๑
หวน
สามวันต่อมา เภตราและดวงใจมาซื้อของที่ตลาดนัดในตอนเช้าเหมือนเคย หญิงสาวแยกกับน้องเพื่อซื้อของให้ครบโดยเร็วจะได้รีบกลับบ้านไปทำงาน
“ได้ของครบหรือยังไหม” เภตราหลุบตามองอาหารทั้งสด แห้งและสำเร็จรูปในมือของน้องแล้วไล่สายตามองสลับรายการบนกระดาษ
“ครบพี่ ของพี่ล่ะ” หญิงสาวมองไปยังถุงผลไม้ในมือกับยาทาแก้ปวดเมื่อยที่พี่สาวแวะเข้าไปซื้อจากเภสัชกร
“ของพี่ก็ครบ เรากลับกันเถอะ จะได้รีบไปดูคนงานตัดกล้วย”
สองพี่น้องเดินกลับไปยังรถกระบะที่จอดไว้ข้างตลาดนัด พลันสายตาของดวงใจก็ไปหยุดที่ร่างสูงโดดเด่นของดลภาคย์พอดี
“พี่ดลนี่นา...”
เสียงอุทานเบาๆ ของน้องสาวทำให้คนที่กำลังสตาร์ตรถชะงักมือ อดไม่ได้ที่จะปรายตามองไปยังจุดที่น้องสาวบอก จึงได้เห็นร่างสูงคุ้นตาของชายหนุ่มอุ้มลูกสาว ข้างๆ คือบิดากำลังช่วยกันเลือกซื้อผลไม้จากร้านที่หล่อนเพิ่งผละจากมาเมื่อครู่
“สงสัยมาซื้อกับข้าว” เอ่ยพลางปรายตามองพี่สาวว่าจะมีปฏิกิริยาเช่นไร ทว่าอีกฝ่ายละสายตามาจากภาพนั้น แล้วสตาร์ตรถยนต์ก่อนจะเคลื่อนมันออกไปช้าๆ โดยไม่รู้ว่าคนที่พวกหล่อนพบกำลังมองตามท้ายรถยนต์จนสุดสายตาเช่นกัน
“พ่อขา เอานี่ๆ”
เสียงเล็กๆ เรียกชายหนุ่มให้หันกลับไป เขายิ้มให้ลูกสาวแล้วบอกแม่ค้าให้ใส่เพิ่มลงไปอีก นายสนมองลูกชายของตนแล้วผ่อนลมหายใจยาว เขารู้ดีทุกอย่าง สงสารลูกทั้งเห็นใจเภตรา แต่ไม่อาจพูดให้ใครเข้าใจหรือรับรู้ได้ทุกอย่าง เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว ที่ทำให้พวกเขาต้องอึดอัดใจและน้ำท่วมปากมาจนปัจจุบันนี้
เมื่อซื้อของเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงแวะธนาคาร ที่นั่นดลภาคย์ได้พบกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบหน้ากันมานานตั้งแต่เขาเริ่มคบหากับเภตรา
“ดล!”
เสียงเรียกจากด้านหลังของคนที่กำลังนั่งกรอกตัวเลขเพื่อนำเงินฝากเข้าบัญชีต้องเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ต้องขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ
“อ้าว! รัต ย้ายกลับมาบ้านแล้วเหรอ” ชายหนุ่มกวาดตามองเพื่อนสมัยเรียนที่เป็นพนักงานธนาคารและใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงมาพักใหญ่
“ใช่จ้ะ กลับมาจะปีหนึ่งแล้ว ดลล่ะสบายดีไหม ได้ข่าวว่ากลับมาอยู่บ้าน” ดวงตาคู่งามที่ตกแต่งมาอย่างดีสบตาคมกริบของเพื่อนด้วยแววตาที่เจิดจ้า ข่าวการกลับมาอยู่บ้านพร้อมลูกสาวของเขา ทำให้หล่อนมีความหวังขึ้นอีกครั้ง
“รัตรู้ได้ยังไงว่าเรากลับมาอยู่บ้าน” เขาขมวดคิ้วน้อยๆ แต่เมื่อคิดว่าในสังคมหมู่บ้านนี้มันไม่ได้กว้างอะไร และคนส่วนใหญ่ก็รู้จักกัน จึงไม่แปลกที่ต่างจะรู้ความเป็นไปของกันและกันอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบุคคลใดที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษบางคน และหนึ่งในนั้นก็คือเขา แบบนี้เขาควรดีใจหรือเสียใจดี...
“แม่บอกน่ะ เห็นว่าไปเจอป้าข้างบ้านของดล ป้าแกเล่าให้ฟัง วันหยุดรัตว่าจะไปเยี่ยมดลอยู่พอดีเลย”
หญิงสาวกล่าวยิ้มๆ ขณะกวาดตามองชายหนุ่มอย่างชื่นชม เขาดูดีกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ยังไม่ทันที่จะได้ซักถามต่อ เสียงเรียกจากเครื่องอัตโนมัติก็ดังขึ้น ชายหนุ่มจึงเอ่ยขอตัวจากอีกฝ่ายทันที
“ถึงคิวพอดี ขอตัวก่อนนะรัต”
“จ้ะ ไว้เจอกัน”
ชายหนุ่มยิ้มให้เพื่อนเก่า แล้วเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ รัตติกาลมองเขาด้วยสายตาพอใจ บอกกับตนเองว่าคราวนี้พรหมลิขิตอาจเข้าข้างหล่อนก็ได้ใครจะรู้
ชายหนุ่มกลับมาที่รถยนต์ซึ่งบิดาและลูกสาวนั่งรออยู่ เขาหันไปยิ้มให้แม่หนูน้อยที่ยื่นหน้ามาหอมแก้มสากๆ ของตนพลางกระซิบบอก
“พ่อขา หนูปวดชิ้งฉ่อง”
คนเป็นพ่อทำตาโต เขาส่ายตามองหาห้องน้ำทันที
“ปวดมากไหมลูก ถ้าไม่มากทนหน่อยได้ไหม แถวนี้ไม่ค่อยมีห้องน้ำด้วย”
ลูกสาวทำหน้าเหยเกพลางบอก
“ทนได้หน่อยเดียว”
ได้ยินเช่นนั้นคนเป็นปู่จึงหัวเราะเบาๆ
“ออกรถไปก่อน เดี๋ยวพาน้องเดียวไปขอเข้าห้องน้ำที่ร้านป้าน้อยก่อนถึงสี่แยกไฟแดงก็แล้วกัน”
พอได้ยินชื่อคนเก่าคนแก่ในตัวอำเภอที่คุ้นกันดีเขาก็คลายใจ แล้วรีบขับรถยนต์ไปยังร้านป้าน้อยทันที
“รอเดี๋ยวนะลูก อย่าเพิ่งฉี่ออกมาล่ะ” เขามองลูกสาวยิ้มๆ แม่หนูน้อยพยักหน้ากลมๆ ให้บิดา
“โอเค.ค่ะ”
นายสนลูบศีรษะหลานสาวเบาๆ พลางคิดขำๆ ว่าสุดท้ายเหลือแค่เขาและลูกชายที่ต้องอยู่เลี้ยงหลาน เมียเขาก็ตายจาก ส่วนเมียลูกชายก็จากไป แต่ไม่มีปัญหา เขาจะเลี้ยงหลานสาวคนนี้ให้ดีที่สุด ทุกความรักที่เขาและลูกชายมีจะทุ่มเทให้แม่หนูน้อยคนนี้ ดุษิตาจะไม่มีวันขาดความรัก แม้จะขาดแม่ก็ตาม...
"เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยลงไปหาอะไรกินข้างล่างนะ” เสียงทุ้มบอกชิดแผ่นหลังเนียนของหญิงสาว ทำให้คนที่เพิ่งกลับมาหายใจได้เป็นปกติยิ้มจาง “พรุ่งนี้เราไม่ได้อยู่ที่นี่นะคะ” คนตัวโตเปลือยเปล่าตอบกลับพลางเลื่อนกายลงจากร่างนุ่มของภรรยาพร้อมกับรั้งเข้าไปกอดเอาไว้ในอ้อมแขน “ก็ไว้ไปกินที่โน่นไง” คำตอบของเขาทำให้หญิงสาวหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะทั้งคู่มีแพลนท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันหลายแห่ง ที่มีทั้งในเขตเมืองและชนบท จึงต้องจองที่พักเอาไว้ล่วงหน้าหลายที่ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการเดินทางท่องเที่ยว “เรามีลูกเพิ่มอีกสักคนดีไหมหมอก” ดลภาคย์ในวัยที่ขึ้นต้นด้วยเลขสี่ยังคงหนุ่มแน่นทั้งร่างกายและจิตใจ เรียกว่าเป็นวัยที่กำลังน่ากิน รูปร่างของเขาดีกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำไป ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานหนัก แต่ก็ออกกำลังกายไม่ได้ขาด หล่อนเองก็พลอยออกกำลังกายตามเขาไปด้วย เภตราในวัยสามสิบสี่ย่างสามสิบห้า จึงทั้งสาวและสวยและดูเด็กกว่าอายุมาก จึงไม่มีปัญหาหากต้องการตั้งท้องลูกคนที่สาม “ช่วยหมอกเลี้ยงหรือเปล่าล่ะ นี่ยังปวดหัวกับสามแสบที่บ้านอยู่เลย” หญิงสาวเอ่ยถาม พลางไล้ปลายน
หลังจากทุ่มเทกับบริษัทนำเข้าและส่งออกจนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ดลภาคย์ตัดสินใจชวนภรรยาสุดที่รักเดินทางไปฮันนีมูนหวานยังประเทศญี่ปุ่น โดยฝากลูกๆ เอาไว้กับปู่และยายให้ช่วยดูแล เมื่อเก็บของเข้าที่พัก ชายหนุ่มก็พาภรรยาออกไปเปิดหูเปิดตาทันที ระหว่างที่กำลังถ่ายภาพให้ภรรยาอยู่นั้น ก็มีเสียงคุ้นเคยเอ่ยทักจากด้านหลัง “ดล” คนถูกเรียกหันไปตามเสียง เช่นเดียวกับคนที่กำลังยืนโพสท่าถ่ายรูปก็รู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกันที่ได้พบคนรู้จักโดยบังเอิญ “รัต ไม่ได้เจอกันนานเลย มาเที่ยวเหรอ” ดลภาคย์ทักทายเพื่อนเก่า พร้อมกับหันไปพยักหน้าเรียกภรรยาที่กำลังเดินตรงมาหา มือใหญ่ที่สวมกอดภรรยาทันทีที่หญิงสาวมาหยุดอยู่ข้างกาย ทำให้รัตติกาลผ่อนลมหายใจยาว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ดลภาคย์ก็ยังคงรักมั่นอยู่แต่กับเภตราไม่เสื่อมคลาย ขณะเดียวกันหล่อนเองก็ไม่เคยลืมความรู้สึกที่เคยมีต่อเขา แม้ทุกวันนี้จะใช้ชีวิตอยู่กับสามีชาวญี่ปุ่นก็ตามที “ไม่ได้มาเที่ยว แต่รัตมาอยู่กับสามีที่นี่ได้สักสองปีแล้ว” “นั่นสินะ เราได้ข่าวว่ารัตไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้ว ที่แท้มาอยู่กับสา
บทพิเศษ ๒อนุกุลพาลูกและภรรยาแวะมาเยี่ยมเยียนเภตราและครอบครัวหลังจากหายหน้าหายตาไปนาน ชายหนุ่มมีร่างกายอ้วนท้วนกว่าแต่ก่อนพอควร และดูมีความสุขมากเช่นกัน “หายหน้าหายตาไปนานเลยนะคะพี่แอ๊ด” หญิงสาวต้อนรับชายหนุ่มกับเพื่อนรัก ที่แต่งงานกันหลังจากหล่อนแต่งงานกับดลภาคย์เพียงหนึ่งปีเท่านั้นด้วยความดีใจ “พี่ไปทำฟาร์มที่ต่างจังหวัดน่ะ ก็เลยต้องทุ่มเทให้กับฟาร์มใหม่ หมอกกับพี่ดลดูสบายดีนะ เด็กๆ โตเร็วมาก” เขามองลูกๆ ของหญิงสาวกับหนุ่มรุ่นพี่ด้วยสายตาเอ็นดู เขาเองก็กำลังมีลูกคนที่สองกับภรรยาเช่นกัน “สบายดีค่ะ พี่แอ๊ดเองก็กำลังมีคนที่สองใช่ไหม ว่าแต่กี่เดือนแล้วเนย” หันไปถามเพื่อนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ “สี่เดือนแล้วจ้ะ” ตอบพลางลูบท้องตนเองเบาๆ “ดีใจด้วยนะ ของเราก็กำลังซนเลย โชคดีที่พี่เดียวเริ่มดูแลน้องได้แล้ว เลยเบาแรงเราได้มาก” หญิงสาวเอ่ยถึงลูกเลี้ยงที่ตนรักเหมือนลูกแท้ๆ ด้วยแววตารักใคร่ “หมอกโชคดีรู้ไหม มีลูกโตทันใช้ น้องเดียวเองก็โคตรน่ารัก เหมือนกับว่าตั้งใจมาเกิดเป็นลูกเธอ แค่อาศัยท้องคนอื่นเท่านั้น ดูสิ ยิ่งโตยิ่งหน้าตาคล้ายกันอย่างน่าอ
“คุณดลโชคดีนะคะ ที่มีภรรยาทั้งสวยและเก่ง ลูกๆ ก็น่ารักทุกคน” ดลภาคย์สบนัยน์ตาคู่งามพร้อมกับยิ้มตอบ รับรู้ว่าหญิงสาวคิดเช่นไรกับตนเองมาโดยตลอด ทว่าเขาไม่มีตาจะแลใครที่ไหนอีก นอกเสียจากภรรยาคนงามของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ถึงหล่อนจะเผลอคิดเกินเลยกับเขาไปบ้าง แต่ชายหนุ่มนับถือหล่อนอยู่อย่างหนึ่งนั่นคือ การไม่คิดล้ำเส้นเรื่องส่วนตัวและรู้ว่าควรปฏิบัติตนเช่นไรกับคนที่แอบมีใจให้ ไม่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องร้าวฉานเหมือนกับผู้หญิงอื่นที่เขาเคยเจอ จึงเลือกมองข้ามความรู้สึกที่หญิงสาวมีต่อเขา ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจร่วมงานกับหล่อนมาจนถึงวันนี้ “ต้องขอบคุณภรรยาของผม เพราะมีเธอเคียงข้างและเป็นกำลังใจ ผมจึงมาถึงจุดนี้ได้” ทั้งสีหน้าและแววตายามเขาเอ่ยถึงเภตรา วาสินีสัมผัสได้ถึงความรักและการยกย่องจากดลภาคย์ หญิงสาวผ่อนลมหายใจอย่างยอมรับว่าไม่มีช่องว่างใดให้หล่อนหรือใครคั่นกลาง เขาเป็นผู้ชายหนึ่งในล้านที่มีความจงรักภักดีต่อคู่ชีวิตอย่างที่สุด และวันนี้หล่อนคงต้องยอมตัดใจจากเขาเสียที “วาดีใจที่คราวนี้จะมีคุณหมอกไปกับเราด้วยนะคะ วาจะจัดการเรื่องการเดินทางของคุณหมอกให้เร
บทพิเศษ ๑ชีวิตคู่ของดลภาคย์กับเภตราผ่านมาแล้วห้าปี แต่ทั้งสองแทบไม่เคยทะเลาะกัน ดลภาคย์แม้อายุมากขึ้นทว่ากลับยิ่งมีเสน่ห์ ทำให้มีผู้หญิงหลายคนสนใจอยากเป็นคนข้างกายหนุ่มหล่อและภูมิฐานที่มีฐานะมั่นคง บางคนรู้ว่าเขามีภรรยาแล้วยังมองข้ามความจริง ส่วนคนที่ไม่รู้ก็พยายามหาทางเข้าใกล้ให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันเภตราก็ไม่น้อยหน้า หญิงสาวไม่เคยปล่อยให้ตนเองทรุดโทรมตามกาลเวลา แม้จะผ่านการตั้งท้องและคลอดลูกมาแล้วถึงสองครั้งแต่นับวันหญิงสาวยิ่งงดงามราวกับดอกไม้ที่แย้มบานเต็มที่ ส่งกลิ่นยั่วยวนหมู่ภมรให้หมายดอมดม ร่างงดงามที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตผ้าพลิ้วชมพูเข้ม สอดชายเสื้อภายใต้กางเกงสแล็กสีดำ เน้นให้เห็นสัดส่วนงดงาม ดวงหน้าหวานแต่งแต้มเพียงบางเบา อวดความเนียนใสไร้จุดด่างดำเดินผ่านประตูสำนักงานเข้าไปภายใน ดวงตาคู่งามมีรอยยิ้มหยอกเย้าเมื่อหันไปเห็นเตโชนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของน้องสาว ทั้งคู่ตัดสินใจคบหากันเมื่อสองปีก่อน ปลัดหนุ่มใหญ่จึงกลายมาเป็นแขกประจำของดวงใจไปโดยปริยาย อีกไม่นานคงมีข่าวดีให้ได้แช่มชื่น เพราะปลัดหนุ่มได้เกริ่นเรื่องการสู่ขอกับมารดาของหล่อนเป็นที่เรียบร้อย ร่างร
“น้องเดียวหิวไหมคะ แม่หมอกทำสาคูเผือกเอาไว้ให้ด้วยนะ” ของชอบของแม่หนูเขาละ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดุษิตาก็ยกมือขึ้นทันที “กินค่า น้องเดียวกิน” เภตรายิ้มหวานให้ลูกสาว ดวงใจจึงอาสาลุกไปตักให้ ไม่นานนักแม่หนูก็ตักสาคูเผือกกินอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีเภตราคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่ข้างๆ ดลภาคย์มองภาพนั้นด้วยความสุขใจ เขาสบตาบิดาแล้วยิ้มให้ท่าน นายสนเองก็ดีใจที่ลูกชายเลือกรักคนไม่ผิด เภตราไม่ได้รักเพียงลูกชายของเขา แต่ยังเผื่อแผ่ความรัก ความเมตตามาให้หลานสาวของท่านด้วย จะมีความสุขใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความสุขที่ได้เห็นภรรยาใหม่ของบุตรชายมีความรักความปรานีให้กับลูกติดอย่างจริงใจเช่นหญิงสาวตรงหน้า ท่านคงตายตาหลับแล้วคราวนี้...สภาพอากาศวันนี้สดใส ไม่ต่างกับกิจการของดลภาคย์ บริษัทนำเข้าส่งออกของเขาขยายใหญ่ขึ้น เรียกว่าความสำเร็จเติบโตเป็นเงาตามตัว เช่นเดียวกับลูกชายตัวน้อยที่อายุครบหนึ่งขวบเต็มวันนี้พอดี พ่อแม่ลูกทั้งสี่คนจึงตื่นแต่เช้าเพื่อทำบุญตักบาตรโดยเฉพาะพี่เดียวที่เตรียมชุดสุดหล่อเอาไว้ให้น้องชายตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ซ้ำยังแคะกระปุกหมูซื้อของขวัญให้น้องชายแสนรักอี