หน้าหลัก / รักโบราณ / รักนี้ข้าสมยอม / ตอนที่ 14 ในตรอกที่วุ่นวาย 1

แชร์

ตอนที่ 14 ในตรอกที่วุ่นวาย 1

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-26 15:21:00

ตรงข้ามโรงเตี๊ยมฝูไหลคือตรอกฟาไฉ

เจาจวิ้นเร่งฝีเท้าเดินเข้าตรอกฟาไฉ ทันได้เห็นชายกระโปรงสีชมพูสดใสหายไปทางซ้าย เมื่อตามมาอีกเห็นเจ้าของชุดสีชมพูที่เขามั่นใจว่าคือโจวเจินเป็นแน่แท้เดินเข้าในร้านขายเครื่องเขียนโม่จือพร้อมสหายของนางที่เป็นบุรุษ

พอตามไปแอบมองตรงหน้าประตู เห็นทั้งสองพูดคุยกับหลงจู๊ จับใจความได้ว่าพวกนางกำลังหางานทำ หลงจู๊จึงบอกให้ทดสอบฝีมือก่อน หากผ่านเกณฑ์จะได้งานทันที พวกนางก็หายเข้าไปทางเรือนที่อยู่ทางหลังร้าน

แน่นอนเจาจวิ้นอยากตามเข้าเรือนหลังนั้น แต่จะทำได้อย่างไรกัน? มีเหตุผลใดในการแอบตามเช่นนี้เล่า เขาจึงทำได้เพียงนั่งรออยู่ตรงเพิงขายบะหมี่ที่อยู่ตรงข้าม

หนึ่งชั่วยามผ่านไป เจาจวิ้นกินบะหมี่จนท้องอืด แต่ก็ยังไม่เห็นโจวเจินเดินออกมาจากเรือนด้านหลังเสียที

สงสัยทดสอบฝีมือยังไม่ผ่าน! งานอะไรนะ?

รถม้าสกุลเว่ย

ฮูหยินเว่ยนั่งเคียงข้างกับบุตรสาว นางกล่าว “แม่แอบสืบเรื่องบ้านเดิมของอู๋หมิงที่ชนบทผิงเจียมาแล้ว ข่าวว่าแท้จริงอู๋หมิงมีภรรยาเอกอยู่ที่นั่น”

เว่ยซินหยูนิ่วหน้ารับฟังอย่างงุนงงระคนหงุดหงิด

“หมายความว่าหลิวหนิงเป็นเพียงอนุนอกเรือน ส่วนข้าก็ส่งมือสังหารไปฆ่าผิดคนหรือเจ้าคะ เช่นนี้เมื่อใดอู๋หมิงจะเป็นของข้าเล่า?”

แค่อนุคนหนึ่งตายไปแต่ภรรยาเอกยังอยู่ดีมีสุข มิใช่ว่านางลงแรงเสียเปล่าหรอกหรือ? เว่ยซินหยูหน้าบึ้ง “ข้าจะส่งมือสังหารไปฆ่าภรรยาคนนั้นที่ผิงเจียคืนนี้เลย” ว่าพลางทำท่าเปิดผ้าม่านเพื่อเรียกคนสนิทมาสั่งการ

“ช้าก่อน” มารดาห้ามไว้

เว่ยซินหยูเสียงขุ่น “เหตุใดเจ้าคะท่านแม่”

“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น” เว่ยฮูหยินเอ่ยต่ออย่างไม่ยี่หระ “หลายวันมานี้เจ้ามิได้ฆ่าผิดคน แต่ฆ่าถูกคนต่างหาก”

“หืม?”

เว่ยฮูหยินกล่าวเสียงหยัน “ภรรยาของอู๋หมิงคนนั้นพอรู้เรื่องนังแพศยาหลิวหนิงก็ช้ำใจอย่างยิ่ง” 

เว่ยซินหยูรู้สึกสนใจ “แล้วอย่างไรเจ้าคะ?”

“เฮ้อ เจ้าช่างไร้เดียงสา ในเมื่อสามีห่างไกล นอกจากไม่ห่วงหาคนเป็นภรรยา กลับไปผูกสมัครรักใคร่กับหญิงอื่น ย่อมทำภรรยาระทมจนต้องฆ่าตัวตายน่ะสิ” 

เว่ยฮูหยินกล่าวกลั้วเสียงขบขัน ไหนเลยจะมีความเห็นอกเห็นใจในสตรีด้วยกัน 

“เช่นนี้...นังหญิงชั่วหลิวหนิงสมควรตายแล้วนี่” ดวงตาเว่ยซินหยูทอประกายเลือดเย็น ขณะเปิดม่านรถม้าเรียกคนสนิทมาแล้วบอก

“คืนนี้ คำสั่งเดิม ฆ่านังนั่นซะ!”

ตรอกฟาไฉ

ตอนนี้มืดแล้ว ใกล้เวลาห้ามออกนอกเคหสถาน เจ้าของร้านบะหมี่ที่เดิมทีนั่งเท้าคางตบแมลงกลางคืนอย่างว่างงานก็กำลังเก็บเพิง เตรียมรถเข็นกลับเรือน เมื่อเก็บเสร็จก็เดินมาบอก

“แม้ข้าไม่รู้ว่าแม่นางกำลังรอคอยผู้ใด นานแค่ไหน แต่ข้าจะใจดีขายเก้าอี้ตัวนี้ให้ท่านได้นั่งรอต่ออย่างไม่มีกำหนดเวลาขอรับ ราคาแค่หนึ่งร้อยอีแปะเท่านั้น รวมกับค่าบะหมี่สิบชามก็สองร้อยอีแปะพอดีขอรับ”

ขายของเก่ง เจาจวิ้นรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนักจึงกัดฟันล้วงอกเสื้อ ครั้นควานหาครู่ใหญ่ไม่เจอเงินที่ต้องการเสียที ทำเอาพ่อค้าบะหมี่เริ่มมองด้วยสายตาเหยียดหยาม             

สวมอาภรณ์แพรพรรณชั้นดีแท้ๆ แต่...อย่าบอกนะว่าไม่มีเงิน 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักนี้ข้าสมยอม   ตอนที่ 14 ในตรอกที่วุ่นวาย 1

    ตรงข้ามโรงเตี๊ยมฝูไหลคือตรอกฟาไฉเจาจวิ้นเร่งฝีเท้าเดินเข้าตรอกฟาไฉ ทันได้เห็นชายกระโปรงสีชมพูสดใสหายไปทางซ้าย เมื่อตามมาอีกเห็นเจ้าของชุดสีชมพูที่เขามั่นใจว่าคือโจวเจินเป็นแน่แท้เดินเข้าในร้านขายเครื่องเขียนโม่จือพร้อมสหายของนางที่เป็นบุรุษพอตามไปแอบมองตรงหน้าประตู เห็นทั้งสองพูดคุยกับหลงจู๊ จับใจความได้ว่าพวกนางกำลังหางานทำ หลงจู๊จึงบอกให้ทดสอบฝีมือก่อน หากผ่านเกณฑ์จะได้งานทันที พวกนางก็หายเข้าไปทางเรือนที่อยู่ทางหลังร้านแน่นอนเจาจวิ้นอยากตามเข้าเรือนหลังนั้น แต่จะทำได้อย่างไรกัน? มีเหตุผลใดในการแอบตามเช่นนี้เล่า เขาจึงทำได้เพียงนั่งรออยู่ตรงเพิงขายบะหมี่ที่อยู่ตรงข้ามหนึ่งชั่วยามผ่านไป เจาจวิ้นกินบะหมี่จนท้องอืด แต่ก็ยังไม่เห็นโจวเจินเดินออกมาจากเรือนด้านหลังเสียทีสงสัยทดสอบฝีมือยังไม่ผ่าน! งานอะไรนะ?รถม้าสกุลเว่ยฮูหยินเว่ยนั่งเคียงข้างกับบุตรสาว นางกล่าว “แม่แอบสืบเรื่องบ้านเดิมของอู๋หมิงที่ชนบทผิงเจียมาแล้ว ข่าวว่าแท้จริงอู๋หมิงมีภรรยาเอกอยู่ที่นั่น”เว่ยซินหยูนิ่วหน้ารับฟังอย่างงุนงงระคนหงุดหงิด“หมายความว่าหลิวหนิงเป็นเพียงอนุนอกเรือน ส่วนข้าก็ส่งมือสังหารไปฆ่าผิดคนหรือเจ

  • รักนี้ข้าสมยอม   ตอนที่ 13 สตรีชุดชมพู3

    “ทั้งสองเชิญตามสบาย”“ท่านพี่อาหมิง” เว่ยซินหยูแย้มยิ้มทักทายเสียงใส ปรายตามองศัตรูหัวใจแวบหนึ่งอย่างชิงชัง วันก่อนส่งคนไปลอบสังหารภรรยาของอู๋หมิงผู้นี้แต่พลาดท่าไม่สำเร็จ ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก ฮึ! แต่ไม่เป็นไร ครั้งนี้นางจะส่งนักฆ่าไปมากหน่อย ดูเถิดว่ายังจะโชคดีรอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชได้อีกหรือไม่?แม้มีสตรีกำลังคิดไม่ซื่อหมายแย่งชิงสามีผู้อื่น แต่บรรยากาศมื้ออาหารสานสัมพันธ์กระชับมิตรไมตรีระหว่างอู๋หมิงกับขุนนางเว่ยซุนกลับดำเนินไปได้ด้วยดี หลายเดือนมานี้นับว่าอู๋หมิงทำสำเร็จมากกว่าครึ่งแล้ว ด้วยสีหน้าท่าทีสัตย์ซื่อไร้พิษภัยของเขา ทั้งยังพูดน้อยถนอมคำเก็บงำความลับได้ ทำเว่ยซุนค่อนข้างไว้วางใจเกินหกถึงเจ็ดส่วนวันนี้หลังการเลี้ยงอาหารโอชาในโรงเตี๊ยมเลื่องชื่อ เว่ยซุนจึงชักชวนอู๋หมิงไปร่ำสุรากันต่อยังสถานที่ส่วนตัว แม้แต่ฮูหยินเว่ยยังถูกไล่กลับจวนไปก่อน ในเมื่อฮูหยินเว่ยยังมิอาจตามแน่นอนว่าเจาจวิ้นย่อมมิอาจติดตามเช่นกันอู๋หมิงเอ่ยอย่างห่วงใย “น้องหญิงกลับไปก่อนเถิด”เจาจวิ้นส่งสายตาอาลัยอาวรณ์อย่างมีจริตมารยา “ท่านพี่รีบกลับนะเจ้าคะ หนิงเอ๋อร์เป็นห่วง”อู๋หมิงเอ่ยยิ้มๆ “ข้าไปกับใต้

  • รักนี้ข้าสมยอม   ตอนที่ 13 สตรีชุดชมพู2

    หลังหรี่ตาเพ่งมองแวบหนึ่งพลันรู้สึกหงุดหงิด เพราะสิ่งที่เห็นคืออีกคนที่เป็นบุรุษ ชายหญิงกำลังนั่งคุยกระหนุงกระหนิงหยิกแก้มกันไปมา...อย่าบอกนะว่าอาโยวมีคนรักใหม่แล้ว!เจาจวิ้นคิดด้วยใจไม่ยินยอมสักเสี้ยว กำลังจะพังฉากกั้นเข้าไปแย่งชิงคนรักอย่างอุกอาจจังหวะเดียวกันนั้น อู๋หมิงพลันดึงเจาจวิ้นเข้าไปกอดแนบอกพอดิบพอดี ทำท่าคลอเคลียรักใคร่หนักหนาเจาจวิ้นเกือบต่อยแล้ว แต่นึกได้ว่าที่นี่ที่ไหนและใครกอด อีกทั้งตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่เขาจึงเงยหน้ามองเจ้าของอ้อมแขน ถามว่า “ใต้เท้าเว่ยมาแล้วหรือ?”อู๋หมิงตอบโดยไม่มองหน้า “อืม ทำงานก่อน”ทั้งสองจึงทำตัวเป็นสามีภรรยาที่กำลังหยอกเอินให้ตรงกับจังหวะที่เสียงประตูเลื่อนเปิดออกที่หน้าประตู เสี่ยวเอ้อค้อมกายผายมือเชื้อเชิญ ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเนิบนาบเข้ามา พร้อมกลิ่นอายที่ขุนนางเฒ่าผู้โอหังและเจนจัดในราชสำนักเท่านั้นถึงจะมีเขาคือเว่ยซุนเยี่ยนอ๋องมีคำสั่งให้อู๋หมิงเข้าหาขุนนางใหญ่ผู้นี้ เพียงแต่บุตรสาวของเว่ยซุนพึงใจในตัวอู๋หมิงอย่างเปิดเผย ทุกคราที่นัดหมายพบหน้า ทั้งฮูหยินเว่ยและคุณหนูเว่ยจึงมักติดตามมาด้วยเสมอ เจาจวิ้นจึงต้องรับหน้าที่เป็น ‘ภรร

  • รักนี้ข้าสมยอม   ตอนที่ 13 สตรีชุดชมพู1

    โรงเตี๊ยมฝูไหลชั้นสอง ห้องอาหารติดกันเสียงของสองสตรีที่ดังเล็ดลอดเข้ามา หากมิได้แอบฟังคงไม่ได้ยินจับใจความไม่ได้ มิหนำซ้ำคงไม่สนใจบทสนทนาที่เลื่อนเปื้อนนั่น ทว่าเจาจวิ้นที่บังเอิญได้ยินล้วนจับใจความได้จนปรุโปร่งกระทั่งต้องแอบฟังอย่างตั้งใจที่สุดในใต้หล้าอยู่ตอนนี้ และหัวใจก็เต้นแรงเสียจนแทบทะลุออกมานอกอกรอมร่อเสียงนั้นยังคงดังต่อเนื่องว่า “ชิงชิง เจ้ารู้เช่นนี้แล้ว ระแวงข้าหรือไม่? ไม่อยากเข้าใกล้หรือเปล่า? แบบเห็นข้าเป็นหญิงบ้าหรือเป็นผีร้ายอะไรเทือกนั้น”“อาโยว ข้ารู้แค่ว่าเจ้าเป็นผู้มีพระคุณของข้า”“แน่นะ”“อื้ม”โจวเจิน! อาโยว! ต่างมิติ วิญญาณสิงร่าง เจาจวิ้นเบิกตากว้าง เม้มปากจนกรามสั่นในที่สุดก็หาเจอเสียที!เจาจวิ้นเหลือกตายามแนบหูแอบฟังจนใบหน้าที่แต่งแต้มเติมชาดบิดเบี้ยวเสียรูปทรงและทำท่าเจาะกระดาษบนฉากกั้นห้องข้างๆ อย่างวู่วาม อู๋หมิงที่นั่งอยู่ด้วยกันเห็นเช่นนั้นก็เลิกคิ้วถาม“อาหนิง เจ้าจะทำบ้าอะไร? อย่าเสียมารยาท”ดวงตาเจาจวิ้นยังคงเบิกกว้าง ชี้นิ้วฉากกั้นห้องพลางกระซิบอย่างตื่นเต้นที่สุด “สตรีห้องข้างๆ ห้องนี้ๆ”อู๋หมิงเสียงขรึม “คืออะไร? พูดดีๆ”เจาจวิ้นสูดลมหายใจ “

  • รักนี้ข้าสมยอม   ตอนที่ 12 ใช่! ไม่ผิดแน่ 2

    ไป๋เล่อชิงชะงักท้ายที่สุดก็พยักหน้า “อืม ข้าไม่มีทางลืมแน่นอน” นางเพียรย้ำ เตือนตัวเองซ้ำๆอีกว่า “หากข้าเจอเขาก็จะหนีให้ไกลด้วย ดีหรือไม่?” “ดีมาก”ระหว่างกินอาหารและชื่นชมทิวทัศน์ร้านรวงต่างๆจากหน้าต่างห้องชั้นสอง ไป๋เล่อชิงก็เหลือบไปเห็นโจวเจินกำลังคำนวณอันใดสักอย่างจนหัวคิ้วขมวดมุ่นไปหมด “อาโยว เจ้าทำสิ่งใดหรือ?”โจวเจินบอกโดยไม่เงยหน้า สายตายังคงครุ่นคิดอย่างจริงจัง “ข้ากำลังคำนวณค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันต่างๆ ของพวกเราสองคนและหาลู่ทางเพิ่มเงินในหีบ เงินของเจ้าเหมือนเยอะ แต่หากไม่หาเพิ่มคงไม่ดี”ไป๋เล่อชิงยิ้ม “อันที่จริงข้าคิดเรื่องนี้เอาไว้นานแล้ว ยังคิดว่าอยากทำการค้า เป็นเถ้าแก่เปิดกิจการสักอย่าง แต่แรกเริ่มคงต้องหางานทำเป็นลูกจ้างไปก่อน ข้าทำบัญชีและมีความรู้เรื่องกิจการร้านค้า วันนี้ระหว่างเดินเที่ยว ข้ามองหาร้านที่ติดประกาศรับคนงานทำบัญชีเอาไว้ โอกาสได้งานคงสูงอยู่ ทำงานเก็บเงินได้ค่อยหาเช่าร้าน พอทำการค้าได้กำไรก็ค่อยซื้อร้านต่อยอดขยายกิจการ ยามนี้ต้องทนลำบากสักหน่อย ภายหน้าย่อมดีแน่นอน”โจวเจินให้รู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่ตื่นตาตื่นใจกับเมืองโบราณอ

  • รักนี้ข้าสมยอม   ตอนที่ 12 ใช่! ไม่ผิดแน่ 1

    เดินทางครึ่งเดือนในที่สุดไป๋เล่อชิงกับโจวเจินก็ถึงที่หมายคือเมืองหลวงต้าอันที่นี่เจริญรุ่งเรืองมากกว่าเมืองชนบทผิงเจียยิ่งนัก ผู้คนที่เดินขวักไขว่พลุกพล่านล้วนแต่งกายงดงามดูดี แม้แต่ขอทานคนเร่ร่อนยังมีการปะชุนเสื้อผ้า เห็นได้ชัดว่าชาวเมืองหลวงให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์เป็นอย่างมาก เรียกว่าที่นี่คือดินแดนแห่งความมั่งคั่งอย่างแท้จริงโจวเจินก้มมองชุดขาดวิ่นของตนนิ่งๆ ชุดมีสภาพนี้เพราะร่างเก่าต่อสู้แย่งชิงคัมภีร์มารสุดยอดเคล็ดวิชากับจอมยุทธ์คนหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง กระทั่งต่างฝ่ายตายไปทั้งคู่ คัมภีร์นั้นก็หายไปทางใดก็สุดรู้ นางที่จู่ๆ ก็เข้าสิงร่างจึงต้องทนกับเสื้อผ้าที่รุ่งริ่งยับเยินนี้มาเนิ่นนาน เป็นเพราะเมืองต่างๆที่ผ่านทางไม่มีร้านผ้าที่ถูกใจ ตัวเลือกน้อยไม่ดึงดูด แต่ที่เมืองหลวงแห่งนี้กลับแตกต่าง ทุกย่างก้าวล้วนมีแต่สินค้าหลากหลายให้เลือกหา คิดแล้วก็หันไปทางไป๋เล่อชิงที่เดินชมเมืองอยู่ข้างๆ “ข้าคิดว่าควรเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เสียหน่อย ยืมเงินเจ้าก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะหางานทำชดใช้ให้”ไป๋เล่อชิงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “อาโยวเป็นผู้มีคุณ ไม่ต้องทำงานชดใช้ ต้องการเงินเท่าไรขอเพียงบอกมา อั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status