FAZER LOGINบทที่ 5 ตายแล้วกล้วยทอด
หลังจากหาหมอเสร็จ ลูคัสก็ให้ลูกน้องจัดการขับรถมาส่งธารน้ำถึงหน้าคอนโดหรูอย่างรวดเร็ว พอรถเก๋ง BMW จอดเทียบ เขาก็ลดกระจกแล้วพูดสั้นๆ ว่า “ถึงแล้ว” ก่อนจะเหยียบคันเร่งขับออกไปอย่างรวดเร็ว ธารน้ำยืนงงอยู่หน้าคอนโด ได้แต่กะพริบตาปริบๆ ‘อะไรเนี่ย... รีบไปไหนของเขา’ พลางหันกลับไปที่ลานจอดรถของอาคาร และก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถมอไซด์เวสป้าคู่ใจสีเหลืองที่เขาตั้งชื่อเล่นว่า 'น้องฟักทอง' จอดอยู่ในช่องจอดเรียบร้อย ‘เอ๊ะ! เขารู้ได้ไงวะ ว่ารถเราจอดอยู่ตรงไหน แต่ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันก็ทำให้เขาเลิกสนใจความสงสัยนั้นไปในทันที ‘ช่างเถอะ! ขอขึ้นห้องนอนก่อนละกัน’ ว่าแล้วก็เดินกะเผลกๆ ตรงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 20 ทันที ทันทีที่เข้าห้อง ธารน้ำก็รีบตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนเลย วันนี้เจอศึกหนักมาทั้งวัน ทั้งเข้างานสาย รถชน เจ็บตัว แถมยังต้องมานั่งเถียงกับผู้ชายหน้าหล่อที่กวนประสาทเป็นที่หนึ่งอีก ‘เอ๊ะ หรือเราจะโทรหาแม่ก่อนดี? ไม่สิ... อาบน้ำก่อนดีกว่า!’ เขาใช้เวลาอาบน้ำเกือบชั่วโมง ไม่ใช่อะไรนะ... ลีลาจ้า! เนอะ ตามประสาคนหล่อที่ดูดีทุกอณูอย่างเขา ก็ต้องพิถีพิถันหน่อย! พออาบน้ำเสร็จ เขาก็รีบคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอวไว้ ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์หัวเตียงเพื่อต่อสายหาคุณนายแม่ที่บ้านทันที “ฮัลโหลค้าบคุณนายที่รักของลูก!” ธารน้ำกรอกเสียงหวานใส่โทรศัพท์ “ว่าไงครับ ลูกหมู ตัวแสบของแม่” เสียงตอบรับของมารดาเต็มไปด้วยความเอ็นดู “แม่อ่ะ! เลิกเรียกได้แล้ว” ธารน้ำงอแงเล็กน้อย “ฮ่าฮ่า แม่หยอกเล่นจ้ะ ว่าไงจ้ะ” “ผมทำงานแล้วนะครับ วันนี้วันแรกที่บริษัท” “โอเคไหมจ้ะ มีอะไรติดขัดหรือเปล่า” “โอเคครับ... แต่... เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย” ธารน้ำเลือกจะเล่าเพียงครึ่งเดียว “อะไรนะ! แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าจ้ะ เกิดอะไรขึ้น!” เสียงคุณนายแม่เริ่มร้อนรนขึ้นมาทันที “ไม่ครับ! หนูแค่ขับรถไปชนท้ายคนอื่นเบาๆ” “ตาเถร! ตายแล้ว! เป็นอะไรมากหรือเปล่าลูก! ข้อไม้ข้อมือ! ขาแขน! ทำไมไม่ระวังตัวเลย!” “ไม่ครับ คุณนายไม่ต้องเป็นห่วงนะ เขาพาหนูไปโรงพยาบาลตรวจแล้ว ไม่เป็นอะไรเลยครับ” ธารน้ำรีบยืนยัน “ไม่ต้องทำแล้วมั้งงานนี้ กลับมาช่วยแม่ทำขนมดีกว่าไหมลูก” เสียงมารดาเริ่มอิดออดและไม่ไว้วางใจ “ไม่ครับ! หนูอยากทำงานตรงนี้! ผมอยากพิสูจน์ตัวเอง” ธารน้ำรีบปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะรู้ว่าถ้าตอนนี้ยอมแพ้ ก็จะไม่มีทางได้กลับไปทำงานนี้อีก “เห้อ! แม่จะพูดกับเรายังไงดีเนี่ย” “นะ ๆ คุณนายสุดสวย ให้หนูได้ทำงานตรงนี้นะ สัญญาว่าจะระวังให้มากกว่านี้” “เห้อ…ต่อไปต้องระวังให้มากกว่านี้นะ” “โอเคครับ รักคุณนายนะครับ บาย” ธารน้ำรีบตัดบทก่อนที่แม่จะเปลี่ยนใจและบังคับให้เขากลับบ้าน “จ้ะ ดูแลตัวเองด้วย” ติ๊ด! เกือบแล้วไหมล่ะ! เกือบไม่ได้ทำงานตรงนี้แล้วเรา งานที่ว่าเข้ายากแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่แบบนั้นใช่ว่าจะรับใครเข้าทำงานง่ายๆ! ธารน้ำถอนหายใจยาว ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆ ‘นอนดีกว่า พรุ่งนี้มีงาน งือ... แต่เจ็บตัวอ่ะ’ เขาบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่ความเหนื่อยล้าและความเจ็บแปลบๆ ที่ข้อเท้าค่อยๆ ดึงให้เขาเข้าสู่ห้วงนิทรา . . . เช้าวันใหม่มาถึงอย่างรวดเร็ว วันนี้แหละที่ ธารน้ำ ตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปถึงออฟฟิศแต่เช้าตรู่ แม้ว่าร่างกายจะยังระบมเล็กน้อยจากการบาดเจ็บเมื่อวานก็ตาม เขาค่อยๆ ลืมตาตื่น ลากร่างอันอวบอั๋นแต่ดูดีของตัวเองไปอาบน้ำเพื่อปลุกความสดชื่นเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในเช้านี้ เมื่อจัดการกับร่างกายและแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินออกจากห้องมาที่ลิฟต์ มุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถ ทันทีที่เห็น น้องฟักทอง รถคู่ใจสีส้มเหลืองก็จอดเด่นสวยสง่าราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เมื่อวานมันเพิ่งไปชนท้ายใครบางคนมาแท้ๆ ‘แต่ตาหน้ายักษ์เอาไปซ่อมให้จนสวยใสเหมือนเดิมขนาดนี้’ เขาจัดการหยิบกุญแจเสียบที่รถมอเตอร์ไซค์เวสป้าคันงาม ก่อนจะคว้าหมวกกันน็อกสีเหลืองอร่ามสีเดียวกับตัวรถขึ้นสวมทันที แล้วรีบขี่ตรงไปยังบริษัททันท่วงที เมื่อไปถึงออฟฟิศ เขาก็เดินไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังแผนกตัวเอง ทันทีที่ก้าวออกจากลิฟต์ เขาก็เห็นว่าตัวเองมาเช้าแล้ว... แต่ พี่ชมพู่ พนักงานรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ก่อนหน้ายังคงมาเช้ากว่าเขาอยู่ดี “สวัสดีครับพี่ชมพู่คนสวย!” ธารน้ำทักทายอย่างอารมณ์ดี “สวัสดีจ้ะเจ้าเด็กน้อย วันนี้มาแต่เช้าเลยนะ กลัวพี่เพ็ญเรียกไปดุเรื่องเข้าสายอีกแล้วใช่ไหม” ชมพู่เอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มอย่างขบขัน เพราะเมื่อวานธารน้ำถูกตำหนิเรื่องมาสายเป็นวันแรกของการทำงาน “ครับ! ไม่อยากโดนดุแล้ว ผมจะตั้งใจทำงานครับ” “มาๆ นั่งก่อนเลย พี่มีเรื่องเด็ดจะเล่าให้ฟัง” แค่คำว่า ‘มีเรื่องจะบอก’ ก็ทำให้ประสาทการรับรู้ข่าวสารของธารน้ำถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาจึงรีบดึงเก้าอี้ออกมานั่งตรงหน้าพี่ชมพู่ด้วยท่าทางที่สนใจอย่างยิ่ง “เรื่องอะไรครับพี่!?” “รู้แล้วเงียบไว้เลยนะ ห้ามแพร่งพราย” พี่ชมพู่กระซิบด้วยสีหน้าจริงจัง “ครับผม!” ธารน้ำรับคำอย่างหนักแน่น “ข่าววงในสุดๆ บอกมาว่า คนที่จะมาบริหารบริษัทของเราทั้งหมดน่ะ เขามาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และเขากำลังจะเข้ามาบริหารงานทุกอย่างด้วยตัวเองเลยนะ พูดง่ายๆ คือย้ายจากอิตาลีมาประจำการที่นี่ถาวร” “โอ้ย! ตายแล้วกล้วยทอด!” ธารน้ำอุทานออกมาด้วยความตกใจ “ใจเย็นน่า แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ยังไม่มีใครเคยเห็นหน้าเขาเลยนะ ตั้งแต่มาถึง” “จริงดิพี่!?” “ใช่สิ” “ทำไมถึงไม่มีใครเคยเห็นหน้าเขาเลยอ่ะ” ธารน้ำถามด้วยความสงสัยสุดขีด “คนนี้เขาค่อนข้างเก็บตัวมากๆ เลยล่ะ ได้ยินว่าเป็นลูกชายของคุณมัตเตโอ้ เจ้าของบริษัทใหญ่ของเรานี่แหละ” “ครับ” เมื่อพูดจบ ธารน้ำก็หันไปฟุบลงกับโต๊ะทำงานอย่างหมดอาลัยตายอยาก ‘อยากจะบ้าจะตาย ทำไมกันนะ... ช่วงนี้ชีวิตของธารน้ำผู้น่าสงสารคนนี้ถึงมีแต่เรื่องวุ่นวายกันนักนะ’ เศร้า! เห้อ! ถึงจะเศร้าแค่ไหน เขาก็ยังต้องทำงานอันเป็นที่รักต่อไปอย่างตั้งใจอยู่ดีบทที่ 9 ขยันแกล้ง พาร์ทลูคัส ผมรู้อยู่แล้วว่าเด็กอ้วนจะต้องหาทางหลบหน้าผมหลังเลิกงาน ผมเลยมาแอบดักรอไว้ที่ลานจอดรถ การเคลื่อนไหวทุกอย่างของเจ้าตัวอยู่ในสายตาผมทั้งหมด ผมจึงตั้งใจแกล้งเข้าไปจับคอเสื้อด้านหลัง เพื่อทำให้เด็กคนนี้ตกใจเล่นที่ไหนได้... เจ้าตัวกริ๊ดเสียงดังจนหูผมเกือบดับ แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะถึงจะเสียงดังแค่ไหน ผมก็ยังคงชอบที่จะแกล้งอยู่ดีผมรู้ดีว่าเด็กตรงหน้าไม่ค่อยพอใจเรื่องที่ผมปิดบังสถานะตัวเอง ถ้าผมบอกความจริงทั้งหมดว่าผมต้องพัวพันกับธุรกิจแบบไหน คนตรงหน้าก็จะกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ผมอีก และนั่นคือสิ่งที่ผมทำใจยอมรับไม่ได้เด็ดขาด ผมพยายามหักห้ามใจไม่ให้ตามไปวุ่นวายกับน้อง แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความต้องการของตัวเองผมเลยแกล้งขอนั่งมอเตอร์ไซค์ไปด้วย ทั้งที่รู้ว่าเจ้าของรถไม่อยากให้ไป แต่มีหรือที่คนอย่างผมจะฟังเสียงคัดค้าน ตลอดทางผมจงใจจับเอว... จะเรียกว่าเอวไหมนั้นก็ไม่รู้ หึหึ แต่พุงเด็กนี่นุ่มนิ่มไปหมด สัมผัสที่ได้ช่างน่าหลงใหลจนอยากจะจับกดคาเตียงฟังแล้วเหมือนผมเป็นคนเลว... มันก็เลวจริง ๆ นั่นแหละ ทั้งธุรกิจสีเทา ธุรกิจมืด ไหนจะต้องจัดการคนที่มาขัดผลประโยชน์จนถึง
บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ หลังเลิกงานเย็น ธารน้ำรีบเก็บข้าวของทุกอย่างใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่ลานจอดรถ เขารีบคล่อมน้องฟักทองมอเตอร์ไซค์คู่ใจทันที เขากลัวว่าถ้าชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว จะต้องเผชิญหน้ากับ ลูคัส ผู้บริหารปากแข็งที่หลอกลวงเขาอีกครั้ง ระหว่างที่กำลังจะสตาร์ทรถอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีมือหนาใหญ่เอื้อมมาจับคอเสื้อด้านหลังของเขาไว้แน่นกริ๊ดดดด!ธารน้ำร้องเสียงหลงด้วยความตกใจจนตัวโยน นึกว่าโดนผีอำหรือโดนใครมาทำร้ายยามวิกาล“อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ! เดี๋ยวลูกช้างจะทำบุญไปให้! ฮือๆ”“พี่เอง! จะร้องทำไมเนี่ย”เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ด้านหลัง“เอ้า! แล้วใครเขามาเงียบๆ แบบนี้ล่ะ! ตกใจหมด!” ธารน้ำหันไปโวยวายทันที แต่ก็ยังไม่วายส่งค้อนวงใหญ่ให้คนด้านหลัง“ถ้าไม่มาแบบนี้จะรู้ได้ยังไง ว่าเราไม่อยากเจอหน้าพี่” ลูคัสตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ก็ไม่อยากเจอไง! ไม่เข้าใจที่พูดเหรอไง!” “ไม่!”“ปล่อยนะ! จะกลับบ้าน!”“เดี๋ยวไปส่ง”“ไม่ไปกับคนแปลกหน้า!” “เหรอ”พูดไม่ทันขาดคำ ร่างสูงที่รั้งคอเสื้อเขาไว้ก็จัดการปล่อยมือออก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกระโดดขึ้
บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่แฮ่ก... แฮ่ก...เสียงหอบหายใจหนักๆ ดังมาจากร่างของคนตัวอ้วนที่เพิ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้าลิฟต์มาอย่างรวดเร็ว และรีบเดินกะเผลกๆ ไปที่แผนกด้วยความเร่งรีบ เขาเหนื่อยจากการวิ่งหนี ลูคัส บนดาดฟ้า แถมยังไปกวนประสาทร่างสูงคนนั้นเข้าอีก คิดแล้วก็หมั่นไส้ คนอะไรถามดีๆ ก็ไม่ยอมบอกความจริง ให้เราทำแผลให้ตั้งนาน แต่ก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยว่าไปโดนอะไรมา มันน่าตีจริงๆ!พอเดินมาถึงที่โต๊ะทำงาน พี่ชมพู่ ก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเขาแทบจะทันทีแฮ่ก... แฮ่ก…“เจ้าเด็ก! เตรียมตัวเร็ว!”“มีอะไรครับพี่ชมพู่”“เรียกประชุมด่วน! ผู้บริหารคนใหม่เรียกแผนกของเราทั้งหมดให้เข้าไปประชุมตอนนี้เลย!”“โอ๊ย! เหนื่อยหายใจไม่ทันแล้วเนี่ย” ชมพู่โอดครวญ“ใจเย็นสิครับ หายใจลึกๆ” ธารน้ำพยายามปลอบ แต่สายตาก็ยังเร่งเร้า“ไปเร็ว! เดี๋ยวโดนหาว่าไปสายนะ”“ครับ!”มาแบบนี้ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย เมื่อกี้ก็ว่าเหนื่อยจากการวิ่งหนีไอ้คนปากแข็งบนดาดฟ้าแล้ว นี่พี่ชมพู่ยังพาเหนื่อยอีกรอบเพราะความรีบร้อน ‘โอ้ย! ทำไมกันนะ ชีวิตของไอ้ธารน้ำคนนี้มักจะมีแต่เรื่องให้วิ่งเข้าใส่จังเลย’ เรียกประชุมอะไรเอาตอนนี้ แทนที่จะเรียกตั้งแต่เช
บทที่ 6 กลับมาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ที่พี่ชมพู่กระซิบบอกเรื่องข่าววงในเกี่ยวกับการเข้ามาของผู้บริหารคนใหม่ ธารน้ำก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววของใครคนนั้น หรือว่าเขาจะเปลี่ยนใจกลับอิตาลีไปแล้ว? ช่างเถอะ... มันไม่ใช่เรื่องของเขาแต่สิ่งที่น่าแปลกใจและทำให้ธารน้ำเป็นกังวลมากกว่าคือ ลูคัส ตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุแล้วลูคัสมาส่งเขาที่คอนโด ชายหนุ่มคนนั้นก็หายตัวไปดื้อๆ เหมือนไม่เคยมีตัวตน ธารน้ำตั้งใจว่าจะติดต่อเขาเพื่อสอบถามเรื่องค่าซ่อมรถเก๋งที่โดนชนท้าย และค่าซ่อมมอเตอร์ไซค์ของเขาเองที่จู่ๆ ก็กลับมาสวยปิ๊งเหมือนใหม่... แต่ก็ไม่รู้จะตามหาได้ที่ไหนไปดูที่ลานจอดรถของบริษัทก็ไม่เห็นรถสปอร์ตคันหรูของเขาเลย ‘เอ๊ะ! หรือว่าโดนไล่ออกไปแล้วนะ’ ความคิดผุดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง แต่ก็รีบสะบัดมันทิ้งไปว่าแล้วเขาก็กลับมาก้มหน้าทำงานของตัวเองต่ออย่างตั้งใจ แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะเสียงเรียกของพี่ชมพู่ที่ดังขึ้นข้างๆ“เจ้าเด็กๆ!”“ครับ?”ธารน้ำหันไปมองด้วยความสงสัยเต็มที่ เพราะอยู่ดีๆ พี่ชมพู่ก็หันมาหาเขาด้วยสีหน้าตื่นเต้นและตกใจราวกับเพิ่งเจอเรื่องเหลือเชื่อมา
บทที่ 5 ตายแล้วกล้วยทอด หลังจากหาหมอเสร็จ ลูคัสก็ให้ลูกน้องจัดการขับรถมาส่งธารน้ำถึงหน้าคอนโดหรูอย่างรวดเร็ว พอรถเก๋ง BMW จอดเทียบ เขาก็ลดกระจกแล้วพูดสั้นๆ ว่า “ถึงแล้ว” ก่อนจะเหยียบคันเร่งขับออกไปอย่างรวดเร็วธารน้ำยืนงงอยู่หน้าคอนโด ได้แต่กะพริบตาปริบๆ ‘อะไรเนี่ย... รีบไปไหนของเขา’ พลางหันกลับไปที่ลานจอดรถของอาคาร และก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถมอไซด์เวสป้าคู่ใจสีเหลืองที่เขาตั้งชื่อเล่นว่า 'น้องฟักทอง' จอดอยู่ในช่องจอดเรียบร้อย ‘เอ๊ะ! เขารู้ได้ไงวะ ว่ารถเราจอดอยู่ตรงไหน แต่ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันก็ทำให้เขาเลิกสนใจความสงสัยนั้นไปในทันที ‘ช่างเถอะ! ขอขึ้นห้องนอนก่อนละกัน’ ว่าแล้วก็เดินกะเผลกๆ ตรงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 20 ทันทีทันทีที่เข้าห้อง ธารน้ำก็รีบตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนเลย วันนี้เจอศึกหนักมาทั้งวัน ทั้งเข้างานสาย รถชน เจ็บตัว แถมยังต้องมานั่งเถียงกับผู้ชายหน้าหล่อที่กวนประสาทเป็นที่หนึ่งอีก ‘เอ๊ะ หรือเราจะโทรหาแม่ก่อนดี? ไม่สิ... อาบน้ำก่อนดีกว่า!’เขาใช้เวลาอาบน้ำเกือบชั่วโมง ไม่ใช่อะไรนะ... ลีลาจ้า! เนอะ ตามประสาคนหล่อที่ดูดีทุกอณูอย่างเขา ก็ต้องพิถีพิถันหน่อย! พออาบน้ำเส
บทที่ 4 คุณเป็นใครกันแน่โห..รถอย่างสวย!ทันทีที่ธารน้ำก้าวขึ้นมานั่งในรถ เบาะหนังนุ่มนิ่มหอมกลิ่นใหม่ ๆ ทำเอาแทบอยากกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ตรงนั้นเลยทีเดียวแม่เจ้า... รถหรูขนาดนี้ คนขับก็หล่อ ลูกน้องยังดูดีอีก นี่มันชีวิตในฝันของใครสักคนแน่ ๆ แต่ทำไมมันดันเป็นเขานะ เขาเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แอบสำรวจเงียบ ๆ ตั้งแต่ข้างล่างขึ้นบนสูทดี น้ำหอมแพง หน้าแบบนี้ไม่ได้อยู่แผนกเดียวกับพี่เพ็ญแน่ ๆ …แต่ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี ว่าแล้วก็เปิดบทสนทนาเลยดีกว่า“เอ่อ... คุณทำงานแผนกอะไรอ่ะ ถึงได้มีรถหรูแบบนี้?”เสียงถามเต็มไปด้วยความอยากรู้แบบเด็กซื่อ ๆ ที่พยายามทำเนียนไม่ให้ดูอยากรู้อยากเห็นจนเกินไป“ทำไมต้องบอก?”เสียงตอบกลับเรียบเฉย แต่แฝงรอยยิ้มมุมปากบาง ๆ“คุณจะเล่นตัวทำไมเนี่ย เราถามดี ๆ นะ ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วนะ ยังไม่ตอบเลย”ธารน้ำเถียงเสียงอ่อย ๆ พร้อมทำหน้ามุ่ยนิด ๆ เหมือนงอน“ผู้จัดการ”คำตอบสั้น ๆ ทำเอาธารน้ำชะงักไปนิด แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่าคือลูกน้องทั้งสองที่นั่งข้างหน้าดีนกับคาลหันมามองหน้ากันผ่านกระจกมองหลังแทบจะพร้อมกันผู้จัดการ?ในเมื่อเจ้านายตัวจริงคือเจ้าของบริษัททั้งคน จะโกหกท







