“ว่างครับ ผมว่างตลอด” ฉัตรกล้าดีใจและไม่คิดเลยว่าพี่ณิชาจะเป็นกันเองกับเขามากขนาดนี้
“แล้วอยากกินอะไรล่ะ”
“ผมแล้วแต่พี่ณิชา พี่อยากพาผมไปกินร้านไหนผมกินได้ทุกอย่าง”
“ถ้างั้นไปร้านใกล้ๆ นี้แล้วกันนะ จะกล้าจะได้มีเวลาจัดของมากขึ้นส่วนร้านอื่นเดี๋ยวพี่ค่อยพาไปวันหลัง”
“ขอบคุณครับพี่ณิชา”
“พี่ขอตัวก่อนนะซักหกโมงครึ่งโมงเจอกันที่หน้าหอพักนะ”
“ได้ครับ” ฉัตรกล้ายิ้มหน้าบานไม่คิดเลยว่าการได้เจอพี่ณิชาวันแรกเขาก็จะได้ไปทานข้าวเย็นกับเธอแล้ว
ชายหนุ่มรู้สึกดีพี่ณิชาที่พี่ณิชายังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ ถึงแม้เธอจะจำหน้าเขาไม่ได้ก็ตาม แต่จากนี้เขาจะต้องทำให้ตัวเองอยู่ในสายตาของพี่ณิชาตลอด ยิ่งได้คุยก็ยิ่งรู้สึกประทับใจมากขึ้นเรื่องอายุห่างกันสองปีไม่ใช่ปัญหาอีกทั้งเรื่องดวงกินผัวที่เสกสรรบอกมันก็ไม่ได้อยู่ในความคิดเขาเลย
ฉัตรกล้าเก็บของใช้เข้าที่แต่เขาลืมไปสนิทเลยว่าตัวเองไม่ได้ซื้ออุปกรณ์เครื่องนอนมาเพราะคิดว่าที่นี่น่าจะเหมือนกับการเข้าพักที่โรงแรม
“ตายห่าละแล้วคืนนี้จะนอนยังไงวะ”
เขามองนาฬิกาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลานัดกับพี่ณิชาแล้วเขาไม่อยากผิดนัดกับเธอเลย
ชายหนุ่มเลยคิดว่าหลังจากทานอาหารเสร็จเขาจะชวนพี่ณิชาไปช่วยซื้อเครื่องนอนที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่คืนแรกอาจจะทนนอนทั้งที่ยังไม่ได้ซักไปแบบนั้นก่อนแล้วค่อยเอาลงไปจ้างร้านซักรีดที่พี่ณิชาบอก
ร้านอาหารที่ณิชาภาชวนฉัตรกล้ามาทานเป็นร้านอาหารไม่ใหญ่มากมีโต๊ะนั่งไม่ถึง 10 โต๊ะ บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเองเหมือนการรับประทานอาหารในบ้าน
“กล้าอยากกินอะไรบ้าง” ณิชาภาส่งเมนูให้หนุ่มรุ่นน้อง
“พี่สั่งครับผมกินได้ทุกอย่าง”
“กินเผ็ดได้ไหม”
“พอได้ครับ”
“ถ้างั้นเอาเป็นห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน ผัดคะน้าน้ำมันหอย ต้มยำกุ้งน้ำข้นและยำผักบุ้งกรอบสี่อย่างพอไหม”
“พอครับ”
“พี่ณิชามากินร้านนี้บ่อยเหรอครับ”
“ก็ค่อนข้างบ่อยนะ ที่นี่อาหารอร่อยราคาไม่ค่อยแพงเท่าไหร่”
ฉัตรกล้าพยักหน้าแล้วยิ้มเขาไม่คิดเลยว่าพี่ณิชาจะพูดจาเป็นกันเองกับเขาแบบนี้
ชายหนุ่มไม่รู้หรอกว่าที่เธอทำแบบนี้เพราะเห็นเขาเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าหรือเขาเป็นผู้เข้าพักคนใหม่ แต่เขาไม่สนใจหรอก ขอแค่ได้อยู่ใกล้และได้เห็นรอยยิ้มของพี่ณิชาแบบนี้ก็ดีมาแล้ว
“เป็นไงบ้างของที่เอามาครบไหม” ณิชาภาถามราวกับเข้ามานั่งอยู่ในใจของฉัตรกล้า
“ตอนแรกผมก็ว่าคบกับพี่”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“ผมคงชินกับการไปพักโรงแรมก็เลยไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เครื่องนอนมาเลย” เขาลืมคิดเรื่องนี้ไปจริงๆ เพราะนี่เป็นการออกมาอยู่หอพักแบบนี้เป็นครั้งแรก
“แล้วคืนนี้จะนอนยังไงล่ะ ที่ห้องพี่พอมีถ้าไม่รังเกียจก็เอาของพี่ไปใช้ก่อนก็ได้ ส่วนของที่ซื้อก็เอาไปให้ร้านซักรีดบอกเขาว่ารีบใช้ วันเดียวก็น่าจะได้นะ”
“ผมเกรงใจพี่จัง”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกกล้าเป็นทั้งรุ่นน้องที่โรงเรียนแล้วยังเป็นคนมาเช่าห้องของพี่ด้วย พี่สิต้องเกรงใจที่ไม่บอกแต่แรกว่าต้องเตรียมอะไรมาบ้าง”
“ขอบคุณครับพี่” ฉัตรกล้ากล่าวขอบคุณจากนั้นอาหารก็มาเสิร์ฟพอดี
ทั้งสองใช้เวลาทานอาหารค่อนข้างนานเพราะทานไปด้วยคุยไปด้วยส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องในโรงเรียนเก่า ซึ่งไม่ว่าณิชาภาจะเล่าเรื่องอะไรฉัตรกล้าก็ดูเหมือนจะรู้เรื่องราวของหญิงสาวไปเสียทุกอย่างทั้งที่อยู่โรงเรียนนั้นแค่หนึ่งปี
“พี่ไม่รีบไปไหนใช่ไหมครับ”
“ไม่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“ผมว่าจะชวนพี่ไปช่วยซื้อของหน่อยครับ ผมไม่รู้ว่าต้องใช้ผ้าปูที่นอนขนาด”
“ไปได้สิเดี๋ยวซื้อแล้วขากลับก็เอาไปไว้ที่ร้านซักรีดเลยก็ได้ บอกเขาว่ารีบใช้วันเดียวก็น่าจะได้”
ฉัตรกล้าใช้เวลาขับรถจากร้านอาหารมาอย่างห้างสรรพสินค้าไม่ถึงสิบนาทีเพราะระยะทางมันไม่ได้ไกลมากอีกทั้งรถก็ไม่ได้ติดเหมือนตอนที่อยู่กรุงเทพ
เมื่อได้ชุดผ้าปูที่นอนปลอกหมอนและผ้าห่มแล้วฉัตรกล้าก็ซื้อของใช้จำเป็นเพิ่มอีกนิดหน่อยจากนั้นก็แวะซื้อของกินไปใส่ตู้เย็น เอาไว้สำหรับหิวยามดึกหรือไม่ก็ทานก่อนก่อนไปทำงานในตอนเช้า
“ป่านนี้ร้านซักรีดคงปิดแล้ว พี่ว่ากล้าของที่จะส่งซักไว้ในรถนี่แหละ พรุ่งนี้ค่อยขับรถวนออกไปที่ร้านตอนเช้าก็ได้ ส่วนของพวกนี้เราช่วยกันถือก็น่าจะไหว กล้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเอารถมาเก็บ” ณิชาภาบอกเพราะถ้าต้องขับรถเอาของไปเก็บที่หอแล้วเอารถมาเก็บก็กลัวว่าชายหนุ่มจะเสียเวลา
เขาทำตามที่พี่ณิชาบอกเพราะของที่ซื้อมามันก็ไม่ได้เยอะมาก อีกอย่างถ้าเขาขับรถไปจอดที่ลานจอดรถเขาก็จะได้ยืดระยะเวลาคุยกับพี่ณิชาอีกนิดระหว่างที่เดินจากลาดจอดรถมายังหอพัก
“บันไดตรงนี้เอาไว้ขึ้นห้องพี่ณิชาเหรอครับ” ฉัตรกล้าถามเมื่อเดินผ่านด้านหลังแล้วเห็นมันได้บริเวณบันไดหนีไฟซึ่งมีลูกกรงปิดอีกชั้น
“ค่ะบันไดตรงนี้จะขึ้นห้องพี่ ส่วนถัดไปตรงนั้นจะเป็นบันไดหนีไฟของคนที่พักอยู่ในหอน่ะแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครขึ้นด้านนี้หรอกเพราะทางมันค่อนข้างแคบ”
“ผมส่งพี่ณิชาตรงนี้เลยก็ได้นะครับ ขอบคุณมากที่พาไปเลี้ยงข้าวนะครับ” เขาหยุดตรงบันไดด้านหลังหอพัก
“ไม่เป็นไร ขาดเหลืออะไรก็บอกนะ”
ณิชาภาส่งถุงของใช้ให้กับฉัตรกล้าก่อนที่ตนเองจะเดินขึ้นบันไดหนีไฟ
ฉัตรกล้าอ้อมด้านหน้าและขึ้นตรงก็ขึ้นไปยังห้องพักของตัวเอง แล้วเขาก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพี่ณิชายังไม่ได้เอาอุปกรณ์เครื่องนอนให้เขาเลยชายหนุ่มโทรไปหารอสักพักพี่ณิชาก็กดรับ
“พี่ณิชาครับผมมีเรื่องรบกวนพี่”
“พี่ก็ว่าจะโทรหากล้าอยู่พอดีเลย เรื่องเครื่องนอนใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“เดี๋ยวกล้าเปิดประตูออกมาแล้วเดินมาด้านขวาสุดนะพี่จะเอาของให้”
“ได้ครับ”
ชายหนุ่มเปิดประตูออกมาแล้วเดินไปยังด้านขวาสุดซึ่งตอนนี้พี่ณิชายืนรออยู่แล้ว
“ขอบคุณครับพี่ วันนี้ผมรบกวนพี่เยอะเหลือเกิน”
“ไม่เป็นไรหรอกการย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ มันก็เป็นแบบนี้แหละ”
“คุณเช่าคนอื่นเขารบกวนพี่เยอะขนาดนี้ไหม”
“มันก็มีบ้าง กล้าเป็นผู้ชายของพวกนี้ก็เลยไม่ได้เตรียมที่เข้าใจ
“ถ้างั้นผมกลับห้องก่อนนะครับ”
เมื่อชายหนุ่มเดินกลับไปแล้วณิชาภาก็ปิดประตูห้องแล้วล็อกกลอนอย่างแน่นหนา ปกติเธอไม่ค่อยเปิดประตูนี้ต้อนรับใครเท่าไหร่แต่วันนี้ขี้เกียจเดินอ้อมเอาของใช้ไปให้ฉัตรกล้าข้างหน้าก็เลยเลือกที่จะเปิดออก
หญิงสาวจัดการกับธุระส่วนตัวของตนเองแล้วก็นั่งทำบัญชีรายรับรายจ่ายของหอพักของหอพักและร้านทำผม
ถึงแม้จะบันทึกทุกอย่างไว้ในคอมพิวเตอร์แล้วแต่คนรอบคอบอย่างณิชาภาก็จะจดสรุปยอดทั้งหมดไว้ในสมุดอีกครั้ง เพราะมันเคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่คอมพิวเตอร์เธอมีปัญหาทำให้ข้อมูลบางอย่างมันหายไป จากนั้นหญิงสาวหรือยอมเสียเวลาอีกนิดบันทึกทุกอย่างไว้ในคอมพิวเตอร์และสรุปยอดตัวเลขไว้ในสมุด
เมื่อชัดดาวน์คอมพิวเตอร์แล้วก็เอาสมุดบัญชีเก็บใน ใส่ลิ้นชักซึ่งในนั้นมีอัลบั้มรูปตั้งแต่สมัยเรียนรวมอยู่ด้วย
ณิชาภาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งสัปดาห์จากนั้นเธอก็ออกมาพักฟื้นที่บ้านของฉัตรกล้า ระหว่างนี้บิดามารดาและน้องสาวของฉันกล้าก็ช่วยกันเตรียมงานแต่งงานไปด้วยพอถึงงานแต่งงานณิชาภาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากๆ เพราะฉัตรกล้าชวนเพื่อนๆ ของเธอสมัยมัธยมและสมัยมหาวิทยาลัยอีกทั้งยังให้รถไปรับพนักงานที่หอพักกับร้านเสริมสวยมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอด้วยชายหนุ่มจัดการทุกอย่างจนณิชาภาแทบไม่ต้องทำอะไรเลยในงานแต่งทุกคนต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวไม่มีใครพูดถึงดวงกินผัวให้ณิชาภาต้องรู้สึกไม่ดี อีกทั้งครอบครัวของฉัตรกล้าก็มีความหวังดีและยอมรับเธอมาเป็นสมาชิกในครอบครัวด้วยความเต็มใจ ณิชาภายิ้มอย่างมีความสุขเธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะได้แต่งงานแบบนี้หลังจากแต่งงานแล้วฉันกล้าก็ทำให้ณิชาภาต้องประหลาดใจอีกอย่างเมื่อเขาซื้อบ้านและตกแต่งมันอย่างเรียบร้อยพร้อมให้เธอเข้าไปอยู่ แต่เขาไม่ได้ให้เธอย้ายออกจากหอพักเพราะรู้ว่าเธอผูกพันกับที่นั่น แต่ทุกครั้งที่จะไปค้างฉัตรกล้าก็จะขอตามไปด้วยเสมอหลังจากแต่งงานมาหนึ่งเดือนทุกอย่างก็เข้าที่ ตอนเช้าณิชาภาจะตื่นเช้ามาทำกับข้าวจากนั้นฉัตรกล้าก็จะไปท
“สี่วันแล้วนะครับแม่เมื่อไหร่พี่ณิชาจะตื่น”“หมอก็บอกแล้วว่าต้องใช้เวลา กล้าอย่ากังวลไปเลยนะ”“จะไม่ให้ผมกังวลได้ยังไงล่ะครับแม่ คนที่นอนอยู่โรงพยาบาลควรเป็นผมมากกว่า”“กล้าก็คิดว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับดวงไหม”“ไม่เลยครับแม่ ถ้าพี่น่ะณิชามีดวงแบบนั้นจริงๆ คนที่เจ็บก็น่าจะเป็นผมไม่ใช่เธอ”“แล้วตำรวจว่ายังไงบ้าง” คุณวุฒิศักดิ์ถามลูกชาย“เช็กจากจ้องกล้องวงจรปิดแล้วครับ มีคนแอบตัดสายเบรกรถผมจริงๆ ตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ร้านอาหาร”“จับได้หรือยังล่ะ”“ตำรวจกำลังตามจับตัวอยู่ ส่วนเรื่องที่ไซต์งานมีปัญหาก็เป็นการสร้างสถานการณ์ เพชรสอบสวนหัวหน้าวิศวกรแล้วเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร ส่วนหัวหน้าคนงานตอนนี้เราก็ยังตามตัวไม่เจอผมว่าก็น่าจะเป็นเขานั่นแหละที่ทำเรื่องแบบนี้”“กล้าไปขัดแข้งขัดขาใครหรือเปล่าทำไมพวกเขาถึงอยากจะทำร้าย”“ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เราประมูลโครงการใหญ่นี้ได้ บางทีเจ้าถิ่นก็อาจจะไม่ชอบก็ได้”“ไม่ชอบแล้วยังไง แล้วก็งานนี้เขาเปิดให้คนประมูลทั่วประเทศเขาไม่มีความสามารถ เขาประมูลไม่ได้เองแต่มาทำร้ายกันถ้าตำรวจจับได้ต้องดำเนินคดีให้หนักเลย เล่นไม่ซื่อแบบนี้พ่อไม่เห็นด้วย ระหว่างนี้กล้าก
ณิชาภาสวมเดรสสีฟ้าอ่อนความยาวคลุมเข่าใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ ผมที่เคยปล่อยก็รวบเป็นมวลสวยทำให้ฉัตรกล้านึกถึงวันแรกที่เขาเห็นเธอเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน วันใจเต้นแรงมาก และวันนี้เธอก็ยังทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงเหมือนวันนั้นไม่มีผิด“พี่ณิชาของผมสวยมากเลย สวยจริงๆ นะ”“กล้าก็ชมพี่แบบนี้ตลอดจนพี่จะตัวลอยแล้ว”“ก็พี่ก็พี่สวยจริงๆ ผ่านมาสิบกว่ากว่าปีแต่พี่ณิชาก็ยังสวยและผมว่าตอนนี้พี่สวยมากขึ้นด้วยนะ”“ที่บอกรักพี่บ่อยๆ เพราะความสวยเหรอ”“ตอนแรกผมตกหลุมรักพี่เพราะความสวย แต่พอได้อยู่ใกล้ก็รู้สึกว่าพี่เป็นผู้หญิงที่จิตใจดีคนหนึ่งผมอยู่กับพี่ผมมีความสบายใจมากๆ เลยนะเหมือนเป็นที่เหมือนเป็นเซฟโซนของผมเลย”“กล้าก็เป็นเซฟโซนของพี่เหมือนกัน พี่ไม่เคยเปิดใจพูดคุยอะไรกับใครได้ทุกเรื่องเหมือนกล้ามาก่อน”“ถ้าหากวันนั้นผมกล้ามากกว่านี้ผมคงจะเข้าไปจีบพี่ตั้งแต่ตอนนั้น”“แล้วทำไมถึงไม่ไปจีบล่ะ บางทีถ้ากล้าไปจีบตอนนั้นเราอาจจะได้คบกันก็ได้นะ”“ก็ตอนนั้นพี่ณิชามีแฟนอยู่แล้ว อีกอย่างหน้าตาผมมันก็ดูไม่ได้เลย หัวเกียนผอมสูงแถมยังดัดฟัน อีกผู้หญิงที่ไหนเขาจะชอบล่ะ”“แต่ตอนนี้กล้าของพี่หล่อมากๆ เลยนะไม่รู
กลับมาถึงคอนโดมิเนียมฉัตรกล้าก็แทบจะกระโจนเข้าใส่ณิชาภาเขาไม่ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไรค่า กว่าจะยอมให้ณิชาภาได้นอนพักก็ผ่านไปแล้วหลายชั่วโมงณิชาภาเหนื่อยจน ไม่มีแรงจะลุกไปเข้าห้องน้ำฉัตรกล้าต้องเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดเพื่อให้หญิงสาวนอนหลับอย่างสบาย“ผมรักพี่ณิชานะครับรักมาก พี่ว่าครอบครัวผมเป็นยังไงบ้างโอเคไหม”“พ่อกับแม่ของกล้าดูใจดี ส่วนพี่และน้องของกล้าก็เป็นกันเองมากพี่ไม่คิดเลยว่ากล้าจะมีครอบครัวใหญ่ขนาดนี้ ที่ผ่านมากล้าไม่เคยเล่าให้พี่ฟังเลยว่ากล้าเป็นใครมาจากไหน พี่รู้แค่กล้าเป็นวิศวกรเท่านั้น”“ผมจะเป็นใครมาจากไหนมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะยังไงผมก็คือเด็กดีของพี่”“ขอบคุณนะกล้าที่รับพี่เข้ามาในชีวิต”“ในเมื่อพี่เข้ามาในชีวิตของผมแล้วผมก็ไม่ยอมให้พี่ก้าวออกไปอย่างแน่นอน” ฉัตรกล้ากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะหลับไปด้วยความเหนื่อยทั้งสองคนตื่นนอนในเวลาเกือบเที่ยงของวันพุธ จากนั้นก็ไปเดินห้างสรรพสินค้าด้วยกันฉัตรกล้าพาคนรักไปช้อปปิ้งแต่หญิงสาวก็ไม่ยอมให้เขาเป็นคนจ่ายเงินให้“ทำไมล่ะพี่”“แต่พี่ก็มีเงินของพี่ กล้าไม่เห็นจะต้องซื้อให้พี่เลย”“พี่ทำให้ผมรู้สึกนอยด์ยังไงก็ไม่รู้”“จะนอยด์อะไร
ฉัตรกล้าโทรศัพท์มาหาณิชาภาในเวลาห้าโมงเย็นของวันอังคารขณะที่เขากำลังขับรถออกจากไซต์งานก่อสร้าง“กล้ามีอะไรหรือเปล่าหรือจะให้พี่ซื้อกับข้าวไว้รอใช่ไหม”“ผมว่าเย็นนี้เราเข้ากรุงเทพกันเลยไหม”“ทำไมรีบร้อนจังล่ะ มีอะไรหรือเปล่า ตอนแรกเราคุยกันไว้ว่าจะไปเช้าวันพุธไม่ใช่เหรอ”“พอดีน้องสาวผมจะไปเที่ยววันพุธเช้าครับ เธอก็เลยอยากเจอพี่ณิชาก่อน พี่ณิชาเก็บของทันไหมอีกประมาณยี่สิบนาทีผมก็น่าจะถึงร้านทำผมแล้ว”“เราจะไปค้างที่นั่นกี่คืนล่ะกล้า” ณิชาภาถามเพื่อนที่เธอจะได้เตรียมชุดไปให้พอดี“พี่เตรียมชุดไปสำหรับสองคืนก็พอครับ เพราะวันพฤหัสตอนบ่ายผมมีงานต้องคุยกับหัวหน้าวิศวกร”“ถ้ากล้ามาถึงก่อนก็รออยู่ด้านล่างนะพี่ขอเวลาเก็บของนิดเดียว”“ผมเองก็มีของที่จะต้องเอาเหมือนกันครับ ถ้าพี่จัดของเสร็จก่อนผมก็รออยู่ที่ร้านทำผมนะครับ”ณิชาภารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่วันนี้ลูกค้าในร้านไม่เยอะเท่าไหร่เธอจึงอนุญาตให้พี่แมวกับอ้อกลับไปก่อน หญิงสาวจัดการปิดร้านเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปเก็บของใช้ลงกระเป๋าใบเล็กก่อนจะเดินลงมารอฉัตรกล้าด้านล่างอีกครั้งรอไม่นานชายหนุ่มก็ขับรถมาจอดหน้าหอพักเขายิ้มให้เธอก่อนจะวิ่งหายขึ้นไปบ
ณิชาภากำลังหลับสบายแต่ก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังไต่อยู่บนตัวหญิงสาวพยายามขยับหนีแต่สัมผัสนั้นเพิ่มมากขึ้นเธอลืมตาตื่นเราก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้ร่างกายของตนเองนั้นเปลือยเปล่า ฉัตรกล้ากำลังใช้ปากร้อนดูดกลืนเม็ดเชอร์รี่เข้าปากราวกับคนอดอยากทั้งที่เมื่อคืนก็ดูดกินไปจนหนำใจแล้ว“อื้อ...กล้า”“ผมขอโทษที่ทำพี่ตื่น ขออีกรอบนะ”ณิชาภาไม่รู้จะตอบเขายังไง เพราะปากของเขาที่มันปรนเปรออยู่บนหน้าอกของเธอก็กระตุ้นให้หญิงสาวรู้สึกเสียวซ่าน เธอกัดริมฝีปากแน่นเพราะกลัวเสียงครางจะเล็ดลอดออกไปให้กับผู้เข้าพักได้ยิน ฉัตรกล้าเองก็เหมือนจะรู้ใจเขาผละปากร้อนออกจากเต้าอวบก่อนจะประกบจูบซับเสียงครางหวานของคนรัก เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดมือร้อนฟอนเฟ้นอกอิ่มกายสาวร้อนรุ่มมากขึ้นการแอบทำอะไรแบบนี้มันเพิ่มความตื่นเต้นได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มผละจูบออกเขามองหน้าคนรักด้วยสายตาหื่นกระหาย“ผมรักพี่นะ ผมไม่เคยมีความต้องการใครมากมายแบบนี้มาก่อน พี่รู้สึกเหมือนกันใช่ไหม”เธอยิ้มอายๆ เธอเองก็คงไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่ แค่สัมผัสจากมือร้อน เสียงอ้อนที่กระซิบแผ่วเบาของเขามันก็ทำให้หญิงสาวพร้อมที่จะกระโจนลงกองเพลิงตัณหา