หลังจากกินดื่มกันจนจบมื้อค่ำ เพื่อนๆ ก็เริ่มคุยกันถึงการไปต่อที่ผับของคิง เพื่อนสนิทของเบียร์และเน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหาร
“ไปต่อที่ Night Owl ร้านของคิงกันดีกว่า” พี่ตูนเอ่ยขึ้น ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ผับ Night Owl เป็นผับขนาดกลางที่คึกคักไปด้วยแสงสีและเสียงเพลง ริมถนนใหญ่ในย่านที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายวัย เบียร์ขับรถตามหลังกลุ่มเพื่อนไปยังร้าน ทุกคนลงจากรถด้วยอารมณ์สนุกสนานหลังจากดื่มเบียร์กันไปพอหอมปากหอมคอ
ภายในผับ Night Owl ถูกตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น มีผนังอิฐเปลือย โต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้ม และแสงไฟสลัวที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา วงดนตรีสดเริ่มบรรเลงเพลงต้อนรับลูกค้าที่ทยอยเข้ามา ทั้งกลุ่มเพื่อนและคนที่มาเที่ยวกันเป็นคู่
คิง เจ้าของร้านและเพื่อนสนิทของเบียร์ เดินออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มกว้าง
“มาแล้วเหรอวะพวกมึง! ยินดีต้อนรับ” คิงทักทายพร้อมผายมือให้พวกเขานั่งที่โซนวีไอพี
“เออ พลาดได้ไง” เบียร์ยิ้มพลางจับมือทักทายกับคิง
เครื่องดื่มถูกเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว ทุกคนนั่งดื่มและคุยกันอย่างสนุกสนาน ขณะเดียวกันที่โต๊ะข้างๆ เป็นกลุ่มสาวพริตตี้ที่มาฉลองกัน กลุ่มสาวๆ ในชุดเดรสรัดรูปสีดำและสีแดงสั้น กำลังหัวเราะพูดคุยกันเสียงดัง เบียร์อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพวกเธอกำลังสนุกกับการถ่ายรูปและเชียร์ดื่มเครื่องดื่ม
“เอาไงดีวะ น่ารักทุกคนเลย” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นพลางหันไปมองสาวๆ อย่างสนใจ
“มึงก็ลองทักทายดูสิ เผื่อจะได้เบอร์” เนกระซิบพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
เบียร์มองภาพนั้นแล้วยิ้มบางๆ เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่ก็อดขำกับท่าทางของเพื่อนๆ ที่เริ่มคึกคักไม่ได้
วงดนตรีเริ่มเล่นเพลงเร็วขึ้น บรรยากาศในร้านเริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนๆ เริ่มลุกขึ้นไปเต้นบนฟลอร์ ท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงหัวเราะ
“ไปเต้นด้วยกันดิวะ เบียร์” เนสะกิดให้เบียร์ลุกขึ้นไปสนุกด้วย
“ไม่เว้ย ขอเป็นคนดูดีกว่า” เบียร์หัวเราะพร้อมยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม
ท่ามกลางความสนุกสนาน เบียร์นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ เขาเหลือบมองไปยังกลุ่มสาวๆ พริตตี้ที่ยังคงสนุกกับการฉลองและถ่ายรูปอยู่ ก่อนจะหันกลับมานั่งคิดอะไรเพลินๆ พลางยิ้มเบาๆ ความคิดของเขาดูเหมือนจะวนเวียนอยู่กับบางสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดี
บรรยากาศในผับเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ เสียงเพลงดังก้องไปทั่ว แต่เบียร์ยังคงนั่งจิบเบียร์เงียบๆ สายตาเขาเหลือบมองไปยังกลุ่มพริตตี้ที่นั่งฉลองอยู่ใกล้ๆ พวกเธอหัวเราะและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะคนที่ดูโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม เธอสวมเดรสสีแดงเข้ารูป ผมยาวสลวย ดวงตากลมโตเป็นประกาย เธอชื่อ "เมย์" ซึ่งดูจะเป็นจุดสนใจของทุกคนในร้าน
เมย์หันมามองเบียร์ก่อนจะยิ้มเล็กๆ ท่าทางของเขาที่นั่งคนเดียวพร้อมดื่มอย่างเงียบๆ ดูมีเสน่ห์จนเธออดไม่ได้ที่จะสนใจ หญิงสาวยกแก้วค็อกเทลขึ้นจิบ ก่อนจะลุกจากกลุ่มเพื่อน แล้วเดินตรงมาหาเบียร์
“ทำไมถึงนั่งคนเดียวล่ะคะ?” เมย์เอ่ยถามเสียงหวาน พลางขยับตัวเข้ามาใกล้จนปลายผมเธอแทบจะสัมผัสกับไหล่ของเขา เบียร์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หันมามองเธอด้วยสายตาคมกริบ ก่อนจะยิ้มมุมปากเบาๆ
“พวกนั้นลุกไปเต้นกันหมดแล้วน่ะ”
เมย์ยิ้มกลับอย่างยั่วยวน พลางขยับตัวเข้าใกล้อีกจนร่างกายของเธอแทบจะแนบชิดกับเขา ลมหายใจอุ่นๆ ของเธอพัดเข้าที่ใบหูของเขา
“งั้น...คืนนี้ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณดีไหมคะ?”
เบียร์ไม่ตอบทันที เขามองเข้าไปในดวงตาของเธอ ความเย้ายวนในแววตาของเมย์ทำให้เขารู้ดีว่าเธอต้องการอะไร หญิงสาวขยับเข้าใกล้จนริมฝีปากของเธอแทบจะแตะกับริมฝีปากของเขา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เริ่มปรากฏบนใบหน้าของเบียร์
“เธอแน่ใจเหรอว่าจะรับมือกับฉันไหว?" เขากระซิบเสียงต่ำ ท้าทายด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเจ้าเล่ห์
เมย์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบที่แขนของเขาเบาๆ สัมผัสของเธอเต็มไปด้วยความนุ่มนวลและเย้ายวน
“ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกค่ะ” เธอขยับเข้ามาจนริมฝีปากทั้งคู่เกือบจะสัมผัสกัน
เบียร์มองลึกเข้าไปในดวงตาของเมย์ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของเขาทำให้บรรยากาศรอบตัวเริ่มเปลี่ยนเป็นความร้อนแรง สายตาของเขาสำรวจทุกส่วนของเธออย่างชัดเจน แต่ยังคงแฝงความน่าดึงดูดในแบบที่ทำให้เธอรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้
“งั้น...ไปดูซิว่าเธอจะรับมือไหวจริงหรือเปล่า” เบียร์กระซิบอย่างนุ่มนวล แต่แฝงความท้าทาย มือของเขาเลื่อนมาแตะเอวบางของเมย์เบาๆ ก่อนจะจับเธออย่างแนบแน่น
เมย์หัวเราะเบาๆ รับรู้ถึงแรงดึงดูดที่เกิดขึ้น เธอเอียงคอเข้าใกล้เบียร์มากขึ้น
"ถ้าอย่างนั้น...นำทางเลยค่ะ" เธอกระซิบตอบ
เบียร์ลุกขึ้นยืน เขายื่นมือให้เธอจับ เมย์คว้ามือเขาไว้โดยไม่ลังเล สายตาของทั้งคู่สื่อสารกันอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เบียร์พาเธอเดินไปยังบันไดที่นำขึ้นไปยังชั้นบนของผับ Night Owl ซึ่งเป็นโซนส่วนตัว
ขณะที่พวกเขาเดินขึ้นบันได เพื่อนๆ ที่อยู่ในผับเริ่มสังเกตเห็น โดยเฉพาะเนที่ยืนอยู่บนฟลอร์เต้น เนหันไปมองแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขำ
“เฮ้ย ไอ้เบียร์มันพาสาวขึ้นไปอีกแล้ว” เพื่อนๆ ต่างพากันหันไปมองตามด้วยความอิจฉา
“โคตรเจ๋งเลยวะ สาวๆ มันชอบไอ้เบียร์ขนาดนี้ได้ไงวะ!” เพื่อนอีกคนพูดพร้อมหัวเราะ
“ก็หล่อขนาดนั้น ใครจะไม่สนใจวะ” พวกเขาหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
แสงแดดอ่อนๆ ยามเย็นสาดส่องผ่านม่านโปร่งเข้าสู่ห้องนอนอันเงียบสงบ เนยค่อยๆ ลืมตาขึ้น ความเมื่อยล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อนยังคงสะสมอยู่ในทุกอณูของร่างกาย เบียร์จัดเธอหนักจนถึงเช้า ทำให้เธอรู้สึกเหมือนพลังถูกสูบออกไปจนแทบหมดสิ้น เธอพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ความปวดหน่วงในท้องน้อยทำให้ต้องนิ่วหน้าด้วยความทรมานเล็กน้อย“อือ...บ้าจริง” เนยพึมพำเบาๆ พลางลูบท้องเพื่อบรรเทาความปวด เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง แต่ไม่เห็นเบียร์อยู่ในห้องแล้ว มีเพียงความเงียบและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเขาที่ยังหลงเหลือบนหมอนข้างๆ ทำให้เธอย่นคิ้วเล็กน้อย“ไปไหนนะ?” เธอเอ่ยพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาปกปิดร่องรอยรักที่กระจายอยู่ตามผิวกาย เนยเดินโซเซไปยังห้องน้ำ หวังว่าจะพบเบียร์ที่นั่น แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่าขณะที่เธอขมวดคิ้วครุ่นคิดว่าชายคนรักหายไปไหน สายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องสีดำใบเล็กวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ริบบิ้นสีทองที่ผูกอย่างประณีตสะดุดตาเธอ“กล่องอะไรน่ะ?” เธอพูดกับตัวเองพลางเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาดูภายในกล่องมีการ์ดใบหนึ่งวางอยู่ เมื่อเธอเปิดออกก็พบตัวอักษรที่ดูเหมือนรหัสมอร์สเรียงรายเต็มการ์ด เนยยืนมองการ์ด
เมื่อเวลาค่ำมาถึง พนักงานของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน มัลดีฟส์ ก็มาจัดเตรียมดินเนอร์สุดหรูบนระเบียงกลางแจ้งของวิลล่า แสงเทียนในโคมแก้วที่จัดวางไว้รอบโต๊ะส่องแสงอ่อนโยน ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกที่มีเพียงแสงดาวและเสียงคลื่นทะเลเป็นฉากหลังบนโต๊ะดินเนอร์ถูกจัดวางอย่างประณีตด้วยผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดตา พร้อมช่อดอกไม้เล็กๆ ในแจกันแก้วใส อาหารค่ำที่จัดเตรียมมาเป็นเมนูพิเศษจากเชฟของโรงแรมเริ่มจาก ซุปล็อบสเตอร์บิสค์ ที่เสิร์ฟมาในชามเซรามิกขอบทอง กลิ่นหอมของสมุนไพรและเครื่องเทศลอยมากระทบจมูก ตามด้วยจานหลักเป็น สเต็กปลากะพงย่างราดซอสเนยมะนาว เสิร์ฟคู่กับผักย่างและมันบดเนื้อเนียนละเอียดและไฮไลต์ของค่ำคืนนี้คือ ของหวานเค้กมูสมะพร้าว เสิร์ฟในเปลือกมะพร้าวขัดเงา ตกแต่งด้วยซอสมะม่วงราดอย่างละเมียดละไม ความหวานของมูสมะพร้าวเข้ากันดีกับรสเปรี้ยวสดชื่นของมะม่วง เป็นเมนูที่ทั้งตาและลิ้นต้องหลงรักเบียร์นั่งจิบไวน์ขาวที่เสิร์ฟเคียงกับอาหาร ขณะที่มองเนยที่กำลังตักซุปขึ้นมาชิม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและหลงใหล เนยที่สวมชุดเดรสผ้าชีฟองสีฟ้าอ่อนซึ่งพริ้วไหวตามลมทะเล ดูราวกับนางฟ้าท่ามกลางแสงเทียน“รสชาติเป็นไงบ
ฮิโร่และวาเลนไทน์ยืนเคียงข้างกันอย่างเงียบสงบที่จุดชมวิวริมแม่น้ำปิง แสงไฟจากริมฝั่งสะท้อนลงบนสายน้ำที่ไหลเอื่อย สายตาของทั้งคู่เหม่อมองออกไปไกลราวกับกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต“ไม่มีแบล็ควอล์คอีกแล้ว...” ฮิโร่พูดขึ้น ทำลายความเงียบที่รายล้อมแววตาของวาเลนไทน์สะท้อนไหววูบเล็กน้อย แต่ไม่นานนักเธอก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“พังไปแบบนั้นก็ดีแล้ว”ฮิโร่หันมามองเธอด้วยความแปลกใจเล็กน้อยในคำพูดนั้น“หืม?”วาเลนไทน์ยังคงเหม่อมองสายน้ำไหล คล้ายกำลังดิ่งลึกลงไปในห้วงอดีตของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยออกมาช้าๆ“ชีวิตฉัน...ถูกไมค์ช่วยเอาไว้ก็จริง แต่เขาก็เป็นคนที่ทำลายมันลงเหมือนกัน...” เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาคู่งามสะท้อนแสงไฟริมน้ำ“เพราะงั้น...การที่มันพังไปแบบนั้น...ถือว่าดีแล้ว”วาเลนไทน์หันกลับมาสบตากับฮิโร่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความซับซ้อน ทั้งความเศร้าและความโล่งใจที่ผสมปนเปกันฮิโร่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของวาเลนไทน์ คิ้วหนาขมวดเล็กน้อยเหมือนกำลังไตร่ตรอง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“แล้วเธอคิดจะทำอะไรต่อไปล่ะ”วาเลนไทน์นิ่งไปครู่หนึ่ง ราวกับคำถามนั้นกระทบใจเธออ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เนยเดินทางกลับจากมอสโก ข่าวใหญ่ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งโทรทัศน์และเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ทุกสำนัก รายงานเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ยูนิโอนิค คาร์ด กรุ๊ป ขณะเดินทางเยี่ยมชมสาขาในรัสเซียข่าวระบุว่าเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดสี่ราย ได้แก่ นักบินประจำลำ ไมเคิล เวสท์ ผู้บริหารสูงสุดของยูนิโอนิค กรุ๊ป วินเซนต์ เกรย์ รองประธานฝ่ายบริหาร และเซเลสเท ลาโนว่า ผู้ช่วยส่วนตัวของวินเซนต์ข่าวนี้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกธุรกิจ การสูญเสียบุคคลสำคัญระดับนี้ไม่เพียงกระทบต่อบริษัท ยูนิโอนิค คาร์ด กรุ๊ป เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความมั่นคงของอุตสาหกรรมการเงินระดับโลกอีกด้วย“หมอนั่น ทำให้ข่าวออกมาแบบนี้เหรอเนี่ย” เบียร์พูดขึ้น ขณะเลื่อนดูข่าวบนหน้าจอแท็บเล็ต ร่างสูงนั่งเอนตัวสบายๆ บนโซฟาภายในคอนโด โดยมีเนยนั่งอยู่บนตักของเขา“ก็ไม่แปลกนี่ อีตาสูทดำถนัดทำเรื่องแบบนี้อยู่แล้วนี่นา” เนยหัวเราะเบาๆ ขณะมองภาพข่าวที่แสดงอยู่บนหน้าจอ“แล้วแบบนี้บริษัทเธอจะทำยังไงต่อล่ะ?” เบียร์เลิกคิ้วถามพลางโอบเอวเธอไว
ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่ดัดแปลงด้วยเอไอดังออกมาจากโทรศัพท์ของเนยที่เปิดสปีกเกอร์โฟน ราวกับเป็นเงาที่มองไม่เห็นของเกมนี้“แน่ใจเหรอ?” เสียงนั้นแทรกขึ้นมาท่ามกลางความเงียบไมเคิลขมวดคิ้วแน่น สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและสงสัยจับจ้องไปยังโทรศัพท์ในมือของเนย“นายคิดว่า แบล็ควอล์คไม่สามารถถูกทำลายได้จริงเหรอ?” เสียงนั้นยังคงดังออกมาราวกับเยาะเย้ย“แกเป็นใคร!!” ไมเคิลตะโกนลั่น เส้นเลือดบนขมับเต้นตุบ“ไม่สำคัญหรอก” เสียงนั้นหัวเราะเบาๆ ราวกับเพลิดเพลินกับความโกรธของไมเคิล“ฉันจะมอบของขวัญให้นายเอง ของขวัญแห่งความพินาศที่ชื่อว่า ‘แบล็คเฮเซล’ ”คำพูดนั้นเหมือนน้ำมันที่ราดลงบนเปลวไฟ ไมเคิลกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด สายตาเขาเต็มไปด้วยคำถามและความเคียดแค้น“เขาว่างั้นล่ะ”เนยยกยิ้มบางพลางเดินเข้าไปหาไมเคิลที่ยังคงยืนตัวแข็งด้วยความโกรธ เธอเอื้อมมือดึงตัวเขาขึ้นจากพื้น ก่อนกดตัวเขานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้กับจอมอนิเตอร์ไมเคิลมองจอมอนิเตอร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ภาพข้อมูลบริษัท การฟอกเงิน การขนส่งของผิดกฎหมาย และฐานย่อยที่เป็นความลับระดับสูงสุด กำลังถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตาเขา“นี่มัน...”
ภายในห้องนอนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเร่าร้อน เอมิกับไมเคิลยังคงจมอยู่ในความสุขที่เขาและเธอสร้างขึ้นร่วมกัน ไฟในดวงตาของไมเคิลเต็มไปด้วยความหลงใหล ในขณะที่เอมิกลับมีประกายร้ายกาจแฝงอยู่ในแววตาทันใดนั้น เอมิก็ชะงักเล็กน้อย สัญชาตญาณของเธอเตือนว่าเหตุการณ์กำลังเปลี่ยนไป ความเคลื่อนไหวจากภายนอกกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปากของเธอ“อะไรหรือ?” ไมเคิลถามพลางมองเธอด้วยสายตาสงสัย เมื่อเห็นเธอนิ่งไปชั่วครู่เอมิหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอียงหน้ามองเขา รอยยิ้มร้ายกาจของเธอฉายชัด“ดูท่า ความสนุกของเราจะหมดลงแค่นี้แล้วล่ะ” เธอเอ่ยเสียงเย้ายวน แต่เต็มไปด้วยความหมายลึกลับไมเคิลเลิกคิ้ว ดวงตาสีฟ้าของเขาหรี่ลงอย่างจับสังเกต ขณะเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติจากด้านนอก เสียงฝีเท้าและแรงระเบิดเล็กน้อยที่ดังมาจากระยะไกลส่งสัญญาณบางอย่างที่เขาไม่อาจมองข้ามไมเคิลลุกพรวดขึ้นจากเตียงทันที เขาเร่งสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวตรงไปยังโต๊ะทำงานข้างห้องพร้อมกดปุ่มลับที่ซ่อนอยู่ ไม่นานนัก มอนิเตอร์หลายสิบจอก็ปรากฏภาพตรงหน้า เขามองภาพสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบฐานด้วยสีหน้าเคร่งเครียดภาพการพ่ายแพ้ของล