ความลับของพ่อเลี้ยงกลางดึก ในห้องหนังสือหลังคฤหาสน์บนเขาเสียงพายุข้างนอกกระทบกระจกเป็นจังหวะเนิบช้า แต่หนักแน่นพ่อเลี้ยงศักดา นั่งอยู่คนเดียวหน้าโต๊ะไม้สักใบใหญ่ แสงจากโคมไฟทำให้เงาของเขาพาดทับฝาผนังจนดูน่าเกรงขามเขาหยิบกล่องไม้เก่า ๆ ออกมาจากลิ้นชักลับใต้โต๊ะเปิดออกอย่างระมัดระวังด้านในคือ...รูปถ่ายเก่า ๆ ของเด็กหญิงสองคน — หนูนิดกับดาวสมุดบันทึกบางเล่มและ...จดหมายที่ไม่เคยส่งจดหมายจากแม่แท้ ๆ ของฝาแฝด“คุณศักดา…หากวันหนึ่งคุณได้รับจดหมายฉบับนี้ แสดงว่าฉันคงไม่ได้อยู่แล้วขอฝากลูกทั้งสองคนไว้กับคุณ แม้พวกเขาจะไม่ได้เกิดจากสายเลือดคุณ แต่คุณคือคนที่ฉันไว้ใจที่สุด...โดยเฉพาะ ‘ดาว’ลูกสาวคนเล็ก เธอไม่เหมือนนิด เธอฉลาดเกินเด็ก...และบางอย่างในตัวเธอทำให้ฉันกลัว ว่าเธออาจใช้ความฉลาดนั้นผิดทาง…”พ่อเลี้ยงวางจดหมายลงช้า ๆแววตาเขาเปลี่ยนไปจากความเข้มแข็งกลายเป็นหนักอึ้งเขาจำได้ดี...ตอนเด็ก ดาวเงียบเกินไป มองทุกคนด้วยสายตาที่เหมือนอ่านความลับของคนทั้งโลกได้ และมีหลายครั้งที่เธอ “จัดการ” คนที่กลั่นแกล้งเธอ โดยไม่ให้ใครจับได้ “ดาว...ฉันพยายามส่งแกไปไกล เพื่อให้แกลืมแม็ก”“แต่ดูเหมือน...
คืนนั้นที่คอนโดของแม็กชบากลับจากงานเลทกว่าเดิมแม็กนั่งเงียบอยู่ที่ระเบียง สูบบุหรี่มวนที่สามแล้ว เถ้าบุหรี่กองอยู่เต็มที่เขี่ยบุหรี่สายลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านเส้นผมเขาเบา ๆ แต่ไม่อาจพัดพาความคิดให้ปลิวไปด้วยได้“คิดอะไรอยู่เหรอคะ?”เธอนั่งลงข้าง ๆ เขา เอื้อมไปแตะมือเขาเบา ๆฝ่ามือของแม็กอุ่น แต่เต็มไปด้วยความแข็งกระด้างจากความเครียดแม็กหันมามอง แล้วก็ส่ายหน้า“เปล่า…แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”“เกี่ยวกับงาน?”เธอยิ้มบาง ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใย แม้จะพยายามไม่ถามมากเกินไปแม็กพยักหน้า“อืม…มีเด็กใหม่เข้ามาเยอะ ต้องคอยดูว่าทำงานได้มั้ย”คำตอบดูธรรมดา แต่สีหน้าเขาไม่ใช่และชบารู้…ว่าเงาของผู้หญิงคนนั้นเริ่มแทรกเข้ามาในความคิดของแม็กแล้ว แม้เขาจะไม่รู้ตัวเธอจับมือเขาแน่นขึ้น แต่ไม่พูดอะไรอีกเพราะบางครั้ง...ความเงียบก็เป็นวิธีเดียว ที่เธอจะยังยืนอยู่ข้างเขาได้---สองวันต่อมา - ห้องประชุมใหญ่การประชุมใหญ่ฝ่ายการตลาดเริ่มต้นขึ้นแม็กนั่งประจำที่หัวโต๊ะในห้องประชุมกระจกใสดาวนั่งอยู่ด้านหน้าห้องในชุดพรีเซนเตอร์ของแบรนด์เธอยิ้มทักเขาอย่างสุภาพ เมื่อเขาเดินเข้าห้อง สายตาแนบนิ่งแต่ส่งแรงบาง
สัปดาห์ต่อมาดาวเริ่มงานในตำแหน่งพริตตี้พิเศษของโชว์รูมรถหรูที่บริษัทแม็ก แม้จะดูเหมือนตำแหน่งทั่วไป แต่สายตาหลายคู่ในบริษัทภูมิรู้ดีว่าเรื่องนี้ "ไม่ปกติ"และโดยเฉพาะ...สายตาของชบาเธอเห็นทุกการเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนั้นท่าทางอ่อนหวานเรียบร้อย เสียงพูดนุ่มนวล รอยยิ้มที่ชวนให้นึกถึงใครบางคนในอดีตของแม็กและที่สำคัญ...สายตาที่ดาวใช้มองแม็กมันไม่ใช่สายตาของลูกน้องที่เคารพเจ้านายแต่มันคือสายตาของ "ผู้หญิงที่กำลังเล่นเกม"ตอนพักกลางวัน ชบานั่งอยู่ในห้องทำงานเลขาส่วนตัวเธอเปิดเอกสารตรงหน้า แต่ไม่ได้อ่านข้อความใดเลยใจของเธอจดจ่อกับภาพที่เธอเพิ่งเห็นเมื่อครู่ดาวยืนคุยกับแม็กหน้าโชว์รูมเธอยิ้มแบบเดียวกับที่หนูนิดเคยยิ้มหัวเราะเบา ๆ เหมือนหนูนิดเป๊ะ...แล้วแม็กล่ะ?แม้เขาจะไม่พูดอะไร แต่สายตาที่มองดาวก็ไม่เหมือนมองคนอื่นมันมีบางอย่างที่คล้าย…ความละลายใจเล็ก ๆ ที่เขาเคยมีเวลามองหนูนิดชบาไม่อยากคิดแบบนั้น แต่หัวใจก็เริ่มบีบรัดตัวเองโดยไม่รู้ตัว อีกด้านหนึ่ง – ในห้องประชุมเล็กดาวยืนอยู่กับก้อง หนึ่งในทีมบริหารเธอส่งแฟ้มให้ พร้อมยิ้มหวาน"พี่ก้องคะ ถ้ามีงานที่ต้องประสานกับพี่แม็กโดยตรง บอกห
สามเดือนต่อมา...สัญญาการจ้างงานในฐานะผู้ดูแลของชบาสิ้นสุดลงไปเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่เริ่มต้นหลังจากนั้นต่างหาก...ที่ไม่มีวันหมดอายุแม็กกับชบาไม่ได้เป็นเพียงนายจ้างกับลูกจ้างอีกต่อไป แต่กลายเป็น “คนรัก” ที่กำลังวางแผนชีวิตคู่ร่วมกันอย่างจริงจัง ทั้งป๊า ม๊า น้ำ และทุกคนรอบตัวต่างก็ยินดีอย่างไม่มีข้อแม้ งานแต่งถูกวางกำหนดไว้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทุกอย่างดูราบรื่นเกินกว่าจะคาดคิด...จนกระทั่ง เช้านั้นฝ่ายบุคคลนำแฟ้มสมัครงานกองหนึ่งมาให้ฝ่ายการตลาดคัดเลือกพริตตี้ประจำโชว์รูมรถสปอร์ตของบริษัทแม็กระหว่างที่ ภูมิ กับ ก้อง สองลูกน้องคนสนิทของแม็กกำลังนั่งไล่ดูแฟ้มสมัครงานกันอย่างชิล ๆ สายตาของภูมิพลันชะงักไปที่ภาพในแฟ้มหนึ่ง“เดี๋ยวนะ...” ภูมิกระซิบพลางหยิบใบสมัครขึ้นมาเต็มตาเขาขมวดคิ้ว มองภาพถ่ายตรงหน้าด้วยความไม่แน่ใจ“ก้อง มึงดูคนนี้สิ…”ก้องขยับตัวเข้ามาใกล้ พลันเบิกตาโต“เฮ้ย...เหมือน...เหมือนคุณหนูนิดเลยว่ะ”“ใช่ไหมล่ะ กูไม่คิดว่าตัวจริงจะเหมือนขนาดนี้”ทั้งสองมองหน้ากันอย่างลังเล ไม่รู้ควรทำยังไงดีในขณะที่พวกเขายังพูดคุยไม่ทันจบ แม็ก ก็เปิดประตูเดินเข้ามาในห้องพอดี“คุยอะไรกัน
แม็กหันมามองเธอ รอคำตอบจากคนตรงหน้า“แล้วสิ่งที่คุณอยากทำให้มันแปลกใหม่...คืออะไรเหรอคะ?”เสียงของเธอเบา นุ่ม แต่จริงจังเขาส่ายหน้านิด ๆ ก่อนตอบอย่างไม่แน่ใจ “ไม่รู้...แต่ถ้ากูอยากทำให้มันจริงจังขึ้น...จะเริ่มจากตรงไหนดี?”ชบายิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบช้า ๆ “เริ่มจาก...เขียนความฝันลงบนกระดาษค่ะแล้วค่อย ๆ วางแผน เหมือนที่พวกเราเคยทำตอนเรียนมหาลัย”แม็กพยักหน้ารับคำแนะนำเงียบ ๆ ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ เดินหายเข้าไปในตัวบ้านไม่กี่นาทีต่อมา เขากลับมาพร้อมกับแผ่นกระดาษเปล่าหนึ่งแผ่น และปากกาธรรมดาหนึ่งด้ามเขานั่งลงข้างเธอ วางกระดาษลงบนโต๊ะไม้ตรงหน้า และเขียนบางอย่างด้วยลายมือของเขาเอง — ลายมือที่แข็งแต่ชัดเจน “เริ่มต้นใหม่ถ้ากูเริ่ม...มึงจะอยู่ด้วยไหม?”ชบามองเขาอยู่นาน ก่อนจะพยักหน้าอย่างช้า ๆ แววตาแน่วแน่“ฉันจะอยู่ค่ะถ้าคุณยินดีให้ฉันอยู่”---บ่ายวันหนึ่ง — คาเฟ่เงียบในซอยเล็ก ๆเสียงเพลงแจ๊สเบา ๆ ลอยอยู่ในอากาศ แทรกกับกลิ่นกาแฟสดที่อุ่นกรุ่น ชบานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ‘น้ำ’ เพื่อนสนิทที่เป็นมากกว่าเพื่อน — เธอยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของแม็กแก้วกาแฟตรงหน้าชบายังไม่ได้แตะมันเลยสักนิดจนมัน เย็นล
แม็กมองหน้าเธอเงียบ ๆ ราวกับกำลังใช้เวลาคิดกับคำพูดนั้นทีละคำคำว่า “ไม่ใช่เพื่อแทนที่ใคร” มันดังสะท้อนในใจเขาเสียงนั้นเบา...แต่มันกระแทกลงลึกในที่ที่เขาซ่อนไว้ตลอดมาเขาเคยคิดว่าไม่มีใครมาแทนที่หนูนิดได้แต่วันนี้…เขาเพิ่งรู้ว่า อาจจะไม่จำเป็นต้อง “แทน”เพราะบางคน…อาจแค่อยู่ในที่ที่ต่างกัน แต่สำคัญไม่แพ้กันเขายกมือขึ้นแตะหลังมือของชบาเบา ๆสัมผัสนั้นต่างจากทุกครั้ง ไม่เร่งเร้า ไม่ต้องการอะไรแค่บอกเธอเงียบ ๆ ว่าเขา “รู้สึก”“มึงรู้ไหม…” เขาพูดเบา “ตอนแรกกูไม่ได้ตั้งใจจะให้มึงเข้ามาในชีวิตขนาดนี้”เสียงเขาเจือรอยฝืนหัวเราะเล็ก ๆ “กูแค่คิดว่า...ถ้ามีใครสักคนคอยอยู่ใกล้ กูก็จะหายจากความว่างเปล่าเร็วขึ้น”"__"ชบาเงียบ ฟังทุกคำ“แต่ไป ๆ มา ๆ…กูกลับรู้สึกว่า ความว่างเปล่านั้นแม่งมัน…กลัวมึงวะ”เขาหันมาสบตาเธออีกครั้ง “เพราะตั้งแต่มึงเข้ามา กูแม่งไม่เคยได้อยู่กับความว่างเปล่าเลย”เธอยิ้มบาง ๆ“แล้วคุณอยากให้มันกลับมาไหมคะ ความว่างเปล่า”“ไม่” เขาตอบทันที“ไม่อีกแล้ว”บรรยากาศระหว่างพวกเขานิ่งงันลงเพียงครู่เดียว ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาแนบอกไม่ใช่ด้วยแรงปรารถนาแต่ด้วยความรู้สึกที่เร