 LOGIN
LOGIN
บทนำ
เซี่ยวซือ เจ้าของโรงแรมขนาดใหญ่ย่านมณฑลต้าหลง ชีวิตของเธอแทบไม่ได้ต้องทำงานอะไรด้วยซ้ำ เพราะทุกอย่างพ่อกับแม่ของเธอสร้างเอาไว้ให้ วัน ๆ เธอเดินเข้าเดินออกราวกับว่านั่นคืองานประจำที่ต้องมาแสดงตัวให้พนักงานเห็น
โดยมีเลขาคอยช่วยเหลือดูงานให้ทุกอย่าง จนวันหนึ่งเลขาเหน็ดเหนื่อยจากทางบ้าน ต้องมาแบกหน้าที่ของเจ้านายผู้เกียจคร้าน เธอหลุดปากภาวนาต่อฟ้าดินให้เจ้านายได้รู้จักรับรู้ความเหน็ดเหนื่อยและทุกยากของลูกน้องอย่างเธอบ้าง
และใครจะคาดคิดคำขอของเธอเป็นจริง เมื่อเซี่ยวซือนอนตื่นอย่างเคยทุกวันทว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องแสนสุขของเธอ เตียงนอนที่เคยนุ่มกลับแข็งกระด้างปวดหลังไปหมด เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอต้องตกใจไปมากกว่าเดิม เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าที่นี่ไม่ใช่บ้านเธอ แถมยังเป็นยุคโบราณกับครอบครัวยากจนแต่งตัวมอมแมมสภาพบ้านแทบไม่ใช่บ้าน เซี่ยวซือกรี้ดร้องสลบไปครั้งแล้วครั้งเล่าคิดว่าตัวเองยังไม่ตื่นจากความฝัน ลืมตามาอีกครั้งก็ยังพบว่าเธออยู่ที่เดิม จนเธอต้องยอมรับว่าตอนนี้เธอทะลุมิติมาอยู่ในร่างของหญิงสาวยุคโบราณกำพร้าพ่อแม่มีน้อง 2 คนต้องเลี้ยงดู แล้วอย่างนี้คนขี้เกียจอย่างเธอจะไปเลี้ยงใครเขาได้ ขนาดงานเธอยังไม่เคยทำด้วยซ้ำ ครั้นนั้นเหมือนมีเสียงสวรรค์ดังขึ้นกึกก้องในหู ระบบมิติโปร่งใสแสดงต่อหน้าของเธอ เซี่ยวซือแววตาสดใสเมื่อเห็นหนทางรอด การใช้ชีวิตอยู่ในยุคจีนโบราณไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เธอจะเลี้ยงดูน้อง ๆ และครอบครัวเอง
นิยายเรื่องนี้แต่งตามความเข้าใจของนักเขียนเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ตอนที่ 1 ทะลุมิติ
“พี่เซี่ยวซือข้าหิวขอรับ ท้องของข้าปั่นป่วนไปหมดเหมือนมีมือเข้าไปบีบรัดลำไส้ของข้า ท่านพี่ได้โปรดตื่นเสียที” เด็กชายตัวแห้งผอมเขย่ากายพี่สาวของตนเองอีกมือกุมที่ท้องด้วยความหิวโหยริมฝีปากแตกแห้งไม่ได้กินแม้กระทั่งน้ำเป็นเวลาหลายชั่วยาม สตรีร่างบางนอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่มีเพียงผ้าบาง ๆ ปูรองให้นอน ร่างกายของนางขาวซีดไร้เลือดฝาด ริมฝีปากแตกแห้งยิ่งกว่าน้องชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ปลุกนางเสียอีก
“เซียวหลงข้ามาแล้ว ท่านพี่ฟื้นหรือยัง” เสียงชายอีกคนดังขึ้นจากด้านนอก เนื้อตัวเหนียวเหนอะนะ เหงื่อไหลออกมาราวเสมือนผ่านการวิ่งมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
“พี่เซียวจ้าน ท่านพี่เซี่ยวซือยังไม่ฟื้นเลยขอรับ ท่านได้อะไรมาบ้างข้าหิวเหลือเกิน” เด็กชายลุกขึ้นเดินไปหาพี่ชายที่มีอายุมากกว่าตนเอง 7 หนาว เซียวจ้านรีบเทของที่หอบมาเมื่อครู่ลงบนโต๊ะให้น้องชายตัวน้อยได้กินเพื่อประทังชีวิต
“ข้าได้มาเพียงหมั่นโถวแข็ง ๆ เจ้าทนกินมันได้หรือไม่ แล้วก็มีเศษผักนี่ข้าจะไปจุดไฟเพื่อนำไปผัดให้เจ้าได้กินกับหมั่นโถวช่วยรอข้าอีกครู่นะเซียวหลง”
“อย่างไรข้าก็รอมาขนาดนี้แล้ว ข้าจะรอท่านอีกชั่วครู่จะเป็นอันใดไปเล่า ” เด็กชายพยายามข่มความหิวรอให้พี่ชายนำผักไปผัดกับอุ่นหมั่นโถวจิ้มผัดผักแทนข้าวสาร
ทว่าไม่ทันที่เซียวจ้านจะเข้าไปในครัวเสียงดังเอะอะด้านนอกได้ดังขึ้น
“เจ้าพวกหน้าด้าน ไม่มีหนทางทำมาหากินหรือไงถึงได้ไปขโมยของพวกข้า ออกมาเดี๋ยวนี้นะวันนี้ข้าจะเอาเลือดที่หัวของเจ้าไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่รู้จักสำนึกความผิด ไร้บิดามารดาทำตัวเป็นโจร”
ใบหน้าของเซียวจ้านซีดเผือดกระวนกระวายทำตัวไม่ถูก
“พี่เซียวจ้านชาวบ้านมาตะโกนด่าทอเราทำไมหรือขอรับ หรือว่าหมั่นโถวกับเศษผักนี่พี่ไปขโมยของเขามาจริง ๆ ”เซียวหลงจับปลายเสื้อผู้เป็นพี่เพื่อเอ่ยถามสายตาจับจ้องมองดูก็อนหมั่นโถวที่อยู่ต่อหน้า ตอนนั้นเองร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงลืมตาสะลึมสะลือขึ้นมาพร้อมตะโกนเสียงดังสนั่น
"โอ๊ย !! ไม่รู้จักเวลานอนหรือไงกัน ทำไมต้องมาเสียงดังเอะอะโวยวายในบ้านของคนแบบนี้ไร้มารยาทจริง ๆ " ร่างบางยันกายลุกขึ้นกวาดสายตามองไปรอบ ๆ พรางขยี้ตาอีกคราไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น ทั้งสองพี่น้องเห็นพี่สาวคนโตฟื้นขึ้นมารีบพากันวิ่งไปที่เตียงด้วยความดีใจ
"พี่เซี่ยวซือพี่ฟื้นแล้ว ข้าดีใจจริง ๆ " ร่างเล็กคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลจะมีน้องชายได้ยังไง
'ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวเกิดมาไม่มีน้องชายที่ไหน แล้วเด็กชายสองคนนี่คือใครกัน หรือว่าจะเป็นรายการแอบถ่าย เอ๊ะ! แต่สถานที่ไม่น่าจะใช่ทำไมสภาพเตียงนอนบ้านถึงได้เก่าทรุดโทรมแบบนี้นะ' เซี่ยวซือสำรวจรอบ ๆ พร้อมใช้ความคิดแต่ไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรต่อเสียงด้านนอกได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
"ข้าบอกให้ออกมา หรือจะให้ข้าเข้าไปค้นในบ้านของเจ้า เอาของมาคืนข้าเดี๋ยวนี้"
"คนพวกนั่นตะโกนเรียกอะไรนักหนาไม่รู้เวลาหรือไงกัน "
"พี่เซี่ยวซือชาวบ้านกล่าวหาว่าเราไปขโมยของพวกเขามา พวกเขาต้องการของคืนขอรับ" เด็กชายร่างเล็กตัวผอมเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกเอ่ยขึ้นบอกพี่สาวดวงตาเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา แม้ว่าตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าอยู่ในสถานการณ์อะไร เธอได้เหลือบไปเห็นชายอีกคนที่ดูเหมือนร้อนรน เธอก็พอเข้าใจว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร
"เอาของเขามาจริง ๆ สินะ ไหนเอามาดูสิว่าเอาอะไรมา"
"พี่เซี่ยวซือข้าจำเป็นขอรับ ท่านพี่นอนไม่ตื่นมาตั้งหลายวันน้องเซียวหลงหิวไม่ได้กินอาหารลงท้องมาหลายวันจนแทบจะไม่มีเรี่ยวแรง ข้าจำเป็นต้องทำไม่ได้ตั้งใจขัดคำสั่งสอนของท่านพี่แม้แต่น้อย" เด็กชายที่โตกว่ารีบหยิบของมามอบให้เซี่ยวซือ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งของพวกนี้เป็นเพียงแค่เศษอาหารที่เธอทิ้งอย่างไม่เสียดายด้วยซ้ำ ทำไมพวกชาวบ้านถึงได้มาทวงราวกับเด็กคนนี้ทำผิดมหันต์
"เอามานี่ ฉันจะเอาออกไปให้ชาวบ้านเอง เพียงเท่านี้เรื่องก็จบใช่มั้ย?" เซียวจ้านพยักหน้าพร้อมก้มหน้าลงต่ำสำนึกผิด เซี่ยวซือลุกขึ้นจากเตียงหยิบของที่ออกไปข้างนอก เธอแทบไม่อยากเชื่อสายตาด้วยซ้ำคิดว่าตนเองถูกแอบถ่ายจากรายการทีวี ทว่าเมื่อออกมาข้างนอกกระท่อมทุกอย่างเหมือนอยู่ในยุคโบราณไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว ใบหน้าผิวพรรณของคนในยุคนั้น แม้แต่บรรยายกาศอาคารบ้านเรือนล้วนเหมือนในยุคโบราณ ครานั้นเองจู่ ๆ ภาพทับซ้อนก็แทรกเข้ามาในความทรงจำ ตอนนี้เซี่ยวซือรู้แล้วว่าสิ่งที่เธอพบเจออยู่คือสิ่งใด 'อะไรกัน น่าตลกสิ้นดีฉันนอนอยู่ดี ๆ กลับทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเซี่ยวซือพี่สาวผู้อ่อนแอขี้โรคครอบครัวยากจน แม้แต่ข้าวยังไม่ได้เห็นแถมยังมีน้องชายสองคนให้เลี้ยงดูอีก ให้ตายเถอะตั้งแต่เกิดมาชีวิตของฉันอยู่อย่างสุขสบาย ลืมตามามีทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้ให้ ผ้าไม่เคยซัก กับข้าวไม่เคยทำแล้วอย่างนี้ฉันจะใช้ชีวิตอยู่ในยุคนี้ให้รอดได้อย่างไร สวรรค์ลงโทษคนขี้เกียจอย่างฉันอย่างนั้นเหรอ เฮ้อ ! คุณพ่อคุณแม่หนูคิดถึงท่านทั้งสองจริง ๆ สวรรค์นะสวรรค์ทำไมไม่ให้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของคุณหนูบุตรสาวท่านใต้เท้าบ้านร่ำรวย ทำไมต้องเกิดมาอยู่ในครอบครัวทุกยากแบบนี้ เอาล่ะตอนนี้ต้องแก้ปัญหาตรงหน้านี่เสียก่อนเรื่องอื่นค่อยคิดอีกครั้ง' เซี่ยวซือคิดในใจก่อนจะเรียบเรียงคำพูดในยุคนี้ ไม่ได้ยากสำหรับเธอเท่าไหร่ที่จะปรับปรุงตัวและภาษาการพูดจา เพราะเธอชอบดูซีรี่ส์ยุคโบราณอยู่แล้ว
"ท่านลุงท่านป้า เสียงดังเอะอะโวยวายทำไมหรือเจ้าคะ หากเป็นเรื่องของพวกนี้ พวกท่านเอาคืนไปได้เลยเจ้าค่ะ ข้าต้องขอโทษแทนน้องชายของข้าด้วยที่ไปหยิบจับของพวกท่าน เป็นเพราะข้าเองดูแลน้องไม่ดี ต่อจากนี้ข้าจะไม่ให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน"
"เฮอะ! สตรีอ่อนแอเช่นเจ้านะหรือจะดูแลหาเลี้ยงน้องชายของเจ้าได้ หรือว่ามีบุรุษเรือนใด หรือว่าจะใต้เท้าเฒ่าบ้ากามจะมารับเจ้าไปเป็นอนุสินะ ถึงได้กล้าออกมาบอกว่าจะดูแลน้องเป็นอย่างดี อีกไม่กี่วันน้องของเจ้าก็คงออกไปขโมยเช่นเคยทำข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก "
"ท่านป้า หากท่านป้ายังพูดไม่จบอย่าหวังว่าข้าจะคืนของและข้าจะไม่อดทนพร้อมขับไล่พวกท่านออกไปจากบริเวณบ้านของข้า แค่เพียงหมั่นโถวแข็ง ๆ เหมือนก้อนหินนี่ให้เฉย ๆ ข้าก็ไม่เอาหรอก เศษผักที่เหมือนเอาไปเป็นอาหารหมูนี่อีก เอาคืนไป ข้าจะเลี้ยงดูน้องขอข้าให้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องไปเป็นภรรยาน้อยของผู้ใดเมื่อนั้นพวกท่านต้องมาขอโทษที่ดูถูกข้า" เซี่ยวซือไม่อาจทนต่อว่าพร้อมโยนของพวกนั้นลงพื้นชาวบ้านตกใจรีบหยิบของที่นางโยนทิ้งเมื่อครู่อย่างเสียดาย พร้อมด่าทอนางไม่ใยดีพากันเดินจากไป เซี่ยวซือถอนหายใจเฮือกใหญ่นั่งลงแคร่หน้าบ้าน น้อง ๆ ยืนแอบมองอยู่ข้างประตูในบ้านเมื่อเห็นชาวบ้านเดินไปกันหมดทั้งสองรีบอกมาหาพี่สาวทันที
"ท่านพี่ข้าขอโทษขอรับ" เซี่ยวซือเงยหน้ามองน้องชายคนรองที่ชื่อเซียวจ้านสองมือประสานกันก้มลงขอโทษผู้เป็นพี่อย่างรู้สึกผิด
"เอาล่ะ ๆ ในเมื่อเจ้าจำเป็นต่อจากนี้อย่าทำเช่นนี้อีก ตอนนี้ที่เรือนของเราไม่มีอันใดให้ทำกินได้เลยหรือ?"
"ไม่มีเลยขอรับ ไม่มีแม้กระทั่งน้ำ" เซี่ยวซือได้ยินแทบสติหลุด ไม่คิดว่าชีวิตจะรันทดไม่มีแม้กระทั่งน้ำกิน แล้วเมื่อก่อนทั้งสามคนใช้ชีวิตมายังไงกันนะ

ตอนที่ 9 วาสนาพานพบเซี่ยวจ้านพยายามสะบัดนางออกจากแขนข้างซ้ายของเขาแต่ทำอย่างไรก็ไม่มีท่าทีว่าจะสลัดนางหลุดมือของนางเหนียวยิ่งกว่าหนวดปลาหมึกเสียอีก“ปล่อยข้านะ อย่ามาแตะตัวข้าเอาแขนของท่านออกไปจากกายข้าเดี๋ยวนี้”“ไม่ ! ทำไมถึงหวงตัวนักหรือว่าเจ้าต้องการค่าตัวได้วันนี้ข้าจะจ้างเจ้าให้เดินเล่นกับข้าและไปส่งข้าที่เรือน อีกอย่างข้ารู้แล้วว่าเรือนของเจ้าอยู่ที่ใดเจ้าไม่มีทางหนีข้าไปทางใดได้หรอกนะจางเซียวจ้าน และอย่าคิดจะปฏิเสธข้าไม่อย่างนั้นข้าจะใช้อำนาจของข้าบังคับเจ้า”“ฮึ!! แล้วที่ท่านทำอยู่นี่ไม่บังคับหรืออย่างไร ข้ามิได้เต็มใจท่านบังคับขู่เข็ญข้าไม่พอยังจะเอาเบี้ยมาฟาดหน้าข้าอีกราวกับว่าดูถูกข้า นี่หรือที่เรียกว่าถูกชะตาข้า ไม่ต่างจากบุตรขุนนางที่เอาแต่ใจตนเองเมื่ออยากได้ของที่ต้องการก็ใช้อำนาจเพื่อได้มันมาเมื่อไหร่ที่เล่นเสร็จเบื่อก็ขว้างมันทิ้งหรือว่ากำจัดมันไปให้พ้นสายตา ในที่สุดท่านก็เผยให้เห็นว่าท่านเป็นสตรีเช่นไร” เสี่ยวเอ๋อร์เพียงแค่ขู่เขาเท่านั้นเพราะอยากให้เขาเที่ยวเล่นกับนางแต่ไม่คิดเลยว่าชายผู้นี้จะอคติคิดว่านางเป็นสตรีเช่นนั้นไปได้“เฮ้องั้นบอกมาว่าข้าจะต้องทำอย่างไรเจ
ตอนที่ 8 ไปเที่ยวยามโหย่ว(18.00) ราตรีมาเยือนท้องนภามีดวงดาวกับดวงจันทร์ขึ้นส่องสว่าง อากาศเย็นสบายจากสายลมที่พัดเอื้อนเอ่ย เสียงเจี๊ยวจ้าวตื่นเต้นของเซียวหลงดังกึกก็องเพื่อเร่งพี่สาวกับพี่ชายของตนให้แต่งตัวออกจากเรือนกันอย่างเร่งรีบ“ท่านพี่เร็ว ๆ เข้าสิ ข้าอยากไปเที่ยวแล้ว”“เซียวหลงเจ้าใจเย็น ๆ สิ อย่างไรข้าก็พาเจ้าไปอยู่แล้ว เซียวจ้านเจ้าเตรียมตัวเสร็จหรือยัง เป็นเช่นไรบ้างอาภรณ์ที่ข้านำมาให้เจ้า” เซี่ยวซือเอ่ยถามน้องชายที่แต่งกายอยู่ในห้องส่วนตัว ยามนี้เรือนของนางเริ่มเป็นที่เป็นทางหลังใหญ่ขึ้นมากกว่าแต่ก่อนเพราะได้ของจากระบบมาช่วยเหลือ และช่วยกันสร้างกับน้อง ๆ จึงมีห้องแยกเป็นของตนเองแถมนางยังนำที่นอนในสมัยใหม่มาให้น้อง ๆ จะได้นอนสบาย ๆ ไม่ต้องทนเจ็บหลังจากเตียงแข็ง ๆ อีกต่อไป แม้จะแลกด้วยคะแนนที่มากกว่าของกินแต่นางก็ยอมทำเพื่อให้น้อง ๆ สุขสบายนั่นคือภารกิจของนาง หนึ่งเดือนที่นางมาอยู่ที่นี่เริ่มผูกพันกับทั้งสองจนตอนนี้นางคิดว่าตนเองเป็นพี่สาวของเด็กทั้งสองจริง ๆ “ข้าเสร็จแล้วขอรับ แต่ว่าพี่ใหญ่ชุดที่ท่านให้ข้า ข้าว่ามันดูแปลกตานะขอรับ ข้าว่ามันไม่เหมาะกับข้าเท่าไหร่นัก “ เซ
ตอนที่ 7 ไม่น่าเข้าไปยุ่งเลยฝั่งด้านเซี่ยวซือ นางเดินเล่นกับเซียวหลงตั้งแต่ทะลุมิติมานางไม่เคยเข้ามาเดินที่หมู่บ้านและตลาดเลย นี่เป็นครั้งแรก คราแรกนางจะไม่ตามหลังน้อง ๆ มาแต่ก็กลัวว่าจะเจอผู้ใหญ่นิสัยไม่ดีจึงเดินตามหลังมาเงียบ ๆ และก็เป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้ไม่มีผิด“ท่านพี่ดูตรงนั้นสิขอรับ เขากำลังเตรียมงานกันครึกครื้นน่าดู ข้าอยากให้ตะวันตกดินเร็ว ๆ ”“เจ้าตื่นเต้นมากสินะ วันนี้ข้าจะพาเจ้ามาแน่นอนแต่ว่ากลับไปที่เรือนเจ้าต้องไปช่วยพี่รองยกน้ำมาใส่ตุ่มเสียก่อนเข้าใจหรือไม่ ""ขอรับท่านพี่” เด็กชายตั้งตารอช่วงเวลายามเย็น ทั้งสองกำลังเดินกลับเรือนสายตาของเซี่ยวซือหันไปเห็นบุรุษร่างสูงโปร่งแต่งกายดูมีภูมิฐานทว่าเขากำลังทำตัวลับ ๆ ล่อแถมยังดูเหมือนกำลังยืนมองสตรีเปลือยกายอาบน้ำที่เรือนของนาง เซี่ยวซือทนเห็นไม่ได้รีบบอกให้น้องชายรออยู่ถนนสักครู่นางขอไปจัดการกับชายบ้ากามคนนั้นก่อน นางจะทำให้คนที่กำลังเดินผ่านมาได้รับรู้ว่ามีชายบ้าตัณหากำลังแอบดูสตรีเปลืองผ้าอยู่“เจ้าช่างกล้ากลางวันแสก ๆ ยังมาแอบดูสตรีอาบน้ำเปลืองเสื้อผ้า คนเช่นนี้ต้องจับตัวส่งทางการ ท่านลุงท่านป้ามาดูคนนิสัยไม่ดีแอบดูส
ตอนที่ 6 เย็นชา“คุณหนูเจ้าคะท่านให้เบี้ยข้ามาเกินเจ้าค่ะ”“เอาไปเถอะ ข้าอยากช่วยพวกท่าน 3 คนพี่น้อง”“ขอบน้ำใจท่านมากเจ้าคะ เช่นนั้นถือว่าเป็นการตอบแทนข้าจะให้น้องรองของข้าเดินถือไข่ไปส่งท่านนะเจ้าคะ หากว่ายังไม่กลับก็ให้น้องชายของข้าดูแลท่านจนกว่าท่านจะกลับเรือนถือเป็นการตอบแทนที่ท่านให้เบี้ยมาเกินเจ้าค่ะ นี่เซียวจ้านดูแลคุณหนูให้ดีเข้าใจหรือไม่ นี่เอาไว้ซื้ออะไรกิน”เซี่ยวซือดันกายน้องชายไปด้านหน้าใกล้ชิดก่อนจะกอดคอเซียวหลงเดินหนีไปโบกมือด้านหลังให้น้องรองโชคดี"ข้ามีนามว่ามู่เสี่ยวเอ๋อร์ เป็นบุตรสาวเพียงผู้เดียวของใต้เท้ามู่ เจ้ามีชื่อแซ่ว่าอันใด”“ท่านมิต้องรู้จักชื่อแซ่ขอหรอกขอรับ ไม่มีเรื่องอันใดที่เราต้องพบเจอกันอีก ท่านจะไปที่ใดต่อหรือจะกลับเรือนข้าจะเดินไปส่งตามที่ท่านพี่ของข้าสั่งเอาไว้” เซียวจ้านเย็นชาตอบออกไปเสียงเรียบไร้ไมตรีแต่กลับถูกอกถูกใจเสี่ยวเอ๋อร์จนนางเคล้นหัวเราะออกมาเบา ๆ“ข้าต้องการไปที่ร้านขายผ้า เจ้าบอกว่าท่านพี่ของเจ้าสั่งให้ส่งข้าถึงเรือนเช่นนั้นต้องไปกับข้าจนกว่าข้าจะทำธุระเสร็จสินะ เว่ยซีเจ้าไปซื้อของตามที่ท่านแม่สั่งและกลับเรือนก่อนข้าได้เลยมิต้องเป็นห่วง
ตอนที่ 5 ขอโทษข้าเดี๋ยวนี้1 เดือนต่อมาหลังจากที่เซี่ยวซือมาใช้ชีวิตในยุคโบราณนางเริ่มปรับตัว จากคนขี้เกียจกลายเป็นคนขยันแต่ละวันตื่นมาก็ต้องใช้ความคิดว่าจะทำอะไรวันนี้ กระท่อมหลังเล็ก ๆ ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มีของใช้มากมายที่เซี่ยวซือนำมาจากระบบ เสื้อผ้าอาภรณ์ของเธอเริ่มมีชุดใหม่ ๆ รวมทั้งของน้องชายทั้งสองด้วย“พี่เซี่ยวซือผักที่ปลูกไว้กำลังงอกงามแล้ว วันนี้ข้าจะนำมูลไก่ไปโปรยและพรวนดินนะขอรับ”“ดี ๆ แล้วนี่เซียวหลงไปที่ใดกัน ข้าไม่เห็นตั้งแต่กินข้าวเช้าเสร็จ”“เห็นว่าจะเข้าไปเที่ยวเล่นในหมู่บ้านขอรับ” “พี่ีใหญ่ พี่รอง ข้ามีเรื่องจะมาบอกขอรับ”ทันทีที่เซียวจ้านตอบคำถามเสียงของเซียวหลงดังขึ้นทั้งสองคนหันไปมองต้นเสียงเห็นเด็กชายกำลังวิ่งหน้าตื่นเข้ามา “มีเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าต้องรีบร้อนวิ่งหน้าตั้งมาเช่นนี้”“วันนี้ที่หมู่บ้านมีงานขอรับ ท่านพี่พาข้าไปเที่ยวได้หรือไม่ขอรับ ข้าได้ยินมาจากเด็กในหมู่บ้าน ”“คิดว่าเรื่องอันใดที่แท้ก็อยากไปเที่ยวเล่นสินะ แต่ว่าการไปเที่ยวเล่นต้องใช้เงินมิใช่หรือเดี๋ยวเจ้าก็อยากกินขนมที่วางขายตามข้างทางเดิน มิได้หรอกเราไม่ได้เงินเบี้ยอัฐสักตำ
ตอนที่ 4 เลี้ยงสัตว์ปลูกผักดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ท้องนภาเริ่มมีพระจันทร์ขึ้นมาแทนที่ เซี่ยวซือเตรียมอาหารรอน้อง ๆ ทั้งสองเสร็จแล้วรีบเรียกให้น้อง ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างไม้ล้างมือเพื่อกินข้าวเย็น“ตอนนี้อาหารเสร็จแล้ว เจ้าทั้งสองไปเปลี่ยนอาภรณ์เถิดแล้วมากินข้าวด้วยกัน” เซียวหลงหลับตาสูดดมกลิ่นหอมที่คละคลุ้มเต็มอากาศโชยมายั่วกระเพาะของเขาจนท้องเริ่มร้องประท้วง“กลิ่นหอมจริง ๆ รสชาติต้องดีมากแน่ ๆ ข้าจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” เด็กชายไม่ว่าเปล่ารีบเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในกระท่อมถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนและนำผ้าเปียกไปตากไว้ข้างนอก ส่วนเซียวจ้านยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ “เจ้าไม่รีบไปเปลี่ยนอาภรณ์กับน้องเล็กจะได้มากินข้าวพร้อมกัน”“ท่านพี่ เรื่องที่ท่านพี่เอ่ยมาเป็นความจริงเช่นนั้นหรือ? หากท่านพี่ไม่ใช่พี่ใหญ่ของข้าแล้วยามนี้พี่ใหญ่ของข้าอยู่ที่ใดกัน” เซียวจ้านตระหนักได้ถึงสิ่งที่สตรีตรงหน้าเอ่ยออกมาเมื่อเช้า เขาเริ่มเป็นห่วงพี่สาวของเขาขึ้นมา ใบหน้าของเซี่ยวซือนิ่งเรียบเพราะนางเองก็ตอบสิ่งที่น้องชายสงสัยไม่ได้เช่นเดียวกัน“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่แน่พี่สาวของเจ้าอาจจะอยู่ในร่างเ








