"ปล่อยนะคลินเราเจ็บ แล้วก็กลับไปได้แล้วเราเหนื่อยไม่อยากทะเลาะด้วย"
"คนที่เจ็บกว่าคือเรา! ไม่ใช่เธอเลยริน" คนตัวสูงรวบร่างบางอุ้มขึ้นอย่างรวดเร็ว ใช้ความแข็งแรงรัดแน่นไม่ให้ดิ้นหนี ปลายเท้าแกร่งเตะถีบประตูห้องนอนเปิดกว้าง แล้วโยนคนในอกลงกลางเตียงไร้การเบาแรง
"อึก!..ปล่อยนะจะทำอะไร อย่าคิดอะไรบ้าๆ! เราเป็นเพื่อนกันอย่าลืมสิคลิน!" รินเซ่เขยิบตัวร่นหนีแต่อีกฝ่ายก็กระโดดขึ้นคล่อมไล่เธอประชิดถึงหัวเตียง ไม่อาจต่อสู้ร่างกายกำยำหนีไปได้ เรี่ยวแรงน้อยนิดยิ่งมีแต่พ่ายแพ้
"ใครว่ะอยากเป็นเพื่อนกับเธอ เราจะเสนอความเป็นผัวให้ไม่ดีหรือไง เอาให้หน่ำใจลืมผัวเก่าไปเลยดีไหมรินเซ่!" ฝ่ามือหนาบีบแก้มเนียนหันหน้าจ้องระยะใกล้เพียงข้างเดียว
แล้วใช้อีกข้างปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดออก เผยร่างกำยำของนักกีฬาระดับเหรียญทอง นัยน์ตาคมดูน่ากลัวจนทำใจดวงน้อยกระตุกวูบ เธอริอาจลองดีจุดเพลิงไฟรนอารมณ์ดิบ"อื้อ..อ่อย....อิน...!!" มาคลินรีบปิดปากร่างเล็กประกบจูบบดขยี้เม้มกัดรอบริมฝีปากบางให้เผย่อรับ จนเจ็บแสบซ่านรู้รสคาวส่งลิ้นสากเข้าชอนไช ตวัดกลืนรสหวานอย่างหิวโหยกลิ่นหอมบนกายสาวโชยแตะจมูกใหญ่ กำลังส่งเสริมให้ความเป็นชายปลุกระดม
รินเซ่ใช้สองกำปั้นน้อยทุบระรัวใส่บ่ากว้างอันแข็งแรง กำจิกแผ่นหลังกำยำด้วยความกลัว เธอไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เพื่อนชายที่เคยแสนดีไม่หลงเหลือให้เห็นอีกแล้ว
"อื้ม..." คนตัวโตส่งเสียงครางพึงพอใจ ตอนร่างบางเริ่มอ่อนระทวยยึดเกาะบ่าทรงตัว รสชาติหอมหวานในโพรงปากบางทำเขาลุ่มหลง ยอมปล่อยแก้มเนียนเลื่อนมือช้อนท้ายทอยเล็กบังคับแหงนหน้ารับรสจูบมัวเมา
"พอก่อนคลิน..." น้ำเสียงหวานเอ่ยบอกเบาๆ ตอนอีกฝ่ายเริ่มผ่อนแรง เธอโดนแย่งชิงลมหายใจจนเกือบวูบเอน คนอ่อนประสบการณ์ไม่รู้ว่าต้องต่อสู้ยังไง ยามอารมณ์บางอย่างก่อตัวไร้สาเหตุ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยจูบกับคนรักเก่า แต่มักจะจบแค่นั้นไม่ได้ทำอย่างอื่นต่อ
"เราหยุดไม่ได้แล้ว...อย่าห้ามกันเลย..อื้ม" น้ำเสียงแหบพร่าตอบกลับ ก้มลงประทับรอยจูบทั่วใบหน้าสวย ก่อนแนบริมฝีปากประกบจูบเร่าร้อน ไล่ต้อนดูดความหวานจนคนรองรับไหวเอน เขาใช้โอกาสนี้รีบเปลื้องชุดเดรสบนร่างบางรวดเร็ว เลื่อนมือลูบแผ่นหลังเนียนปลดตะขอบรา
"คลินคะคือ...เรากลัว...." รินเซ่เบื่อนหน้าหนี รับรู้สิ่งแปลกปลอมตอนขาอ่อนชนกระทบกล้ามท้องแกร่ง ใกล้ๆกันมีแท่งร้อนขึงขันในเป้าตุง สัมผัสหวืวหวาทำใจดวงน้อยสั่นระริกกำจิกข้อมือใหญ่ไว้ ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วต้องจบด้วยเรื่องบนเตียง ที่ไม่อาจปฏิเสธอารมณ์ตัวเองทัน
"เชื่อใจเราสิ เรารู้ว่ารินก็อยากเหมือนกัน"
"อื้อ...คะคลิน" ร่างบางกระตุกเกร็งทันที ในตอนที่นิ้วยาวของคนตัวโตกระทุ้งใส่ร่องชุ่มฉ่ำ ไม่มีการบอกกล่าวหรือกระตุ้นใดใดก่อน มันยิ่งเจ็บแสบรอบบริเวณเผลอขบกัดสิ้นสากเบาๆ
แต่ในเมื่อความปรารถนาของคนไร้ประสบการณ์มีพลั่งพรู ดวงตากลมเลื่อนปิดสนิทตามอารมณ์ ได้ยินเสียงมาคลินกำลังปลดหัวเข็มขัดหนัง แรงขยับเขยื้อนถอดกางเกงจนแท่งความเป็นชายดีดชนเนินสาวปั่ก!
"อื้อออ...เจ็บ!" คนตัวเล็กสะดุ้งตอบสนองทันที ยามแก่นกายขนาดใหญ่กระแทกใส่ร่องงามซึ่งยังไร้น้ำหล่อลื่นเบิกทาง รสจูบเมื่อกี้แทบไม่ช่วยอะไรเลย ความเจ็บซ่านกระตุ้นเรียกสติสัมปชัญญะกลับมา"ยังไงเราก็ถอยไม่ได้แล้ว อย่าฝืนให้เปล่าประโยชน์เลย" เพราะเขายังเข้าใจว่าเธออาจเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนชาย เอเดนเป็นเสือผู้หญิงขนาดนั้นเรื่องอะไรจะปล่อยผ่านนางแบบสาว ต่อให้ร่องงามจะรัดแน่นแค่ไหน สะโพกแกร่งยิ่งเกร็งกระแทกใส่รุนแรงกว่าเดิม
............................
ช่วงเย็น_ "พี่รินระวังสะดุดหินนะคะ เมื่อกี้พิพิมพึ่งโยนก้อนหินมาทางนี้" เพชรพลอยรีบเอ่ยเตือน ยามเห็นคนท้องก้าวเท้ามาทางสวนข้างบ้าน เธอเกรงว่าอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วกระทบแก่ทารกในครรภ์ ยิ่งดูเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นพี่ชายหวงแหนนัก"พี่ซื้อของเล่นมาฝากพิพิมด้วยนะ แต่มาคลินเอาไปไว้ไหนไม่รู้" ก่อนกลับเข้ามาบ้าน เธอบังคับให้สามีหนุ่มพาแวะห้างสรรพสินค้า เลือกซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ดั่งที่เด็กหญิงชอบเล่น"ไม่ต้องเดินไปซื้อให้เหนื่อยหรอกริน เธอท้องอยู่นะ เดี๋ยวไอคลินมาบ่นอีก" เอเดนเอ่ยบอก เขาพึ่งวิ่งไล่จับลูกสาววัยเกือบสองขวบ ใบหน้ายังมีเม็ดเหงื่อไหล แต่ภรรยาสาวดันอมยิ้มชอบใจ"คลินไม่บ่นเลย แค่โดนรินบังคับเอง เพื่อหลานหน่ะเดน" รินเซ่รีบพุ่งไปบีบแก้มป่องๆของพิพิม เปรียบเสมือนดวงใจของเอเดนและเพชรพลอย จนเธออยากให้ถึงวันที่คลอดบุตรเร็วๆ อยากรู้ว่ามาคลินจะตื่นเต้นขนาดไหน"ปะป้า..อะอิน...ขะขาา" แต่แล้วเสียงเด็กหญิงก็รีบเรียกชื่อ เพราะรินเซ่ชอบเล่นกับเธอมาตั้งแต่เกิด พยามยืดแขนป้อมๆเขาหาผู้เป็นป้า แต่เอเดนล็อคไว้ไม่อยากให้คนท้องต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ"ป้ารินมีน้องอยู่นะพิพิม ป้ารินอุ้มเด็กอ้วนไม่ไหวหรอก" เพชรพลอย
หนึ่งปีผ่านไป_บริษัท Makin Group"สามีบอกให้เลิกไปถ่ายแบบได้แล้วไงครับ...คุณรินเซ่" น้ำเสียงเข้มของสามีหนุ่มกำชับบอก ขณะเคลียร์งานเซ็นต์เอกสารสำคัญบนโต๊ะ หลังได้รับตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัว ปล่อยบิดาให้พักผ่อนช่วยน้องสาวเลี้ยงหลานอยู่บ้านเขาวางแผนแล้วว่าให้ภรรยาสาวลาวงการ เพราะพึ่งทราบว่าเธอตั้งครรภ์อ่อนๆอยู่ แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นมีอาการแพ้ใดใด"คลินคะ....รินพักก็ได้ แต่ต้องรีบกลับบ้านกันนะ รินคิดถึงน้องพิพิมจะแย่แล้ว" น้ำเสียงหวานออดอ้อนบอก เธอเองก็เริ่มติดลูกสาวของเพชรพลอย ช่วยดูแลประหนึ่งลูกตัวเอง ร่างอรชรยังสวยสมบูรณ์แม่ตั้งครรภ์อยู่ ตรงไปนั่งบนตักแกร่งยียวน ลูบคลำตรงเป้าตุงหยอกล้อ"แน่ใจนะว่าอยากกลับบ้านเพราะคิดถึงหลาน" ใบหน้าคมคายอมยิ้มอย่างรู้ทัน เมียรักเริ่มมีอารมณ์หื่นกามตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง และเขาก็ชอบด้วยที่ได้ปรนเปรอเธอทุกคืน ฝ่ามือหนาเริ่มล้วงเข้าใต้กระโปรงทรงเอสีครีม แหวกเพนตี้ตัวจิ๋วก่อนส่งนิ้วยาว ทักทายกลีบดอกไม้งาม"คะคลิน..." ดั่งอารมณ์ตอบสนองรวดเร็ว คนท้องรีบหันข้างวางใบหน้าสวยใส่ซอกคอหนา น้ำเสียงกระเซ้าเรียกสามี ทำอีกฝ่ายมีความต้องการตาม"ในห้องทำงานผมก็ค
ช่วงค่ำ_ "ขอบใจนะที่เดนยอมดูกล้องวงจรปิดคืนนั้น" น้ำเสียงหวานของคนที่ยังรู้สึกว่ามีตราบาปได้ละลายหายไป ยามอดีตคนรักได้พูดคุยดีกับเธอ พร้อมยอมรับว่าตัวเองนั่นแหละ ที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายบ้าง"เราขอโทษนะสำหรับเรื่องในอดีต ถ้ารู้ว่ามันกล้าวางยาเธอกับไอคลิน ฉันตามไปฆ่ามันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว" เอเดนพูดน้ำเสียงเบา เขายังมองเห็นเธอเป็นคนเดิม แต่ไม่ใช่ฐานะคนรัก เพราะตอนนี้เขารักเพชรพลอยจนสุดหัวใจแล้ว ถ้าตอนนั้นเขาลดทิฐิลงสักเล็กน้อย คงไม่เสียเวลาทำลายความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อนไป ป่านนี้คงหาอะไรสนุกทำร่วมกันนานแล้ว"ไปเป็นไรเลยเดน ตอนนี้เรากับคลินก็รักกันจริงๆด้วยแหละ ต้องขอบใจคืนนั้นเหมือนกัน แค่รู้ว่าเดนไม่โกรธกันก็พอแล้ว" หัวใจดวงน้อยสั่นไหวยามพูดถึงแฟนหนุ่ม เธอพยามมองหาเขาอยู่แต่ไม่รู้ทำอะไร เผื่อหันมาเจอเธอนั่งคุยกับเอเดน จะทำตัวหวงก้างเป็นเรื่องใหญ่อีก ทว่าในทางกลับกัน เขาแอบยืนยิ้มอยู่ระยะใกล้หลังต้นไม้ใหญ่ กับคำพูดของรินเซ่ที่ทำลายความสับสนของเขาลงให้กระจ่างสักที และหลังจบเรื่องคาลาสไป เขากับเอเดนจึงไร้ปัญหาแต่เพียงหยั่งเชิงไว้แกล้งกันสนุกก็พอ"ดีใจนะที่เธอกับไอคลินรักกัน" เอเดนบอกจากใ
หลายวันต่อมา_ "คุณพ่อค่อยๆเดินนะคะ ถ้าล้มขึ้นมานี่แย่เลย" รินเซ่พูดบอก ตอนช่วยประคองทศพลมานั่งหน้าทีวี มีมาคลินช่วยอยู่ข้างๆ หลังท่านออกจากโรงพยาบาลแต่ร่างกายยังต้องพักฟื้นอยู่ เพราะป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม"พ่อไม่เป็นขนาดนั้นหรอก แต่พวกเราไปเตรียมสวนไว้นะ พ่อชวนพลอยมากินบาบีคิวกับเราเย็นนี้" ผู้เป็นบิดาบอก หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ดูเหมือนว่าพี่น้องคู่นี้จะเริ่มกันดีแล้ว ส่วนรินเซ่เองก็แวะมาบ้านท่านบ่อยขึ้น จนอยากจับจองเป็นสะใภ้เต็มทน"ครับ""งั้นคุณพ่อต้องนอนพักนะคะ กว่าจะเย็นต้องง่วงแน่ๆเลย" หญิงสาวบอกอย่างเป็นห่วง เธอเป็นคนช่วยป้าแม่บ้านจัดยาให้ท่านตอนเที่ยง เลยทราบดีว่าฤทธิ์ยาต้องทำให้ง่วงนอนมาก"พ่อจะนอนพักก็ได้ ถ้าได้หนูรินมาดูแลอยู่บ้านเราตลอด คงจะดีไม่น้อยเนอะตาคลินว่าไหม?" แต่ผู้เป็นพ่อวกกลับมาทางลูกชาย ท่านรู้ว่าพูดถูกใจเขาขนาดไหน"นั่นสิครับคุณพ่อ เอาแบบจัดพิธีใหญ่ๆ ด้วยนะครับ" น้ำเสียงเข้มยิ่งพูดเสริม พอเห็นคนตัวเล็กมีสีหน้าเขินอาย เขายิ่งหมั่นเขี้ยวอยากบีบแก้มเนียนซ้ำ"พอเลยคลิน ให้คุณพ่อนอนพักก่อน ไปช่วยรินเตรียมบาบีคิวกันดีกว่านะ อ้อ...หนังสือเล่มนั้นเรายังอ่านไม่จ
เวลาต่อมา_ แค่เพียงไม่นานดี น้องสาวต่างมารดาก็มาพร้อมอดีตเพื่อนชาย ที่เขาตราหน้าว่าเป็นศัตรู มาคลินรีบลุกยืนจากเก้าอี้จ้องมอง เขาเคยสั่งห้ามน้องสาวไม่ให้ยุ่งกับมันด้วยซ้ำไป"ไอเดน!/พี่คลิน" มาคลินส่งเสียงดัง อย่างไม่พอใจกับการกระทำของน้องสาวแบบนี้ ซึ่งเอเดนไม่ได้สะทกสะท้านตีหน้านิ่งราวเย้าเย้ยกัน"พามันมาด้วยทำไม?" น้ำเสียงเข้มยังถามต่อ จ้องใบหน้าน้องสาวอย่างเอาเรื่อง ในเวลายากลำบากของครอบครัว เธอดันดึงมือศัตรูเข้ามาเกี่ยวข้อง จนเขารู้สึกโมโหเป็นไหนๆ"พลอยจำเป็นต้องติดรถเขามา มันมีเรื่องฉุกเฉินหน่ะค่ะ คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เพชรพลอยพยามจะเอื้อมมือไปจับกับพี่ชายทว่าเขาชักกับทันที เหตุใดเธอแสร้งไม่สนใจคำสั่งของเขาบ้าง"ไอระยำ!" แต่เอเดนขบฟันกรามพูด"มึงสิไอเวร!" เรื่องอะไรที่เขาจะต้องยอมอีกฝ่ายด้วย มาคลินยกมือชี้หน้าด่ากลับทันที เขาไม่ชอบจริงๆที่มายุ่งกับน้องสาว"ถ้าจะกัดกันไปข้างนอกนะคะ อย่าให้พลอยต้องดุนะ" น้องสาวสบัดตัวถอยหลัง เธอไม่ยืนคั่นกลางห้ามใครตอนนี้ มือบางกรีดนิ้วชี้ไปทางประตูบานเลื่อน สื่อความหมายว่าไล่จริงจังไม่แคร์สายตาใคร นับเป็นครั้งแรกที่เธอโมโหจนน่ากลัว ทำชายบุรุษสองค
วันต่อมา_บริษัท Makin Group "คุณมาคลินครับ นี่คือแฟ้มเอกสารสรุปการประชุม ช่วงที่คุณคลินไม่อยู่ครับ" เลขาคนสนิทรีบถือแฟ้มเอกสารเข้ารายงาน ภายในห้องทำงานท่านรองประธาน แม้ว่าจะส่งผ่านทางอีเมล์ ไปให้เจ้านายอ่านอยู่รอบ แต่เพื่อแน่ชัดจึงอยากนำฉบับจริงให้ดูอีกครั้ง"อืม ทำไมฝ่ายจัดซื้อไม่สั่งพักงานคนทำผิด หรือคำสั่งของฉันไม่มีผลแล้ว" ขณะเอื้อมไปหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่าน เขาพึ่งนึกได้ตอนเข้าบริษัท เมื่อเช้าตรู่พบว่าฟรานตอกบัตรทำงานแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะสั่งพักงานไปได้เดือนเดียวเอง"คุณฟรานแจ้งกับหัวหน้าว่า คุณมาคลินอนุญาตให้กลับมาทำงานแล้วครับ ทางหัวหน้าเลยไม่กล้าขัดเผื่อเป็นคำสั่งของคุณมาคลินครับ""นั่นก็เท่ากับว่า ถ้าใครอ้างชื่อหรืออ้างว่ารู้จักฉัน แปลว่าจะไม่โดนโทษหรอกเหรอ?" รองประธานจงใจใช้ประโยคเชิงตำหนิ ถ้ามีใครเอาชื่อเขามาอ้างไปซะหมด ระบบการทำงานจะเป็นเช่นไร ไม่ต้องแบ่งกฏระเบียบให้ยุ่งยากดีกว่าไหม"ขอโทษครับ" เมฆก้มหน้าเอ่ยบอก"ไปจัดการที่ฉันสั่ง แล้วเรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง" เขาพึ่งนึกอะไรได้ ต่อให้คนอื่นไปจัดการเรื่องของฟรานแทนก็คงจะอ้างเหตุผลเดิมซ้ำๆ เพราะเขาเคยสนิมสนม ถึงขั้นชวนลง