นั่นยังไม่ทำให้เธอล้มเลิกความคิดที่จะเอาเขามาเป็นคนรักให้จงได้ รุ้งพรายทำมากกว่านั้น ด้วยการส่งรูปเธอกับเขาในชุดว่ายน้ำไปให้แฟนของคริษฐ์ดู ใส่ร้ายป้ายสีว่าเขามีใจให้เธอ ทั้งที่ก็แค่การไปว่ายน้ำตามประสาพี่น้องทั่วไป
‘ส่งรูปบ้า ๆ พวกนั้นไปให้มลเขาเข้าใจผิด
จิตใจเธอทำด้วยอะไรรุ้ง’
‘ก็รุ้งรักพี่คริษฐ์’
‘แต่พี่ไม่ได้รักรุ้ง’
‘แต่รุ้งรักของรุ้งมาตั้งนาน พี่มลมาทีหลังรุ้งอีก’
‘รักพี่หรืออะไร ความรักมันไม่ใช่แบบที่รุ้งทำหรอกนะ แบบนี้มันเหมือนเด็กใจแตกมากกว่า ต่อไปนี้ห้ามมาบ้านพี่ห้ามมายุ่งกับพี่หรือมลอีก’
‘รุ้งจะมา !’
‘รุ้งพราย !’
‘รุ้งจะมาพี่คริษฐ์จะทำไม คุณป้าพิมพ์ก็ไม่เคยห้าม’
‘ยัยเด็กบ้า ! ดีอยากรู้ว่าต่อไปจะกล้ามาอีกไหม’
คริษฐ์จ้องเธอแบบแปลก ๆ จากนั้นเขาก็ดันตัวเธอเข้ากับผนังห้องนอน รุ้งพรายเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในเรื่องนี้ เพราะทุกครั้งคริษฐ์จะไม่หยาบคายถึงเพียงนี้ อย่างมากก็แค่ด่าทอที่เธอทำเป็นหูทวนลม
‘รู้อะไรไหมรุ้ง ผู้ชายทุกคนบนโลกนี้เขาสามารถมีอะไรกับผู้หญิงที่เขาไม่รักได้ง่าย ๆ ถ้ารุ้งอยากได้พี่ก็จะสนองให้ ก็ดีเหมือนกันมันจะได้จบ ๆ กันไป’ มือทั้งสองของเธอถูกรวบขึ้นเหนือศีรษะ
‘พี่คริษฐ์ !’ เสื้อของเธอถูกเขากระชากจนยืดย้วย
‘พี่จะนอนกับรุ้ง จากนั้นก็จะแต่งงานกับมล รุ้งก็ได้อย่างที่ต้องการถือว่าพี่ช่วยสนองให้ไง อยากร่านดีนัก เห็นอ่อยมานานแล้วนี่ พี่ก็น่าจะสงเคราะห์ให้ได้’
‘พี่คริษฐ์ไม่ !’ คริษฐ์จูบเธอครั้งแรก แต่เป็นจูบที่รุ้งพรายต้องจดจำไปจนวันตาย เพราะมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกลียด กระแทกกระทั้นรุนแรงจนริมฝีปากบวมเป่ง ทุกการสัมผัสหยาบคายทั้งหมด
‘หลังจากเป็นของพี่แล้ว
ก็ออกไปจากชีวิตพี่ด้วยนะยัยเด็กใจแตก !’
ตอนนั้นมือของเธอเย็นเฉียบ เนื้อตัวแข็งทื่อก่อนจะถูกเขาล่วงล้ำไปมากกว่าการจูบและสัมผัสภายนอก เธอก็ออกแรงผลักเขาออกสุดฤทธิ์แล้ววิ่งลงจากห้องนอนของเขาไป มุดลอดรั้วกลับบ้านของตัวเองไปในสภาพที่ไม่กล้าให้มารดาได้เห็น บทเรียนคราวนั้นทำเธอตระหนักถึงความจริงว่าเขาเกลียดและไม่พอใจในสิ่งที่เธอทำ รุ้งพรายไม่กล้าเข้าเฉียดใกล้บ้านของคริษฐ์ ประจวบเหมาะกับบิดาต้องการให้เธอไปอยู่ด้วย หญิงสาวจึงตัดสินใจไปจากที่นี่ไปให้พ้นกับความรู้สึกน่าสะอิดสะเอียนนี้
เจ็ดปีผ่านไปทุกคนก็ต้องเติบใหญ่ขึ้น ความคิดก็ต้องเปลี่ยนไปจากเดิม ในวันนี้รุ้งพรายมองย้อนหลังไปในวันวาน หญิงสาวเห็นแค่เด็กสาวใจแตกคนหนึ่งที่ทำอะไรไม่คิด พอได้ใช้ชีวิตกับบิดาทุกอย่างมันเปลี่ยนไป มุมมองความคิดการใช้ชีวิตต้องจริงจังและมีเหตุมีผล รุ้งพรายเปลี่ยนไปแต่หัวใจของเธอยังคงเดิม เธอไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนคนรักมาแล้วกี่คน แต่สำหรับเธอในหัวใจยังคงมีเขาแค่คนเดียว ตัดไม่ขาดสลัดไม่หลุดเหมือนฝังอยู่ในจิตสำนึกของเธอไปเสียแล้ว
หลังเก็บเสื้อผ้าอาบน้ำเสร็จหญิงสาวก็เปิดหน้าต่างออกมองดูรอบ ๆ บริเวณบ้าน บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ด้านข้างคริษฐ์จะนอนห้องไหน แล้วเขาเป็นอย่างไรบ้างตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมานี้ อยากรู้แต่ไม่กล้าถาม เพราะกลัวความอยากรู้อยากเห็นจะเป็นแรงจุดไฟรักในอดีตขึ้นมาอีก พอแล้วไม่อยากรู้สึกอับอายขายหน้าแบบนั้นอีกแล้ว หันหลังกลับไปทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วปิดเปลือกตาลง นานพอสมควรก่อนที่มารดาของเธอจะขึ้นมาปลุกให้ลงไปกินข้าว
“กับข้าวของโปรดของรุ้งทั้งนั้นเลยนะลูก” นางอำไพเลือกทำแต่ของโปรดของลูกสาวทุกจาน
“ขอบคุณค่ะแม่ทำเสียเยอะเลยจะกินหมดไหมนี่” รุ้งพรายนับจานกับข้าวแล้วก็มีถึงสี่อย่างด้วยกัน ลำพังสองคนจะกินหมดหรือเปล่าก็ไม่รู้
“ต้อนรับการกลับมาของลูกสาวแม่ทั้งทีเหลือก็ใส่ตู้เย็นเก็บไว้กินพรุ่งนี้ต่อได้อีก กินเข้าไปเยอะ ๆ รุ้งผอมไปนะแม่ว่า”
“หืม ไม่จริงมั้งแม่รุ้งน่ะหุ่นพอดีแล้วนะ” คนเป็นลูกก้มลงมองรูปร่างของตัวเองพร้อมกับแย้งมารดาไปด้วย
“จ้าหุ่นดีแล้วก็ยังต้องกิน อ้อพรุ่งนี้แม่ต้องไปทำความสะอาดบ้านคุณพิมพ์เขานะรุ้ง รุ้งอยู่บ้านคนเดียวไปก่อนนะลูก”
“ทำความสะอาดบ้านคุณป้าพิมพ์ ?” หญิงสาวงุนงงเพราะเป็นเรื่องใหม่ที่เธอเพิ่งได้ยิน
“จ้ะ ช่วงหลายปีมานี้เวลาแม่บ้านเขาไม่อยู่หรือลากลับบ้านไปนาน ๆ คุณพิมพ์ก็จะมาจ้างแม่ไปทำความสะอาดบ้านแทน นี่ป้าพุดกับหลานสาวก็ลากลับไปทำบุญกระดูกให้บรรพบุรุษ เห็นว่าจะอยู่ต่างจังหวัดต่อเลยสักอาทิตย์หนึ่ง คุณพิมพ์เลยมาจ้างแม่ทำงานบ้านช่วงนี้”
“เอ่อ แล้วแม่ก็ทำเหรอคะ”
“งานเล็กงานน้อยก็เงินนะลูก อีกอย่างคุณพิมพ์ให้ค่าจ้างแพงด้วยแม่เลยทำ ใครจ้างแม่แม่ก็ทำหมดแหละดีกว่าอยู่เฉย ๆ”
“แล้วขนมของแม่ล่ะคะ”
“ก็เตรียมเอาไว้ให้ลูกค้าเหมือนปกตินั่นแหละ ลูกค้ามาเอาตอนไหนก็ค่อยมาเอาของให้ จากนั้นก็ไปทำความสะอาดต่อ”
“งั้นเอางี้นะคะ พรุ่งนี้รุ้งไปช่วยแม่ทำความสะอาดบ้านคุณป้าพิมพ์ดีกว่า จะได้เสร็จเร็ว ๆ”
“รุ้งจะทำได้เหรอลูก”
“แม่ยังทำได้เลย ทำไมรุ้งจะทำไม่ได้ล่ะ ก็แค่ทำความสะอาดบ้านแค่นี้เอง”
“ก็ได้ ๆ ความจริงแม่อยากให้รุ้งพักผ่อนนาน ๆ นะ ไม่ต้องมาออกแรงออกเหงื่อแบบแม่หรอก”
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ นอนคืนเดียวก็หายเหนื่อยแล้ว ทำความสะอาดก็แค่ช่วงเช้าไม่ใช่เหรอคะ จากนั้นก็มีเวลานอนอีกตั้งเยอะตั้งแยะ” หญิงสาวยิ้มให้มารดา ไม่อยากให้ท่านต้องทำงานหนักเพียงลำพัง อะไรที่ช่วยได้รุ้งพรายก็อยากแบ่งเบา
“แน่ใจเหรอรุ้งว่าจะไปทำความสะอาดกับแม่” คนเป็นแม่เลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย เพราะการไปทำความสะอาดบ้านของนางพิมพ์พรนั้นก็เสี่ยงกับการเจอหน้ากับใครบางคนด้วย
“แน่ใจค่ะ” รุ้งพรายพยักหน้าให้มารดา
“พรุ่งนี้วันอังคาร แม่ว่าพี่คริษฐ์เขาคงไปทำงานแต่เช้า” นางอำไพพูดเหมือนรู้ถึงความลำบากใจของลูกสาว
“ค่ะ ไม่เจอก็ดี” รุ้งพรายฝืนยิ้มออกมา แค่เห็นหลังคาบ้านใจก็สั่น ถ้าเห็นคริษฐ์ตัวเป็น ๆ ใจเธอจะเต้นแรงขนาดไหน
“ไม่อยากรู้เรื่องของพี่คริษฐ์เขาเลยเหรอรุ้ง”
“รู้ไปก็เท่านั้นแหละค่ะ รุ้งทำไม่ดีกับพี่คริษฐ์เอาไว้เยอะ เลยไม่อยากสร้างความลำบากใจให้พี่เขาอีก”
“คิดได้แบบนี้ก็ดีแล้วลูก แต่แม่ว่ารู้ไว้หน่อยก็ดีนะ”
“แม่ก็” หญิงสาวมองค้อนมารดาเล็กน้อย
“พี่คริษฐ์เขายังไม่ได้แต่งงานนะ” แค่ประโยคนี้ของมารดาช้อนที่ตักข้าวเข้าปากของคนเป็นลูกก็ค้างชะงัก เหมือนสิ่งที่คิดเอาไว้ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาบอก ‘พี่จะแต่งงานกับมล’
“พี่คริษฐ์เคยบอกว่าจะแต่งงานกับพี่มลนี่คะแม่”
“ก็เกือบ นั่นแหละลูก จู่ ๆ ฝ่ายหญิงก็เงียบหายไปเลย มารู้ทีหลังจากคุณพิมพ์ แกบอกว่าผู้หญิงไปเจอคนใหม่เลยเลิกกัน ส่วนพี่คริษฐ์เราก็มีแฟนใหม่ไปเรื่อย ๆ แต่แม่ก็ไม่เห็นจะตกลงแต่งงานกับใครสักที ตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนจะยังโสดอยู่นะอายุก็สามสิบสี่ไปแล้ว ยังไม่เห็นมีใครเป็นตัวเป็นตนสักที”
นางอำไพเล่าไปพร้อมกับสังเกตสีหน้าลูกสาวไปด้วย แต่สิ่งที่นางเห็นก็คือแววตาประหลาดใจแต่ไม่ใช่ตื่นเต้นและยินดีเหมือนในอดีต ลูกสาวของตนเมื่อก่อนนั้นแววตาแพรวพราวทุกครั้งที่เอ่ยถึงผู้ชายที่ชื่อ คริษฐ์
“เหรอคะ ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับรุ้งอยู่ดี ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าค่ะแม่ รุ้งอายกับเรื่องในอดีตไม่รู้ทำไปได้ยังไงแต่ละอย่างน่าขายหน้าจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่พี่คริษฐ์จะรำคาญและด่ารุ้งในตอนนั้น”
“ลูกแม่โตขึ้นแล้วจริง ๆ คิดไม่ผิดเลยที่ส่งลูกไปอยู่กับพ่อ”
“อยู่กับพ่อจะมาทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ ไม่ได้ค่ะแม่ ทุกวันก็ต้องทำงานช่วยกัน พ่อค่อนข้างจริงจังกับชีวิตของคนงานในไร่และครอบครัวมาก พ่อสอนรุ้งให้จริงจังกับชีวิตของตัวเองด้วย กว่าจะปรับตัวได้ก็สองปีโน่นแหละค่ะ”
“แต่มันคุ้มใช่ไหมรุ้ง” นางอำไพเห็นข้อดีของการส่งลูกสาวไปอยู่กับอดีตสามี คุ้มค่ากับเวลาที่ห่างหายกันไป ขืนอยู่กับตนเองคงได้กลายเป็นเด็กเอาแต่ใจเหมือนในอดีตแน่
“ค่ะคุ้มค่ามาก รุ้งแข็งแรงขึ้นเยอะ ไม่งอแงเอาแต่ใจแบบเมื่อก่อนแล้วนะแม่ แม่สบายใจได้แล้วนะไม่ต้องมาซักผ้าล้างจานให้รุ้งอีกต่อไป รุ้งทำเป็นหมดแล้วนะแม่”
“ได้ยินแบบนี้แม่ก็สบายใจ” นางอำไพรู้ตัวดีว่าเลี้ยงลูกมาแบบผิดวิธี ตามใจจนเกือบจะเสียผู้เสียคน โชคดีที่มีจุดเปลี่ยนให้รุ้งพรายได้คิดได้
หลังอาหารมื้อค่ำสองแม่ลูกก็ช่วยกันล้างจานจากนั้นก็นั่งดูโทรทัศน์พูดคุยกันตามประสาคนห่างกันไปนาน ราวสามทุ่มก็แยกย้ายกันขึ้นนอน
แสงไฟสว่างวาบขึ้นในห้องที่เคยมืดสนิทมาหลายปี ชายหนุ่มบนชั้นสองของบ้านหลังด้านข้างถึงกับแง้มม่านหน้าต่างเพื่อดู ห้องนอนห้องนั้นคริษฐ์จำได้ดีว่าเป็นของใคร
‘รุ้งพราย’
มือรูดเนกไทออกแล้วโยนลงตะกร้าผ้า ตามด้วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตไปด้วย คริษฐ์เพิ่งเดินเข้าห้องมาเขายังไม่ได้เปิดไฟภายในห้อง เพราะแสงสว่างจากข้างบ้านเรียกความสนใจจากเขาก่อน ยัยเด็กแก่แดดนั่นกลับมาแล้วหรือว่าแค่นางอำไพเปิดไฟในห้องนอนของลูก ซึ่งก็ผิดปกติไปจากทุกวัน เพราะห้องนอนห้องนั้นไม่เคยมีแสงสว่างนับตั้งแต่เจ้าของห้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดเมื่อเจ็ดปีก่อน ชายหนุ่มปิดม่านที่แง้มไว้นิด ๆ แล้วเปิดไฟภายในห้องนอน พยายามคิดถึงงานที่จะทำในวันพรุ่งนี้มากกว่าเรื่องของยัยเด็กใจแตกในอดีตนั่น
ตอนที่ : 74 วันของเรา 5 (จบ)คริษฐ์ขานเหมือนไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้มือของเขากำลังล้วงเข้าไปในกระโปรงผ้าชีฟองสีครีมของภรรยา ค่อย ๆ ดึงชั้นในผ้าซาตินสีดำออกจากโคนขา อาการเบาหวิวแสนสะท้านส่งผลให้รุ้งพรายหนีบท่อนขาเข้าหากันแน่ แต่อีกคนใช่ว่าจะยอมให้ทำแบบนั้นได้ง่ายดาย คริษฐ์ใช้สองมือจับที่ต้นขาแล้วดันแยกให้ออกจากกัน “อ๊ะ !” เหมือนถูกจับเปิดอ้าทั้งที่มีกระโปรงคลุมอยู่ ทว่าผ้าบางเบานั่นก็ร่นขึ้นอยู่เหนือสะโพก ยิ่งเขาดันต้นขาให้สูงขึ้นทุกอย่างก็ยิ่งเปิดอ้าและเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาของเขา รุ้งพรายไม่เคยมั่นใจตั้งแต่หลังคลอดลูก ทุกครั้งที่ถูกร่วมรักเธอก็มักจะกล้า ๆ กลัว ๆ “พี่คริษฐ์ !” หญิงสาวสะบัดหน้าไปมาตามแรงขยับจากปลายนิ้วของเขา “ยังไม่ชินอีกเหรอรุ้งทำไมต้องอายพี่ขนาดนี้ด้วยหืม” “รุ้งยังอ้วนอยู่เลยนะคะพี่คริษฐ์” “อ้วน ! ไปเอาความคิดนี้มาจากไหนกันรุ้ง พี่ว่านี่มันหุ่นนางฟ้าชัด ๆ ดูสิอวบอิ่มจับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด” ไม่เพียงแค่พูดคริษฐ์ยังจับหมุบหมับอีกด้วย “พี่คริษฐ์พูดจริงเหรอคะ” “จะโกหกทำไม แบบนี้เซ็กซี่มากรู้ไหม ไ
ตอนที่ : 73 วันของเรา 4 “ก็มีบ้างค่ะ แย้มยังไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นโลกใบนี้อีกตั้งหลายอย่าง จู่ ๆ จะให้มาเป็นแม่คนมันก็แปลก ๆ สักหน่อยค่ะ” “นี่จะบอกว่าฉันตัดอนาคตเธอเหรอแย้ม” เตชัสตัดพ้อภรรยา “ไม่ใช่ค่ะ คุณเตก็รู้ว่าก่อนหน้าแย้มก็ เอ่อ” แย้มรีบปฏิเสธแต่ก็ตะกุกตะกักในตอนท้ายประโยค “เอ่อ อะไร” คนได้ใจเขี่ยแก้มแย้มเล่น “ก็รู้ว่าแย้มมีใจให้ก่อนหน้าแล้วใช่ไหมคะ ในตอนนั้นถึงได้กล้าเอ่อ ปล้ำ” ถามเขาแล้วก็หลบสายตาที่จ้องหยาดเยิ้มกลับมาไปอีกทาง “ใช่ ฉันรู้ฉันถึงกล้าทำยังไงล่ะ”เตชัสยิ้มบาง ๆ เพราะเขาหงุดหงิดกับเรื่องของพี่ชายที่ไปหมั้นกับรุ้งพราย เตชัสรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่คนสำคัญมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งรู้ว่าพวกเขาได้หมั้นกันความรู้สึกของเขาก็เหมือนเด็กขี้อิจฉา ที่ไม่เคยได้ของเล่นชิ้นถูกใจสักที เตชัสไม่เคยบอกใครเรื่องที่เขาอยากให้รุ้งพรายมาสนใจบ้าง มันเป็นความริษยาวัยเด็กที่พอโตขึ้นมาก็อยากจะได้ความรู้สึกพิเศษแบบนั้น แต่รุ้งพรายก็ทำให้เขารู้สึกไร้ค่ามาโดยตลอด ในวันนั้นเขาเลยอยากปลดปล่อยความรู้สึกพวกนั้นทิ้งไป และแย้มก็คือคนที่อยู่ตรงนั้นพอ
ตอนที่ : 72 วันของเรา 3 “น่ารักที่สุดเลย รอบนี้ครั้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ พี่รับรอง” เขาฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงสะอาด รุ้งพรายพลิกตัวหันหน้าเข้าหาเขา แล้วโน้มหน้าเข้าไปจูบแก้มสากด้านขวาเบา ๆ “รุ้งรักพี่คริษฐ์ค่ะ ไปไหนไปกัน” ได้ไฟเขียวแบบนี้สามีของเธอก็เดินหน้าต่อในอ่างอาบน้ำ กว่าเขาจะถึงฝั่งฝันแสนเร่าร้อนรุ้งพรายก็แทบสลบคาอกของสามี รู้ตัวอีกทีก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นมาวางบนเตียงนอน สภาพของเธอคงไม่ไหวแล้วจริง ๆ สามีจึงจัดการสวมชุดนอนให้ พอได้ซุกอกอุ่น ๆ ของเขา รุ้งพรายก็ไม่อยากเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกเลย ในความกึ่งหลับกึ่งตื่นเธอกลับได้ยินเสียงนุ่ม ๆ ของเขา กระซิบแผ่วเบาตรงใบหู “สุดท้ายพี่ก็หนีรุ้งไม่พ้น” ในความมึนงงเธอขมวดคิ้วขึ้นตามความรู้สึกสงสัย“และพี่ก็รักรุ้งจนได้” คราวนี้คนใกล้จะหลับสนิทถึงกับเผยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ได้รางวัลพิเศษเป็นการหอมแก้มซ้ายขวาจากสามี ค่ำคืนนี้เธอจะได้นอนหลับอย่างมีความสุข ในอ้อมอกของคนที่เธอรักสุดหัวใจ“รุ้งก็รักพี่คริษฐ์ค่ะ” เธอตอบเขาทั้งที่หลับตาคริษฐ์เขี่ยแก้มของภรรยาเบา ๆ รอยยิ้มของเขาแต่งแต้มเต็มใบหน้า แม้ตอนหลับจิตใต้สำ
ตอนที่ : 71 วันของเรา 2 “พี่คริษฐ์ !” คราวนี้หญิงสาวผวาเข้ากอดคอเข้าแน่น หนีบต้นขาเข้าหากันแน่นไม่ยอมปล่อย “ไม่เอาน่าคนดีของพี่ ไม่งอแงสิ” “รุ้งไม่ได้งอแงนะ แต่ว่า แต่...” “พี่ขอนะ” “คะ” รุ้งพรายยังงงแต่เขาเลื่อนชั้นในออกจากสะโพกของเธอ ใช้ปลายเท้าเขี่ยทิ้งลงข้างเตียง ความเย็นโล่งหวิวสัมผัสเข้ากับความเป็นชายของเขา “รุ้ง” คริษฐ์เรียกคนที่แทบจะตัวแข็งไปอีกรอบ “คะ” หนนี้รุ้งพรายไม่กล้าสู้หน้าเขา เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที “อย่ากลัวพี่สิ ไหนว่ารักพี่ไง” “ก็รักค่ะ” ‘แต่ก็กลัว’ “รักแล้วทำไมถึงทำท่าไม่มั่นใจพี่แบบนี้ล่ะ” คริษฐ์เห็นหน้าเจ้าสาวของตัวเองแล้วพลอยหัวใจอิ่มเอมไปด้วย ทั้งสวยทั้งนุ่มนิ่มไปทั้งตัว ยัยเด็กจอมตื๊อในอดีตคนนั้นทำเขาใจสะท้านได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือท่าทีเอียงอายแกมไร้เดียงสายิ่งทำให้เขาสุขใจขึ้นไปอีก ก้มลงจูบปิดปากอิ่มอย่างดูดดื่มและเรียกร้อง ฝ่ามือก็ขยำทรวงอวบอัดทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม กายท่อนล่างก็เสียดสีให้เกิดหยาดน้ำหวานหล่อเลี้ยง และเมื่อทุกอย่างพรั่งพร้อมแล้วคริษฐ์ก
ตอนที่ : 70 วันของเรา26วันของเรา คืนเข้าหอของคริษฐ์กับรุ้งพราย หลังจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ให้พรและส่งตัวเข้าหอเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาของคู่บ่าวสาวคริษฐ์มองดูเตียงนอนสีชมพูระบายลูกไม้สวยงาม เขาสั่งงดโรยดอกกุหลาบบนเตียงเพราะไม่อยากเสียเวลาปัดออก เจ้าสาวคนงามก็ยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง วันนี้รุ้งพรายสวยจนเขาตะลึง ชุดเจ้าสาวด้านหน้าดูเรียบง่ายเป็นผ้าซาตินแขนกุด ทว่าเปิดเปลือยด้านหลังไปถึงเอว มีโบผูกอันใหญ่ด้านหลังกระโปรงที่ทิ้งชายลงลากพื้นแลดูเรียบหรู “เหนื่อยไหมรุ้ง” เจ้าบ่าวเดินมานั่งลงด้านข้างกับเจ้าสาว “เหนื่อยค่ะ ปวดขาไปหมดแล้ว” รุ้งพรายถลกกระโปรงขึ้นเพื่อดูเท้าของตัวเอง คริษฐ์ถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นห้อง “พี่คริษฐ์ทำอะไรคะ” เจ้าสาวร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าบ่าวยกเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา “พี่จะดูว่าเท้าเป็นแผลไหม ใส่รองเท้าใหม่อาจไม่ชิน” เอ่ยแล้วก็หันเท้าของเจ้าสาวเพื่อดูบริเวณส้น พบว่ามีรอยถลอกจนแดงไปทั้งสองข้าง “นี่แค่ญาติพี่น้องแล้วก็จัดในสวนบ้านพี่เองนะ ถ้าเป็นในโรงแรมอาจจะหนักกว่านี้” คริษฐ์บอกแล้วก็อดสงสารเจ้าสาวไม่ได
ตอนที่ : 69 ทางออกของทุกคน 3 “ก็ให้แย้มมานั่งเป็นเพื่อนจะไปอาบน้ำทำไมกันคะ” แย้มก็ทำหน้าทะเล้นใส่เขาบ้าง “ไม่ต้องมาย้อนฉันเลย ไปเดี๋ยวนี้” “ไม่ค่ะ” “ถ้าไม่ไปฉันจะเป็นคนพาไปเองนะ อ้อ แล้วฉันก็จะอาบเป็นเพื่อนเธอด้วย” อีกคนลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ดีแน่หากปล่อยให้เขาเข้าห้องอาบน้ำด้วย “ไม่ต้องค่ะ แย้มอาบคนเดียวดีกว่า” หญิงสาวแทบจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป โดยมีเสียงหัวเราะของเตชัสไล่หลังไปติด ๆ กลับออกมาอีกครั้งเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม แย้มสวมเสื้อยืดสีขาวตัวยาวกับกางเกงขาสั้นเอวยืดแบบที่เตชัสชอบให้สวมใส่ เตชัสเห็นแล้วก็อมยิ้มพร้อมกับชี้ลงที่หน้าตักของตัวเอง “มานั่งนี่เลย” แย้มทำหน้างอใส่เล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไปทิ้งสะโพกลงนั่งบนตักของเขาอย่างว่าง่าย “หอม ๆ แบบนี้ค่อยน่ากอดหน่อย” คนพูดซุกหน้าลงตรงซอกคอของแย้มสูดกลิ่นกายสาวเข้าเต็มปอด “แย้มไม่ได้ใช้น้ำหอมแบบสาว ๆ คนอื่นของคุณเต ไม่ได้น่ากอดขนาดนั้นหรอกค่ะ” “อยู่กับฉันแค่สองคนทำไมต้องพูดถึงคนอื่นนะแย้ม เสียอารมณ์หมด” เตชัสตำหนิหญิงสาวเล็กน้อย นั่นทำให้แย้