ระยะเวลาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์เต็ม วันนี้ญาณินมาเรียนคลาสเช้าด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าไรนัก พักนี้เธอทั้งเรียนหนัก แล้วก็ทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน แถมยังต้องเปลี่ยนลุกไปมาจนกลายเป็นคนสองบุคลิกไปโดยปริยาย
“เห็นไหม ญาอะช้า ฉันบอกแล้วว่าโรงอาหารมันจะเต็ม ไม่มีโต๊ะเลยเนี่ย”
ขณะนี้เป็นเวลาเกือบ ๆ เที่ยงครึ่ง ทั้งสองมาที่โรงอาหารคณะช้า เพราะญาณินมัวแต่คุยโทรศัพท์กับพี่เพชร เจ้าของผับที่เธอทำงานประจำอยู่ เวลานี้เลยทำให้โรงอาหารไม่เหลือโต๊ะว่างให้เธอเลยสักโต๊ะเดียว
“เอาไงอะ ฉันไม่ค่อยหิว”
“แต่ฉันหิวมาก ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวาน อุตส่าห์จะไดเอตตั้งแต่ตอนเย็น แต่เมื่อเช้าก็ดันกินข้าวไม่ทัน แถมตอนกลางวันก็ดูเหมือนจะไม่ได้กินอีก ถ้าตอนนี้ไม่ได้กิน ฉันว่าคลาสบ่ายฉันฟังอาจารย์สอนไม่รู้เรื่องแน่ หิวตายพอดี”
“ถ้าอย่างนั้นเอายังไงดี วันนี้ตามใจแกเลย”
“ไปกินที่โรงอาหารวิศวะฯ ค่ะ จบ”
แตงกวาตอบเพื่อนสาวข้างกาย ก่อนจะคว้ามือของเธอเดินออกจากโรงอาหารของคณะตัวเองอย่างไว คราวนี้เธอไม่มีโอกาสที่จะปฏิเสธเลยสักคำ ยังไงก็ต้องรับผลกรรมที่ตัวเองก่อไว้ ไม่อย่างนั้นแตงกวาคงได้โมโหหิวจนไม่เป็นอันทำอะไรเลยแน่ ๆ
ใช้เวลาเดินมาถึงคณะวิศวะฯ ไม่ถึงสิบนาที เป็นเพราะความหิวของแตงกวาแท้ ๆ ที่ทำให้พวกเธอมายืนอยู่ที่นี่ได้โดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลาก็ช่างประจวบเหมาะ เพราะกลุ่มของนอร์ทเพิ่งจะเคลียร์งานกันเสร็จ ก็เลยเพิ่งจะลงมาที่โรงอาหารเพื่อทานข้าวกลางวันพร้อม ๆ กัน
“ทำไมวันนี้ถึงมากินข้าวพร้อมเขาได้อะ แล้วทำยังไงให้ญายอมมาด้วย?”
เมื่อกลุ่มของนอร์ทมาถึง วีก็เอ่ยถามแฟนสาวของเขาทันที คำถามมากมายผุดขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ที่แตงกวาไม่ยอมมากินข้าวที่นี่ก็มีต้นเหตุมาจากญาณิน ที่ไม่อยากมาเจอหน้าของนอร์ท เหตุผลนี้ทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
“พอดีญามัวแต่คุยโทรศัพท์อะค่ะ ก็เลยลงมาช้า ก็ไม่เลยไม่มีโต๊ะเหลือว่างเลยน่ะค่ะ”
“เดี๋ยวที่นี่ก็จะเต็ม ถ้ามัวแต่ลีลา”
นอร์ทเดินเข้ามากลางวง ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำเหล่านั้นขึ้นมาลอย ๆ ซ้ำยังปรายตามองหญิงสาวด้วยสายตาที่ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก
“อะไรของมัน” วีพูดขึ้นทันทีที่นอร์ทเดินนำไปยังโต๊ะที่ว่าง อย่างไว ปล่อยให้กลุ่มเพื่อนกับหญิงสาวรุ่นน้องยืนงงกันอยู่อย่างนั้น
“ช่างเถอะ ไปกินข้าวกัน”
สิบนาทีต่อมา…
ญาณินกลับมาโต๊ะคนสุดท้าย ส่งผลให้เหลือที่ว่างเพียงแค่ตรงกันข้ามกับนอร์ทเท่านั้น เธอปฏิเสธไม่ได้จึงจำใจยอมนั่งที่ตรงนี้แต่โดยดี
แต่ทว่าที่น่าแปลกก็คือ นอร์ท ไม่ได้คิดที่จะเอ่ยถ้อยคำแทะโลมเพื่อหาเรื่องเธอเหมือนแต่ก่อน ทว่ากลับเอาแต่นั่งจ้องนั่งมองอย่างไม่ละสายตา
ซึ่งญาณินเองก็มองตอบ เธอเพียงแค่สงสัยว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ถึงได้ส่งสายตาแบบนั้นมาอย่างไม่ยอมหยุดหย่อน แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ดูเงียบ ๆ ไม่เหมือนตอนที่ชอบกัดกันเลยสักนิด
“ญา...เป็นอะไร ทำไมข้าวไม่ลดเลย ไม่หิวจริง ๆ เหรอ?” แตงกวาสังเกตเห็นว่าเพื่อนของตนดูนิ่ง ๆ ไปจึงตัดสินใจที่จะกระซิบถามโดยที่ไม่ให้คนที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามได้ยิน
“แกว่า พี่เขามองฉันแปลก ๆ ไหมอะ”
“อืม เห็นตั้งแต่แรกเลย แกได้ไปทำอะไรไว้หรือเปล่าเนี่ย”
“เปล่าสักหน่อย ฉันก็อยู่ของฉันเฉย ๆ นะ แกก็เห็นนี่”
“ก็จริง”
ทั้งสองกระซิบกลับไปกลับมา จนกระทั่งนอร์ทสังเกตเห็นความผิดปกติ จากที่เดิมทีเขาพยายามลอบมองบ้างเป็นครั้งคราว แต่ตอนนี้เขากลับเลือกที่จะจ้องมองญาณิน บ่งบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เขากำลังตั้งใจอยู่มากเลยต่างหาก
ตั้งแต่ความสงสัยในค่ำคืนนั้นพรูขึ้นมา ว่าดีเจญาญ่ามีบางส่วนที่คล้ายคลึงกันกับญาณิน ยิ่งได้เห็นใบหน้าชัด ๆ แบบนี้ก็ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปอีก เขาพยายามที่จะหาโอกาส ในการถามคำถามที่ค้างคาใจกับเธอออกไป
แต่ทว่าอยู่ ๆ ก็ดันไม่กล้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น เรื่องพวกนี้นอร์ท ยอมรับเลยว่าเขาช่างอ่อนหัดยิ่งนัก...
เมื่อแตงกวาเห็นท่าไม่ค่อยดี จึงส่งสัญญาณให้กับแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันกับนอร์ท หวังให้เขาทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะไม่ให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปกว่านี้ ซึ่งเมื่อวีเห็นเช่นนั้น เขาก็ไม่รอช้า พยักหน้าเป็นเชิงว่ารับรู้แล้วจัดการให้ตามคำขอในทันทีทันใด
“ไอ้นอร์ท ไปซื้อน้ำเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”
วีกล่าวขึ้นพร้อมกับตบเข้าที่บ่าของเพื่อนสนิทข้างกาย เขาเพียงแค่ต้องการลากเจ้าตัวออกไปคุยด้วยเป็นการส่วนตัวของเท่านั้น ว่าที่เป็นแบบนี้มีต้นเหตุมาจากอะไรกันแน่...
“มึงก็ชวนคนอื่นไปดิ กูไม่ว่าง”
นอร์ทเอ่ยปากปฏิเสธกลับไปอย่างทันควัน ทั้งนี้สายตาคู่คมปลาบก็ยังคงลอบมองญาณินเป็นระยะ ๆ เป้าหมายของเขาชัดเจนเป็นอย่างมาก ว่ามาเพื่อจับตามองเธอโดยเฉพาะ ดูท่าแล้วงานนี้ญาณินคงจะว้าวุ่นกับการกระทำดังกล่าวของเขาไม่น้อยเลย
“ก็กูจะไปกับมึง ไปเป็นเพื่อนหน่อยไม่ได้หรือไงวะ”
“อะไรของมึง เซ้าซี้กูอยู่ได้”
“แล้วไปเป็นเพื่อนกูหน่อยได้ไหมล่ะ?”
“เออ จะไปก็ไปเร็ว ๆ” เขาเห็นว่าวีดูจริงจัง จึงเลือกที่จะเปลี่ยนใจแล้วยอมไปกับอีกฝ่ายแต่โดยดี แม้ว่าก่อนหน้าจะมีขัดขืนอยู่บ้างก็ตาม...
ตอนที่ 27วีพานอร์ทเดินไปทางร้านขายน้ำของโรงอาหาร เมื่อเดินออกมาจนพ้นระยะของโต๊ะอาหารแล้ว เขาก็ไม่รีรอ รีบเปิดประเด็ดขึ้นมาโดยพลัน“มึงเป็นอะไร กูเห็นเอาแต่จ้องน้องญาเขาแปลก ๆ ตั้งแต่ตอนน้องเขาเดินเข้ามาแล้ว ไปทะเลาะอะไรกันมาอีกวะ?”“ก็เปล่า ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันทั้งนั้น มึงเห็นกูพูดอะไรสักคำหรือยัง?”ชายเจ้าของนัยน์ตาสีสวยตั้งคำถามกลับไปให้แก่เพื่อนสนิทของเขาด้วยท่าทีที่ดูเย็นชาเป็นอย่างมาก ซึ่งมันผิดปกติ เพราะเดิมทีแล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่นอร์ทใช้ชีวิตกับพวกผองเพื่อน เขาไม่ค่อยวางมาดแบบนี้สักเท่าไร จะเห็นก็ตอนที่อยู่ต่อหน้าญาณินเท่านั้น“ก็ไม่ แต่มึงไม่ปกติไง คนเขามองออกกันทั้งโต๊ะ โดยเฉพาะน้องญาที่โดนมึงมองเหมือนจะจับเขาแดกลงท้องไปทั้งตัวอะ”วีพิจารณาคำพูดของนอร์ท ก่อนจะตอบโต้กลับไปตามความเป็นจริงใช่...นอร์ทยังไม่ได้ปริปากต่อปากต่อคำกับญาณินเลยตั้งแต่เจอกันรอบนี้ แต่การกระทำของเขา ก็ไม่ได้ต่างไปจากการหาเรื่องเสียเท่าไรนักญาณินเหมือนถูกคุกคามด้วยสายตาอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าเธอไม่ค่อยสะดวกใจกับการที่ถูกทำแบบนี้ใส่ เรื่องนี้วีและคนอื่น ๆ รับรู้ได้เป็นอย่างดี“มึงอยากรู้ใช่ปะ ว่ากูกำลังคิด
ตอนที่ 28หลังจากที่ทานข้าวกลางวันกันเสร็จเรียบร้อย พวกเธอทั้งสองคนก็ยังนั่งกินขนมแล้วก็พูดคุยสารทุกข์สุกดิบไปเรื่อยเปื่อย แต่ใครจะรู้ว่าท่ามกลางบรรยากาศของความเป็นกันเองญาณินเองก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่ากับถูกตกเป็นเป้าสายตาของชายหนุ่มหน้าคมเบื้องหน้าแน่นอนว่าเธอประหม่าจนหัวใจเต้นระรัวคล้ายจะหลุดออกมาจากอกเสียให้ได้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพียงแค่คืนนั้นคืนเดียวที่ได้ใกล้ชิดกัน นอร์ทจะจำเธอได้ จนเก็บเอามาสงสัยเหมือนอย่างในตอนนี้...“เอ้อ น้องญา เมื่อไหร่จะไปเที่ยวผับกับพวกพี่ได้อะ เมื่อคืนอุตส่าห์เอ่ยปากชวน แต่ก็โดยปฏิเสธกลับมาซะงั้น รู้ไหมว่าพวกพี่ถึงกับล้มเลิกเลยนะ”“มึงอย่าใช้คำว่าพวก เพราะเมื่อคืนไอ้นอร์ทเพื่อนเรามันไปโผล่อยู่ที่ผับคนเดียว โคตรจะแน่เลยว่ะ”เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่นั่งฟังอยู่เอ่ยคัดค้านขึ้นมาทันที ที่คำพูดของวีไม่ใช่ความจริง จากนั้นทุกสายตาก็พลันจับจ้องไปที่เจ้าตัวในทันใด“อ้าว เหรอวะ ทำไมถึงได้ไปคนเดียวได้วะไอ้นอร์ท ไหนว่าไม่ชอบเที่ยวคนเดียว”“เรื่องของกู กูแค่อยากไปเจอดีเจญ่าญา ก็แค่นั้นเอง สวยขนาดนั้น กูก็อยากเจอทุกวันอะดิ”เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยเลศนัยอย่างเห
ตอนที่ 29ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็น ทั้งสองลงมาใต้ตึกของคณะ ก่อนจะแยกย้ายกันตรงนั้น เพราะแตงกวาต้องไปทำธุระต่อ ทว่าแยกกันได้ยังไม่ทันไร ฝนกลับเทลงมาราวกับว่าวันนี้เป็นวันที่พายุเข้าเลยอย่างไรอย่างนั้นเธอไม่ได้เช็กสภาพอากาศก่อนออกมาจากห้อง ก็เลยไม่ได้พกร่มคันเล็กติดกระเป๋ามาด้วย ดูเหมือนว่าวันนี้ญาณินจะได้ติดฝนอยู่ที่คณะเสียแล้วแต่ก็ราวกับสวรรค์มาโปรด ในขณะที่หญิงสาวกำลังยืนเหม่อลอยเพราะไม่รู้จะออกไปเรียกรถกลับหออย่างไร อยู่ ๆ รถยนต์คันหรูของใครบางคนก็พลันจอดนิ่งสนิทอยู่ตรงหน้าของเธอในตอนนั้นญาณินแปลกใจเล็กน้อย หันซ้ายทีขวาที เพื่อดูว่ามีใครอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า แต่ก็พบว่าไม่มีใครนอกจากเธอเลย“ยายเฉิ่ม ขึ้นรถมา เดี๋ยวฉันไปส่ง”ทันทีที่กระจกรถทางด้านคนนั่งลดลง ต้นเสียงอันคุ้นเคยก็พลันลอยแว่วมาถึงหูของญาณิน เธอได้ยินไม่ชัดเพราะเสียงฝนค่อนข้างดัง ทว่าเมื่อเพ่งสายตามองเข้าไปภายในรถ ก็ดันเจอเข้ากับใบหน้าของนอร์ทเต็ม ๆ ตาไม่คิดไม่ฝันว่าคนอย่างเขาจะมีน้ำใจ ถึงขั้นจอดรับเพื่อที่จะไปส่งเธอ ทั้งที่ไม่ชอบขี้หน้ากันแท้ ๆ การกระทำของเขาในวันนี้เล่นเอาหญิงสาวถึงกับไปไม่ถูกเลยทีเดียว...“เอ่อ...
ตอนที่ 30เป็นเพราะญาณินทำตัวปกติมาตลอดทาง ไม่มีพิรุธใด ๆ เล็ดลอดออกมาเลยแม้แต่น้อย นั่นจึงส่งผลให้นอร์ทเลิกสงสัยในเรื่องนั้นไปโดยสิ้นเชิงใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ในการเดินทางไปส่งญาณินถึงที่หอ แต่เมื่อมาถึงนอร์ทกลับพบว่าหญิงสาวรุ่นน้องหลับไปตั้งแต่ตอนไหนเขาเองก็ไม่ทันได้สังเกตเห็น“ญา...ตื่นได้แล้ว ถึงหอแล้ว”นอร์ทเอ่ยบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นกันเองมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังลอบมองใบหน้าของยายเฉิ่มไปด้วยเมื่อมีโอกาส เขาไม่เคยได้เห็นใบหน้าของญาณินชัด ๆ แบบนี้มาก่อนมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงดีเจญาญ่าคนที่เขารู้สึกชมชอบเป็นอย่างมาก แทบจะตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอเลยด้วยซ้ำนอร์ทตกเข้าไปอยู่ในภวังค์อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งในเวลานั้นเอง อยู่ ๆ อีกฝ่ายก็ดันลืมตาตื่นขึ้นมา เธอตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ถึงเพียงนี้...“เอ่อ...ถึงแล้วเหรอคะ?”เสียงดังกล่าวส่งผลให้นอร์ทหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดในทันใด เขาเลิ่กลั่ก ก่อนจะตอบกลับเธอไปด้วยท่าทีที่ดูลุกลี้ลุกลน“อืม ลงไปได้แล้ว ฉันจะกลับบ้าน”“โอเคค่ะ ยังไงวันนี้ขอบคุณที่มาส่งนะคะ แต่คราวหน้าฉันคงไม่รบกวนพี่ ขอโทษที่ทำให้เสี
ตอนที่ 31นอร์ทอธิบายให้กับกลุ่มเพื่อนที่รอฟังคำตอบจากปากของเขาอย่างใจจดใจจ่อ แต่กลับไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลยแม้แต่น้อย เพราะเจ้าตัวเอาแต่ให้เหตุผลมานี้มาแล้วเป็นรอบที่ร้อย“เชื่อก็โง่แล้ว จริง ๆ การที่สองคนดีกัน พวกกูก็เห็นด้วยนะ แต่พวกกูเห็นตรงกันว่ามึงดูแปลก ๆ ก็เลยอดไม่ได้ที่จะมาถาม อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ มึงคิดอะไรกับญาณินปะวะ”“คิดก็เหี้ยละ เรื่องนั้นน่ะไม่มีทางหรอก เพราะคนเดียวที่กูสนใจมีแค่คุณญาญ่าเท่านั้น”“อ้าว ไหนบอกกูว่ากำลังสงสัยว่าสองคนนั้นจะเป็นคนคนเดียวกัน ที่ปลอมตัวมาหลอก ไหงตอนนี้ถึงได้มั่นอกมั่นใจนักวะ เลิกสงสัยไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่อง”วีได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยทักท้วงขึ้นมาอย่างทันท่วงที ในวันที่นอร์ทเริ่มสงสัยเรื่องนั้น เขาเองก็อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งยังเป็นคนที่ให้คำปรึกษากลับไปอีกต่างหาก ไม่มีทางที่อยู่ ๆ นอร์ทจะเลิกสงสัยโดยที่ไม่มีเหตุผลมารองรับอย่างแน่นอน เรื่องนี้วีเองก็รู้ดี“ก็กูพยายามจับพิรุธญาณินแล้ว แต่น้องมันก็ดูปกติ ไม่ได้ดูเลิ่กลั่กเหมือนกับญาญ่า กูก็เลยไม่อยากไปก้าวก่าย เพราะกูเองก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไร กูน่าจะคิดมากเกินไป
ตอนที่ 32กิจวัตรประจำวันของญาณินก็ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง แม้ว่าจะผ่านมาหลายสัปดาห์แล้วก็ตาม เธอยังคงเดินทางไปทำงานที่ผับแห่งนั้นทุกคืน ทั้งนี้ชื่อเสียงก็เริ่มโด่งดังในแวดวงนั้นมากขึ้นส่งผลให้เจ้าของร้านมาขอให้เธอเพิ่มเวลาจากเดิมสองชั่วโมง เป็นสามชั่วโมงครึ่ง และยังเลือกเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าหลั่งไหลเข้ามากันเป็นอย่างมากเลยอีกด้วยส่วนทางด้านของนอร์ทก็หายสงสัยในตัวของญาณินเป็นปลิดทิ้ง ทั้งยังอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ซึ่งก็เป็นที่พึงพอใจของเพื่อน ๆ เป็นอย่างมากวันนี้ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะไปผ่อนคลายที่ผับข้างมอเสียหน่อย แต่ทว่าก็นึกขึ้นได้พอดีว่าจะผ่านหอที่เคยมาส่งญาณินในเย็นวันนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะเผลอมองเข้าไปเผื่อว่าจะได้เจอเธอ...แต่ทว่าเวลาก็ช่างประจวบเหมาะเสียจริงๆ ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติ หากแต่วันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้นขณะนี้เป็นเวลาสามทุ่มเศษ ญาณินแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็รีบออกมาจากห้องของตน แต่ในตอนที่เธอกำลังก้าวเท้าออกมาจากล็อบบี ดันมีสายตาอยู่คู่หนึ่งที่สังเกตเห็นดีเจญาญ่าเดินออกมาจากหอพักเดียวกันกับที่เขามาส่งยายเฉิ่มเมื่อสัปดาห์ก่อนวินาทีนั้นนอร์ทขมวดคิ้วมุ่น ทั้งที่ล้มเลิกค
ตอนที่ 33ระยะเวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลาเลิกงานของดีเจญาญ่าแล้วในที่สุด นอร์ทไม่รอช้า รีบเร่งฝีเท้าเดินไปดักรอเธอที่บริเวณด้านข้างเวที ซึ่งเขาก็ได้พบกับเธอตามที่ใจต้องการ“ญาณิน…”ชื่อของหญิงสาวเบื้องหน้าเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหนาทันทีที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของเธอ เวลานั้นนอร์ทมั่นใจเป็นอย่างมากว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางคาดคะเนผิดอย่างแน่นอนส่วนคนที่ถูกเรียกด้วยชื่อนั้น ก็อ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ ถึงจะพอรู้มาบ้างแล้วตั้งแต่บนเวที แต่เธอก็ไม่ได้คิดเลยว่าเขาจะกล้าเรียกเธอด้วยชื่อนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายามนี้หัวใจดวงน้อย ๆ ของหญิงสาวร่างเล็กเต้นเร็วเสียยิ่งกว่ากองเพล เธอไม่เคยถูกใครจับได้เรื่องนี้มาก่อน เลยไม่ได้มีภูมิคุ้มกันมากพอที่จะเก็บอาการได้เก่งมากถึงเพียงนั้นจึงมีบ้างที่จะหลุดออกอาการประหม่าจนอีกฝ่ายสามารถจับพิรุธได้อย่างง่ายดาย“คะ? คุณจำผิดคนแล้วละค่ะ ฉันไม่ได้ชื่อนั้น”“แล้วชื่ออะไรเหรอ ถ้าไม่ใช่ญาณิน”“…”ประโยคเมื่อครู่นี้ของนอร์ททำเอาดีเจญาญ่าถึงกับกลืนน้ำลายลงคอไปด้วยความยากลำบาก ทั้งยังเบนสายตาหนีออกไปอีกทาง เพื่อหวังไม่ให้เขาจับพิรุธเธอได้อีกเป็นรอบที่สอง ยังไงเธอก็จะไม่ยอมรับง่าย ๆ อย่า
ตอนที่ 34นับจากที่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น เวลายังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ญาณินใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบากมากขึ้น เพราะเธอจำเป็นที่จะต้องคอยหลบหน้านอร์ท เพื่อหลีกเลี่ยงความจริงที่จะได้ยินจากปากของเขา เธอรู้ดีว่าถ้าหากเจอเข้า ยังไงคราวนี้เธอก็คงเอาตัวไม่รอด ไม่รู้แล้วว่าจะใช้ไม้ไหนกับเขาได้อีกเนื่องจากวันนี้คณะวิศวะฯ มีกิจกรรมร่วมกับคณะสถาปัตย์ กลุ่มของนอร์ทก็มาที่คณะที่ญาณินเรียนอยู่ตามนัดหมาย แน่นอนว่าทั้งสองเห็นกันแล้ว แต่ทว่าญาณินก็ยังเลือกที่จะหลบหลีก เพราะนึกว่านอร์ทยังไม่ทันได้เห็นเธอแต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น นอร์ทเห็นเธอก่อนที่เธอจะเห็นเขาอีกเสียด้วยซ้ำ ไป ๆ มา ๆ พอเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามหลบหน้าตัวเองแบบนี้ นอร์ทก็อดที่จะขำไม่ได้ ญาณินทำเหมือนว่าเห็นเขาเป็นผีตัวหนึ่งที่จ้องจะเปิดโปงความลับของเธออยู่ตลอดเวลา ไม่กล้าสู้หน้า ไม่กล้าเจรจา แล้วที่สำคัญก็ไม่กล้ายอมรับว่าตัวเองกำลังตบตาคนอื่นไปทั่ว...“มึงขำอะไรไอ้นอร์ท งานจะเสร็จไม่ทัน ตลกมากหรือไงวะ?”ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนเคร่งเครียด เพราะทั้งสองคณะเพิ่งจะนัดคุยงานกันทั้งที่มีกำหนดการวันงานออกมาแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน พ
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 2หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่ญาณินถูกนอร์ททำเซอร์ไพรส์ให้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็เอาแต่ร้องไห้จนนอร์ทใจไม่ดี คิดว่าตนทำเรื่องผิดมหันต์เอาไว้ แต่ที่ไหน...“ญา หนูเป็นอะไร พี่ทำอะไรผิดจนหนูไม่พอใจหรือเปล่า?” นอร์ทตัดสินใจเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง แม้จะแอบหวั่นใจ กลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม“เปล่าค่ะ...หนูแค่ดีใจ ไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้เหมือนคนอื่นเขาด้วย...” ญาณินเอ่ยขณะเดียวกันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธอเพียงตื้นตันใจ ไม่คิดว่าแฟนหนุ่มที่ในอดีตเคยเป็นคู่กัดกันมาก่อนจะมีมุมโรแมนติกเหมือนกับคนอื่นๆ“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ ที่ทำให้แฟนพี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ก็นึกว่าซุกกิ๊กไว้ไม่เนียนซะอีก”“ห๊า...กิ๊กไหน ใครคะ?” หญิงสาวร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซ้ำยังปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งสนิททันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบสวนกลับมาเช่นนั้น“ล้อเล่นครับ จริงจังอะไรขนาดนั้น”“พี่นอร์ท! ใครให้เล่นแบบนี้ ญาใจหายหมดเลย” ญาณินถึงกับถอนหายใจแรง ตอบกลับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเจือแววตำหนิอยู่ไกลๆ ทั้งที่เธอกำลังตื้นตันใจอยู่กับเซอร์ไพรส์ก่อนหน้านี้ แต่ทว่านอร์ทกลับเอาเรื่องมือที่สามมาเป็นเรื่องล้อเล่น ญาณินคิดแ
ตอนที่ 99ในที่สุดช่วงเวลาที่คู่รักหนุ่มสาวรอคอยก็มาถึง จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตก แต่ด้วยความเบื่อหน่าย นอร์ทจึงไปถามรายละเอียดพนักงานโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รู้ว่าช่วงหกโมงเย็นจะมีม้าออกมาเดินเล่นที่ริมหาดซึ่งพวกเขาสามารถขึ้นขี่แล้วเดินเล่นได้หนึ่งรอบถ้วน แต่ก่อนที่จะลงไป นอร์ทกลับรู้สึกไม่สบายใจกับการแต่งตัวของญาณินเท่าไรนัก“ไหนว่าพี่รอดูไง พอญาแต่งออกมาแล้ว จะมาทำหน้างอทำไมคะเนี่ย”“มันโป๊ไป ตอนแรกพี่นึกว่ามันจะปิดเยอะกว่านี้ แต่นี่คือ...”ขณะที่เอ่ยสายตาก็พลางลอบมองร่างบางตั้งแต่หัวจดเท้า ชุดว่ายน้ำที่อยู่บนตัวของญาณินงดงามเกินคำบรรยายแต่ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่พึงพอใจก็คงจะหนีไม่พ้นชุดที่โป๊จนเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและรวมไปถึงก้นเนียน ๆ ของเธอนั่นก็ด้วย“นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวทะเล เว้นไว้สักครั้งนะคะ”“โอเค พี่ไม่เถียงด้วยแล้ว หนูอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เสร็จแล้วก็รีบลงไป เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินเอานะ”“รับทราบค่ะ”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากว่าที่สามีเป็นที่เรียบร้อย ญ
ตอนที่ 98หลายสัปดาห์ต่อมา...“ญา วันนี้ไปเที่ยวกันไหม?” นอร์ทเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ แฟนสาว ก่อนที่จะเอ่ยถามความเห็นของเธอ หลังจากที่ได้ไอเดียดี ๆ มาจากเพื่อนรัก“ไปเที่ยวที่ไหนคะ เดี๋ยวอีกสองวัน ก็จะได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนี่คะ”“ก็ช่วงนี้มันน่าเบื่อ เราไปเที่ยวในกรุงเทพฯ กันก่อนก็ได้ อีกอย่างวันนี้หนูก็ไม่มีเรียน พี่อยากพาไปที่ที่หนึ่ง”“ไปได้ค่ะ ว่าแต่ที่ไหนเหรอคะ”“สวนสนุก”เมื่อความต้องการของนอร์ทเป็นเช่นนั้น มีหรือที่ญาณินจะขัด ตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่อยากมาเที่ยวเป็นเพื่อนตามประสาคู่รักทั่วไป แต่ก็ไม่คิดเลยว่าสถานที่ที่นอร์ทพาเธอมา จะสวยแล้วก็ดูมีอะไรให้น่าทำเยอะแยะเต็มไปหมด“เป็นไงบ้าง? ชอบไหม?”“พี่พาญามาทั้งทีก็ต้องชอบสิคะ ว่าแต่พี่ไปรู้ที่ดี ๆ แบบนี้มาจากไหน ทำไมญาไม่คุ้นตามาก่อนเลย”“ที่นี่เป็นสวนสนุกเปิดใหม่ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คนก็เลยยังน้อย แต่เพื่อนพี่บอกกันมาปากต่อปากว่าที่นี่เหมาะแก่การสารภาพสุด ๆ”วันนี้เป็นอีกวันที่นอร์ทชาร์ตพลังมาเต็มร้อย เขาพยายามทำให้แฟนสาวประทับใจในการมาเที่ยวผ่อนคลายครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด ญาณินจึงเห็นเขายิ้มแย้มและดูสดใสร่าเริงต
ตอนที่ 97นับจากวันที่เข้าไปปรึกษากับพ่อและแม่จนถึงปัจจุบัน เวลาผ่านมาเกือบ ๆ หนึ่งเดือนเต็ม ทุกคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องงานหมั้นหมาย เนื่องจากว่าครอบครอวของทั้งคู่มีชื่อเสียงดังนั้นหมั้นกันทั้งทีก็ต้องป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ ในส่วนของสถานที่พิธีการก็ต้องยิ่งใหญ่เหมาะสมกับฐานะทางบ้านของทางฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เรื่องนี้คุณหญิงอรเป็นคนจัดการดูแลให้ทั้งหมด ไม่มีปัญหาใด ๆ ระหว่างการเตรียมการเลยก็ว่าได้จนกระทั่งระยะเวลาเดินทางมาถึงวันงาน ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น แขกที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างก็ปลื้มปริ่มกับบรรยากาศภายในงาน คุณหญิงอรสะดวกจัดงานเช้า จึงจำเป็นจะต้องมีพิธีสงฆ์ แห่ขันหมากและกั้นประตู หลังจากนั้นจึงจะเป็นพิธีสวมแหวนต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เมื่อฝ่ายชายและหญิงสวมแหวนให้กันเรียบร้อย ก็ต่อด้วยพิธีรับไหว้ทันทีบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยแขกคนสนิทของทั้งสองฝ่าย เพื่อนสนิทของนอร์ทและญาณินก็ไม่พลาดที่จะมาเก็บภาพบรรยากาศให้กับเพื่อนรัก พวกเขาทุกคนต่างก็เห็นจุดเริ่มต้นของสองคนมาตลอด มีทั้งสุขและทุกข์ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน เรื่องนั้นเพื่อน ๆ ในกลุ่มจำได้
ตอนที่ 96หลังจากวันนั้น นอร์ทก็คิดมาเสมอว่าควรจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง และให้เกียรติทางฝั่งของญาณิน เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ทางบ้านของนอร์ทนัดทานข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นอร์ทตัดสินใจแล้วว่าจะไปบอกเรื่องสำคัญกับพวกท่านตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น นอร์ทเดินมานั่งรอพ่อและแม่ที่บริเวณโต๊ะอาหารก่อนเป็นคนแรก ระหว่างที่พวกท่านกำลังเดินเข้ามาร่วมโต๊ะ มือไม้ของชายหนุ่มกลับอยู่ไม่เป็นสุข เขาประหม่าจนทำตัวไม่ถูกทั้ง ๆ ที่อยู่ต่อหน้าคนกันเองทั้งนั้นแต่เขากลับรู้สึกผิดแปลกไปจากเดิม คงเป็นเพราะความในใจที่เขาอยากจะบอกกับทุกคน เป็นเรื่องที่ใหญ่อยู่พอสมควร“เป็นยังไงบ้างลูก เห็นว่าช่วงนี้เรียนหนักแถมยังติดหนูญาอีกต่างหาก ลืมที่บ้านไปแล้วหรือยัง” ผู้เป็นแม่เอ่ยทักทายลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดแซวเขาที่พักหลังมานี้ติดแฟนเสียยิ่งกว่าอะไร“ก็เรื่อย ๆ นะครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี แต่ก็คงจะไปหนักช่วงใกล้จบมากกว่า ตอนนี้ยังไหวอยู่ครับแม่”“งั้นก็ดีแล้ว ว่าแต่หนูญาล่ะเป็นยังไงบ้าง เธอสบายดีใช่ไหม”“สบายดีครับ ช่วงนี้น้องเรียนหนัก เพราะว่าจะได้ขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ มีเรื่องให้ต้องเต็มไปหมด วันนี้ก็เ