ระยะเวลาผ่านมาประมาณหนึ่งสัปดาห์ วันนี้เป็นวันแรกของการไปเรียน ญาณินตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เพราะมีเรียนช่วงแปดโมงตรง เธอยังกะเวลาไม่ถูก จึงตื่นเร็วกว่าปกติ ถ้าหากว่าได้ไปเรียนดูสักระยะก็คงจะกะเวลาได้พอดีมากขึ้น
ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวอยู่ประมาณสามสิบนาที ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย หญิงสาวในคราบชุดนักศึกษาเดินออกมาจากซอยของหอพัก ก่อนจะตรงดิ่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพื่อไปลงสถานีต่อไป
ทันทีที่มาถึงมหาวิทยาลัย ญาณินตรงดิ่งเข้ามานั่งรออาจารย์ในคลาสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความที่เธอเป็นหญิงสาวแต่งตัวเชย ๆ ทั้งยังมีแว่นปกปิดความเป็นตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ภายใน
นั่นจึงส่งผลให้เพื่อน ๆ ในห้องเรียนเดียวกัน ไม่มีใครให้ความสนใจมาที่เธอเลยสักคน ผิดกับสาวสวยที่มีดีกรีเป็นถึงดาราเน็ตไอดอลที่ใครต่างก็ให้ความสนใจและพูดชื่นชมกันอย่างไม่ขาดปาก
“นี่เธอ...อยู่คนเดียวเหมือนกันหรอกเหรอ?”
ในขณะที่ญาณินกำลังเบนสายตาออกไปทางนอกหน้าต่างเพื่อชมนกชมใจไปพลาง ๆ ระหว่างรออาจารย์ จู่ ๆ หญิงสาวแปลกหน้าก็เดินเข้ามาทักทายพร้อมทั้งหย่อนกายลงนั่งข้าง ๆ เธอ
“อืม ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ มาเรียนที่นี่ก็มาคนเดียว ไม่มีคนรู้จักเลยสักคน” ญาณินพูดตอบด้วยน้ำเสียงใสกังวาน ทั้งยังดูจริงใจจนอีกฝ่ายสนใจในตัวของเธอเป็นอย่างมาก
“เหมือนฉันเลย ฉันเป็นเด็กต่างจังหวะน่ะ เข้ามากรุงเทพฯ ก็มาคนเดียว เหงามาก เธอเป็นเพื่อนกับฉันได้ไหม?”
แตงกวา หญิงสาวเจ้าของหน้าตาน่ารัก เธอเอ่ยบอกความต้องการของตัวเองออกไปอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัด เธอเองก็เลยอยากจะมีเพื่อนเป็นคนในเมืองบ้าง แถมในตอนที่อยู่โรงเรียนเก่าเธอเองก็ไม่ได้มีเพื่อนเยอะมากเท่าไร เพราะไม่ได้ถูกเป็นที่ยอมรับเท่าที่ควร
“ถ้าเธอไม่ได้รังเกียจ เราก็เป็นเพื่อนกันได้อยู่แล้ว แค่จริงใจต่อกันก็พอ” ญาณินตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากแต่แฝงไว้ด้วยความเป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด
โดยปกติแล้วเธอเองก็ไม่ได้เปิดใจให้คนนอกได้เข้ามาทำความรู้จักกับตัวเองสักเท่าไร ทว่าอย่างน้อย ๆ เข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ควรจะมีเพื่อนสนิทไว้คอยช่วยกันทำงานส่งอาจารย์สักคนสองคนก็ไม่ได้เสียหายอะไร
“แน่นอนสิ ฉันจริงใจกับทุกคนอยู่แล้ว แต่ส่วนมากจะชอบเจอคนที่เสแสร้งใส่...”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว ฉันไม่ใช่คนซับซ้อนอะไร ออกจะตรงไปตรงมาเลยด้วยซ้ำ มีอะไรก็พูดตรง ๆ กับฉันได้เลย เราจะได้เข้าใจ”
“อื้ม ถ้าอย่างนั้นนับตั้งแต่วันนี้ เราสองคนเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”
“ก่อนจะเป็นเพื่อนกัน เธอชื่ออะไรเธอยังไม่บอกเลย ฉันชื่อญาณิน เรียกสั้น ๆ ว่าญาก็ได้”
หญิงสาวเจ้าของใบหน้างามแนะนำตัวคร่าว ๆ พร้อมทั้งหันมารอคำตอบจากปากของฝ่ายตรงข้ามอย่างใจจดใจจ่อ แต่ก่อนเธอไม่เคยถูกให้ความสนใจจากใคร พอขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วมีคนมาทักทายและขอเป็นเพื่อนด้วยแบบนี้
ญาณินเองก็แอบดีใจ แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าตนจะเป็นเพื่อนที่ดีให้กับเธอคนนี้ได้หรือไม่กันแน่...
“อ้อ...ฉันชื่อแตงกวา ยินดีที่ได้รู้จักนะญา บอกเลยว่าฉันจะไม่ทำให้เธอเหงาแน่นอน”
“ไม่มีปัญหา เป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่สุดแล้ว”
บทสนทนาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความขำขัน แตงกวาเป็นคนอัธยาศัยดีในระดับหนึ่ง ซึ่งก็เป็นโชคดีของญาณิน เพราะเธอเป็นคนเงียบ ๆ เมื่อได้เพื่อนที่พอจะพูดเป็นพูดเก่ง ก็ช่วยในการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้เยอะพอสมควรเลยทีเดียว
เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงทั้งสองคนเรียนกันเสร็จ ก็รีบเดินกันออกมาจากตึกเรียนทันที เนื่องจากว่าช่วงเย็นมีเรียกรวมสำหรับการรับน้องปีหนึ่ง ที่เพิ่งจะเข้ามาเป็นนิสิตใหม่ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
วิธีการรับน้องของที่นี่ค่อนข้างเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไม่มีการใช้ความรุนแรงเหมือนอย่างที่เคยได้ยินมาปากต่อปากว่าการถูกรับน้องจะต้องน่ากลัวเพราะรุ่นพี่ส่วนมากมักบ้าอำนาจ แต่ความจริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น
ทุกคนใจดีแล้วก็เป็นมิตรกับเธอเอามาก ๆ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นจุดสนใจอย่างที่ควรเลยก็ตาม
การเรียนวันแรกสำหรับญาณินผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี เธอเดินกลับมาพักที่หอตามปกติ ก่อนที่จะนึกหาวิธีการหาเงินที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนไปทำงานไป ที่สำคัญจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียนของเธอเป็นอันขาด
ซึ่งก็ได้ข้อสรุปว่าเธอจำเป็นที่จะต้องหางานเสริมทำในระหว่างที่ยังเรียนอยู่ที่นี่ เพราะไม่อยากยื่นมือไปขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นพ่อและแม่ หากเธอจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
เธอก็ต้องหารายได้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เอาแต่รอเงินรายเดือนจากพวกท่านทั้งสองอย่างเดียว
เช้าวันถัดมา...
หญิงสาวเจ้าของร่างบางใช้เวลาในการเดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยประมาณยี่สิบนาที เธอนัดเจอกับแตงกวาที่บริเวณม้าหินอ่อนใต้คณะระหว่างรอให้ถึงเวลาเข้าเรียน หากเข้าไปรอในห้องตั้งแต่ตอนนี้ก็คงจะชุลมุนวุ่นวาย ซึ่งเธอไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก
“หวัดดีญา มาถึงนานหรือยังเนี่ย” แตงกวาเดินเข้ามาจากทางด้านหลังก่อนจะทักทายกลับ
“เราก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน ว่าแต่...นั่นใครเหรอ?” เมื่อหันไปเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาคนเดียว ซ้ำยังเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ดูด้วยตาเปล่าแล้วก็เดาออกได้ในทันทีว่าเป็นรุ่นพี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำลังตามติดแตงกวาอย่างไม่หยุดหย่อน
“รุ่นพี่น่ะ”
“พี่ตามจีบแตงกว่าอยู่น่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ” ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยตอบญาณินด้วยท่าทีเป็นกันเอง หวังตีสนิทเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทของแตงกวา ในอนาคตอาจจะได้ขอความช่วยเหลือจากเธอก็เป็นได้
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 2หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่ญาณินถูกนอร์ททำเซอร์ไพรส์ให้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็เอาแต่ร้องไห้จนนอร์ทใจไม่ดี คิดว่าตนทำเรื่องผิดมหันต์เอาไว้ แต่ที่ไหน...“ญา หนูเป็นอะไร พี่ทำอะไรผิดจนหนูไม่พอใจหรือเปล่า?” นอร์ทตัดสินใจเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง แม้จะแอบหวั่นใจ กลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม“เปล่าค่ะ...หนูแค่ดีใจ ไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้เหมือนคนอื่นเขาด้วย...” ญาณินเอ่ยขณะเดียวกันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธอเพียงตื้นตันใจ ไม่คิดว่าแฟนหนุ่มที่ในอดีตเคยเป็นคู่กัดกันมาก่อนจะมีมุมโรแมนติกเหมือนกับคนอื่นๆ“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ ที่ทำให้แฟนพี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ก็นึกว่าซุกกิ๊กไว้ไม่เนียนซะอีก”“ห๊า...กิ๊กไหน ใครคะ?” หญิงสาวร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซ้ำยังปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งสนิททันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบสวนกลับมาเช่นนั้น“ล้อเล่นครับ จริงจังอะไรขนาดนั้น”“พี่นอร์ท! ใครให้เล่นแบบนี้ ญาใจหายหมดเลย” ญาณินถึงกับถอนหายใจแรง ตอบกลับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเจือแววตำหนิอยู่ไกลๆ ทั้งที่เธอกำลังตื้นตันใจอยู่กับเซอร์ไพรส์ก่อนหน้านี้ แต่ทว่านอร์ทกลับเอาเรื่องมือที่สามมาเป็นเรื่องล้อเล่น ญาณินคิดแ
ตอนที่ 99ในที่สุดช่วงเวลาที่คู่รักหนุ่มสาวรอคอยก็มาถึง จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตก แต่ด้วยความเบื่อหน่าย นอร์ทจึงไปถามรายละเอียดพนักงานโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รู้ว่าช่วงหกโมงเย็นจะมีม้าออกมาเดินเล่นที่ริมหาดซึ่งพวกเขาสามารถขึ้นขี่แล้วเดินเล่นได้หนึ่งรอบถ้วน แต่ก่อนที่จะลงไป นอร์ทกลับรู้สึกไม่สบายใจกับการแต่งตัวของญาณินเท่าไรนัก“ไหนว่าพี่รอดูไง พอญาแต่งออกมาแล้ว จะมาทำหน้างอทำไมคะเนี่ย”“มันโป๊ไป ตอนแรกพี่นึกว่ามันจะปิดเยอะกว่านี้ แต่นี่คือ...”ขณะที่เอ่ยสายตาก็พลางลอบมองร่างบางตั้งแต่หัวจดเท้า ชุดว่ายน้ำที่อยู่บนตัวของญาณินงดงามเกินคำบรรยายแต่ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่พึงพอใจก็คงจะหนีไม่พ้นชุดที่โป๊จนเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและรวมไปถึงก้นเนียน ๆ ของเธอนั่นก็ด้วย“นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวทะเล เว้นไว้สักครั้งนะคะ”“โอเค พี่ไม่เถียงด้วยแล้ว หนูอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เสร็จแล้วก็รีบลงไป เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินเอานะ”“รับทราบค่ะ”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากว่าที่สามีเป็นที่เรียบร้อย ญ