بيت / โรแมนติก / รักหมดใจยัยตัวอ้วน / ใกล้เข้าไปทีละนิด(2)

مشاركة

ใกล้เข้าไปทีละนิด(2)

last update آخر تحديث: 2025-09-07 03:17:54

อาจารย์ผู้หญิงวัยสามสิบกว่าปีเริ่มอธิบายวิชากฎหมายแรงงานซึ่งเป็นวิชาหลักของช่วงชั้นสุดท้ายของนักศึกษาปีสี่

“สิทธิของลูกจ้างกรณีถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด สามารถเรียกร้องอะไรได้บ้างคะ”

อาจารย์สาวกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง ซึ่งนักศึกษาแทบทุกคนเลือกหลบสายตายกเว้นช้องนางซึ่งเธอตั้งใจฟังมาตั้งแต่เริ่มสอนแต่อาจารย์ก็ไม่เลือกถามเพราะรู้อยู่แล้วว่าเธอตอบได้จึงมองเลยไปด้านหลังสุดซึ่งเห็นเตย์มีนอนฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ

เรียวขาสวยก้าวไปด้านหลังสุดแล้วใช้ปากกาเมจิกเคาะไปยังโต๊ะสองสามครั้งจนนักศึกษาหน้าหล่องัวเงียเงยหน้าขึ้น

“มีอะไรครับเหรอครับอาจารย์”

“ที่ฉันสอนไปเมื่อครู่ไม่ได้ฟังเลยใช่ไหม” อาจารย์สาวเริ่มเสียงดังขึ้นเพื่อนทั้งห้องจึงหันหลังไปมอง คำถามของอาจารย์เมื่อครู่เขาหูแว่วได้ยินเหมือนในฝัน

“ก็คงงั้นครับ สอนน่าเบื่อขนาดนี้ผมเลยง่วงนอน” เขาไหว่ไหล่ยกมือป้องปากหาว อาจารย์ประจำวิชาได้แต่ถอนหายใจออกมาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนตรงหน้าจะเป็นถึงลูกชายผู้พิพากษาสูงสุดศาลฎีกา

“ไม่แปลกใจหรอกที่ท่านกมลหนักใจและเป็นกังวลกับลูกชายคนเดียว”

เตย์มีเห็นแววตาดูถูกของอาจารย์แล้วเธอก็ผละออกจากตรงนั้นเดินไปถึงกลางห้องฝีจึงชะงักลงจากคำตอบของเขา

“กรณีลูกจ้างถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดลูกจ้างสามารถเรียกสิทธิในการเรียกค่าเสียหาย ถ้าสัญญาจ้างงานยังไม่สิ้นสุด เรียกค่าบอกกล่าวล่วงหน้าเฉพาะกรณีสัญญาจ้างแรงงานมิได้กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดลงไว้ นายจ้างต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้า ถ้าต้องการให้ลูกจ้างออกจากงานทันที แล้วก็เรียกค่าชดเชยได้

หากเพื่อน ๆ อยากรู้สึกรายละเอียดเรื่องค่าชดเชยก็อ่านเพิ่มในหนังสือเอาแล้วกันขี้เกียจแยกย้อยให้ฟัง แล้วก็ข้อสุดท้ายสิทธิที่ลูกจ้างจะกลับเข้าทำงานตามเดิมโดยได้รับค่าจ้างเท่าเดิม” ชายหนุ่มฉีกยิ้มให้อาจารย์ประจำวิชาซึ่งท่านก็พยักหน้าให้ว่าถูกต้องทั้งหมด

ช้องนางยกยิ้มมุมปากพรางหมุนปากกาไปมา อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นแฮะ

“พักเบรก เข้าห้องน้ำสิบห้านาทีนะคะ เราจะได้มาต่อหัวข้ออื่นกัน”

ปกติแล้ววิชาเรียนแต่ละคาบจะมีช่วงพักให้นักศึกษาได้ผ่อนคลายจากการเรียนยาวนานติดต่อกันถึงสี่ชั่วโมง

มืออวบเก็บปากกาเข้ากระเป๋ากำลังจะลุกจากเก้าอี้ก็มีมือปริศนาเอาแซนวิชเกาหลีพร้อมนมหนึ่งกล่องมาวางบนโต๊ะ ช้องนางเงยหน้าขึ้นแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเป็นเตย์มียืนอยู่

“อะไร”

“แซนวิชกับนมไง ไม่รู้จักเหรอ” ยิ้มกวนประสาท

“รู้จัก แต่เอามาให้ทำไม”

“ก็เธอไม่ได้กินอะไรเลยนะ นี่ก็บ่ายสามแล้วไม่หิวเหรอ”ร่างสูงโน้มตัวลงมือซ้ายจับพนักพิงเก้าอี้ มือขวาวางบนโต๊ะด้านหน้าความหล่อของเขาประชิดจนเธอต้องเบือนหนี

“ไม่หิว” ตอบปฎิเสธทันควันเพียงครู่เดียวก็อยากมุดโต๊ะเรียนหนีด้วยความอาย “โครกกก ครากกก”

“ไหนบอกว่าไม่หิวไง ท้องร้องซะดังเลย” เขาอมยิ้มแล้วทำสายตาล้อเลียนก่อนจะเดินกลับไปนั่งกลังห้องเหมือนเดิม

“เฮ้ย ช้องนาง มันอะไรยังไง” ใช้ไหล่กระแทกไหล่เพื่อถามด้วยความอยากรู้ เพราะตั้งแต่เรียนมาไม่เคยเห็นสองคนนี้คุยกันเลยนอกจาก

เมื่อวานนี้ เวลาแค่ข้ามคืนมีอะไรเปลี่ยนไปอย่างนั้นหรือ

“ไม่มีอะไรหรอก แค่เมื่อเช้าติดรถเขามาเรียนน่ะ”

“ฮา...กับเดือนสุดหล่อเนี่ยนะ”

“อือ คงบังเอิญผ่านมามั่งก็เลยชวนฉันมาด้วย ฉันเห็นว่าสายแล้วไม่มีทางเลือกน่ะ” ช้องนางตอบด้วยท่าทีเรียบเฉย หากเป็นคนอื่นก็คงพูดจาดี๊ด๊าไปแล้ว ทว่ากับผู้หญิงขั้วโลกเหนือคนนี้มันก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น

เอื้อมมือไปแตะขนมกับนมแล้วหันกลับไปมองเตย์มีอีกครั้ง เขาพยักหน้าให้เล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ มุมปากจนแทบมองไม่ทัน เธอจังโค้งหัวให้เพื่อเป็นการขอบคุณ

เพื่อนร่วมคณะเห็นท่าทีของคนทั้งคู่แล้วต่างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนก็นินทาว่าน่าจะเป็นเหยื่อคนใหม่ แต่บางคนก็ค้านว่ารูปลักษณ์แบบนี้นะเหรอ แล้วต่างก็พากันหัวเราะ

คำพูดเหล่านั้นช้องนางได้ยินทั้งหมดแล้วถอนหายใจออกมาหันกลับไปทำตาเขียวใส่กลุ่มนั้น ทั้งหมดจึงสลายกลับไปนั่งที่ตัวเองซึ่งประจวบเหมาะกับอาจารย์เข้ามาสอนพอดี

หึ รูปลักษณ์แบบนี้แล้วมันทำไมเหรอ คนอ้วนก็มีหัวใจโว้ยแต่แค่หัวใจไม่ได้มีไว้เพื่อรักใครตอนนี้ โดยเฉพาะผู้ชายที่พวกคนเหล่านั้นคิดว่าหล่อปานเทพบุตร แต่จะว่าไปก็จริงแหละ

สลัดความคิดในหัวออกแล้วหันกลับไปตั้งใจเรียนต่อเพราะถึงอย่างไรแล้วผู้ชายเพอเฟกค์อย่างนั้นคงไม่ได้มาชายตาแลเธอแน่นอน

“คณินแกว่าของอะไรที่ได้มายากๆ มันจะมีคุณค่าไหมวะ” ปากเอ่ยถามดวงตากลับจ้องมองแผ่นหลังใหญ่ของผู้หญิงด้านหน้าที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาจดเล็คเชอร์งาน พรางถอดแว่นตาขึ้นมาเช็ดฝ้าละอองน้ำบนกรอบแว่น

“ก็เออดิวะ ถามทำไมหรือว่าไปเจอสาว ๆ คนไหนเล่นตัวใส่ แล้วอยากได้ขึ้นมาวะ” คณินยังคงพูดเล่นแกมจริงแล้วก็ต้องชะงักลง

“ไม่ได้เล่นตัววะ แต่มองไม่เห็นฉันในสายตาเลยต่างหาก” เพื่อนรักขมวดคิ้วสงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร จะเซ้าซี้ถามต่อเตย์มีก็ลุกพรวดเดินออกจากห้องเรียนเพราะหมดคาบเรียนพอดี

“งั้นแยกกันตรงนี้นะช้อง พ่อมาจอดรถรอแล้ว บางทีก็อิจฉาแกวะ ได้เป็นอิสระ อยากไปไหนก็ได้ไป ดูฉันสิโตจนอายุยี่สิบสองแล้วพ่อยังมารับ มาส่งอยู่เลย” เอื้อมไปแตะแขนเพื่อนแล้วทำสีหน้าเศร้าสร้อย

“เอาน่า ดีเสียอีกอย่างน้อยก็มีต้นโพธิ์ ต้นไทรคอยเป็นเงาปกป้องนะ”

“จ้า คุณเพื่อน งั้นฉันไปแล้วนะ” สองเท้าก้าวไปข้างหน้าแต่เอี้ยวตัวกลับมาโบกมือลาเพื่อน ช้องนางยืนมองรถเพื่อนจนลับตาจึงหันหลังกลับจะเดินไปอีกทางทว่าดันชนอกแกร่งของใครบางคนโดยไม่ตั้งใจ

“โอ๊ย ขอโทษค่ะ ช้องไม่ทันได้มอง” หญิงสาวหรี่ตามองยกมือขอโทษเป็นพัลวัน ร่างอ้วนควานหาแว่นตาซึ่งตกพื้นไปตอนชนเมื่อครู่

เตย์มีนึกเอ็นดูใบหน้ากลมซึ่งพยายามหรี่ตามองหาแว่นตาที่ทำตกทั้งที่มันอยู่ข้างเท้าตัวเองแท้ๆ แว่นตาถูกหยิบขึ้นไปสวมให้ความขมุกขมัวเมื่อครู่สว่างขึ้นมาทันที

“ขอบคุณค่ะ” รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นพร้อมรอยบุ๋มเล็ก ๆสองมุมปากล่าง เมื่อดวงตาปรับแสงเข้าที่เธอจึงเห็นหน้าบุคคลตรงหน้าชัดขึ้น

“นายเองเหรอ”

“อือ เราเอง ไม่ยักรู้ว่าเวลาเธอยิ้มก็น่ารักดีแถมมีลักยิ้มด้วย” ชายหนุ่มเอ่ยปากชมออกมาตรง ๆ แววตาวาววับเหมือนเสือร้ายเจอเหยื่อที่ถูกใจ

“เข้าเรื่องเลยนะ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ต้องการอะไร เราว่านายทำตัวแปลกๆ เราไม่ไว้ใจ” การดิ้นรนใช้ชีวิตมาด้วยความยากลำบากมันสร้างกำแพงใจของช้องนางจนหนาหลายชั้น เพราะฉะนั้นการเข้าหาของเพื่อนร่วมชั้นเรียนตรงหน้ามันจึงไม่น่าไว้ใจสักเท่าไร

“เราไม่ได้ต้องการอะไร เป็นเพื่อนกันเราก็แค่อยากทักทาย”

“ทั้งที่สี่ปีที่ผ่านมาไม่เคยคุยกันหรือจำกันได้เนี่ยนะ ตลกล่ะ ถ้านายอยากให้เราช่วยทำงานส่งอาจารย์เราทำให้ได้นะแต่คิดเงินตามความเหมาะสม ไม่ต้องเอาใบหน้าหล่อๆมาหลอกล่อหรอก เราไม่หลงกล”

คำพูดทุกอย่างถูกไตร่ตรองออกมาอย่างถี่ถ้วนทำเอาเตย์มีหัวเราะร่วนออกมา ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีวิธีคิดซับซ้อนขนาดนี้

“หัวเราะอะไร”

“หัวเราะเธอนั่นแหละ คิดได้ไงเนี่ย” เขาส่ายหัวแล้วพูดต่อ “ก็เพราะสี่ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้ใส่ใจเพื่อนร่วมชั้นมากพอไงถึงอยากทำดีด้วย” เขายิ้มหวานส่งมาให้แต่เธอเลือกส่ายหน้าแล้วบอกว่าไม่จำเป็นเพราะอีกไม่กี่เดือนก็เรียนจบกันแล้ว

“อ้อ ไม่ต้องห่วงนะยังไงรายงานวิชาป.วิอาญา นายก็ยังอยู่กลุ่มเราเหมือนเดิม” ช้องนางยกข้อมือขึ้นดูเวลาแล้วเห็นว่าสายมากแล้วจึงผละจากไปทว่าเรียวนิ้วยาวกลับจับแขนเธอเอาไว้

“อะไรอีก ฉันจะไปทำงานสายแล้ว”หันมาตวาดแล้วก็ต้องอึ้งเมื่อเขายัดร่มพับใส่มือเธอ

“วันนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก พกติดตัวไว้นะจะได้ไม่ลำบาก” พูดจบเขาก็สาวเท้าไวๆ จากไปเรียกเท่าไรก็ไม่หยุดครั้นจะวิ่งตามเอาไว้คืนก็สายมากแล้วจึงตัดใจถือมันติดตัวไปด้วย

...พรุ่งนี้ค่อยเอามาคืนก็แล้วกัน

เตย์มีมองร่างอวบเดินจากไปแล้วยิ้มออกมาอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไรของวันแล้วก็ไม่รู้ ให้ของแทนตัวไปแล้วอย่างน้อยก็เข้าหาเธอเพื่อทวงคืนได้สิ ได้คุยวันละนิดวันละหน่อยก็เอา

ชายหนุ่มฮัมเพลงออกมาอย่างอารมณ์ ดีแล้วขึ้นรถขับกลับบ้านโดยไม่รู้เลยว่าพริมายืนมองอยู่ตั้งแต่แรกอย่างปวดใจ ตอนอยู่กับเธอทำไมเขาไม่ดูอารมณ์ดีแบบนี้จะทำดีกับเธอก็ต่อเมื่ออยากเอาก็เท่านั้น

ทำไมกันนะ....

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   ต้นเหตุความเย็นชา(2)

    ช้องนางรีบจ่ายค่ารถสาวเท้ายาว ๆ ตรงไปยังห้องแจ้งความภาพที่เห็นคือคนเป็นป้าทุบหลังลูกชายพรางกร่นด่าไปด้วย ความเบื่อหน่ายและเหนื่อยล้าเริ่มเข้ามาปกคลุมหัวใจอีกครั้ง เธออยากหนีความวุ่นวายไปให้ไกล ๆ ทว่าก็ไม่เคยทำได้สักครั้ง เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เหลือแค่ป้าระวีเป็นญาติเพียงคนเดียว“เลิกเสียงดัง หรือโวยวายได้แล้วค่ะป้า เกรงใจคนอื่นบ้าง” ช้องนางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเหยียบ ดวงตากลมจ้องมองลูกพี่ลูกน้องด้วยสายตา คาดโทษที่มันมักสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน“ยัยช้อง”“พี่ช้อง”ทั้งคู่อุทานเรียกชื่อพร้อมกันเหมือนมองเห็นนางฟ้ามาโปรดแต่กับอีกฝ่ายรู้สึกเหมือนบ่วงกรรมคล้องคอเสียมากกว่า เธอผ่อนลมหายใจออกมาแล้วเดินไปย่อตัวนั่งเก้าอี้ว่างด้านข้างพร้อมยกมือไหว้คุณตำรวจ“ฉันเป็นลูกพี่ ลูกน้องของคนนี้ค่ะ” น้ำเสียงเจือความเหนื่อยล้าถามโดยไม่หันไปมองหน้าสองแม่ลูกเสียด้วยซ้ำ“หนูขอทราบข้อกล่าวหาของนายรภัทรหน่อยได้ไหมคะ”เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขยับปากจะแจ้งรายละเอียดแล้วก็ต้องเงียบลงเมื่อระวีพูดจาท้าทายอวดเก่งว่าหลานตัวเองเรียนกฎหมายมาจนช้องนางรู้สึกหมดความอดทน“พอได้แล้วป้าวี! ช้องเรียนกฎหมายมาก็จริงไม่ได้เอามาเบ่งใส่ใ

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   ต้นเหตุความเย็นชา(1)

    “พวกมึง ตำรวจมา!” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นแล้วก็วิ่งแซงหน้าไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ตัวเองแล้วเร่งเครื่องออกไปตามด้วยขบวนเด็กแว๊นหลายคันขับตามกัน มีเพียงแค่รภัทรเท่านั้นที่ชักช้าเพราะรถสตาร์ทไม่ติดจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวกลับไปยังโรงพักชาวบ้านย่านนั้นโทรเข้ามาร้องเรียนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมาตั้งแก๊งแข่งรถกันเกือบทุกวันสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านและผู้สัญจรไปมา จนบางครั้งเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสก็มี วันนี้ทางการจึงได้วางแผนล้อมจับอย่างรัดกุมรภัทรถึงกับหน้าเสียเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าได้แต่นั่งซึมอยู่ต่อหน้าตำรวจเวรประจำวัน ขายาวสั่นพับๆแล้วบอกเบอร์โทรผู้ปกครองให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตายด้วยมือแม่... ก็ตายด้วยมือพี่ช้องแน่ ๆ“หนุ่มหล่อกลุ่มนั้นมาอีกแล้วแก ฉันขอไปดูแลนะ” เด็กนั่งดริ้งสาวสวยคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความระริกระรี้ส่วนคนอื่น ๆ ก็ขอติดตามไปด้วยเพราะถึงอย่างไรโต๊ะนั้นก็มีผู้ชายหลายคน“จะว่าไปก็เป็นเด็กเอ๊าะ ๆทั้งนั้นเลย” ยกมือลูบปากอยากกินเด็กแล้วต่างพากันหัวเราะคึกครื้นช้องนางเดินกลับมาได้ยินได้พอดีแต่ยิ้มอ่อน ๆแล้วส่ายหัว เธอเห็นกลุ่มของเตย์มีและคณินเดินเข้ามาตั้งแต่หน้าร้านแล้วแหละแต่แ

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   น้ำหยดลงหิน(2)

    แสงแดดจ้าสาดผ่านกระจกใสเข้ามากระทบใบหน้าเนียนใส ทว่าคนหลับลึกกลับไม่รู้ตัว เตย์มีเดินเข้ามาใกล้แล้วใช้มือยกป้องแดดร่างอ้วนเอนหลังพงกับแท่นบัลลังก์จำลอง มือข้างหนึ่งยังคงถือชีตสรุปย่อของมาตรากฎหมาย สองขาป้อมเหยียดตรงในท่านั่ง กระโปรงทรงพีชเลิกขึ้นเหนือเข่าเล็กน้อยชายหนุ่มจึงถือวิสาสะดึงลงให้เมื่อช่วงกลางวันเผอิญเดินผ่านณาราแล้วไม่เห็นเพื่อนสนิทที่ตัวติดกันยิ่งกว่าปลาท่องโก๋จึงเอ่ยถามว่าไปไหน เขาจึงรู้ว่าเธอมาแอบหลับอยู่ที่นี่เองลมหายใจของคนหลับผ่อนเป็นจังหวะสม่ำเสมอไม่นานศีรษะก็เอนมาพิงไหล่ ชายหนุ่มจึงขยับท่านั่งให้สมดุลเพื่อที่เธอจะได้หนุนหัวไหล่ได้อย่างสะดวก...ไม่นานเตย์มีก็หลับตามไปอีกคนติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดเสียงนาฬิกาปลุกจากสมาร์ตโฟนเครื่องสวยดังเข้ามาในโซนประสาท ช้องนางอยากจะหยุดเวลาพักผ่อนเอาไว้สักสองวันเสียจริงทว่าก็ทำไม่ได้ใบหน้าซุกเข้ากับอะไรบางอย่างจะว่าแข็งก็ไม่แข็งจะว่านุ่มก็ไม่นุ่มแต่ที่แน่ ๆ มันทำให้เธอหลับสบายตลอดสามชั่วโมงที่ผ่านมา ดวงตากลมค่อยๆ ลืมขึ้นแล้วปรับโฟกัสสายตาตัวเองให้เข้ากับแสดงที่ส่องเข้ามาคราแรกเมื่อลืมตาตื่นมือของเธอถูกกุมไว้จากเรียวนิ้วของมือใครก็ไม

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   น้ำหยดลงหิน(1)

    เช้าของวันใหม่เตย์มีตื่นตั้งแต่ไก่โห่โดยที่ป้าอุ่นไม่ได้เข้ามาปลุกเลย ทำเอาแม่บ้านสูงวัยประจำบ้านถึงกับงงงวยว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนเดินไปหยิกแขนคุณหนูที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก“โอ้ย...เจ็บ” สะดุ้งโหยงสะบัดแขนเราๆ “หยิกผมทำไมป้าอุ่น”“คุณหนูเจ็บ?”“อ้าว ก็เจ็บนะสิโดนหยิกแรงขนาดนี้”“แสดงว่าป้าไม่ได้ฝันไปค่ะ” ป้าอุ่นยกมือตบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อยืนยันอีกครั้ง“ฝันอะไรครับ ผมงงไปหมดแล้ว”“เอ้า ก็วันนี้คุณหนูตื่นเอง ป้าไม่ได้ขึ้นไปปลุกแถมยังตื่นเช้าผิดปกติ ลงมาพร้อมชุดนักศึกษา” หล่อนส่ายหน้าอย่างไม่น่าเชื่อว่าลูกชายไม่เอาถ่านของบ้านท่านผู้พิพากษาจะตื่นเช้าได้“โธ่ ป้าอุ่น คนเรามันก็ต้องมีเปลี่ยนไปบ้าง ไม่คุยด้วยล่ะ ไปดีกว่า”“ไม่กินข้าวก่อนเหรอคะ” ร้องถามตามหลังคนที่วิ่งเหยาะๆ ไปยังรถคู่ใจ “ไม่ครับ กลัวไม่ทัน”คาบเรียนเช้าวันศุกร์เริ่มเก้าโมงทว่าเตย์มีขับรถมาจอดก่อนถึงป้ายรถเมล์ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพื่อดักรอใครบางคน มือจับคันเกียร์รถเขยิบไปยังตัว P เพื่อตั้งท่ารอพอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเขาเห็นหลังของคนตัวกลมขึ้นรถเมล์ไปแล้ว อุตส่าห์มาดักรอเพื่อจะรับไปด้วยกันแค่พริบตาเดียวคาดกันเสียอย่างนั้นไ

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   ใกล้เข้าไปทีละนิด(2)

    อาจารย์ผู้หญิงวัยสามสิบกว่าปีเริ่มอธิบายวิชากฎหมายแรงงานซึ่งเป็นวิชาหลักของช่วงชั้นสุดท้ายของนักศึกษาปีสี่“สิทธิของลูกจ้างกรณีถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด สามารถเรียกร้องอะไรได้บ้างคะ”อาจารย์สาวกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง ซึ่งนักศึกษาแทบทุกคนเลือกหลบสายตายกเว้นช้องนางซึ่งเธอตั้งใจฟังมาตั้งแต่เริ่มสอนแต่อาจารย์ก็ไม่เลือกถามเพราะรู้อยู่แล้วว่าเธอตอบได้จึงมองเลยไปด้านหลังสุดซึ่งเห็นเตย์มีนอนฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะเรียวขาสวยก้าวไปด้านหลังสุดแล้วใช้ปากกาเมจิกเคาะไปยังโต๊ะสองสามครั้งจนนักศึกษาหน้าหล่องัวเงียเงยหน้าขึ้น“มีอะไรครับเหรอครับอาจารย์”“ที่ฉันสอนไปเมื่อครู่ไม่ได้ฟังเลยใช่ไหม” อาจารย์สาวเริ่มเสียงดังขึ้นเพื่อนทั้งห้องจึงหันหลังไปมอง คำถามของอาจารย์เมื่อครู่เขาหูแว่วได้ยินเหมือนในฝัน“ก็คงงั้นครับ สอนน่าเบื่อขนาดนี้ผมเลยง่วงนอน” เขาไหว่ไหล่ยกมือป้องปากหาว อาจารย์ประจำวิชาได้แต่ถอนหายใจออกมาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนตรงหน้าจะเป็นถึงลูกชายผู้พิพากษาสูงสุดศาลฎีกา“ไม่แปลกใจหรอกที่ท่านกมลหนักใจและเป็นกังวลกับลูกชายคนเดียว”เตย์มีเห็นแววตาดูถูกของอาจารย์แล้วเธอก็ผละออกจากตรงนั้นเดินไปถึงกลางห้องฝีจึง

  • รักหมดใจยัยตัวอ้วน   ใกล้เข้าไปทีละนิด(1)

    “คุณหนู คุณหนูตื่นเถอะค่ะ” ป้าอุ่นหญิงมีอายุวัยห้าสิบกว่าปีรีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาปลุกลูกชายคนเดียวของบ้านด้วยความร้อนใจ เมื่อยังเห็นเตย์มีนอนนิ่งจึงเปลี่ยนเป็นดึงผ้าห่มออกแล้วเขย่าตัวอย่างแรงให้ตื่นขึ้นมาก่อนจะเกิดสงคราม“มีอะไรป้าอุ่น ทำไมถึงปลุกผมแต่เช้า” ร่างกำยำลุกขึ้นแบบงัวเงยดวงตายังไม่ทันลืมขึ้นเสียด้วยซ้ำ“เช้าอะไรคะ มันจะบ่ายแล้วค่ะ ตอนนี้คุณท่านกลับมาจากขึ้นบัลลังก์ศาลแล้วค่ะ ถามใหญ่เลยว่าคุณหนูไปเรียนหรือยัง” ตาสว่างโร่ขึ้นมาทันที บ่ายนี้มีเรียนอีกต่างหาก ไปสายมีหวังท่านได้ยึดบัตรเครดิตเหมือนครั้งที่แล้วแน่นอน อาจารย์ในคณะก็มักจะโทรมาฟ้องพ่ออยู่บ่อยครั้งร่างสูงกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำไม่นานก็กลับออกมาด้วยชุดนักศึกษาเตรียมพร้อมสำหรับไปเรียน ความโชคดีของคุณหนูประจำตระกูล ‘เชาวกรกุล’ คือไม่ต้องซักผ้า รีดผ้าเองแค่เปิดตู้เสื้อผ้าทุกอย่างก็ถูกจัดเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว“ทำไมยังไม่ไปเรียนอีก มันกี่โมงแล้ว” เสียงทุ้มกังวาลดังขึ้นเมื่อเห็นเจ้าลูกชายไม่เอาถ่านเดินย่องลงบันไดมา คิดหรือว่าเขาจะไม่เห็นเตย์มีสะดุ้งเล็กน้อยหันมายิ้มฟันขาวให้กับคนเป็นพ่อ “

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status