LOGINโต๊ะข้างๆ ที่ว่าง สรุปจึงเป็นของพวกไอ้มอส ไตรฉัตรไม่ได้สนใจโต๊ะตรงข้ามแม้คนในโต๊ะนั้นจะมองมาทางคนที่นั่งข้างเขาอยู่บ่อยๆ ก็ตาม เหมือนแพรก็มัวแต่สนุกอยู่กับคุณแตงจนไม่ได้สนใจโต๊ะตรงนั้นเช่นกัน หรือเหมือนเธอก็ลืมสนใจเขาด้วย จนเวลาล่วงเลยเกือบตีสอง เหล่าสมาชิกเตรียมตัวแยกย้าย หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ไตรฉัตรก็พาเหมือนแพรกลับ กลุ่มสาวๆ ส่วนมากก็กลับออกมาพร้อมกัน มีเพียงพวกผู้ชายบางส่วนที่ยังอยู่ต่อ
"ส่งที่บริษัทก็ได้ เดี๋ยวขับรถกลับ ขับไหว ไม่เมาเท่าไหร่" เพียงแค่ขึ้นมาบนรถตู้คันหรูของเขา เหมือนแพรก็รีบเอ่ยบอกทันที แต่ไตรฉัตรเอ่ยบอกชื่อคอนโดเธอให้คนขับรถของเขาเสียแล้ว "เดี๋ยวไปส่ง มันอันตราย" "เดี๋ยวเช้าวุ่นวายต้องกลับไปเอารถอีก" "กุญแจมา พรุ่งนี้จะขับไปคืนให้" เหมือนแพร่ยู่ปากใส่เขาแต่ก็ยอมหยิบกุญแจส่งให้ เพราะเธอก็ขี้เกียจนั่งแท็กซี่มาเหมือนกัน "เลี้ยงข้าวตั้งแพง เลี้ยงกาแฟสักแก้วได้ไหม" เมื่อรถตู้มาจอดที่คอนโด เจ้ามือใหญ่กลับทวงกาแฟเธอหน้าตาเฉย เหมือนแพรยอมให้ไตรฉัตรขึ้นไปบนห้องอีกครั้ง หลังจากได้กาแฟดำคนละแก้ว เธอก็ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาอย่างคนเหนื่อยล้า "จะกลับไปคบกับไอ้มอสอีกหรือ" คำถามของเขาทำเอาเธอเกือบสำลักกาแฟ จนต้องกระแอมเบาๆ ให้หายระคายคอ "ก็เปล่านี่" เธอตอบตามความจริง "แล้วนายมอสก็ยังไม่ได้จีบฉันสักหน่อย" "แล้วถ้ามันจีบเธอล่ะ" "คิดดูก่อน" เหมือนแพรยักไหล่อย่างที่เคยทำบ่อยๆ "ได้ข่าวว่าจบกันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นี่" "ดูเหมือนนายจะได้ข่าวฉันเยอะเลยนะ ทำไมนึกเสียใจขึ้นมาหรือไงที่ปฏิเสธฉัน ถึงคอยตามข่าวตลอด" ไตรฉัตรไม่ได้ตอบ เขาเพียงทำเสียงขึ้นจมูก "เล่าเรื่องที่อเมริกาให้ฟังบ้างซิ" "นายกับนายมอสไม่ได้คุยกันหรือไง ถึงมาถามฉัน" "ก็บอกว่าตั้งแต่มันคบกับเธอ ฉันก็ไม่ได้คุยกับมันอีก" "แล้วเธอทำไมถึงกลับมาคุยกับมันอีกได้" "ฉันยังกลับมาคุยกับนายได้เลย ไม่เห็นแปลก" เหมือนแพรหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ามาเช็กข้อความตอนตีสอง เพราะขี้เกียจมองคนข้างๆ แต่พลันได้เห็นข้อความจากมารดาก็ทำเอาเธอขมวดคิ้วมุ่น 'บี๋ พรุ่งนี้มาทานข้าวที่บ้านนะ แม่มีอะไรจะคุยด้วย' คำว่ามีอะไรจะคุยด้วย ทำเอาเธอหัวใจกระตุกเล็กน้อย หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องงานที่บริษัทพ่อนะ "มีอะไรหรือเปล่า" ไตรฉัตรเอ่ยถาม เพราะเห็นเธอขมวดคิ้วมุ่น "แม่น่ะ" พอเห็นเป็นเรื่องครอบครัว ไตรฉัตรก็ไม่เอ่ยถามต่อ "อื้อ ขอบคุณกาแฟนะ งั้นเรากลับล่ะ" เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าในเวลาเก้านาฬิกาของวันใหม่ และวันนี้ควรจะเป็นวันที่เธอควรจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไอ้บ้าไตร หลังจากเห็นชื่อหน้าจอ เธอกดรับสายทั้งที่ยังงัวเงียอยู่ "อยู่ข้างล่าง เอารถมาคืนให้แล้ว" "จอดไว้นั่นแหละ ฝากกุญแจไว้ที่ล็อบบี้ก็ได้ บอกของฉัน" "ซื้อข้าวมาฝากด้วย คิดว่าเธอน่าจะหิวแล้ว ฉันก็ยังไม่ได้กินกาแฟตอนเช้าเลย อุตส่าห์รีบเอารถมาคืน รีบลุกลงมารับด้วย" "ไอ้บ้าเอ้ย" คนบ่นโวยวาย แต่ก็ยอมลงมารับแม้จะช้าไปสักนิด เพราะต้องล้างหน้าแปรงฟันก่อน ส่วนผมที่ยังไม่ได้หวีก็ได้แต่มวยไว้หลวมๆ เสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงวอร์มขัดกับใบหน้าหวานจนคนที่ยืนพิงรถรออยู่ถึงกับจุดยิ้มที่มุมปาก "ไหนว่ายังไม่ได้กินกาแฟ" คนลงมารับโวยวายต่อ เพราะกาแฟยี่ห้อดังที่อยู่ในถุงกระดาษ "ก็ยังไม่ได้กิน อ่ะกินซะเบบี๋ จะได้ใจเย็นๆ นะ" เขาชูถุงกาแฟขึ้น แล้วก็หยิบส่งให้เธอหนึ่งแก้ว ของเขาอีกแก้ว แววตาล้อเลียนยามเรียกชื่อเล่นเธอเต็มยศ "ยังไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยเหมือนกัน" ไตรฉัตรชูอาหารเช้าในถุงกระดาษอีกใบให้เธอดู เหมือนแพรได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ต้องพา ไอ้บ้าไตร นี่ขึ้นไปบนห้องอีกแล้ว อาหารเช้าง่ายๆ มีทั้งข้าวต้มปลา หมูทอด สลัดผัก เธอยังเหลือบไปเห็นแซนด์วิชในกล่องอีกหลายชิ้น อีกถุงเธอไม่แน่ใจว่าอะไรเพราะเขายังไม่หยิบออกมาจากถุง "นี่นายกะจะอยู่กินข้าวเที่ยงด้วยเลยไหม" "กินข้าวเย็นเลย" เหมือนแพรมองเขาตาเขียว แแต่อีกคนกลับหัวเราะชอบใจเสียงถามของไตรฉัตรทำให้เธอนึกขึ้นได้ถึงเรื่องเมื่อคืน แล้วตอนนี้เธอก็ยังนอนกอดอยู่กับเขาอีกต่างหาก เธอเริ่มดันตัวออกห่างแต่แขนแกร่งที่กอดเอวเธอไว้กลับกระชับแน่นขึ้น "ฉันต้องกลับแล้ว" เสียงกระด้างบอกความต้องการ จนคนที่ตื่นแล้วแต่ยังไม่ยอมลุกต้องลืมตาขึ้นมอง "อะไรตื่นเช้ามาก็เสียงแข็งใส่เชียว ทีเมื่อคืนเสียงอ่อนเสียงหวาน" เธอแหงนมองหน้าคนที่กอดอยู่ ส่งสายตาขุ่นให้ทันที ที่เขารื้อฟื้นเรื่องเมื่อคืน "ก็เราจะกลับแล้ว" "เดี๋ยวไปส่ง ต้องไปรับนังบี้ด้วย หรือจะเอาไว้เลี้ยงเอง" "ไม่เอา" เหมือนแพรรีบปฏิเสธทันที "ไตรฉัตร เราบอกว่าให้ปล่อย" เมื่อเขายังไม่ยอมคลายอ้อมแขน เธอก็ดิ้นขลุกขลักเขาก็ยิ่งออกแรงกอดเธอไว้แน่นเช่นกัน อกอิ่มเกยไปที่หน้าอกเขาถูกบดเบียดอยู่อย่างนั้น และครู่ต่อมาเธอก็สัมผัสเข้ากับน้องชายตัวใหญ่เขาอย่างจังอีกครั้ง เหมือนแพรดิ้นขลุกขลักได้อีกครู่เดียว เธอก็ต้องถูกเขาพันธนาการไปอีกครั้ง ถุงยางอนามัยอีกชิ้นที่วางอยู่ข้างเตียงถูกฉีกซองออกในตอนเช้า เมื่อเธอยิ่งขัดขืนไตรฉัตรก็ยิ่งเล้าโลมจนร่างอรชรนอนดิ้นพล่านอ่อนระทวย จากอากาศหนาวเมื่อครู่กลายเป็นไอร้อนจนสองร่างชุ่มไ
เหมือนแพรรีบตะแคงข้างหนีสายตาคมที่จ้องราวกับจับผิดเธอ แต่แขนแกร่งก็ยังไม่คลายอ้อมแขน เมื่อเธอพลิกตัวหนีเขาก็ตะแคงตัวซ้อนตามคนตัวเล็กมาติดๆ "เจ็บไหมเบบี๋" ไม่พูดเปล่า ไตรฉัตรยังไล้นิ้วไปที่เนินเนื้ออวบอูมด้านล่าง จนเหมือนแพรต้องหนีบขาแน่น แล้วปัดมือเขาออก แต่แขนที่มีมัดกล้ามแน่นๆ นั้นปัดอย่างไรก็ไม่พ้นทาง นิ้วร้ายเริ่มกรีดกรายตามรอยแยกอีกครั้ง "อื้อ..ไตรน่ะ ปล่อยบี๋ก่อน" "ก็ถามไม่ตอบ เมื่อกี้เจ็บไหม" ไตรฉัตรกระซิบอยู่ที่ริมใบหู ลมหายใจอุ่นๆ ทำเอาเหมือนแพรลืมคำถามที่เขาถาม "เจ็บซิ" เหมือนแพรเริ่มดิ้นขลุกขลักเพราะนิ้วยาวของเขาเริ่มซุกซนก่อกวนนอกจากแหวกกลีบกุหลาบให้แยกแล้วยังไล้นิ้วเขี่ยขยี้อยู่แถวช่องทางรัก จนเธอเผลอเกร็งท้องน้องคิดว่าเขาจะกดนิ้วลงไปเสียอีก แต่ก็เพียงวนเวียนอยู่แบบนั้น "อื้อ..ไตร..พะ..พอแล้ว" เสียงกระเส่าเอ่ยแทบไม่เป็นคำ มือเล็กดันแขนเขาให้ออกห่าง แต่แขนเขาแข็งแรงมากจนมันไม่ขยับไปทางไหน จนเธอเผลอจิกเล็บเขาที่แขนเขาไว้แน่น "เสียวไหม" "อ๊ะ .." เหมือนแพรแหงนหน้าขึ้น แล้วก็กัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น เพราะมันคอยจะส่งเสียงลามกออกมา "พอจริงหรือ" เสียงทุ
ฝ่ามือใหญ่ดึงชายผ้าขนหนูออกมาเพียงนิด ก็เผยให้เห็นร่างอรชรขาวผ่องอวดสายตา ไตรฉัตรแอบลอบกลืนน้ำลายจากที่เคยเห็นภายนอกเขาคิดว่าเธอก็คงธรรมดา หน้าอกอิ่มแม้ยามเธอใส่ชุดเซ็กซี่มันก็ไม่ได้ดูใหญ่โตขนาดนั้น แต่ที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ อีกทั้งฝ่ามือใหญ่ที่กอบกุมไว้ทั้งเต้าจนเต็มมือมันอวบอิ่มอยู่ไม่น้อย เขาก้มลงมาดูดยอดอกสีอ่อนชูชันอีกข้าง เหมือนแพรสะดุ้งตัวนิด แต่เมื่อปากเขาดูดเน้นเธอก็แอ่นอกขึ้นหา มือเรียวสอดเข้าไปที่เรือนผมดกดำของเขา ปลายนิ้วขยุ้มเบาๆ ยามเมื่อลิ้นร้ายกวัดเกี่ยวยอดไตแข็งชูชัน อีกข้างก็ถูกปลายนิ้วเรียวเขี่ยขยี้ เขาย้ายจากข้างนั้นก็ไปข้างนี้อย่างไม่รู้เบื่อหน่าย "อะ..อื้อ.." เหมือนแพรเริ่มส่งเสียงในลำคออย่างไม่อาจกลั้น ยามเมื่อคนด้านบนเริ่มรุนแรงขึ้นมันไม่ได้เจ็บแต่กลับเสียวซ่านไปทั้งตัว เหมือนแพรสัมผัสได้ถึงแรงบีบตัวที่ช่องทางว่างเปล่าด้านล่างกลางกายสาว จนอยากให้เขาเข้ามาสัมผัส มือใหญ่ลูบไล้ผิวเนียนจนมาถึงจุดที่เธอเพิ่งเผลอคิดเตลิดไปเมื่อครู่ นิ้วยาวกรีดตามรอยแยกที่ปิดสนิทปลายนิ้ววนเวียนอยู่ปากทางรักที่ฉ่ำแฉะ แค่เพียงนิ้วเขาจุ่มลึกลงไปเหมือนแพรก็ผวาตัวเข้าหารั้งแขนแกร่งเขาไว้เป
ใบหน้าหวานปรือตามองคนตัวโตอย่างรอคอยคำตอบ มือใหญ่ยังไม่ปล่อยจากท้ายทอยเธอ ใกล้กันเพียงนิด แต่เหมือนยิ่งรู้สึกไกลเขาขึ้นไปอีกเพียงเพราะคำพูดที่เธอเผลอเอ่ยปากออกมานั่นหรือเปล่า อีกใจก็หวาดหวั่นไม่น้อยกลัวเขาจะปฏิเสธ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะเรื่องที่เธอได้ยินมา มันถึงช่วยเพิ่มความกล้าให้เธอถึงขนาดนี้ "ถ้าผ่านคืนนี้ไปแล้ว ความเป็นเพื่อนของเรามันอาจจะไม่เหมือนเดิมนะ" เสียงทุ้มเอ่ยเตือนคนตัวเล็ก "ความจริงสำหรับเรา มันไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ที่เธอปฏิเสธเราคราวนั้นแล้ว ไหนๆ เธอก็ปฏิเสธเราอีกครั้ง ผ่านคืนนี้ไปเราอาจจะเป็นแค่คนรู้จักกันเฉยๆ ก็ได้" "เธอแน่ใจนะ" "อื้ม" "ไปคอนโดเรานะ" ไตรฉัตรกระซิบบอก เหมือนแพรจึงได้แต่พยักหน้า ภายในรถยังคงไม่มีเสียงของคนทั้งสอง เหมือนแพรได้แต่หันหน้ามองไปข้างกระจก ไม่ได้สนใจคนขับรถที่คอยจะหันมามองเธออยู่บ่อยๆ ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดสนิท แต่กลับมองไม่เห็นดวงดาวสักดวง คงมีแต่แสงสายฟ้าที่แลบลงมาเป็นระยะๆ และเวลาต่อมาสายฝนก็โปรยปรายลงมาพอให้ชุ่มฉ่ำ จากสถานบันเทิงไตรฉัตรขับรถเพียงไม่นานก็มาถึง คอนโดหรูใจกลางเมืองราคาแต่ละห้องแทบจะไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้
อ้นขึ้นเสียงใส่แล้วก็จับแขนบี๋ให้เดินตามออกมา แต่ไอ้มอสก็รั้งแขนเธออีกข้างไว้ เหมือนแพรพยายามสะบัดให้หลุดแต่มันก็ไม่หลุด เมื่ออ้นหันไปจะผลักออก แต่กลับโดนไอ้มอสชกเข้าที่ปากอย่างจัง เมื่อมืออ้นหลุดจากเหมือนแพร เธอก็ถูกมอสดึงให้ไปยืนอยู่ข้างๆ "ปล่อยนะมอส" เหมือนแพรดึงมือออกจากการเกาะกุมอย่างยากลำบากกว่าจะหลุดออกมาได้ แต่พอหลุดออกมาได้เธอก็รีบวิ่งออกมา อ้นรีบคว้าแขนไอ้มอสไว้เพราะมันจะจับเหมือนแพรอีกครั้ง รั้งให้มันถอยหลังไปเกือบชนผนังห้องน้ำ เมื่อตั้งหลักได้ มอสก็ถลาเข้าใส่เหมือนแพรอีกครั้ง เธอรีบวิ่งมาได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็ชนกับร่างใหญ่ของไตรฉัตร ที่วิ่งขึ้นบันไดมาอย่างรีบร้อน เขาคว้าเธอไว้ในอ้อมแขน ไอ้มอสที่กำลังจะถึงตัวเธอ จึงถูกเขาถีบจนหงายหลังไปนั่งกับพื้น "มึงเลิกยุ่งกับบี๋ได้แล้วไอ้มอส ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน" เสียงทุ้มต่ำเน้นคำพูดทีละคำ สายตาคมดุยิ่งดูเย็นชาจ้องหน้าไอ้มอสเขม็ง เหมือนแพรสะอื้นตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดของไตรฉัตร เขาลูบผมเธอสองสามครั้ง ก่อนจะรั้งเอวให้เธอเดินออกมาจากตรงนั้น โดยมีอ้นเดินตามออกมาด้วย โดยไม่สนใจไอ้มอสที่ยังนั่งอยู่กับพื้นตรงนั้น มอสก้มมอง
"พูดมาอ้น ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น" เหมือนแพรยังไม่ยอมถอยห่างจากหน้าประตูยืนขวางอ้นไว้อย่างนั้น สายตาคาดคั้น จนในที่สุดอ้นก็ทนไม่ไหว เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เผื่อคนทั้งสองจะเข้าใจกันมากขึ้น กลับมารักกันอีกครั้งได้ "ก็ที่ไอ้ไตรมันปฏิเสธเธอ เพราะไอ้มอสไปบอกมันว่าไอ้พีมันชอบเธอ" เสียงถอนหายใจหนักๆ ของมอสก่อนจะเอ่ยปากเล่า แต่เมื่อเหมือนแพรได้ฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก "เกี่ยวอะไรกับพี" "ไอ้ไตรกับไอ้พี มันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ เคยทะเลาะตีกันเกือบตายตอนม.ปลายเพราะชอบสาวคนเดียวกัน มันเลยสัญญากันไว้ว่าจะไม่ชอบผู้หญิงคนเดียวกับเพื่อนอีก" "แล้วเกี่ยวอะไรกับเรา พีไม่ได้ชอบเราสักหน่อย" "ก็ไอ้มอสมันไปบอกไอ้ไตรแบบนั้น บอกว่าไอ้พีมันรักเธอ กำลังจะขอเธอคบเป็นแฟน ไอ้ไตรมันเลยปฏิเสธ เพราะไม่อยากเสียเพื่อน แต่สุดท้ายเธอกลับไปคบกับไอ้มอส ทุกคนก็เลยงง ไล่ไปไล่มาจนสุดท้ายเราไปถามไอ้พี มันบอกไม่เห็นรู้เรื่อง ถึงได้เข้าใจว่าไอ้มอสมันโกหก เพราะมันก็ชอบเธออยู่" เหมือนแพรส่งโทรศัพท์คืนให้อ้น เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดีหรือควรจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองตอนนี้อย่างไร มันชาวูบไปทั้งตั