รักลับสัมพันธ์สวาท
ตอนที่ 8
(ไปแน่!)
(อารียา)
"คุณหลอกฉันใช่ไหม" ฉันเหมือนกับหยุดหายใจเมื่อคุณนิโคลไลพูดออกมา ถึงผู้อุปการะที่ฉันเฝ้ารอว่าสักวันจะได้มาพบหน้า แต่ว่าวันนี้เหมือนฝันนั้นของฉันสลายไป เหมือนโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุน ฉันได้แต่ยืนนิ่งมองหน้าเขาอย่างไม่คิดเชื่อ น้ำตาเริ่มเอ่อคลอในดวงตา เพราะว่าสิ่งที่ได้ยินมันดับฝันที่ฉันเฝ้ารอ
"พ่อผมเสียแล้วจริง ๆ ไม่อย่างนั้นคุณจะมาอยู่ในปกครองผมได้ยังไง" เขาพูดขึ้นอย่างคนไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทั้งที่ใจของฉันมันกำลังเจ็บปวดและโศกเศร้า อึ้งกับสิ่งที่ได้ยินจนแทบหยุดหายใจลงตรงนี้
"ทำไมคุณไม่บอกฉัน ทำไมไม่มีใครบอกฉันบ้าง ฮือ~~คุณมันใจร้าย ฉันรอมานานแค่ไหนไม่รู้หรือไง ฉันหวังว่าสักวันจะได้เจอคุณท่าน ไม่ใช่เพียงเจอกันผ่านตัวหนังสือในอีเมล์ ฮือ..." สุดท้ายฉันก็เก็บกลั้นความเสียใจไม่ไหว ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาพรั่งพรูอย่างไม่คิดอายผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทุบอกของเขาระบายความเศร้าที่ถาโถมอย่างไม่ทันตั้งตัว
"ใจร้ายอะไร ผมแค่เห็นว่าไม่สำคัญขนาดนั้น พ่อผมตายนะไม่ใช่พ่อของคุณตายซะหน่อย"
เปี้ยะ!
เขาพูดหน้าตาเฉย มันเลยทำให้ฉันเสียยิ่งใจหนักขึ้น จนฟาดฝ่ามือกระแทบใบหน้าของเขาหันไปตามแรง ฉันไม่รู้สึกผิดในการที่ตบหน้าเขาครั้งนี้สักนิด เพราะคำพูดนั้นสะกิดใจฉันให้เจ็บแปลบ เขาพูดแบบไม่รักษาน้ำใจใคร พูดเอาแต่ใจตัวเองไม่คิดแยแสใจคนฟังอย่างฉันที่กำลังเจ็บร้าวที่หัวใจสักนิด
"มากเกินไปแล้วอารียา" เขาจับหน้าตัวเอง ดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มจนป่อง แล้วหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงนิ่ง แต่สายตาที่เขามองมานั้นมันมีเปล่งประกายความไม่พอใจ ซึ่งฉันไม่คิดสนใจในเมื่อเขาใจร้ายกับฉันก่อน คำพูดที่เหมือนคนสิ้นคิดทำให้ฉันอยากจะตบหน้าเขาซ้ำ ๆ ระบายความเจ็บ
"แค่ตบครั้งเดียวมันยังน้อยไป...คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง! คุณท่านอุปการะฉันมาขนาดนี้ จะไม่ให้ฉันรู้อะไรบ้างแม้กระทั่งท่านไม่อยู่แล้ว คุณมันโคตรใจดำคุณนิโคลไล ฉันเฝ้ารอที่จะเจอหน้าท่าน รอวันที่ฉันจะได้กราบแทบเท้าผู้มีพระคุณสักครั้ง แต่คนไม่มีหัวใจ ไม่เคยนึกถึงใครแบบคุณคงไม่มีวันเข้าใจ" ฉันตวาดเขาอย่างหัวเสีย ไม่ต้องเก็บกลั้นอารมณ์ ความรู้สึกของฉันมันจมดิ่งลงเหว เมื่อสิ่งที่คาดหวังได้พังทลายลง "ฉันจะไปจากที่นี่ ไม่มีความจำเป็นที่ฉันต้องอยู่ ในเมื่อไม่มีคุณท่านแล้ว"
"ไปซะสิถ้ามีปัญญา อย่ามาเก่งแต่ปาก" เขาพูดออกมาอย่างดูแคลน ไม่สะทกสะท้านอะไร
"ฉันไปแน่!"
"เชิญเลยแม่คนเก่ง หาทางกลับเองก็แล้วกัน"
ฉันได้แต่ยืนกำมือแน่นอย่างโมโห เขาที่ตัวโตกว่าก็ได้แต่ยืนยกยิ้มมองหน้าฉันอย่างเย้ยหยัน มันยิ่งทำให้ฉันหัวร้อนมากกว่าเดิมเมื่อเขาท้าทายออกมาทางสีหน้า และคำพูดที่ไม่ได้ให้ความสนใจฉันสักนิด ซึ่งอันนั้นฉันไม่ติดอยู่แล้วเพราะยังไงเราสองคนก็เป็นคนอื่นที่มาเจอหน้ากัน ในวันที่และเวลาเหมาะสม โชคชะตานำพาให้เรามาเจอกัน แต่ฉันหวังว่าจะได้เจอกับผู้ชายเฮงซวยคนนี้แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น
"ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อเย็นค่ะ...และฉันจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเพราะยังไงก็ไม่มีคุณท่านแล้ว" ฉันเดินด้วยความทุลักทุเลไปหยิบกระเป๋าเดินทาง ที่มันยังไม่ถูกจัดเก็บเข้าที่ พูดแล้วก็เดินลากหนีออกมา ไม่อยากจะมองหน้าคนใจร้ายสักนิด
"ฮึ...ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน" เขายกยิ้มมุมปากแล้วมองหน้าฉันด้วยสีหน้าที่เหยียด เหมือนไม่เชื่อว่าฉันจะทำอย่างที่ปากว่าจริง ๆ เขากำลังหมิ่นฉันด้วยสายตา
"ฉันทำได้แน่!" และฉันจะไม่มีวันกลับมาบ้านที่มีเขาอยู่แน่ ผู้ปกครองอย่างนั้นเหรอ ปกครองตัวเองให้มันดีมีคุณภาพก่อนเถอะ
เขาพูดออกมาได้ยังไงว่านั่นไม่ใช่พ่อของฉันไม่จำเป็นต้องบอก แต่คุณท่านก็ไม่ต่างไปจากพ่อที่คอยส่งเสียอุปการะฉัน ในยามที่ฉันลำบากท่านก็ช่วยเหลือฉันตลอด จะไม่ให้ฉันสำนึกในบุญคุณครั้งสุดท้ายเลยหรือไง เขามันคนไม่มีหัวใจ!
"หากให้ฉันมาอยู่กับคนอย่างนาย ฉันขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า ไอ้คนทุเรศ" ฉันเดินออกมาจนพ้นรั้วบ้านหลังใหญ่ แล้วหันหลังกลับไปมองจ้องไปยังห้องที่คิดว่าเขายังอยู่ด้วยความโมโหสุดขีด ต่อว่าเขาอยู่ด้านหน้าทั้งที่เขาก็ไม่ได้ยินมันหรอก จากนั้นฉันจึงเดินออกมาแล้วยืนรอแท็กซี่ เพื่อจะไปสนามบินกลับประเทศที่ฉันจากมา...
บทส่งท้าย-มันคือรักที่ยากจะหวนกลับ(อารียา)เวลาผ่านไปหลายเดือน คนที่อยู่ในท้องก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลา คำสัญญาที่คนแก่ของฉันเคยให้ไว้ ภาระหน้าที่การงานก็รีบเคลียร์แล้วพาฉันมาเที่ยว...("เรียบร้อยดีใช่ไหม? อืม แล้วนี่นายอยู่ที่บริษัทไหม?...งานที่บริษัทฝากนายด้วย เดี๋ยวสิ้นปีจะตบโบนัสให้อย่างงามเลย...มึงพูดให้มันเคลียร์ ๆ ดิเชรค... ไอ้เชรค!")ประโยคเหล่านี้ฉันนั่งฟังพร้อมกับรอยยิ้มในบางครา และแน่นอนว่าเขากำลังคุยกับเลขาคนสนิท ที่สามารถฝากฝังหน้าที่การงานได้ คำพูดที่หยาบโลนแต่แอบซ่อนด้วยความทะเล้น คนแก่ ๆ ที่ฉันเคยตราหน้าว่า เป็นเหมือนหมาที่เอาไม่เลิกฤดู สุดท้ายจนก็ต้องมาตกม้าตายและกลืนน้ำลายตัวเอง ซึ่งก็ไม่ต่างจากเขา ที่อดีตเคยลั่นไม่คิดจะเอาผู้หญิงอย่างฉันทำเมีย...เสมอกันทั้งฉันและเขาสายลมอ่อนพัดกระทบใบหน้า ทำให้ฉันรู้สึกดี มันสดชื่นจนยากจะบรรยาย ตอนนี้ฉันกลายเป็นคุณแม่ที่พร้อมดูแลลูกน้อยที่อยู่ในท้อง คนที่ไม่เคยเห็นหน้าแต่ว่าฉันกลับรักมากมาย แม้ถวายชีวิตฉันก็สามารถให้เขาได้ 'ลูก' เพียงเท่านั้นที่ฉันยอมและ และคนแก่ที่นั่งข้างฉันก็คงคิดและรู้สึกแบบเดียวกัน"อากาศเริ่มเย็นแล้วนะ""ขอนั่ง
(อารียา)หลังจากที่ฉันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้ก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว เพราะอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่คนแก่ของฉันก็แสดงความโอเวอร์เร้าหรืออยากให้อยู่ใกล้หมอต่อ ให้เหตุผลว่าอยากให้แน่ใจว่าฉันหายดีแล้วจริง ๆ จนฉันต้องเอาลูกที่ยังเท่าเม็ดถั่วมาอ้างว่าไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาล เขาถึงได้ยอมให้ฉันกลับมาพักที่บ้าน…เขามันเวอร์ทั้งที่ฉันปกติดีทุกอย่าง“ไม่ต้องประคองหรอก หนูเดินเองได้” ฉันบอกเขาในขณะที่เราสองคนกำลังเดินเข้าไปในตัวบ้าน“ไม่ได้หรอกเผื่อลื่นขึ้นมาจะทำยังไง อยู่ใกล้ ๆ แบบนี้มีอะไรจะได้รับไว้ทัน ทำไมหนูไม่เข้าใจอะ” เหตุผลคนแก่ที่ทำฉันต้องอมยิ้ม แม้บางทีจะดูงี่เง่าไปบ้างก็เถอะ“ก็ไม่อยากให้อาวุ่นวายไง แล้วนี่งานไม่เยอะเหรอถึงไม่เข้าบริษัท” หันไปถามเขา ทำเอาคนแก่ของฉันถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที“นี่ไล่ทางอ้อมใช่ไหม ทำไมอยู่ด้วยกันมันอึดอัดมากหรือไง ใช่สิคนอายุเยอะมันคงไม่กร้าวใจเหมือนคนหนุ่ม ๆ” มีโวยวายเบา ๆ อย่างกับน้อยใจ อะไรวิ่งเข้าหัวสมองทำให้เขาต้องมีอาการวัยรุ่นแบบนี้นะ ทำฉันกลั้นขำแทบไม่ไหวเลยทีเดียว“อะไรของคุณอากันคะเนี้ย หนูไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย แค่เป็นห่วงว่างานขอ
(นิโคลไล)“ว่าไงเชรค” โทรศัพท์มือถือดังขึ้นจนผมต้องหันไปสนใจ เป็นเชรคที่โทรเข้ามา ผมกลัวว่าอารียาจะตื่นหากคุยอยู่ตรงนั้น จึงเดินออกไปตรงระเบียง เพราะตอนนี้เธอกำลังนอนหลับสนิท“เรื่องที่นายให้ผมไปสืบได้ความแล้วครับ”“ว่ามา”“คุณไมค์กับคุณนาตาลีร่วมมือกันทำร้ายคุณอารียาจริง ๆ ครับ เขาเป็นลูกชายของมิสเตอร์ปาเวลที่ฆ่าตัวตาย หลังจากที่คุณนิคไปเทคโอเวอร์บริษัทนั้นมา แต่คุณไมค์ก็มีธุรกิจที่เรารู้กัน แต่จริงแล้วบริษัทที่พ่อเขาสร้างมากับมือเข้าสู่สภาวะวิกฤตเรื่องการเงิน เพื่อรักษาบริษัทนั้นไว้เขาจึงได้ยอมให้ทางเราเทคโอเวอร์” “ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขามีทายาทอีกคน”“คุณไมค์เป็นลูกภรรยาคนที่สองของมิสเตอร์ปาเวลครับ เขาและพ่อของเขาผูกพันกันมาก เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน และผมคิดว่าการที่เขาเข้าใกล้คุณอารียาเพราะว่า.....”“คงเพราะคิดว่าฉันเป็นต้นเหตุให้พ่อเขาฆ่าตัวตายสินะ”“พ่อเขาเป็นคนขอให้คุณนิคช่วยซื้อบริษัทไว้ เพราะห่วงพนักงานกลัวว่าจะตกงานหากบริษัทปิดตัวลง จุดนี้ผมคิดว่าคุณไมค์คงไม่ทราบถึงเบื้องลึกเหล่านี้”สิ่งที่ผมมอบหมายให้เชรคไปตามสืบ เรื่องราวที่ผมเฝ้ารอ มันทำให้ผมหูผึ่งแ
(อารียา)ฉันตื่นนอนในยามเช้า ข้างเตียงไม่มีเขาที่เฝ้าฉันเมื่อคืน กวาดสายตามองหาจนพบว่าเขายืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียง เหมือนกับเลี่ยงไม่อยากให้ใครได้ยิน ไม่รู้ว่ากลัวจะรบกวนการนอนหลับของฉัน หรือมันมีเรื่องอะไรที่ปิดบังจนไม่อยากได้ฉันรับรู้ ฉันนอนมองแผ่นของเขาอย่างครุ่นคิด พร้อมกับทบทวนคำพูดและการอ้อนวอนของเขาที่พูดเมื่อคืน...ฉันควรเปิดใจและให้โอกาสเขาได้เป็นพ่อของลูกดีไหม?“ตื่นแล้วเหรอ...รู้สึกยังไงบ้าง ปวดหัวหรือรู้สึกไม่สบายตัวไหม?” เขาถามทันทีเมื่อเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่วางสาย ถามรัวจนฉันตั้งตัวที่จะให้คำตอบไม่ทัน สีหน้าของเขาดูห่วงใยฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกดี แต่ก็ไม่รู้ว่าคนอย่างนิโคลไลจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน ไม่แน่ใจว่าเขาจะจริงจังหรือไม่ ฉันไม่อยากจะคาดหวังกับผู้ชายคนนี้เลย...กลัวผิดหวัง“ไม่เป็นอะไรแล้ว หนูโอเคตอนนี้อยากกลับบ้าน” ฉันบอกเขาในสิ่งที่ต้องการ ฉันไม่ชอบกลิ่นของโรงพยาบาลเลยสักนิด“ให้หมอดูอาการอีกสักวันสองวันก่อนเถอะนะ จะได้มั่นใจว่าปลอดภัยแล้วจริง ๆ” เขาคะยั้นคะยอ พร้อมกับมือเอื้อมมาลูบหัวของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันมองหน้าเขาอย่างสังเกต สายตาของเขามองฉันต่างไปจากเดิมใน
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 59-ยอมทุกอย่าง“นายคิดจะทำอะไรกันไมค์ เข้าหาอารียาเพื่ออะไร” จากที่เชรคเล่าให้ฟัง ทำให้ผมนั่งคิดทวนคนเดียวอยู่ในห้อง มีเพียงความมืดสลัวที่อยู่เป็นเพื่อนตอนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมนึกห่วงอารียามากกว่าเดิม ผมกลัวว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอจนได้รับอันตรายอีก ผมเดินออกมาตรงระเบียงห้องพักฟื้น ยืนมองทอดไกลไปอย่างไร้จุดหมาย สมองคิดเรื่องราวมากมายที่มันสามารถเชื่อมโยงกัน แต่นึกทวนยังไงผมก็นึกมันไม่ออก ตอนนี้โคตรกลุ้มเลยล่ะผมเดินกลับเข้ามาในห้องพักฟื้นของอารียา แล้วนั่งลงข้างเธอ ผมกุมมือของเธอไว้ แล้วจ้องมองใบหน้าของเธอในความมืดสลัว คิดกลัวและกังวลจนตอนนี้ผมรู้สึกนอนไม่หลับ ห่วงความปลอดภัยของเธอหากผมเผลอหลับไป แล้วใครแอบเข้ามาทำร้ายเธออีก“อา...” เสียงของอารียาที่แผ่วเบาเรียกผมจนต้องตื่นตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ความเงียบทำให้ผมได้ยินเสียงของเธอที่แหบแห้งชัดเจน“หนูเป็นยังไงบ้าง รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม เดี๋ยวอาเรียกหมอให้” ผมรีบถามอาการของเธอทันที ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไฟหัวเตียงเพื่อให้มีแสงสว่าง“ลูกละคะปลอดภัยใช่ไหม?” เป็นคำถามแรกที่เธอเอ่ยขึ้น ไม่ได้นึก
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 58 - กำจัด(ก็คุณพลาดเองช่วยไม่ได้ จะมาโทษผมได้ยังไง...นั่นมันเรื่องของคุณ ผมช่วยขนาดนี้แล้วยังไม่มีปัญญาจัดการ.....อืม ค่อยคิดอีกที และคุณก็ควรห่างการติดต่อผมสักพักด้วย...แค่นี้นะ)(เปิดทางให้แล้วยังโง่อีก) "เชรคนายจัดการเรื่องที่อารียาถูกทำร้ายให้เด็ดขาด ฉันไม่มีปล่อยให้อารียาเจ็บฟรีแน่" ผมเดินออกมานอกห้องพักของอารียาหลังจากที่เธอนอนหลับไปแล้ว สั่งการกับเชรคที่รออยู่ด้านนอก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ผมโมโหมาก และคงยากหากมันไม่ได้รับการคลี่คลายในแบบของผม ผมไม่ได้ใจร้ายหากใครไม่คิดทำลายผมหรือคนที่ผมรักก่อน"ครับนาย ผมจะรีบจัดการให้ทันที" เชรคตบปากรับคำ เป็นคนสนิทที่ผมไว้ใจมากและรักเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง เราสองคนสนิทสนมกันมานานจนรู้ใจกัน"นาตาลีทำเกินไปและฉันจะไม่เอาไว้ให้รกหูรกตา ถ้าอยู่ไม่เป็นเย็นไม่ได้ก็อย่าคิดว่าจะได้มีที่ยืน...ฉันเอาจริง!!!" ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ยิ่งนึกภาพที่อารียากำลังจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา มันยิ่งทำให้ผมโกรธเคือง หญิงหรือชายหากสร้างปัญหาให้ผมก็ไม่เอาไว้"ครับ” เชรคก้มหัวตอบรับคำสั่งของผมอย่างที่เขาเคยทำ“เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะอยู่เฝ้าอา