงชุนไปก่อนเดิมทีเขาคิดว่านอกจากจะมารับตัวหญิงสาวพวกนั้นไปแล้วยังคิดจะมาดูมู่เฉินเสียหน่อยว่ามันทำอะไรไปบ้าง ที่สำคัญเด็กสาวคนนั้นก็ตามมันมาด้วย เขาเองพอจะรู้

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80    บทที่ 22 สามีเก่าที่ไม่มีวันกลับใจได้

    ทางด้านไป๋เหยานั้นหลังจากที่ได้สติกลับมาแล้ว เธอรู้สึกว่าปวดไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณศีรษะนั้นเจ็บมากที่สุด เธอพยายามหยัดกายลุกขึ้น หญิงสาวมองไปรอบ ๆ บริเวณ พบว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้องเก่า ๆ ห้องหนึ่ง ไม่ไกลกันนักมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยหลายคนที่นั่งรวมตัวกันอยู่อีกมุมหนึ่ง พวกหล่อนมองไป๋เหยาอย่างหวาดหวั่น มีบางคนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดไป๋เหยาขมวดคิ้วมุ่น นี่มันเรื่องอะไรกันเธอพยายามคิดทบทวนถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เดิมทีเธอออกมาเก็บผ้าพันคอ แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีคนใช้ของแข็งฟาดเข้ามาที่ท้ายทอยจนสลบไป พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่เสียแล้วหัวใจของไป๋เหยาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหนและใครกันที่เป็นคนจับตัวเธอมาไป๋เหยาพยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เธอไม่ใช่คนในพื้นที่ อีกทั้งยังไม่ใช่คนที่นี่แล้วทำไมถึงถูกจับตัวมากันนะ เธอมองพลางคิดจะหาทางหนีทีไล่ จึงขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวเหล่านั้นแล้วสอบถาม"ขอถามหน่อยค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่กันเล่า"หญิงสาวเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะมีอายุยังไม่ถึงสิบแปดปี พวกเธอมองไป๋เหยาอย่างหวาดกลัว

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80   บทที่ 21 เมืองตงฉาง

    สองวันต่อมามู่เฉินและไป๋เหยาก็เดินทางไปเมืองตงฉางพร้อมกัน การเดินทางครั้งนี้มีมู่ จินร่วมเดินทางไปด้วย มู่เฉินกลัวว่าระหว่างที่เขาต้องไปทำงานไป๋เหยาจะเหงา จึงให้มู่จินมาอยู่เป็นเพื่อนกับเธอ อีกทั้งเขาต้องการให้คนบ้านตระกูลไป๋มั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดจะเอาเปรียบเธอคุณนายไป๋ยิ้มแล้วมองลูกสาวที่ออกไปพร้อมมู่เฉินและมู่จิน เดิมทีเธอยังค่อนข้างหนักใจที่ไป๋เหยาตกลงคบหากับมู่เฉินที่มีอายุห่างกันหลายปี แต่เมื่อเห็นว่าลูกสาวมีความสุขและมู่เฉินก็ดูแลไป๋เหยาเป็นอย่างดี เธอและสามีก็พอจะวางใจลงได้ไม่น้อยระยะทางจากเมืองหลิงชุนและตงฉางนับว่าต้องใช้เวลาเดินทางอยู่ไม่น้อย แต่มู่เฉินไม่ได้รีบร้อนเดินทางด้วยเครื่องบิน จึงถือโอกาสนี้นั่งรถส่วนตัวมาเพื่อจะได้ชมทิวทัศน์ข้างทางไปด้วย "นี่เหยาเหยา เธอลองกินขนมอบดูสิ ร้านนี้อร่อยมาก"มู่จินเอ่ยพร้อมกับยื่นห่อขนมมาให้เพื่อนรัก ไป๋เหยารับมากินชิ้นหนึ่งพบว่ารสชาติดีจริง ๆมู่เฉินหันไปมองหลานสาวของตนเอง และพูดขึ้นมา"จินจินตัวแสบ เธอกินเยอะจนแก้มบวมแล้ว อย่ามาชวนเสี่ยวเหยาของฉันกินเยอะเหมือนเธอสิ"มู่จินหันมาถลึงตาใส่น้าเล็กของตนพร้อมกับยื่นมือมาตีแขนมู่เฉินอย่า

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80    บทที่ 20 จูบ

    อากาศยามเช้าวันนี้ค่อนข้างดี มู่เฉินตื่นนอนแต่เช้า หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินลงมารับมื้อเช้า เมื่อมาถึงห้องอาหารก็พบกับคุณพ่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ชายหนุ่มทิ้งกายลงนั่งฝั่งตรงหน้าผู้เป็นพ่อพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม"ข่าววันนี้ไม่ดีเหรอครับ ทำไมพ่อหน้าเครียดแบบนั้น"มู่เฉิงพับหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับลูกชาย"หลายวันมานี้คล้ายพันธบัตรที่พ่อซื้อไว้เหมือนจะราคาตกลงไปไม่น้อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ราคายังขึ้นอยู่เลย อย่างนั้นคงต้องพักเอาไว้ก่อน ไม่ลงทุนเพิ่มแล้ว"มู่เฉินพยักหน้าช้า ๆ สมัยนี้คนชอบลงทุนซื้อพันธบัตรเก็บไว้ ช่วงไหนราคาขึ้นก็มีความสุขดีใจกันยกใหญ่ ช่วงไหนที่ราคาตกขาดทุนก็ถึงกับยิ้มไม่ออก เขาเองก็มีซื้อเอาไว้บ้างแต่ไม่ได้ลงทุนมากนัก"การลงทุนล้วนมีความเสี่ยงพ่อก็ระวังด้วยครับ ว่าแต่แม่กับพี่ล่ะ ออกไปแล้วเหรอครับ""อืม ออกไปที่โรงแรมแต่เช้าแล้ว แกรีบกินเถอะ พ่อมีเรื่องจะพูดกับแกหน่อย""ครับ"มู่เฉินพยักหน้าพร้อมกับรีบกินอาหารเช้าหลังจากที่เห็นว่าลูกชายกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่เฉิงก็เข้าเรื่องทันที"แกจะไปที

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80    บทที่ 19 แม่บังเกิดเกล้า

    เมื่อหญิงวัยกลางคนผู้นั้นพูดว่ามู่เฉินคือลูกชายของเธอ ทุกคนในงานต่างแตกตื่นเป็นอย่างมาก แต่ไป๋เหยากลับมองด้วยแววตาที่เรียบเฉยชาติก่อนตอนที่เธอเริ่มจะล้มป่วยและยังไม่ได้นอนติดเตียงก็พอรู้ข่าวของมู่เฉินจากหน้าหนังสือพิมพ์อยู่แล้วแม่ที่แท้จริงของเขามีชื่อว่าจ้าวเหมย เธอทำงานอยู่ในบาร์เหล้าและมีความสัมพันธ์กับประธานมู่จนตั้งครรภ์ จากนั้นพวกเขาก็บีบบังคับเอาลูกของเธอมาเลี้ยง และขู่จะทำร้ายเธอ อีกทั้งยังบอกให้เธอรับเงินไปและอย่าเสนอหน้ากลับมาอีกเรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่และเป็นเรื่องฉาวโฉ่ที่ตระกูลมู่ไม่ต้องการให้คนนอกรับรู้ เพราะค่อนข้างส่งผลกระทบต่อหน้าตาของคนในตระกูลเป็นอย่างมากตอนแรกเธอรู้ว่าแม่ของเขาไม่ใช่คุณนายมู่ แต่ไม่เคยถามเขา เพราะอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่เมื่อได้เปิดใจคบหากัน มู่เฉินก็เล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังทั้งหมด เธอรู้สึกสงสารเขามาก ทั้งที่มีแม่ แต่แม่กลับไม่เคยรักเขาซ้ำร้ายยังใช้เขาเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองอีกด้วยเธอมองจ้าวเหมยอีกครั้งและไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาประธานมู่และคุณนายมู่ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี มู่เฉิงพ่อของมู่เฉินถึงกับหันมามองคนใช้ในบ้านอย่างค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status