LOGIN“ข้าเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ท่านอ๋องแล้วขอรับ ตอนนี้รอเพียงให้ท่านอ๋องฟื้นก็ไม่น่าจะมีอันตรายแล้วขอรับคุณหนู”
“แล้วเขาจะมีไข้อีกหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่แล้วขอรับ ช่วงนี้ให้พระองค์นอนพักไปก่อนเพื่อให้ยาเข้าไปสมานแผลภายใน น่าจะอีกราวๆ วันหรือสองวันคงฟื้นขอรับ”
“ขอบคุณท่านหมอมาก ท่านทิ้งยาเอาไว้ก็ได้เจ้าค่ะ ข้าจะเป็นคนเปลี่ยนยากับผ้าพันแผลให้เขาเอง สองวันนี้รบกวนท่านมากเลยแทบจะไม่ได้พักผ่อน”
“ไม่เป็นไรขอรับคุณหนูอย่าได้เกรงใจข้า หากไม่ได้คุณหนูช่วยข้าไว้ ข้ากับครอบครัวคงตายไปแล้ว”
“อย่าพูดเช่นนั้นเจ้าค่ะท่านหมอ อย่าได้คิดมากอีกเลย เรื่องในอดีตข้าลืมไปหมดแล้ว”
“ขอรับ ถ้าเช่นนั้น ข้าจะเอายาวางให้ท่าน ยาต้องเปลี่ยนวันละสองรอบ เช้าเย็น และพันแผลจนกว่าแผลจะแห้ง”
“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ"
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”
ท่านหมอเดินออกไปแล้ว ถิงถิงจึงเดินมาเพื่อเช็ดตัวให้กับท่านอ๋องที่บัดนี้เริ่มมีเหงื่อออกเพิ่มเพราะอาการเจ็บปวดจากยาทาแผล
เมื่อเช็ดตัวให้เขาเสร็จแล้ว นางจึงดึงผ้าห่มมาห่มให้เขาพร้อมกับมองใบหน้าที่บัดนี้หลับสนิทอยู่ตรงหน้านาง เขาดูเปลี่ยนไปจากเมื่อสิบปีที่แล้วมาก
“หายเร็วๆ นะพี่หยางหยาง”
ถิงถิงเดินออกไปพร้อมกับนำอ่างเช็ดตัวออกมาด้วย นางแทบจะไม่ได้พักผ่อนเต็มที่เลยตั้งแต่เขาบาดเจ็บ เวลาผ่านไปเข้าวันที่สามแล้วกว่าท่านอ๋องจะฟื้นขึ้นมา
ลี่หยางกะพริบตาถี่ๆ มองที่เพดานที่ไม่คุ้นเคย กลิ่นหอมของจวนนี้ทำให้เขารู้สึกสบายจนไม่อยากลุกขึ้นมา เขามองไปรอบๆ ห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ก็สะอาด อีกข้างคือโต๊ะที่ตั้งอ่างสีทองและมีผ้าขาวพาดเอาไว้ คงเอาไว้เช็ดตัวให้เขา
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ แต่ดูจากสภาพแวดล้อมและกลิ่น เขาก็เริ่มจะเดาออก
“อย่าพึ่งรีบลุกเพคะ แผลท่านยังปิดไม่สนิท”
เสียงนั้นทำให้เขารีบหันไปมองจนเขารู้สึกปวดหัวเพราะพึ่งลุกขึ้นมาจึงปรับตัวไม่ทัน นางรีบเอาอ่างน้ำอันใหม่มาวางและรีบวิ่งเข้ามาพยุงเขาให้พิงหมอนที่เตียง แต่เขากลับโน้มเข้าไปหาตัวนางอย่างจงใจ กลิ่นกายของนางทำให้เขารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น
“ท่านอ๋องเพคะ ท่านอ๋อง หม่อมฉันจะพยุงพระองค์นั่งนะเพคะ”
เขาพยักหน้าเบาๆ อย่างนึกเสียดายที่ต้องผละออกไป แต่เสียงหัวใจที่เต้นรัวที่เขาได้ยินไม่โกหกแน่ นางกำลังตื่นเต้น
เมื่อเขานั่งพิงหมอนที่นางจัดให้ ใบหน้ารูปหัวใจของนางก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ ตากลมโตที่มองมาที่เขา ปากอิ่มรูปกระจับที่กำลังถามอาการของเขาอยู่ เสียงนุ่มๆ นั้นทำเอาใจเขาลอยจนอยากจับนางมาจูบเสียตอนนี้เลยจริงๆ
“พระองค์ทำเพียงส่ายหน้ากับพยักหน้านะเพคะ ยังปวดหัวอยู่หรือไม่เพคะ”
เขาพยักหน้าเล็กน้อย
“ยังรู้สึกเวียนหัวหรือไม่เพคะ”
เขาส่ายหน้า
“ยังรู้สึกเจ็บแผลที่หน้าอกอยู่หรือไม่เพคะ”
“เจ็บ…..ข้า…หิวน้ำ”
นางหยิบน้ำให้เขาค่อยๆ จิบ สายตาเขามองไปที่หน้านาง เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเมื่อนางเข้ามาใกล้ อาการนี้จะเป็นอาการใกล้เคียงของการบาดเจ็บหรือไม่ เหตุใดหัวใจถึงเต้นไม่เป็นจังหวะได้ถึงเพียงนี้
“ในเมื่อพระองค์ตื่นแล้ว หม่อมฉันจะเช็ดตัวและเปลี่ยนผ้าพันแผลให้นะเพคะ”
“รบกวนเจ้าแล้ว”
ถิงถิงเริ่มเช็ดตัวให้เขา ตอนหลับ ก็คงจะเป็นนางที่ดูแลเขาสินะ เขาลอบยิ้มเมื่อเห็นว่านางกำลังเช็ดตัวให้เขาอยู่อย่างระมัดระวัง เขาแอบมองนางตลอดเวลาที่นางเผลอจนนางเช็ดตัวจนเสร็จ
“หม่อมฉันจะเปลี่ยนผ้าพันแผลให้นะเพคะ”
“เจ้าไม่กลัวหรือ”
“หม่อมฉันเปลี่ยนให้พระองค์ตลอดสามวันมานี้ ไม่กลัวแล้วเพคะ ต้องดูอาการเพื่อจะได้แจ้งท่านหมอได้ถูกด้วย”
“อ้อ รบกวนเถ้าแก่ฟางแล้ว”
นางไม่ตอบ เพียงแต่เดินเข้ามาเพื่อแกะผ้าพันแผลเก่าออกและทำความสะอาดแผลและเริ่มใส่ยา ท่านอ๋องขมวดคิ้วและส่งเสียงเล็กน้อยเพราะความเจ็บ
“พระองค์เจ็บหรือเพคะ หม่อมฉันจะเบามือลง”
“ดูเหมือนว่าข้าจะเป็นหนี้ชีวิตเจ้า”
“พระองค์อย่าได้คิดเช่นนั้นเลยเพคะ หม่อมฉันทำเพราะทนเห็นคนตายต่อหน้าไม่ได้เท่านั้น”
คำพูดนั้นทำเอาจิตใจเขาห่อเหี่ยวลงเล็กน้อย แต่เขาก็ยังจะพูดคุยกับนางต่อ
“ดูเหมือนว่าข้าติดค้างคำขอโทษเจ้าอยู่ เรื่องที่ปรามาสสินค้าของเจ้า ข้าทดลองใช้แล้ว สบู่โสมโบตั๋นนั่น ยอดเยี่ยมมากจริงๆ”
รอยยิ้มแรกส่งมาให้เขา ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง ช่างเป็นรอยยิ้มที่งดงามยิ่งนักแม้ว่านางจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เขานึกอยากจะเห็นมันอีกครั้ง
“ข้าตั้งใจจะมาขอโทษเจ้าที่ร้าน แต่กลับถูกลอบทำร้ายเสียก่อน ก็เลย..”
“ไม่จำเป็นหรอกเพคะ เพียงแค่ท่านอ๋องทรงโปรดสินค้าในร้าน หม่อมฉันก็ดีใจมากแล้วเพคะ ว่าแต่ หม่อมฉันยังไม่ได้แจ้งที่จวนอ๋องว่าพระองค์อยู่ที่นี่ หม่อมฉันเกรงว่าที่ร้านจะไม่ปลอดภัย จึงรอให้พระองค์ฟื้นก่อนเพคะ”
“อย่าพึ่งแจ้งนะ ข้า…”
(เพียงอยากอยู่กับเจ้าให้นานกว่านี้อีกนิด ยังไม่อยากกลับจวนอ๋อง)
“พระองค์ตรัสอะไรนะเพคะ”
“อย่าพึ่งเลย ข้าขอรบกวนพักที่นี่ไปสักพักได้หรือไม่ หากข้ายังไม่แข็งแรงแล้วเดินออกไปจากร้านของเจ้า เกรงว่าร้านเจ้าจะไม่ปลอดภัย”
“แต่ว่าหลายวันมานี้ องครักษ์ของพระองค์ เที่ยวตามหาพระองค์ทั่วเมืองหย่งโจวเลยนะเพคะ”
“ไม่ต้องห่วง ข้ามีวิธีติดต่อพวกเขา”
“แต่หากพระองค์อยู่ที่นี่ แล้วพวกมันสืบรู้ แล้วตามมาฆ่าพระองค์อีก นั่นมันจะไม่อันตรายมากกว่าอยู่จวนอ๋องอีกหรือเพคะ”
“ที่นี่เป็นร้านขายสบู่และเครื่องประทินโฉม ของสตรี เจ้าว่าใครจะคิดว่าข้าที่เป็นท่านอ๋อง จะหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่”
“นั่นก็จริงเพคะ แต่ว่า ที่นี่มิได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนที่จวนอ๋องนะเพคะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้ากินง่ายอยู่ง่าย ไม่เรื่องมาก อย่าได้เรียกข้าว่าท่านอ๋องก็พอ”
“ไม่ได้เพคะ เรื่องนั้น…”
“ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะคนธรรมดา เรียกข้าว่าลี่หยางก็พอ เช่นนี้จึงจะปลอดภัย”
“พันแผลนะเพคะ”
“เจ้าก็ต้องใช้คำพูดธรรมดากับข้าด้วย เริ่มเสียเดี๋ยวนี้เลย”
“เพ…เจ้าค่ะ พี่ลี่หยาง ข้าจะพันแผลให้ท่าน”
ท่านอ๋องยิ้มให้นาง ทำเอาถิงถิงหน้าแดงและต้องรีบหลบสายตานั้นทันทีและเริ่มพันแผลให้เขา นางต้องโน้มตัวเพื่อจะได้พันแผลให้เขาได้รอบ เขาเผลอสูดกลิ่นกายนางเขาเต็มปอด เขาหลับตาอย่างใจลอยพร้อมกับยกมือขึ้นมาหมายจะจับเรือนนุ่มผมนางแต่นางพันแผลเสร็จก่อนที่เขาจะได้ทำสิ่งนั้น
“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะยกข้าวมาให้ ท่านต้องกินอาหารอ่อนๆ ก่อน”
“ได้สิ แล้วจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอะไรหรือแม่นางฟาง”
“ข้าชื่อฟางถิงถิง ท่านเรียกข้าว่าถิงถิงก็ได้เจ้าค่ะ"
“ถิงถิง ชื่อเพราะมาก”
“ข้าไปเอาโจ๊กมาให้ท่านก่อน”
ถิงถิงรีบเดินออกไป นางรีบหลบหน้าเขาหน้านางตอนนี้ร้อนผ่าวเพราะคำพูดของเขา ใจนางเต้นแรงแทบจะไม่เป็นจังหวะ นี่มันผิดปกติมากเกินไปแล้ว เรื่องผ่านมาสิบปีแล้ว นางก็ยังไม่ลืมเขา
วังบูรพา“เร็วๆ เข้า เอาน้ำมา เตรียมผ้ามาอีก เร็วๆ เข้า”“แม่นม ออกหรือยัง” “ยังเพคะองค์รัชทายาท”“ข้าเข้าไปดูได้หรือไม่”“ไม่ได้ๆๆๆ เพคะ พระองค์รออยู่ตรงนี้เพคะ”“แต่ถิงถิงร้องหาข้า ท่านได้ยินหรือไม่ ให้ข้าเข้าไปเถอะ”“ไม่ได้เพคะ”“อ๊าาาาา ลี่หยาง อึ๊ยยยย”“เบ่งเพคะพระชายา เบ่ง หนึ่ง สอง สาม อึ๊ยยยยย”“อึ๊ยยย ลี่หยาง ท่านพี่ อ๊าาาาา”“ออกหรือยังเล่า ปัดโธ่!!”“เดี๋ยวๆ อย่าเข้าไปนะลี่หยาง เจ้าจะบ้าหรือ สตรีทำคลอดอยู่”“แต่เสียงถิงถิงเรียกข้าอยู่ เจ้าไม่ได้ยินหรือ นางเจ็บอยู่ ข้าจะเข้าไป ปล่อยข้านะ”“ไม่!! อย่าไป มารอตรงนี้ เจ้าเข้าไปก็ช่วยนางไม่ได้ รออยู่นี่”“ฟ่านหยวนผิง ปล่อยข้านะ ถิงถิง!!”“อ๊าาาาา ท่านพี่ อื้ออออ”“เบ่งอีกทีเพคะ”“กรีี๊ดดดดดด”“ปล่อยข้านะ ปล่อยยย!!!” ลี่หยางวิ่งเข้าไปที่ห้องคลอด เสียงตกใจของคนในนั้นทำเอาทุกคนทำตัวไม่ถูก ถิงถิงเองก็หลับตาอยู่ แต่ภาพที่เขาเห็นนั้นทำเอาสติของลี่หยางหลุดลอย จนแม่นมดันตัวเขาออกไป“เป่าอี้ รีบเอาตัวองค์รัชทายาทออกไปเร็วเข้า ใครปล่อยให้พระองค์เข้ามา”“ข้าบอกเจ้าแล้ว มานั่งตรงนี้” ลี่หยางกำลังตกใจกับสิ่งที่เขาได้เห็นเ
สายตาดุที่ส่งมาที่หมิงลี่หยางทำเอาเขาเกรงว่าคืนนี้จะได้นอนนอกห้องเลยไม่กล้าโกหก จึงได้เริ่มเล่าเรื่อง ที่จริงเว่ยจีไม่ควรพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเลย เขาเองก็ไม่นึกอยากให้ถิงถิงโกรธเท่าใดนัก“ข้าสืบรู้มาว่าหงลี่กบดานอยู่ใกล้ๆ จวนน่าสงสัยก็มีอยู่หลายที่ แต่ที่ติดตามดู ที่จวนคหบดีน่าสงสัยที่สุด ก็เลยเลือกที่จะไปที่นั่น”“ท่านออกงานกับเว่ยจีตอนนั้น ท่านเริ่มสงสัยหรือยัง”“ที่จริงข้าหลอกใช้นางเพื่อให้พวกเขาโจมตี ข้านึกแปลกใจแต่แรกแล้วที่เขาไม่โจมตีเว่ยจีกับจวนนั้น ข้าเลยรู้ทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติ”“ท่านรู้ตอนไหนว่าตงหลางคือเจ้าสำนักหงลี่”“หลังจากงานเทศกาลฤดูร้อน”“ท่านรู้แต่ไม่บอกข้างั้นหรือ”“ข้าไม่มีเวลาบอกเจ้าต่างหาก ข้ารู้ระหว่างทางกลับไปเมืองหลวง เลยส่งคนไปเฝ้าร้านเจ้าเอาไว้ และรู้ข่าวว่าพวกหงลี่ก็ไปที่ม่านโจวแล้ว ข้าเลยเบาใจ เพียงแค่ตอนนั้นไม่เข้าใจว่าเหตุใดพวกมันต้องไปม่านโจว ที่แท้ก็เพราะเจ้านี่เอง” ถิงถิงหันกลับมาและเริ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะเรื่องนี้นางก็ผิดที่ไม่ได้บอกเขาว่านางเป็นท่านหญิงของม่านโจว“นั่นแสดงว่าพวกมันตามข้าไปที่ม่านโจวสินะเจ้าคะ”“ใช่ ข้าก็เลยหมดห่วง แต
หย่งโจว / ร้านร้อยบุปผา“เร็วๆ เข้าเร็วๆ เอาผ้าแดงมาเพิ่มอีก ไม่ทันแล้วเร็วๆ ตรงนั้นล้างเสร็จหรือยัง มาช่วยตรงนี้ก่อน”“อาหลาน ผลไม้นี่เอาไว้ตรงไหน”“วางไว้ที่โต๊ะกลางด้านในเลย”“ป้าลี่ๆ ไปรับชุดที พวกนางมาแล้วเร็วๆ”“ได้ๆ ไปเดี๋ยวนี้ อาเถาเอ๊ย มาช่วยยกเครื่องประดับเจ้าสาวหน่อยเร็ว”“เจ้าค่ะๆ”“อาหลาน เจ้าจัดการไปถึงไหนแล้ว”“ฮูหยิน นายท่าน เกือบแล้วเจ้าค่ะ พวกท่านจะไปที่ใดกันเจ้าคะ”“ข้าจะไปจวนท่านเจ้าเมือง อาหลาน ที่เหลือฝากเจ้าดูด้วยนะ”“รับทราบเจ้าค่ะ เชิญฮูหยินกับนายท่านเลยเจ้าค่ะ” ถิงถิงและลี่หยางเดินขึ้นรถม้าพร้อมกับตะกร้าที่ใส่ผลไม้ชุดหนึ่งเอาไว้ รถม้าเคลื่อนตัวออกจากหน้าร้านร้อยบุปผามุ่งตรงไปที่จวนเจ้าเมือง พวกเขากลับมาที่หย่งโจวหลังพระราชพิธีมงคลสมรสที่เมืองหลวง และมาที่นี่ได้เกือบสองเดือนแล้ว วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งร้อยวันของหลินเยว่ซินหลังจากที่หมิงลี่หยางแจ้งข่าวให้ท่านเจ้าเมืองและส่งร่างไร้วิญญาณของนางกลับมาที่หย่งโจว รถม้าจอดสนิทตรงหน้าจวนท่านเจ้าเมือง เมื่อพวกเขาเดินลงจากรถม้า และเดินเข้าไปในจวนที่บัดนี้เริ่มเงียบเหงามากกว่าเดิม“องค์รัชทายาทกับพร
มือเรียวของพระชายาเลื่อนลงไปใต้น้ำเพื่อสัมผัสบางสิ่งที่ทิ่มนางอยู่ในน้ำสักพักแล้ว เมื่อนางพบแล้วจึงได้เริ่มขยับเจ้าแท่งแกร่งนั้นรูดขึ้นลง ทำเอาผู้ที่ถูกสัมผัสแทบจะทนไม่ไหว“ถิงถิง อย่าพึ่งใจร้อน ข้ายังไม่พร้อม เจ้าอย่าพึ่ง อาาา” ถิงถิงเองก็ไม่ฟังเสียงขอร้องของเขา นางแนบตัวเข้าไปชิดก่อนจะส่งลิ้นนั้นไปเล่นกับยอดอกสีเข้มตรงหน้าซึ่งนางหวังจะทำเช่นนี้มานานแล้ว หมิงลี่หยางที่ถูกสัมผัสที่รุกล้ำจากนางถึงกับทนไม่ไหว เขาไม่เคยถูกสัมผัสเช่นนี้มาก่อน มันช่างรุนแรงเกินกว่าที่เขาจะรับได้เพราะปกติเป็นเขาที่จู่โจมนาง“ถิงถิง อาาา นี่เจ้า...”“รู้สึกอย่างไรเพคะ”“ข้า จะไม่มีแรงยืนแล้ว...”“อีกนิดเดียวเพคะ”“ไม่นะ อาาา ถิงถิง เบาลงหน่อย อย่าเร่งแบบนั้น อ๊ะ อึ๊ยยย อาาา” ถิงถิงสลับลิ้นไปมาระหว่างแผงอกกว้างของเขาสองข้าง สัมผัสนั้นทำให้ผู้ที่ถูกรุกเริ่มทนไม่ไหวเขาดึงตัวนางออกและจับนางยกตัวขึ้นที่ขอบอ่าง“พอแล้ว ข้าทนอีกไม่ไหวแล้ว ถิงถิง เจ้าต้องรับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้”“ท่านพี่ เดี๋ยวสิ อ๊าา อย่าเร็วนักสิเพคะ อ๊าาา”“ไม่ได้ ข้าจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เจ้าเป็นคนเริ่ม
“เดี๋ยวสิ พระชายา เจ้าจะมาทำแบบนี้มันผิดธรรมเนียมนะ คือว่าข้ารอเจ้ามาตั้งสิบวัน สิบวันเชียวนะ แล้วเจ้าจะมาเมินข้าเช่นนี้มันไม่ถูกต้อง เสด็จอาก็บอกว่า…”“นี่ท่านเมาหรือเพคะ หากอยากจะดื่มต่อท่านก็ออกไปดื่มกับพวกเขาไม่ต้องมาอยู่ตรงนี้ หากจะอยู่ก็นอนนิ่งๆ วันนี้หม่อมฉันเหนื่อยมาก คุยไม่ไหวแล้ว”“ข้าก็ไม่ได้ชวนเจ้าคุยเสียหน่อย ถิงถิง เรามาสร้างเจ้าตัวเล็กคนใหม่กันเถอะนะ”“….”“ถิงถิง แต่ข้ายังไม่ง่วงเลย …. ถิงถิง..ไม่จริงน่ะ หลับไปแล้วงั้นหรือ” หมิงลี่หยางหันไปมอง นางหลับสนิทไปแล้วโดยไม่รอเขาพูดจบด้วยซ้ำไป แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เจอกันสิบวัน และพิธีวันนี้ก็เหนื่อยเอามากๆ จริงๆ ไม่แปลกที่นางจะเหนื่อย“เข้าห้องหอแต่ไม่ได้ชื่นชมเจ้าสาว ข้านี่ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ” หมิงลี่หยางทำได้แค่ล้มตัวลงนอนและกอดถิงถิงเอาไว้เท่านั้นในคืนนี้ จะทำอย่างไรได้เมื่อนางไม่ยอม จะมาขืนใจเอาตอนนี้ก็เสี่ยงจะถูกเมินไปอีกหลายวัน เพราะเขาพลั้งปากเองจะโทษผู้ใดได้ พรุ่งนี้ค่อยง้อนางก็แล้วกันวันรุ่งขึ้น หมิงลี่หยางค่อยๆ ขยับตัวขึ้นมา แต่เขารู้สึกว่าคนข้างๆ ที่เขากอดอยู่มีอาการแปลกๆ เหตุใดเขารู้
งานประกาศผลการประลอง แขกเกือบทุกคนที่ยังอยู่ในงาน องค์ชายต่างแคว้นทุกคนล้วนมีความยินดีที่จะอยู่ร่วมงานจนถึงพิธีมงคลสมรสของทั้งคู่ หลังจากจัดพิธีมงคลสมรสแล้วจะจัดให้มีงานล่าสัตว์ขึ้นด้วย ทั้งนี้ทุกคนต่างตื่นเต้นเพื่อรองานที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองงานนี้อย่างใจจดใจจ่อ“เอาล่ะทุกท่าน ตอนนี้ได้เวลาแล้ว ขอประกาศผู้ชนะอย่างเป็นทางการในการประลองเพื่อเลือกคู่ของท่านหญิงฟ่านถิงถิงจวิ้นจู่แห่งม่านโจว องค์รัชทายาทแห่งฉีโจว องค์ชายหมิงลี่หยาง” หมิงลี่หยางในชุดองค์ชายเต็มยศสีเหลืองทองปักเลื่อมมังกรเดินเข้ามาในงานพิธีเพื่อรับมอบลูก “ซิ่วฉิว” ซึ่งเป็นลูกกลมๆ ที่ทำจากผ้าไหมมีพู่ห้อยอยู่รอบๆ ซึ่งถิงถิงยืนถือเอาไว้ที่ด้านหน้า ชุดของนางก็เป็นสีขาวทองปักเลื่อมสีทองรูปนกยูงเช่นกัน เมื่อเดินมาถึง ถิงถิงจึงได้มอบลูก ซิวฉิวให้เขารับเอาไว้และทั้งคู่ก็เดินขึ้นไปทำการคารวะฝ่าบาทก่อนจะหันออกมาและเดินออกจากท้องพระโรงเพื่อรอขึ้นรถม้าสำหรับแห่รอบเมืองเพื่อฉลองกับชาวเมืองม่านโจว“เหนื่อยหรือไม่”“ไม่เพคะ แต่หม่อมฉันง่วงนอน”“อยู่ในขบวนแห่ แต่เจ้ากลับง่วงได้ เก่งไปหรือไม่ถิงถิง เจ้ามองดูราษฎ







