Home / มาเฟีย / ระยะนี้อันตราย / บทที่ 2 เด็กใหม่

Share

บทที่ 2 เด็กใหม่

last update Last Updated: 2025-09-19 19:35:40

บทที่ 2 เด็กใหม่

ณคุณเดินออกจากห้องทำงานของเฮดเตอร์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาหยิบมือถือขึ้นมาดู เห็นข้อความที่น้องสาวส่งมาค้างอยู่ว่า

‘พี่ณอยู่ไหนอะ ลูกน้องพี่มารุมล้อมเนียร์ใหญ่เลย ช่วยด้วยเนียร์กลัว’

เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วพิมพ์ตอบไปว่า

‘อยู่เฉยๆ เดี๋ยวพี่ลงไปหา’

ในใจกังวลปนห่วง เพราะน้องสาวเขา นาเนียร์เป็นคนไม่ยอมคน และโลกของเฮดเตอร์ก็ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่ชอบตั้งคำถามหรือขัดคำสั่ง

ณคุณรู้ดีว่าน้องสาวเขามีไฟในใจ แต่ไฟแบบนั้นมันเป็นได้ทั้งพลังและเชื้อเพลิงทำลายตัวเอง ถ้าเผลอปะทะกับเฮดเตอร์โดยไม่รู้ทางหนีทีไล่ ก็อาจจะจนมุมจนไม่มีทางหนี

เมื่อเดินลงมายังโถงกลางของอาคาร ณคุณก็เห็นนาเนียร์นั่งอยู่ที่มุมเดิมแต่น้องๆ เขาต่างยืนล้อมเธอราวกับกลุ่มเสือหิวกำลังต้อนเหยื่อ แต่ใบหน้าเธอยังเรียบนิ่งแต่แววตากลับคุกรุ่นราวกับพร้อมจะลุกขึ้นเถียงใครสักคนได้ทุกเมื่อ

“พี่ณ!” นาเนียร์ทักทันทีที่เห็นเขา ก่อนจะส่งสัญญาณให้พี่ชายว่าช่วยด้วย

“เบาๆ หน่อยพวกมึง เดี๋ยวน้องกูตกใจหมด” ณคุณเดินเข้าไปใกล้ ก้มลงพูดเสียงเบา “กลับบ้านไป เราสองคนต้องคุยกันนะ”

นาราขมวดคิ้ว ก่อนจะก้มหน้ารู้สึกผิด

“เรื่องเฮียเตอร์ขับรถเกือบชนหนูเหรอ”

“รู้นี่ว่าพี่จะถามอะไร เพราะงั้นเตรียมคำตอบดีๆ”

นาเนียร์พยักหน้าหงึก พลางก้มหน้าหลบสายตาพี่ชาย

ณคุณมองน้องสาวอย่างระอา ปนเอ็นดู

“ถ้าเราอยากอยู่ที่นี่โดยไม่ให้พี่ลำบากใจ เราก็อย่าดื้อ เฮียเตอร์เขาอารมณ์ร้อน”

“เข้าใจค่ะพี่ณ” นาเนียร์พยักหน้าแต่สายตายังรู้สึกผิดในที “น้องจะอยู่จุดที่เขาให้อยู่ จะไม่สร้างปัญหาให้พี่ณ”

ณคุณยิ้มเจื่อน…ใช่ นี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการและกลัวที่สุด เพราะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาต้องทำงานกับน้องสาวตัวเอง

ด้านบนของอาคาร เฮดเตอร์ยืนพิงขอบกระจก มองลงมายังโถงกลาง เขาเห็นสองพี่น้องคุยกันจากมุมสูง เขาสังเกตการแสดงออกของหญิงสาวคนนั้น ต่อหน้าคนอื่นเธอดูเข้มแข็งและแข็งกร้าวไม่ยอมคน ทว่าต่อหน้าพี่ชายกลับเหมือนลูกแมวน้อยชอบอ้อน

“ไม่ใช่แค่สายตาแล้วล่ะ…” เขาพึมพำกับตัวเอง “…ท่าทางก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน”

รอยยิ้มหยันบางๆ ผุดขึ้นที่มุมปากชายหนุ่ม

เกมเริ่มขึ้นแล้ว และเขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนโดยเฉพาะ ‘น้องของลูกน้อง’ มาทำให้สมดุลในโลกของเขาเปลี่ยนแปลงไปได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน

หลายนาทีต่อมา ณคุณพานาเนียร์เดินลัดเลาะไปตามทางเดินภายในอาคารซึ่งเป็นสำนักงานหลักของทีมแข่งรถ ‘Fury Circuit’ ทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องระเบียบวินัยและความเคร่งครัดภายใต้การนำของเฮดเตอร์

เสียงรองเท้าสองคู่กระทบพื้นสะท้อนแผ่วเบาไปตามผนังโลหะสีเข้ม ผนังด้านหนึ่งติดกระจกใสเผยให้เห็นลานทดลองรถที่อยู่เบื้องล่าง พนักงานบางส่วนเดินผ่านด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่เมื่อเห็นณคุณ พวกเขาต่างยกมือทักทายอย่างเคารพ

นาเนียร์เดินอย่างสงบ ไม่ซุกซน ไม่ถามจุกจิก ดวงตาของเธอกวาดมองรอบตัวอย่างพินิจ ไม่ใช่แบบนักท่องเที่ยวที่ตื่นเต้น แต่แบบคนที่ต้องการเข้าใจมากกว่าแค่เห็น

“ที่นี่คือห้องควบคุมหลัก” ณคุณชะลอฝีเท้าแล้วเอ่ยเสียงเบา “พี่ดูแลเรื่องการวางกลยุทธ์และข้อมูลรถแข่งทั้งหมดจากตรงนี้”

นาเนียร์พยักหน้า

“มันเหมือนสนามรบแบบมีแผงควบคุมเลยนะคะ เหมือนการรบที่ไม่ใช้ปืน แต่ใช้สมองกับความเร็ว”

ณคุณหันมามองน้องด้วยแววตาแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มน้อยๆ

“พูดได้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะเรา”

“ก็ต้องเป็นสิคะ ถ้าไม่อยากให้พี่ณอายใครที่ลากเด็กดื้อมาเดินเพ่นพ่านในสนามของเขา” เธอพูดติดตลก แต่น้ำเสียงไม่ได้ล้อเลียน ทว่ากลับจริงจังในที

ณคุณถอนหายใจแล้วยิ้มเจื่อน ก่อนจะพาน้องเดินต่อไปยังอาคารอีกหลัง ซึ่งตั้งอยู่ติดกับลานแข่ง อาคารเก็บรถแข่งส่วนตัวของเฮดเตอร์

ประตูเหล็กเปิดออกด้วยเสียงกลไกเบาๆ และแสงสว่างจากเพดานก็เผยให้เห็นรถแข่งไฮเทคหลายคันจอดเรียงราย ราวกับผลงานศิลปะในแกลเลอรี่มูลค่าหลายสิบล้าน

นาเนียร์เงียบไปนานขณะมองดูรถแต่ละคัน สีหน้าเธอนิ่งสนิท มีเพียงแววตาที่เปล่งประกายอย่างสงบ

“สวยเหมือนสัตว์ป่าในกรงเลยนะคะ” เธอเอ่ยเบาๆ “ดูสงบนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยพลังน่ากลัว ถ้าหลุดออกไป คงควบคุมไม่ได้ง่ายๆ”

“นั่นแหละที่พี่อยากให้เรารู้” ณคุณพูดขึ้นช้าๆ “ที่นี่…มันไม่ใช่ที่สำหรับคนที่แค่เดินดูเฉยๆ แล้วจะเข้าใจทุกอย่าง มันมีแรงกดดัน มีกฎของมัน และถ้ามีใครพลาดแม้แต่นิดเดียว มันอาจไม่ใช่แค่เรื่องของการแข่งขันอีกต่อไป”

นาเนียร์ไม่ตอบในทันที เธอยกมือแตะกระจกที่กั้นระหว่างโถงกับลานเก็บรถ ก่อนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

“น้องจะไม่ทำให้พี่ณลำบากใจค่ะ”

ณคุณหันมาสบตาน้องสาวอีกครั้ง แววตาเธอยังเหมือนเดิม…นิ่ง สงบ แต่หนักแน่นจนน่าแปลกใจ

เสียงฝีเท้าของทั้งสองค่อยๆ จางลงในโถงเงียบ ก่อนจะมีเสียงเบาๆ ดังขึ้นจากอินเตอร์คอมใกล้เพดาน

“ณ…ให้คนมาเอาเอกสารห้องกูด้วย”

ณคุณหยุดเดินเล็กน้อย แล้วเงยหน้ามองกล้องวงจรปิดที่เงียบงันบนมุมเสา

“ครับเฮีย” เขาหันไปมองน้องสาว “ดูเหมือนจะมีงานให้เราทำแล้วนะ”

นาเนียร์เพียงพยักหน้าเบาๆ …แต่แววตาเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เนียร์โกรธง่ายหายเร็วนะ พี่ณก็คงรู้ว่าน้องสาวตัวเองเป็นคนยังไง แต่เฮียเตอร์ของพี่ณน่ะ เขาจะมีอคติกับเนียร์ไหมไม่รู้นะ”

“อืม ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ไปริที่ห้องควบคุม”

“ค่ะ”

นาเนียร์เดินตามทางที่พี่ชายบอก ด้วยฝีเท้าเรียบสงบ แต่ในใจกลับเต้นแรงอย่างประหลาด…ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่อาจเป็นเพราะไม่แน่ใจว่าเธอควรจะจัดวางตัวเองอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ‘เฮียเตอร์ของพี่ณ’

ประตูกระจกขุ่นเบื้องหน้าเปิดออกโดยอัตโนมัติเมื่อเธอเดินเข้าใกล้ กลิ่นเย็นๆ ของเครื่องปรับอากาศและเอกสารหนังสือผสมกันคล้ายห้องประชุมใหญ่ในบริษัทยักษ์ เฮดเตอร์ยืนอยู่ด้านใน กำลังเปิดแฟ้มหนาอยู่หน้าชั้นเอกสารเหล็กที่เรียงรายเป็นระเบียบ เขาหันมามองเพียงชั่ววินาที ก่อนจะปรายสายตากลับไปที่เอกสารตรงหน้า

“มาช้า”

นาเนียร์ชะงักฝีเท้าเล็กน้อย ก่อนจะรีบขยับเข้ามาใกล้ เธอพยายามควบคุมสีหน้าให้เรียบเฉย

“ขอโทษค่ะ…เนียร์เพิ่งมาครั้งแรก ยังไม่คุ้นทาง”

เฮดเตอร์ปิดแฟ้มในมือดัง ปึ้ก! แล้วหยิบอีกแฟ้มส่งให้เธอโดยไม่พูดอะไร นาเนียร์ยื่นมือไปรับอย่างระมัดระวัง แม้ในใจจะรู้สึกเหมือนยืนอยู่กลางแรงอัดของสนามแข่งก็ไม่ปาน

“แฟ้มนี้สำหรับส่งฝ่ายกลยุทธ์” เขาเอ่ยเสียงนิ่ง “อย่าทำตก อย่าทำหาย อย่าเปิดดู ถ้าไม่ใช่คนที่มีสิทธิ์เข้าอ่าน”

“ค่ะ…เข้าใจแล้วค่ะ”

สายตาคมของเฮดเตอร์เลื่อนขึ้นมาสบกับเธอตรงๆ เป็นครั้งแรก แววตานั้นไม่ใช่แค่ประเมิน แต่มันเหมือนชั่งน้ำหนัก…ราวกับกำลังพิจารณาว่าเธอเหมาะจะอยู่ในสนามของเขาหรือไม่

“ไม่ใช่เพราะเป็นน้องของไอ้ณแล้วจะได้สิทธิพิเศษอะไรที่นี่ จำไว้ให้ดี”

นาเนียร์นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงเรียบ

“เนียร์ไม่ได้คาดหวังสิทธิพิเศษค่ะ แค่อยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุดโดยไม่ให้ใครต้องเดือดร้อน…โดยเฉพาะพี่ณ”

เฮดเตอร์เลิกคิ้วเพียงเล็กน้อย แววตาไม่เผยความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนจะหันกลับไปยังโต๊ะทำงานของเขาอีกครั้ง

“งั้นก็พิสูจน์ให้เห็นด้วยการกระทำ ไม่ใช่คำพูด”

นาเนียร์ก้มศีรษะเล็กน้อย

“ค่ะ…จะทำให้ได้”

เธอหมุนตัวกลับและเดินออกจากห้องนั้นอย่างเงียบงัน แม้หัวใจจะยังเต้นแรงไม่หยุด แต่ฝีเท้าไม่สั่น และสายตาก็ไม่หันกลับไปมองอีกเลย

บนโต๊ะ เฮดเตอร์หยุดการจัดเอกสารชั่วครู่ เขายกมือขึ้นลูบกรามตัวเองเบาๆ พลางพึมพำ

“…รู้จักพูด…แต่ก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี”

สายตาคมกริบเหลือบมองจอมอนิเตอร์ที่ฉายภาพในมุมต่างๆ ของสำนักงาน และภาพหนึ่งคือโถงทางเดินที่นาเนียร์เพิ่งเดินผ่าน

และเขายังจับตามองอยู่

—————————————

จ้องนานๆ ระวังน้องท้องนะลุง 😆

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 15 เป็นพาร์ทเนอร์กันไหม?

    บทที่ 15 เป็นพาร์ทเนอร์กันไหม?นาเนียร์ก้าวลงจากรถ ขาทั้งสองข้างสั่นพั่บๆ จนต้องหาที่ยึดเหนี่ยวไม่ให้ตัวเองล้มพับลงกับพื้น“ไหวไหมเนี่ยน้องนาเนียร์”“ไหวค่ะ”“เฮียเตอร์พาไปลองรถมาเหรอ”“ค่ะ”เธอพยักหน้าให้รุ่นพี่เบาๆ แล้วถอดหมวกกันน็อกออก“โห หน้าซีดมาก ไหวแน่นะน้อง”“ไหวค่ะไหว” เธอตอบกลับโดยไม่เงยหน้ามองรุ่นพี่ จากนั้นจึงเดินเข้าไปด้านใน เจอแอร์และพัดลมเย็นๆ ถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง และในจังหวะนั้น ณคุณก็เดินถือกล่องเครื่องมือเดินผ่านพอดี“ไปทำไรมาเนี่ย ไหนพี่ดูสิ” เขาไม่ได้เดินผ่านไป แต่กลับรีบปนี่เข้ามาหาน้องสาวเพราะเห็นว่านาเนียร์หน้าซีดมาก“เฮียเตอร์พาไปลองรถ เกือบตายแน่ะ”“หืม? พาน้องไปลองรถมาเหรอ”“ค่ะ”ณคุณขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำตอบ น้ำเสียงก็เปลี่ยนจากความเป็นห่วงเป็นแข็งขึ้นเล็กน้อย“แล้วทำไมหน้าซีดขนาดนี้” เขาหันไปมองรอบๆ ราวกับกำลังหาเป้าหมายที่ชื่อเฮดเตอร์นาเนียร์รีบโบกไม้โบกมือ“ไม่ใช่แบบนั้นพี่ณ…ก็แค่…เฮียเขาขับเร็วมากน่ะ น้องยังไม่ชิน”แต่คำอธิบายนั้นไม่ได้ช่วยให้ณคุณคลายสีหน้าขุ่นเคืองลง เขาวางกล่องเครื่องมือลงบนโต๊ะใกล้ๆ แล้วใช้มือจับแขนน้องสาวให้หมุนตัวไปมาเบาๆ“ไ

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 14 สนใจ

    บทที่ 14 สนใจเสียงเครื่องยนต์คำรามแข่งกับลมที่กระแทกกระจกอย่างต่อเนื่อง รถพุ่งทะยานไปตามโค้งของสนามด้วยความเร็วที่ทำให้ท้องไส้ของนาเนียร์เหมือนถูกดึงรั้งไว้ด้านหลัง เธอกำเข็มขัดตัวเองแน่น เท้าก็เหยียบพื้นแน่นคล้ายจะช่วยเขาเบรกรถ แม้รู้ดีว่ามันไม่ได้ช่วยให้รถช้าลงเลยสักนิดเฮดเตอร์เหลือบตามองเธอจากมุมสายตา เห็นใบหน้าใต้หมวกกันน็อกที่ซีดนิดๆ กับริมฝีปากที่เม้มแน่นเหมือนพยายามเก็บอาการ เขายกยิ้มบาง ไม่ใช่ยิ้มเอ็นดู แต่เป็นยิ้มของคนที่กำลังพอใจที่ได้เห็นอีกฝ่ายตกอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง“กลัวเหรอ” เสียงของเขาทุ้มต่ำ แทรกผ่านเสียงเครื่องยนต์เข้ามาในหูเธอ“มะ…ไม่กลัวค่ะ” นาเนียร์ตอบสั้นๆ แต่สายตายังจ้องถนนข้างหน้า“ไม่กลัวก็หันมามองสิ”เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้ามองเขาตามที่บอก แล้วก็ต้องเผลอกลืนน้ำลาย เพราะระยะห่างระหว่างใบหน้าของเขากับเธอตอนนี้ใกล้จนเห็นประกายแววตาคมชัดทุกเส้นสาย ราวกับเขาตั้งใจจะให้เธอสบตาแล้วจมอยู่ในนั้นเฮดเตอร์กระตุกพวงมาลัยเข้าโค้งแรง จังหวะนั้นแรงเหวี่ยงทำให้ร่างของนาเนียร์เอียงเข้าหาเขาโดยอัตโนมัติ มือหนาของเขายกขึ้นมารับไว้ที่เอวอย่างรวดเร็ว“จับไว้ดีๆ” เขากร

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 13 ลองเครื่อง

    บทที่ 13 ลองเครื่องนิ้วเรียวยาวของเฮดเตอร์วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ก่อนจะลูบหน้าผากตัวเองแรงๆ ทีหนึ่งด้วยความหงุดหงิด คราวนี้ไม่ใช่เพราะเอกสารตรงหน้า ไม่ใช่เพราะเสียงครางจากปลายสายก่อนหน้า…แต่เพราะความเงียบที่วนกลับมาอีกครั้ง มันเหมือนหลอกให้เขาต้องกลับมานั่งอยู่กับความรู้สึกที่ตัวเองก็ยังไม่อยากยอมรับเขาก้มมองโทรศัพท์อีกครั้ง นิ้วไถรายชื่ออย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดที่ชื่อสุดท้ายในกลุ่มที่พอไว้ใจได้“ลีออง” ตัวเลือกสุดท้ายติ๊ด…เสียงรอสายดังเพียงแค่สองครั้ง(ว่าไงมึง วันนี้เงียบเหงาเหรอ ถึงได้โทร.หาผมเนี่ย)เสียงกวนประสาทของลีอองดังขึ้นพร้อมกับเสียงเพลงเบาๆ ที่เปิดคลออยู่ด้านหลัง ไม่ใช่เสียงหอบ ไม่ใช่เสียงหญิงสาว ไม่ใช่เสียงเตียงลั่นแอ๊ดแอ๊ดเฮดเตอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกปนขบขันเล็กๆ เป็นครั้งแรกของคืน“อย่างน้อยก็มีมึงที่ว่าง…”(ไม่ว่างก็ต้องว่างแหละ โทรมาขนาดนี้ หายากนะที่มึงจะโทร.หากูก่อน ดึกแล้วด้วย มีไรว่ามา)“ไม่มีอะไรมาก แค่อยากเช็กว่ากูไม่ได้เหลือแค่เอกสารกับเสียงพัดลมในห้องทำงาน และที่สำคัญกูโทร.หามึงคนสุดท้าย”(หืมมมม~ ฟังดูเหงาแปลกๆ นะมึง หรือลูกน้องมึงแอบทิ้งไปเสพสุขกันหมดแล้ว?)เฮดเ

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 12 คนในอดีต

    บทที่ 12 คนในอดีตณคุณทิ้งความงุนงงไว้ข้างหลัง ก่อนปั่นหน้ายิ้มแย้มเมื่อนาเนียร์เดินมาถึงรถพอดี“พี่ณ วันนี้ทำงานเหนื่อยมากๆ ขออ้อนได้ไหม”“ก๋วยจั๊บร้านประจำ?” ณคุณเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจน้องสาว ทำเอาคนที่ตั้งใจมาอ้อนพี่ชายให้พาไปกินของอร่อยต้องหลุดยิ้มดีใจ“เก่งจัง รู้ใจน้องไปหมดเลย”“นี่พี่เรานะ เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ทำไมจะไม่รู้”“ขอบคุณนะพี่ณ ที่ไม่ทอดทิ้งน้องไปไหน”นาเนียร์จับชายเสื้ิพี่ชายเบาๆ แกว่งมือไปมาอย่างเขินอาย จากนั้นเธอก็เขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มพี่ชายเบาๆ“อะไรเนี่ย หอมแก้มพี่ทำไม”“ขอบคุณ รู้สึกอยากขอบคุณและอยากขอโทษพี่ณที่ทำตัวให้ปวดหัว”“ไม่เอาน่า ไปหาอะไรกินกันเถอะ”“อืม”ขณะเดียวกันก็มีสายตาหนึ่งคู่ที่มองลงมาจากห้องทำงาน เฮดเตอร์มองสองพี่น้องที่เดินเคียงกันไปขึ้นรถ มุมปากเขาเหยียดยิ้มบางๆ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน22:00 บ้านของณคุณ“ตัวแสบ จะอ่านหนังสือถึงกี่โมงเนี่ย พรุ่งนี้ตื่นสายไม่รู้ด้วยนะ”“น้องไม่เคยตื่นสาย แต่ว่าอยากอ่านบทนี้ให้จบก่อนค่ะ”“เอางั้น?”“อืม แป๊บเดียว”“งั้นพี่อยู่เป็นเพื่อน”“โอเคค่ะ” นาเนียร์ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อณคุณหยิบหนั

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 11 ไม่เข้าใจเหตุผล

    บทที่ 11 ไม่เข้าใจเหตุผล“เฮ! ทำไมหน้าซีดแบบนั้น ไม่สบายเหรอ”ณคุณตะโกนเรียกน้องสาว เมื่อนาเนียร์เดินเข้ามาใกล้ เขาก็รีบถอดถุงมือช่างออกแล้วยกขึ้นไปอังหน้าผากน้องสาวทันที “ก็ไม่ได้ตัวร้อน ทำไมทำหน้าเครียดมาแบบนั้น”“พี่ณ”“หืม?”“คนเราสามารถมีอะไรกับคนที่ไม่ใช่คนรักของตัวเองได้เหรอ”ณคุณแทบสำลักน้ำลายกับคำถามตรงๆ ของน้องสาว และรุ่นน้องที่กำลังก้มหน้าทำงานอยู่ข้างๆ ถึงกับอ้าปากค้าง มองหน้านาเนียร์พร้อมกัน“หุบปาก” ณคุณหันไปสั่ง เพราะรู้ว่ายังไงก็ถูกแซวแน่ๆ ก่อนจะหันไปมองหน้านาเนียร์ จากนั้นจึงดึงแขนเธอเดินไปยังมุมที่ไม่มีคนพลุกพล่านเท่าไร “อะไร ทำไมเราถามพี่แบบนี้”“ก็แค่อยากรู้ค่ะ แต่ว่าพี่ณก็เคยทำนี่นา”“พะ พอเลยๆ ไม่ต้องพูด”“ก็น้องอยากรู้นี่คะ”“พี่เชื่อว่าเรามีคำตอบในใจแล้ว”“แล้วพี่ณคิดว่าเนียร์จะตอบอะไร”“พี่รู้น่าตัวแสบ ไปทำงานได้แล้ว และอย่าลืมว่าอีกไท่กี่วันเขาจะเปิดสอบแล้ว ตั้งใจหน่อย”“ครับผม จะไม่ทำให้พี่ณผิดหวัง”นาเนียร์ตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง แม้แววตายังดูไม่สดใสเท่าปกตินัก ทว่าก็พยายามกลบเกลื่อนความสับสนในใจด้วยท่าทีร่าเริง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากมุมนั้น ทิ้งให้ณคุณยังย

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 10 อย่าเล่นกับไฟ

    บทที่ 10 อย่าเล่นกับไฟรถเคลื่อนตัวออกจากสนามแข่งอย่างช้าๆ ทิ้งเสียงวุ่นวายและกลิ่นน้ำมันไว้เบื้องหลัง เส้นทางที่ทอดยาวเบื้องหน้าเงียบงัน มีเพียงแสงไฟถนนที่สะท้อนเข้ามาในรถเป็นระยะ กับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังสม่ำเสมอ ราวกับปลอบโยนความคิดฟุ้งซ่านของหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่เบาะข้างคนขับณคุณเหลือบมองน้องเป็นระยะ นาเนียร์ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตานิ่งสงบ แต่ในความนิ่งนั้นกลับซ่อนบางอย่างไว้จนคนเป็นพี่รู้สึกได้ มันคือความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เขาไม่ค่อยสบายใจนัก“เขาไม่ใช่คนธรรมดาเนียร์” ณคุณพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงนิ่งจริงจัง “คนแบบนั้น ถ้าเข้าไปใกล้มากเกินไป มันจะเปลี่ยนเราโดยไม่รู้ตัว”นาเนียร์หันกลับมามองพี่ชาย ชั่ววินาทีนั้นเองที่แววตาเธอเผยความสับสนออกมาอย่างปิดไม่มิด“น้องแค่…แค่อยากรู้จักมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้อยากให้ไฟแผดเผาตัวเองจนตายขนาดนั้น” เธอสารภาพเสียงแผ่ว “เขาเหมือนมีอะไรบางอย่างที่น้องอยากเข้าใจ อยากมองให้ลึกลงไปกว่าสิ่งที่เขาแสดงออก”ณคุณถอนหายใจยาว เขาไม่ได้ต่อว่า ไม่ได้พูดห้ามเหมือนก่อนหน้านี้ แต่สีหน้าเขายังคงเคร่งเครียด“ตัวตนของเฮดเตอร์มันไม่สวยงามอย่างที่เราคิดนะเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status