Share

เหล้าเป็นเหตุ (100%)

last update Huling Na-update: 2025-11-02 20:30:18

“ผมจะไม่เอาเรื่องมันก็ได้ แต่อย่าให้มันมาเหยียบที่นี่อีก” ปรเมศเอ่ยอย่างเฉียบขาด ก่อนจะยื่นมือออกไปรับกระดาษชำระจากลูกน้อง เช็ดเลือดชั่วๆ ที่เปื้อนมือของตัวเองออก แล้วปากระดาษชำระลงที่พื้นต่อหน้าคู่กรณี ตบท้ายด้วยการเลิกคิ้วท้าทายพร้อมกับใช้เท้าบดขยี้อย่างโอหัง

ท่าทางกวนๆ ของคุณหมอหนุ่มมาดดิบทำเอาอีกฝ่ายออกอาการฟึดฟัด อยากจะกระโจนเข้ามาเล่นงาน แต่การ์ดของร้านล็อกตัวเอาไว้เสียก่อน             

“มึงใหญ่มาจากไหนถึงกล้ามาสั่งกู!”

“กูใหญ่กว่า ‘พ่อมึง’ ก็แล้วกันล่ะ” ปรเมศเค้นเสียงกระด้างเจือดุดันลอดไรฟัน ปกติเขาไม่ชอบพูดจาข่มใครนักหรอก แต่ครั้งนี้มันเหลืออดจริงๆ   

เป็นที่รู้กันในกลุ่มเพื่อนว่าหากปรเมศทำท่ากำหมัดและขบกรามแน่นอย่างนี้ อีกไม่เกินห้านาทีแม่งได้ราบเป็นหน้ากลองแน่ และดูเหมือนว่าแทนไทจะขยาดกับความดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทางเป็นผู้ดีจ๋าทุกกระเบียดนิ้วของเพื่อนรัก เขาจึงเดินเข้ามาดึงแขนอีกฝ่ายไว้พร้อมเอ่ยห้ามปราม และการกระทำนั้นก็ทำให้สองหนุ่มที่เหลือต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก คืนนี้พวกเขาคงไม่ต้องรอเคลียร์ค่าเสียหายให้ทางร้าน            

ปรเมศเริ่มควบคุมอารมณ์และใจเย็นลง แต่อันธพาลหนุ่มยังทำท่าจะระรานไม่เลิก

“เฮอะ…ไม่แน่จริงนี่หว่า” หลานชายท่านผู้ว่าฯ ลอยหน้ายียวนกวนประสาท ก่อนที่เพื่อนคนหนึ่งจะเดินมากระซิบกระซาบบางอย่าง ส่งผลให้มันชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะทำท่าฮึดฮัด แล้วหมุนตัวเดินลิ่วจากไปแบบไม่เหลียวหลัง เดาว่ามันคงรู้แล้วล่ะว่าปรเมศเป็นใคร ใหญ่มาจากไหน      

ความชุลมุนวุ่นวายจบลงด้วยการที่ไม่มีใครต้องเสียเลือดเสียเนื้อมากไปกว่านั้น กลุ่มไทยมุ่งสลายตัวกลับไปกิน ดื่ม เต้น และสรวลเสเฮฮาตามเดิม 

ส่วนสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มที่มีประเด็นกับไอ้อันธพาลหนุ่มเพราะแย่งธารธารายังคงยืนมองหน้าคุณหมอสาวมาดทอมแต่ใจเป็นหญิงตาละห้อย  

“พี่คะ…พี่เลือกพี่ชายคนนี้จริงๆ เหรอคะ” 

“อือ…”

ธารธาราพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะหลุดอุทานออกมาเมื่อปรเมศคว้าเข้าที่ข้อมือกลมกลึง แล้วลากให้ก้าวเดินตามกันไปด้วยสภาพทุลักทุเล ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้เสวนากับใครหน้าไหนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่ทั้งนั้น!

ครั้นแม่สาวน้อยจะตามตื๊ออย่างไม่ยอมแพ้ ดนัยก็เอ่ยขัดเสียงเย็น

“ไม่ต้องตามไปหรอกน้อง เพื่อนพี่มันชอบผู้ชาย ไม่ได้ชอบเด็กที่ยังโตไม่เต็มวัยอย่างน้อง” นอกจากวาจาที่หลุดออกมาจากปากหยักจะทำให้เธอผิดหวังแล้ว สาวน้อยยังหน้าแดงซ่านด้วยความอับอาย ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น แล้วทำปากยื่นสวนกลับอย่างอวดดี     

“หนูโตแล้ว ไม่ใช่เด็ก”

“งั้นเหรอ…แต่พี่ว่ายังไม่โตนะ กลับไปกินนมนอนเถอะไป”

ดนัยเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ขณะกวาดสายตาคมกริบมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจ ตบท้ายด้วยวาจาที่ทำให้คนฟังแทบจะกรี๊ดลั่น

จากนั้นคุณหมอหนุ่มมาดขรึมก็เดินล้วงกระเป๋าก้าวตามหลังเพื่อนไป ทิ้งให้สาวน้อยหน้ามนเม้มปากและกำหมัดแน่นด้วยความคับข้องใจ      

ครั้นทุกคนกลับมานั่งลงที่โต๊ะดังเดิม การดวลเหล้าที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ปรเมศเป็นคนรินเหล้าให้ธารธาราเองกับมือ ก่อนจะยื่นแก้วของตนมาตรงหน้าพร้อมเอ่ยเป็นเชิงชักชวน

“เอ้า...ชน”

“ขอบใจนะที่มึงช่วยกู” หลังจากยกแก้วขึ้นชนกับแก้วของเขา เธอก็เอ่ยออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ ถึงแม้ปรเมศจะเป็นคนเย็นชาปากร้าย แต่เขาก็มีน้ำใจและรู้จักปกป้องผู้อื่น 

“อย่าเข้าใจผิด กูเปล่าช่วยมึง ก็แค่หมั่นไส้ไอ้กร๊วกนั่นก็เลยสั่งสอนมันนิดหน่อย” พ่อคนฟอร์มจัดไหวไหล่พร้อมเอ่ยหน้าตาย

“แต่ยังไงกูก็ต้องขอบใจที่มึงยอมรับกูเป็นเพื่อน” 

“เฮ้ย! ได้ไง อย่ามาลักไก่ กูยังไม่รับมึงเป็นเพื่อนโว้ย เรายังดวลเหล้ากันไม่จบเสียหน่อย เมื่อกี้กูก็แค่พูดส่งๆ ไปอย่างนั้นแหละ” ปรเมศเอ่ยแย้งเสียงเข้ม 

วาจาที่หลุดออกมาจากปากหยักทำให้คนที่หลงดีใจทำหน้าเจื่อน แทนไทเห็นท่าทีผิดหวังของธารธาราก็นึกสงสารจึงตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ ก่อนจะเอ่ยแซวเพื่อนซี้ตัวแสบด้วยความหมั่นไส้ 

“เฮ้ย! ไอ้เมศปากหมาคนเดิมกลับมาแล้วเหรอวะ แสดงว่าเมื่อกี้ก็แค่ร่างอวตารงั้นสิ”

“นั่นดิ ไอ้กูก็นึกว่ามึงจะทำตัวเป็นฮีโร่ปกป้องเพื่อนอย่างไอ้น้ำ แต่ที่ไหนได้ยังปากแข็งไม่ยอมรับมันเป็นเพื่อนซะงั้น” ภูธฤทธิ์ร่วมผสมโรงอย่างยิ้มๆ

“เรื่องอะไรกูจะรับมันเป็นเพื่อนง่ายๆ มันกับกูยังดวลเหล้ากันไม่รู้ผลแพ้ชนะซะหน่อย”

“เออ…งั้นพวกมึงสองคนก็รีบแดกๆ เข้าไป พวกกูง่วงจะตายชัก” คนที่นั่งเงียบมาตลอดอย่างดนัยโพล่งขึ้นพร้อมกับหาวจนน้ำตาเล็ด สภาพอ่อนเพลียไม่ต่างจากแทนไทและภูธฤทธิ์ เพราะเมื่อคืนนี้ทั้งสามคุณหมอมีเคสผ่าตัดร่วมกัน กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน แถมวันนี้ยังต้องตื่นมาเข้าเวรแต่เช้าอีก

จากนั้นปรเมศและธารธาราก็ผลัดกันยกแก้วเหล้าสาดลงคอ ตอนแรกดูกระตือรือร้น แต่พอผ่านไปนานเข้าทั้งคู่ต่างออกอาการเนือยๆ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้สมองสั่งการช้าลง และลิ้นชักจะพันกัน แต่ที่ทำให้สามคุณหมอหนุ่มซึ่งนั่งจิบเหล้าเป็นกรรมการต่างอมยิ้มด้วยความพอใจคือทั้งคู่ดูพูดกันถูกคอ ชนแก้วกันไปคุยกันไป บ้างมีเสียงหัวเราะคิกคักผสานเสียงห้าวกระด้าง ทว่าโคตรชวนฟัง   

“รู้สึกว่าพอเหล้าเข้าปากพวกมึงจะดูปรองดองกันพิลึก” แทนไทเอ่ยแซวอย่างอารมณ์ดี

“ปรองดองบ้านมึงดิ แหกตาดูซะบ้าง พวกกูแค่ดวลเหล้ากันโว้ย” พ่อคนปากแข็งที่ยังพอมีสติอยู่เอ่ยแย้ง ทำเอาคนฟังส่ายหน้าอย่างยิ้มๆ ขนาดมันเมาจนลิ้นพันกันมันยังไม่วายมาทำปากดีฟอร์มจัดอีก 

จากนั้นสามหนุ่มก็กลั้นขำเอาไว้แทบไม่อยู่ เมื่อปรเมศชวนธารธาราคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย ซึ่งไม่ว่าเขาจะเอ่ยเรื่องไหนก็ดูเหมือนเธอจะรู้ไปเสียหมด 

ซัดเหล้าเข้าปากได้อีกไม่กี่แก้วธารธาราก็เอ่ยเสียงอ้อแอ้ว่าขอพักยก ก่อนจะฟุบลงกับโต๊ะอย่างหมดสภาพ ส่วนปรเมศนั้นเอนหลังพิงพนักโซฟา แล้วนั่งหลับตานิ่งๆ เป็นที่รู้กันว่าท่าทางแบบนี้เมาชัวร์     

“เฮ้ย! ไอ้เมศ มึงไหวป่ะเนี่ย” ภูธฤทธิ์เอ่ยถาม 

“หวาย…” เสียงยานคางของไอ้คนปากแข็งทำให้คนฟังส่ายหน้าเบาๆ ปกติถ้าสภาพเมาค่อนข้างหนักแบบนี้หนึ่งในสามจะต้องไปส่งที่คอนโด แต่ด้วยคืนนี้ทั้งสามคุณหมอต่างเพลียพอกันจึงไม่อาจไปส่งได้

ก่อนที่ภูธฤทธิ์จะหันไปมองคนที่เมาหนักแบบไม่รู้เรื่องยิ่งกว่าเพื่อนซี้ของเขาด้วยความเป็นห่วง จากนั้นก็ถามย้ำปรเมศอีกหน   

“แน่ใจนะว่ามึงไหว”

“กูบอกว่าไหวก็ไหวสิวะ” หลังจากสะบัดศีรษะแรงๆ ปรเมศก็เอ่ยตอบโต้อย่างขึงขัง พยายามจะครองสติตัวเองไม่ให้มีสภาพเมาจนน่าทุเรศอย่างสุดความสามารถ    

“งั้นพวกกูฝากมึงเอาไอ้น้ำกลับด้วยนะ”

“พวกมึงจะรีบกลับไปไหน กูสองคนยังดวลเหล้ากันไม่จบเลย”   

“เออ…มึงสองคนก็แดกๆ กันไปเถอะ พรุงนี้ค่อยไปเล่าให้พวกกูฟังก็ได้ว่าใครชนะ แล้วก็อย่าลืมไปส่งไอ้น้ำด้วยล่ะ” ท้ายประโยคภูธฤทธิ์ไม่ลืมที่จะเอ่ยกำชับ   

“ทำไมต้องให้มันกลับกับกูด้วยวะ กูเอาบิ๊กไบค์มานะโว้ย” ปรเมศเอ่ยท้วงเสียงดังพร้อมทำหน้ายุ่ง ทำเอาคนฟังกลอกตาขึ้นฟ้าแล้วกระแทกเสียงใส่ไอ้คนเรื่องมาก   

“มึงก็ให้มันซ้อนท้าย แค่นั้นจบ”  

“ไม่!” การปฏิเสธอย่างสิ้นเยื่อขาดใยทำให้คนที่ฟุบอยู่กับโต๊ะถึงกับเม้มปากแน่น อยากจะลุกขึ้นมาแล้วตะโกนใส่หน้าไอ้คนใจร้ายนักว่ากูกลับเองก็ได้ แต่มิอาจทำอย่างใจปรารถนาเพราะมึนหัวสุดๆ 

“งั้นพวกมึงก็ตกลงกันเอาเองว่าจะกลับยังไง พวกกูสามคนง่วงจะตายจะห่าอยู่แล้ว…ไปล่ะ” ภูธฤทธิ์ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป โดยมีแทนไทกับดนัยก้าวตามหลังไปติดๆ 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ   ตอนพิเศษ ให้ทุกวันเป็นสีชมพูและหัวใจพองฟู (100%)

    ร่างระหงของคุณแม่ยังสาวแถมยังห้าวเป้งเกินหญิงก้าวมาหยุดลงตรงหน้าคนที่กำลังกอดอกหลับตานิ่งๆ อยู่ตรงม้านั่งยาวในสวนสวยข้างลานลอดรถ คลี่ยิ้มบางๆ แล้วไล้แก้มสากอย่างอ่อนโยน หลุดหัวเราะคิกเมื่อคนที่เผลอหลับชักได้สติครางงึมงำในลำคอคล้ายขัดใจ ครั้นเธอจะละมือห่างเขากลับคว้าเอาไว้ แล้วจูบหนักๆ ลงบนหลังมือนุ่ม แต่แค่นั้นดูเหมือนยังไม่สาแก่ใจ เพราะพ่อเจ้าประคุณทำให้เธอหลุดอุทานหน้าตื่นด้วยการฉุดร่างอ้อนแอ้นลงไปนั่งแหมะบนตักแกร่ง แล้วร้อยรัดเอวคอดกิ่วด้วยวงแขนอุ่นอย่างไม่กริ่งเกรงว่าใครจะมาเห็น ฟอด!!!“คิดถึงจังเลยทูนหัว”หลังจากกดจมูกลงหอมแก้มนวลปลั่งของเมียรักฟอดใหญ่ ชายที่ใครต่อใครต่างขนานนามว่าผู้ทรงอิทธิพลแห่งน่านน้ำอันดามันก็เอ่ยอย่างอ้อนๆ“ปี่ก็คิดถึงคุณค่ะ แต่ปล่อยก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า อายเขาตายเลย”เจ้าของใบหน้าร้อนจี๋ที่ไม่ได้พบหน้าสามีมาสามวันเต็มๆ เพราะเขาบินไปทำธุระด่วนที่ฮ่องกง กระซิบบอกเสียงหวาน แล้วละล่ำละลัก พลางขืนกายออกจากวงแขนล่ำด้วยท่าทีขัดเขิน “ฮื่อ…เห็นก็ช่างเขาสิจ๊ะ ก็ผมคิดถึงคุณนี่นา ลงจากเครื่องได้ก็ให้ไอ้ยุทธมาส่งหาคุณเลยนะ” นอกจากจะไม่ทำตามที่เธอต้องการ ค

  • รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ   ตอนพิเศษ ให้ทุกวันเป็นสีชมพูและหัวใจพองฟู (50%)

    ห้าปีผ่านไปชีวิตคู่ของจอมพลกับปิยฉัตรยังคงหวานชื่นไม่สร่างซา ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาถึงห้าปี เขาไม่เคยรักเธอน้อยลง เช่นเดียวกับเธอที่ไม่เคยรักเขาน้อยลงเช่นกัน ความรักของทั้งคู่ยังคงหวานฉ่ำอย่างไม่น่าเชื่อ แถมใครที่มีโอกาสได้เห็นสองสามีภรรยาแสดงความรักต่อกันก็ต่างอ้าปากค้าง เพราะคิดไม่ถึงว่าผู้ชายบุคลิกดิบเถื่อน เย็นชา ดุดัน และแข็งกระด้าง จะปากหวานและช่างเอาอกเอาใจเมียรักได้มากมายจนชวนทึ่ง เช่นเดียวกับปิยฉัตรที่ทำให้หลายคนซึ่งมีโอกาสได้เห็นบทบาทในฐานะเมียของจอมพล ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงห้าวๆ ลุยๆ บุคลิกค่อนไปทางผู้ชายจะอ่อนหวาน และช่างเอาอกเอาใจสามีได้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่สำคัญคือจอมพลรักและหลงเมียมากจนเป็นที่กล่าวขาน แต่ที่นอกเหนือไปกว่านั้นคือเขาหวงเธอเอามากๆ หวงแม้กระทั่งกับลูกชายและลูกสาวของตัวเอง “แม่จ๋า หนูปิ่นอยากนอนกับแม่” เด็กหญิงปีย์วรา อาศิระ หรือหนูปิ่น หนูน้อยวัยสี่ขวบเอ่ยออดอ้อน พลางซบหน้าที่ถอดพิมพ์มาจากผู้เป็นพ่อเด๊ะแต่ตาสวยเหมือนแม่ลงตรงอกอุ่น น้ำคำออเซาะของลูกสาวสุดสวาททำให้คนเป็นพ่อที่นั่งเหยียดขาพิงหลังกับหมอนชะงักมือที่กำลังเลื่อนอ่านงานผ่านห

  • รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ   บทส่งท้าย งานแต่งที่คนจะต้องกล่าวขานยันลูกบวช (100%)

    จากนั้นยุทธนาก็เดินมาบอกบ่าวสาวว่าถึงเวลาเข้าหอแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งคณะฮาครืนอีกรอบเพราะคำแซวต่างๆ นานา ก่อนที่คู่บ่าวสาวจะไปยังห้องสวีทของโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา “ขอบใจหนูปี่มากนะที่ยอมอดทนกับลูกชายนิสัยเสียของป๊า ยอมให้อภัยไอ้คนใจหมาอย่างมัน และยอมกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันกับมัน ป๊าดีใจนะที่หนูยอมกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกัน ยินดีต้อนรับสู่อาศิระอย่างเป็นทางการนะลูก”เจ้าสัวทรงพลเอ่ยเสียงติดจะสั่นเครือด้วยความตื้นตัน เพราะท่านเฝ้ารอที่จะได้เห็นทั้งคู่ครองรักและแต่งงานกันแบบนี้มานานแล้ว จากนั้นคนแก่ก็เดินเข้าไปสวมกอดลูกสะใภ้ “ทีนี้ก็เรียกป๊าว่าป๊าได้แล้วนะ”“ขอบคุณมากค่ะป๊า”ปิยฉัตรพนมมือไหว้อย่างอ่อนช้อยในจังหวะที่อีกฝ่ายคลายอ้อมแขน แล้วถอยห่างออกไป นัยน์ตากลมโตทั้งสองข้างคลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำใสๆ เพราะซาบซึ้งใจเหลือคณา “ส่วนแกก็ทำตัวให้มันดีๆ ด้วยล่ะไอ้ตัวแสบ อย่าเกเรจนเมียทิ้งอีกเป็นอันขาดเข้าใจไหม ป๊ารักแกนะโว้ย”ขาดคำผู้เป็นพ่อก็ขยับเข้าไปสวมกอดลูกชาย ตบหลังอีกฝ่ายเบาๆ ในจังหวะที่เขาเอ่ยขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณครับป๊า ผมก็รักป๊าเช่นกันครับ” จากนั้นก็เป็นน้องกั

  • รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ   บทส่งท้าย งานแต่งที่คนจะต้องกล่าวขานยันลูกบวช (50%)

    ต่อจากนั้นไม่ถึงหนึ่งเดือน งานแต่งของทั้งคู่ก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ทั้งที่ปิยฉัตรค้านหัวชนฝาแต่สามีจอมเอาแต่ใจกลับไม่ยอมท่าเดียว ดังนั้นเธอจึงแก้เผ็ดโดยการเป็นฝ่ายเลือกชุดบ่าวสาวเอง และบังคับว่าเขาจะต้องใส่ชุดที่เธอเลือกให้โดยไม่มีข้อแม้ และนั่นก็คือที่มาที่ทำให้งานแต่งของทั้งคู่เป็นที่กล่าวขานไปทั้งประเทศ อีกทั้งคนมางานก็ต่างฮาครืน ระเบิดเสียงหัวเราะ หรือถ้าเป็นผู้รากมากดีหน่อยก็จะกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง ก็จะไม่ให้งานแต่งของทั้งคู่เป็นประเด็นทอร์คออฟเดอะทาวน์ได้ยังไง ในเมื่อชุดเจ้าสาวแต่เจ้าสาวไม่ได้ใส่ เช่นเดียวกับชุดเจ้าบ่าวแต่เจ้าบ่าวไม่ได้ใส่ นั่นก็เพราะปิยฉัตรบังคับให้ทั้งคู่สลับชุดกัน ซึ่งในคราแรกนั้นจอมพลออกอาการโวยลั่น แต่พอเจอเธอขึงตา และแหวใส่ว่าจะไม่แต่งเท่านั้นแหละ พ่อเจ้าประคุณก็ว่าง่ายขึ้นมาทันทีประหนึ่งโดนสะกดจิต จับให้แต่งหญิงทั้งหน้า วิกผม และสวมชุดเจ้าสาวหรูหราฟูฟ่องก็ไม่ปริปากบ่น น่ารักเสียจนเธอต้องหอมแก้มให้รางวัลคนทำหน้าเหยเกเพราะสุขล้นนั้นหลายต่อหลายครั้ง ส่วนเธอน่ะเหรอโคตรสบาย ได้สวมชุดเจ้าบ่าวเป็นทักซิโด้สีขาวถือว่าเข้าทางถนัด แต่พุงที่ยื่นออกมา

  • รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ   เลือกแล้วว่าเป็นเธอ (150%)

    “แต่คุณก็ส่งข้อความมาได้นี่นา” “การส่งข้อความถึงคุณมันยิ่งทำให้ผมคิดถึงคุณ อยากได้ยินเสียง อยากเห็นหน้า อาการคิดถึงเมียของผมมันไม่ต่างจากอาการลงแดงนักหรอกทูนหัว” ที่สุดจอมพลก็สารภาพออกมาในสภาพโหนกแก้มแดงก่ำ มันชวนมองจนคนที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นยิ้มร่า ก่อนจะทำใจกล้ายื่นหน้าไปจูบแก้มสากเร็วๆ หนึ่งที และนั่นก็ทำเอาจอมพลถึงกับตาโต อ้าปากค้าง หัวใจพองฟูคับอก “ขอบคุณนะคะที่คิดถึงฉัน” เธอเอ่ยเสียงหวานหยดจนคนฟังใจสั่น ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโรงพยาบาลคงได้หาทางปล้ำคนท้องให้หนำใจ และถ้ารู้ว่าแค่เจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ แล้วจะได้ความน่ารักจากเมียขนาดนี้เขายอมเจ็บตัวทั้งปี“ก็เมียทั้งคนนี่ครับ” น้ำคำสั้นๆ ง่ายๆ แต่ความหมายโคตรดี๊ดีทำเอาคนฟังอุ่นซ่านไปทั้งใจ ปิยฉัตรยิ้มจนแก้มปริ ดวงตายิบหยี ก่อนจะฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ แต่นิ่งไปสักพักถึงได้เอ่ยออกมา“จะเป็นคุณพ่อลูกสองแล้ว ต้องรู้จักปล่อยวางรู้ไหมคะ อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ขอให้มันเป็นเพียงอดีต โดยเฉพาะเรื่องของแม่คุณ และเรื่องของอรอุมา ต่อให้ผู้หญิงทั้งโลกจะเลว แต่ขอให้คุณมั่นใจได้ว่าไม่ใช่ปี่ ปี่ไม่มีวันหักหลังหรือทรยศคุณ เหมือนอย่างที่แม่ของคุณแล

  • รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ   เลือกแล้วว่าเป็นเธอ (125%)

    เขาบอกจะไปแค่เกือบหนึ่งเดือน แต่นี่เลยหนึ่งเดือนมาเป็นอาทิตย์แล้วพ่อของอีหนูในท้องก็ยังไม่โผล่มาให้เห็น ทำเอาว่าที่คุณแม่ซึ่งจะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ากระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก เธอหมั่นเช็กข้อความมือถือที่พ่อของลูกมักจะส่งมาสัพยอกหยอกเย้าเป็นประจำ แต่กลับไม่มีแม้แต่ข้อความเดียวในรอบอาทิตย์ ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาไม่โทรมาหา พอเธอตัดสินใจเป็นฝ่ายติดต่อไปก็ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ ความกังวลและเป็นห่วงจอมพลสารพัดทำให้ปิยฉัตรไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ทานข้าวก็ไม่ค่อยลง นอนก็ไม่หลับ ทั้งที่ตั้งแต่ท้องมาเธอคลั่งไคล้การกินและการนอนหนักเอามากๆ และสภาพเสื่อมโทรมคงไปเตะตาของเพื่อนรักอย่างธารธาราเข้า อีกฝ่ายถึงได้ทิ้งสามีมาชวนเธอไปหาอะไรอร่อยๆ ยัดลงท้องในช่วงหัวคำของสุดสัปดาห์ “ไปกันยังคะคุณแม่” ธารธาราเอ่ยเย้าเล็กๆ ครั้นเห็นเธอพยักหน้าเนือยๆ ก็ตั้งท่าจะไปช่วยถือของที่วางอยู่ข้างกายให้ ทว่ายังไม่ทันจะได้ไปไหนโทรทัศน์ซึ่งแขวนอยู่เหนือศีรษะก็มีการรายงานข่าวด่วนที่ทำให้ทั้งคู่นิ่งจังงัง ‘เครื่องบินของสายการบินดังของอเมริกาไถลออกนอกรันเวย์ ขณะกัปตันกำลังนำเครื่องลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ผ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status