Share

ผาร้อยศพ

last update Dernière mise à jour: 2025-11-14 00:24:31

6

ผาร้อยศพ

ปริมรีบเข้ามาช่วยจับแขนบังคับให้ผมยืนนิ่ง ความขนลุกขนพองนี่ทำเอาผมยืนนิ่งไม่ได้เลย

“ทากดูดเลือดน่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่เอาออกให้ ปริมจับหนูจันไว้” แม้จะไม่ใช่ตัวประหลาดอะไรแต่ก็ทำผมขยะแขยงอยู่ดี ยิ่งรู้ว่ามันกำลังดูดเลือดก็ยิ่งน่าขยะแขยงไปใหญ่ ปริมจับไหล่พี่มีนก็ควักเอาสเปรย์แอลกอฮอล์ในกล่องปฐมพยาบาลมาฉีดไปที่หลังคอ ไม่นานพี่มีนก็ดึงทากตัวเป้งออกมาโชว์ซึ่งผมไม่ได้อยากเห็นเลย ขนลุกจริง ๆ

“ระวังกันด้วยน่าจะมีทากเยอะ” พี่มีนตะโกนบอกทุกคนให้ระวังรอบตัว ป่าชื้นแฉะมีสัตว์เล็กสัตว์น้อยชุกชุม ลูกทีมพากันหันมองรอบตัวระแวดระวัง

“รีบไป ข้างหน้าค่อยหาที่พัก” คีรีบอกพรานพง เขาพยักหน้ารับคำนายท่านอารักษ์ขาข้างหลัง รีบพาพวกเราเดินไปจากแอ่งน้ำให้เร็วที่สุด

“แวะพักที่นี่ ดูตัวเองก่อนว่ามีทากดูดเลือดเกาะอยู่หรือเปล่า อีกเดี๋ยวค่อยเดินทางต่อ อีกไม่ไกลก็ถึงทางลงผาร้อยศพแล้ว”

“ชื่อเป็นมงคลจริง ๆ” ผมเห็นด้วยกับปริมเลยชื่อผานี่ช่างเป็นมงคล โคตรน่าไปเที่ยวเลย หวังว่าพวกเราคงไม่ใช่ศพที่หนึ่งร้อยหนึ่งหรอกนะ

คนในคณะช่วยกันตรวจดูเพื่อนและร่างกายตนเอง ใช้แอลกอฮออล์ฉีด บ้างใช้ไฟรน บ้างใช้เกลือโรย

“ทำไมมันเยอะขนาดนี้”

“ปกติของพื้นที่ชื้นแบบนี้ จะมีทากก็ไม่แปลก ไม่แน่เราอาจจะเจอสารพัดสิงสาลาสัตว์ก็ได้” พี่มีนตอบปริมพร้อมกับทำแผลบนตัวผม เท่าที่ใช้สายตาดูผมถูกตัวทากดูดเลือดนี่ขอบริจาคเลือดเยอะสุดแล้วล่ะ

“ทำไมผมถึงโดนเยอะสุดล่ะครับ”

“คงเพราะเสื้อผ้าเราสีสดที่สุด เด่นที่สุดล่ะมั้ง” น้ำเสียงหยอกล้อของพี่มีนทำผมมุ่ยปากใส่ ก็ตอนนี้ไอ้ชุดนี้มันสีไม่สดแล้วน่ะสิ ดำปี๋เป็นน้ำโคลนหมดแล้ว

คนอื่นหลังจากจัดการทากดูดเลือดเสร็จก็เตรียมพร้อมที่จะเดินทางต่อ อยู่ ๆ สมองผมก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาเลยหันซ้ายหันขวามองหานายท่านอารักษ์ขา ปรากฎว่าเขายืนพิงต้นไม้อยู่เหมือนจะไม่โดนทากดูดเลือดเลยสักตัว คิดดูเถอะ...แปลกประหลาดจนแม้แต่ทากก็ไม่กล้าเกาะ

เดินมาอีกหน่อยเป็นลานดินมีหญ้าต้นเล็ก ๆ ไม่มีต้นไม้สูงเกินสามเมตรเลยสักต้น ที่นี่น่าจะเป็นจุดพักอย่างที่พรานพงบอกก่อนหน้านี้ ห่างออกไปเป็นไม่ไกลเป็นเนินหินตะกอนคงเป็นผาร้อยศพ

“คืนนี้พักที่นี่ พรุ่งนี้ค่อยลงผา”

“ผานี่สูงแค่ไหนพราน”

“จากที่ข้าฟังพ่อมาก็คงเกือบจะสี่สิบเมตร”

“ไม่แปลกใจเลยทำไมได้ชื่อว่าผาร้อยศพ คงมีคนตกลงไปไม่น้อยเลยน่ะสิ” ผมถามพรานนำทางพลางใช้แขนเสื้อซับเหงื่อตนเองเบา ๆ แค่รู้ว่าสูงกี่เมตรก็หอบรอแล้ว ฝนก็ทำท่าจะตกอย่างไรซะก็ลงผาวันนี้ไม่ได้

“โอเค ทุกคนคืนนี้พักที่นี่แหละ พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อ” ทีมของพี่เก็ตช่วยกันแบกลังสัมภาระไปหาที่เหมาะ ๆ กางเตนท์หลังใหญ่ ซึ่งก็คือของผมเอง ทีมสองซึ่งมีพี่เดี่ยวเป็นหัวหน้าแยกกันไปสำรวจรอบบริเวณที่พักเพื่อความปลอดภัย ทั้งคณะมีเตนท์เดียวก็คือของผม ส่วนคนอื่นใช้ถุงนอนเพราะพกพาได้สะดวกกว่า

แต่ลุงเฉินไม่อยากให้ผมลำบากเลยให้คนแบกเตนท์มาให้ผมได้พัก อีกไม่กี่วันจะถึงวันที่สิบห้าวันนั้นของเดือนสำหรับผม

ก่อนจะมุดเข้าเตนท์ในเวลาทุ่มครึ่งผมเห็นคนอื่น ๆ นั่งล้อมอยู่ตรงกองไฟ ทีมสองแยกกันไปนอนเฝ้ารอบแคมป์ พรานพงนั่งคุยอยู่กับพี่มีน ภัทร ส่วนอารักษ์ขานั่งอยู่ตรงเนินหินใกล้หน้าผาเหมือนกำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์ แต่บางครั้งก็เหมือนเฝ้ารออะไรบางอย่างอยู่

ยิ่งเขาทำตัวลึกลับผมยิ่งอยากรู้เพราะผมคือคนไทย...

กลางดึกในวันเดียวกัน จะบอกว่าดึกก็ไม่ถูกนักเพราะตอนนี้เข็มสั้นของนาฬิกาข้อมือชี้ไปที่เลขหนึ่ง เข็มยาวชี้เลขเดียวกัน ตีหนึ่งห้านาทีผมถูกคนเรียกจากนอกเตนท์ พี่มีนลุกขึ้นสะกิดเรียกผมกับปริม โผล่หน้าออกจากเตนท์แค่แวบเดียวเธอก็เข้ามา

“คีรีมา”

ผมมุดออกจากเตนท์ งัวเงียมึนเมากับความเพลีย ไม่ลืมตามองคนตรงหน้า อ้าปากถามทั้งที่ตายังไม่เปิด

“มีอะไรหรอครับ”

“ลงผากันได้แล้ว”

“ตะ...ตอนนี้น่ะเหรอ ยังมืดอยู่เลย”

“ตอนนี้แหละ ถ้ารอเช้าเราจะลงไปไม่ได้ต้องรอไปอีกวัน”

“ทำไมล่ะ”

“รอลงไปถึงพรุ่งนี้เช้าคอยดูจะรู้เอง รีบบอกให้คนของคุณเตรียมตัวเถอะ” คีรีพูดแค่นั้นก็เดินออกไปเลย ใช่สิเขามีหน้าที่สั่ง ๆ แล้วก็ไป ช่วยไม่ได้จ้างมาแล้ว ไม่ถูกสิ เขาไม่ได้เงินนี่นา เดินกลับไปบอกพี่มีนกับปริมในเตนท์ ไม่ถึงยี่สิบนาทีของก็ถูกเก็บพร้อมออกเดินทาง

ทีมพี่เก็ตช่วยกันมัดเชือกตรงต้นไม้ใกล้เนินหินสามเส้น จะได้ไต่ลงไปทีละหลายคน คีรียืนมองอยู่ตรงเนินหิน ท้องฟ้ามืดสนิททำให้บริเวณรอบ ๆ เองก็มืดไปด้วย ยิ่งล่างหน้าผายิ่งมองไม่เห็นอะไรเลย บ่งบอกว่าผานี้สูงมากจนมองไม่เห็นก้นเหว

จนตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเราต้องรีบลงไปข้างล่างตอนที่ฟ้ายังไม่สว่างแบบนี้ คีรีมีเหตุผลอะไรกันแน่ ถ้าคิดจะลงตอนดึกแบบนี้ควรจะบอกเราตั้งแต่หัวค่ำสิ

“ผมจะลงไปก่อน ถ้าถึงแล้วจะส่งสัญญาณให้ พวกคุณค่อยตามลงไป”

“นายท่านให้ผมลงไปด้วยเถอะ” ภัทรรีบเสนอตัวขณะที่ทุกคนยืนฟังคำสั่งเขาอย่างเคร่งครัด รู้สึกเหมือนกำลังถูกฝึกทหารเลยแฮะ

“งั้นข้าจะลงไปพร้อมกันนายท่าน จะได้คอยช่วยกันข้างล่าง” พรานพงพูดจบก็แบกปืนสะพายหลังเดินไปยืนข้าง ๆ คีรีพยักหน้าให้แล้วไต่เชือกลงไปแบบไม่มีเครื่องป้องกันอะไร พรานพงยังมีตะขอเกี่ยวเชือกรัดตัวไว้เผื่อพลาด หวังว่าเขาจะไม่ตกผาตายหรอกนะ ไต่ผาไม่เซฟตนเองแบบนี้ พวกเราได้แต่ยืนมองลุ้นระทึก

เกือบสิบนาทีต่อมาก็มีแสงจากปีนส่งสัญญาณยิงขึ้นมาจากก้นผา ดูท่าว่าก้นผาจะไม่ได้ลึกอย่างที่ควรเพราะคีรีใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ ทุกคนกระชับเป้บนหลังเตรียมตัวลงผา

“หนูจันรอลงทีหลังพี่ พี่จะลงไปก่อน เราค่อยตามลงไป ปริมอยู่กับหนูจันก่อนคอยดูด้วย” พี่มีนหันมาบอกผมตอนกำลังใช้ตะขอเกี่ยวเชือกด้านบนเอาไว้ ไต่ลงไปด้วยความเร็วไม่มาก พี่มีนนี่แตกฉานทุกด้านจริง ๆ ทั้งที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่แข็งแรงกว่าผมที่เป็นผู้ชายซะอีก

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง

    36ขอบคุณสำหรับทุกอย่างผม พี่ภัทร พี่มีน ช่วยกันพยุงคีรีขึ้นมานั่งบนฝั่ง พี่มีนก่อกองไฟให้เราพิงไฟเพราะเสื้อผ้าเปียก กลางคืนในป่าอากาศค่อนข้างเย็น ใจผมอยากลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาและตนเองแต่คีรีไม่ยอมปล่อยมือครึ่งค่อนคืนเรานั่งอยู่แบบนี้ตั้งแต่ตัวเปียกชื้น จนตอนนี้เกือบแห้งหมดแล้ว คีรีเหมือนจะหลับไปแล้ว คีรีที่ไม่เคยหลับใหลและเหน็ดเหนื่อย เวลานี้ใบหน้าซีดเผือดเรียกไม่หือไม่อือใด ๆ ทั้งนั้น สภาพเขาแย่อย่างที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมาก่อน แต่มือยังคงมีแรงมหาศาลแกะอย่างไรก็ไม่ยอมหลุด“คีรี ปล่อยมือได้แล้ว ผมไม่เป็นไรแล้ว” ผมกระซิบบอกเขาเสียงเบา มือที่จับกันแน่นถึงค่อย ๆ คลายออก ผมรีบตะโกนเรียกพี่ภัทร เขานั่งห่างออกไปเล็กน้อย พี่มีนกับพี่ภัทรรีบวิ่งมาหาทันที“ผมต้องทำยังไงต่อ” พี่ภัทรยื่นผ้าก็อซปิดแผลสีขาวให้ ผมรับมาใช้มันพันแผลอีกครึ่งที่ไม่ได้ถูกปิดไว้ พอปิดครึ่งล

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   คุณจะกลับไปอย่างปลอดภัย

    35คุณจะกลับไปอย่างปลอดภัย“คุณจะได้กลับไปอย่างปลอดภัย” น้ำเสียงจริงจังหนักแน่นของคีรีทำผมหลุดจากภวังค์ พอผมเงยหน้ามองเขาก็ยิ้มให้เป็นรอยยิ้มจริง ๆ ไม่ใช่แค่เพียงการยิ้มมุมปากเหมือนทุกที รอบข้างไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าเรื่องเล่าจากคีรี ผมเลยไม่ได้หลุดโฟกัสไปไหนเลย“จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง คีรีบอกเองว่าผู้ช่วงชิงตราต้องชดใช้ความผิด ทายาทจึงจะหลุดพ้นจากคำสาป แต่ตอนนี้เจ้าของตรานี้คือผม”“เพราะมีผมอยู่ ณจันจะไม่เป็นไร เชื่อใจผมแล้วอย่าคิดมาก”“คีรีรู้หรือเปล่าว่าคำสาปที่ว่านั่นคืออะไร” ผมพยักหน้าให้แล้วถามเรื่องอื่นต่อไป ไม่กล้ามองหน้าเขาที่พูดประโยคเมื่อครู่นาน ๆ คีรีส่ายหน้านั่นทำผมหมดคำถามจะถามต่อ ประจวบกับพี่มีนกลับมาพอดี ผมกับคีรีจึงเลิกพูดคุยเรื่องนี้กันไป เปลี่ยนมาสนใจไก่ย่างสองตัวเหนือกองไฟแทน“อะแบ่ง ๆ กันไปนะ กินเนื้อบ้างจะได้มีแรง” พี่มีนว

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   คำสาปผู้ช่วงชิงตรา

    34คำสาปผู้ช่วงชิงตราผมดวงไม่ดีหรือไง ทำไมขอพรทีไรได้ตรงข้ามกันทุกทีเลย คีรีเดินกลับมาที่แคมป์ในมือถือไก่ป่าสองตัว พี่มีนหันมายิ้มให้ผมจากนั้นลุกเดินไปหาคีรี“ฉันทำอาหารให้” คีรียื่นไก่ป่าสองตัวนั้นให้พี่มีน แล้วเดินมายืนตรงหน้า ผมนึกว่าเขาจะถามเรื่องที่คุยกับพี่มีนเมื่อครู่แต่เปล่าเลย เขาแค่ถามผมว่า “จะไปอาบน้ำหรอ” ผมถอนหายใจพรืดพยักหน้าให้เขา ถือกระเป๋าเป้ที่จัดของเสร็จ ลุกยืนประจันหน้ากับเขา“ลำธารอยู่ทางไหนหรอ” น้ำเสียงผมคงไม่ค่อยเป็นมิตร ค่อนข้างหมั่นไส้ที่เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แต่ก็ช่างเถอะมันไม่ใช่เวลาจะมาคุยเรื่องนี้ พอคีรีชี้ทางให้ผมก็เดินออกไปตามลำพัง ถึงจะเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เวลามาคุยเรื่องนี้ผมก็ยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่ดี ไม่รู้คาดหวังอะไรอยู่กันแน่เดินมาเกือบแปดนาทีก็พบลำธารที่คีรีบอก ลำธารกว้างราวสองเมตร ในน้ำมีทั้งปลาทั้งหอย ป่าบนเขานี่ดูอุดมสมบูรณ์ดีเสีย

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   ปีนผา

    33ปีนผาพรานพงปีนขึ้นไปเป็นคนแรก ผม ปริม พี่มีน ภัทร ไต่เชือกตามไปอยู่ตามชะง่อนหินที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก เกือบครึ่งชั่วโมงภัทรกับพี่มีนถึงปีนขึ้นมาอยู่ชะง่อนกลางเขาได้ ผมกับปริมใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าจะชะง่อนสูงเกือบถึงยอดเขาพี่เก็ตได้พี่โทนแบกขึ้นมาพี่มีนกับภัทรช่วยกันดึงเชือกให้ทั้งสองคนค่อย ๆ สูงขึ้น พอขึ้นมาถึงชะง่อนผาแรกต่อมาก็เป็นหน้าที่ผมกับปริมดึงต่อ ส่วนพี่มีนกับภัทรก็ดึงคู่ต่อไปขึ้นมา ตลอดชั่วโมงกว่า ๆ ไม่มีอะไรผิดพลาดเราดึงพวกเขาขึ้นมาได้สองคู่แล้วคู่สุดท้ายพี่เดี่ยวหัวหน้าทีมสองเป็นคนแบกลูกน้องขึ้นมา พี่เดี่ยวเป็นผู้ชายตัวสูงใหญ่บึกบึนไม่น่าห่วงเรื่องกำลังวังชาเลย แต่คนที่มีปัญหาคงจะเป็นภัทรกับพี่มีนที่ดึงขึ้นมาสองคู่แล้วขณะกำลังดึงเชือกจึงเผลอทำเชือกหลุดมือรูดลงจนทั้งสองคนบนเชือกเกือบหล่นลงไปข้างล่าง คีรีที่อยู่บนพื้นกระโดดทีเดียวก็ขึ้นไปยืนอย

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   คนป่วย

    32คนป่วยเช้ามืดวันต่อมาคีรีอธิบายกับทุกคนว่าจะไปอย่างไรกันต่อ ทีแรกเราค่อนข้างกังวลเพราะต้องปีนผาสูง ไหนจะมีคนป่วยอีกสามคนที่ดูซึมมากขึ้น แต่คีรีบอกว่าตนเองจะปีนล่วงหน้าขึ้นไปก่อน แล้วค่อยหาที่ผูกเชือกหย่อนลงมาให้เราปีนตาม ถึงได้เบาใจขึ้นมาพี่มีนบอกให้คนป่วยพักอีกครึ่งวันไม่งั้นอาจไม่มีแรงปีน ฉะนั้นตอนนี้พวกเราเลยยังอยู่ใต้ชะง่อนผา เหนือหัวมีคีรีกำลังปีนภูเขาหินเพียงลำพัง ผมนั่งชะเง้อมองขึ้นไปแทบทุกห้านาที เขาไม่ได้ปีนนั่นเรียกว่ากระโดดเกาะจะดีกว่า กระโดดทีหนึ่งเกือบสองช่วงตัวของตนเองคนอื่นไม่ได้สังเกตเขาเท่าไรหรือเขาอาจไม่สนแล้วถึงได้ปีนผาแบบไม่สนใจใคร ไม่ถึงยี่สิบนาทีเขาก็ปีนถึงยอดภูเขาหิน ผมคิดว่าตอนนี้คีรีคงหาที่ผูกเชือกอยู่ เชือกยาวประมาณหนึ่งร้อยเก้าสิบเมตร ไม่รู้ว่ามันจะยาวพอดีหรือเปล่า“โอ๊ยเจ็บ” ระหว่างที่กำลังคิดอยู่ก็มีเสียงร้องโอดโอยดังมาจากหนึ่งในลู

  • รักต้องมนตร์ คนต้องสาป   ลานหินร่วง

    31ลานหินร่วงพักอยู่สิบนาทีก็เดินต่อ คีรีบอกเสียงเข้มไม่ว่ายังไงเราก็ต้องเดินผ่านลานหินกว้างนี้ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน ผมไม่ได้ถามว่าทำไมแต่ถ้าเขาบอกมาแบบนี้แปลว่ามันอันตรายลานดินแบบนี้เดินง่ายกว่าเส้นทางในป่าเยอะเลย อาจเพราะยังสว่างอยู่ทำให้เราสามารถเดินหลบเศษหินแกรนิตก้อนเล็กก้อนใหญ่ได้สบาย ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงหน่อย ๆ เราก็เดินมาถึงกลางเส้นทางแล้ว ฟ้ายังดูครึ้มอยู่เลยไม่แน่ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าฝนอาจตกลงมา เราจึงรีบเดินเพื่อให้ถึงภูเขาหินข้างหน้าก่อนค่ำ“มีบางอย่างกำลังมา” คีรีหยุดฝีเท้าหันมาบอกพวกเราเสียงแผ่ว พอคีรีว่าจบก้อนเมฆก้อนใหญ่ก็เคลื่อนไปบดบังแสงดวงอาทิตย์ พวกเราไม่มีใครได้ยินอะไรสักคนเลยพากันจ้องใบหน้าของอารักษ์ขาประจำทีม เขาหยุดนิ่งเงี่ยหูฟังบางอย่าง เห็นเขานิ่งแบบนั้นผมก็เลยไม่กล้าขยับตัวตามไปด้วย“ฝนจะตกอีกแล้ว” หนึ่งในลูกทีมของพี่เดี่ยว ถ้าจำไม่ผิดน

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status