LOGIN"พี่ครับวันนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายผมขอกลับก่อนไดไหม?" เสียงเล็กและเบาอันเป็นเอกลักษณ์ของคนอ่อนแอเอ่ยกับเพื่อนร่วมงาน
"เป็นอะไรน้ำเสียงไม่ค่อยดีแบบนั้น?" เพื่อนร่วมงานหน้าเหวี่ยงถามด้วยความแปลกใจปกติคนตัวเล็กขยันทำงานเกินเวลาเพื่อขอเเลกกับของกินกับน้ำในร้านอาหารเล็กๆ น้อยๆ เสมอ "ม ไม่มีอะไรครับคงเพราะโหมงานมาหลายวัน" ร่างบางเดินล่องลอยราวกับไร้ชีวิตชีวาหยิบน้ำที่วางข้างก๊อกใส่กระเป๋าผ้าใบเก่ายกมือไหว้รุ่นพี่เช่นเดิม รูปร่างกิริยาที่ดูไม่น่าจะทำงานหนักไหวบวกกับภาพลักษณ์มอซอผมเผ้าหยักรุงรังปิดหน้าพูดเสียงเบาอยู่ในลำคอราวกับพวกหนูท่อไม่ยอมเปิดเผยตัวตนไม่มีความมั่นใจไม่น่าสนใจสักอย่างมีดีแค่ขยันและใสซื่อเท่านั้น "ดื่มน้ำก๊อกมันไม่ค่อยดีนะผอมมากไปแล้วได้ข่าวว่าวิ่งงานหลายที่ ที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงินเหรอ?" เพื่อนร่วมงานยังคงสงสัยตลอดเวลาอยากรู้ว่าทำไมคนตัวเล็กต้องทำงานหนักเช่นนี้ "เปล่าครับ..ผมขอตัวก่อนนะครับ" และคำตอบที่ได้มาก็มีเพียงการบอกปัดเดินก้มหน้าก้มตากลับไป .. ร่างกายผ่ายผอมเพียงลมพัดก็แทบปลิวเยื้องย่างเชื่องช้ายกมือขึ้นกอดกระเป๋าผ้าแนบกายบางเพื่อลดอาการแสบท้อง อาการมึนหัวตีรวนวนลูบซ้ำไปซ้ำมาคล้ายยืนบนเรือกลางคลื่นทะเลสาดซัดกระแทกใส่ในอก ไม่ไหว..จะไม่ไหวอยู่แล้ว. . ทำไงดี ภาพรอบกายหมุนคว้างไปหมด ..พี่ทอย มือเล็กสั่นเทาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายตนแรกที่นึกถึงมีเพียงคนเดียวที่เมมชื่อไว้ว่า..สุดที่รัก ตื้ดดดด ตื้ดดดด ตื้ดดดด 'ฮัลโหลค่ะ' เสียงผู้หญิงปลายสายทำคิ้วเรียวขมวดมุ่นมองหน้าจออีกครั้งก่อนจะเอ่ยถามออกไป 'นี่เบอร์พี่ทอยใช่ไหมครับ?' 'ค่ะไม่ทราบว่าจากไหนคะ?' 'เอ่อ...พี่ทอยอยู่ไหมครับ?' 'อาบน้ำอยู่ค่ะ' 'ไม่ทราบว่าคุณ..เป็นใครครับ?' 'เป็นเพื่อนค่ะ เพื่อนสนิท' แกร่กก ~'คุยกับใคร?' 'ไม่รู้สิโทรศัพท์นายดังเบอร์ไม่มีชื่อไม่รู้ด่วนไหมเลยรับให้เขาถามว่านายอยู่ไหม?' 'ไม่มีชื่อแล้วจะรับทำไมกดวางไปเลยใส่เสื้อผ้าได้แล้วต้องรีบลงไปหาเพื่อน' 'เออ' ติ้ด.. วางสายไปแล้ว.. อะไรคือไม่มีชื่อในรายชื่อโทรศัพท์แฟนตัวเอง? อะไรคือแฟนตัวเองอาบน้ำออกมาบอกให้ผู้หญิงใส่เสื้อผ้า? นี่มันอะไรกัน? .. จากที่อ่อนแรงเป็นทุนเดิมจนแทบจะคลานได้ครานี้แม้แต่กำลังใจก้าวเดินก็ดูเหมือนจะไม่เหลือหรอ หัวใจเจ็บแปลบบีบคั้นชาหนึบส่งผลไปถึงนัยตาภายใต้เส้นผมยาวร้อนผ่าวปล่อยของเหลวสีใสออกมาพรั่งพรู ไม่รู้ว่าสิ่งใดเจ็บปวดกว่ากันระหว่างร่างกายกับหัวใจ ร่างบอบบางโซซัดโซเซขยับย่างลากขาดเล็กลากพื้นราวกับไม่มีแรงยกสูงไปกว่านั้น ไหล่เล็กสั่นเทาใบหน้าเหยเกกัดกลั้นริมฝีปากซีดจนเลือดซิบ ฮึ่กกก... อึ่กกก ไม่มีอะไรเจ็บไปกว่าหัวใจอีกแล้ว ร่างกายที่ว่าไม่ไหวก็ไม่เท่าหัวใจแตกร้าวในตอนนี้ ไม่รู้จะปลอบใจตัวเองอย่างไรในเมื่อตลอดมาตอนคนรักไม่มีรถก็ยังดีที่อยู่ด้วยกันได้ยินเสียงได้เห็นหน้าไม่เคยเรียกร้องอะรมากไปกว่านั้น แต่พอพี่มีมันก็ลืมคนข้างหลังที่เคยรับปากว่าจะอยูด้วยกัน ... เมืองกรุงมันกว้างใหญ่เกินไป กว้างเสียจนมองเห็นทางม้าลายข้ามถนนเป็นหนทางกว้างใหญ่ในทะเลทรายที่ไม่เห็นปลายทาง รู้สึกได้เพียงการย่างก้าวสั้นๆ กับน้ำตาที่ไหลพรากราวกับไม่เหลืออะไรในชีวิตอีกแล้ว .. เดิน..ต้องเดินต่อไป..ข้ามถนนให้ได้ถ้าถึงอีกฝั่งก็จะถึงห้องเร็วที่สุด..ขอแค่กลับไปหลับไหลในห้องที่เราเคยอยู่ด้วยกันก็พอ ไฟเขียว100วินาที ตีหนึ่งเงียบสงัดถนนโล่งไม่มีรถสักคัน ตึก ตึก ตึก ขาสั้นก้าวช้าสั่นระริกราวกับคนชรา เดินไปไม่ถึงครึ่งทางเสียงลมวูบแรงแว่วมาจากที่ไกล ๆ รู้สึกถึงบางสิ่งที่มองไม่เห็น แต่หูอื้อตาลายเกินกว่าอยากจะรับรู้สิ่งอื่น ฟู้วววว ~ เสียงคุ้นเคยเหมือนได้ยินจากไหนซักที่เพียงแค่ตอนนี้หัวสมองเบลอเกินกว่าจะคิดอะไรได้ ขาตนเองกลายเป็นสิ่งหนักอึ้งเดียวที่พึ่งพาได้เพื่อจะกลับไป. อีกนิดเดียว..เท่านั้น ฟ๊าวววว!!! บรึ้นนนนน!! แสงไฟสว่างวาบสาดเร็วมาจากด้านหลังเพียงหันหน้ากลับไปมองรถคันนั้นก็เข้ามาใกล้เกินกว่าจะเขยื้อนหลบด้วยความเร็วได้ เอี๊ยดดดดดด!!! ดวงตากลมโตถลึงกว้างมองผ่านเส้นผมปิดหน้าวูบหนึ่งคล้ายจะสบตากับคนบนรถที่มองผ่านกระจกออกมาพร้อมกับความสว่างวาบทะลุม่านหมอกน้ำตาของไฟหน้ารถคล้ายพุ่งเข้ามาในดวงตาทุกอย่างขาวโพลนไปหมด. . . เมื่อกี้... ยมทูตหรือเปล่า ทำไม..น่ากลัว โครมมมมมม!!ไม่ได้มาแค่ภาพแต่เสียงเล็กเว้าวอนออดอ้อนกว่าครั้งไหนเปล่งออกมาจากปากสีชมพูอิ่มคนตัวเล็กคุกเข่านอนแนบช่วงบนลงบนหน้าขาริมฝีปากกับปลายจมูกแนบชิดเบียดแท่งรักอันเขื่องในมือลมหายใจรินรดกลางจุดยุทธศาสตร์ร่างกายร้อนผะผ่าววูบวาบล่องลอยหนักขึ้นๆ ภาพในมโนสำนึกล่อลวงสาหัสนักสะโพกเล็กโก่งโค้งหมอบคลานกลางหว่างขาเอียงหน้าแนบของสงวนชวนจินตนาการลามกกู่ไม่กลับ ลมหายใจร้อนๆ จากปลายจมูกรั้นเลื่อนไล้ขึ้นลงตามความยาวกระตุกเต้นตุบตับบนเส้นเลือดภายใต้แท่งเนื้อปูดโปนแข็งแข่งกันทั้งลำฝ่ามือน้อยๆ เปลี่ยนจากยันที่นอนมาวางแหมะบนหน้าขาใกล้ของสงวนอ่าาาาาฟึ่บบบบๆๆๆๆๆข้อมือแข็งเกร็งเร่งเร้าสาวลำรักรัวเร็วเมื่อภาพฝันถูกปากเล็กจุมพิตรอบลำรักพร้อมเอ่ยชื่อเจ้าหนี้เสียงกระเส่าคุณร็อค คุณร็อคครับแฮ่กกกก จุ้บบ~ จุ้บบ~ปากเล็กลากลิ้นเลียจากโคนจรดปลายแท่งเนื้ออันเขื่อง ก่อนปากเล็กๆ จะอ้าอมส่วนปลายหายเข้าไปในลำคอ ลึกขึ้น ๆ สุดความยาวปลายลิ้นชื้นแฉะกวาดวนรัดรอบเอ็นเนื้อสีเข้มครูดฟันขาวคมกับเจ้าของเครื่องเพศ ดวงตาคมหรี่เร้ามองภาพตรงหน้าโดยไม่รู้สึกตัวว่าข้อมือตัวเองสาวท่อนลำรักหนักหน่วงบีบขยำพวงไข่แฝดจนส่วนปลายชุ่มฉ่ำน้
การได้คุยกับใครสักคนช่วยให้ดีขึ้นได้บ้างแต่ไม่รู้ว่าช่วงนี้คุยกับคนทะลึ่งอย่างดีดี้มากไปไหมในหัวถึงได้รู้สึกกับภาพลูกหนี้ทำงานบ้านหรือแม้แต่มองปากเล็กดื่มน้ำแล้วจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนเป็นครั้งแรกที่เดินวนหน้าประตูห้องตัวเองแล้วไม่รีบเข้าไปนอนเล่นเกมส์เช่นเคย ตอนนี้หัวค่ำเด็กสตาร์จะทำอะไรอยู่ จะทำกับข้าวด้วยชุดเสื้อตัวสั้นกางเกงขาสั้นสวมผ้ากันเปื้อนอยู่หรือว่าจะนั่งขัดสมาธิที่พื้นหน้าโซฟาจนกางเกงขาสั้นถลกขึ้นมากกว่าเดิมจนเห็นขาอ่อนขาวๆ หรือว่าจะอาบน้ำ....ผมยาวครึ่งบนสะบัดแรงกับภาพจินตนาการในหัว..เป็นเอามาก..เป็นเอามากจริงๆ ถึงไม่ใช่คนดีเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดีที่ไปรู้สึกกับคนมีเจ้าของเฮ้อ!เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ถูกปล่อยออกมาตามมาด้วยเสียงคีย์การ์ดเปิดประตูห้องตนเองเข้าไปภายใน"อ่ะ...ไอ้เหี้ย!"ร่างสูงของเจ้าหนี้อุทานออกมาเสียงแหบห้าวเบาหวิวกับภาพตรงหน้าทันทีที่เดินเข้าบ้านมาไม่กี่ก้าวร่างเล็กขาวสว่างจ้ายืนเปลือยท่อนบนสวมกางเกงนอนผ้าพริ้วเกาะสะโพกต่ำยืนเช็ดผมขาวลู่เปียกน้ำทั่วร่างมีหยดน้ำเกาะพร่าางพราวยอดอกเล็กสีชมพูโดดเด่นบนเนื้อเนียนกว่าส่วนไหน ไอ้ตัวเล็กหันหน้ามาทักทายทั้
ที่ห้อง"คุณร็อคโทรศัพท์สั่นทั้งวันเลยไม่รับเหรอ?" คิ้วเรียวขมวดเป็นปมมองโทรศัพท์เครื่องหรูดังทั้งวันจนเจ้านายเปลี่ยนเป็นโหมดสั่นจนต้องท้วงขึ้นเพราะเจ้านายไม่สนใจจะรับสาย"ยุ่งอะไรกับของของกู ไม่มีอะไรทำหรือไงกูจะได้ใช้ให้ไปถอดล้อรถ!"" แค่ถามเองไม่เห็นจะต้องเกรี้ยวกราดเลย""แล้วเสื้อผ้ามึงไม่มีแล้วหรือไงทำไมต้องใส่เสื้อสั้นๆ คว้านคอลึกๆ กางเกงก็รัดขนาดนี้อย่างกับคนใส่ไปเต้นแอโรบิกน่าอายชิบหายอย่าบอกนะว่าดีดี้มันส่งมาให้มึงอีกแล้ว?""คุณร็อคไม่ได้สวมแว่นไม่ใช่เหรอครับมองเห็นเสื้อผ้าผมด้วยเหรอ?""อะ.. เอ่อ""ใส่คอนแทคเลนส์เหรอครับ?""ย..ยุ่ง! ออกไปห่างๆ เลย!""ก็คิดว่าไม่ได้ใส่คอนแทคเลนเลยเข้ามาหาใกล้ๆ หรือว่าจะออกไปข้างนอกผมต้องออกไปด้วยไหม?""อะ เอ่อ เออ กูจะออกข้างนอกมึงไม่ต้องไปเลยกูอายเขานับวันยิ่งติดเชื้อแปลกจากดีดี้นะมึง!""ครับขับรถดีดีนะครับคุณร็อค~""เรื่องของกู"ร่างสูงหุนหันออกจากห้องเมื่อถูกเจ้าหนี้ตัวเล็กเดินเข้ามาถามใกล้ๆ พักนี้เสื้อผ้าของลูกหนี้เปลี่ยนไปจากคำแนะนำของดีดี้แม่สื่อตัวดี ความพยายามจับคู่ของเพื่อนทำคนห่ามอยู่ไม่สุขมาหลายวันเสื้อตัวโคร่งสั้นจนเอวลอยกางเกงเอว
"สตาร์.." เสียงเรียกคนข้างกายรั้งขาที่ก้าวเดินให้หยุดชะงักลง ดวงหน้าสวยหวานหันไปเจอคนคุ้นเคยต้นตอของเรื่องทุกอย่าง"ใครอีกวะเนี่ย?" ร็อคสบถเบาๆ"พี่..ทอย" ปากอิ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ชื่อที่จำได้แม่นเพราะมันคือแฟนเก่าโคตรเฮ็งซวยของเด็กสตาร์ทอย..อ้อ..ผัวมัน..นี่มันวันรวมญาติมึงหรือไง!"หายไปไหนมาทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?"ถามได้ว่าหายไปไหนไม่เห็นมีใครตามมันสักคนคือ..มึงอย่าบอกนะว่าจะโง่กลับไปหามัน"ไปคุยกันหน่อยได้ไหม?"ไอ้คนเมืองติดแบรนด์เนมทำท่าจะเดินเข้ามาใกล้ลูกหนี้ที่ยืนขมวดคิ้วนิ่งอึ้งใบ้รับประทานลำบากเจ้าหนี้หัวร้อนมาหมาดๆ ขวางทางถ่านไฟเก่าไม่ให้เข้าใกล้กอดอกเชิดหน้าใส่แม่งเกลียดขี้หน้า!!"นี่เวลางาน.มัน..สตาร์ทำงานอยู่" เสียงห้าวห้วนตอบกลับแทนร่างเล็กที่เหมือนดาวโดนดับแสงเมื่อใกล้ขุมนรกดำมืดเช่นทอย"อ่อ..เหรอครับ สวัสดีครับคุณร็อคกระผมชื่อทอยนะครับเป็นพนักงานออฟฟิศแล้วก็เป็นแฟนของสตาร์ครับ" ไอ้เนี้ยบยกมือขึ้นสวัสดีนอบน้อมขึ้นมาทันทีแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ถูกอนุญาตให้ใกล้เด็กสตาร์"รู้จักฉันด้วย?""แน่นอนสิครับผมน่ะติดตามเพจบริษัทคุณด้วยนะครับรถเบนซ์ที่พึ่งถอยมาเมื่อเดือนก่อนก็ซื้อจากโชว์รูม
ยังไม่ทันได้เปิดพิธีงานเป็นทางการคนที่เจ้าของบริษัทหนีบมาด้วยเปิดบิลขายรถไปถึงสามคันโดยหนึ่งในนั้นซื้อด้วยเงินสดคนที่เคยถูกมองว่าไร้ค่ากว่าเศษฝุ่นสามารถพูดกับคนชั้นสูงคนกระเป๋าหนักคนที่มีความชอบกำลังซื้อได้อย่างเป็นธรรมชาติครั้งแรกที่เห็นคนตัวเล็กเงยหน้าพูดจาฉะฉานกับคนอื่นด้วยสีหน้าท่าทางดีขึ้น เทียบกับวันที่เจ้าตัวพูดถึงแฟนเก่าด้วยสีหน้าเศร้าหมองไหล่เล็กห่อลีบนั่งชันเข่ากอดร่างตัวเองราวกับทำประจำจนเคยชินคล้ายกับการโอบกอดตัวเองในวันที่ไม่มีใครคอยโอบกอดสักพักหนึ่งถึงพิธีเปิด ร็อคถูกเชิญตัดริบบิ้นเปิดงานโดยมีพ่อกับแม่ที่ต่างฝ่ายต่างมาทีหลังยืนเป็นประธานครอบครัวเศรษฐีนีต่างจังหวัดหน้าตาดุดันท่าทางเหมือนกุ๊ยล้วงมือในกระเป๋าสวมเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดทำใครหลายคนไม่ชอบใจนักเจ้าของบริษัทน้อยใหญ่ต่างอิจฉาความร่ำรวยและการเจรจาค้าขายในเอกลักษณ์ดิบห่ามของคนคนนี้แทบทุกครั้งดีลรถหรูมาอยู่ในมือพร้อมคำครหาว่าพ่อแม่หนุนหลังจึงลอยเข้าหูมาให้ได้ยินเสมอและแล้วก็เสร็จพิธี"ได้ข่าวว่าลูกควงดารามางานนี้ด้วยเหรอร็อคแนะนำให้แม่รู้จักได้ไหม?" คุณหญิงเอ่ยขึ้น"ดาราอะไรครับ?" คิ้วหนาขมวดปมไม่เข้าใจ"ก็..คนนั้นค
สองหนุ่มออฟฟิศหน้าตาสะอาดสะอ้านเดินชมรถมากมายหลายค่ายจากบริษัทนำเข้ารถหรูอวดแสนยานุภาพขนทัพอวดความมั่งคั่งว่าจ้าวไหนสามารถนำรถราคาแพงที่สุดสวยที่สุดดีที่สุดจากทั่วมุมโลกมาเป็นหน้าเป็นตาให้บริษัทได้หลายบริษัทใช้พริตตี้ผู้หญิงบางบริษัทใช้ผู้ชายหลายคนโดดเด่นด้วยภาพลักษณ์หล่อเท่ปราดเปรียวแต่คนที่โดดเด่นเปล่งประกายอยู่กลางงานกลับเป็นชายร่างเล็กผมขาวตาโตแต่งเครื่องสำอางประกายระยิบระยับแฟนตาซีสวมเสื้อคร๊อปเอวลอยผ้าซีทรูผูกโบว์ที่คอและสวมปีกสีขาวราวกับเทวดาตัวน้อย ปากอิ่มวาวเซ็กซี่ผสมน่ารักยืนยิ้มต้อนรับผู้คนที่เข้ามาดูรถที่แพงสุดในงานได้อย่างลงตัว "แม่ง...แซ่บสะบัดเลยผู้ชายจริงๆ เหรอเนี่ย?"ชายหนุ่มเอ่ยชมเปาะมองตามร่างเล็กไม่วางตา"เอ๊ะนั่นเดินประกบไอ้ร็อคตลอดเลยอย่าบอกนะว่าเด็กมัน!""ใครวะร็อค?""ไอ้คนบ้านนอกที่บังเอิญรวยจากมรดกปู่ย่าตายายไงมันเป็นคนเชียงรายแต่เสร่อมาค้ารถนอกแข่งกับคนกรุงเทพฯ ดูหน้าดูการแต่งตัวมันสิ ผิวก็ดำชอบใส่เสื้อแดงไถผมครึ่งหัวสักลายรกเลอะเต็มตัว นิสัยสถุนสุดๆ วงในเม้าถึงมันฉ่ำว่าไม่คูควรกับวงการรถหรู""แต่เด็กมัน...กูคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน"ดวงตาคู่คมมองเขม็งร่
![เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรีส์วายเรื่องหนึ่ง [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






