LOGINงานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป
View Moreเมื่อทานข้าวกันเสร็จทั้งสามก็กลับเข้าบ้าน ลลิตาจ้องมองคริสคล้ายจะมีอะไรจะพูดกับเขากระทั่งสบโอกาสจึงเอ่ยขึ้น “คุณยังไม่บอกโอบหรือคะว่าเป็นพ่อของแก” “ยังครับ” “ทำไมคะ” นั่นเพราะลลิตาคิดว่าช่วงที่เธอไม่อยู่ คริสอาจคุยกับโอบรักแล้วเสียอีก “ผมอยากให้คุณเป็นคนบอกลูกมากกว่า” “ขอบคุณ” ลลิตาส่งยิ้มให้เขาอย่างขอบคุณ “ผมรอได้ รอจนกว่าอิงจะมั่นใจในตัวผม ถึงตอนนั้นค่อยบอกลูกก็ไม่เป็นไร” คริสส่งยิ้มอบอุ่นให้เธอ ลลิตาจึงเดินเข้าไปหาแล้วโอบกอดเขา ตั้งแต่ปรับความเข้าใจกันนี่คือครั้งแรกที่ลลิตาสวมกอดชายหนุ่มก่อน ในคืนนั้นเธออาศัยจังหวะพาลูกชายเข้านอนเอ่ยเรื่องสำคัญขึ้น “โอบครับ จำได้ไหมว่าลูกเคยถามแม่ว่าพ่อของหนูเป็นใครหน้าตาเป็นแบบไหน” “จำได้” “พ่อของโอบคือคนนี้ครับลูก” ลลิตาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมายื่นให้ลูกชาย ซึ่งเธอได้เปิดรูปของคริสค้างไว้บนหน้าจอ
นั่นจึงเป็นคืนแรกในรอบหลายเดือนที่โอบรักได้กลับมานอนที่ห้องนอนตัวแอง หลังจากเอาลูกนอนเสร็จเธอก็ลงไปหาคริสที่ห้องแขก“ลูกนอนแล้วเหรอครับ”“ค่ะ”“คุณหมอกับคุณนาก็พึ่งจะกลับไปเมื่อกี้”“คุณก็ควรกลับได้แล้ว”“แต่ผมเผลอดื่มไปหลายแก้วตอนนี้เลยมึนๆ สงสัยจะเมา แบบนั้นขับรถจะยิ่งอันตราย” คนแกล้งเมากุเรื่องขึ้นเพื่อจะได้นอนค้างที่นี่แม้จะอยากไล่ให้ชายหนุ่มกลับแต่ก็ห่วงเรื่องความปลอดภัยของเขา สุดท้ายลลิตาก็ยอมให้คริสนอนค้างด้วยแต่เขาต้องนอนในห้องรับแขกเท่านั้น พอรู้ว่าเธออนุญาตชายหนุ่มก็พยักหน้ารับทันทีลลิตานำเครื่องนอนออกมาปูให้เขา ทว่าคนเจ้าเล่ห์กลับใช้จังหวะนั้นรวบตัวเธอเข้ามากอดแล้วซุกไซ้ปากร้อนๆ รวมถึงจมูกโด่งลงไปสัมผัสพวงแก้มรวมถึงลำคอระหงของเธอ“จะทำอะไรคะ” รู้ทั้งรู้แต่ลลิตาก็เผลอถามออกไป“ทำรัก”“เดี๋ยวลูกตื่น”
“คุณลุง”“ครับ”“โอบคิดถึงแม่” น้ำเสียงของโอบรักสั่นเครือเพราะทนความคิดถึงที่มีต่อลลิตามาหลายวันแล้ว สุดท้ายก็ทนต่อไปไม่ไหว“ลุงก็คิดถึงครับ แต่ตอนนี้โทรหาแม่ไม่ได้เพราะดึกแล้ว ไว้รอพรุ่งนี้เช้าเราค่อยโทรหานะ”“แต่โอบอยากคุยกับแม่ตอนนี้ โอบคิดถึง”“ลุงรู้ครับ” คริสสวมกอดเด็กชายไว้ เขาเข้าใจความคิดถึงดีว่ามันมีพลังมากแค่ไหน “เดี๋ยวลุงเล่านิทานให้ฟังดีไหม”“ไม่ โอบจะคุยกับแม่” เด็กชายวัยยังไม่ครบสี่ขวบงอแงอย่างหนัก ซึ่งเป็นความงอแงที่คริสไม่เคยเจอมาก่อน นั่นทำให้เขาเริ่มลนลานแต่คนที่อยู่เมืองจีนเหมือนรู้ว่าคริสกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะจู่ๆ ลลิตาก็โทรมาเธอคุยกับลูกปลอบลูกจนโอบรักหายคิดถึง จากเสียงร้องไห้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ นั่นทำให้คริสถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหนักๆลลิตาคุยกับลูกกระทั่งโอบรักหลับทั้งๆ ที่ยังไม่ได้วางสาย คริสจึงค่อยๆ ดึงโทรศัพท์ออกมามือเด็กชายจากนั้นก็คุยกับเธอต่อ“เป็นไงบ้างครับ&r
การทดเวลาบาดเจ็บที่ลักขณาขอให้คริสได้เกิดขึ้นเรื่อยๆ จากห้านาทีชายหนุ่มก็อยู่ได้ถึงสิบนาทีขยับไปเป็นครึ่งชั่วโมงหนึ่งชั่วโมงและหลักสุดคือขอนอนค้างด้วยแม้ ลลิตาจะไม่ยอมก็ตาม“เอาไงต่อ”“เอาไงเรื่องอะไร”“อย่ามาเฉไฉ รู้ๆ อยู่ว่าฉันพูดถึงใคร” ลักขณาจ้องตาลลิตาตรงๆ รายนี้โกหกไม่เก่งต้องหลุดบ้างแหละ ซึ่งมันก็จริงเพราะคนถูกจ้องอยู่ๆ ก็หันมองทางอื่นแทน“กำลังดูๆ อยู่”“อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่สนใจ”“เขาเข้ากับน้องโอบได้ดีกว่าที่ฉันคิด”“ถามตรงๆ เลยแล้วกัน แกยังรักคุณคริสอยู่ใช่ไหม”“ไม่รู้แต่ก็ยอมรับว่ามันมีเยื่อบางๆ ที่ฉันตัดไม่ขาดเสียที ยิ่งเห็นลูกก็ยิ่งนึกถึงเขา ทั้งโกรธทั้งแค้นทั้ง…นั่นแหละ” ลลิตาไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกยังไง แต่พอรู้ว่าทุกอย่างคือการปั้นน้ำให้เป็นตัวของปลายรุ้งที่เวลานี้เสียชีวิตไปแล้วใจเธอก็เบาขึ้น ตอนนั้นทั้งเธอทั้งคริสต่างก็มีค