LOGINงานใหม่ แต่หน้าที่เดิม…
อลิษานั่งทรุดอยู่บนม้านั่งริมท่าเรือพลางร้องไห้โวยวายเสียงดังและน้ำตาไหลเป็นสาย มือ 2 ข้างกุมหน้าอกและไหล่ตัวเอง
“เพราะนาย! เพราะนายทั้งหมดเลยนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงขึ้นเรือทันแล้ว! แล้วฉันจะอยู่ที่นี่ยังไง ต่อไปนายต้องรับผิดชอบ!” เธอสะอื้นโฮและตะโกนเสียงสั่น
ชายแปลกหน้ามองเธอด้วยสายตานิ่งขรึม ปากเม้มเข้ากันเล็กน้อย เขาไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้ ทั้งรำคาญทั้งหงุดหงิด แต่ใจลึก ๆ ก็อดสงสารไม่ได้เพราะนี่คือผู้หญิงคนเดียวที่เพิ่งช่วยเขาไว้เมื่อวาน
“หยุดร้องก่อนได้ไหม!” เสียงทุ้มเรียบ ๆ แต่ทรงพลังและน่าเกรงขามเป็นอย่างมากดังขึ้น
อลิษายังคงสะอื้นไม่ยอมหยุดและยิ่งร้องไห้แรงขึ้นด้วยความสิ้นหวัง ชายคนนั้นถอนหายใจแรงแล้วเดินออกไปอย่างหัวเสียทิ้งหญิงสาวเอาไว้ที่เดิม แต่เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็หยุดเดินแล้วหันกลับมาอย่างรวดเร็ว
มือหนากระชากร่างเล็กให้ลุกขึ้นอย่างไม่ทันให้ตั้งตัวจนอลิษาเสียหลัก แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกรวบเข้ามาในอ้อมกอดแกร่งแทน
“หยุดร้องนะ” เขากระซิบเบา ๆ ข้างหูพลางกอดเธอแน่นกว่าเดิม
อลิษาเงยหน้ามองใบหน้าคมที่ใกล้จนแทบสัมผัสได้ถึงลมหายใจ ทั้งความตกใจและความซาบซึ้งทำให้เธอเริ่มเงียบ น้ำตาเริ่มไหลช้าลงในอ้อมกอดของเขา แต่...อลิษายังคงดิ้นทุบตีชายคนนั้นอย่างแรงด้วยความโกรธและอับจนใจ แต่ครั้งนี้มันทำให้เขาหมดความอดทนเสียที เขาตัดสินใจเอื้อมมือคว้าตัวเธอขึ้นอุ้มพาดบ่าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก้าวเท้าไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล เมื่อมาถึงรถเขายัดอลิษาเข้าไปในเบาะหลังทันทีพร้อมกับปิดประตูดัง ‘ปัง!’ หญิงสาวตกใจไม่น้อยและพยายามดึงตัวเองออกแต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้สนใจแม้สักนิด
เขาหันไปสั่งลูกน้องเสียงเข้ม “ออกรถ”
ทว่าอลิษายังคงโวยวายและพยายามเปิดประตูรถเพื่อจะออกไปให้ได้ ปากเล็ก ๆ ที่ร้องโวยวายไม่ยอมหยุด
“เงียบ!!” อิริคสั่งเสียงเข้ม
อลิษาเห็นแววตาสาดประกายอำมหิต รังสีอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาจากร่างของชายหนุ่ม ก่อนที่อิริคจะหยิบปืนออกมาโชว์ตรงหน้าเธอ เพียงแค่นั้นหญิงสาวก็ชะงักนิ่งไปทันทีด้วยความหวาดกลัว ไม่เหลือเค้าโครงความดื้อรั้นในแววตา
บรรยากาศภายในรถเงียบสนิทเหลือแค่เพียงเสียงเครื่องยนต์ทำให้ความตึงเครียดแทบจะขาดใจ ก่อนจะเป็นเสียงทุ้มต่ำเสียงเรียบที่เอ่ยขึ้น “เงียบได้สักทีนะ ไหน ๆ ก็จะอยู่ด้วยกันอีก 2 อาทิตย์…”
อลิษาเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาสั่นระริก
ชายหนุ่มยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนพูดต่อ “ผมชื่อ อิริค ส่วนคนที่อยู่กับผม… คือจาริคและชาร์ล”
อลิษากลืนน้ำลายลงคอและเงียบไปครู่หนึ่ง รู้สึกได้ถึงความจริงจังของเขาและสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ก่อนจะเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่พูดอะไร
รถยนต์ของอิริคจอดลงที่หน้าผับแห่งหนึ่ง อลิษามองไปรอบ ๆ อย่างสับสนขณะก้าวเท้าออกจากรถ
“ทำไมมาที่นี่ล่ะ ?” เธอถามเสียงสั่น ๆ ด้วยความสงสัย
อิริคหันมามองด้วยสายตาเรียบเฉยแต่แอบแฝงความน่ากลัวที่เก็บไว้ไม่มิด ก่อนที่เขาจะตอบออกมา
“นี่คือที่พักของเรา”อลิษาเบิกตากว้าง ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา “ฉันไม่อยากอยู่เฉย ๆ 2 อาทิตย์นี้ต้องหางาน หาเงินด้วย คุณอิริคช่วยหางานให้หน่อยได้ไหม ?”
เขาหยุดเดินแล้วหันหน้ามามองเธออย่างจับผิด “คำสรรพนามการเรียกชื่อดูเปลี่ยนไปจากเดิมนะ” อลิษาทำหน้าแปลกใจ “ก็ก่อนหน้านั้นฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณนี่นา”
อิริคพยักหน้าเบา ๆ ก่อนถามต่อ “แล้วทำงานอะไรเป็นบ้าง ?”
“ร้องเพลงค่ะ เล่นดนตรีได้” เธอตอบเสียงอ่อยแต่มั่นใจ
เขาหันไปมองลูกน้องทั้งสองด้วยสายตาเรียบเฉย “จัดการหาที่พักให้และหางานตามที่เธอถนัดด้วย”
ทั้งสองพยักหน้ารับคำแล้วรีบเคลื่อนไหวทันที ขณะที่อลิษายังยืนมองด้วยความตื่นเต้นปนความลังเล 2 อาทิตย์ข้างหน้ามันจะต้องเต็มไปด้วยเรื่องไม่คาดคิด แต่เธอเตรียมใจเอาไว้แล้วไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมาก็ตาม !!
ผ่านมาเพียงไม่นานหลังจากเข้าพักผ่อนในห้องพัก เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นดึงความสนใจของหญิงสาว เจ้าของห้องลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูและพบว่าชาร์ล ลูกน้องคนสนิทของอิริคยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มบาง ๆ พร้อมกับยื่นแฟ้มที่เป็นตารางงานให้อลิษา
“นี่คือตารางการทำงานครับ” อลิษารับแฟ้มมาเปิดดูก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่ทราบว่าคุณอิริคเป็นใครคะ ทำไมถึงดูใหญ่โตและลึกลับแบบนี้”
ชาร์ลมองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนตอบเพียงสั้น ๆ สีหน้าท่าทางของเขาก็ไม่ได้ต่างไปจากเจ้านายเลยสักนิด เหมือนโคลนนิ่งกันมา
“เรื่องนี้คุณต้องไปถามเจ้านายดูครับ” อลิษาพยักหน้าเบา ๆ ใจของเธอยังคงเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้นกับเรื่องราวใน 2 อาทิตย์ข้างหน้า
อลิษามองดูตารางการทำงานที่เธอได้รับจากชาร์ล ก่อนจะเดินมานั่งลงที่เตียงและถอนหายใจออกมา ใจหนึ่งก็นึกหวั่นใจเพราะกลัวว่านักร้องที่ผับแห่งนี้จะไม่พอใจที่เธอเข้ามาแทรก รวมไปถึงเรื่องของเสียงร้องที่ไม่รู้ว่าจะสู้ไหวหรือไม่
“อย่ากังวลไปอลิซ ฉันเชื่อว่าเธอทำได้” อลิษาพูดกับตัวเองพร้อมกับนึกถึงคำที่ลิเดียคอยบอกกับเธอเสมอเมื่อถึงเวลาขึ้นเวทีว่า เสียงของเธอเพราะมาก แค่ร้องให้เป็นธรรมชาติอย่างที่เคยร้องก็พอ
“เอาน่าสู้ ๆ ” อลิษาให้กำลังใจกับตัวเองแล้วล้มตัวลงนอนกลางที่นอนอย่างโล่งอก
รีบคืนนี้เป็นคืนแรกที่เธอกลับมาร้องเพลงในผับอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นสถานบันเทิงเหมือนกัน ทว่าการตกแต่งมันช่างต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งความหรูหราทั้งแขกเหรื่อที่มายังสถานที่แห่งนี้จนเธออดประหม่าไม่ได้ มือที่กุมกันอยู่ชื้นเหงื่อเล็กน้อย แม้ว่าจะอยู่ในห้องที่เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ“คุณอลิซพร้อมไหมครับใกล้จะขึ้นเวทีแล้ว คุณอิริคให้มาตาม ถ้าคุณอลิซพร้อมแล้วก็เตรียมตัวได้เลยนะครับ” ชาร์ลเดินมาตามหญิงสาวตามคำสั่งเจ้านายหนุ่ม“ตอนนี้ไม่พร้อมก็คงต้องพร้อมแล้วละค่ะ”“งั้นเชิญครับ” ชาร์ลผายมือให้หญิงสาวเดินนำออกไปก่อน ก่อนจะก้าวเท้ามาเดินเคียงข้างหญิงสาว “วันนี้คุณอลิซร้องแค่ 2 เพลงพอนะครับ เสร็จแล้วก็ไปพักได้เลย”“ค่ะ มีอะไรอีกไหมคะที่ฉันจะต้องทำ”“ไม่มีแล้วครับ” หลังจากแจ้งตารางงานให้ทราบ ชาร์ลก็ขอตัวออกไปก่อนปล่อยให้หญิงสาวทำสมาธิและมีเวลาเตรียมตัวก่อนจะขึ้นแสดง“อ๋อ ถ้าร้องเพลงเสร็จแล้วให้ไปพบคุณอิริคที่ห้องนะครับ”“ค่ะ”เพลงที่อลิษาเลือกในวันนี้คือ ‘เพลงลึกซึ้งกินใจ’ ทันทีที่เสียงหวานเปล่งออกมา ผู้ชมทั่วทั้งร้านต่างเงียบเสียงลงและจับจ้องไปยังหญิงสาวบนเวที ทุกคนตั้งใจฟังเสียงร้องของอลิษาพร้อ
งานใหม่ แต่หน้าที่เดิม…อลิษานั่งทรุดอยู่บนม้านั่งริมท่าเรือพลางร้องไห้โวยวายเสียงดังและน้ำตาไหลเป็นสาย มือ 2 ข้างกุมหน้าอกและไหล่ตัวเอง“เพราะนาย! เพราะนายทั้งหมดเลยนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงขึ้นเรือทันแล้ว! แล้วฉันจะอยู่ที่นี่ยังไง ต่อไปนายต้องรับผิดชอบ!” เธอสะอื้นโฮและตะโกนเสียงสั่นชายแปลกหน้ามองเธอด้วยสายตานิ่งขรึม ปากเม้มเข้ากันเล็กน้อย เขาไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้ ทั้งรำคาญทั้งหงุดหงิด แต่ใจลึก ๆ ก็อดสงสารไม่ได้เพราะนี่คือผู้หญิงคนเดียวที่เพิ่งช่วยเขาไว้เมื่อวาน“หยุดร้องก่อนได้ไหม!” เสียงทุ้มเรียบ ๆ แต่ทรงพลังและน่าเกรงขามเป็นอย่างมากดังขึ้นอลิษายังคงสะอื้นไม่ยอมหยุดและยิ่งร้องไห้แรงขึ้นด้วยความสิ้นหวัง ชายคนนั้นถอนหายใจแรงแล้วเดินออกไปอย่างหัวเสียทิ้งหญิงสาวเอาไว้ที่เดิม แต่เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็หยุดเดินแล้วหันกลับมาอย่างรวดเร็วมือหนากระชากร่างเล็กให้ลุกขึ้นอย่างไม่ทันให้ตั้งตัวจนอลิษาเสียหลัก แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกรวบเข้ามาในอ้อมกอดแกร่งแทน“หยุดร้องนะ” เขากระซิบเบา ๆ ข้างหูพลางกอดเธอแน่นกว่าเดิมอลิษาเงยหน้ามองใบหน้าคมที่ใกล้จนแทบสัมผัสได้ถึงลมหายใจ ทั้งความตกใจและความซาบ
ผมไม่ไปเช้าวันถัดมา อลิษาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นด้วยอาการมึนงงเล็กน้อย สิ่งแรกที่เธอทำคือหันมามองโซฟา “ว่างเปล่า”ไม่มีเงาของชายแปลกหน้าคนนั้นอีกต่อไป เธอถึงกับถอนหายใจออกมายาว ๆ อย่างโล่งอก “ดีแล้ว… คงไปแล้วสินะ” เธอบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะลุกจากเตียง ตั้งใจจะเก็บห้องให้เรียบร้อยแล้วออกไปหาอะไรอร่อย ๆ กินตอนเช้าแต่ไม่ทันได้ก้าวพ้น 2 ก้าว เสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้นแอ๊ด…อลิษาหันไปมองด้วยความตกใจพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างในทันที ชายแปลกหน้าคนนั้นเดินออกมาจากห้องน้ำ เส้นผมเปียกเล็กน้อย หยดน้ำยังเกาะอยู่บนแผงอก เขาพันผ้าขนหนูไว้ที่เอวเพียงผืนเดียวแถมยังพันแบบลวก ๆ จนแทบจะหลุดอยู่รอมร่อ“กรี๊ด!” อลิษาร้องเบา ๆ แล้วรีบยกมือขึ้นปิดตาทันที “นาย! ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาเล่า!”เสียงทุ้มของเขาดังขึ้นอย่างเรียบเฉย “เสื้อผ้าเปื้อนเลือด… ผมซักไว้ ยังไม่แห้ง”อลิษายังคงยืนหลับตาแน่น “งั้นก็รอก่อนสิ ฉัน… ฉันหาของให้” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสั่นเครือทั้งจากความเขินและความหงุดหงิดปนกันเธอเดินถอยหลังไปยังกระเป๋าเดินทางแล้วล้วงหาเสื้อผ้าอย่างรีบร้อน ก่อนจะคว้าเสื้อฮูดตัวใหญ่สีเทาออกมาได้ “นี่ ใส่ต
ชายหนุ่มยืนนิ่งมองหน้าเธออยู่เช่นนั้นและไม่รีบร้อนนัก “ผมไม่ไป”คำตอบที่ได้รับทำเอาอลิษาอึ้งไป 2 วินาที ก่อนที่ใบหน้าเธอจะร้อนผ่าวด้วยความโกรธและความเครียด “อะไรนะ! นายพูดว่าไม่ไปเหรอ!”เขาพยักหน้าเรียบ ๆ “ผมมีธุระของผมเอง คุณหาทางไปเอาเองแล้วกัน”“ธุระบ้าอะไรของนาย!” เธอตะโกนออกไปโดยไม่คิดจากอารมณ์โมโห “รู้ไหมว่าฉันต้องเสียงาน ต้องโดนตัดเงิน เพราะนาย! ถ้าเมื่อคืนฉันไม่ช่วยนาย ถ้าไม่พาเข้ามาที่ห้องนี้ ฉันคงอยู่บนเรือแล้ว!”ชายหนุ่มมองเธอเงียบ ๆ แววตาคมสงบนิ่งจนน่าหงุดหงิดอลิษากำหมัดแน่น “เพราะนายแท้ ๆ เลย นายรู้ไหมว่าฉันทำงานตรงนั้นแทบตายกว่าจะได้ขึ้นร้องเพลงบนเรือนั่น แล้วตอนนี้… ทุกอย่างมันพังหมดแล้ว!”น้ำเสียงเธอสั่นเครือในตอนท้าย พอพูดจบก็เม้มปากแน่นอย่างคนที่ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือจะตะโกนออกไปอีกดีในความเงียบที่ถาโถมเข้ามา ชายแปลกหน้าสบตาเธอครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงแววบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก “งั้นผมจะพาไป”อลิษาชะงักแล้วเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง“แต่ก่อนจะไป… เธอต้องเตรียมใจไว้หน่อย” เขาพูดต่อช้า ๆ “เพราะฟังจากที่เธอพูดมา ผมว่าเรือมันคงไปแล้วไม่ว่าท่าไหนก็ตาม”
ห้ามทำร้ายฉันเด็ดขาดแววตาเขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ “ผมสัญญา” เสียงทุ้มของเขานุ่มลงจนเกือบจะอ่อนโยนอลิษามองหน้าเขาอีกครั้งเพื่อยืนยันความมั่นใจก่อนจะยื่นมือออกไปให้พยุง เธอรู้สึกถึงน้ำหนักตัวเขาที่เอนพิงมาเล็กน้อยตอนเดินออกจากตรอกนั้นเมื่อมาถึงห้อง อลิษารีบเปิดไฟจนห้องสว่างขึ้นในทันที ตามด้วยเสียงประตูปิดดัง ‘แกร๊ก’ เบา ๆ เธอวางของทั้งหมดลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียง ก่อนหันกลับมามองชายแปลกหน้าที่พิงกรอบประตูอยู่ ใบหน้าเขาขาวซีดและเต็มไปด้วยเหงื่อ“นั่งก่อนค่ะ เดี๋ยวฉันเอากล่องยามาให้” เธอพูดเสียงเรียบแต่ใจเต้นแรงไม่หยุดอลิษาเปิดกระเป๋าเดินทางของตัวเองแล้วหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมา จากนั้นนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าเขา เริ่มจัดการล้างแผลที่แขนด้วยมือที่สั่นน้อย ๆ เพราะทั้งกลัวและระแวงในเวลาเดียวกัน“เจ็บไหมคะ?” อลิษาถามเสียงเบา“ไม่เท่าไร” เขาตอบสั้น ๆ ดวงตาคมมองเธออยู่นานจนเธอต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา หลังจากพันผ้าเสร็จ เธอก็ถอนหายใจโล่งอกขึ้นนิดหนึ่ง“เรียบร้อยแล้วค่ะ... เอ่อ ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”ชายแปลกหน้าขยับสายตาขึ้นมองเธอแล้วพูดเสียงนิ่ง“แค่เจอกันครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องรู้จักชื
ห้ามทำร้ายฉันเด็ดขาดอลิษาสะดุ้งสุดตัว ถุงของในมือแทบหล่น เธอชะงักค้างอยู่ตรงนั้น ใจเต้นแรงจนแทบกลืนเสียงหายใจของตัวเองไม่ลง มือที่เย็นเฉียบจับข้อเท้าเธอแน่น ทำให้เธอเผลอกรีดร้องในลำคอเบา ๆ ก่อนเสียงนั้นจะตามมา“ชะ… ช่วยด้วย” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแหบพร่าราวกับเป็นแรงเฮือกสุดท้าย“คนไทย!!” อลิษาร้องออกมาด้วยความตกใจเป็นอย่างมากอลิษาเบิกตากว้าง เธอหันมองรอบตัวทันทีแต่ก็พบเพียงแค่ทางเดินมืดมิดและเงียบงัน ก่อนจะก้มลงช้า ๆ ให้แสงจากโทรศัพท์ส่องไปยังร่างของใครบางคนที่นอนฟุบอยู่ข้างถังขยะ เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่นและคราบเลือดบางจุด ดูเหมือนจะบาดเจ็บหนัก“คุณ… คุณพูดภาษาไทยเหรอ!” อลิษารีบพูด มือสั่นน้อย ๆ เพราะทั้งตกใจและกลัวในเวลาเดียวกันร่างตรงหน้าขยับเล็กน้อยและพยายามเงยหน้าขึ้น เสียงครางเบา ๆ หลุดออกมาอีกครั้ง “ช่วย… ด้วย…”อลิษากลืนน้ำลาย เธอย่อตัวลงนั่งยองใกล้ ๆ พลางยกโทรศัพท์ขึ้นส่องดูให้ชัด และทันทีที่แสงไฟส่องถึงใบหน้า... เธอก็ชะงักนิ่งงันเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนอลิษามองร่างตรงหน้าด้วยความตกใจและสับสน แต่เมื่อเห็นเลือดซึมตรงแขนเสื้อของเขา ความกลัวก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยความเป็นห่วง“คุณ… เป็
![สิงขร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






