แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: หลางเทียนเป๋ายุ๋น
"ฉันถอดออกมาแล้ว"

"นี่มันเป็นแหวนที่ฉันทำขึ้นเอง เป็นเครื่องยืนยันถึงความรักของเราเลยนะ เธอถอดมันทำไม?"

อันหนิงบอกปัด "ช่วงนี้ฉันอ้วนขึ้น ใส่แล้วมันแน่น"

เผยซือเหนียนได้ยินแบบนั้น ก็สีหน้าดีขึ้นหน่อย เขากลับมายิ้มบางๆ "งั้นวันหลังฉันเอาไปปรับขนาดที่ร้านทำเครื่องประดับ"

"ค่อยว่ากันแล้วกัน"

"จริงสิ อะไรอยู่บนโต๊ะ?"

เผยซือเหนียนชี้ไปยังกล่องใส่เครื่องประดับที่แสนประณีตซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ด้วยความตื่นเต้น "อาหนิง ของขวัญที่เธอซื้อให้ฉันหรอ?"

อันหนิงพยักหน้า "ใช่"

ข้างในนั้น บรรจุเงินก้อนเล็กๆ เอาไว้

เธอหลอมแหวนแต่งงานของพวกเขา แล้วใส่มันไว้ข้างใน

ทว่าเผยซือเหนียนกลับดีใจมาก "วันนี้เป็นวันอะไรหรือไง? อาหนิงถึงเป็นฝ่ายซื้อของขวัญให้ฉัน?"

หัวใจของอันหนิงเย็นวาบขึ้นมาอีกครั้ง

"วันนี้...เป็นวันครบรอบวันแต่งงานของเรา"

สีหน้าของเผยซือเหนียนย่ำแย่ลงในเสี้ยววินาที

เขาโอ๋อันหนิงในเชิงเอาใจ "ขอโทษน้าอาหนิง ช่วงนี้ฉันงานยุ่งมากจริงๆ ไม่งั้นคืนนี้เราออกไปกินข้าวกันดีไหม? ฉันจะจองร้านอาหารเดี๋ยวนี้..."

"ไม่ต้องหรอก ฉันกินมาแล้ว"

"งั้นฉันพาเธอไปดูวิวกลางคืน? ไปเดินเล่นริมแม่น้ำดีไหม?"

"ฉันเหนื่อย อยากนอนแล้วล่ะ"

เผยซือเหนียนโอบเอวของเธอจากด้านหลังราวกับอยากเอาใจ "ไปเถอะอาหนิง เราไม่ได้เดินเล่นด้วยกันตั้งนานแล้ว ฉันแอบรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเย็นชากับฉันนิดๆ นะ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันจะเริ่มสงสัยแล้วว่าอาหนิงของฉันเปลี่ยนไป"

ฉันหรอที่เปลี่ยนไป?

นายต่างหากที่นอกใจไปมีคนอื่นก่อน

หัวใจของนายต่างหากที่ทิ้งฉันไปแล้ว

และครั้งนี้ ฉันจะเก็บหัวใจของฉันกลับมาเอาไว้กับตัวเองตลอดกาล จะเก็บมันกลับคืนมาทั้งหมด

ระหว่างทางที่ออกจากบ้าน เผยซือเหนียนขับรถ เขาพูดเรื่องราวที่ได้ยินมาช่วงนี้ให้เธอฟัง คละคลุ้งไปกับเสียงหัวเราะตลอดทาง

ส่วนอันหนิงที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ก็เอียงศีรษะออกไปมองนอกหน้าต่าง ไม่ได้ฟังที่เขาพูดแม้แต่น้อย

เพราะเมื่อกี้ตอนที่คาดเข็มขัด เธอล้วงเจอถุงเท้าลูกไม้ของผู้หญิงข้างนึงออกมาจากช่องเบาะ

เห็นได้ชัดว่ามันเคยถูกใส่มาแล้ว

จากนั้นเธอก็ยัดมันคืนเข้าที่เดิม

แล้วแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไป เธอก็ไม่อยากทะเลาะอะไรกับเขาทั้งนั้น

เพราะนอกจากจะได้ยินแต่คำโกหกที่ไร้สาระแล้ว เธอก็จะไม่ได้อะไรอีก

ในเมื่อไม่ได้ งั้นเธอก็ไม่เอา

พอมาถึงริมทะเล เผยซือเหนียนเป็นฝ่ายลงรถไปก่อน แล้วช่วยเปิดประตูให้เธอ "ถึงแล้ว อาหนิง"

ที่จริงอันหนิงไม่ได้อยากมี แต่ริมแม่น้ำแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่พวกเขามักจะมาบ่อยๆ ตอนเพิ่งเริ่มคบกัน

ในเมื่อเริ่มต้นจากที่นี่ ก็ให้มันจบลงที่นี่ก็แล้วกัน

"ว้าย นั่นมันประธานเผยที่ออกทีวีวันนี้ไม่ใช่หรอ! คนที่ทำแหวนแต่งงานขึ้นมาเองไง!"

"จำได้ๆ เป็นผู้ชายที่โคตรปัง!"

"มีการเอามือป้องหลังคารถให้เมียด้วย คงกลัวหัวเมียจะไปชนโดน ฮือๆๆ ใส่ใจเว่อ!"

ขณะกำลังพูดอยู่ เสียงโทรศัพท์ของเผยซือเหนียนก็ดังขึ้น

เขาพูดด้วยความรู้สึกผิดนิดหน่อย "ขอโทษนะอาหนิง รอฉันแปบนึง เรื่องงานน่ะ ฉันไปรับแปบเดียวเดี๋ยวมา"

"นายไปเถอะ"

"เธอรอฉันตรงนี้นะ อย่าซี้ซั้วเดินไปไหน"

บริเวณรอบๆ ส่งเสียงประหลาดใจขึ้นมาเป็นระยะๆ

"ประธานเผยเลี้ยงเมียเหมือนเลี้ยงลูกหรือไงเนี่ย มีกลัวเมียจะเดินหลงไปอีก"

"โคตรจะโอ๋!"

มีแค่อันหนิง ที่หน้าแข็งทื่อตั้งแต่ต้นจนจบ เธอยืนอยู่ริมแม่น้ำ มองดูผิวน้ำที่ส่องแสงระยิบระยับยามค่ำคืน

เมื่อกี้ตอนที่เผยซือเหนียนเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา มุมปากของเขาเก็บยิ้มเอาไว้ไม่อยู่

เป็นรอยยิ้มที่ทั้งคลั่งรัก ทั้งหวานแหวว ทั้งยังแฝงความกรุ้มกริ่มอยู่หน่อยๆ

มันจะเป็นเรื่องงานได้ยังไง?

แต่เธอก็คร้านจะเปิดโปงเขาแล้ว

ริมน้ำอากาศค่อนข้างหนาว เธอจึงกลับขึ้นรถไปรอตามสัญชาตญาณ

ที่หน้าจอในรถ เผยซือเหนียนไม่ได้ล็อคเอ้าท์ออกจากบัญชีโซเชียล มันจะเชื่อมกับโทรศัพท์ของเขาอยู่

บันทึกสนทนาของเด้งขึ้นมาบนหน้าจอไม่หยุด

อีกฝ่ายชื่อ [ยัยแมวยั่วสวาทจิ้งจิ้ง]

เผยซือเหนียน : คิดถึงฉันหรอ?

ยัยแมวยั่วสวาทจิ้งจิ้ง : คืนที่ไม่มีคุณอยู่ด้วย ฉันรู้สึกอ้างว้างจังเลยค่ะ

เผยซือเหนียน : ยัยแมวหื่น ตอนกลางวันก็จัดไปตั้งเจ็ดรอบแล้วยังไม่พออีกหรอ?

ยัยแมวยั่วสวาทจิ้งจิ้ง : ไม่พอค่ะ พี่ ฉันยังอยากทำอีกนี่นา

เผยซือเหนียน : โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปทำงานก่อน ฉันจะจัดในห้องทำงานให้หนำใจเธอเลย

ยัยแมวยั่วสวาทจิ้งจิ้ง : คิกๆๆ งั้นพรุ่งนี้ฉันจะใส่ถุงเท้าลูกไม้สีดำไปทำงาน

บทสนทนาหลังจากนั้นก็อุจาดตามากยิ่งขึ้น

เต็มไปด้วยคำลามกและการเกี้ยวพาราสี

อันหนิงรู้สึกได้แต่ความเหน็บหนาวที่แผ่ซ่านไปทั้งร่าง จากนั้นจึงกดปิดหน้าจอ

เธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว ไม่แน่ใจว่าเพราะหนาวหรือโกรธ เล็บของเธอฝังเข้าไปในเนื้อตรงฝ่ามือแน่น

ไม่นานเผยซือเหนียนก็กลับมา ใช้เวลาแค่สิบห้านาทีโดยประมาณ

ตอนที่เข้ามานั่งในรถ เขากุมหน้าอกแล้วถอนหายใจแรงทีนึง "เมื่อกี้พอคุยโทรศัพท์เสร็จ หันกลับมาไม่เห็นเธอ ฉันตกใจแทบแย่ โชคดีที่เธอไม่เป็นอะไร"

อันหนิงไม่อยากมองหน้าเสแสร้งของเขาอีกต่อไป จึงก้มมองมือของตัวเอง

"ข้างนอกหนาว ฉันเลยกลับเข้ามาในรถ"

"อืมๆ ดีแล้ว เธอชอบอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น"

อันหนิงเงยหน้าขึ้นทันที

หลังจากที่ได้อ่านแชทของพวกเขา ก็ทำให้อันหนิงเข้าใจประโยคนี้ในอีกความหมายนึง

ชอบตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น

ถ้างั้นถุงเท้าลูกไม้ที่อยู่ในซอกเบาะข้างคนขับ...

จะบอกว่า พวกเขาก็เคยทำกันตรงเบาะข้างคนขับงั้นสิ?

จู่ๆ อันหนิงก็รู้สึกสะอิดสะเอียน เปิดประตูรถออกได้ก็สำรอกทันที
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 21

    อดพูดไม่ได้เลยว่า ท่าทางของเผยซือเหนียนในวิดีโอดูแล้วติดตามาก ต่อให้เป็นต่างชาติที่ฟังภาษาของเขาไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังสัมผัสได้ถูกความสิ้นหวังจากบนสีหน้าของเขาและซับไตเติ้ล"ไม่หรอก" อันหนิงโอบกอดเจ้าเหมียว ทอดตาลงต่ำแล้วพูด "เราทุกคนต่างก็เกิดมาตัวคนเดียว ไม่มีใครจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อไป ถ้าเขาละทิ้งชีวิตตัวเองด้วยเหตุผลนี้จริงๆ นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จะให้คนอื่นเสียสละตัวเองเพื่อทำตามที่เขาขอก็คงไม่ได้หรอก"เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว ต่อให้เผยซือเหนียนมายืนร้องไห้ต่อหน้า เธอก็ไม่มีทางกลับไปลิซ่าเองก็ยิ้มน้อยๆ "งั้้นก็ดี เธออยู่ที่นี่ให้สบายใจดีกว่า ช่วงนี้ในป่ามีพายุหิมะ ถนนในเมืองทุกสายที่ตัดผ่านที่นี่ถูกปิดไปหมด ต่อให้มีคนเข้าใจผิดว่าพวกเธอคือคนเดียวกัน ก็ไม่มีโอกาสได้ติดต่อไปรายงานพวกเขาแน่"ในหัวใจของอันหนิงผุดความอบอุ่นขึ้นมา เธอลองชิมคุกกี้ที่เพิ่งอบมาได้ไม่นาน แล้วพูดพร้อมกับขอบตาแดงระเรื่อ "ขอบคุณนะ คุกกี้อร่อยมาก จริงๆ นะ"วันเวลาผ่านไปไวเหมือนสายน้ำไหล ไม่นานก็มาถึงคืนคริสมาสต์อีฟ นี่เป็นวันสำคัญของชาวเมือง หนุ่มสาวจำนวนมากที่ไปทำงานต่าง

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 20

    สติของเขาถูกบดขยี้ด้วยความสิ้นหวังที่ไร้ซึ่งขอบเขตมานานแล้ว กระทั่งปลายสายให้ที่อยู่ในประเทศมาแบบคลุมเครือ จึงวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่นไม่ได้เหนือความคาดหมาย คนๆ นี้หลอกเขาแต่เขาไม่ได้ไล่บี้ เพราะไม่มีเรี่ยวแรงอีกต่อไปหลังจากวันนั้น สายที่โทรเข้ามาทำนองนี้ก็มีมาต่อเนื่องไม่หยุดทุกคนล้วนเจออันหนิงในที่ใดที่หนึ่ง จากนั้นก็ขอเงินรางวัลจากเผยซือเหนียนไม่มากก็น้อยทั้งที่เขาก็รู้ว่าในบรรดากลุ่มคนเหล่านั้นมีมิจฉาชีพตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ยังโอนเงินให้เหมือนเดิม นั่นก็เพื่อคว้าความหวังอันริบหรี่เอาไว้เงินรางวัลที่ว่าสุดท้ายก็กลายเป็นแค่ก้อนหินที่จมลงไปในทะเล โดยไม่มีแม้แต่ละอองน้ำสะเด็ดขึ้นมาแต่เผยซือเหนียนก็หาได้สนใจไม่ ตอนนี้เขาได้แต่อาศัยความคิดนี้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไปวันๆ ต่อให้จะมีคนบอกว่าต้องการนัดคุย เขาก็ยังไปตามนัดยังมีผู้หญิงบางส่วนที่ใช้วิธีนี้เพื่อเข้าหาเขา แต่ละคนแต่งตัวสวยอวดสัดส่วนเต็มที่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ทั้งยังพูดกับเขาแบบเปิดเผยว่า "คุณเผย ฉันยังมีเพื่อนๆ อีกมากมาย ถ้าคืนไหนที่คุณรู้สึกเหงา พวกเราจะช่วยคลายเหงาได้ทุกเมื่อ"กลายเป็นว่าวิ

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 19

    กระดาษที่อยุ่บนพื้นพวกนั้นเป็นกระดาษชนิดเดียวกับที่อันหนิงเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้เขา เขาเอาสมุดเล่มที่เธอใช้ไม่หมดย้ายจากห้องหนังสือมาห้องนอน จากนั้นก็นั่งเขียนหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันอยู่หลายวันเวลาไร้ซึ่งความหมายในขณะนี้แม่ของเผยซือเหนียนพูดทั้งน้ำตา "อันหนิงไม่ได้อยากเจอลูกแล้ว ต่อให้ลูกเขียนจดหมายขอโทษจนล้นห้องมันจะไปมีประโชน์อะไร? ลูกต้องพูดคำพวกนี้กับเธอด้วยตัวของลูกเอง"เผยซือเหนียนครุ่นคิดอย่างจริงจังนิดหน่อย ยอมรับว่าที่แม่พูดนั้นมีเหตุผล แต่เขาจมอยู่ใต้ตมโคลน จนไม่สามารถออกมาได้แล้ว เขาช้อนดวงตาแดงก่ำขึ้น แล้วพูดอย่างยืนหยัด "เธอจะต้องรู้แน่ ขอแค่ผมเขียนพวกนี้ให้หมด เธอก็จะให้อภัยผม ใช่แล้ว ผมต้องจริงใจให้มาก..."เสียงของเขาแหบแห้ง ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งที่ผิดปกติ ดวงตาก็เป็นประกายแปลกประหลาด พูดได้ครึ่งนึง จู่ๆ ก็ลุกขึ้นแย่งสมุดกลับไป แล้วใช้มือสั่นเทาของเขาเขียนลงไปในสมุด เขาเขียนไปพร้อมกับพูดพึมพำ"อันหนิง ฉันผิดไปแล้ว เธอจะให้อภัยฉันใช่ไหม? ถ้าฉันเขียนจนหมดสมุดเล่มนี้ เธอก็จะต้องกลับมายกโทษให้ฉันแน่ ขอโทษนะ..."เผยซือเหนียนพร่ำประโยคเหล่านี้อย่างไม่รู้จักเหน็ด

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 18

    เขาร้อนใจราวกับมีไฟลนก้น แต่วีซ่ากับตั๋วเครื่องบินไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจะเสร็จได้ในทันทีกว่าเขาจะเหยียบย่างเข้ามาในดินแดนของนอร์เวย์ ทั้งติดต่อสถานทูตกับทางตำรวจเพื่อตามหาอันหนิง ก็กินเวลาเข้าไปแล้วสามวันเผยซือเหนียนเคาประตูคอนโด ตะโกนเรียกชื่อ "อันหนิง" แล้วบุกเข้าไปทันที แต่กลับถูกเจ้าของบ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ห้ามเอาไว้ก่อน เขาพูดด้วยความระแวง "คุณเป็นใคร?""ผมมาหาอันหนิง" เขาพูดเสร็จ ก็ตระหนักได้ว่าเธอใช้ชื่อภาษาอังกฤษที่นี่ ก็รีบอธิบายใหม่อีกรอบ "เธอเป็นภรรยาของผม พวกเราเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ผมก็เลยมาเพื่อปรับความเข้าใจกับเธอ"เจ้าของบ้านโบกมือทันที "ที่นี่ไม่มีคนที่คุณกำลังตามหาหรอก""เธอชื่ออันหนิง ชื่อภาษาอังกฤษคือNING"เจ้าของบ้านยังพูดอีก "ผู้เช่าของผมชื่อเซี่ยงหยวน ไม่ใช่คนที่คุณกำลังพูดถึง คุณมาหาผิดคนแล้ว"เซี่ยงหยวน?เผยซือเหนียนตกอยู่ในภาวะไปต่อไม่ถูก"คุณแน่ใจนะครับว่าไม่ได้จำชื่อผิด?"เจ้าของบ้านเริ่มอารมณ์เสีย "ถ้าคุณไม่เชื่อก็ช่างเถอะ"ขณะพูด ก็เตรียมจะปิดประตูไปเผยซือเหนียนไม่ยอมปล่อยเบาะแสตรงหน้าไปง่ายๆ ก็ควักธนบัตรออกมาแล้วไล่ถามต่อ "คิดซะว่านี่เป็

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 17

    ป้าคนนึงทีเพิ่งหย่ากับสามีที่นอกใจมาหมาดๆ เกลียดพวกเมียน้อยจนเข้าไส้ ก็เดินขึ้นไปขวางทางเธอ แล้วด่ากราด "อายุก็แค่นี้ริอาจทำเรื่องต่ำทราม จะเป็นเมียน้อยทำบ้านเค้าแตกให้ได้เลย? ถุย พวกสันดานเมียน้อย!"หลินจิ้งเห็นว่าเธอเป็นแค่คนแปลกหน้าแต่มาด่าตัวเอง ก็ด่ากลับอย่างไม่ยอมแพ้ "นี่ป้า สภาพนี้คงอยากจะเป็นเมียน้อยแต่ไม่มีปัญญามากกว่ามั้ง มาด่าฉันเป็นเมียน้อย คงไม่ใช่ว่าตัวเองเอาผัวไม่อยู่ เลยโดนทิ้งมาหรอกนะ?""ถุย ก็ยังดีกว่าแกที่แก้ผ้าโดนเขาไล่ตะเพิดออกมาล่ะวะ!" ป้าโมโหจนยื่นมือออกมากระชากเธอสถานการณ์กลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาทันทีป้าคนนั้นอาศัยอยู่แถวนี้ ไม่นานก็เรียกรวมพลเพื่อนๆ มารุมด่าหลินจิ้ง ว่าเป็นเมียน้อยหน้าด้าน ส่วนคนอื่นๆ ที่มามุงดูดราม่านี้ ก็เรียกทุกคนเข้ามาดูเพิ่ม จนไม่นานก็รวมคนได้จำนวนมากเสียงเอะอะดังใหญ่โตจนคนในวิลล่ายังได้ยิน แต่เผยซือเหนียนกลับเพิกเฉย ขังตัวเองไว้ในโลกส่วนตัวไม่ยอมออกมาไม่ว่าหลินจิ้งจะปากจัดยังไง ก็ไม่อาจด่าสู้กับคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ เธอโมโหจนร้องไห้ อยากจะปิดหน้าแล้ววิ่งหนีออกไปจากวง แต่ก็เกือบถูกพวกหื่มกามยื่นมือมาแตะอั๋งอีก"ไสหัวไป! อย่ามาแตะตัว

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 16

    "เธอไม่มีสิทธิ์วิจารณ์อันหนิง ที่สำคัญเธอเองก็หวังให้รูปมันจะถูกแชร์ออกไปเหมือนกันล่ะสิท่า? เธอถ่ายหน้าฉันชัดขนาดนั้น แต่กลับบังคับตัวเองไม่ให้เขากล้อง อย่านึกว่าฉันไม่รู้ เธอคิดจะอาศัยวิธีนี้เพื่อไต่เต้าอยู่แล้วล่ะสิท่า?"เวลานี้สติสัมปรัชชัญญะของเขาแจ่มแจ้งซะยิ่งกว่าอะไร แต่มันก็สายไปแล้วหลินจิ้งยังอยากจะแก้ต่าง แต่เขาเกลียดชังเธอซะยิ่งกว่าอะไร ไม่คิดจะให้โอกาสอีกแม้แต่นิดเดียว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารปภ.ของวิลล่า แล้วออกคำสั่ง "ลากตัวคนที่ไม่สมควรเสนอหน้าอยู่ที่นี่ออกไป"รปภ.ของวิลล่าคอยเฝ้ายามอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากออกคำสั่งเสร็จก็รีบมาทันทีหลินจิ้งไม่ยอมไปกับพวกเขา ยังพยายามดิ้นรนขัดขืน "ซือเหนียน คุณเป็นคนเรียกฉันมา ตอนนี้คุณจะให้ฉันไป ฉันก็จะไป แต่คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้..."เผยซือเหนียนหันหลังให้เธอแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เขาทิ้งประโยคนึงโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา "อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก""ซือเหนียน..."หลินจิ้งถูกลากออกจากประตูของวิลล่าไปทั้งอย่างนั้น เธอมองประตูเหล็กแกะสลักปิดลงต่อหน้าต่อตา ราวกับว่าชีวิตของคุณนายไฮโซได้ออกห่างจากตัวเองไปไกลทุกที เธอเริ่มตะโกน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status