Share

บทที่ 3

Author: หลางเทียนเป๋ายุ๋น
เผยซือเหนียนลนลานทันที เขารีบขึ้นหน้าเข้ามาดูสถานการณ์ "อาหนิง เป็นอะไร?"

อันหนิงอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะกลับมาหายใจได้สะดวก

เธอไม่อาจเข้าใจ

ทำไมเผยซือเหนียนที่รักเธอมากมายขนาดนั้นถึงได้นอกใจได้ลงคอ

เขาไม่กลัวว่าเธอจะรู้หรอ?

หรือจะบอกว่า เขาคิดว่าตัวเองสามารถปกปิดได้ดี มีปัญญาจะซ่อนเร้นความจริงนี้จากเธอได้ตลอดไป?

ลมในยามค่ำคืนพัดเข้ามาหนึ่งระลอก ช่วยให้ความคิดของอันหนิงกระจ่างแจ้งมากขึ้น

เผยซือเหนียนถามเธอ "ไม่เป็นไรนะอาหนิง? ถ้าไม่สบายฉันจะพาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย"

"ไม่ต้องหรอก สงสัยว่ามื้อค่ำอาจจะกินของเน่าๆ เข้าไป"

"งั้นพรุ่งนี้เธอมาหาฉันที่บริษัท แล้วเรากินข้าวด้วยกัน"

อันหนิงแค่นหัวเราะเสียงเย็น

จะให้ไปดูนายกับหลินจิ้งแสดงจินตลีลาในห้องทำงานกันหรือไง?

จู่ๆ เธอก็นึกอยากลองใจเขาขึ้นมา

"ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้เช้าฉันไปบริษัทกับนาย นั่งทำงานกับนาย จากนั้นกินข้าวด้วยกัน พอตอนเย็นเราค่อยกลับบ้านพร้อมกัน"

เผยซือเหนียนไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะตกลง สีหน้าก็เริ่มแสดงความหนักใจ "แต่ช่วงนี้งานฉันยุ่งมาก อาจจะอยู่กับเธอไม่ได้ตลอดเวลา"

"งั้นนายก็ทำงานของนายไป ฉันจะนั่งรอในห้องทำงานจนกว่านายจะกลับ"

"...งั้นก็ตามใจ"

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เผยซือเหนียนเป็นฝ่ายเสนอตัวบอกว่าจะไปเตรียมน้ำอาบให้อันหนิง เมื่อเข้าไปในห้องน้ำ กลับล็อคกลอนประตูอย่างผิดปกติ

ส่วนอันหนิงก็ลงไปชั้นล่าง แล้วกลับเข้าไปในนั่งรถ

หลังจากสตาร์ทรถเสร็จ หน้าจอก็แสดงภาพบันทึกการสนทนาในทันที

เผยซือเหนียน : แพลนเปลี่ยนนิดหน่อย พรุ่งนี้เราทำกันในห้องทำงานไม่ได้แล้ว

ยัยแมวยั่วสวาทจิ้งจิ้ง : อ๊ะ แอบผิดหวังเล็กๆ แฮะ

เผยซือเหนียน : ไม่ต้องผิดหวัง เดี๋ยวพี่พาเธอไปทำบนดาดฟ้า เร้าใจกว่าเยอะ

ยัยแมวยั่วสวาทจิ้งจิ้ง : คิกๆๆ พี่จึ้งที่สุดเลยค่ะ

เมื่ออันหนิงกลับมาที่ห้องนอน เผยซือเหนียนก็ออกมาจากห้องน้ำพอดี "อาหนิง ฉันเตรียมน้ำอาบให้แล้ว เธอไปแช่น้ำสักหน่อยสิ"

"ไม่ล่ะ ฉันอยากนอนแล้ว"

"เอางั้นก็ได้ ถ้าง่วงก็นอนเถอะ อ้อจริงสิ ของขวัญที่เธอวางไว้บนโต๊ะ ฉันแกะตอนนี้เลยได้ไหม?"

อันหนิงว่า "อีกหนึ่งอาทิตย์นายค่อยแกะ"

"ทำไมต้องรออีกหนึ่งอาทิตย์? ฉันอยากดูตอนนี้เลยว่าอาหนิงของฉันเตรียมอะไรเอาไว้ให้"

"เพราะ..."

เพราะอีกหนึ่งอาทิตย์ ฉันก็จะไปจากนายตลอดกาล

"เพราะอีกหนึ่งอาทิตย์ ของขวัญนี่จะมีความหมายยิ่งขึ้นยังไงล่ะ"

เผยซือเหนียนจุมพิตบนหน้าผากของเธอเบาๆ "ตกลง เอาตามที่เธอว่า"

เช้าวันต่อมา โทรศัพท์ของเผยซือเหนียนส่งเสียงดังตั้งแต่หกโมงกว่า

เขากดปิดมัน แล้วดึงตัวกลับมากอดอันหนิง "ไม่ต้องไปสนใจ นอนต่ออีกหน่อย"

แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นไม่หยุด

เผยซือเหนียนขมวดคิ้วด้วยความหัวเสีย "ยังไม่ถึงเวลาทำงาน โทรตามจิกตั้งแต่ไก่โห่ เดี๋ยวปั๊ดไล่ไอ้ผู้บริหารกลุ่มนี้ออกให้หมด"

จากนั้นก็กดปิดมันอีกครั้ง

เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม เผยซือเหนียนลุกขึ้นจากเตียงด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว "อาหนิง เธอนอนต่อีกหน่อย ฉันจะไปถามดูซิว่ามันมีเรื่องคอขาดบาดตายอะไรถึงโทรมาไม่เลิก"

อันหนิงตอบกลับ "อืม" เบาๆ

พลิกตัวหันหลังให้เขา

เผยซือเหนียนหยิบโทรศัพท์แล้วออกจากห้องนอน

แต่ไม่นาน ร่างของเขาก็ไปโผล่ที่หน้าประตูใหญ่ชั้นล่าง

ด้านนอกมีไรเดอร์สวมชุดสีเหลืองยืนอยู่ และยื่นของให้เขาห่อนึง

เผยซือเหนียนรับมันมา แต่ตอนที่กลับเข้าบ้าน ในมือกลับไม่มีอะไร

อันหนิงถามเขา "เรื่องที่บริษัทเลวร้ายมากไหม?"

เผยซือเหนียนตอบ "ไม่มาก อันหนิง เธอไม่ต้องห่วง ทำใจให้สบายแล้วพักผ่อนเถอะ ฉันจะไปทำอาหารเช้าให้"

ไม่รู้ว่าเพราะเกิดใจฝ่อขึ้นมา หรือเพราะเป็นห่วงว่าเธอท้องเสียจริงๆ มื้อนี้เผยซือเหนียนถึงได้ทำอาหารออกมาได้ตระการตาทีเดียว

ทั้งนม ไข่ ขนมปัง แยม ยังมีซุปข้าวโอ๊ตที่เธอชอบอีก

"ต่อไปนี้เธอจะซี้ซั้วกินไม่ได้แล้ว ฉันจ้างแม่บ้านมาคอยทำอาหารเช้าให้เธอกินทุกวันดีกว่า"

"ไม่ต้องหรอก"

"เด็กดี อาหนิงเชื่อฟังฉันเถอะ ไม่งั้นฉันไปทำงานก็ไม่สบายใจ"

"ซือเหนียน ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?"

"ถามมาสิ"

อันหนิงวางช้อนลง แล้วถามขึ้นด้วยเสียงเรียบ "อาถรรพ์รักเจ็ดปี นายว่ามันจริงไหม?"

เผยซือเหนียนทำหน้าขยะแขยงออกมาทันที "นั่นมันก็แค่ข้ออ้างของพวกผู้ชายคนอื่นที่ปันใจให้คนอื่นแล้ว ฉันไม่เหมือนพวกนั้น ชาตินี้ฉันจะรักแค่อาหนิงของฉันคนเดียว"

"ชาตินี้จะรักแค่ฉันคนเดียว?"

"ใช่"

"แล้วถ้านายเกิดไปรักผู้หญิงคนอื่นขึ้นมาล่ะ?"

"งั้นก็ขอให้ฉันโดนฟ้าผ่าภายในห้าวัน ขอให้ฉันไม่ตายดี"

อันหนิงยิ้มเสียดสี "คำสาบานแรงกล้าขนาดนี้ นายไม่กลัวว่าจะเป็นจริงขึ้นมาหรอ?"

"ฉันพูดแต่ความจริง ทำไมต้องกลัว?"

อันหนิงหยิบช้อนขึ้นมาใหม่ แล้วทาแยมลงบนขนมปัง

เผยซือเหนียนพูด "อาหนิง เธอต้องเชื่อฉันนะ"

อันหนิงพูดแค่ว่า "กินข้าวเถอะ"

"ยังไม่เชื่อฉันอีกหรอ? หรือต้องให้ฉันควักหัวใจออกมาให้ดูเธอถึงจะเชื่อ?"

"ที่บริษัทยังมีคนรอนายอยู่ อย่าไปสายซะล่ะ"

เผยซือเหนียนจึงสบายใจในที่สุด และนั่งลงตรงข้ามกับเธอ "ปล่อยให้พวกนั้นรอไปเถอะ ไอ้พวกไม่ได้ความ ฉันจะไล่ออกให้หมด"

"ไล่เขาออก นายตัดใจได้หรอ?"

ที่อันหนิงหมายถึงคือ "หล่อน" ไม่ใช่ "พวกเขา"

เธอไม่รู้ว่าเผยซือเหนียนฟังความหมายออกหรือไม่ แต่ได้ยินเขาพูดแค่ว่า "นอกจากเธอ ก็ไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องเสียดาย"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 21

    อดพูดไม่ได้เลยว่า ท่าทางของเผยซือเหนียนในวิดีโอดูแล้วติดตามาก ต่อให้เป็นต่างชาติที่ฟังภาษาของเขาไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังสัมผัสได้ถูกความสิ้นหวังจากบนสีหน้าของเขาและซับไตเติ้ล"ไม่หรอก" อันหนิงโอบกอดเจ้าเหมียว ทอดตาลงต่ำแล้วพูด "เราทุกคนต่างก็เกิดมาตัวคนเดียว ไม่มีใครจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อไป ถ้าเขาละทิ้งชีวิตตัวเองด้วยเหตุผลนี้จริงๆ นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จะให้คนอื่นเสียสละตัวเองเพื่อทำตามที่เขาขอก็คงไม่ได้หรอก"เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว ต่อให้เผยซือเหนียนมายืนร้องไห้ต่อหน้า เธอก็ไม่มีทางกลับไปลิซ่าเองก็ยิ้มน้อยๆ "งั้้นก็ดี เธออยู่ที่นี่ให้สบายใจดีกว่า ช่วงนี้ในป่ามีพายุหิมะ ถนนในเมืองทุกสายที่ตัดผ่านที่นี่ถูกปิดไปหมด ต่อให้มีคนเข้าใจผิดว่าพวกเธอคือคนเดียวกัน ก็ไม่มีโอกาสได้ติดต่อไปรายงานพวกเขาแน่"ในหัวใจของอันหนิงผุดความอบอุ่นขึ้นมา เธอลองชิมคุกกี้ที่เพิ่งอบมาได้ไม่นาน แล้วพูดพร้อมกับขอบตาแดงระเรื่อ "ขอบคุณนะ คุกกี้อร่อยมาก จริงๆ นะ"วันเวลาผ่านไปไวเหมือนสายน้ำไหล ไม่นานก็มาถึงคืนคริสมาสต์อีฟ นี่เป็นวันสำคัญของชาวเมือง หนุ่มสาวจำนวนมากที่ไปทำงานต่าง

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 20

    สติของเขาถูกบดขยี้ด้วยความสิ้นหวังที่ไร้ซึ่งขอบเขตมานานแล้ว กระทั่งปลายสายให้ที่อยู่ในประเทศมาแบบคลุมเครือ จึงวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่นไม่ได้เหนือความคาดหมาย คนๆ นี้หลอกเขาแต่เขาไม่ได้ไล่บี้ เพราะไม่มีเรี่ยวแรงอีกต่อไปหลังจากวันนั้น สายที่โทรเข้ามาทำนองนี้ก็มีมาต่อเนื่องไม่หยุดทุกคนล้วนเจออันหนิงในที่ใดที่หนึ่ง จากนั้นก็ขอเงินรางวัลจากเผยซือเหนียนไม่มากก็น้อยทั้งที่เขาก็รู้ว่าในบรรดากลุ่มคนเหล่านั้นมีมิจฉาชีพตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ยังโอนเงินให้เหมือนเดิม นั่นก็เพื่อคว้าความหวังอันริบหรี่เอาไว้เงินรางวัลที่ว่าสุดท้ายก็กลายเป็นแค่ก้อนหินที่จมลงไปในทะเล โดยไม่มีแม้แต่ละอองน้ำสะเด็ดขึ้นมาแต่เผยซือเหนียนก็หาได้สนใจไม่ ตอนนี้เขาได้แต่อาศัยความคิดนี้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไปวันๆ ต่อให้จะมีคนบอกว่าต้องการนัดคุย เขาก็ยังไปตามนัดยังมีผู้หญิงบางส่วนที่ใช้วิธีนี้เพื่อเข้าหาเขา แต่ละคนแต่งตัวสวยอวดสัดส่วนเต็มที่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ทั้งยังพูดกับเขาแบบเปิดเผยว่า "คุณเผย ฉันยังมีเพื่อนๆ อีกมากมาย ถ้าคืนไหนที่คุณรู้สึกเหงา พวกเราจะช่วยคลายเหงาได้ทุกเมื่อ"กลายเป็นว่าวิ

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 19

    กระดาษที่อยุ่บนพื้นพวกนั้นเป็นกระดาษชนิดเดียวกับที่อันหนิงเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้เขา เขาเอาสมุดเล่มที่เธอใช้ไม่หมดย้ายจากห้องหนังสือมาห้องนอน จากนั้นก็นั่งเขียนหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันอยู่หลายวันเวลาไร้ซึ่งความหมายในขณะนี้แม่ของเผยซือเหนียนพูดทั้งน้ำตา "อันหนิงไม่ได้อยากเจอลูกแล้ว ต่อให้ลูกเขียนจดหมายขอโทษจนล้นห้องมันจะไปมีประโชน์อะไร? ลูกต้องพูดคำพวกนี้กับเธอด้วยตัวของลูกเอง"เผยซือเหนียนครุ่นคิดอย่างจริงจังนิดหน่อย ยอมรับว่าที่แม่พูดนั้นมีเหตุผล แต่เขาจมอยู่ใต้ตมโคลน จนไม่สามารถออกมาได้แล้ว เขาช้อนดวงตาแดงก่ำขึ้น แล้วพูดอย่างยืนหยัด "เธอจะต้องรู้แน่ ขอแค่ผมเขียนพวกนี้ให้หมด เธอก็จะให้อภัยผม ใช่แล้ว ผมต้องจริงใจให้มาก..."เสียงของเขาแหบแห้ง ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งที่ผิดปกติ ดวงตาก็เป็นประกายแปลกประหลาด พูดได้ครึ่งนึง จู่ๆ ก็ลุกขึ้นแย่งสมุดกลับไป แล้วใช้มือสั่นเทาของเขาเขียนลงไปในสมุด เขาเขียนไปพร้อมกับพูดพึมพำ"อันหนิง ฉันผิดไปแล้ว เธอจะให้อภัยฉันใช่ไหม? ถ้าฉันเขียนจนหมดสมุดเล่มนี้ เธอก็จะต้องกลับมายกโทษให้ฉันแน่ ขอโทษนะ..."เผยซือเหนียนพร่ำประโยคเหล่านี้อย่างไม่รู้จักเหน็ด

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 18

    เขาร้อนใจราวกับมีไฟลนก้น แต่วีซ่ากับตั๋วเครื่องบินไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจะเสร็จได้ในทันทีกว่าเขาจะเหยียบย่างเข้ามาในดินแดนของนอร์เวย์ ทั้งติดต่อสถานทูตกับทางตำรวจเพื่อตามหาอันหนิง ก็กินเวลาเข้าไปแล้วสามวันเผยซือเหนียนเคาประตูคอนโด ตะโกนเรียกชื่อ "อันหนิง" แล้วบุกเข้าไปทันที แต่กลับถูกเจ้าของบ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ห้ามเอาไว้ก่อน เขาพูดด้วยความระแวง "คุณเป็นใคร?""ผมมาหาอันหนิง" เขาพูดเสร็จ ก็ตระหนักได้ว่าเธอใช้ชื่อภาษาอังกฤษที่นี่ ก็รีบอธิบายใหม่อีกรอบ "เธอเป็นภรรยาของผม พวกเราเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ผมก็เลยมาเพื่อปรับความเข้าใจกับเธอ"เจ้าของบ้านโบกมือทันที "ที่นี่ไม่มีคนที่คุณกำลังตามหาหรอก""เธอชื่ออันหนิง ชื่อภาษาอังกฤษคือNING"เจ้าของบ้านยังพูดอีก "ผู้เช่าของผมชื่อเซี่ยงหยวน ไม่ใช่คนที่คุณกำลังพูดถึง คุณมาหาผิดคนแล้ว"เซี่ยงหยวน?เผยซือเหนียนตกอยู่ในภาวะไปต่อไม่ถูก"คุณแน่ใจนะครับว่าไม่ได้จำชื่อผิด?"เจ้าของบ้านเริ่มอารมณ์เสีย "ถ้าคุณไม่เชื่อก็ช่างเถอะ"ขณะพูด ก็เตรียมจะปิดประตูไปเผยซือเหนียนไม่ยอมปล่อยเบาะแสตรงหน้าไปง่ายๆ ก็ควักธนบัตรออกมาแล้วไล่ถามต่อ "คิดซะว่านี่เป็

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 17

    ป้าคนนึงทีเพิ่งหย่ากับสามีที่นอกใจมาหมาดๆ เกลียดพวกเมียน้อยจนเข้าไส้ ก็เดินขึ้นไปขวางทางเธอ แล้วด่ากราด "อายุก็แค่นี้ริอาจทำเรื่องต่ำทราม จะเป็นเมียน้อยทำบ้านเค้าแตกให้ได้เลย? ถุย พวกสันดานเมียน้อย!"หลินจิ้งเห็นว่าเธอเป็นแค่คนแปลกหน้าแต่มาด่าตัวเอง ก็ด่ากลับอย่างไม่ยอมแพ้ "นี่ป้า สภาพนี้คงอยากจะเป็นเมียน้อยแต่ไม่มีปัญญามากกว่ามั้ง มาด่าฉันเป็นเมียน้อย คงไม่ใช่ว่าตัวเองเอาผัวไม่อยู่ เลยโดนทิ้งมาหรอกนะ?""ถุย ก็ยังดีกว่าแกที่แก้ผ้าโดนเขาไล่ตะเพิดออกมาล่ะวะ!" ป้าโมโหจนยื่นมือออกมากระชากเธอสถานการณ์กลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาทันทีป้าคนนั้นอาศัยอยู่แถวนี้ ไม่นานก็เรียกรวมพลเพื่อนๆ มารุมด่าหลินจิ้ง ว่าเป็นเมียน้อยหน้าด้าน ส่วนคนอื่นๆ ที่มามุงดูดราม่านี้ ก็เรียกทุกคนเข้ามาดูเพิ่ม จนไม่นานก็รวมคนได้จำนวนมากเสียงเอะอะดังใหญ่โตจนคนในวิลล่ายังได้ยิน แต่เผยซือเหนียนกลับเพิกเฉย ขังตัวเองไว้ในโลกส่วนตัวไม่ยอมออกมาไม่ว่าหลินจิ้งจะปากจัดยังไง ก็ไม่อาจด่าสู้กับคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ เธอโมโหจนร้องไห้ อยากจะปิดหน้าแล้ววิ่งหนีออกไปจากวง แต่ก็เกือบถูกพวกหื่มกามยื่นมือมาแตะอั๋งอีก"ไสหัวไป! อย่ามาแตะตัว

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 16

    "เธอไม่มีสิทธิ์วิจารณ์อันหนิง ที่สำคัญเธอเองก็หวังให้รูปมันจะถูกแชร์ออกไปเหมือนกันล่ะสิท่า? เธอถ่ายหน้าฉันชัดขนาดนั้น แต่กลับบังคับตัวเองไม่ให้เขากล้อง อย่านึกว่าฉันไม่รู้ เธอคิดจะอาศัยวิธีนี้เพื่อไต่เต้าอยู่แล้วล่ะสิท่า?"เวลานี้สติสัมปรัชชัญญะของเขาแจ่มแจ้งซะยิ่งกว่าอะไร แต่มันก็สายไปแล้วหลินจิ้งยังอยากจะแก้ต่าง แต่เขาเกลียดชังเธอซะยิ่งกว่าอะไร ไม่คิดจะให้โอกาสอีกแม้แต่นิดเดียว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารปภ.ของวิลล่า แล้วออกคำสั่ง "ลากตัวคนที่ไม่สมควรเสนอหน้าอยู่ที่นี่ออกไป"รปภ.ของวิลล่าคอยเฝ้ายามอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากออกคำสั่งเสร็จก็รีบมาทันทีหลินจิ้งไม่ยอมไปกับพวกเขา ยังพยายามดิ้นรนขัดขืน "ซือเหนียน คุณเป็นคนเรียกฉันมา ตอนนี้คุณจะให้ฉันไป ฉันก็จะไป แต่คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้..."เผยซือเหนียนหันหลังให้เธอแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เขาทิ้งประโยคนึงโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา "อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก""ซือเหนียน..."หลินจิ้งถูกลากออกจากประตูของวิลล่าไปทั้งอย่างนั้น เธอมองประตูเหล็กแกะสลักปิดลงต่อหน้าต่อตา ราวกับว่าชีวิตของคุณนายไฮโซได้ออกห่างจากตัวเองไปไกลทุกที เธอเริ่มตะโกน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status