“ทำอะไรอยู่ตรงนั้น คิดว่าเป็นนางเอกหรือยังไง?”
“เฮ้อ….” มิ้นที่กำลังยืนรับลมอยู่หน้าระเบียงหันไปมองตามเสียงจิกกัดของคนโรคจิต ในใจมืดหม่นหาทางออกไม่เจอ อีกใจก็เป็นห่วงงานพิเศษของเธอ เธอไม่ใช่คนที่มีต้นทุนชีวิตเลย บ้านที่อยู่ทุกวันนี้ก็เป็นบ้านของรุ่นพี่ที่กรุณาให้เธอมาพัก ถ้าเธอโดนไล่ออกจากงานคงแย่แน่ๆ แต่ถ้าเกิดหนีไปแล้วตานี่เอาสัญญาไปฟ้องจริงๆ ขึ้นมาชาตินี้ยังไงก็ใช้หนี้ไม่หมด “แล้วทำไมยังใส่ชุดเดิม ชุดที่เตรียมให้ใส่ไม่พอดีงั้นเหรอ” “มันโชว์มากเกินไป” “แล้วยังไง ก็โชว์ฉันแค่คนเดียวนิ” คนตัวสูงค่อยๆ เดินเข้ามาโอบเอวเธอจากด้านหลังแล้วซุกหน้าลงตรงซอกคอขาว ทำเอาคนโดนกอดสะดุ้งรีบพยายามดิ้นหนีด้วยความตื่นตระหนก “ปล่อยนะ คุณทำแบบนี้กับคนไม่รู้จักได้ยังไง?” “เฮ้อ คิดมากสะจริง โอเคๆ ฉันชื่อยูร์ เธอชื่อมิ้น รู้จักกันแล้วมาต่อกันเถอะ” “ว๊าย!” ร่างบางถูกช้อนตัวขึ้นแล้วพาไปยังเตียงหนา ไม่ว่ามิ้นจะกรีดร้องยังไงคนตรงหน้าก็ไม่มีท่าทีจะหยุดเลยสักนิด “จะอะไรอีกเนี่ย” “นี่! ฉันไม่ใช่อีตัวนะที่จะอยากทำเรื่องอย่าว่าเมื่อไหร่ก็ได้ อะ อีกอย่างฉันก็มีสามีแล้ว” “มีสามี? ไอ้คนที่มอมยาเธออ่ะเหรอ แบบนั้นอ่านะสามี” “จะยังไงก็ช่าง ฉันไม่ยอม ปล่อยฉัน” “ฉันซื้อเธอ....” เพี้ย! มิ้นโกรธเลือดขึ้นหน้าอีกครั้ง คนคนนี้ดีแต่ดูถูกคนอื่นจริงๆ “ฉันไม่ได้ขาย” “แต่ฉันจ่ายไปแล้ว ฉันมีสิทธิ์” “จ่ายอะไร??” “ค่าเทอมที่เธอติดมหาวิทยาลัยไว้จนเกือบจะถูกไล่ออก หนี้ที่แฟนเก่าเธอที่ทิ้งไว้ ทั้งหมดฉันจ่ายหมดแล้ว ฉันมีสัญญาอยู่ที่โต๊ะเป็นหลักฐาน” !!!เขารู้ได้ยังไงกัน มิ้นตกใจเมื่อเรื่องที่เธอเก็บความลับจากทุกคนถูกคนที่เพิ่งรู้จักเอ่ยขึ้นมา เธอกำลังจะถูกไล่ออกทั้งที่อีกเทอมเดียวจะเรียนจบเพราะติดค่าเทอม ไหนจะหนี้ที่เธอถูกแฟนเก่าซึ่งเป็นแฟนคนแรกหลอกให้เธอเซ็นค้ำประกันซื้อบ้าน แล้วในที่สุดเธอก็กลายเป็นหนี้เกือบล้าน เจ้าตัวการก็หายเข้ากลีบเมฆไปเป็นปี เรื่องทั้งสองเรื่องนี้แม้แต่พี่ริลก็ยังไม่รู้ “ทำแบบนี้ทำไม เพื่ออะไร” คนตัวสูงหลบตาก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาๆ “ฉันเคยเลวมามากพอที่จะดูออกว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ ฉันต้องการรับผิดชอบที่ล่วงเกินเธอทั้งที่ก็รู้ว่าเธอกำลังไม่เป็นตัวของตัวเอง” “ก็พูดดีนิ แต่ตอนนี้คุณก็กำลังจะล่วงเกินฉันอีก? คุณมันก็เห็นแก่ตัวพยายามเอาเงินมาซื้อฉัน” “ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ซื้อ ก็แค่สามวันมีความสุขให้เต็มที่สิ” “ไม่มีทาง! ปล่อย” มิ้นทุบเข้าที่อกยูร์อย่างแรงจนเขาสะอึกเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ให้ตายเธอเกิดมามิ้นเพิ่งเคยเจอคนบ้าแบบนี้เสียเงินมากขนาดนั้นเพื่อระบายความใคร่เหตุผลไม่สมอายุของเขาเอาสะเลย “ฉันเหงา....” ยูร์รวบตัวมิ้นไว้ในอ้อมกอดได้สำเร็จก่อนจะเอ่ยคำพูดจากใจออกมาตรงๆ “....” “ฉันเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก พ่อฉันก็มีเมียใหม่ฉันเลยหนีออกมาใช้ชีวิตคนเดียว ฉันน่ะ....เข้าใจเมียใหม่พ่อว่าเป็นคนไม่ดี สุดท้ายมารู้ว่าคนที่เลวคือพ่อของฉัน ฉันแค่อยากรับรู้ความรู้สึกที่มีใครสักคน” “ผู้หญิงคนอื่น….” “ผู้หญิงพวกนั้นต่างยอมและคิดจะจับฉันทันทีที่เห็นเงินของฉัน” “แน่ใจได้ยังไงว่าฉันไม่คิดเหมือนคนพวกนั้น” “อย่างน้อยถึงตอนนี้ เธอเห็นแล้วว่าฉันรวยแต่เธอยังพยายามหนีฉัน….” “ฉันอาจเล่นตัว….” “งั้นแสดงว่ายอมแล้วสิ” ยูร์จูบเข้าที่คอขาวแล้วไล่ไปที่ใบหูโดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ดะๆ เดียว เอาแบบนี้ไหม ....ไหนๆ คุณก็จ่ายหนี้ให้ฉัน ฉันจะยอมเป็นแฟนปลอมๆ ให้คุณ แต่! ฉันจะไม่มีเซ็กกับคุณเป็นครั้งที่สอง” ยูร์นิ่งไป ช่วงนี้เขาก็แค่เหงามากการมีใครสักคนแบบนี้อย่างน้อยคงเต็มความอบอุ่นได้บ้าง หรือถ้าไม่โอเคมันก็แค่สามวัน ยังไงสะเรื่องอะไรระหว่างชายหญิงมันก็หาได้จากที่อื่นอยู่แล้ว “ตกลง เราจะเป็นแฟนกันสามวัน ฉันจะไม่ล่วงเกินเธอ” “ฉันจะร่างสัญญา” มิ้นเดินไปหยิบกระดาษกับประกามาจด “อะไร?” “ถ้าคุณทำเรื่องอย่างว่ากับฉัน ฉันจะฟ้องคุณ 50 ล้าน” “ฉันมีจ่าย” “100 ล้าน” “ฉันก็มีจ่าย” “หะ? ....200….” “จะกี่ล้านก็มี =-=” มิ้นคอตกก่อนที่จะคิดขึ้นได้ ในเมื่อเงินทำอะไรคนรวยอย่างเขาไม่ได้ ก็คงต้องเอาเรื่องจิตสำนึกและการรักษาคำพูดมาเป็นข้ออ้างแล้วละ “งั้น….สัญญาลูกผู้ชาย ฉันหวังว่าคุณจะจำได้ที่บอกว่าจะไม่ทำเรื่องนั้นกับฉัน” “ได้” ดี! มิ้นเขียนสัญญาขึ้นสองแผ่นแล้วส่งให้เขาหนึ่งแผ่น เธอได้แต่คิดว่ามันโชคดีหรือโชคร้ายของเธอกันแน่ที่มาหมดหนี้ด้วยวิธีนี้ มันไม่ต่างกับการขายตัวเลยสักนิด"มิ้นไม่ต้องห่วงนะ เรารักษาตัวก่อนเชื่อพี่"พี่ริลบอกขณะที่ฉันกำลังถูกพาออกจากห้องผ่าตัดเนื่องจากกระสุนปืนตัดผ่านเนื้อเยื่อจนได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นน่าเป็นห่วง ถึงพี่ริลจะพูดออกมาแบบนั้นฉันก็ยังทำได้แค่ร้องไห้ออกมามันทั้งตกใจกับภาพและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเป็นห่วงความรู้สึกของคุณยูร์....ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนที่พร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างทั้งลูกน้องและเงินทองแบบเขาจะต้องก้าวผ่านความเจ็บปวดพวกนั้น เขาผ่านมันมาได้ยังไงนะ...."คุณยูร์เป็นยังไงบ้างพี่""เฟร์สบอกว่ากำลังพาเขามาหามิ้นที่นี่ ไม่ต้องห่วงนะทุกอย่างจะโอเค""พี่ริล....""ว่าไง?""เรื่องที่คุณยูร์พูดมันจริงเหรอคะ....""เรื่องของพ่อเขา....มันเป็นเรื่องจริงพ่อของเขาทำร้ายคนไว้มากมายรวมถึงแม่ของยูร์ด้วย วันที่พ่อเขาตายก็เป็นวันเดียวกับที่เขารู้เรื่องเลวๆ ของพ่อตัวเอง ถ้าพี่เป็นเขามันก็คงลำบากจริงๆ ที่จะตัดสินใจ เพราะยังไงสะพ่อของเขาก็เข้าออกคุกเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เขาเลือกแบบนั้นคงคิดแล้วว่าพ่อตัวเองคงไม่มีวันกลับตัวได้ หลังจากวันนั้นเขาก็ปฏิญาณตนว่าจะไม่ทำแบบที่พ่อเขาทำและจะไม่ทำร้ายใครถ้าไม่จำเป็น""ค
"ยามะ...."เจพึมพำออกมาด้วยสีหน้าหวาดกลัวก่อนที่เขาจะดึงตัวฉันให้ไปหลบด้านหลัง ท่าทีนั้นทำให้ฉันรับรู้ได้เลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นบุคคลอันตรายสำหรับเรา "พี่แกนี่ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ยังโง่! การที่มันพลาดปล่อยฉันหนีได้ก็เท่ากับว่ามันพร้อมตายเท่านั้นแหละ""คุณยูร์ไม่มีท่าพลาด""โอ! แม่สาวนี้ใครกัน? สอดเรื่องของผู้ใหญ่หรือว่าเมียไอ้ยูร์?"ยามะเดินตรงเข้ามาหาฉันพร้อมยกปืนขึ้นจ่อหัวเจให้หยุดอยู่กับที่ เจมีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดไม่ต่างไปจากฉัน ให้ตายเถอะ!"อย่ายุ่งกับผู้หญิง""คุ้นๆ เหมือนฉันเคยเห็นอยู่กับไอ้บ้านั้น เมียไอ้ยูร์สินะ""ใช่...."ปัง! "มิ้น!"กรี๊ด! ปวด....ปัง!ทันทีที่ฉันบอกสถานะตัวเองออกไปลูกกระสุนเหล็กก็ถูกยิงเข้าที่ต้นขาของฉันทันทีความเจ็บปวดมากมายนี่ทำให้ฉันต้องทรุดตัวล้มลง เจพยายามจะวิ่งตรงเข้ามาช่วยกลับถูกยามะยิงเข้าที่ขาอีกคนจนทรุดตัวล้มลงข้างๆ ความปวดที่แสนทรมานนี่ทำให้ฉันไม่มีแม้แต่แรงจะพูดอะไรออกไปทำได้แค่เพียงมองยามะด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้น"มะ มิ้น""เจ อย่าขยับมากสิ"ฉันพยายามหันไปบอกเจที่กำลังลากขาที่บาดเจ็บมาหาฉัน ตอนนี้ยิ่งเห็นเลือดที่ไหลออกมาจนเต็มขา
: ยูร์ ปวดหัวชะมัด.... ไม่น่ากินเยอะขนาดนั้นเลยวันนี้ทำให้ผมต้องลางานเพื่อพักฟื้นร่างกายสักหน่อย พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกับเจนอนสลบไสลกันอยู่ที่พื้นอย่างน่าอนาถ พอมองสำรวจไปรอบห้องก็กลับไม่เห็นร่างเล็กของเมียสาวแต่ผมจำได้นะว่าเมื่อคืนมิ้นไปตามผมกับเจถึงร้านแถมกระชากหัวผมอีกคงจะโกรธมากแน่ๆ แต่นี่พระอาทิตย์ก็จะตกอยู่แล้วทำไมยังไม่ยอมกลับห้องอีกตืด! ไม่รับสาย....นี่กล้าตัดสายเลยเหรอ โกรธขนาดนั้นเลยงั้นเหรอเนี่ย....ก็แค่กลับบ้านช้าไปไม่กี่ชั่วโมงเองผมลองกดโทรศัพท์โทรออกไปหามิ้นอีกครั้งก็ยังพบว่าเธอตัดสายผมอีกแล้ว ชักจะเป็นห่วงขึ้นมาแล้วสิ"นายครับ นายครับ""ว่าไง"ผมหันไปถามลูกน้องที่วิ่งเข้ามาหน้าตื่นด้วยน้ำเสียงขุ่น"ยามะ ยามะหนีไปได้ครับ""หึ....": มิ้นณ สนามยิงปืนฉันมองสำรวจไปทั่วสนามบินกว้างที่เงียบเฉียบ....นี่มันน่ากลัวสุดไปเลย พี่ริลพาฉันเดินเข้าไปอีกด้านในจะมีเป็นล็อกของใครของมันและเป็นลานกว้างยาวที่มีเป้ากระดาษอยู่ไกลๆ ฉันหันไปมองพี่ริลที่หยิบปืนออกมาจากกระเป๋าพกของตัวเองและเริ่มเช็คมันอย่างเป็นงาน ....ท่าทางที่พี่ริลสำรวจปืนนี่มันช่างจริงจังจนน่ากลัวถึงว่าทำไมคนเจ้าชู
ฉันนั่งเฝ้าสองร่างที่ยังคงนอนสลบไสลอยู่บนพื้น เมื่อคืนกว่าจะยอมกลับกันมาได้ก็ต้องใช้เด็กตั้งหลายคนแบกมาแล้วนี่ก็จะตะวันตกดินอีกรอบแล้วเจกับคุณยูร์ยังไม่มีทีท่าจะตื่นเลย"ให้ตาย โมโหชะมัด!""คุณมิ้นครับ""ว่าไง! อุ้ย ขอโทษค่ะ"ฉันที่กำลังโมโหเผลอตะโกนใส่คนที่เข้ามาเรียก พอนึกได้ก็รีบยกมือไหว้ใหญ่เพราะเขาแก่กว่าฉันอยู่หลายปี"ไม่เป็นไรครับ มีคนมารออยู่ด้านล่างครับ""ใครคะ?""เขาแจ้งว่าชื่อริล""....ขอบคุณมากค่ะ ยังไงฝากดูสองคนนี้ด้วยนะคะ""ครับ"ฉันยิ้มให้ก่อนจะรีบลงมายังห้องรับรองชั้นหนึ่งของโรงแรม ถ้าให้ฉันเดาพี่ริลคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วตอนนี้คงกำลังโกรธฉันไปมากกว่าเดิมอีก นี่ตั้งแต่วันนั้นที่คุยกันพี่ริลก็ไม่เคยรับโทรศัพท์ฉันเลย.... "พี่ริล"เมื่อเห็นพี่สาวฉันก็ตรงเข้าไปกระโดดกอดอย่างไม่อาย พี่ริลยอมมาคุยกับฉันแล้ว "นั่งคุยกันดีๆ ก่อน โตแล้วนะ""หนูคิดถึงพี่ พี่ไม่รับโทรศัพท์มิ้นเลย"พี่ริลดึงฉันให้ไปนั่งลงข้างๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่ปรากฏเป็นภาพข่าวก่อนหน้านี้"นี่มันอะไรมิ้น""มันเป็นการโปรโมตของคุณยูร์เขาน่ะค่ะ ไม่มีอะไร""พี่รู้ว่ามันไม่ใช่แค่นี้ ยูร์โดนขู่ใช่ไหม?""เ
: มิ้นฉันเดินกระวนกระวายทั่วห้องตั้งแต่ช่วงบ่ายที่คุณยูร์ออกไปจัดการเรื่องคุณแฟรงค์ จนตอนนี้ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้วคุณยูร์ยังไม่โผล่หัวกลับมาเลยทั้งๆ ที่ลูกน้องก็บอกฉันว่าเคลียร์จบแล้ว.... หรืออันที่จริงพวกนั้นจะโกหกฉันเพราะกลัวฉันเสียใจ ไม่นะคุณยูร์คงไม่เป็นอะไรหรอกเพราะเขาเก่งนี่เขาเก่งมากแล้วทำไมตอนนี้ยังไงกลับมาอีกละ"ฉันต้องไปถามให้รู้เรื่อง"ฉันเปิดประตูออกมาแล้วเดินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อชายชุดดำที่ยื่นเฝ้าหน้าประตูอยู่ให้ก้มลงมาสบตาฉัน ตอนนี้แม้แต่ปืนที่เหน็บอยู่ฉันก็ไม่กลัวแล้วฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าคุณยูร์หายไปไหน"คุณมิ้นครับ ทำอะไรครับ!""คูณยูร์อยู่ไหน!""กำลังไปจัดการเรื่องพี่แฟรงค์ไงครับ""จัดการอะไรนานขนาดนี้ไปตามเจ้านายกลับมาเลยนะ! มันกี่โมงแล้วเนี่ยไม่รู้เวลาล่ำเวลาเลย หรือจริงๆ แล้วเจ้านายพวกนายบาดเจ็บแล้วไม่ยอมบอกฉัน พูดความจริงมาเลยนะ""คุณมิ้นครับ อย่าทำแบบนี้ ย๊ากกก!"ด้วยความโกรธทำให้ฉันดึงเนกไทคนตรงหน้าให้ต่ำลงเรื่อยๆ จนคนตัวสูงร้องโวยวาย ตอนนี้ชายชุดดำหลายคนเข้ามามุ่งเราไว้แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามฉัน ทุกคนเอาแต่ส่งเสียงร้องห้ามกันระงมแต่ฉันก็ยังคงดึงมันให้แน่นขึ
: เจ หลังจากพวกเราจัดการส่งพี่แฟรงค์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในเครือของพี่ยูร์เสร็จ เขาก็พาผมมาบาร์ลับแห่งหนึ่งใกล้กับคอนโดโดยให้เหตุผลว่าอยากคุยเรื่องสำคัญ....ระหว่างทางเข้ามามันทั้งเงียบและเปลี่ยวจนผมแอบคิดว่าพี่อาจจะยังสงสัยในตัวผมจนต้องพามาซ้อมหรือเปล่าแต่พอมาถึงหน้าร้านกลับว่ามันเป็นบาร์เหล้าจริงๆ ....ฮูววว... ใจหายหมดผมแอบมองพี่ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างกันอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตอนนี้เขามีท่าทีนิ่งเงียบและเคร่งขรึมจนผมไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เขายังคงกระดกเหล้าเข้าปากเรื่อยๆ อย่างเงียบเชียบราวกับว่าไม่มีผมอยู่ตรงนี้ผมมองเขาเป็นเหมือนที่พึ่งพาเดียวในตอนนี้ผมไม่อยากจะทำให้เขาหงุดหงิดใจจึงได้แต่นั่งดื่มไปเงียบๆ เช่นกัน"เล่ามา....""ครับ?""เล่าเรื่องของนายมา....ทำไมถึงมาที่นี่"ผมก้มหน้านิ่งแล้วยกเหล้าตรงหน้าขึ้นกระดกจนหมดแก้ว ถึงมันจะขมแต่มันคงช่วยให้ผมมีความกล้า นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่พี่จะได้รู้จักผมมากขึ้น"ผมเกิดมาเพราะความผิดพลาด....ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น แต่เมื่อผมเกิดมาพ่อก็พยายามจะฆ่าผมจนแม่กับผมไปซ่อนตัวไว้หลายปี แต่ในที่สุดเขาก็หาผมเจอจนได้เขาทำข้อ