น้ำแข็ง...
เช้าวันอาทิตย์ที่ฉันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อลงมารอพี่เอิร์ธหน้าคอนโดยัยแฟน วันนี้พี่เอิร์ธมารับฉันแต่เช้าเพราะจะแนะนำฉันให้รู้จักเพื่อนพี่เอิร์ธที่เพิ่งกลับมาจากฮ่องกง แล้วก็อยากให้ฉันกลับไปอยู่เป็นเพื่อนคุณน้าในช่วงกลางวันด้วยเพราะยังไงแล้วคืนนี้ฉันต้องกลับไปค้างที่บ้านอยู่ดี
ปริ๊นๆ! เสียงแตรรถพี่เอิร์ธดังขึ้นเมื่อมาจอดตรงหน้าฉัน
"ไงเรารอพี่นานมั้ย" พี่เอิร์ธลดกระจกรถลงมาก่อนจะโผล่หน้าออกมาถามฉัน
"ไม่ค่ะ ว่าแต่พี่เอิร์ธมากับ..." หรือว่าคนนี้เป็นเพื่อนที่จะแนะนำให้ฉันรู้จัก?
"ผะ... / เพื่อน" ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบผู้ชายหน้าตี๋หล่อเกาหลีผิวขาวที่นั่งข้าง ๆ พี่เอิร์ธก็ทำท่าชะโงกหน้ามาตอบฉัน แต่ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะพูดพี่เอิร์ธก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน สรุปว่าเป็นเพื่อนพี่เอิร์ธสินะหล่อดีแต่ดูท่าทางเขาจะไม่ค่อยชอบฉันเท่าไหร่ ดูจากสีหน้าหงุดหงิดกับสายตาเพชรฆาตรที่ส่งมาให้ฉันนั่นแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฮะ
"น้ำแข็ง นี่ไอ้เอลฟ์เพื่อนพี่" เมื่อฉันขึ้นไปนั่งประจำเบาะหลังเรียบร้อยแล้วพี่เอิร์ธที่ทำหน้าที่รถอยู่ก็เอ่ยขึ้น
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อน้ำแข็งนะคะ เป็นน้องสาวพี่เอิร์ธ" ฉันแนะนำตัวเองผ่านกระจกซึ่งพี่เอลฟ์ที่นั่งฝั่งข้างคนขับก็จ้องฉันกลับด้วยสายตาดุ ๆ
จนเวลาผ่านไปรถของเราก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน ช่วงกลางวันพวกพี่เขาออกไปทำธุระข้างนอก มีแค่ฉันกับคุณน้าเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน พอช่วงเย็นพี่เอิร์ธกับพี่เอลฟ์ก็พากันกลับเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ไปส่งฉันที่งานวันเกิดพี่เหมันต์
"ไม่เห็นบอกพี่เลยว่างานวันเกิดรุ่นพี่เราจัดที่ผับน่ะ" พี่เอิร์ธหันมาคุยกับฉันพร้อมส่งสายตาดุ ๆ มาให้ก่อนจะเดินตามฉันเข้ามาที่ผับ โดยมีพี่เอลฟ์เดินตามหลังมาเงียบ ๆ
"อ่า ขอโทษค่ะ พอดีน้ำแข็งตื่นเต้นไปหน่อยก็เลยลืมบอก" ฉันแก้เขินทั้งที่รู้อยู่แล้ว แต่กลัวว่าถ้าบอกสถานที่ไปตั้งแต่วันนั้นแล้วพี่เขาจะไม่ให้มา
"น้ำแข็ง! ทางนี้!" เมื่อฉันเดินเข้ามาในโซนวีไอพีตามที่พี่เหมันต์มันบอกเอาไว้ เสียงเรียกของใครบางคนที่โบกไม้โบกมือให้ฉันก็ดังขึ้น โต๊ะที่พี่เหมันต์นั่งอยู่มีบรรดาเพื่อน ๆ ของเขา แต่ไม่เห็นคนที่ฉันไม่อยากเจอหน้านั่นก็คืออัคคี ก็ดีแล้วนี่...
"เดี๋ยวนะ! ยัยแฟน!" ฉันฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับโบกมือกลับเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักก็มาด้วย เป็นไปได้ยังไงเนี่ย!
"งั้นน้ำแข็งไปนั่งกับเพื่อนเถอะเดี๋ยวพี่กับเพื่อนนั่งรอเราอยู่แถวนี้แล้วกัน" พี่เอิร์ธพูดพลางพยักหน้าให้ฉันก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้แล้วเดินไปอีกทางโดยมีพี่เอลฟ์เดินตามไปอย่างเงียบ ๆ เช่นเคย
"ยัยแฟน! ไหนแกบอกว่าวันนี้ต้องทำงานไง" ฉันถามเพื่อนสาวตัวดีเพราะเมื่อวานนี้นางบอกฉันว่าต้องเข้ากะดึกเลยมาส่งฉันไม่ได้ และอีกอย่างนางกับพี่เหมันต์ก็ไม่ได้รู้จักกันแบบสนิทสนมถึงขั้นชวนกันมางานวันเกิดได้สักหน่อย
"ก็หัวหน้าแผนกฉันโทรมาบอกว่าวันนี้ไม่ต้องเข้ากะ เพราะคุณเหมันต์ให้ไปช่วยงานฉันก็ตอบตกลงแบบงง ๆ แต่ไม่คิดว่าจะได้มางานวันเกิดนี่" ยัยแฟนพูดพลางกระดกเครื่องดื่มสีอำพันลงคอ
"พอดีเจ้าถิ่นกับเรดาห์มาไม่ได้ เห็นบอกกลับต่างจังหวัด พี่กลัวเราเหงาเลยชวนคุณแฟนมาด้วยน่ะ" พี่เหมันต์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามฉันอธิบาย อ่อเป็นแบบนี้นี่เอง แต่ก็ดีแล้วล่ะฉันจะได้มีเพื่อน
"เมื่อกี้แฟนน้องน้ำแข็งเหรอครับ" พี่เทอร์โบที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พี่เหมันต์ถามขึ้น หรือว่าพี่เขาจะเห็นพี่เอิร์ธกับพี่เอลฟ์?
"อ๋อเปล่าค่ะ นั่นพี่ชายน้ำแข็งเองแล้วก็เพื่อนพี่ชายน้ำแข็งเขามาส่งน่ะค่ะ น่าจะรอรับน้ำแข็งกลับด้วยแหละเพราะเห็นไปหาที่นั่งดื่มกันด้วย" ฉันตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะมองไปยังทิศทางที่พวกพี่ชายฉันนั่งอยู่
"ไอ้นี่ก็พูดไม่คิดแฟนบ้าอะไรจะมาส่งพร้อมกันสองคน" พี่พายุที่นั่งคลอเคลียกับผู้หญิงสองคนเอ่ยขึ้นบ้าง
"อ้าวมึง กูก็คิดว่าคนใดคนนึงไงที่เป็นแฟนน้องเขาอะ" พี่เทอร์โบหันไปคุยกับพี่พายุ
"แล้วนี่เมื่อไหร่ไอ้อัคคีมันจะมาวะ รอผับปิดก่อนหรือไงแม่ง" พี่เหมันต์บ่นพลางหันซ้ายหันขวาเหมือนกำลังมองหาคนที่พูดถึงอยู่ พอได้ยินชื่อเขาฉันก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา หวังว่าคงมาตอนผับปิดจริง ๆ นะจะได้ไม่ต้องเจอกัน
ตุบ!
แต่แล้วเสียงกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีทองก็หล่นลงกลางโต๊ะที่พวกเรานั่งอยู่ คนที่โยนลงเป็นใครไม่ได้เลยนอกจากคนที่เพิ่งถูกพูดถึงไปเมื่อกี้นี้
"ไอ้ห่ากูคิดว่ามึงจะมาปิดผับช่วยเด็กเสริฟ์ซะอีก" พี่เทอร์โบพูดแซวคนมาใหม่ด้วยท่าทีกวน ๆ ขณะที่เจ้าตัวนั้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามยัยแฟนพร้อมกับเหลือบมองมาที่ฉันเล็กน้อย
"รถติดน่ะ โทษทีมึง" คนถูกว่าหันไปบอกพี่เหมันต์
"แล้วนี่มึงห่ออะไรให้กูวะ แหวนแต่งงานเหรอทำไมกล่องเล็กงี้?" พี่เหมันต์ยกกล่องของขวัญขึ้นพลางพลิกไปมาราวกับกำลังสำรวจว่าด้านในเป็นอะไร
"ถุงยางอนามัยไง กูรู้ว่ามึงใช้บ่อยเลยซื้อมาให้" อัคคีตอบติดตลก
"รู้ใจกูจริง ๆ มึงเนี่ย" พี่เหมันต์หันพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะข้าง ๆ ที่มีสาว ๆ นั่งยิ้มให้พี่เขา กล่องของขวัญขนาดเล็กนั่นพี่เหมันต์ก็ถือมันติดมือไปด้วย ชักสงสัยแล้วสิว่าเขาเอาถุงยางอนามัยห่อให้พี่เหมันต์จริง ๆ
"เออ พวกมึงเดี๋ยวกูเปิดห้องแป๊บนะ" พี่พายุพูดขึ้นบ้างก่อนจะโอบเอวสองสาวทรงโตเดินหายเข้าไปในโซนหนึ่ง ถ้าให้เดาก็คงไม่พ้นเรื่องเดียวกันกับที่พี่เหมันต์จะทำสินะ
"แก เราลงไปแดนซ์กันเถอะ ข้างล่างคนเยอะมากเลยอะ ถ้าจะสนุก" ยัยแฟนที่นั่งข้าง ๆ ฉันกระซิบเบา ๆ พร้อมบุ้ยปากลงไปยังชั้นล่าง ตอนนี้ผู้คนกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกตามเสียงดนตรีและแสงไฟหลากสีที่กระพริบตามจังหวะ
"ไม่อะ แกไปเหอะ" เพราะฉันไม่ชอบคนเยอะ ๆ ขอนั่งเงียบ ๆ ตรงนี้สักพักแล้วค่อยขอตัวกลับบ้านดีกว่า
"ไอ้เทอร์โบ เอาอีกแล้วนะมึง! แดกเหล้าทีไรคอพับทุกที" นั่งมองคนนั้นคนนี้เดินผ่านไปมาและนั่งฟังเพลงเคล้ากับบรรยากาศไปได้สักพัก เสียงคนบางคนที่นั่งอยู่ก็พูดขึ้นขณะที่เจ้าตัวกำลังจัดแจงให้พี่เทอร์โบนอนบนโซฟาดี ๆ ตอนนี้คนที่มีสติอยู่คงมีแค่ฉันกับอัคคีและมันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดเป็นบ้า
น้ำแข็ง...เช้าวันอาทิตย์ที่ฉันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อลงมารอพี่เอิร์ธหน้าคอนโดยัยแฟน วันนี้พี่เอิร์ธมารับฉันแต่เช้าเพราะจะแนะนำฉันให้รู้จักเพื่อนพี่เอิร์ธที่เพิ่งกลับมาจากฮ่องกง แล้วก็อยากให้ฉันกลับไปอยู่เป็นเพื่อนคุณน้าในช่วงกลางวันด้วยเพราะยังไงแล้วคืนนี้ฉันต้องกลับไปค้างที่บ้านอยู่ดีปริ๊นๆ! เสียงแตรรถพี่เอิร์ธดังขึ้นเมื่อมาจอดตรงหน้าฉัน"ไงเรารอพี่นานมั้ย" พี่เอิร์ธลดกระจกรถลงมาก่อนจะโผล่หน้าออกมาถามฉัน"ไม่ค่ะ ว่าแต่พี่เอิร์ธมากับ..." หรือว่าคนนี้เป็นเพื่อนที่จะแนะนำให้ฉันรู้จัก?"ผะ... / เพื่อน" ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบผู้ชายหน้าตี๋หล่อเกาหลีผิวขาวที่นั่งข้าง ๆ พี่เอิร์ธก็ทำท่าชะโงกหน้ามาตอบฉัน แต่ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะพูดพี่เอิร์ธก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน สรุปว่าเป็นเพื่อนพี่เอิร์ธสินะหล่อดีแต่ดูท่าทางเขาจะไม่ค่อยชอบฉันเท่าไหร่ ดูจากสีหน้าหงุดหงิดกับสายตาเพชรฆาตรที่ส่งมาให้ฉันนั่นแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฮะ"น้ำแข็ง นี่ไอ้เอลฟ์เพื่อนพี่" เมื่อฉันขึ้นไปนั่งประจำเบาะหลังเรียบร้อยแล้วพี่เอิร์ธที่ทำหน้าที่รถอยู่ก็เอ่ยขึ้น"สวัสดีค่ะ หนูชื่อน้ำแข็งนะคะ เป็นน้องสาวพี่เอิร์ธ" ฉันแนะนำตัวเองผ่าน
อัคคี..."ไอ้เห รุ่นน้องมึงเขาคบกับแฟนนานยังวะ" อยู่ ๆ ผมก็ถามในสิ่งที่ผมอยากรู้ขึ้นมา"คนไหนวะ น้ำแข็งเหรอ" มันหันมาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งให้ผมก่อนจะหันไปขับรถต่อ ไอ้เหมันต์กับเพื่อน ๆ คนอื่นไม่รู้ว่าผมกับน้ำแข็งเคยเป็นอะไรกันมาก่อน เรื่องนี้มีแค่ผมกับน้ำแข็งเท่านั้นที่รู้"เออคนนั้นแหละ""ก็คบกันนานแล้วนะ ตั้งแต่ประถมมั้งถ้าจำไม่ผิด" เหี้ย! นี่หมายความว่าตลอดเวลาที่ยัยนั่นคบกับผม ยัยนั่นก็มีแฟนอยู่แล้วเหรอวะ โห... นี่ผมโดนสวมเขามาตลอดเลยเหรอ ผมคิดว่าผมเป็นแรกของเธอเสียอีก"มึงเป็นเหี้ยไรทำหน้าแบบนั้น" คนข้าง ๆ หันมาเลิกคิ้วใส่ก่อนจะหนี่ตามองผมอย่างจับผิด"เปล๊า แล้วมึงรู้ได้ไงว่ายัยนั่น เอ้ยรุ่นน้องมึงคบกับแฟนมาตั้งแต่ประถมแล้วอะ ไหนมึงบอกว่าเพิ่งรู้จักน้องเขาตอนเข้ามหาลัยไงวะ" ผมปรับสีหน้าให้เป็นปกติอีกครั้งก่อนจะถามมันต่อ"น้องเขาเล่าให้กูฟัง อีกอย่างเขาอยู่บ้านข้างกันตอนที่อยู่ต่างจังหวัดอะนะ หมายถึงก่อนที่น้ำแข็งจะย้านมาอยู่ที่กรุงเทพอะเคยอยู่บ้านข้างแฟนมาก่อน""เหรอ..." ผมพยักหน้าเบา ๆ ให้กับคำตอบของมันงั้นงานนี้ก็ยากนะสิถ้าสองคนนั้นคบกันตั้งแต่ประถมก็คงยากที่จะเลิกกัน ตอนที่ผม
น้ำแข็ง..."อิ่มยัง?" ฉันถามผู้ชายตรงหน้าเมื่อเห็นว่าข้าวในจานเขาหมดแล้ว อีกอย่างฉันไม่อยากนั่งกับเขานานนักเพราะรู้สึกอึดอัดเวลาเห็นหน้าเขา"อื้ม" คนตรงหน้าตอบสั้น ๆ ก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วเดินตามฉันมา ด้านหลังโรงอาหารเป็นตึกผู้ป่วยที่กำลังสร้างใหม่ ตึกที่พี่เหมันต์มาตรวจงานวันนี้ ฉันไม่แน่ใจนักว่าเขารู้จักทางมาตึกนี้ไหมเพราะไม่ได้ถามแต่ตัดสินใจเดินมาส่งเขาเอง"คุยกันก่อนมั้ยน้ำแข็ง" เสียงทุ้มของคนที่เดินตามหลังฉันมาพูดขึ้น ฉันไม่ได้หันไปมองหน้าเขาแต่เดินต่อไปเรื่อย ๆ"ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย"หมับ!พูดจบมือใหญ่ของคนที่ก้าวเท้าฉับ ๆ เข้ามาใกล้ก็รั้งข้อมือของฉันเอาไว้จนเราต้องหันไปสบตากัน ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อหรือไม่ได้ขัดขืนแต่ยืนมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้นเพราะรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะต้องทะเลาะ"แต่ฉันอยากคุยกับเธอ" คนตรงหน้าพูดพลางจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ทำให้ฉันรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ อย่างบอกไม่ถูก ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่รู้แค่ว่าตอนนี้ท่าทางของเขาเองก็คงไม่ได้อยากทะเลาะกับฉัน"ปล่อยฉันไปเถอะนะอัคคี เราอย่ายุ่งเกี่ยวกันอีกเลยฉันขอร้อง" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายก่อนจะชักมือก
น้ำแข็ง...ฉันกับยัยแฟนแยกกันตรงหน้าตึกผู้ป่วยในเพราะยัยแฟนทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพยาบาล ส่วนฉันช่วยดูแลคนไข้ที่มาทำแผลอยู่อีกด้าน คอยหยิบจับนู่นนี่นั่นส่งให้คุณหมอแล้วก็ช่วยทำแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนไข้"อ้าวน้ำแข็งมาทำงานเหรอ" พี่เหมันต์ที่เดินสวนฉันถามขึ้น ช่วงนี้พี่เหมันต์เข้ามาที่นี่บ่อยเพราะจะรับช่วงต่อจากคุณลุงหลังจากที่เรียนจบ ซึ่งก็หมายความว่าอีกแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น"ใช่ค่ะ พี่เหมันต์จะกลับแล้วเหรอคะ""ยังหรอกวันนี้พี่มาดูตึกผู้ป่วยที่กำลังสร้างใหม่แทนพ่อน่ะ ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยว่างพี่เลยมาดูแทน" อ่อ ตึกผู้ป่วยที่สร้างใหม่ท้ายสวนหย่อมสินะ"ไอ้เหมันต์เมื่อไหร่มึงจะพากูไปกินข้าวเนี่ย ลากกูมาเป็นเพื่อนตั้งแต่เช้ายันเที่ยงให้กูกินแค่แซนวิชอันเดียวเองนะมึง" ขณะที่ฉันกำลังยืนคุยกับพี่เหมันต์อยู่ เสียงของใครบางคนที่เดินบ่นตามพี่เหมันต์มาก็ดังขึ้นพอหันไปมองถึงได้รู้ว่าเป็นเขา... นายอัคคี!"เออ ๆ บ่นเป็นคนแก่ไปได้ไอ้ห่า ปะน้ำแข็งไปกินข้าวเป็นเพื่อนพวกพี่หน่อยพี่ไม่ค่อยได้ไปโรงอาหารน่ะ พาไปที" ฉันพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้พี่เหมันต์ที่ชวนฉันไปกินข้าวด้วย ก่อนจะเดินนำหน้าผู้ชายสองคนไปยังโรงอาหา
น้ำแข็ง..."พี่เอิร์ธมาได้ยังไงคะ แล้วรู้ได้ไงว่าน้ำแข็งอยู่ที่นี่" ฉันหันไปถามคนข้าง ๆ ที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่"เพื่อนเราโทรมาบอกพี่น่ะ เห็นบอกว่าคืนนี้น่าจะยังไม่กลับง่าย ๆ เลยให้พี่ไปรับเราที่ร้านหมูกะทะ" คนถูกถามหันมาตอบก่อนจะหันไปสนใจถนนตรงหน้าแล้วถามต่อ"ว่าแต่เราจะกลับเลยหรือไปไหนต่อหรือเปล่า""งั้นกลับบ้านเลยก็ได้ค่ะ ทีแรกน้ำแข็งว่าจะไปค้างกับแฟนน่ะ""แล้วคนเมื่อกี้... ใช่เจ้าของเกียร์ที่ห้อยคอเราอยู่หรือเปล่า" พี่เอิร์ธถามต่อทั้ง ๆ ที่สายตาของพี่เขายังจับจ้องไปที่ถนน คงไม่ผิดถ้าพี่เขาจะถามเพราะฉันเรียนคณะแพทย์แต่มีเกียร์สวมที่คอมาตลอดหลายปี เกียร์นี้เป็นสัญลักษณ์ของคณะวิศวกรรมศาตร์ คนคนนึงให้ฉันเก็บรักษามันเอาไว้หลังจากที่เขาได้รับมัน และฉันก็ดูแลมันเป็นอย่างดีแม้ว่าตอนนี้เจ้าของมันจะทิ้งมันไปแล้วก็ตาม"ค่ะ" ฉันตอบแบบไม่หันไปสบตากับพี่เขา ก่อนจะหลุบตาลงมองมือทั้งสองข้างที่กุมกันอยู่บนตักด้วยความรู้วสึกหน่วงใจอย่างบอกไม่ถูก จากที่คิดว่าลืมเรื่องนี้ไปแล้วแต่อยู่ ๆ ก็กลับมานึกถึงมันอีก"พี่เอิร์ธจะไม่ดุน้ำแข็งหน่อยเหรอคะ" ฉันหันไปถามคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้วางมือข้างหนึ่งลงบนศีรษะฉันแล้
อัคคี...วันนี้หลังจากเลิกเรียนแทนที่ผมจะได้กลับไปนอนเปื่อยที่คอนโดแต่ไอ้พวกเพื่อนตัวดีกลับลากผมมากินหมูกระทะซะงั้น พอจะปฏิเสธมันก็บอกว่าวันนี้จะแนะนำรุ่นน้องให้รู้จักผมก็เลยต้องมาร้านที่พวกเรามานั่งกันเป็นร้านหมูกะทะเจ้าประจำที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยนัก ดีหน่อยที่มาตอนร้านเพิ่งเปิดคนก็เลยไม่เยอะเท่าไหร่"ทางนี้ ๆ" เสียงไอ้เหมันต์ตะโกนเรียกใครสักคนพลางโบกไม้โบกมือให้กัน ผมหันไปมองกลุ่มคนมาใหม่สามคนด้วยใบหน้าเรียบเฉยพลางเหลือบตาไปมองผู้หญิงคนนึงที่ตอนนี้เดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผม"นั่งเลย ๆ เอาอะไรเพิ่มมั้ยพี่จะได้สั่ง" ไอ้เหมันต์ลุกขึ้นจัดที่ทางให้สามคนที่มาใหม่ พลางส่งเมนูให้ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานให้มาเพิ่มแก้วเครื่องดื่มให้"นี่รุ่นน้องกูนะพวกมึง" หลังจากที่มันคุยกับพนักงานเสร็จมันก็พูดต่อพร้อมกับบุ้ยปากไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งยิ้มอยู่"คนเปรี้ยว ๆ แซ่บ ๆ นี่ชื่อน้องเรดาห์พวกมึงคงรู้จักใช่มั้ย" ไอ้เหมันต์แนะนำรุ่นน้องผู้หญิงหน้าสวยคนหนึ่งซึ่งผมจำได้ว่าเธอเป็นนางแบบชุดว่ายน้ำที่กำลังดังในตอนนี้ แต่แปลกแฮะทำไมมาเรียนหมอ"ส่วนคนนี้ที่น่ารัก ๆ ตัวเล็ก ๆ หน่อย ชื่อน้องเจ้าถิ่นแล