“กลืนลงไปสิที่รัก” เสียงทุ้มดังขึ้นมา พร้อมกับจับหญิงสาวให้อยู่ในท่าหมอบคว่ำหรือที่เรียกว่าท่าด็อกกี้ เข่าของหล่อนแยกออกจากกันเล็กน้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปประชิดก้นงอน พร้อมกับคว้าถุงยางมาสวมใส่ท่อนเอ็นลำเขื่องเอาไว้ เมื่อเขากับหญิงสาวไม่ได้ต้องการมีพันธะผูกพันต่อกัน
พรึ่บ!! ชายตัวโตสอดท่อนเอ็นลำเขื่องเข้าไปจนมิดลำ ทั้งที่ขนาดของมันไม่ธรรมดา ก่อนที่จะบรรเลงเพลงรักด้วยจังหวะสามช่า ในท่าด็อกกี้อย่างเมามัน
“อ๊า... เต็มรูดีจัง โอ้ววว! เสียวมาก มิ้นต์พร้อมแล้วค่ะ กระแทกมาแรงๆ เลยได้ไหม” ดูเหมือนว่ามิ้นต์จะเริ่มใจร้อน เมื่อหล่อนรอคอยช่วงเวลานี้มานานร่วมชั่วโมงเห็นจะได้ ไม่ว่าขนาดของเขาจะใหญ่คับแน่นแค่ไหนก็ไม่มีผลใดๆ ต่อร่องสวาทของหล่อนแม้แต่น้อย
เมื่อหญิงสาวเคยสานสัมพันธ์เล่นบทรักกับชายหนุ่มมาหลายครั้งหลายครา ท่ายากท่าเยอะก็ไม่ใช่ปัญหา
เมื่อเขาสามารถนำพาให้หล่อนไปถึงสวรรค์ชั้นวิมานได้ทุกครั้งทุกคราอย่างเร้าใจ จนเริ่มติดใจมีโอกาสเมื่อไหร่ก็ไม่รอช้าที่จะพาเขาขึ้นเตียงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาคือผู้ชายคนสุดท้ายที่หล่อนจะฝากชีวิตเอาไว้ได้ให้ดูแล ความร้อนแรงของห้วงอารมณ์เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเลือดในกายของเขาและเธอสูบฉีดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้ไปถึงฝั่งฝันดังที่ปรารถนาเอาไว้
ก้นงอนผายขึ้น เพื่อรับแรงกระแทกที่โหมกระหน่ำเข้าหาอย่างไม่ยั้ง มือแกร่งของชายตัวโตจับลงไปที่เอวคอดกิ่ว เขาไม่รอช้าใส่เกียร์เดินหน้ากระแทกเข้าออกด้วยจังหวะที่หนักหน่วง จนคนตัวโตสัมผัสได้ ในความตอดรัดของช่องทางรัก
เมื่อหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้า เริ่มรู้สึกกำหนัดไปทั้งร่าง จนไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด เมื่อชายหนุ่มตอกอัดเจ้ามังกรยักษ์เข้าออกแรงๆ ด้วยจังหวะที่ถี่ขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊า อ๊ะ อ๊าย อื้ม” มิ้นต์ครางออกมาดังลั่น ราวกับว่าหล่อนนั้นกำลังถูกเชือด เมื่อความเสียวระดับห้าดาวกำลังจะทำให้หญิงสาวยอมจำนนต่อความสัมพันธ์ที่ไม่มีคำอธิบาย ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขวันไนท์สแตนด์ แต่สิ่งหนึ่งที่หล่อนยอมรับคือเขาสามารถพาขึ้นสวรรค์ได้อย่างขั้นเทพ จนหล่อนชักจะติดใจ แต่ก็ยังคงอยากลองกับชายอื่นดูบ้าง อยากรู้ว่าใครจะทำได้ถึงใจกว่ากัน
“อ๊า โอ้ววว!” เสียงครางดังประสานออกมาพร้อมเพรียงกัน เมื่อต่างคนต่างก็เดินทางไปถึงเสนชัย ก้นมนงอนขึ้นรับกับช่วงจังหวะของการกระแทกอย่างหนักหน่วง ด้วยความรู้สึกเกร็งกระตุกไปทั้งร่าง เมื่อร่องสวาทของหล่อนตอดรัดเจ้ามังกรยักษ์หัวแดงหยักเอาไว้หงึกๆ จนแทบปลิ้น แต่ก็ไม่สิ้นความเสียวซ่าน
เช้าของวันใหม่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ ที่ตกแต่งเอาไว้ด้วยผ้าปูสีเทาภายในห้องกว้างที่เต็มไปด้วยบรรยากาศคลาสสิค ออสตินนอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทีอ่อนเพลีย ส่วนเจ้าของห้องได้เข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้าไปทำงานที่บริษัท มีเพียงแค่ชายหนุ่มร่างกายกำยำนอนเปลือยกายท่อนบน ราวกับว่าเขานั้นไม่อยากตื่นขึ้นมา หลังจากที่เมื่อคืนนี้ เกือบพลาดท่าเสียทีให้กับมิ้นต์ไป
“ไอ้เชี้ยออส! มึงจะนอนกินบ้านกินเมืองรึไง นี่มันจะแปดโมงเช้าแล้วนะ” คนที่เรียกออสตินว่าออสมีเพียงแค่เพื่อนสนิทของเขา คือเตวิชกับคราม และคนที่เรียกเขาอยู่ในตอนนี้คือคราม เมื่อชายหนุ่มต้องรีบเข้าบริษัทเพราะมีประชุมในตอนเช้า แต่ต้องตื่นสายเพราะเพื่อนรักได้มาปลุกกลางดึก กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปตีสองตีสามแล้ว
“เออน่า... มึงจะไปไหนก็ไปกูขอนอนต่อสักพัก แล้วจะกลับเหมือนกัน” ออสตินยังคงพูดออกมาทั้งที่นอนหลับตาอยู่ เพื่อปัดความรำคาญ เมื่อเขาต้องการพักผ่อนต่ออีกสักชั่วโมง
“นอนต่อยาวๆ เลยนะมึง พวกสาวๆ กำลังเตรียมตัวไปซื้อของขวัญให้ไอ้เดย์ อ้อ! มันฝากกูมาชวนมึงด้วยนะ มึงจะไปไหมวะ! ไอ้ออส” ประโยคที่ชายหนุ่มได้ยิน ทำให้เขาถึงกับดีดตัวลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับเอามือขยี้ตาด้วยความงัวเงีย ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงแต่รวมๆ แล้วมีเสน่ห์
“กูไป” ออสตินตอบออกไปอย่างไม่ลังเล พลางมองหาเสื้อมาสวมใส่
“ไอ้เชี้ย! ร้อยวันพันปี มึงแทบจะไม่ย่างกรายเข้าไปในอาณาจักรของไอ้เดย์ วันนี้ทำไมถึงอยากไป มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า” ทั้งที่ครามรู้อยู่แล้ว ถึงเหตุผลที่ออสตินอยากไปงานวันเกิดของเดย์ แต่เขาก็แค่อยากทำให้คนปากแข็งยอมเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อใบพลูออกมาก็เท่านั้นเอง
“มันอุตส่าห์ชวน กูไม่ไปก็แล้งน้ำใจแย่สิ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อเขาจะได้เจอกับใบพลูในคืนนี้แล้ว
“ว่าแต่เมื่อคืนเถอะ กูลืมถาม มึงหนีคุณมิ้นต์มาได้ยังไงวะ แน่ใจนะว่าที่เล่ามาคือความจริง รอยที่คอมึงชัดมากเลยนะ ไอ้ออส!” ครามเอ่ยถามเพื่อออกไปเสียงเข้ม พร้อมกับจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างจับผิด
“ไอ้นี่! ไหนมึงบอกว่ารีบไปทำงานไง” ออสตินถึงกับอารมณ์เสีย พลางเอามือลูบลงไปที่ลำคอแกร่ง พร้อมกับความรู้สึกผิด ที่เขาเกือบขาดสติปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือหัวใจและความถูกต้อง
“ระวังหน่อยแล้วกัน ใครเห็นก็ดูออก ว่ารอยนั่นเกิดจากอะไร” ครามเดินไปคว้ากระเป๋าเอกสาร พลางพูดให้ออสตินได้ระวัง เพราะถ้าหากใบพลูเห็น เธอคงคิดว่าเขาเพิ่งไปเอากับใครมาแน่ๆ
“แค่ถอดเสื้อ ยังไม่ทันได้ถอดกางเกงเลย กูก็รีบเผ่นออกมาจากห้องของคุณมิ้นต์แล้ว จบไหมวะ! กลับก่อนนะ”
“อ้าว! อะไรของมันวะ! บทจะไปก็ไป เห็นห้องกูเป็นที่รองรับอารมณ์มึงรึไง” ครามพูดตามหลังออสตินออกไป แต่ชายหนุ่มกลับทำเป็นไม่สนใจ เพราะเขากำลังคิดว่าจะใส่เสื้อตัวไหนดี ถึงจะปกปิดรอยดูดที่มิ้นต์ได้ประทับเอาไว้ ซึ่งกว่าจะจางหายไปคงอีกหลายวันเลยทีเดียว
ซึ่งพบว่าใบพลูกำลังนั่งยิ้มแฉ่ง ส่งตาหวานมาให้เขา พร้อมกับยื่นก่องของขวัญผูกโบสีชมพูมาให้ ซึ่งชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วดกหน้าเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะวันนี้ก็ไม่ได้เป็นวันพิเศษอะไรทำไมคนตัวเล็กถึงมีของขวัญให้กับเขานะ“ผมลืมหรือเปล่า วันนี้เป็นวันพิเศษ เนื่องในโอกาสอะไร ขอโทษนะครับคุณแม่ถ้าผมเผลอเลอลืมวันสำคัญของเราไปบ้าง” ชายหนุ่มฉายแววตาออกมาด้วยท่าทีที่รู้สึกผิด เมื่อเขากำลังคิดว่าตัวเองแย่เกินไป ที่ลืมวันสำคัญของเขาและเธอได้ลงคอ“ไม่เกี่ยวกับวันพิเศษหรอกค่ะ มันคือเรื่องเซอร์ไพร์สที่ใบพลูบอกกับคุณเอาไว้ในตอนเย็นยังไงละค่ะ” หญิงสาวยังคงฉีกยิ้มแป้นให้กับผู้เป็นสามี เมื่อเธอนั้นเชื่อว่าเขาต้องดีใจกับสิ่งที่เธอตั้งใจจะเซอร์ไพร์สอย่างแน่นอนออสตินค่อยๆ แกะโบออกแล้วเปิดกล่อง ก่อนจะพบว่าของที่อยู่ในกล่องนั้น มันคือสิ่งที่มีค่ากับเขาแค่ไหน หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงขึ้น น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปีติยินดีไหลออกมาจากดวงตาคม เขาไม่อายที่จะหลั่งน้ำตาออกมาแบบนี้ เมื่อพบว่าที่ตรวจครรภ์นั้นขึ้นสองขีด เขากำลังจะมีลูกคนที่สอง กับผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ“ขอบคุณนะใบพลู ขอบคุณจริงๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วัน
“มิ้นต์กับเดย์ต่างหาก”“จริงเหรอ...” ใบพลูเอ่ยถามชายหนุ่มออกมาราวกับว่าเธอไม่เชื่อใจเขา“ฉันจะโกหกเธอทำไม ที่สำคัญฉันกับมิ้นต์เราไม่เคยมีอะไรกัน” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตัวเล็กอีกครั้ง เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูดกับเธอ“ฉันยังเชื่อใจนายได้อยู่ใช่ไหม” ออสตินส่งยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว แววตาอ้อนอ้อนของใบพลูกำลังจะทำให้คนตัวโตหัวใจละลาย ก่อนที่เขาจะหยิบรองเท้าคู่สวยออกมาจากถุงกระดาษ แน่นอนชายหนุ่มออกแบบมาให้เธอเป็นพิเศษ มันสวยสะดุดตา และเธอก็สวมมันได้พอดี“ฉันจะเป็นรองเท้าให้กับเธอ ฉันอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่ลูกของเรา เด็กคนนี้ เกิดจากความรักไม่ใช่ความใคร่ เกิดจากความตั้งใจที่ฉันอยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ฉันรักเธอได้ยินไหมว่าฉันรักเธอ เราแต่งงานกันนะใบพลู” ถ้อยคำที่ชายหนุ่มถักทอเรียงร้อยออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ กำลังส่งผลให้ใบพลูหวั่นไหวหัวใจเต้นแรง“ฉันเคยบอกเหรอว่าจะไม่แต่งงานกับนาย” ดวงหน้ารูปไข่ดูสวยได้รูปเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเธอมั่นใจว่าออสตินไม่มีทางทำให้เธอผิดหวังอย่างแน่นอน“เย้!”“เฮ้ยออสติน! ปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันกลัวตก” หญิงสาวถึงกับรีบเอาเรียวแขนคล้องลำคอแกร่ง
“ฮึก! ฮื้อ!” ใบพลูพยายามเก็บความรู้สึกน้อยใจเอาไว้สุดกำลัง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ทนไม่ไหวปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย“หยุดร้องก่อน เธอรู้หรือเปล่า ว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน หนีมาทำไม เธอไม่เชื่อใจฉันเลยรึไงใบพลู” ชายหนุ่มโน้มตัวลงเข้าหาหญิงสาว เขารั้งคนตัวเล็กเข้ามาซบกับร่างกายกำยำ พลางเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้มของใบพลูอย่างเบามือ“นายต้องการอะไรจากฉันอีก”“ฉันต้องการครอบครัว ต้องการเธอกับลูก”“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันท้อง” ใบพลูเริ่มเป็นกังวล สีหน้าของหญิงสาวดูเสร้าหม่นแทนที่จะดีใจ เมื่อเธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นบ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ ออสตินจะบริหารเวลายังไง เขาจะรักลูกของเธอเท่าลูกของมิ้นต์ไหมนั่นคือคำถามที่ใบพลูเกลียดที่สุด เพราะเธอไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใคร ไม่อยากให้ลูกต้องกลายเป็นคนมีปมด้อย“ไหนดูซิ นอกจากขี้แยแล้ว ยังชอบมโนไปเองด้วยใช่ไหมเนี่ย หืม” ออสตินอ้อมไปนั่งคุกเข่าลงที่พื้นตรงหน้าหญิงสาว เขารั้งมือของเธอมากุมเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตากลมโต“นายจะทำอะไร ปล่อย! ฉันจะเข้าบ้าน นายกลับไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” หญิงสาวพยายามดึงมือกลับ แต่ทว่าคงไม่เป็นผล เพราะออสตินตั้งใจใส่เกีย
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องปล่อยให้ออสตินเป็นคนสะสางเรื่องนี้เอง ก่อนที่ทุกอย่างมันจะบานปลายมากไปกว่านี้”“ป่านนี้นายกล้า คงพาออสตินไปถึงบ้านร้างแล้วมั้ง ฉันจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ปล่อยให้ออสตินจัดการเองก็แล้วกัน”“ไม่ต้องเอาให้ถึงตาย ฉันยังไม่อยากได้ลูกเขยเป็นฆาตกร” “เชื่อเถอะน่า ออสตินคงมีวิธีที่ทำให้เดย์หายแค้น” เอเดนพูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ ขณะที่กวินเองก็อดที่จะดื่มไม่ได้เช่นกัน เมื่อเขานั้นเป็นกังวลใจ เพราะห่วงใยความรู้สึกของใบพลูณ บ้านร้างชานเมือง ซึ่งเป็นอาณาจักรของเอเดน ที่ส่วนบุคคลห่างไกลชุมชน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่เอาไว้สำหรับเชือดศัตรู แน่นอนว่าพลอยชมพูไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากออสติน กวินและลูกน้องคนสนิทเท่านั้น“มึงทำอะไรกับใบพลูบ้าง มึงทำอะไรเมียกู! กูถามมึงต้องตอบ มึงไม่มีสิทธิ์เงียบ” ออสตินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ดวงตาคมจับจ้องมองไปที่ใบหน้าของเดย์อย่างสมเพช เมื่อชายหนุ่มถูกมัดขึงตึงเอาไว้ราวกับนักโทษ“ถุย!”“เชี้ยเอ้ย!”ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ออสตินปล่อยหมัดไปที่ใบหน้าของเดย์รัวๆ จนทำให้มิ้นต์ ที่ถูกมัดไว้กับเก้าทนไม่ไหว เมื่อพ่อของลูกกำลังเจ็บปวดทรมานใจ แม้เธอจะรู
“เราจบกันแค่นี้ ถือเสียว่าที่ผ่านมา ฉันได้ชดใช้ให้กับนายจนสิ้นแล้ว”“ใบพลู! ฟังฉันอธิบายก่อนสิ!” หญิงสาวคว้ากระเป๋าถือได้ เธอรีบวิ่งออกไปทันที ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นคือที่แห่งหนใด“เอะอะโวยวายทำไม มีอะไรเหรอออสติ” น้ำเสียงหวานดังขึ้น แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกรังเกียจ แม้แต่เสียงที่หล่อนเปล่งออกมาเขายังไม่อยากได้ยินด้วยซ้ำ“โธ่เว้ย!” ออสตินรู้สึกโมโหตัวเอง เมื่อเขาตามใบพลูออกไปไม่ทัน เพราะมัวแต่หาชุดมาสวมใส่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนโทรไปก็ปิดเครื่อง มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขากันแน่ รักกันอยู่ดีๆ กลับมีเรื่องบ้าๆ คล้ายกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน แสดงว่าต้องมีความไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นนอนภาพบรรยากาศในยามเช้าวิวทิวทัศน์ตรงหน้าที่สวยงาม บ่งบอกให้รู้ว่าทัศนียภาพมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของมนุษย์ไม่น้อย เพราะป่าเขาลำเนาไพร ไม้ดอกไม้ประดับพวกนั้นทำให้ใบพลูดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าวันแรกๆ ที่เธอเดินทางมาถึงที่นี่ แม้ดวงตาที่เคยฉายแววเป็นประกายยังคงเศร้าหม่น แพทย์หญิงใบบัวก็ยังคงเชื่อว่าอีกไม่นานหลานสาวของเธอจะต้องดีขึ้น“ผลตรวจออกมาแล้วนะ” หญิงสาวรับฟังด้วยหัวใจที่เต้นแรง แต
ภายในห้องนอนของเดย์ บนเตียงขนาดคิงไซซ์ได้มีหญิงสาวร่างอรชรนอนหลับใหล เรือนกายของเธอมีเพียงชุดชั้นในตัวจิ๋วห่อหุ้มกายเอาไว้ หลังจากที่มิ้นต์ได้จัดการถอดชุดของเธอออกจนสิ้น สายตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้ารูปไข่ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ นอนลงไปข้างกายของเธอ ซึ่งเนื้อตัวของเดย์มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวเอาไว้ ขณะที่มิ้นต์เป็นตากล้องคอยถ่ายภาพจัดฉากให้ดูสมจริง“นี่เดย์! ทำยังกับไม่เคย” มิ้นต์ถึงกับโวยวายออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มโอบใบพลูด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ “เคยน่ะเคย แต่ทุกมันยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้นอนนิ่งๆ แบบนี้สักหน่อย”“มันก็เหมือนกันแหละน่า ตุ๊กตายางนายก็เคยเอามาแล้วไม่ใช่เหรอ”“หุบปาก!” “ก็เร็วหน่อยสิ เดี๋ยวออสตินก็กลับมาแล้ว เข้าในผ้าห่มทำเหมือนคนกำลังเล่นบทเลิฟซีนอะ” มิ้นต์ออกคำสั่งออกไป จนทำให้เดย์ชักสีหน้าใส่หล่อนอย่างไม่ค่อยพอใจ“เอาภาพนิ่งนะ”“รู้แล้วน่า ใครจะบ้าถ่ายวิดีโอ ยัยใบพลูนอนนิ่งเป็นขอนไม้อยู่แบบนั้น” มิ้นต์เริ่มขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่ม ก่อนที่หล่อนจะพยายามหามุมกล้องให้ได้ภาพที่ดูเหมือนจริงที่สุด“พอแล้ว แค่นี้ก็ทำให้ออสตินไม่อยากแต่งงานกับใบพลูแล้วแหละ”“แ