LOGINน้ำแข็ง...
"นายมีถุงมั้ย ฉันจะเอาไว้ใส่เสื้อผ้า" ฉันถามอัคคีที่นั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น หลังจากที่ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว
"อื้ม เดี๋ยวหยิบมาให้" คนตรงหน้าตอบก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบถุงกระดาษมาให้ฉัน เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำซึ่งฉันเองก็เช่นกัน แต่ช่างเถอะเพราะหลังจากวันนี้ก็คงไม่มีเรื่องอะไรให้เจอกันอีกแล้ว
"ขอบใจนะ ฉันกลับล่ะ"
"ที่รักโทรมา... " เสียงคนด้านหลังพูดขึ้น ทำให้ฉันที่กำลังจะเอื้อมมือไปบิดลุกบิดประตูต้องชะงัก "บอกว่าสิบโมงอาจารย์นัดเจอที่โรงพยาบาลน่ะ" คนด้านหลังพูดต่อ สงสัยเจ้าถิ่นคงโทรมาบอกที่รักสินะ ปกติถ้าเจ้าถิ่นกับเรดาห์ติดต่อฉันไม่ได้สองคนนั้นก็จะติดต่อฉันผ่านที่รักกับแฟน
"อื้ม โอเค" ฉันพยักหน้าตอบรับทั้ง ๆ ที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่แต่แล้วฉันก็ต้องรู้สึกขนลุกซู่ เมื่ออยู่ ๆ คนที่ยืนอยู่ด้านหลังตอนนี้เดินเข้ามาใกล้จนแผ่นหลังของฉันแทบชิดกับแผงอกของเขา
"เดี๋ยวไปส่ง" น้ำเสียงเรียบนิ่งที่ดังอยู่ข้างหูของฉันตอนนี้ทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย มือใหญ่เอื้อมมาเปิดประตูทั้ง ๆ ที่ฉันยังยืนอยู่ตรงนั้น ไออุ่นจากแผงอกของคนด้านหลังแผ่ออกมาจนทำให้แผ่นหลังของฉันร้อนวูบวาบ
"อื้ม" ฉันตอบรับเสียงเบาก่อนจะรีบเดินออกมาเพราะเริ่มรู้สึกแปลก ๆ อีกทั้งก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ แทบทะลุออกมาข้างนอก
ไม่นานเราสองคนก็เดินมาถึงลานจอดรถโดยที่ระหว่างทางที่มานั้นไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยสักคน ถึงจะรู้สึกอึดอัดแต่ฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีของเราก็ได้ เริ่มต้นชีวิตใหม่ของเราทั้งคู่แบบไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก
"นี่แผนที่นะ ฉันจำทางไม่ได้น่ะ" หนักกว่าความจำปลาทองก็สมองฉันนี่แหละ ที่นอกจากจะจำทิศทางไม่ได้แล้วยังจำทางและสถานที่ไม่เคยได้แม้กระทั่งทางกลับบ้านตัวเอง
ฉันยื่นโทรศัพท์มือถือให้คนข้าง ๆ หลังจากขึ้นมาประจำที่ในรถเรียบร้อยแล้ว เปิดจุดหมายปลายทางที่เป็นบ้านของฉันให้เขาดูก็คลับคล้ายคลับคลาว่าอยู่ไกลจากที่นี่พอสมควร
"นายไม่มีเรียนเหรอ" ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะชวนคนข้าง ๆ คุยทำไมแต่ก็อดสงสัยไม่ได้เพราะวันนี้วันจันทร์แต่อัคคีกลับใส่แค่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์สีดำแทนที่จะเป็นชุดนักศึกษา
"มี แต่เรียนบ่ายน่ะ" คนข้าง ๆ หันมาตอบก่อนจะหันกลับไปจ้องมองถนนต่อ พอได้คำตอบฉันก็ไม่ได้ชวนเขาคุยต่อเพราะไม่อยากรบกวนเวลาขับรถของเขา
"ไม่เห็นรู้เลยว่าเธอเรียนอยู่ที่นี่... ปีสามแล้วเหรอ" คนข้าง ๆ เหมือนจะเป็นฝ่ายเริ่มชวนคุยบ้างหลังจากที่เรานั่งเงียบมาได้สักพัก
"อืม พอขึ้นปีสองก็ไม่ได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยเหมือนคณะอื่นน่ะ ส่วนมากจะอยู่ที่คณะแพทย์ไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกหรอก" ฉันหันไปตอบบ้าง
ปกติมหาลัยที่ฉันเรียนอยู่ตึกคณะแพทย์เป็นคณะเดียวที่ถูกแยกออกจากรั้วมหาลัยหลัก ตึกเรียนของฉันอยู่อีกที่หนึ่งซึ่งถ้ามองดี ๆ ก็คงเหมือนสาขาย่อยของมหาลัยไปแล้ว เวลาจะเข้าไปในมหาลัยก็ต้องนั่งรถเมล์ไปสักป้ายสองป้ายหรือไม่งั้นก็ต้องนั่งวินไปน่ะ คนที่เรียนแพทย์ก็เลยไม่ค่อยออกมากัน ทุกวันนี้ฉันรู้สึกเหมือนพวกเราไม่ได้อยู่ในมหาลัยนั้นนอกเสียจากว่าทางมหาลัยจะมีกิจกรรมสำคัญ หรือวันสำคัญต่าง ๆ พวกเราถึงจะไปเข้าร่วม
"แล้วเรียนหนักมั้ย" คนข้าง ๆ ถามต่อ
"ก็หนักอยู่นะมากด้วย ฉันต้องเรียนตั้งแต่แปดโมงเช้าไปจนถึงห้าโมงเย็นยิ่งวันไหนมีสควิซสำคัญ ๆ นี่ต้องเรียนตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าไปจนถึงห้าโมงเย็น หกโมงเย็นก็มี แต่ก็สนุกดีนะ...เหนื่อยดี" ไม่รู้ว่าเพราะรู้สึกผ่อนคลายที่ได้พูดคุยเรื่องเรียนของตัวเองให้เขาฟังหรือเปล่าก็เลยเผลอยิ้มออกมา คนข้าง ๆ หันมาสบตาเข้าพอดีทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าต้องนิ่งไว้เลยรีบหุบยิ้ม
"ทำไมถึงเรียนหมอล่ะ" ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงสนใจเรื่องเรียนของฉันนัก แต่ถ้าเขาถามมาฉันก็คงมีหน้าที่ตอบเพราะไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว
"อยากรักษา..." ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเรียนหมอ พอสอบติดแล้วได้ทุนก็เลยเรียน
"แล้วใจฉันที่เธอทำมันพัง ตอนนี้เธอก็รักษามันได้แล้วใช่มั้ยน้ำแข็ง"
"..." คนข้าง ๆ ไม่รอให้ฉันพูดจบแต่พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน เขาทำให้ฉันไม่รู้ว่าต้องพุดอะไรต่อและเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเพราะเขาวนกลับเข้าเรื่องของเราอีกแล้ว
น้ำแข็ง..."น้ำแข็งเดี๋ยวก่อนสิรอฉันด้วย" เสียงอัคคีตะโกนตามหลังฉันมาเมื่อฉันเดินออกจากลานเกียร์ที่วงดนตรีตั้งอยู่ ขายาว ๆ ของคนด้านหลังวิ่งฉับ ๆ เข้ามาใกล้จนต้องหันไปถามด้วยความหงุดหงิดว่าเขาต้องการอะไร"นายตามฉันมาทำไม""ฉันอธิบายได้นะน้ำแข็ง เมื่อกี้มันไม่ใช่การแสดงแต่ฉันรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ" คนตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน จะบอกว่าเขาร้องเพลงให้ฉันเพราะรู้สึกแบบในเนื้อเพลง แล้วก็คุกเข่าอ้อนวอนให้ฉันกลับไปเหมือนในเนื้อเพลงงั้นเหรอ?"แล้วนายมาบอกฉันทำไม" ถึงจะตอบออกไปแบบนั้นแต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก"เธอจะไม่ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งจริง ๆ เหรอน้ำแข็ง" มือใหญ่ของคนตรงหน้าเอื้อมมากุมมือทั้งสองข้างของฉันเอาไว้พร้อมกับจ้องมองมาด้วยสายตาอ้อนวอน แต่ฉันเข็ดกับการกระทำแบบนี้ของเขาแล้วล่ะ วันนั้นคุยดี ๆ กับฉันได้ไม่ทันไรก็ขึ้นเสียงใส่ซะแล้วฉันจำได้"เรื่องของเรามันจบไปแล้วนายก็
น้ำแข็ง..."เพลงที่ผมกำลังจะร้องมันจะเศร้าหน่อยนะครับ ช่วงนี้หัวใจขาดความบันเทิง กำลังมองหาคนมาดูแล" คนที่จับไมโครโพนอยู่พูดขึ้น พลอยให้สาว ๆ ในลานส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเพราะชอบใจไปด้วย"อร๊ายยย // กรี๊ดด // พี่อัคคีน่ารัก // อัคคีหล่อเวอร์""แกฉันอยากเป็นความบันเทิงให้พี่เขาจัง กรี๊ดด" เสียงผู้หญิงที่ยืนข้างฉันหันไปพูดกับเพื่อนของเธอพลางกรี๊ดกร๊าดกันต่อเฮ้อ! ฉันเบื่อฉันอยากกลับบ้านฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว!"แกพี่อัคคีจะร้องเพลงแล้วอะ เขาบอกชื่อเพลงกับเพื่อนแล้วแก" ยัยเรดาห์นี่ก็อีกคนเอากะเขาไปด้วย นางเขย่าแขนฉันพลางทำท่าทางสะดีดดิ้งจนฉันหมั่นไส้ไปอีกคนว่าแต่... น้ำแข็งนี่เพื่อนแกนะ!"แกว่าพี่เขาจะร้องเพลงอะไรอะแก" ยัยเรดาห์ยังคงตื่นเต้นกับการที่อัคคีจะร้องเพลง ว่าแต่พออัคคีอยู่ในชุดนี้เขาก็ดูดีเหมือนกันนะ กางเกงยีนส์สีดำกับเสื้อยืดสีดำสวมเสื้อช็อปสีน้ำเงินของคณะว
อัคคี..." ไอ้อัคมึงเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้หรือยัง ซ้อมหนักมาหลายวันแล้วรีบ ๆ นอนซะบ้าง มัวแต่ออกไปแรดอยู่ได้" เสียงไอ้เหมันต์เพื่อนเพียงคนเดียวในกลุ่มที่จริงจังกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันพูดกับผม เมื่อมันเห็นว่าผมยังยุ่งอยู่กับกองหนังสือเรียนหลังกลับจากไปส่งน้ำแข็ง"เออช่วงนี้มึงแม่งแปลกว่ะ เลิกเรียนแล้วหายหัวทุกทีเลยมึงไปไหนวะ" ไอ้เทอร์โบขี้เสือกอีกคนพูดขึ้น"กูก็มีธุระของกูสิวะ" ผมเงยหน้าไปตอบก่อนจะก้มหน้าก้มตาสนใจหนังสือตรงหน้าต่อ ถึงจะผมจะเป็นแบบนี้แต่ก็ตั้งใจเรียนมากนะบอกเลย เรียนแรดกับเรื่องเรียนผมแยกแยะได้ก็เลยไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเรียนเย็นนี้พอเลิกเรียนพวกมันก็มาสุมหัวที่คอนโดของผมตั้งแต่ผมยังไม่กลับเข้ามา คงเป็นเหมือนทุกวันที่พวกมันจะค้างที่นี่เพราะคอนโดผมมีทางลัดสามารถไปถึงมหาลัยได้เร็วกว่า"ธุระอีกแล้ว มึงรู้ปะว่าตอนนี้มึงเหมือนไอ้พายุเลย แม่งชอบหายหัวกันดีจังเวลาเลิกเรียนอะ" ไอ้เทอร์โบบ่นต่อ
น้ำแข็ง...ห้างสรรพสินค้า..."รีบ ๆ เลือกสิฉันจะได้จ่ายเงินจะได้รีบกลับ" เมื่อเดินเข้ามาในร้านเสื้อร้านหนึ่งที่เหมือนจะเป็นเสื้อคู่ อัคคีก็เอาแต่เดิน ๆ ดูแต่ไม่ยอมซื้อสักที ฉันเห็นว่านี่ก็เย็นมากแล้วถ้ากลับช้ากว่าปกติคุณน้าจะเป็นห่วงได้ เพราะวันนี้คุณน้ารู้ว่าฉันเลิกเร็ว อีกอย่างพี่เอิร์ธกับพี่เอลฟ์ก็ไม่น่าจะอยู่บ้าน ฉันไม่อยากให้คุณน้าอยู่คนเดียว"เธอมาช่วยฉันเลือกหน่อยสิฉันเลือกไม่ถูก" คนบางคนเรียกฉันพลางกวักมือให้ฉันเข้าไปหาก่อนจะหันกลับไปมองเสื้อผ้าต่อ"ถ้าฉันเลือกให้นายแล้วทำยังกะนายจะเอา" ฉันบ่น ๆ ก่อนจะจับดูเสื้อที่แขวนไว้พลางเดินดูรอบ ๆ ร้านต่อเผื่อว่าจะเจอแบบที่ถูกใจ"แล้วไอ้เสื้อคู่สีชมพูรูปหัวใจสลักชื่ออัคคีกับน้ำแข็งฉันบอกหรือยังว่าไม่เอา เธอก็เห็นว่าฉันเก็บไว้ในตู้รอวันใส่กับเธอนี่" นั่นไงเรื่องเก่า ๆ ก็มา"เรื่องเก่านายอย่าพูดถึงได้ปะ เอานี่มั้ยนายชอบสีดำนี่" ฉันหยิบเสื้อยื
อัคคี..."มาก่อนแล้วไงตอนนี้มึงคืออดีตเข้าใจมั้ย กูนี่คนปัจจุบัน กูคนสำคัญในเวลานี้ กูคือแฟนน้ำแข็งตอนนี้ และตอนนี้น้ำแข็งรักกูไม่ได้รักมึง!" เจ็บสัส ๆ เจ็บจี๊ด ๆ เจ็บโคตร ๆ ใช่ทุกอย่างที่มันพูดเป็นความจริงและผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าน้ำแข็งจะมีแฟนแล้ว แต่มันเป็นคนละคนกับคนที่ถีบผมหน้าร้านหมูกระทะวันนั้นนี่หว่า สรุปแล้วคนนั้นเป็นใคร?"ใช่ตอนนี้มึงคือแฟนใหม่ แต่ไม่นานกูจะทำให้แฟนใหม่อย่างมึงกลายเป็นแฟนเก่า" ผมพูดกับมันก่อนจะหันมาสบตากับน้ำแข็งที่ยืนนิ่งอยู่แล้วพาเธอเดินออกมา"เธอต้องกลับกับฉันน้ำแข็ง" ผมบอกคนที่ยืนนิ่งอยู่"เอ่อ งั้นวันนี้น้ำแข็งขอตัวกลับก่อนนะคะพี่ธันวา ไว้วันหลังพี่ธันวาค่อยไปหาคุณน้านะคะ" น้ำแข็งหันไปพูดกับไอ้ผู้ชายคนนั้นที่ชื่อธันวาพร้างกับส่งยิ้มหวานให้ แต่เมื่อกี้ยัยนี่ชวนไอ้หมอนั่นไปบ้านเธองั้นเหรอ? ได้ไงอะผมไม่ยอมหรอกน้ำแข็ง...
น้ำแข็ง...ผ่านมาหลายวันแล้วตั้งแต่ฉันกับอัคคีได้เจอกัน จากวันนั้นมาฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย ฉันเอาเสื้อยืดกับกางเกงที่ยืมอัคคีใส่วันนัั้นติดกระเป๋ามาที่มหาลัยทุกวันเพราะคิดว่าถ้าได้เจอเขาอีกครั้งฉันจะคืนให้เขา แต่ฉันลืมคิดไปว่าเราสองคนไม่มีทางมาเจอกันได้เพราะเขาเรียนในมหาลัยส่วนฉันตึกคณะแพทย์ถูกแยกออกจากรั้วมหาลัยอยู่อีกฟากหนึ่ง"น้ำแข็งแกกลับยังไงอะ พี่เอิร์ธมารับป่าว" ทันทีที่เดินลงจากตึกคณะเจ้าถิ่นก็ถามฉันขึ้น ปกติถ้าพี่เอิร์ธไม่มารับฉัน ยัยแฟนกับยัยที่รักจะเป็นคนมารับฉันน่ะ สองคนนั้นชอบทำเหมือนฉันเป็นเด็ก พวกนางจะหาเวลาว่างมารับฉันตลอด แต่ว่าช่วงหลัง ๆ มาพอพี่เอลฟ์กลับมาจากฮ่องกงพี่เอิร์ธก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่เลยไม่ค่อยได้แวะมารับฉันเหมือนเมื่อก่อน"วันนี้ฉันกลับเองน่ะ ช่วงนี้พี่เอิร์ธติดงานส่วนยัยแฟนกับยัยที่รักเดือนนี้เข้ากะบ่ายกันทั้งเดือน เลิกทีก็ดึกเลยคงไม่ว่างมารับ""งั้นแกกลับกับฉันป่าวล่ะทางผ่านไปบ้านฉันพอดี เดี๋ยวให้ลุง







