Short
ไม่จำเป็นต้องเฝ้าคะนึงหาในช่วงชีวิตที่เหลือ

ไม่จำเป็นต้องเฝ้าคะนึงหาในช่วงชีวิตที่เหลือ

By:  ชอบกินหมั่นโถวCompleted
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
29Chapters
289views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

“เวยเวย ในครอบครัวช่วยลูกจัดเตรียมเรื่องการแต่งงานมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนนี้ลูกก็ใกล้จะหายป่วยแล้วด้วย ลูกเต็มใจจะกลับมาแต่งงานที่เมืองหลวงไหม?” “ถ้าไม่เต็มใจ แม่จะไปคุยกับพ่อของลูก ให้ยกเลิกเรื่องงานแต่งครั้งนี้” ในห้องเงียบสนิท ซ่งสือเวยทำได้เพียงฟังเสียงอีกฝ่ายเงียบ ๆ ขณะที่ปลายสายคิดว่าครั้งนี้ก็คงไม่อาจโน้มน้าวเธอได้ เธอก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “หนูเต็มใจจะกลับไปแต่งงานค่ะ” แม่ซ่งที่อยู่ปลายสายถึงกับชะงัก ดูเหมือนจะแปลกใจเล็กน้อย “ลูก ลูกตกลงแล้วเหรอ?” ซ่งสือเวยมีน้ำเสียงราบเรียบ “ตกลงค่ะ แต่หนูยังต้องการเวลาอีกนิดหน่อยเพื่อจัดการเรื่องทางฝั่งไห่เฉิงให้เรียบร้อย หนูจะกลับไปภายในครึ่งเดือน แม่ก็เตรียมงานแต่งให้เรียบร้อยก่อนเถอะค่ะ” หลังพูดจบก็กำชับอีกสองสามประโยค เธอจึงวางสาย

View More

Chapter 1

บทที่ 1

ทันทีที่วางสาย เสียงดนตรีจากชั้นล่างก็ดังขึ้นมา เมื่อลองฟังดู ก็ยังได้ยินเสียงคนร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดด้วย

นี่คืองานเลี้ยงวันเกิดที่ลู่อวิ๋นเซินกับฉีซื่อจัดเพื่อเซี่ยงหาน

ทันใดนั้นข้างนอกประตูก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าเซี่ยงหานถือเค้กแบล็คฟอเรสต์ก้อนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มตั้งแต่เมื่อไร

ดวงตาคู่หนึ่งที่ราวกับลูกกวางกะพริบหลายครั้ง บนใบหน้าอันงดงามแต่งหน้าอย่างประณีต และมีรอยครีมสองสามรอยที่เด่นชัดอยู่ “พี่เวยเวย ลงไปเล่นด้วยกันกับฉันเถอะนะ?”

ซ่งสือเวยมองความเสแสร้งภายใต้ใบหน้าของเธอออกอย่างชัดเจน น้ำเสียงเย็นชา “ฉันยังมีงานต้องทำ คงไม่ไปหรอก พวกเธอเล่นกันให้สนุกเถอะ”

แทบจะในทันที ในเบ้าตาของเซี่ยงหานก็เต็มไปด้วยน้ำตา “พี่เวยเวย พี่ไม่ชอบฉันใช่ไหม ถึงได้บอกปัดแบบนี้?”

ซ่งสือเวยขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ตนไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เธอกลับทำท่าทางราวกับตนไปรังแกเธอเพื่ออะไรกัน

เธอยิ้มเยาะในใจ ไม่คิดจะฟังคำพูดที่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาของอีกฝ่ายต่อ “การแสดงพวกนี้เธอเก็บไว้ให้พวกลู่อวิ๋นเซินกับฉีซื่อดูเถอะ มันไม่มีประโยชน์กับฉันหรอก”

ทันทีที่พูดจบ เธอก็กำลังจะปิดประตู

“พี่เวยเวย อย่า...”

จู่ ๆ เซี่ยงหานก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา ขวางบนกรอบประตู

นี่ทำให้จังหวะที่ประตูปิดลง ทั้งมือของเธอถูกหนีบอย่างแรง

หลังมือขาวนวลกลายเป็นสีม่วงทันที

“โอ๊ย!”

ลู่อวิ๋นเซินกับฉีซื่อขึ้นมาที่ชั้นบนพอดี ก็เห็นฉากนี้เข้า

ชายทั้งสองแทบจะพุ่งเข้ามาพร้อมกัน โอบเซี่ยงหานไว้ในอ้อมแขน ประคองมือเธอไว้อย่างปวดใจ ขณะที่มองอย่างละเอียด

เมื่อเห็นบาดแผลบนหลังมือของเซี่ยงหาน ฉีซื่อก็ปวดใจจนหางตาแดง

เขาเป็นคนนิสัยหุนหันพลันแล่น จึงต่อว่าซ่งสือเวยตรง ๆ “เธอไม่ชอบเซี่ยงหานก็แล้วไปเถอะ ทำไมต้องทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนี้ด้วย ซ่งสือเวย เธอกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร”

ลู่อวิ๋นเซินมีนิสัยใจเย็น แต่ตอนนี้เมื่อมองซ่งสือเวย ในดวงตาล้ำลึกทั้งสองข้างก็มีความผิดหวังแฝงอยู่

“เวยเวย วันนี้เป็นวันเกิดของเซี่ยงหาน เธอไม่ควรทำเกินไปแบบนี้”

ทว่าเมื่อก้มลงมามองเซี่ยงหาน ก็เปลี่ยนน้ำเสียงโดยพลัน

“เสี่ยวหาน ยังเจ็บอยู่ไหม? ฉันจะพาเธอไปทายานะ”

เมื่อเห็นลู่อวิ๋นเซินจูงเซี่ยงหานจากไป ฉีซื่อก็ไล่ตามเซี่ยงหานไปด้วย ทั้งยังรีบปลอบโยนเธอ “เสี่ยวหาน เธออย่าเศร้าไปเลยนะ ฉันจะให้รถสปอร์ตคันใหม่ที่ฉันได้มากับเธอ รอหลังจบงานเลี้ยง ฉันจะพาเธอไปนั่งรถเล่น พอได้นั่งรถชมวิวก็จะอารมณ์ดีเอง!”

หลังจากถูกชายทั้งสองคนพากันปลอบโยนด้วยความรัก สุดท้ายเซี่ยงหานก็หยุดร้องไห้ มีเพียงน้ำเสียงที่ยังสะอื้นอยู่เล็กน้อย “ขอบคุณนะอวิ๋นเซิน”

หลังจากพูดขอบคุณลู่อวิ๋นเซิน เธอก็หันมามองฉีซื่อ และพูดโน้มน้าวทั้งน้ำตา “อาซื่อ นายอย่าไปแข่งรถเลยนะ การแข่งรถมันอันตราย ฉันเป็นห่วง”

เห็นเซี่ยงหานเปลี่ยนจากร้องไห้เป็นยิ้มออกมา ฉีซื่อก็รับปากอย่างร้อนรน “ได้ ๆ ๆ บรรพบุรุษครับ ขอแค่เธอมีความสุข เธอจะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”

มองแผ่นหลังของพวกเขาลงไปชั้นล่าง ซ่งสือเวยยืนอยู่ที่ประตู และรู้สึกราวกับฝันไปชั่วขณะหนึ่ง

จำได้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว คนที่ยืนอยู่ระหว่างลู่อวิ๋นเซินกับฉีซื่อ ยังเป็นตนอยู่เลย

เธอป่วยและร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเป็นโรคหอบหืด ที่เมืองหลวงดันอากาศชื้นและมีฝนตกบ่อย จึงไม่เหมาะกับการฟื้นตัวของเธอ

เมื่ออายุได้ห้าปี เธอก็ถูกพ่อแม่ส่งจากเมืองหลวงมายังเมืองไห่เฉิงซึ่งทั้งสี่ฤดูราวกับฤดูใบไม้ผลิ และถูกรับมาดูแลพักฟื้นกับอาที่เป็นหมอ

ในตอนนั้นเอง ซ่งสือเวยได้รู้จักกับลู่อวิ๋นเซินและฉีซื่อซึ่งอาศัยอยู่ข้างบ้านของอา

พวกเขาสามคนเติบโตขึ้นมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เป็นเพื่อนเล่นในวัยเยาว์

ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเธอ ทั้งสองคนก็ตกหลุมรัก และคอยอยู่ข้างกายเธอทุกเมื่อเชื่อวัน กลายเป็นอัศวินที่ปกป้องเธอ

ตอนยังเด็ก พวกเขาไปรับไปส่งเธอที่โรงเรียนทุกวัน ซื้อของอาหารเช้ากับนมวัวให้เธอทุกเช้า ฉีกจดหมายรักทั้งหมดที่เธอได้รับ ไม่อนุญาตให้ผู้ชายคนไหนเข้ามาใกล้เธอแม้แต่ก้าวเดียว

เมื่อโตขึ้น พวกเขาคนหนึ่งได้สืบทอดธุรกิจครอบครัวกลายเป็นประธานบริษัท อีกคนหนึ่งก็กลายเป็นนักแข่งรถซึ่งมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ทั้งสองคนงานยุ่งมาก แต่กลับซื้อบ้านทั้งสองหลังข้างซ่งสือเวย หลังจากเวลาผ่านไปก็ยังอยู่ด้วยกันกับเธอ และทุกวันก็จะต้องกลับมาทำอาหารให้เธอ

แม้ว่าอาการป่วยของซ่งสือเวยจะเกือบหายดีแล้ว และครอบครัวก็ยังเร่งเร้าให้เธอกลับเมืองหลวง แต่พวกเขาก็ยังพากันอ้อนวอนเธอด้วยเบ้าตาแดงก่ำ ขอให้เธออย่าไป ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะทิ้งทุกอย่างและไปกับเธอด้วย

พวกเขาพูดเสมอว่า เวยเวยอยู่ที่ไหน พวกเขาก็จะอยู่ที่นั่นด้วย

เป็นเพราะพวกเขา ทำให้แม้อาการป่วยของซ่งสือเวยจะทรงตัวแล้ว ก็ยังไม่ได้รีบกลับเมืองหลวง

แต่หลังจากเซี่ยงหานปรากฏตัว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

เซี่ยงหานเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ซ่งสือเวยพามา

วันแรกที่เพิ่งเข้ามาในบริษัท เธอขี้อาย ไม่ยอมลงไปกินข้าวกลางวันด้วยกันกับทุกคน หลังจากนั้นทุกวันก็เป็นเช่นนี้เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งซ่งสือเวยบังเอิญชนเธอที่กำลังกินหมั่นโถวกับผักดองอยู่ที่มุมคนเดียว เมื่อสอบถามจึงได้รู้ว่าเธอสอบจากหมู่บ้านบนภูเขาเข้ามาในเมืองใหญ่ ที่บ้านมีฐานะยากจน สิ่งที่สามารถประหยัดได้ก็ต้องประหยัด

ซ่งสือเวยเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซ่ง ตั้งแต่เด็กก็เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมของตระกูลที่สมบูรณ์ เมื่อได้ยินเรื่องแบบนี้ จึงรู้สึกสงสารเธอขึ้นมา และดูแลเธอในทุกเรื่องอย่างใจกว้างมาโดยตลอด

บางครั้งตอนที่กินข้าวกับลู่อวิ๋นเซินและฉีซื่อ ก็พาเธอไปด้วย

เป็นเพราะเหตุนี้เอง เซี่ยงหานจึงได้รู้จักกับลู่อวิ๋นเซินและฉีซื่อ

ลู่อวิ๋นเซินมีนิสัยเย็นชา แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงที่วุ่นวายแบบนี้มาก่อน แต่วันนี้เขากลับสร้างข้อยกเว้นเพื่อเซี่ยงหาน

ฉีซื่อมองว่าการแข่งรถคือชีวิต ไม่ว่าใครก็ไม่อาจโน้มน้าวเขาไว้ แต่ตอนนี้ เซี่ยงหานแค่พูดง่าย ๆ เพียงหนึ่งประโยค ก็สามารถทำให้เขาล้มเลิกได้

เรื่องแบบนี้ ในหนึ่งเดือนมานี้เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

เมื่อก่อนพวกเขาไม่เคยปกปิดความชอบที่มีต่อซ่งสือเวย ทั้งยังสร้างสถานการณ์จากความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนมากกว่าหนึ่งครั้ง เพื่อบังคับให้ซ่งสือเวยเลือกหนึ่งในพวกเขา

ซ่งสือเวยก็หวั่นไหวกับพวกเขาจริง ๆ และคิดจะเลือกหนึ่งในพวกเขามาคบหาด้วย

แต่ตอนนี้ การยอมรับเรื่องการแต่งงานที่ครอบครัวจัดเตรียมให้ ก็ดูเหมือนจะไม่เลวเช่นกัน

ซ่งสือเวยเม้มริมฝีปาก ก่อนตั้งเวลานับถอยหลังสำหรับการไปจากที่นี่ในโทรศัพท์

นับจากนี้ไป เธอจะไม่ไปรบกวนพวกเขาสามคนอีกแล้ว
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
29 Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status