Home / โรแมนติก / รักหมดใจยัยตัวอ้วน / ต้นเหตุความเย็นชา(1)

Share

ต้นเหตุความเย็นชา(1)

“พวกมึง ตำรวจมา!” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นแล้วก็วิ่งแซงหน้าไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ตัวเองแล้วเร่งเครื่องออกไปตามด้วยขบวนเด็กแว๊นหลายคันขับตามกัน มีเพียงแค่รภัทรเท่านั้นที่ชักช้าเพราะรถสตาร์ทไม่ติดจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวกลับไปยังโรงพัก

ชาวบ้านย่านนั้นโทรเข้ามาร้องเรียนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมาตั้งแก๊งแข่งรถกันเกือบทุกวันสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านและผู้สัญจรไปมา จนบางครั้งเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสก็มี วันนี้ทางการจึงได้วางแผนล้อมจับอย่างรัดกุม

รภัทรถึงกับหน้าเสียเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าได้แต่นั่งซึมอยู่ต่อหน้าตำรวจเวรประจำวัน ขายาวสั่นพับๆแล้วบอกเบอร์โทรผู้ปกครองให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

ไม่ตายด้วยมือแม่... ก็ตายด้วยมือพี่ช้องแน่ ๆ

“หนุ่มหล่อกลุ่มนั้นมาอีกแล้วแก ฉันขอไปดูแลนะ” เด็กนั่งดริ้งสาวสวยคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความระริกระรี้ส่วนคนอื่น ๆ ก็ขอติดตามไปด้วยเพราะถึงอย่างไรโต๊ะนั้นก็มีผู้ชายหลายคน

“จะว่าไปก็เป็นเด็กเอ๊าะ ๆทั้งนั้นเลย” ยกมือลูบปากอยากกินเด็กแล้วต่างพากันหัวเราะคึกครื้น

ช้องนางเดินกลับมาได้ยินได้พอดีแต่ยิ้มอ่อน ๆแล้วส่ายหัว เธอเห็นกลุ่มของเตย์มีและคณินเดินเข้ามาตั้งแต่หน้าร้านแล้วแหละแต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นเพราะไม่อยากไปให้บริการโต๊ะนั้น

“ไอ้เตย์ หินของมึงเขาไม่สนใจมึงเลยว่ะ โน้นเดินไปเสิร์ฟโต๊ะอื่นอีกแล้ว ไม่แม้แต่เฉียดตัวเข้ามาใกล้เลย” คณินตะโกนฝ่าเสียงเพลงเพื่อแซวเพื่อน

“หินอะไรของมึงวะ” กายหนึ่งในกลุ่มเป็นตัวแทนถามเพื่อคลายความสงสัยแทน ส่วนที่เหลือพยักหน้าสำทับกับคำถามนั้น

“เอ้า ก็ไอ้เตย์อ่าดิ ตามหยดน้ำลงหินให้กร่อนอยู่แต่หินก้อนนั้นกลับไม่เล่นด้วย” คณินยังคงเล่าเป็นปริศนาจนกายรู้สึกรำคาญจึงแจกผ่ามือให้กินไปหนึ่งทีข้อหาพูดกำกวมดีนัก

“มึงเล่าให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้หรือไง หินที่พูดถึงนี่หมายถึงผู้หญิงใช่ไหม”

“เออ ใช่ เพื่อนร่วมคณะนิติฯ นี่แหละ พวกมึงก็เคยเห็น” คณินยกมือลูบต้นแขนปอยๆ ด้วยความแสบ

“เคยเห็นเหรอ? สวยไหม?” เพื่อนอีกคนรีบถามขึ้นด้วยใบหน้าใคร่อยากรู้ คณินส่ายหน้าเบา ๆ ไม่รู้จะตอบยังไงดี ใบผิวพรรณจัดว่าสวยและดีเลยล่ะ ผิดแค่รูปร่างค่อนข้างอ้วนไปหน่อย

“ส่ายหน้าเนี่ย สรุปว่าสวยหรือไม่สวย”คณินไม่ตอบเลือกหันไปมองหน้าเตย์มีที่กำลังยกแก้วบรั่นดีในมือขึ้นดื่ม

“ผู้หญิงคนนั้นไง” เขาเพยิดหน้าไปยังช้องนางที่กำลังยกถาดแก้วเหล้าเดินไปเสิร์ฟอีกโต๊ะ ซึ่งอยู่อีกมุมหนึ่งของร้านทุกคนต่างหันไปมองเป็นตาเดียวแล้วอ้าปากค้างกลับมามองหน้ามันโดยไม่ได้นัดหมาย

“ยัยอ้วนนั้นนะเหรอ” กายหันมาทำหน้าไม่เข้าใจ

“อือ”

“มึงล้อเล่นใช่ไหม หรือแค่หลอกฟัน กูว่ายังซิงแน่ ๆ ดูท่าแล้วยังไม่เคยแต่เลย” เพื่อนอีกคนพูดขึ้นเห็นเป็นเรื่องติดตลกเพราะที่ผ่านมาผู้หญิงของเตย์มีมีแต่ระดับนางฟ้าทั้งนั้น

ชายหนุ่มกำแก้วแน่นกระแทกโต๊ะเสียงดัง ดวงตาดุกร้าวปราดมองเพื่อนทีละคนให้รู้ตัวว่าเขาไม่พอใจ “พวกมึงตลกกันมากไหม แต่กูไม่ตลกด้วย”

“มึงอย่าทำหน้าอย่างนั้นดิ เสียบรรยากาศหมด พวกกูแค่ล้อเล่น” คณินเป็นฝ่ายเอ่ยห้ามเพื่อเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยดี “แต่กูไม่ได้ล้อเล่น”

คราวนี้น้ำเสียงเขาจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเองรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน อยากจะเอาชนะก็ไม่ใช่จะบอกว่ารักก็ไม่เชิงแต่มันรู้สึกมากกว่าชอบแน่ ๆ

“เออ ไม่ล้อเล่นก็ไม่ล้อเล่น” กายรีบเปลี่ยนไปเป็นเรื่องอื่น เห็นท่าทางนั้นก็รู้แล้วว่าเตย์มีเอาจริงจึงรีบถามประโยคอื่นแทน

“แล้วเขารู้หรือเปล่าว่ามึงสนใจเขา” เตย์มีส่ายหน้าแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นจิบอีกรอบ ดวงตาคมยังจับจ้องไปยังร่างอ้วนท้วน

“จะรู้ได้ยังไงล่ะ ก็พี่ท่านไม่เคยบอก แสดงออกเธอก็ไม่รู้แถมยังเมินมันยิ่งกว่าหมาเมินทุ่งหญ้าอีก ทำตัวเป็นน้ำหยดลงหิน” คณินเป็นคนเล่าเรื่องนี้แทน ก่อนเตย์มีจะเป็นคนพูดต่อ

“ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น เธอเหมือนมีกำแพงหินปิดกั้นเอาไว้ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น ๆ ฉันแค่ยิ้มให้ก็พร้อมพลีกายให้แล้วแต่กับช้องนางเธอเอาแต่เย็นชา จนดูน่าค้นหา” เขาหรี่ตาลงทว่านัยน์ตานั้นกลับทอประกาย

“ปกติสเปกมึง สาว ๆ สวย ๆหุ่นดีทั้งนั้นเลยไม่ใช่เหรอ”

“กูเคยควงแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ากูไม่ได้ชอบแบบนี้นี่หว่า พวกมึงเองก็อย่ามองแต่สวย ๆ งาม ๆ ลองเปลี่ยนมองแบบอื่นบ้าง” กลับกลายเป็นว่าเตย์มีมานั่งปรับทัศนคติเสียอย่างนั้น จนคณินอดคิดไม่ได้ว่าใช่เพื่อนคาสโนว่าของเขาหรือเปล่าหรือมีตัวอะไรเข้าสิง

“ก่อนจะบอกให้พวกกูลองเปลี่ยนไปมองแบบอื่น ตอนนี้มึงมองตามยัยช้องนางก่อนเลย เห็นรับโทรศัพท์แล้วก็วิ่งไปโน้นแล้ว”

กายบอกกับคนเป็นเพื่อนเพราะเมื่อกี้เห็นสีหน้าของหล่อนไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร ร่างสูงของเตย์มีลุกพรวดขึ้นวิ่งตามออกมาจนถึงหน้าร้านก็เห็นเธอขึ้นรถแท็กซี่ออกไปแล้วจนลับตา เขายืนรอเรียกรถแต่มันก็ไม่ทันแล้ว จะว่าเลิกงานก็ไม่ใช่เพราะมันเพิ่งจะสี่ทุ่มเอง

“พี่ครับ ช้องนางเลิกงานแล้วเหรอครับ” ในเมื่อตามไม่ทันชายหนุ่มจึงเดินกลับเข้ามาในร้านแล้วตรงดิ่งไปยังเคาน์เตอร์ โต้งมองหน้าหนุ่มหล่อแล้วเลิกคิ้วเป็นเครื่องหมายคำถามว่าเขาเป็นใคร

“เออ...ผมเป็นเพื่อนร่วมคณะเรียนของเธอครับ เมื่อกี้เหมือนผมยังเห็นเธออยู่เลย แต่มองหาอีกทีก็ไม่เห็นแล้ว”

“อ่อ...ไอ้ช้องไปโรงพักนะ เห็นว่าน้องชายถูกตำรวจจับ” ชายหนุ่มย่นคิ้วเข้าหากัน “พอจะรู้ไหมครับว่าสน.ไหน”

“สน.ดินแดง ว่าแต่ถามทำไมเหรอ” โต้งยังคงสงสัย

“ผมเป็นห่วงว่าจะตามไป” พูดจบชายหนุ่มก็เดินด้วยความเร็วไปเลย ปล่อยให้บาเทนเดอร์หนุ่มยืนงง

“พวกมึงกินตามสบายเลยนะ กูจะรีบไปหาช้อง” คว้ากุญแจด้วยความร้อนใจ เพื่อน ๆ จะไปด้วยชายหนุ่มไม่ยอมเพราะรู้ดีว่าช้องนางไม่เหมือนคนอื่น ลำพังแค่เขาเธอก็ตั้งกำแพงหนาหลายชั้นแล้ว

ทุกคนไม่เคยเห็นเตย์มีเป็นห่วงใครมากขนาดนี้มาก่อนจึงเชื่อแล้วว่ามันจริงจังกับคนนี้มาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   ต้นเหตุความเย็นชา(2)

    ช้องนางรีบจ่ายค่ารถสาวเท้ายาว ๆ ตรงไปยังห้องแจ้งความภาพที่เห็นคือคนเป็นป้าทุบหลังลูกชายพรางกร่นด่าไปด้วย ความเบื่อหน่ายและเหนื่อยล้าเริ่มเข้ามาปกคลุมหัวใจอีกครั้ง เธออยากหนีความวุ่นวายไปให้ไกล ๆ ทว่าก็ไม่เคยทำได้สักครั้ง เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เหลือแค่ป้าระวีเป็นญาติเพียงคนเดียว“เลิกเสียงดัง หรือโวยวายได้แล้วค่ะป้า เกรงใจคนอื่นบ้าง” ช้องนางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเหยียบ ดวงตากลมจ้องมองลูกพี่ลูกน้องด้วยสายตา คาดโทษที่มันมักสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน“ยัยช้อง”“พี่ช้อง”ทั้งคู่อุทานเรียกชื่อพร้อมกันเหมือนมองเห็นนางฟ้ามาโปรดแต่กับอีกฝ่ายรู้สึกเหมือนบ่วงกรรมคล้องคอเสียมากกว่า เธอผ่อนลมหายใจออกมาแล้วเดินไปย่อตัวนั่งเก้าอี้ว่างด้านข้างพร้อมยกมือไหว้คุณตำรวจ“ฉันเป็นลูกพี่ ลูกน้องของคนนี้ค่ะ” น้ำเสียงเจือความเหนื่อยล้าถามโดยไม่หันไปมองหน้าสองแม่ลูกเสียด้วยซ้ำ“หนูขอทราบข้อกล่าวหาของนายรภัทรหน่อยได้ไหมคะ”เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขยับปากจะแจ้งรายละเอียดแล้วก็ต้องเงียบลงเมื่อระวีพูดจาท้าทายอวดเก่งว่าหลานตัวเองเรียนกฎหมายมาจนช้องนางรู้สึกหมดความอดทน“พอได้แล้วป้าวี! ช้องเรียนกฎหมายมาก็จริงไม่ได้เอามาเบ่งใส่ใ

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   ต้นเหตุความเย็นชา(1)

    “พวกมึง ตำรวจมา!” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นแล้วก็วิ่งแซงหน้าไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ตัวเองแล้วเร่งเครื่องออกไปตามด้วยขบวนเด็กแว๊นหลายคันขับตามกัน มีเพียงแค่รภัทรเท่านั้นที่ชักช้าเพราะรถสตาร์ทไม่ติดจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวกลับไปยังโรงพักชาวบ้านย่านนั้นโทรเข้ามาร้องเรียนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมาตั้งแก๊งแข่งรถกันเกือบทุกวันสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านและผู้สัญจรไปมา จนบางครั้งเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสก็มี วันนี้ทางการจึงได้วางแผนล้อมจับอย่างรัดกุมรภัทรถึงกับหน้าเสียเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าได้แต่นั่งซึมอยู่ต่อหน้าตำรวจเวรประจำวัน ขายาวสั่นพับๆแล้วบอกเบอร์โทรผู้ปกครองให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตายด้วยมือแม่... ก็ตายด้วยมือพี่ช้องแน่ ๆ“หนุ่มหล่อกลุ่มนั้นมาอีกแล้วแก ฉันขอไปดูแลนะ” เด็กนั่งดริ้งสาวสวยคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความระริกระรี้ส่วนคนอื่น ๆ ก็ขอติดตามไปด้วยเพราะถึงอย่างไรโต๊ะนั้นก็มีผู้ชายหลายคน“จะว่าไปก็เป็นเด็กเอ๊าะ ๆทั้งนั้นเลย” ยกมือลูบปากอยากกินเด็กแล้วต่างพากันหัวเราะคึกครื้นช้องนางเดินกลับมาได้ยินได้พอดีแต่ยิ้มอ่อน ๆแล้วส่ายหัว เธอเห็นกลุ่มของเตย์มีและคณินเดินเข้ามาตั้งแต่หน้าร้านแล้วแหละแต่แ

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   น้ำหยดลงหิน(2)

    แสงแดดจ้าสาดผ่านกระจกใสเข้ามากระทบใบหน้าเนียนใส ทว่าคนหลับลึกกลับไม่รู้ตัว เตย์มีเดินเข้ามาใกล้แล้วใช้มือยกป้องแดดร่างอ้วนเอนหลังพงกับแท่นบัลลังก์จำลอง มือข้างหนึ่งยังคงถือชีตสรุปย่อของมาตรากฎหมาย สองขาป้อมเหยียดตรงในท่านั่ง กระโปรงทรงพีชเลิกขึ้นเหนือเข่าเล็กน้อยชายหนุ่มจึงถือวิสาสะดึงลงให้เมื่อช่วงกลางวันเผอิญเดินผ่านณาราแล้วไม่เห็นเพื่อนสนิทที่ตัวติดกันยิ่งกว่าปลาท่องโก๋จึงเอ่ยถามว่าไปไหน เขาจึงรู้ว่าเธอมาแอบหลับอยู่ที่นี่เองลมหายใจของคนหลับผ่อนเป็นจังหวะสม่ำเสมอไม่นานศีรษะก็เอนมาพิงไหล่ ชายหนุ่มจึงขยับท่านั่งให้สมดุลเพื่อที่เธอจะได้หนุนหัวไหล่ได้อย่างสะดวก...ไม่นานเตย์มีก็หลับตามไปอีกคนติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดเสียงนาฬิกาปลุกจากสมาร์ตโฟนเครื่องสวยดังเข้ามาในโซนประสาท ช้องนางอยากจะหยุดเวลาพักผ่อนเอาไว้สักสองวันเสียจริงทว่าก็ทำไม่ได้ใบหน้าซุกเข้ากับอะไรบางอย่างจะว่าแข็งก็ไม่แข็งจะว่านุ่มก็ไม่นุ่มแต่ที่แน่ ๆ มันทำให้เธอหลับสบายตลอดสามชั่วโมงที่ผ่านมา ดวงตากลมค่อยๆ ลืมขึ้นแล้วปรับโฟกัสสายตาตัวเองให้เข้ากับแสดงที่ส่องเข้ามาคราแรกเมื่อลืมตาตื่นมือของเธอถูกกุมไว้จากเรียวนิ้วของมือใครก็ไม

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   น้ำหยดลงหิน(1)

    เช้าของวันใหม่เตย์มีตื่นตั้งแต่ไก่โห่โดยที่ป้าอุ่นไม่ได้เข้ามาปลุกเลย ทำเอาแม่บ้านสูงวัยประจำบ้านถึงกับงงงวยว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนเดินไปหยิกแขนคุณหนูที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก“โอ้ย...เจ็บ” สะดุ้งโหยงสะบัดแขนเราๆ “หยิกผมทำไมป้าอุ่น”“คุณหนูเจ็บ?”“อ้าว ก็เจ็บนะสิโดนหยิกแรงขนาดนี้”“แสดงว่าป้าไม่ได้ฝันไปค่ะ” ป้าอุ่นยกมือตบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อยืนยันอีกครั้ง“ฝันอะไรครับ ผมงงไปหมดแล้ว”“เอ้า ก็วันนี้คุณหนูตื่นเอง ป้าไม่ได้ขึ้นไปปลุกแถมยังตื่นเช้าผิดปกติ ลงมาพร้อมชุดนักศึกษา” หล่อนส่ายหน้าอย่างไม่น่าเชื่อว่าลูกชายไม่เอาถ่านของบ้านท่านผู้พิพากษาจะตื่นเช้าได้“โธ่ ป้าอุ่น คนเรามันก็ต้องมีเปลี่ยนไปบ้าง ไม่คุยด้วยล่ะ ไปดีกว่า”“ไม่กินข้าวก่อนเหรอคะ” ร้องถามตามหลังคนที่วิ่งเหยาะๆ ไปยังรถคู่ใจ “ไม่ครับ กลัวไม่ทัน”คาบเรียนเช้าวันศุกร์เริ่มเก้าโมงทว่าเตย์มีขับรถมาจอดก่อนถึงป้ายรถเมล์ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพื่อดักรอใครบางคน มือจับคันเกียร์รถเขยิบไปยังตัว P เพื่อตั้งท่ารอพอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเขาเห็นหลังของคนตัวกลมขึ้นรถเมล์ไปแล้ว อุตส่าห์มาดักรอเพื่อจะรับไปด้วยกันแค่พริบตาเดียวคาดกันเสียอย่างนั้นไ

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   ใกล้เข้าไปทีละนิด(2)

    อาจารย์ผู้หญิงวัยสามสิบกว่าปีเริ่มอธิบายวิชากฎหมายแรงงานซึ่งเป็นวิชาหลักของช่วงชั้นสุดท้ายของนักศึกษาปีสี่“สิทธิของลูกจ้างกรณีถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด สามารถเรียกร้องอะไรได้บ้างคะ”อาจารย์สาวกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง ซึ่งนักศึกษาแทบทุกคนเลือกหลบสายตายกเว้นช้องนางซึ่งเธอตั้งใจฟังมาตั้งแต่เริ่มสอนแต่อาจารย์ก็ไม่เลือกถามเพราะรู้อยู่แล้วว่าเธอตอบได้จึงมองเลยไปด้านหลังสุดซึ่งเห็นเตย์มีนอนฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะเรียวขาสวยก้าวไปด้านหลังสุดแล้วใช้ปากกาเมจิกเคาะไปยังโต๊ะสองสามครั้งจนนักศึกษาหน้าหล่องัวเงียเงยหน้าขึ้น“มีอะไรครับเหรอครับอาจารย์”“ที่ฉันสอนไปเมื่อครู่ไม่ได้ฟังเลยใช่ไหม” อาจารย์สาวเริ่มเสียงดังขึ้นเพื่อนทั้งห้องจึงหันหลังไปมอง คำถามของอาจารย์เมื่อครู่เขาหูแว่วได้ยินเหมือนในฝัน“ก็คงงั้นครับ สอนน่าเบื่อขนาดนี้ผมเลยง่วงนอน” เขาไหว่ไหล่ยกมือป้องปากหาว อาจารย์ประจำวิชาได้แต่ถอนหายใจออกมาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนตรงหน้าจะเป็นถึงลูกชายผู้พิพากษาสูงสุดศาลฎีกา“ไม่แปลกใจหรอกที่ท่านกมลหนักใจและเป็นกังวลกับลูกชายคนเดียว”เตย์มีเห็นแววตาดูถูกของอาจารย์แล้วเธอก็ผละออกจากตรงนั้นเดินไปถึงกลางห้องฝีจึง

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   ใกล้เข้าไปทีละนิด(1)

    “คุณหนู คุณหนูตื่นเถอะค่ะ” ป้าอุ่นหญิงมีอายุวัยห้าสิบกว่าปีรีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาปลุกลูกชายคนเดียวของบ้านด้วยความร้อนใจ เมื่อยังเห็นเตย์มีนอนนิ่งจึงเปลี่ยนเป็นดึงผ้าห่มออกแล้วเขย่าตัวอย่างแรงให้ตื่นขึ้นมาก่อนจะเกิดสงคราม“มีอะไรป้าอุ่น ทำไมถึงปลุกผมแต่เช้า” ร่างกำยำลุกขึ้นแบบงัวเงยดวงตายังไม่ทันลืมขึ้นเสียด้วยซ้ำ“เช้าอะไรคะ มันจะบ่ายแล้วค่ะ ตอนนี้คุณท่านกลับมาจากขึ้นบัลลังก์ศาลแล้วค่ะ ถามใหญ่เลยว่าคุณหนูไปเรียนหรือยัง” ตาสว่างโร่ขึ้นมาทันที บ่ายนี้มีเรียนอีกต่างหาก ไปสายมีหวังท่านได้ยึดบัตรเครดิตเหมือนครั้งที่แล้วแน่นอน อาจารย์ในคณะก็มักจะโทรมาฟ้องพ่ออยู่บ่อยครั้งร่างสูงกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำไม่นานก็กลับออกมาด้วยชุดนักศึกษาเตรียมพร้อมสำหรับไปเรียน ความโชคดีของคุณหนูประจำตระกูล ‘เชาวกรกุล’ คือไม่ต้องซักผ้า รีดผ้าเองแค่เปิดตู้เสื้อผ้าทุกอย่างก็ถูกจัดเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว“ทำไมยังไม่ไปเรียนอีก มันกี่โมงแล้ว” เสียงทุ้มกังวาลดังขึ้นเมื่อเห็นเจ้าลูกชายไม่เอาถ่านเดินย่องลงบันไดมา คิดหรือว่าเขาจะไม่เห็นเตย์มีสะดุ้งเล็กน้อยหันมายิ้มฟันขาวให้กับคนเป็นพ่อ “

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status