แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: วรนิษฐา / Miss sexy
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-05 12:53:33

หัวใจปราณเต้นแรงและรัว อันที่จริงเขาแค่อยากบินกลับมาดูหน้าผู้ชายที่กล้าแต่งงานทั้งๆ ที่น้องสาวเขาเสียไปได้ยังไม่ครบร้อยวัน แต่ทันทีที่เห็นว่าที่เจ้าสาวคนนั้นคนที่เคยทอดทิ้งเขา ไฟแค้นที่เหมือนจะดับมอดไปแล้วกลับประทุขึ้นมาในใจของคริสอย่างห้ามไม่ได้

เขายอมให้ทุกคนบนบนโลกใบนี้มีความสุขได้ยกเว้นเธอ...ลลิตา ก่อนที่ภาพเหตุการณ์ในอดีตจะฉายวนกลับเข้ามา โดยเฉพาะวันที่ลลิตาบอกเลิกเขา

“เหตุผลอิงผมอยากรู้เหตุผล”

“ฉันไม่รักคุณแล้ว” 

“ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น ทั้งๆ ที่เรารักกันมากนี่แถมยังวางแผนจะแต่งงานกัน”

“เคยรักค่ะ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีความรู้สึกแบบนั้นให้คุณอีกแล้ว”

“แล้วนั่นคุณจะไปไหน”

“ฉันจะออกไปจากที่นี่”

“แต่นี่มันคือบ้านของเรา”

“ฉันจะทำให้มันเป็นแค่อดีตค่ะ หวังว่าต่อจากนี้ไปเราจะไม่ต้องติดต่อกันอีก”

“อิง”

คำตอบและการกระทำของลลิตาในวันนั้นช่างร้ายกาจ ต่อให้จะผ่านมาหลายปีแต่มันก็ยังติดตรึงอยู่ในความรู้สึกเขามาจนถึงทุกวันนี้ หัวคิ้วหนาของคริสขมวดเข้าหากันยามนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่แสนเจ็บปวด

แม้อยากจะทิ้งทุกอย่างแล้วหนีหาย แต่สุดท้ายก็เลือกกลืนกินความเจ็บปวดเหล่านั้นแล้วออกเดินทางมาบอสตันเพื่อเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เขาใฝ่ฝันว่าอยากร่วมงานด้วย 

งานรุ่งแต่รักพัง 

พังชนิดไม่เป็นท่า 

พังจนทำให้เขาขยาดและไม่คิดจะรักใครอีก

แต่แล้วความบังเอิญก็ทำให้คนสองคนได้เจอหน้ากัน แม้สถานที่จะร่มเย็นเพราะอยู่ใต้ร่มพระพุทธศาสนาทว่าจิตใจของพวกเขากลับร้อนรุ่มดั่งไฟแผดเผา ต่อให้จะไม่ได้พูดคุยกันแม้แต่คำเดียวก็ตาม

“มองอะไรอยู่หรือครับคุณอิง” เพราะเห็นว่าลลิตากำลังเพ่งมองอะไรบางอย่างอยู่หนำซ้ำยังแสดงสีหน้าตกใจแบบนั้นอีกด้วย ทำให้ปราณเอ่ยถามขึ้น

“อะ…เอ่อ เปล่าค่ะไม่มีอะไร”

“กลับกันเถอะครับ ฝนตั้งเค้ามาแล้ว”

“ค่ะ” ลลิตาเอ่ยรับ เธออาจตาฝาดไปเองคนเดียวก็ได้ที่มองเห็นคริสที่หน้ากุฎิแบบนั้น เพราะถ้าเดาไม่ผิดตอนนี้เขาต้องอยู่ต่างประเทศสิ แต่ภาพที่เห็นก็ยังติดตา ลลิตาอยู่โดยเฉพาะภาพขณะที่อีกฝ่ายพนมมือก้มกราบท่านเจ้าอาวาสที่เธอกับปราณพึ่งไปพบก่อนหน้านี้

“ทำบุญแล้วสบายใจขึ้นไหม” ปราณเอ่ยถามเพราะจู่ๆ ลลิตาก็เอ่ยบอกว่าอยากไปทำบุญเขาจึงพาเธอมาที่นี่

“ค่ะ คุณปราณรู้จักที่วัดนี้ได้ยังไงหรือคะ”

“คนที่ผมรักอยู่ที่นั่นนะครับ” แม้คำพูดของปราณจะฟังดูกำกวมแต่เวลานี้ลลิตากลับไม่มีกระจิตกระใจจะถามถึงรายละเอียดเพราะเอาแต่คิดถึงคริส    

“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่โยม” เจ้าอาวาสเอ่ยถาม   คริสอย่างคนคุ้นเคย นั่นเพราะได้ทำความรู้จักกันเมื่อครั้งที่คริสมาจัดการเรื่องงานศพของน้องสาวแล้วกำลังดิ่งในห้วงของความทุกข์อย่างแสนสาหัส ท่านจึงพยายามชี้แนะให้หาทางออก 

“วันสองวันได้แล้วครับหลวงพ่อ” 

“สุขกายสบายใจดีไหม”

“ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยรับ แม้จะไม่สุขกายสบายใจเสียทีเดียวก็ตาม 

“แล้วนี่จะอยู่เมืองไทยกี่วัน”

“ประมาณหนึ่งเดือนครับ ตั้งใจว่าจะอยู่ทำบุญครบร้อยวันน้องสาวก่อนค่อยกลับ”

“จะครบหนึ่งร้อยวันแล้วเหรอ วันเวลาช่างผ่านไปเร็วว่าไหม ถ้าว่างจากงานก็แวะมาคุยกับอาตมาได้ตลอดนะ” 

“ครับ” คริสพนมมือแล้วกราบเจ้าอาวาสอีกครั้ง เขายังจดจำวันแห่งการสูญเสียนั้นได้ดีว่าจิตใจจมดิ่งมากขนาดไหน ถ้าไม่ได้พระท่านช่วยดึงสติป่านนี้ก็อาจทำอะไรบ้าๆ ไปแล้ว เช่นฆ่าใครบางคน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ระบำรักคนพาล   บทที่ 25-จบ

    เมื่อทานข้าวกันเสร็จทั้งสามก็กลับเข้าบ้าน ลลิตาจ้องมองคริสคล้ายจะมีอะไรจะพูดกับเขากระทั่งสบโอกาสจึงเอ่ยขึ้น “คุณยังไม่บอกโอบหรือคะว่าเป็นพ่อของแก” “ยังครับ” “ทำไมคะ” นั่นเพราะลลิตาคิดว่าช่วงที่เธอไม่อยู่ คริสอาจคุยกับโอบรักแล้วเสียอีก “ผมอยากให้คุณเป็นคนบอกลูกมากกว่า” “ขอบคุณ” ลลิตาส่งยิ้มให้เขาอย่างขอบคุณ “ผมรอได้ รอจนกว่าอิงจะมั่นใจในตัวผม ถึงตอนนั้นค่อยบอกลูกก็ไม่เป็นไร” คริสส่งยิ้มอบอุ่นให้เธอ ลลิตาจึงเดินเข้าไปหาแล้วโอบกอดเขา ตั้งแต่ปรับความเข้าใจกันนี่คือครั้งแรกที่ลลิตาสวมกอดชายหนุ่มก่อน ในคืนนั้นเธออาศัยจังหวะพาลูกชายเข้านอนเอ่ยเรื่องสำคัญขึ้น “โอบครับ จำได้ไหมว่าลูกเคยถามแม่ว่าพ่อของหนูเป็นใครหน้าตาเป็นแบบไหน” “จำได้” “พ่อของโอบคือคนนี้ครับลูก” ลลิตาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมายื่นให้ลูกชาย ซึ่งเธอได้เปิดรูปของคริสค้างไว้บนหน้าจอ

  • ระบำรักคนพาล   บทที่ 24

    นั่นจึงเป็นคืนแรกในรอบหลายเดือนที่โอบรักได้กลับมานอนที่ห้องนอนตัวแอง หลังจากเอาลูกนอนเสร็จเธอก็ลงไปหาคริสที่ห้องแขก“ลูกนอนแล้วเหรอครับ”“ค่ะ”“คุณหมอกับคุณนาก็พึ่งจะกลับไปเมื่อกี้”“คุณก็ควรกลับได้แล้ว”“แต่ผมเผลอดื่มไปหลายแก้วตอนนี้เลยมึนๆ สงสัยจะเมา แบบนั้นขับรถจะยิ่งอันตราย” คนแกล้งเมากุเรื่องขึ้นเพื่อจะได้นอนค้างที่นี่แม้จะอยากไล่ให้ชายหนุ่มกลับแต่ก็ห่วงเรื่องความปลอดภัยของเขา สุดท้ายลลิตาก็ยอมให้คริสนอนค้างด้วยแต่เขาต้องนอนในห้องรับแขกเท่านั้น พอรู้ว่าเธออนุญาตชายหนุ่มก็พยักหน้ารับทันทีลลิตานำเครื่องนอนออกมาปูให้เขา ทว่าคนเจ้าเล่ห์กลับใช้จังหวะนั้นรวบตัวเธอเข้ามากอดแล้วซุกไซ้ปากร้อนๆ รวมถึงจมูกโด่งลงไปสัมผัสพวงแก้มรวมถึงลำคอระหงของเธอ“จะทำอะไรคะ” รู้ทั้งรู้แต่ลลิตาก็เผลอถามออกไป“ทำรัก”“เดี๋ยวลูกตื่น”

  • ระบำรักคนพาล   บทที่ 23

    “คุณลุง”“ครับ”“โอบคิดถึงแม่” น้ำเสียงของโอบรักสั่นเครือเพราะทนความคิดถึงที่มีต่อลลิตามาหลายวันแล้ว สุดท้ายก็ทนต่อไปไม่ไหว“ลุงก็คิดถึงครับ แต่ตอนนี้โทรหาแม่ไม่ได้เพราะดึกแล้ว ไว้รอพรุ่งนี้เช้าเราค่อยโทรหานะ”“แต่โอบอยากคุยกับแม่ตอนนี้ โอบคิดถึง”“ลุงรู้ครับ” คริสสวมกอดเด็กชายไว้ เขาเข้าใจความคิดถึงดีว่ามันมีพลังมากแค่ไหน “เดี๋ยวลุงเล่านิทานให้ฟังดีไหม”“ไม่ โอบจะคุยกับแม่” เด็กชายวัยยังไม่ครบสี่ขวบงอแงอย่างหนัก ซึ่งเป็นความงอแงที่คริสไม่เคยเจอมาก่อน นั่นทำให้เขาเริ่มลนลานแต่คนที่อยู่เมืองจีนเหมือนรู้ว่าคริสกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะจู่ๆ ลลิตาก็โทรมาเธอคุยกับลูกปลอบลูกจนโอบรักหายคิดถึง จากเสียงร้องไห้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ นั่นทำให้คริสถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหนักๆลลิตาคุยกับลูกกระทั่งโอบรักหลับทั้งๆ ที่ยังไม่ได้วางสาย คริสจึงค่อยๆ ดึงโทรศัพท์ออกมามือเด็กชายจากนั้นก็คุยกับเธอต่อ“เป็นไงบ้างครับ&r

  • ระบำรักคนพาล   บทที่ 22

    การทดเวลาบาดเจ็บที่ลักขณาขอให้คริสได้เกิดขึ้นเรื่อยๆ จากห้านาทีชายหนุ่มก็อยู่ได้ถึงสิบนาทีขยับไปเป็นครึ่งชั่วโมงหนึ่งชั่วโมงและหลักสุดคือขอนอนค้างด้วยแม้ ลลิตาจะไม่ยอมก็ตาม“เอาไงต่อ”“เอาไงเรื่องอะไร”“อย่ามาเฉไฉ รู้ๆ อยู่ว่าฉันพูดถึงใคร” ลักขณาจ้องตาลลิตาตรงๆ รายนี้โกหกไม่เก่งต้องหลุดบ้างแหละ ซึ่งมันก็จริงเพราะคนถูกจ้องอยู่ๆ ก็หันมองทางอื่นแทน“กำลังดูๆ อยู่”“อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่สนใจ”“เขาเข้ากับน้องโอบได้ดีกว่าที่ฉันคิด”“ถามตรงๆ เลยแล้วกัน แกยังรักคุณคริสอยู่ใช่ไหม”“ไม่รู้แต่ก็ยอมรับว่ามันมีเยื่อบางๆ ที่ฉันตัดไม่ขาดเสียที ยิ่งเห็นลูกก็ยิ่งนึกถึงเขา ทั้งโกรธทั้งแค้นทั้ง…นั่นแหละ” ลลิตาไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกยังไง แต่พอรู้ว่าทุกอย่างคือการปั้นน้ำให้เป็นตัวของปลายรุ้งที่เวลานี้เสียชีวิตไปแล้วใจเธอก็เบาขึ้น ตอนนั้นทั้งเธอทั้งคริสต่างก็มีค

  • ระบำรักคนพาล   บทที่ 21

    “ผมรู้ คุณอยากตบอยากตีผมอีกสักกี่ครั้งก็ได้ เอาเลย” คริสคว้ามือของลลิตาขึ้นมาตบหน้าเขาหลายต่อหลายครั้ง แรงบ้างหนักบ้างก่อนที่เธอจะดึงมือตัวเองกลับ“เดี๋ยวฉันไปดูน้องโอบให้ ส่วนแกกับคุณคริสก็ปรับความเข้าใจกันไปก่อนนะ” ลักขณาเปิดโอกาสให้คริสและลลิตาได้ปรับความเข้าใจกันตามลำพัง หวังว่าเยื่อใยความรักของพวกเขาจะยังมีมากพอจนทำลายความรู้สึกที่ไม่ดีในอดีตได้“จะไปไหนอิง”“กลับไปหาลูก ส่วนคุณก็กลับไปได้แล้ว”“ก่อนกลับ ผมขอเข้าไปหาลูกด้วยได้ไหม” คริสร้องขออย่างน่าสงสาร“ไม่ได้”“ผมรู้ว่าคุณยังโกรธแต่อย่างที่บอกว่ามันคือการเข้าใจผิด ในเมื่อเข้าใจผิดเราเจ๊ากันไม่ได้เหรอ”“พูดง่ายไปหรือเปล่า” ลลิตาจ้องตาคริสด้วยความโมโห พูดออกมาได้ยังไงว่าให้เจ๊ากัน“ง่ายๆ แบบนี้แหละดีแล้ว ผมรักอิงนะเพราะรักถึงยังเจ็บปวด” ขณะเอ่ยนั้นคริสก็ขยับเข้ามาใกล้กับลลิตา จากนั้นก็รวบตัวเข้ามากอด“จะทำอะไร”“จูบ”

  • ระบำรักคนพาล   บทที่ 20

    “คิดไว้แล้วเชียวว่าคุณต้องอยู่ที่นี่”“นา อิงอยู่ไหน ผมติดต่ออิงไม่ได้เลย” คริสปักหลักอยู่ที่หน้าบ้านของลลิตาตั้งแต่เมื่อวานจนถึงเช้าของอีกวัน ใบหน้าของชายหนุ่มดูหม่นหมองจากความเครียดและความสำนึกผิดลักขณาตัดสินใจเมื่อคืนว่าจะพูดทุกอย่างและมาหาเขาที่บ้านของลลิตาเพราะมั่นใจว่าคริสต้องอยู่ที่นี่ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่คิด“โรงพยาบาลค่ะ”“เด็กคนนั้นคือลูกของผมกับอิงใช่ไหม”“ค่ะ” แม้จะไม่รู้ว่าคริสรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรแต่ลักขณาก็ไม่คิดที่จะปิดบังเขาอีกแล้ว กลับรู้สึกผิดจนเจ็บไปทั้งใจ ลลิตาท้องแต่เธอกลับไม่ปริปากบอกเรื่องลูกกับเขา“ผู้หญิงผู้ชาย”“ผู้ชายค่ะ ชื่อน้องโอบอายุสามขวบเศษ”“แล้วแกเป็นอะไรถึงต้องอยู่โรงพยาบาล”“โรคหัวใจอ่อนแอตั้งแต่เกิด วันก่อนแกล้มหัวฟาดพื้นหมอเพิ่งผ่าตัดช่วยชีวิตได้สำเร็จ รวมทั้งการผ่าตัดหัวใจก็ลุล่ว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status