LOGINคนนึงที่รักมาโดยตลอดแต่ไม่อาจบอกใครได้...ส่วนอีกคนที่ไม่ได้รักและไม่มีทางรัก~จนความสัมพันธ์เริ่มเดินไปถึงจุดเลวร้ายทุกนาที
View Moreผับ ADEN
"เอ้า...ชนแก้วกันดิว่ะ" มาคลินส่งเสียงบอกอย่างครึกครื้น เมื่อวันที่รอคอย ของทุกคนมาถึง นั่นก็คือการเลี้ยงฉลองรับปริญญาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เขาและเอเดนรวมถึงรินเซ่ทั้งสามคนต่างยกแก้วเครื่องดื่มชนฉลอง ความสัมพันธ์สนิทกันตั้งแต่สมัยรั้วมัธยม จึงทำให้พวกเขาผูกพันธ์กัน ปานพี่น้องร่วมสายเลือด "เดนอย่ากินเยอะสิ เดี๋ยวขับรถไปส่งรินไม่ไหวนะ" รินเซ่เอ่ยบอกกับแฟนหนุ่ม พลางเอื้อมมือรั้งแขนแกร่งไว้ ท่ามกลางดวงตาคมของมาคลินชำเรืองมอง พร้อมซ่อนข้อความบางอย่างในใจแกร่ง เธอตกลงคบกับเอเดนได้ไม่ถึงสองปีดีด้วยซ้ำ เพราะความสนิทสนมกันเนิ่นนาน จึงเกิดความรู้สึกรักกันและกัน ส่วนมาคลินคือเพื่อนชายแสนดีในกลุ่มคนนึง คอยดูแลเธอเรื่องเรียนเสมอมา "ไม่ต้องห่วงเดนหรอก นู้น..ดูไอคลินดิขนาดมันไม่ค่อยเที่ยวยังไม่เห็นเมาเลย" เอเดนพูดบอก เขาเป็นถึงเจ้าของผับจะคออ่อนก่อนคนอื่นได้ไง"ก็คนละคนกันไหมล่ะ" นางแบบสาวพึมพำราวน้อยใจเพียงไม่ถึงนาที ก็ฉีกยิ้มกว้าง จับแก้วตัวเองกระดกตามแม้ไม่ใช่คนคอแข็งเท่าไหร่นัก ไม่อยากให้ดูแตกต่างเพื่อนฝูง
"เออดี...แมร่งเมาให้หมด แล้วมึงสั่งลูกน้องด้วยนะไอเดน ส่งลูกค้ากลับได้ ยกเว้นพวกกู" มาคลินพูดเสริม ถือว่าค่ำคืนนี้เป็นการเลี้ยงฉลอง ที่อยู่กันพร้อมหน้าและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีเวลาแบบนี้มาถึงอีกเมื่อไหร่
"ได้ดิว่ะ ไม่หมดไม่กลับ ส่วนรินถ้าเมานะเดนอุ้มไปนอนในห้องพักให้ไม่ต้องห่วงเลย" เอเดนหันมาบอกแฟนสาว เขาไม่มีทางรู้เลยว่าเพื่อนชายมีความคิดอย่างไร บรรยากาศดูน่าอิจฉาความรักดีๆแบบนี้สำหรับเขาคงไม่มีวันพบเจอ
"โอเค เราเชื่อเดน"
สองชั่วโมงผ่านไป_
"ทำไมเดนไปคุยงานนานจังล่ะคลิน เราลุกไปดูแป๊บนึงนะ" รินเซ่เอ่ยบอก ยามกลับมาจากห้องน้ำหยิบแก้วเครื่องดื่มจิบเพียงนิดให้ชุ่มคอ ทว่าเริ่มรู้สึกถึงอาการตัวเองกำลังถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำ ไม่ต่างไปกว่าเพื่อนชายนั่งฝั่งตรงข้าม ใบหน้าคมคายนั้นแดงจัดจนไม่ต้องเดา"เราไปด้วยดิ คนแมร่งเยอะเดี๋ยวก็หลงหรอก" พูดจบเขาก็ลุกยืนขึ้น จนลืมสนใจบอดี้การ์ดกำลังวุ่นวายตรงจุดอื่นอยู่ ร่างสูงเดินนำไปตาม ทางวีไอพีอย่างคุ้นเคย แต่เหมือนอาการบางอย่าง กำลังเกิดขึ้นโดยไม่อาจควบคุมมันได้
"คะคลินเป็นอะไรอ่ะ" เธอเองไม่ได้ต่างกันเลย อยู่ดีๆ ดันปวดหัว ภาพการมองเห็นพล่าเบลอ รวมถึงอัตราการเต้นหัวใจกระหน่ำรัว รีบจับเข้าแขนเพื่อนชายประคองตัว
"ไม่รู้ดิ.."
ฟุ่บ!!!!.................................
ช่วงเย็น_ "พี่รินระวังสะดุดหินนะคะ เมื่อกี้พิพิมพึ่งโยนก้อนหินมาทางนี้" เพชรพลอยรีบเอ่ยเตือน ยามเห็นคนท้องก้าวเท้ามาทางสวนข้างบ้าน เธอเกรงว่าอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วกระทบแก่ทารกในครรภ์ ยิ่งดูเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นพี่ชายหวงแหนนัก"พี่ซื้อของเล่นมาฝากพิพิมด้วยนะ แต่มาคลินเอาไปไว้ไหนไม่รู้" ก่อนกลับเข้ามาบ้าน เธอบังคับให้สามีหนุ่มพาแวะห้างสรรพสินค้า เลือกซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ดั่งที่เด็กหญิงชอบเล่น"ไม่ต้องเดินไปซื้อให้เหนื่อยหรอกริน เธอท้องอยู่นะ เดี๋ยวไอคลินมาบ่นอีก" เอเดนเอ่ยบอก เขาพึ่งวิ่งไล่จับลูกสาววัยเกือบสองขวบ ใบหน้ายังมีเม็ดเหงื่อไหล แต่ภรรยาสาวดันอมยิ้มชอบใจ"คลินไม่บ่นเลย แค่โดนรินบังคับเอง เพื่อหลานหน่ะเดน" รินเซ่รีบพุ่งไปบีบแก้มป่องๆของพิพิม เปรียบเสมือนดวงใจของเอเดนและเพชรพลอย จนเธออยากให้ถึงวันที่คลอดบุตรเร็วๆ อยากรู้ว่ามาคลินจะตื่นเต้นขนาดไหน"ปะป้า..อะอิน...ขะขาา" แต่แล้วเสียงเด็กหญิงก็รีบเรียกชื่อ เพราะรินเซ่ชอบเล่นกับเธอมาตั้งแต่เกิด พยามยืดแขนป้อมๆเขาหาผู้เป็นป้า แต่เอเดนล็อคไว้ไม่อยากให้คนท้องต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ"ป้ารินมีน้องอยู่นะพิพิม ป้ารินอุ้มเด็กอ้วนไม่ไหวหรอก" เพชรพลอย
หนึ่งปีผ่านไป_บริษัท Makin Group"สามีบอกให้เลิกไปถ่ายแบบได้แล้วไงครับ...คุณรินเซ่" น้ำเสียงเข้มของสามีหนุ่มกำชับบอก ขณะเคลียร์งานเซ็นต์เอกสารสำคัญบนโต๊ะ หลังได้รับตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัว ปล่อยบิดาให้พักผ่อนช่วยน้องสาวเลี้ยงหลานอยู่บ้านเขาวางแผนแล้วว่าให้ภรรยาสาวลาวงการ เพราะพึ่งทราบว่าเธอตั้งครรภ์อ่อนๆอยู่ แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นมีอาการแพ้ใดใด"คลินคะ....รินพักก็ได้ แต่ต้องรีบกลับบ้านกันนะ รินคิดถึงน้องพิพิมจะแย่แล้ว" น้ำเสียงหวานออดอ้อนบอก เธอเองก็เริ่มติดลูกสาวของเพชรพลอย ช่วยดูแลประหนึ่งลูกตัวเอง ร่างอรชรยังสวยสมบูรณ์แม่ตั้งครรภ์อยู่ ตรงไปนั่งบนตักแกร่งยียวน ลูบคลำตรงเป้าตุงหยอกล้อ"แน่ใจนะว่าอยากกลับบ้านเพราะคิดถึงหลาน" ใบหน้าคมคายอมยิ้มอย่างรู้ทัน เมียรักเริ่มมีอารมณ์หื่นกามตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง และเขาก็ชอบด้วยที่ได้ปรนเปรอเธอทุกคืน ฝ่ามือหนาเริ่มล้วงเข้าใต้กระโปรงทรงเอสีครีม แหวกเพนตี้ตัวจิ๋วก่อนส่งนิ้วยาว ทักทายกลีบดอกไม้งาม"คะคลิน..." ดั่งอารมณ์ตอบสนองรวดเร็ว คนท้องรีบหันข้างวางใบหน้าสวยใส่ซอกคอหนา น้ำเสียงกระเซ้าเรียกสามี ทำอีกฝ่ายมีความต้องการตาม"ในห้องทำงานผมก็ค
ช่วงค่ำ_ "ขอบใจนะที่เดนยอมดูกล้องวงจรปิดคืนนั้น" น้ำเสียงหวานของคนที่ยังรู้สึกว่ามีตราบาปได้ละลายหายไป ยามอดีตคนรักได้พูดคุยดีกับเธอ พร้อมยอมรับว่าตัวเองนั่นแหละ ที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายบ้าง"เราขอโทษนะสำหรับเรื่องในอดีต ถ้ารู้ว่ามันกล้าวางยาเธอกับไอคลิน ฉันตามไปฆ่ามันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว" เอเดนพูดน้ำเสียงเบา เขายังมองเห็นเธอเป็นคนเดิม แต่ไม่ใช่ฐานะคนรัก เพราะตอนนี้เขารักเพชรพลอยจนสุดหัวใจแล้ว ถ้าตอนนั้นเขาลดทิฐิลงสักเล็กน้อย คงไม่เสียเวลาทำลายความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อนไป ป่านนี้คงหาอะไรสนุกทำร่วมกันนานแล้ว"ไปเป็นไรเลยเดน ตอนนี้เรากับคลินก็รักกันจริงๆด้วยแหละ ต้องขอบใจคืนนั้นเหมือนกัน แค่รู้ว่าเดนไม่โกรธกันก็พอแล้ว" หัวใจดวงน้อยสั่นไหวยามพูดถึงแฟนหนุ่ม เธอพยามมองหาเขาอยู่แต่ไม่รู้ทำอะไร เผื่อหันมาเจอเธอนั่งคุยกับเอเดน จะทำตัวหวงก้างเป็นเรื่องใหญ่อีก ทว่าในทางกลับกัน เขาแอบยืนยิ้มอยู่ระยะใกล้หลังต้นไม้ใหญ่ กับคำพูดของรินเซ่ที่ทำลายความสับสนของเขาลงให้กระจ่างสักที และหลังจบเรื่องคาลาสไป เขากับเอเดนจึงไร้ปัญหาแต่เพียงหยั่งเชิงไว้แกล้งกันสนุกก็พอ"ดีใจนะที่เธอกับไอคลินรักกัน" เอเดนบอกจากใ
หลายวันต่อมา_ "คุณพ่อค่อยๆเดินนะคะ ถ้าล้มขึ้นมานี่แย่เลย" รินเซ่พูดบอก ตอนช่วยประคองทศพลมานั่งหน้าทีวี มีมาคลินช่วยอยู่ข้างๆ หลังท่านออกจากโรงพยาบาลแต่ร่างกายยังต้องพักฟื้นอยู่ เพราะป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม"พ่อไม่เป็นขนาดนั้นหรอก แต่พวกเราไปเตรียมสวนไว้นะ พ่อชวนพลอยมากินบาบีคิวกับเราเย็นนี้" ผู้เป็นบิดาบอก หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ดูเหมือนว่าพี่น้องคู่นี้จะเริ่มกันดีแล้ว ส่วนรินเซ่เองก็แวะมาบ้านท่านบ่อยขึ้น จนอยากจับจองเป็นสะใภ้เต็มทน"ครับ""งั้นคุณพ่อต้องนอนพักนะคะ กว่าจะเย็นต้องง่วงแน่ๆเลย" หญิงสาวบอกอย่างเป็นห่วง เธอเป็นคนช่วยป้าแม่บ้านจัดยาให้ท่านตอนเที่ยง เลยทราบดีว่าฤทธิ์ยาต้องทำให้ง่วงนอนมาก"พ่อจะนอนพักก็ได้ ถ้าได้หนูรินมาดูแลอยู่บ้านเราตลอด คงจะดีไม่น้อยเนอะตาคลินว่าไหม?" แต่ผู้เป็นพ่อวกกลับมาทางลูกชาย ท่านรู้ว่าพูดถูกใจเขาขนาดไหน"นั่นสิครับคุณพ่อ เอาแบบจัดพิธีใหญ่ๆ ด้วยนะครับ" น้ำเสียงเข้มยิ่งพูดเสริม พอเห็นคนตัวเล็กมีสีหน้าเขินอาย เขายิ่งหมั่นเขี้ยวอยากบีบแก้มเนียนซ้ำ"พอเลยคลิน ให้คุณพ่อนอนพักก่อน ไปช่วยรินเตรียมบาบีคิวกันดีกว่านะ อ้อ...หนังสือเล่มนั้นเรายังอ่านไม่จ