Mag-log in“เรื่องเวทย์หยั่งรู้คงแพร่ออกไปทั่ววังหลวงแล้วฝ่าบาทจะต้องบังคับให้องค์หญิงสะกดเวทย์ไว้แน่ๆ เจ้าค่ะ” มีมี่ถอนหายใจรอบที่ร้อย
ห้องทรงอักษร
“อย่างนั้นหรือนาง นางมีเวทย์ประหลาดอย่างนั้นหรือ เจ้าเคยได้ยินไหมอ๋องหรง” ฉีก้านพูดจบก็คีบเครื่องเสวยใส่ปากเคี้ยวงับๆ อย่างอารมณ์ดี อวี่หนิงคีบเนื้อกุ้งที่แกะวางให้อย่างเอาใจ
“ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ” น้ำเสียงเรียบเฉย
“อือประหลาดจริง มันก็จริงอยู่เจ้าไม่เคยเข้าใกล้นางนี่เจ้าสิบสอง เลยไม่รู้ว่านางมีเวทย์ประหลาดแบบนี้”
ลู่เหวินหันไปอมยิ้มเสียอีกทางจะไม่เคยอย่างไรยามที่องค์หญิงเก้าจะแทงท่านอ๋องท่านอ๋องก็ลากองค์หญิงเข้าไปแทงคืน ไม่สิ เมื่อสองคืนที่ผ่านมาก็ไม่รู้ได้แทงกันหรือเปล่าจะเรียกว่าใกล้หรืออะไรดี
“พ่ะย่ะค่ะ” ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
“แล้วข้าควรทำอย่างไร”
“ฝ่าบาทเพฮะก็ควรจะเข้าไปพูดคุยกับพระสนมก่อนดีไหมเพฮะ”
“พระสนมอะไรกัน นางยังไม่ยอมถวายตัวเสด็จพ่อก็จะแต่งตั้งนางแล้วหรือ รอให้นางถวายตัวก่อนค่อยเรียกนางว่าพระสนม แบบนี้เสด็จพ่อก็ขาดทุนสิ” คนที่ไม่อยากให้ใครมาแย่งความรักจากพ่อไป
อวี่หนิงขัดขึ้นขันทีอาวุโสยิ้มเจื่อนๆ
“เพฮะไม่พระสนม เพฮะต่อไปไม่กล้าเรียกแล้วเพฮะ เอาจริงๆ ฝ่าบาทก็ควรเข้าไปพูดคุยกับนางก่อนว่าหากจะถวายตัวมีวิธีแก้ไขหรือล้างเวทย์หยั่งรู้ของนางไหม หรือไม่ฝ่าบาทก็ควรจะเข้าไปแตะตัวนาง”
“บังอาจเจ้าอยากให้ข้าตายหรือ ดีคืนนี้ข้าจะให้กงกงไปแตะตัวนางให้ข้าดู”
“อะอะไม่เพฮะข้าน้อยฉันผิดไปแล้ว”
“อืมมมคราวหลังห้ามพูดอะไรแบบนี้อีกจำไว้”
ขันทีอาวุโสประสานมือถอยออกไป
“นางงดงามเหมือนในภาพวาดไหม”
ยื่นภาพวาดที่เก็บไว้ในอกเสื้ออย่างดีให้อ๋องหรงดู
“พ่ะย่ะค่ะ” ภาพวาดที่ไม่สมจริงอ๋องหรงอยากจะบอกว่าตัวจริงสวยกว่าร้อยเท่าพันเท่า
“ข้าอยากพบนางอยากเห็นนางอยากครอบครองนาง กงกงบัญชาออกไปใครสามารถล้างเวทย์หยั่งรู้ได้ ข้าฉีก้านปูนบำเหน็จให้อย่างงาม”
อ๋องหรงถอนหายใจยาว นางโป้ปดจะโป้ปดได้กี่น้ำไม่นานฉีก้านจะต้องจับได้
“คืนนี้ข้าจะไปดูหน้านางเสียหน่อยและจะลองปลอบโยนนางให้นางยอมรับข้าเหมือนที่ยอมรับนางกำนัลข้างกายนาง”
จวนของอ๋องหรง ที่เงียบเหงาทว่าเรียบง่ายราวกับปุถุชน
“พ่อบุญธรรมท่าน …..เอ่อหาทางช่วยองค์หญิงเก้าได้หรือยัง”
“มองไม่เห็นทาง ข้าประเมินนางแล้วนางไม่ได้ธรรมดาสามารถล่อหลอกคนในวังหลวงและฝ่าบาทให้เชื่อเรื่องเวทย์หยั่งรู้นั่นได้แนบเนียน”
ลู่เหวินถอนหายใจ
“ล่อหลอกอย่างไรกัน มิใช่องค์หญิงนางมีเวทย์หยั่งรู้นั่นจริงๆ หรอกหรือ”
“เจ้าเชื่อที่นางพูดหรือไร”
“ชะเชื่อขอรับพ่อบุญธรรมนางดูน่าเชื่อถือและคำพูดนางบางคำเชื่อถือได้อย่างยิ่งนางไม่เคยโป้ปดอย่างเรื่องที่นางพูดถึงเรื่องยุ่งยากที่พ่อบุญธรรมต้องเผชิญต่อจากนี้เห็นไหมเล่าพูดยังไม่ทันขาดคำทั้งบุตรีขุนนางกรมคลังทั้งองค์หญิงสามเข้ามาพัวพันแล้วยังเรื่องที่ฝ่าบาทให้ดูแลห้องเก็บตำรานั่นอีก ล้วนแต่ยุ่งยาก”
“อืมมมจะยุ่งยากก็เรื่องของนางนั่นล่ะที่ข้าอดห่วงไม่ได้ แต่ที่นางพูดทั้งหมดล้วนโป้ปดข้ากับนาง เคย..เคย นอนร่วมแท่นนอนหากนางมีเวทย์หยั่งรู้ที่เป็นภัยจริงข้าคงตายไปแล้ว”
ลู่เหวินอมยิ้ม
“หากเวทย์หยั่งรู้นั่นจะทำร้ายพ่อบุญธรรมก็คงจะตายใช่ไหม บางทีข้าว่าวิธีล้างเวทย์นั่น…ก็คือการที่….ทั้งสองหรือใครคนใดคนหนึ่งมีใจปฏิพัทธ์แล้วเต็มใจแนบชิดกันก็ได้นะขอรับ”
“หุบปากไม่มีทางเป็นได้”
“ลองดูไหมขอรับพ่อบุญธรรม จะต้องลองพิสูจน์เรื่องนี้ดีไหมขอรับ” อ๋องหรงยกมือขึ้นดีดไปที่หน้าผากของลู่เหวินอย่างแรง
“ไม่ตลก นางกำลังจะเป็นสนมของฝ่าบาทคิดว่าต้องห้ามหรือไม่นางเป็นหญิงต้องห้าม”
ลู่เหวินยิ้มแหย๋ๆ
“แล้วพ่อบุญธรรมท่านจะช่วยนางได้อย่างไรกัน”
“เจ้าประเมินนางต่ำไปนางเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว เรื่องนี้อาจง่ายดายสำหรับนางไม่ควรเป็นข้าที่เข้าไปยุ่งวุ่นวายมิฉะนั้นชีวิตข้าคงจะยุ่งยากเหมือนที่นางทำนายไว้”
ลู่เหวินส่ายหน้าไปมา
“ท่านทำใจได้หรือ ท่านปล่อยมือได้ หรือไม่คิดถึงช่วงเวลาสองคืนที่ท่านกับนางแนบชิดกอดรัดบนแท่นนอนหรือไร พ่อบุญธรรมท่านยอมปล่อยมือยอมให้นางถวายตัวหรือไร”
“หุบปากข้าบอกกี่ครั้งกันว่านางกับข้าไม่ได้มีอะไรกันแค่เพียงบังเอิญ และเจ้าคิดว่าลำพังข้าอ๋องหรงจะเอาอะไรไปต่อกรกับฝ่าบาท”
“พ่อบุญธรรมข้า ลู่เหวินผิดหวังในตัวท่านจริงๆ ท่านจะไม่ไปช่วยองค์หญิงเอ่อถัวจริงๆ ใช่ไหม”
“ไม่ไป”
“ดีขอรับข้าน้อยจะหาทางช่วยองค์หญิงเก้าด้วยตัวเองท่านพ่อบุญธรรมท่านใจดำที่สุด” ลู่เหวินประสานมือก้าวขาจากไป
ตำหนักเหมยฮวาที่บัดนี้ห้อยโคมไฟระย้าราวกับกำลังจะมีงานมงคลไม้ดอกถูกยกมาวางข้างทางเดินที่ฉีก้านกำลังจะเดินผ่านในค่ำคืนนี้ องครักษ์ประจำตามจุดต่างๆ อารักขาแน่นหนา
กลิ่นกำยานหอมผ่อนคลายในห้องของมีมี่
ซูเอ่อปิดประตูลงเบาๆ หลังจากที่ชะโงกหน้าออกไปมองด้านนอก
“ใกล้ได้เวลาแล้วเจ้าค่ะองค์หญิง เหล่าองครักษ์ประจำจุดแล้ว ฝ่าบาทคงกำลังเสด็จมาที่นี่ เอ่อ ซูเอ่อบังอาจพูด”
“ว่ามาข้ากำลังฟังอยู่”
มีมี่นั่งแต่งหน้าให้ขอบตาคลำหม่นแสงราวกับคนที่ผ่านการร้องไห้มา
“เอ่อ หากว่า หากว่าองค์หญิงจะปล่อยเวทย์นั่นที่ไม่รู้ว่าร้ายแรงแค่ไหนเพราะซูเอ่อก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อน หากจะปล่อยก็ควรจะยั้งมือเจ้าค่ะโดยเฉพาะกับฝ่าบาทเพราะเราอยู่ในที่ของเขาและนี่คือตำหนักเหมยฮวา ไม่มีทางหนีรอดแม้แต่จะก้าวออกไปก็ไม่อาจองค์หญิงเจ้าขา อย่าวู่วามนะเจ้าคะ”
มีมี่ยิ้ม
“ข้ารักเจ้าซูเอ่อ” ลุกขึ้นผลักซูเอ่อออกไปข้างนอกห้อง
ปิดประตูทันที
“องค์หญิง องค์หญิงเจ้าขาอย่าทำแบบนี้เจ้าค่ะทุกอย่างมีทางออกอย่าทำแบบนี้เจ้าค่ะ”
ซูเอ่อเขย่าประตูด้วยสีหน้าตื่นตระหนกทั้งตกใจและหวาดกลัว
ใครสองคนที่แอบที่เงามืด ลุกลี้ลุกลนอีกคนกำลังจะปรากฏตัวแต่ถูกอีกคนรั้งตัวไว้
“พ่อบุญธรรมใจเย็นก่อนขอรับ” ลู่เหวินดึงตัวคนที่บอกว่าไม่มาช่วยไว้ อีกคนขยับหน้ากากด้วยความเคยชิน
“ปึงๆๆๆ”
“ม่ายยยไม่มีใครถ่วงเวลาแค่ยังหาทางเอาตัวรอดจาก….เสือหิว…อย่าง..อย่างฝ่าบาทไม่ได้ก็เท่านั้น ท่านอ๋องท่านไม่มีทางช่วยข้าบ้างหรือ ขอคำปรึกษาหน่อย”สายตาอ้อนวอนลืมตัวไปเสียสนิทอ๋องหรงเผลอยิ้ม ชี้มือที่แก้มเนียนขาวของตัวเองข้างที่ไม่มีหน้ากาก คิ้วเรียวบางของมีมี่ขมวดเข้าหากัน ใจเต้นไม่เบา อีกคนยังชี้มือที่แก้มซ้ำๆ มีมี่ก้มหน้าจะเขินไปไหนก็เผลอมองสบตากับใบหน้าเนียนขาว (ขาวกว่ามีมี่อีก) หล่อทะลุหน้ากากแต่ว่าเอะ มุกนี้คุ้นๆ อ่อไม่ได้แดกมีมี่หรอกฮ่าาาา มีมี่ยิ้มพยักหน้าขึ้นลง“มุกข้าวติดแก้ม”รีบยกมือเช็ดแก้มของตัวเองเห็นไหมว่านี่มันคือนิยาย หรือซีรีส์และมีมี่กำลังอยู่ในนั้น เช่นนั้นทุกอย่างล้วนแค่ถูกเสกสรรจขึ้นโดยนักเขียนไม่ใช่เรื่องจริง“ข้าหมายถึง หากอยากให้ข้าช่วยจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”ดวงตากลมโตเลิกสูงยิ่งทำให้ดวงตากลมโตยิ่งโตจนน่ามอง“เอาจริงดิ”“อืมมมมม ก็แล้วแต่ว่าจะอยากได้ความช่วยเหลือหรือไม่ ข้าอยู่ในห้องตำราแต่ก็ไม่ได้อ่านนิยายหรือตำรา ซู่หนี่จิง ต้งเสียนจื่อ (สองตำรากามสูตร) และเก่งแต่เรื่องอย่างว่า อย่างเดียวหรอกนะ”มีมี่หน้าแดง“ก็ได้”อ๋องหรงก้มหน้าซ่อนยิ้มแค่ตั้งใจหยอกเย้าแต่อ
อ๋องหรงจ้องมองใบหน้างดงามที่สลดลงของมีมี่“เอ่อ ข้า ว่าพอได้แล้วข้าพอใจแล้ว เช่นนั้นเลิกทำโทษนางเถอะ”รู้สึกผิดไม่น้อย“องค์หญิงเก้าท่านควรจะกลับไปเสีย เพื่อฝ่าบาทจะได้ไม่ต้องกังวลมากไปกว่านี้ลงทัณฑ์คนอื่นวุ่นวายเรื่องนี้จะว่าไปไม่มใครผิด แค่เรื่องเข้าใจผิด”อ๋องหรงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่เหมือนจะบอกว่ามีมี่นั่นแหละที่ผิดทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะเรื่องเล็กน้อย“ก็ได้กลับก็ได้แต่รอให้อิ่มก่อน” พูดอ้อมแอ้ม“หลี่กงกงท่านกลับไปทูลฝ่าบาทข้าจะส่งคนคุ้มกันองค์หญิงกลับตำหนัก” อ๋องหรงหันไปพูดกับหลี่กงกง“เพฮะตอนนี้ฝ่าบาททรงรอที่ตำหนักเหมยฮวา”“รอทำไม”มีมี่กลืนน้ำลายลงคอยากเย็น“ทรงบอกว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับพอหลับตาลงก็เห็นแต่ใบหน้าขององค์หญิง เช้ามาจึงรีบมาที่ตำหนักแต่ไม่พบองค์หญิง พอดีนางกำนัลคนนั้นนำคำพูดขององค์หญิงมากราบทูลฝ่าบาท จึง…ทรงกริ้วและสั่งลงทัณฑ์คนพวกนั้นปางตาย”มีมี่หันมองอ๋องหรงต้องการตัวช่วย แต่เปล่าเลยอีกคนกลับนิ่งเสียมีมี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ“กงกงท่านไปเถอะ ข้าจะกลับทันทีที่อิ่มไม่ให้ฝ่าบาทรอนาน”ขันทีอาวุโสประสานมืออย่างนอบน้อมแล้วจากไป“คนเช่นองค์หญิงเก้าเอ่อถัว คงไม่รู้ว่
ลู่เหวินก้มหน้ายิ้ม เมื่อเห็นอ๋องหรงถอนหายใจยาวหนึ่งชั่วยามนางทนรออย่างอดทนเพื่ออะไรมีหรือเขาจะไม่รู้โต๊ะอาหารที่ศาลาริมน้ำสาวใช้ยกอาหารคาวหวานมาวางไว้ เสวียนอี้ช่วยจัดอาหารลงจานอย่างไม่ถือตัวว่าเป็นคุณหนู“ลู่เหวินไปรอรับ องค์หญิงเก้า” เสวียนอี้อ้าปากค้างอ๋องหรงที่เอามือไพล่หลังมองไปที่ประตูทางเข้าตำหนักเอ่ยปากเสียงเข้ม เสวียนอี้หูผึ่ง“ไม่แน่อาจไม่มาขอรับ”ลู่เหวินพูดอ้อมแอ้ม“ไม่มาแล้วนางจะกินที่ไหน ห้องเครื่องไม่ยกเครื่องเสวย ข้าถามไถ่ก็อ้างเรื่องที่นางเป็นชนเผ่ากลัวว่าทำเครื่องเสวยไปแล้วจะไม่ถูกปาก ช่างเป็นข้ออ้างที่ฟังขึ้นเหลือเกิน แค่นางไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นสนมก็ถึงกับอดข้าว”“ขอรับ ลูกจะไปรอรับหากไม่มาจะไปตามขอรับ”“มาแล้วๆๆๆ มาแล้วรอนานไหมข้ามาแล้ว ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องกังวลไม่ต้องกังวลข้ามาแล้ว”หนีบเอาหีบเงินกับหีบทองเข้ามา ลู่เหวินจะรับเอาก็เบี่ยงตัวหลบ“ไม่ไม่ต้องๆ ข้าถือเองได้”“นั่นคืออะไร” อ๋องหรงเอ่ยปากถาม"เงินกับทองของข้าที่นำติดตัวมาจากเอ่อถัวอย่างไรเล่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีเท่านี้” อ๋องหรงส่ายหน้าไปมากำลังคิดว่าทำไมเขาที่จับตาตลอดถึงไม่เห็นว่ามีมี่เอาเงินทองเหล่านี้ขึ้นเ
“เจ้าค่ะ แต่พูดก็พูดองค์หญิงถูกพามาที่นี่ก็เพื่อการนี้เจ้าค่ะมาถวายตัวองค์หญิงต้องทำใจเจ้าค่ะ แต่ที่น่าแปลกใจคือซูเอ่อไม่คิดว่าองค์หญิงจะมีเวทย์หยั่งรู้ที่เป็นภัยต่อคนอื่น เช่นนี้ฝ่าบาทเองก็คงไม่รู้หากฝ่าบาทรู้ก็คงไม่ให้องค์หญิงมาที่นี่ให้เสียเวลา” มีมี่ยิ้ม“ไม่ใช่เพื่อการนี้แต่เพื่อช่วยมวลมนุษยชาติ เจ้าเข้าใจไหมซูเอ่อ ต่อไปช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนอื่นได้รู้ว่าข้ามีหน้าที่ทำนายทายทักอนาคตของผู้คนดีไหมการที่เข้ามาอยู่ที่นี่จะได้ไม่สูญเปล่าข้าแบ่งให้เจ้า 20เปอร์เซ็นต์เลยเอ้า”ซูเอ่ออ้าปากค้าง ธุรกิจกำลังเริ่มต้นและไปได้ดี“ซูเอ่อจะได้ส่วนแบ่งหรือเจ้าค่ะ” ดวงตาแวววาว“แน่นอน ต่อจากนี้ก็จะยื้อเรื่องของฝ่าบาทได้อีกสักพักไม่ให้เขามากวนใจข้าแต่ระหว่างนี้อะไรก็ไม่แน่นอน เงินทองแน่นอนที่สุด ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อทำนายดวงให้กับผู้คนในวังหลวงเพื่อแนะแนวทางและช่วยหาทางออกจากเรื่องที่ไม่อาจตัดสินใจหรือแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เราสองคนมาทำธุรกิจร่วมกัน ตกลงไหม”เรื่องราวต่อจากนี้มีมี่อ่านมาหมดล่ะบอกไปก็เหมือนสปอยส์ต่อจากนี้เรื่องราวสปอยส์เหล่านี้จะกลายเป็นเงินทอง“ตกลงเจ้าค่ะ” มีมี่ยิ้ม จะร่วงหรือรอดก็ต
ซูเอ่อยังทุบประตูรัวๆ แต่ข้างในกลับสงบนิ่ง“นางกำลังจะ ทำร้ายตัวเอง”“ใจเย็นขอรับบางทีองค์หญิงอาจแค่ๆๆ”ลู่เหวินบอกว่าเขาใจร้อนแต่อ๋องหรงกลับใจร้อนกว่า“องค์หญิงเจ้าขาอย่าทำแบบนี้ จะคิดสั้นแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ”“ฮ่องเต้เสด็จจจจจจจจจ”องครักษ์แหวกทางเข้าไปยืนหน้าห้องฉีก้านที่สวมเสื้อคลุมมังกรสีเหลืองทองแต่ร่างท้วมพุงพลุ้ยน่ารังเกียจไม่เหมาะกับชุดคลุมที่สวมใส่แม้แต่น้อย พาตัวเองมายืนหน้าห้อง ลู่เหวินยกมือป้องอ๋องหรงไว้ซูเอ่อรีบทรุดกายลงกับพื้น“ฝะฝะฝ่าบาทเพคะองค์หญิงเก้ากำลังจะ ทำร้ายตัวเองเจ้าค่ะ”ฉีก้านเลิกคิ้วสูง“หือ ทำไม ทำไมต้องทำร้ายตัวเอง มิใช่ต้องการต่อรองกับข้าหรือ องครักษ์เปิดประตู” ขันทีอาวุโสกันฉีก้านออกมาองครักษ์ที่มีอาวุธครบมือต่างช่วยกันกระแทกประตูจนเปิดอ้าออกอ๋องหรงกัดฟันแน่น“ไหนให้ข้าดูหน้าองค์หญิงหน่อย พวกเจ้าถอยไปข้าจะปลอบใจองค์หญิงเพียงลำพัง”“อะฝ่าบาท ฝ่าบาท ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”ขันทีอาวุโสรีบห้ามไว้“หืม ทำไมล่ะนางกลัวจะต้องถวายตัวจึงทำร้ายตัวเองข้าปลอบใจนางไม่กี่คำเกรงว่านางจะสงบลง”ก้าวขาเข้าไปในห้อง ยืนอยู่กับที่ตะลึงกับใบหน้างดงามทว่ามีหยาดน้ำตาไหลรินใบหน้าเศร้า
“เรื่องเวทย์หยั่งรู้คงแพร่ออกไปทั่ววังหลวงแล้วฝ่าบาทจะต้องบังคับให้องค์หญิงสะกดเวทย์ไว้แน่ๆ เจ้าค่ะ” มีมี่ถอนหายใจรอบที่ร้อยห้องทรงอักษร“อย่างนั้นหรือนาง นางมีเวทย์ประหลาดอย่างนั้นหรือ เจ้าเคยได้ยินไหมอ๋องหรง” ฉีก้านพูดจบก็คีบเครื่องเสวยใส่ปากเคี้ยวงับๆ อย่างอารมณ์ดี อวี่หนิงคีบเนื้อกุ้งที่แกะวางให้อย่างเอาใจ“ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ” น้ำเสียงเรียบเฉย“อือประหลาดจริง มันก็จริงอยู่เจ้าไม่เคยเข้าใกล้นางนี่เจ้าสิบสอง เลยไม่รู้ว่านางมีเวทย์ประหลาดแบบนี้”ลู่เหวินหันไปอมยิ้มเสียอีกทางจะไม่เคยอย่างไรยามที่องค์หญิงเก้าจะแทงท่านอ๋องท่านอ๋องก็ลากองค์หญิงเข้าไปแทงคืน ไม่สิ เมื่อสองคืนที่ผ่านมาก็ไม่รู้ได้แทงกันหรือเปล่าจะเรียกว่าใกล้หรืออะไรดี“พ่ะย่ะค่ะ” ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ“แล้วข้าควรทำอย่างไร”“ฝ่าบาทเพฮะก็ควรจะเข้าไปพูดคุยกับพระสนมก่อนดีไหมเพฮะ”“พระสนมอะไรกัน นางยังไม่ยอมถวายตัวเสด็จพ่อก็จะแต่งตั้งนางแล้วหรือ รอให้นางถวายตัวก่อนค่อยเรียกนางว่าพระสนม แบบนี้เสด็จพ่อก็ขาดทุนสิ” คนที่ไม่อยากให้ใครมาแย่งความรักจากพ่อไปอวี่หนิงขัดขึ้นขันทีอาวุโสยิ้มเจื่อนๆ“เพฮะไม่พระสนม เพฮะต่อไปไม่กล้าเรียกแล้วเพฮะ







