“พี่ไม่มีเรียนหรือไง เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปเรียนกับเพื่อนแล้วค่ะ พี่ไปได้แล้ว” แตงกวาเห็นว่าญาณินไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร เธอจึงรีบไล่รุ่นพี่คนนั้นให้กลับไปเรียนทันที อย่างน้อยได้อยู่กันสองคนก็น่าจะดีกว่ามีคนนอกเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย
“แตงกวา จริง ๆ เธอไม่ต้องไล่พี่เขาไปก็ได้นะ เขามาจีบเธอนี่คงใจเสียหมดแล้วมั้งน่ะ” เมื่อรุ่นพี่ที่มาตามจีบเพื่อนสาวเดินจากไปตามคำขอของเธอ ญาณินก็รีบพูดความคิดเห็นของตนสวนขึ้นมาอย่างไว
“ไม่เป็นไรหรอก บางทีฉันเองก็แอบรำคาญเหมือนกัน อยากอยู่กับเพื่อนแบบสองต่อสองบ้างน่ะ”
“เพิ่งมาเรียนเมื่อวานวันแรก วันนี้แกก็มีหนุ่มมาติดซะแล้ว เนื้อหอมไม่เบาเลยนะแตงกวา” ญาณินพูดแซวอย่างทีเล่นทีจริงพร้อมทั้งปรากฏรอยยิ้มละไมบนใบหน้า
“เปล่าสักหน่อย ฉันขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ที่รู้ว่าสอบติดได้ใหม่ ๆ แล้วพอมาอยู่ก็รู้สึกเบื่อ ก็เลยไปหางานพาร์ตไทม์ทำเล่น ๆ น่ะ แล้วก็ไปเจอที่เขานี่แหละ นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ตามจีบฉันมาเรื่อย ๆ เลย”
“อ๋อ...เป็นแบบนี้นี่เอง”
“คนอย่างฉัน เอาอะไรมาเนื้อหอม ฟลุกเจอมามากกว่า” หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ ก่อนจะหลบหลีกสายตาของญาณินไปชั่วขณะ แตงกวาไม่ใช่คนที่มั่นใจในตัวเองมากถึงเพียงนั้น เวลาที่มีคนมาชื่นชมเธอก็มักจะเอ่ยปากปฏิเสธกลับไปอยู่บ่อยครั้ง
“ก็คนอย่างแกนั่นแหละ มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ ขนาดแค่นี้ยังหลบสายตาฉันเลย แบบนี้มันได้ยังไงกัน”
“ก็ฉันพูดเรื่องจริงนี่นา”
“แค่มีหนุ่มมาตามติดก็การันตีได้แล้วนะว่าแกน่ะเนื้อหอมจริง ๆ พี่เขาอาจจะชอบความที่แกเป็นแกแบบนี้ก็ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องอยู่ใต้มาตรฐานของสังคมเหมือนที่คนอื่น ๆ เขาพูดกันหรอก”
ญาณินสัมผัสได้ในทันทีว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังไม่มั่นใจในตัวเอง ซึ่งเธอไม่ได้อยากให้เพื่อนสนิทต้องรู้สึกเช่นนั้น แตงกวาเป็นผู้หญิงน่ารัก มีเสน่ห์ในตัวเองค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย
“ขอบคุณนะญา เพิ่มความมั่นใจให้ฉันได้เยอะเลย”
“ก็มีกันอยู่สองคน แกจะให้ฉันไปพูดกับใคร”
“ก็จริงอย่างที่แกว่านั่นแหละ ฮ่า ๆ ๆ” เธอว่าพร้อมกับหัวเราะชอบใจออกมาจนเสียงดังไปทั่วบริเวณ แตงกวารู้สึกว่าตัวเองคิดถูกเป็นอย่างมากที่เลือกญาณินมาเป็นเพื่อนสนิทของตน และคาดว่าในอนาคตเธอก็คงจะรู้สึกเช่นนี้ไปตลอด
“เอ้อ...ว่าแต่เรื่องรับน้องแกว่ามันน่าเบื่อเหมือนอย่างที่คนอื่น ๆ พูดกันไหม ฉันว่ามันก็ปกตินะ ถ้ามากไปก็ไม่ดีแต่ถ้าน้อยกว่านี้ก็ดูไม่มีอะไรเลย เราว่าเท่าที่พวกพี่ ๆ เขาเตรียมเอาไว้ ก็กำลังดีแล้วนะ”
เนื่องจากว่าวันนี้เด็ก ๆ ปีหนึ่งจำเป็นต้องเข้ากิจกรรมรับน้องเหมือนกับเมื่อวาน ซึ่งญาณินเองก็ดันได้ยินคนอื่น ๆ ในคณะซุบซิบกันว่ากิจกรรมรับน้องน่าเบื่อ หลายคนจึงอยากโดด ไม่อยากเข้าร่วม
“ใช่ เราก็ว่าโอเคแล้ว จริง ๆ มันก็ไม่ได้น่าเบื่อขนาดนั้นหรอก”
“เห็นว่าจะมีคนโดดน่ะ แต่เราว่าจะไปเหมือนเดิม เธอว่าไง”
“ไปสิ มันเป็นกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเลยนะ ดีซะอีกที่ได้ทำความรู้จักกับพี่ ๆ เผื่อว่าจะพอให้ได้ช่วยเรื่องเรียนบ้างน่ะ”
“ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ก็ช่างมันเถอะ ไปเรียนกันดีกว่า”
ญาณินได้ยินเพื่อนสาวตอบกลับเช่นนั้น ก็โล่งอกไปที เธอเพียงแค่กลัวว่าแตงกวาจะมีความเห็นที่แตกต่างไปจากกัน แล้วพวกเขาทั้งคู่จะเข้ากันไม่ได้เหมือนอย่างที่คิดเอาไว้ก็เท่านั้น
หลังจากที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของการรับน้องกันเสร็จ ทั้งสองก็ตัดสินใจขึ้นมารออาจารย์บนห้องก่อนเวลาที่ระบุเอาไว้ในตารางเรียน
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ในที่สุดเวลาเลิกเรียนก็มาเยือนอีกครั้ง ญาณินและแตงกวารีบเก็บสัมภาระลงกระเป๋าเป้คู่ใจก่อนจะพากันเดินไปยังลานสำหรับทำกิจกรรมรับน้องที่เหล่ารุ่นพี่จัดเตรียมรอเอาไว้ให้
ญาณินสังเกตเห็นว่าผู้คนที่มาเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องในวันนี้ค่อนข้างน้อยกว่าปกติ จึงได้แต่มองหน้ากับหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กัน ทั้งสองรู้เหตุผลดี ทว่าก็ไม่กล้าพูดออกไปแต่อย่างใด...
“เอาจริง ๆ วันนี้สนุกมากเลยนะ คนที่โดดพลาดมาก”
“นั่นสิ สนุกดีเหมือนกัน ว่าแต่นี่แกกลับบ้านเลยหรือเปล่า หรือว่ามีนัดต่อ”
“เดี๋ยวฉันว่าจะกลับหอไปอาบน้ำน่ะ แล้วค่อยออกไปที่ทำงาน ว่าแต่แกเถอะ หางานได้หรือยัง ให้ฉันช่วยแนะนำไหม”
“ก็ยังลังเลอยู่น่ะ ไม่รู้ว่าที่ดูเหมือนจะดี มันจะดีเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ หรือเปล่า ฉันก็เลยยังไม่ได้ตัดสินใจ”
ญาณินตอบกลับเพื่อนสาวทันควันเมื่อคืนเธอเลื่อนหางานพาร์ตไทม์ที่เหมาะกับนักศึกษาในอินเทอร์เน็ตจนถึงดึก แต่ทว่าก็ยังไม่ได้ที่ที่ถูกใจเสียที
“ยังไงก็ลองดูนะ ฉันแนะนำว่าให้อยู่ใกล้ ๆ หอไว้ จะดีที่สุด”
“อืม ขอบใจนะ ถ้าอย่างนั้นฉันกลับหอแล้ว แกก็กลับดี ๆ ล่ะ”
“บ๊ายบาย พรุ่งนี้เจอกันนะญา”
ทั้งสองกล่าวลากันอยู่สักพัก ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับหอพัก เพราะต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ มิหนำซ้ำเช้าวันต่อไปก็ต้องมาเรียนกันแต่เช้าเลยอีกด้วย...
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 2หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่ญาณินถูกนอร์ททำเซอร์ไพรส์ให้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็เอาแต่ร้องไห้จนนอร์ทใจไม่ดี คิดว่าตนทำเรื่องผิดมหันต์เอาไว้ แต่ที่ไหน...“ญา หนูเป็นอะไร พี่ทำอะไรผิดจนหนูไม่พอใจหรือเปล่า?” นอร์ทตัดสินใจเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง แม้จะแอบหวั่นใจ กลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม“เปล่าค่ะ...หนูแค่ดีใจ ไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้เหมือนคนอื่นเขาด้วย...” ญาณินเอ่ยขณะเดียวกันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธอเพียงตื้นตันใจ ไม่คิดว่าแฟนหนุ่มที่ในอดีตเคยเป็นคู่กัดกันมาก่อนจะมีมุมโรแมนติกเหมือนกับคนอื่นๆ“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ ที่ทำให้แฟนพี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ก็นึกว่าซุกกิ๊กไว้ไม่เนียนซะอีก”“ห๊า...กิ๊กไหน ใครคะ?” หญิงสาวร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซ้ำยังปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งสนิททันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบสวนกลับมาเช่นนั้น“ล้อเล่นครับ จริงจังอะไรขนาดนั้น”“พี่นอร์ท! ใครให้เล่นแบบนี้ ญาใจหายหมดเลย” ญาณินถึงกับถอนหายใจแรง ตอบกลับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเจือแววตำหนิอยู่ไกลๆ ทั้งที่เธอกำลังตื้นตันใจอยู่กับเซอร์ไพรส์ก่อนหน้านี้ แต่ทว่านอร์ทกลับเอาเรื่องมือที่สามมาเป็นเรื่องล้อเล่น ญาณินคิดแ
ตอนที่ 99ในที่สุดช่วงเวลาที่คู่รักหนุ่มสาวรอคอยก็มาถึง จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตก แต่ด้วยความเบื่อหน่าย นอร์ทจึงไปถามรายละเอียดพนักงานโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รู้ว่าช่วงหกโมงเย็นจะมีม้าออกมาเดินเล่นที่ริมหาดซึ่งพวกเขาสามารถขึ้นขี่แล้วเดินเล่นได้หนึ่งรอบถ้วน แต่ก่อนที่จะลงไป นอร์ทกลับรู้สึกไม่สบายใจกับการแต่งตัวของญาณินเท่าไรนัก“ไหนว่าพี่รอดูไง พอญาแต่งออกมาแล้ว จะมาทำหน้างอทำไมคะเนี่ย”“มันโป๊ไป ตอนแรกพี่นึกว่ามันจะปิดเยอะกว่านี้ แต่นี่คือ...”ขณะที่เอ่ยสายตาก็พลางลอบมองร่างบางตั้งแต่หัวจดเท้า ชุดว่ายน้ำที่อยู่บนตัวของญาณินงดงามเกินคำบรรยายแต่ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่พึงพอใจก็คงจะหนีไม่พ้นชุดที่โป๊จนเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและรวมไปถึงก้นเนียน ๆ ของเธอนั่นก็ด้วย“นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวทะเล เว้นไว้สักครั้งนะคะ”“โอเค พี่ไม่เถียงด้วยแล้ว หนูอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เสร็จแล้วก็รีบลงไป เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินเอานะ”“รับทราบค่ะ”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากว่าที่สามีเป็นที่เรียบร้อย ญ