ฉันนั่งดูข้อความที่นายนั่นส่งมาไม่หยุดอยู่นานก่อนจะกดเป็นโหมดเครื่องบิน แล้วหันไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อ พยายามจะไม่หันไปมองไม่สนใจเขาอีกต่อไป อยากจะทำอะไร จะเรียกสาวมานั่งตักหรือขี่คอด้วยก็เชิญเลย วันนี้ฉันจะถือว่าฉันไม่มีคู่หมั้น ส่วนพรุ่งนี้... ค่อยว่ากันอีกที
"ยัยมาย ฉันชอบนักร้องคนนี้จัง" "ฉันไปขอคอนแทคให้เอามั้ย" "จะดีหรอ" "แหมมมม ลลิล" ฉันกับยัยมินประสานเสียงใส่ยัยลลิลพร้อมกันด้วยความหมันไส้ ชั่วโมงนี้ช้าอดหมดสิทธิ์จ่ะสาว แต่เพื่อนฉันต้องได้ ว่าแล้วฉันไปจัดการดิลผู้ให้นางเลยดีกว่า พอถึงเพลงสุดท้ายของพี่นักร้องคนนี้ฉันเลยรีบเดินเบียดผู้คนไปยืนรอข้างเวทีเพื่อเริ่มแผนหาผู้ให้เพื่อนทันที แต่ฉันดันลืมหยิบมือถือมานี่หน่ะสิ จนพี่เขาเดินลงมาจากเวที ฉันก็พุ่งเข้าไปหาทันทีพร้อมกับบอกให้มองไปตรงเพื่อนฉันว่าเป็นคนไหนจะได้ตรงปกตรงใจซึ่งพอพี่เขาหันไปมองยัยลลิลเขาก็หันกลับมายื่นมือถือของเขาพร้อมเปิดไอจีให้ฉันพิมพ์ชื่อไอจียัยลลิลให้ก่อนเขาจะส่งข้อความทักไปหานาง หล่อแล้วก็ฉลาดเหมาะกับเพื่อนฉันที่สุดเลย คอมพลีทสุดสุด ฉันกำลังจะเดินกลับโต๊ะแต่เหมือนมีแรงกระชากแขนฉันจากด้านหลังจนต้องหันกลับไปมองเตรียมตัวจะฟาดแต่ดันเป็นคนที่ฉันไม่อยากเจอที่สุดตอนนี้ จะมีใครซะอีก ก็ไอ้พิทบูล นี่แหละ จิ๊ ก่อนที่เขาจะเลื่อนมือมาจับมือของฉันไว้แน่นสะบัดเท่าไหร่ก็ไม่ออก แล้วพาฉันเดินมาที่รถสีแดงของเขาตรงลานจอดรถ "ทำอะไร" "อย่า มา ยุ่ง" "กลับห้องกัน" "ต่างคนต่างกลับ แยก" "ไม่แยก ลูกหมูคุยกันดีดี" "..." "โอเค นายขอโทษคับ" "นายเข้าใจลูกหมูผิดเอง" "ส่วนผู้หญิงคนนั้นที่ลูกหมูเห็นนายก็ไม่ได้เรียกมา เขาล้มมาเอง" "ฉันไม่ได้ถาม" "แต่นายอยากบอก" ผมพยายามอธิบายอย่างใจเย็นที่สุด ทั้งที่ใจผมมันเดือดหัวผมมันร้อนตั้งแต่ที่เห็นเธอเดินไปคุยกับนักร้องร้านไอ้เตอร์แล้ว ดูเหมือนจะแลกคอนแทคกันด้วย แถมยังดื้อใส่สายเดี่ยวเดินโชว์ไปมานั่นอีก แต่ตอนนี้ผมที่มีคดียาวเป็นหางว่าวทำได้เพียงทดไว้ในใจก่อนค่อยทบต้นทบดอกทีเดียวและจะเอาให้หนักเลยคอยดู ก่อนจะมัดมือชกอุ้มเธอพาดบ่ามานั่งฝั่งคนขับโดยที่ผมตามเข้ามานั่งและยกตัวเธอที่พยายามจะปีนออกอีกทางกลับมานั่งตักแล้วล็อคไว้แน่นแต่ก็อดไม่ได้ที่จะใช้มือหนาฟาดลงไปที่ก้นกลมกลมของเธอแรงแรงหนึ่งที ใส่กางเกงซะ สั้นสั้นจนเห็นแก้มก้น มันน่านักนะ! ทันทีที่รถผมจอดสนิทเธอก็วิ่งลงจากรถผมอย่างไว ผมไม่รอช้ารีบวิ่งไปคว้าตัวเธอขึ้นมาอุ้มพาดบ่าเพราะเป็นท่าที่สามารถล็อคเธอไว้ได้แน่นที่สุด แต่เธอก็ใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบเข้าที่หลังผมไม่หยุด ความอดทนของผมหมดทันทีที่ประตูปิดลงและเป้าหมายของผมที่จะพาเธอกลับมาด้วยกันก็สำเร็จแล้ว ผมจึงพุ่งเข้าไปจูบปากเล็กเล็กที่กำลังจะอ้าปากด่าผมแต่ดันเปิดให้ผมเข้าไปตักตวงความหวานได้แทน สองมือเล็กเล็กก็พยายามหยิกตามต้นแขนแกร่งของผมจนเจ็บไปหมด จากที่จะจูบหวานหวานง้อเธอก่อน กลับทำให้อารมณ์ผมมันพลุ่งพล่านกลายเป็นร้อนแรงแทนอยู่นานเกือบสิบนาที ก่อนจะเลื่อนไปกดจมูกลงที่แก้มกลมกลมแล้วไปกระซิบที่ข้างหูขาวอมชมพู "ดีกันนะ นายขอโทษ" "กลับห้องตัวเองไปเลย" "ไม่กลับแล้ว จะนอนนี่" "ให้นายนอนด้วยนะ" "มะ..." "จุ๊บ" เรื่องอะไรผมจะปล่อยให้เธอพูดจบ พูดออกมาแต่ละคำก็คงไม่พ้นไล่ผมอยู่ดี ผมจัดการก้มลงไปปิดปากเธออีกครั้ง สองมือซุกซนของผมก็เลื่อนไปเกี่ยวสายเส้นเล็กให้หลุดออกจากไหล่มนจนเห็นก้อนภูเขาลูกโตที่มีเพียงแผ่นซิลิโคนปิดอยู่เท่านั้น ผมจะทดเป็นข้อที่สามไว้ก่อน แล้วบีบเคล้นอย่างเต็มแรงจนขึ้นรอยแดงเป็นรูปมือผม "หึ" จากนั้นจึงเลื่อนไปจัดการด้านล่างที่ชุ่มฉ่ำเป็นการลงโทษเธอข้อแรกด้วยความเร็วและแรงด้วยสองนิ้วเรียวยาวของผม "อ๊ะ เจ็บนะ" "นะ นาย มายไม่ไหว" "อื้อ อ๊า" "อยากคุยกับผู้ชายคนอื่นก่อน" จนเธอปล่อยน้ำหวานออกมาจนฉ่ำสองนิ้ว ผมจึงอุ้มเธอที่ขาอ่อนแรงมาวางลงบนโซฟาแล้วดึงสิ่งกีดขวางชิ้นเล็กชิ้นน้อยบนตัวเธอออกไปจนหมด เหลือให้เห็นเพียงผิวขาวอมชมพู ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนของผมลงไปทำโทษเธอในข้อที่สองโดยไม่ปล่อยให้เธอพัก "นะ นาย" "หืม" "มะ มันเร็วไป" "พะ พอนะ" "อ๊ะ อ๊า" "อยากดื้อเอง" "บอกให้ใส่เสื้อคลุมแต่ไม่ยอมใส่" "อื้อ" "จุ๊บ" และข้อสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เพราะหลังจากนี้ผมคงต้องง้อเธอต่ออีกหลายๆ รอบ ผมจับเธอพลิกตัวในท่านอนคว่ำแล้วดึงสะโพกขึ้นมารับไม้เรียวร้อนที่พร้อมอยู่แล้วของผมโดยไม่ให้เธอได้ทันตั้งตัว ก่อนจะขยับสะโพกเข้าไปแรงๆ จนเธอครางไม่เป็นภาษา สองมือของผมก็ทำหน้าที่ประคองก้อนนุ่มนิ่มไว้พร้อมกับขยำทำโทษเธอไปด้วย "นะ นาย" "เพี๊ยะ" "อยากไม่ใส่บราทำไม" "อื้อ" "อ๊า/อ่าา" "หึ" "ปล่อยเลย" "นายยังไม่ได้ง้อเลย" แล้วผมก็พาเธอเข้าไปง้อบนเตียงนุ่มนุ่ม ในห้องนอน ในอ่างอาบน้ำอุ่นอุ่นในห้องน้ำ และตรงตู้เสื้อผ้าก่อนใส่ชุดนอนจนเธอสลบซบลงอกแกร่งของผม ผมถึงพาเธอมานอนกอดบนเตียงสบายสบาย #นายมันร้ายหาเรื่องกินลูกหมูไม่พัก🔥 #อ่านเพลินๆ เน้นฟิลกู้ด เหมือนเดิมจ่ะ💚ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้สีขาวสวยมากและกว้างมากด้วยมีหิ่งห้อยบินเต็มไปหมดจนรู้สึกอยากจะอยู่ที่นี่ไม่อยากไปไหน จนได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันอยู่ไกลๆ พร้อมกับเสียงร้องโยเยจากเด็กน้อยเหมือนร้องเรียกหา ฉันเลยค่อยๆ เดินไปตามเสียงทีละนิดทีละนิดฉันนอนมองใบหน้าที่ดูอิดโรยคิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่นมีมือหนาของเขาจับมือบางของฉันไปแนบแก้มสากไว้ราวกับกลัวหายจนผ่านไปนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววตื่นขึ้นมา ฉันเลยใช้นิ้วเรียวเล็กที่อยู่ตรงแก้มนั้นลูบสัมผัสปลุกเขาเบาเบาแต่กลับไม่ได้ผล เลยต้องเปลี่ยนเป็นหยิกลงไปแทนทำเขาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเป็นประกายฟอด ฟอด ฟอด"ตื่นแล้วหรอ อ้วน""นายกับลูกลูกรอตั้งนาน""เจ็บมั้ย""เจ็บ""ขอโทษคับ จุ๊บ" "ลูกละ" "เดี๋ยวพยาบาลพามา""รอแป๊บนะนายไปตามหมอก่อน"เขาโผเข้ากอดและหอมฉันอยู่นานราวกับว่าคิดถึงฉันมาก ฉันก็รู้สึกคิดถึงเขามากเหมือนกันเลยปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆ ที่ก็แอบเจ็บแผลอยู่หน่อยๆ จนกระทั่งคุณหมอมาตรวจอาการฉันอย่างละเอียดและบอกให้ฉันกับลูกลูกนอนพักที่นี่อีกสี่ห้าวันให้แข็งแรงขึ้นอีกหน่อยแล้วค่อยก
"สวัสดีคับลูกหมู""ได้ยินเสียงปะป๊ามั้ย""หึ" "อยากออกมาเตะบอลกับป๊าใช่มั้ย""ปะป๊าอย่าพึ่งชวนลูกเตะบอลได้มั้ย""ลูกพากันเตะท้องมามี๊จนจุกไปหมดแล้วเนี่ย""จุ๊บ ขอโทษคับ"ตอนนี้เจ้าลูกชายของผมสองคนที่นอนอยู่ในพุงกลมกลมของเธออายุเกือบหกเดือนแล้ว ท่าทางจะแสบซนกันใช่ย่อย เพราะกว่าที่ผมจะสามารถเข้าใกล้เธอได้ก็ต้องรอเข้าเดือนที่สี่อาการเหม็นผมของเธอถึงจะเบาลงไป ผมถึงสามารถเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอได้ แถมยังพากันดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาทำเอามามี๊ตัวกลมเจ็บและจุกอยู่บ่อยๆ จนบางทีผมก็ต้องแกล้งเอ็ดดุไปนิดหน่อยถึงพากันหยุดนอนนิ่งราวกับเป็นเด็กดีเชื่อฟังปะป๊าไม่กล้าดื้อไม่กล้าซน แต่บางทีด้วยความใจร้อนของผมก็อยากให้ลูกหมูออกมาวิ่งเล่นเตะฟุตบอลกับผมซะวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย ชานมลูกสาวคนโตก็จะได้ไม่เหงามีเพื่อนเล่นเพิ่มด้วย"นาย ตั้งชื่อลูกกันมั้ย""อืมมม มายมีที่ชอบยัง""มายเลือกไม่ถูกชอบหลายชื่อมาก""หึ มีชื่ออะไรมั่ง""มี เลนส์ ฟิล์ม กล้อง แกรม โฟกัส""เพราะมายชอบถ่ายรูป มีนายเป็นตากล้องให้""งั้น...ชื่อนี้ดีมั้ย เลนส์กับฟิล์ม""นายมองมายผ่านเลนส์ ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นภาพฟิล์ม"
และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับเขา ฉันเฝ้าคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดยืนเคียงข้างเขาได้อย่างมั่นใจที่สุดในวันนี้ เราใช้เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานนานเกือบสองชั่วโมง ดีที่เจ้าบ่าวของฉันคอยยืนกอดคอฉันบ้าง นวดให้บ้าง โอบเอวประคองฉันไว้บ้างทำให้ฉันไม่เมื่อยเท่าไหร่ แถมยังมีเพื่อนน่ารักๆ อย่างสองสาวมินนี่และลลิล ที่คอยมาซับเหงื่อช่วยดูแลหน้าผมและป้อนน้ำให้ฉันอยู่ตลอด ฉันมีหน้าที่แค่ยืนแจกรอยยิ้มหวานหวานเท่านั้นหลังจากพิธีการเสร็จ เราสองคนก็ต้องรีบขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้บนห้องที่เปิดไว้ให้ทันภายในยี่สิบนาที เพราะต้องลงไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อที่งาน อยากขอบคุณตัวฉันเองและเขาด้วยที่เลือกชุดที่ใส่ง่ายใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีฉันก็อยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว มีเวลาได้นั่งพักหายใจอีกสักหน่อย แต่แล้วดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด"นาย รูดซิปให้มายหน่อยสิ""เดี๋ยวค่อยรูด""อ๊ะ อย่าแกล้งนะ""ไม่แกล้ง เอาจริง""กระโปรงสั้นสั้นมันดีแบบนี้นี่เอง""นายใส่เลยนะ เวลาน้อย""อ๊ะ อื้อ""ซี้ด" "เดี๋ยวได้ทาลิปใหม่หรอก"เพี๊ยะจากที่ผมตั้งใจจะอ
และเราสองคนก็ได้ฤกษ์วันแต่งงานหลังจากฝึกงานเสร็จหนึ่งเดือนทำให้เธอถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวลกลัวจะเตรียมงานไม่ทัน ซึ่งผมก็ทำได้แค่ปลอบใจและหาออแกไนซ์มืออาชีพมาช่วยให้เธอเบาใจขึ้นให้เธอมีหน้าที่บอกธีมงานในฝันของเธอกับทีมงานแค่นั้น โดยไม่ได้กำหนดธีมสีว่าจะต้องเป็นสีไหน เพื่อเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานจะได้ใส่ชุดและสีที่ตัวเองมั่นใจที่สุดจะได้มีความสุขและสนุกไปกับงานของเราทั้งคู่ แล้ววันนี้เราสองคนมีนัดลองชุดแต่งงานซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับชุดวันหมั้นนั่นแหละเพราะเธอชอบการตัดเย็บและดีเทลของแบรนด์นี้เลยไม่เปลี่ยนใจไปมองร้านอื่น"นายว่ามายใส่แบบไหนดี""ไม่เอาเกาะอก""เอาสิ มายว่ามายใส่เกาะอกสวย""ไม่สวย""...""แต่มายอยากลอง""...""พี่ขา หนูมายขอลองสองชุดนี้ก่อนค่ะ"ผมได้แต่นั่งไขว่ห้างกอดอกตกอยู่ในพะวังความคิดเฝ้าถามตัวเองด้วยความสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เธอจะหันมาถามความเห็นของผมทำไมเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เลือกลองชุดแบบที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แถมเป็นแบบเกาะอกไม่มีแขนทั้งสองชุดต่างกันแค่กระโปรงทรงสุ่มกับทรงเมอร์เมดก็เท่านั้น ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพนักงานในร้านก็เดินมาค่อยๆ เ
เราสองคนยืนกอดกันอยู่พักหนึ่ง ผมก็พาเธอเดินเข้าไปดูห้องน้ำที่มีอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ไว้สำหรับแช่น้ำกันสองคนและอาจจะพาลูกหมูตัวน้อยน้อยลงมาเล่นน้ำด้วย ถัดไปอีกหน่อยเป็นวอคอินโครเซทสำหรับเธอที่ชอบแต่งตัวสวยสวยซึ่งผมแบ่งที่แขวนเสื้อผ้าส่วนของเธอไว้ให้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อผ้าของผม โดยตรงกลางห้องมีตู้กระจกไว้แชร์กันสำหรับใส่เครื่องประดับอย่างสร้อยต่างหูและนาฬิกาข้อมือของเราสองคน ก่อนจะพาไปดูห้องนอนลูกลูกที่ผมทำเตรียมไว้สามห้องสำหรับสามคนเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวเราสองคนในอนาคต และที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องสุดท้ายที่มีประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ของผมกับเธอเป็นห้องของลูกสาวคนโตของเราคือห้องของชานมนั่นเอง ซึ่งภายในห้องก็มีทั้งเบาะที่นอนนุ่มนุ่ม คอนโดหลายระดับหลายชั้นไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เลือกนอนตามใจชอบ รวมถึงห้องน้ำแมวอัตโนมัติด้วย ทำเธอกระโดดกอดผมอย่างดีใจและทำท่าทางตื่นเต้นไม่หยุดเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ดูว่าขาดเหลืออะไรตรงไหนเธอจะได้ไปเดินเลือกซื้อมาเพิ่ม"มายอยากแก้ตรงไหนมั้ย""ยังมีเวลา จะได้เสร็จทันก่อนย้ายเข้ามา""มายไม่อยากแก้ เพราะนายตั้งใจเลือกและทำให้มาย""ม
"ไอ้เตอร์ ฝึกงานเสร็จมึงจะแต่งเลยป่าววะ""อืม กูอยากมีลูกเลย มึงอะ""กูก็อยากแต่งเลย แต่ไม่รู้มายจะอยากแต่งมั้ย""มีแพลนกับเค้าบ้างมั้ยมึงอะ ไอ้กาย""...""อย่าไปถามมัน ไอ้นี่มันเสือซุ่มเงียบ""..."วันนี้ผมกับเธอขับรถพาชานมลูกสาวของเรามาพบสื่อมวลชนที่คาเฟ่มินิมินนี่ ทันทีที่สองสาวเห็นเจ้าตัวกลมก็พากันเอ็นดูผลัดกันอุ้มผลัดกันเล่นอยู่ไม่ห่าง ไม่นับรวมกับลูกค้าในร้านที่ต่างมาขอถ่ายรูปลูกผมจนต้องต่อแถวคิวยาวไปถึงหน้าร้าน เรียกว่าเวลานี้ชานมกลายเป็นซุปตาร์หน้าใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ลูกสาวของผมน่ารักจริงๆ นี่นาตัวกลมกลมขนนุ่มๆ ตาโตโต แถมขี้อ้อนมากมากด้วยจะว่าไปก็เหมือนมามี๊ของเธอนั่นแหละ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่ามีลูกหมูตัวเล็กเล็กที่เกิดจากผมเอง จะขี้อ้อนแบบนี้มั้ยถ้าใช่ผมก็คงหลงลูกมากไม่อยากห่างไปไหนแน่เราสองคนอยู่นั่งคุยนั่งเล่นกับเพื่อนๆ จนเย็นก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน และวันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาค้างที่บ้านของเธอเป็นปกติไปแล้วเพราะตั้งแต่มีชานมเธอก็จะชวนผมมาที่นี่ทุกอาทิตย์จนคุณอาทั้งสองยกห้องนอนส่วนตัวให้ผมหนึ่งห้องเป็นที่เรียบร้อย และที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของผมก็มีห้องนอนส่วนตัวขอ