หยูฉิงเฉิงเริ่มต้นปรับปรุงดินจากสามหมู่บ้านแรกที่ให้ความร่วมมือกับทางการก่อน เขานำปุ๋ยหนึ่งกระสอบมาโรยลงบนที่ดิน 30 หมู่ ที่ทหารช่วยกันปรับหน้าดินที่แข็งกลับขึ้นมาให้กับหมู่บ้าน เรื่องการขุดคลองนั้นเจ้าเมืองจิ่งอันเริ่มต้นขุดคลองเล็กแยกออกมาจากแม่น้ำใหญ่ที่ไหลผ่านตามแผนผังที่หยูฉิงเฉิงวาดให้ ช่างตีเหล็กในเมืองยังได้รับจ้างสร้างจอบขุดดินที่แข็งแรงตามแบบที่หยูฉิงอันวาดให้กับหยูฉิงเฉิงนำมาด้วย ซึ่งหากจะทำเป็นคันไถโดยใช้แรงงานวัว ควายก็คงจะยุ่งยากเกินไป หยูฉิงอันจึงให้สร้างเพียงจอบที่ราคาไม่สูงมากนัก นางยังมอบเงินให้กับหยูฉิงเฉิงนำมาพัฒนาเมืองถึงห้าพันตำลึงอีกด้วย ส่วนงบประมาณที่กรมเกษตรให้มานั้นมีเพียงสามพันตำลึงเท่านั้น ซึ่งหยูฉิงอันกลัวว่าจะไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาเมืองและหมู่บ้านที่ยากจนแร้นแค้นมาเป็นเวลานานหลายสิบปี
เงินจำนวนมากนี้ทำให้หยูฉิงเฉิงเริ่มงานได้อย่างสบายใจ เขาใช้เงินจ้างชาวบ้านให้ช่วยกันปรับปรุงหน้าดินบริเวณอื่นนอกเหนือจากแปลงที่กำลังทำเป็นตัวอย่างซึ่งทหารของจวนกั๋วกงเป็นคนลงมือ ทำให้ชาวบ้านที่คราแรกไม่ยอมให้ความร่วมมือ ยิ
เหล่าขุนนางทั้งหลายพร้อมครอบครัวต่างอยากเข้าไปทักทายเหิงกั๋วกง เพียงแต่ตอนนี้ท่านกำลังอุ้มหลานชายและหลานสาวเอาไว้ในอ้อมแขนอยู่ พวกเขาจึงไม่กล้าเข้าไปรบกวนครอบครัวกั๋วกง แต่ละคนต่างทำได้เพียงยืนมองอยู่ห่าง ๆบรรดาฮูหยินและบุตรสาวที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ต่างมองหยูฉิงเฉิงกับหยูฉิงหยางกันตาเป็นมัน หากบุตรีของพวกนางได้เข้าร่วมตระกูลหยูคงนับว่าพวกนางจะได้ขึ้นไปบนสรวงสวรรค์แล้ว ใครไม่รู้กันว่าจวนกั๋วกงกับตระกูลหยูผู้พันธ์กันมากเพียงใด น่าเสียดายที่ระหว่างเดินไปยังโต๊ะด้านหน้า เด็กหนุ่มทั้งสองไม่แม้แต่จะชายตาแลหญิงใดที่ยืนยิ้มส่งให้พวกเขาอย่างเขินอายเลยแม้แต่น้อย ยิ่งกับหยูฉิงเฉิงด้วยแล้ว เขายิ่งรู้สึกขนลุกแปลก ๆ จนถึงขั้นหวาดกลัวว่าพวกนางจะกระโจนเข้ามาหาพวกเขาแล้วให้รับผิดชอบอย่างหน้าด้าน ๆกระทั่งพวกเขาเดินไปถึงโต๊ะตระกูลหยูที่มีท่านปู่ ท่านย่า ท่านพ่อและท่านแม่นั่งรออยู่ พวกเขาก็นั่งพูดคุยกันเสียงเบาอย่างมีมารยาท ส่วนโต๊ะของจวนกั๋วกงนั้นมีเพียงเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กชายหญิงทั้งสองที่ถุกท่านปู่ทวดหยอกล้ออยู่เท่านั
ค่ำคืนนั้นที่จวนกั๋วกงต่างมีแต่เสียงหัวเราะ โดยเฉพาะเด็กน้อยทั้งสองคนที่ฟันน้ำนมเริ่มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วแต่ยังเคี้ยวอะไรไม่ได้มากนัก พวกเขาเล่นเอามืออ้วน ๆ จับอาหารมาเคี้ยวเล่นจนเสื้อผ้าเลอะเทอะไปหมดบ่าวที่คอยดูแลคุณหนูกับคุณชายน้อยทั้งสองรีบเข้ามาดูแลทันที ก่อนพวกเขาจะพาคุณหนูและคุณชายไปเปลี่ยนชุดในเวลาไม่นาน เด็กทั้งสองที่เหิงกั๋วกงตั้งชื่อให้ว่าเหิงหยางอันและเหิงหยางเหมย นับวันพวกเขาก็ยิ่งโตวันโตคืน ทำเอาเหล่าผู้อาวุโสในจวนกั๋วกงต่างหลงรักเจ้าอ้วนตัวน้อยทั้งสองคนเป็นอย่างมากคนเป็นพ่ออย่างเหิงจิ้งกั๋วได้แต่ต้องปล่อยลูก ๆ ให้พวกท่านดูแล เขายังคิดว่าหากภรรยาท้องอีกสักคนก็คงดี เขากับนางจะได้ดูแลลูกเองบ้าง เหิงจิ้งกั๋ววางแผนการในหัวแล้วก็คิดว่าจะเริ่มทำภารกิจพิชิตเมียรักเมื่อไหร่ดี จนกระทั่งคิดได้ว่าอีกสองวันข้างหน้าจะมีงานเลี้ยงในวัง เขาจะให้นางดื่มสักเล็กน้อยก่อนเผด็จศึก ส่วนเจ้าตัวป่วนทั้งสองน่ะหรือ เขาจะส่งไปนอนกับท่านตาท่านยายของพวกเขาเองหยูฉิงอันเห็นสายตากรุ้มกริ่มของสามีก็ไ
หลังจากแม่ทัพใหญ่ซวงอี้ได้รับพระราชโองการแล้ว เขาก็สั่งการรองแม่ทัพอีกสองคนพร้อมกับทหารฝีมือดีตามพระบัญชาออกเดินทางในวันถัดไปทันที ด้วยทหารสามพันคนที่เดินทางด้วยม้าเร็ว ทำให้กองทัพของแม่ทัพใหญ่ซวงอี้ใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนก็ไปถึงเมืองจิ่งอัน เขารีบไปรายงานตัวกับหยูฉิงเฉิงซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนในครั้งนี้ตามรับสั่งเจ้าเมืองจิ่งอันกับชาวบ้านเมื่อเห็นทหารจำนวนมากเดินทางมาก็มั่นใจมากว่าขุนนางหน้าขาวที่ดูเหมือนเด็กหนุ่มผู้นี้มีอำนาจมากจริง ๆ และตอนนี้หน่อของมันฝรั่งก็เริ่มโผล่ขึ้นมาจากดินทั้งที่ใช้น้ำรดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ชาวบ้านมีความหวังว่าปีนี้พวกเขาจะไม่ต้องอดอยากอีกต่อไปหากถึงหน้าแล้ง หยูฉิงเฉิงยังให้เหล่าบัณฑิตในเมืองคัดลอกวิธีการทำอาหารจากมันฝรั่งแจกจ่ายออกไปจนครบทุกหมู่บ้าน เพื่อให้พวกเขาสามารถทำอาหารได้จากมันฝรั่งที่กำลังปลูกอยู่หยูฉิงเฉิงให้แม่ทัพใหญ่พักผ่อนก่อนหนึ่งวัน จากนั้นจึงแยกกำลังของพวกเขาออกเป็นสามส่วนเพื่อช่วยกันปรับหน้าดินในหมู่บ้านที่เหลือสองส่วน อีกหนึ่งส่วนนั้นเขาให้ไปช่วยเจ้าเมืองจิ่ง
หยูฉิงเฉิงเริ่มต้นปรับปรุงดินจากสามหมู่บ้านแรกที่ให้ความร่วมมือกับทางการก่อน เขานำปุ๋ยหนึ่งกระสอบมาโรยลงบนที่ดิน 30 หมู่ ที่ทหารช่วยกันปรับหน้าดินที่แข็งกลับขึ้นมาให้กับหมู่บ้าน เรื่องการขุดคลองนั้นเจ้าเมืองจิ่งอันเริ่มต้นขุดคลองเล็กแยกออกมาจากแม่น้ำใหญ่ที่ไหลผ่านตามแผนผังที่หยูฉิงเฉิงวาดให้ ช่างตีเหล็กในเมืองยังได้รับจ้างสร้างจอบขุดดินที่แข็งแรงตามแบบที่หยูฉิงอันวาดให้กับหยูฉิงเฉิงนำมาด้วย ซึ่งหากจะทำเป็นคันไถโดยใช้แรงงานวัว ควายก็คงจะยุ่งยากเกินไป หยูฉิงอันจึงให้สร้างเพียงจอบที่ราคาไม่สูงมากนัก นางยังมอบเงินให้กับหยูฉิงเฉิงนำมาพัฒนาเมืองถึงห้าพันตำลึงอีกด้วย ส่วนงบประมาณที่กรมเกษตรให้มานั้นมีเพียงสามพันตำลึงเท่านั้น ซึ่งหยูฉิงอันกลัวว่าจะไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาเมืองและหมู่บ้านที่ยากจนแร้นแค้นมาเป็นเวลานานหลายสิบปีเงินจำนวนมากนี้ทำให้หยูฉิงเฉิงเริ่มงานได้อย่างสบายใจ เขาใช้เงินจ้างชาวบ้านให้ช่วยกันปรับปรุงหน้าดินบริเวณอื่นนอกเหนือจากแปลงที่กำลังทำเป็นตัวอย่างซึ่งทหารของจวนกั๋วกงเป็นคนลงมือ ทำให้ชาวบ้านที่คราแรกไม่ยอมให้ความร่วมมือ ยิ
เมื่อหยูฉิงเฉิงประกาศจบ เขาก็สั่งให้เจ้าเมืองพาไปยังจวนรับรองอย่างไม่ให้เสียเวลา ตอนนี้พวกเขามาถึงเมืองจิ่งอันเลยเที่ยงมามากแล้ว ขบวนคนและทหารต่างยังไม่ได้กินอะไร หยูฉิงเฉิงจึงกลัวว่าทุกคนจะเหนื่อยล้าไปมากกว่านี้ เจ้าเมืองจิ่งอันไม่กล้าขัดคำสั่งจึงรีบนำทางขบวนขุนนางใหญ่ไปยังจวนรับรองที่ให้คนเตรียมเอาไว้ให้ ซึ่งจวนนี้ก็ไม่ได้ใหญ่โตอันใด แถมยังทรุดโทรมมากเนื่องจากไม่ได้รับการดูแลมานาน ส่วนเรื่องอาหารการกิน เจ้าเมืองจิ่งอันยังมีเพียงอาหารพื้นถิ่นเล็กน้อยเท่านั้น หยูฉิงเฉิงได้แต่ขมวดคิ้วกับการต้อนรับเช่นนี้ เพียงแต่เขาเคยลำบากมาก่อนในตอนเด็ก เขาจึงไม่ยี่หระที่จะกินอาหารที่ไม่เหมือนดั่งอาหารสักเท่าไหร่ขุนนางผู้ช่วยกับทหารจากจวนกั๋วกงเห็นว่าหยูฉิงเฉิงไม่ได้ตำหนิอะไรเรื่องนี้ พวกเขาจึงต้องกล้ำกลืนกินอาหารที่ไม่ต่างจากอาหารหมูเข้าไปเช่นกัน หยูจิ่นเซิงซึ่งอยู่ท่ามกลางเมืองชายแดนมาตลอดก็ไม่ได้พูดสิ่งใดเช่นกัน ในเมื่อหลานชายเขายังสามารถกินสิ่งเหล่านี้เพื่อประทังชีวิตได้ เขาผู้เป็นปู่มีหรือจะทำให้หลานชายลำบากส
หนึ่งเดือนผ่านไป หยูฉิงอันออกจากอยู่ไฟมาได้สองสัปดาห์แล้ว นางได้รับรายงานว่าตอนนี้ราชสำนักเพาะพันธุ์มันฝรั่งออกมาได้มากถึง 10 ตันแล้ว หยูฉิงอันจึงส่งฎีกาถวายฝ่าบาทเพื่อให้ส่งตัวแทนจากกรมเกษตรนำมันฝรั่งออกไปแจกจ่ายยังเมืองใกล้เคียงเพื่อให้ทดลองปลูกเสียก่อน หากมีมันฝรั่งที่เพาะได้เพิ่มขึ้นก็ค่อยขยายวงแจกจ่ายออกไปให้ทั่วทั้งแคว้นในภายหลัง นางเชื่อว่าการปลูกมันฝรั่งจะช่วยให้ชาวบ้านยากจนสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะปลูกขายหรือปลูกไว้กินเองก็ล้วนแต่เป็นประโยชน์ทั้งนั้น นางยังแนะนำให้ฝ่าบาทเลือกส่งมันฝรั่งไปยังพื้นที่แห้งแล้งแถบเมืองจิ่งอันและบริเวณใกล้เคียงก่อน เพราะที่นั่นมักจะเกิดการขาดแคลนอาหารเนื่องจากดินไม่เหมาะกับการทำเกษตรฮ่องเต้ได้รับฎีกาของหยูฉิงอันมาก็พิจารณาดูว่าควรส่งใครไปดี กระทั่งพระองค์นึกขึ้นได้ว่าหยูฉิงเฉิงนั้นควรได้รับบททดสอบในครั้งนี้ ฮ่องเต้จึงเขียนราชโองการแต่งตั้งให้หยูฉิงอันทำหน้าที่ผู้ช่วยพิเศษของกรมเกษตรเดินทางไปพร้อมขุนนางผู้ช่วยอีกสองคนเพื่อแจกจ่ายมันฝรั่งไปยังเมืองจิ่งอันและบริเวณโดยรอบให้ทด