LOGINคล้อยหลังเพื่อนทั้งสาม ปรเมศก็ซัดน้ำเย็นจัดเข้าไปหนึ่งแก้ว ส่งผลให้ตาสว่างขึ้นและสติเริ่มกลับมามากกว่าเดิม หากแต่อาการมึนหัวยังไม่สร่างซา
จากนั้นก็หันไปมองคนที่กำลังเอียงหน้าแนบซีกแก้มด้านขวาไปกับพื้นโต๊ะ เรียวปากอิ่มเต็มเผยอน้อยๆ นัยน์ตาเรียวเล็กหลับพริ้ม ท่าทาชวนเอ็นดูอย่างน่าพิลึก
ภาพตรงหน้าตรึงสายตาของเขาจนหงุดหงิดเพราะกระแสบางอย่าง ก่อนจะยื่นปลายนิ้วชี้ไปจิ้มแก้มป่องๆ พร้อมเอ่ยเรียกเบาๆ
“นี่”
“หือ…” คนเมาไม่ได้สติทำเสียงงึมงำขานรับ ก่อนจะผงกหัวขึ้นมามองอีกฝ่ายตาเยิ้ม
“ไปกลับ”
“ม่ายกลับ อยากมาว…” ธารธาราส่ายหน้าอย่างดื้อดึงพร้อมเอ่ยเสียงยานคาง
“กูบอกให้กลับ” ปรเมศสั่งเสียงเข้ม
“ม่ายกลับ…” คนไร้สติเพราะฤทธิ์น้ำเมายังคงทำท่าดื้อแพ่ง จนเขาต้องกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน แม่งเมาแล้วดื้อจนน่าจับฟาดก้น
“น้ำ…กูบอกให้กลับ”
ถ้อยคำที่เขาพ่นออกมาทำให้คนเมาหูผึ่ง ดูเหมือนสติสตังจะเริ่มกลับมาเพียงเพราะได้ยินชื่อของตัวเองหลุดออกมาจากปากจอมเย่อหยิ่ง
“เมื่อกี้มึงเรียกชื่อกูเหรอ” ธารธาราดันตัวขึ้นมานั่งจ้องหน้าหล่อๆ แล้วเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความกระตือรือร้น เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะเอ่ยเรียกชื่อของเธอ
“ก็เออสิวะ” คนที่เพิ่งรู้ว่าตัวเองพลาดเอ่ยเสียงแข็งๆ
“ดีจัง น้ำชอบ เรียกชื่อน้ำบ่อยๆ นะเมศ”
สรรพนามเรียกขานชื่อของเขาที่เปลี่ยนไปทำให้ปรเมศทำหน้าไม่ถูก ใบหูแดงก่ำ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือหัวใจกระตุกกับน้ำเสียงหวานล้ำเจือออดอ้อนอย่างมิอาจควบคุมได้
“ไม่เรียกโว้ย!” คนฟอร์มจัดโต้เสียงดัง ทำเอาแม่สาวขี้เมาเม้มปากน้ำตาคลอ แล้วเอ่ยตัดพ้อเสียงสั่นๆ
“ใจร้าย”
“ไม่ต้องมาบีบน้ำตา ลุกขึ้น จะได้กลับๆ กันซะที”
“ม่ายกลับ อยากมาว…” ธารธารายังคงเอ่ยย้ำด้วยประโยคเดิม จนเขาต้องเท้าสะเอวมองคนที่เอ่ยปากอ้อแอ้ว่าอยากเมาพร้อมบ่นอุบด้วยความหัวเสีย
“แม่งเมาเหมือนหมา แล้วยังจะมาบอกว่าอยากเมาอีก…ไปลุก”
“ลุกม่ายหวาย มึนหัว อุ้มหน่อยสิ” คนคออ่อนที่เมาแบบหมดสภาพเอ่ยอ้อนเสียงอ้อแอ้ พลางยกแขนทั้งสองข้างเป็นเชิงรอท่าให้อีกฝ่ายมาอุ้ม
“ชิบหาย! ถ้ากูอุ้มมึงคนคงมองว่ากูเป็นพวกผิดเพศชัวร์” วาจาที่หลุดออกมาจากปากหยักทำให้คนฟังหน่วงที่หน้าอกด้านซ้าย ก่อนจะเอ่ยแย้งเสียงเครือ
“กูไม่ได้เป็นพวกผิดเพศอย่างที่มึงยัดเยียดให้…กูเป็นผู้หญิง”
ยังไม่ทันขาดคำคนที่กำลังอยู่ในอารมณ์น้อยใจผสมเมาแบบขาดสติก็ฉวยมือของคุณหมอหนุ่มไปวางแหมะตรงหน้าอกอวบอิ่มที่ถูกรัดด้วยแถบผ้า ทำเอาเขาสะดุ้งเฮือกพร้อมหลุดสบถออกมา
“ชิบหาย!”
“กูมีนม” คนเมาเชิดหน้าบอกเหมือนภูมิใจเสียเต็มประดา
ปรเมศสะบัดมือออกประหนึ่งโดนของร้อน หอบหายใจแรง แค่ได้สัมผัสเจ้าก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นที่ถูกเจ้าตัวซุกซ่อนไว้ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวเลือดในกายของเขาก็เหมือนร้อนฉ่าขึ้นมาทันควัน
เวรแล้วไหมล่ะ! เขากำลังเกิดอารมณ์บ้าๆ กับยัยทอมที่เขาแสนจะเกลียดขี้หน้าอย่างนั้นเหรอวะ
ยังไม่ทันที่ปรเมศจะได้ตรึกตรองถึงความรู้สึกที่ผุดขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วนอย่างถ้วนถี่ คนเมาก็ส่งเสียงหวานหยดชวนใจสะท้านมาออดอ้อน
“เมศจ๋า…”
“หยุดพล่าม แล้วลุกขึ้น ไม่งั้นกูทิ้งมึงไว้นี่แน่” เจ้าของโหนกแก้มแดงก่ำเอ่ยขู่เสียงเข้ม ทำให้อีกฝ่ายเบ้หน้าด้วยความน้อยอกน้อยใจ ยิ่งเมาเธอก็ยิ่งควบคุมอารมณ์ความรู้สึกไม่อยู่
“มึงมันคนใจร้าย” เสียงสั่นเครือติดจะอ้อแอ้เอ่ยตัดพ้อ
ปรเมศลุกขึ้น เงยหน้ากลอกตาขึ้นฟ้า แล้วสบถออกมาอย่างไม่รู้จะจัดการกับคนเมาขี้ใจน้อยยังไง เขามันผู้ชายปากหมาสายดาร์กไม่ถนัดปลอบใครเสียด้วยสิ
“ไอ้คนหน้านิ่ง หยิ่งยโส ไร้หัวใจ” เธอยังคงต่อว่าเสียงสะท้าน ตาเรียวยาวคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ
“เชี่ยเอ๊ย! อย่ามาดราม่า กูบอกให้ลุก” แทนที่จะเอ่ยปลอบปรเมศกลับกระชากเสียงใส่แบบฮาร์ดคอร์ทำให้คนอารมณ์อ่อนไหวถึงกับน้ำตาซึม ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าพร้อมเอ่ยอย่างดื้อแพ่ง
“ม่ายลุก กูอยากมาว…”
“จะลุกไม่ลุก” เขาเท้าสะเอวทำเสียงเข้ม เพราะชักจะทนไม่ไหวเสียแล้ว
“ก็บอกแล้วไงว่าอยากมาว….”
“เออ…อยากเมาก็มากินเหล้ากับกูต่อ เราสองคนจะได้เมาแม่งหัวราน้ำกันไปเลย” ว่าแล้วแบดบอยตัวร้ายก็ทรุดกายลงนั่งข้างคนอยากเมา คว้าลำคอระหงแรงๆ มากอด
“เอ้า…ชน”
จากนั้นทั้งคู่ก็กอดคอชนแก้วกัน บ้างพูดคุยเรื่องที่ไม่เคยคุยกัน มีเสียงหัวเราะคิกคักผสานกับเสียวห้าวทุ้มติดจะอ้อแอ้ดังออกมาเป็นระยะ ซึ่งถ้าใครได้มาเห็นภาพนี้เข้าคงพากันทำหน้าเหวอ เพราะไม่คิดว่าคนเกลียดขี้หน้ากันจะมานั่งซดเหล้าด้วยกัน แถมยังคุยกันอย่างถูกคอจนน่าพิลึก
หลังจากยกเหล้าซดหมดแก้ว ธารธาราก็หันไปทาบฝ่ามือลงตรงซีกแก้มสากของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ จับหน้าของอีกฝ่ายเอียงไปเอียงมาขณะที่สายตาหยาดเยิ้มมองไม่กะพริบ แล้วเอ่ยเสียงหวานๆ ทำเอาคนไม่ชินกับความเป็นหญิงของเธอถึงกับใจสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้
“อือ…ไอ้เมศ ทำไมตอนเมามึงหล่อจังวะ”
“แล้วตอนไม่เมากูไม่หล่อหรือไง”
เขาถามเสียงห้าวติดจะพร่ามีแววหยอกล้อเล็กๆ ก่อนจะปัดมือเรียวออกจากข้างแก้ม แล้วยื่นหน้าเข้ามาหาจนปลายจมูกคมสันแตะปลายจมูกรั้น ทำเอาลมหายใจของคนถูกจู่โจมถึงกับสะดุดกึก หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ส่วนใบหน้านวลปลั่งนั้นเห่อร้อนด้วยความสะเทิ้นอายแกมประหม่า
“หล่อ…แต่ตอนเมาหล่อกว่า ตาเยิ้มโคตรเซ็กซี่” วาจาเยินยอซื่อๆ ที่หลุดออกมาจากปากอวบอิ่มทำให้คนที่มักไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ผ่านทางสีหน้าหัวใจกระตุกวาบอย่างช่วยไม่ได้ ริมฝีปากหยักกดลึกคล้ายพึงพอใจ และรอยยิ้มเล็กๆ นั้นก็ทำให้อีกฝ่ายทำหน้าเหวอ
เอ๊ะ!...เธอตาฝาดหรือเมาจนเป็นบ้าสติฟั่นเฟือนกันแน่ ถึงได้เห็นมุมปากของเขายกยิ้ม
“มึงยิ้มเป็นด้วยเหรอ” ธารธาราละล่ำละลักถาม พร้อมจ้องหน้าหล่อระเบิดระเบ้อที่เพิ่งผละห่างเหมือนตัวประหลาด
“อ้าว…กูก็คนนะครับ” เขาเลิกคิ้วเอ่ยหน้าตาย ทว่าแววตากลับปรากฏรอยยิ้มพรายชวนมอง และนั่นก็ทำเอาคนที่หัวใจเต้นแรงย้ำๆ ซ้ำๆ ถึงกับยิ้มแก้มปริ อุ่นวาบในอกจนบรรยายแทบไม่ถูก
“ยิ้มให้กูบ่อยๆ นะ…กูชอบ มึงยิ้มทีใจละลาย” คุณหมอสาวเอ่ยเป็นเชิงอ้อนพร้อมมองหน้าหล่อๆ ด้วยสายตาหวานเชื่อม ขาดคำเธอก็ฟุบไปกับโต๊ะเสียดื้อๆ
“เฮ้ย! ไอ้น้ำ นี่มึงน็อกกลางอากาศเลยเหรอวะ”
“ฮื้อ…กูไม่ได้น็อก มึนหัวเฉยๆ ขอพักยกแป๊บนึง” คนเมาจัดทำเสียงงึมงำทั้งที่หน้ายังซุกอยู่กับโต๊ะ
“ไม่ต้องพักยกหรอก กูแดกเหล้าไม่ไหวแล้ว เรากลับกันเหอะ เดี๋ยวกูไปส่ง” เอ่ยจบร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างก็ผุดลุกขึ้น แล้วเซนิดๆ อาการมึนหัวพุ่งเข้าจู่โจมจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่
ปรเมศยืนหลับตานิ่วหน้าอยู่สักพัก ทว่าสุดท้ายก็ไม่อาจฝืนจำต้องทรุดกายลงนั่งอย่างหมดสภาพ เอื้อมมือไปประสานกับมือของธารธาราเอาไว้ แล้วฟุบไปไม่ต่างจากอีกฝ่าย
ร่างระหงของคุณแม่ยังสาวแถมยังห้าวเป้งเกินหญิงก้าวมาหยุดลงตรงหน้าคนที่กำลังกอดอกหลับตานิ่งๆ อยู่ตรงม้านั่งยาวในสวนสวยข้างลานลอดรถ คลี่ยิ้มบางๆ แล้วไล้แก้มสากอย่างอ่อนโยน หลุดหัวเราะคิกเมื่อคนที่เผลอหลับชักได้สติครางงึมงำในลำคอคล้ายขัดใจ ครั้นเธอจะละมือห่างเขากลับคว้าเอาไว้ แล้วจูบหนักๆ ลงบนหลังมือนุ่ม แต่แค่นั้นดูเหมือนยังไม่สาแก่ใจ เพราะพ่อเจ้าประคุณทำให้เธอหลุดอุทานหน้าตื่นด้วยการฉุดร่างอ้อนแอ้นลงไปนั่งแหมะบนตักแกร่ง แล้วร้อยรัดเอวคอดกิ่วด้วยวงแขนอุ่นอย่างไม่กริ่งเกรงว่าใครจะมาเห็น ฟอด!!!“คิดถึงจังเลยทูนหัว”หลังจากกดจมูกลงหอมแก้มนวลปลั่งของเมียรักฟอดใหญ่ ชายที่ใครต่อใครต่างขนานนามว่าผู้ทรงอิทธิพลแห่งน่านน้ำอันดามันก็เอ่ยอย่างอ้อนๆ“ปี่ก็คิดถึงคุณค่ะ แต่ปล่อยก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า อายเขาตายเลย”เจ้าของใบหน้าร้อนจี๋ที่ไม่ได้พบหน้าสามีมาสามวันเต็มๆ เพราะเขาบินไปทำธุระด่วนที่ฮ่องกง กระซิบบอกเสียงหวาน แล้วละล่ำละลัก พลางขืนกายออกจากวงแขนล่ำด้วยท่าทีขัดเขิน “ฮื่อ…เห็นก็ช่างเขาสิจ๊ะ ก็ผมคิดถึงคุณนี่นา ลงจากเครื่องได้ก็ให้ไอ้ยุทธมาส่งหาคุณเลยนะ” นอกจากจะไม่ทำตามที่เธอต้องการ ค
ห้าปีผ่านไปชีวิตคู่ของจอมพลกับปิยฉัตรยังคงหวานชื่นไม่สร่างซา ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาถึงห้าปี เขาไม่เคยรักเธอน้อยลง เช่นเดียวกับเธอที่ไม่เคยรักเขาน้อยลงเช่นกัน ความรักของทั้งคู่ยังคงหวานฉ่ำอย่างไม่น่าเชื่อ แถมใครที่มีโอกาสได้เห็นสองสามีภรรยาแสดงความรักต่อกันก็ต่างอ้าปากค้าง เพราะคิดไม่ถึงว่าผู้ชายบุคลิกดิบเถื่อน เย็นชา ดุดัน และแข็งกระด้าง จะปากหวานและช่างเอาอกเอาใจเมียรักได้มากมายจนชวนทึ่ง เช่นเดียวกับปิยฉัตรที่ทำให้หลายคนซึ่งมีโอกาสได้เห็นบทบาทในฐานะเมียของจอมพล ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงห้าวๆ ลุยๆ บุคลิกค่อนไปทางผู้ชายจะอ่อนหวาน และช่างเอาอกเอาใจสามีได้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่สำคัญคือจอมพลรักและหลงเมียมากจนเป็นที่กล่าวขาน แต่ที่นอกเหนือไปกว่านั้นคือเขาหวงเธอเอามากๆ หวงแม้กระทั่งกับลูกชายและลูกสาวของตัวเอง “แม่จ๋า หนูปิ่นอยากนอนกับแม่” เด็กหญิงปีย์วรา อาศิระ หรือหนูปิ่น หนูน้อยวัยสี่ขวบเอ่ยออดอ้อน พลางซบหน้าที่ถอดพิมพ์มาจากผู้เป็นพ่อเด๊ะแต่ตาสวยเหมือนแม่ลงตรงอกอุ่น น้ำคำออเซาะของลูกสาวสุดสวาททำให้คนเป็นพ่อที่นั่งเหยียดขาพิงหลังกับหมอนชะงักมือที่กำลังเลื่อนอ่านงานผ่านห
จากนั้นยุทธนาก็เดินมาบอกบ่าวสาวว่าถึงเวลาเข้าหอแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งคณะฮาครืนอีกรอบเพราะคำแซวต่างๆ นานา ก่อนที่คู่บ่าวสาวจะไปยังห้องสวีทของโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา “ขอบใจหนูปี่มากนะที่ยอมอดทนกับลูกชายนิสัยเสียของป๊า ยอมให้อภัยไอ้คนใจหมาอย่างมัน และยอมกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันกับมัน ป๊าดีใจนะที่หนูยอมกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกัน ยินดีต้อนรับสู่อาศิระอย่างเป็นทางการนะลูก”เจ้าสัวทรงพลเอ่ยเสียงติดจะสั่นเครือด้วยความตื้นตัน เพราะท่านเฝ้ารอที่จะได้เห็นทั้งคู่ครองรักและแต่งงานกันแบบนี้มานานแล้ว จากนั้นคนแก่ก็เดินเข้าไปสวมกอดลูกสะใภ้ “ทีนี้ก็เรียกป๊าว่าป๊าได้แล้วนะ”“ขอบคุณมากค่ะป๊า”ปิยฉัตรพนมมือไหว้อย่างอ่อนช้อยในจังหวะที่อีกฝ่ายคลายอ้อมแขน แล้วถอยห่างออกไป นัยน์ตากลมโตทั้งสองข้างคลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำใสๆ เพราะซาบซึ้งใจเหลือคณา “ส่วนแกก็ทำตัวให้มันดีๆ ด้วยล่ะไอ้ตัวแสบ อย่าเกเรจนเมียทิ้งอีกเป็นอันขาดเข้าใจไหม ป๊ารักแกนะโว้ย”ขาดคำผู้เป็นพ่อก็ขยับเข้าไปสวมกอดลูกชาย ตบหลังอีกฝ่ายเบาๆ ในจังหวะที่เขาเอ่ยขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณครับป๊า ผมก็รักป๊าเช่นกันครับ” จากนั้นก็เป็นน้องกั
ต่อจากนั้นไม่ถึงหนึ่งเดือน งานแต่งของทั้งคู่ก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ทั้งที่ปิยฉัตรค้านหัวชนฝาแต่สามีจอมเอาแต่ใจกลับไม่ยอมท่าเดียว ดังนั้นเธอจึงแก้เผ็ดโดยการเป็นฝ่ายเลือกชุดบ่าวสาวเอง และบังคับว่าเขาจะต้องใส่ชุดที่เธอเลือกให้โดยไม่มีข้อแม้ และนั่นก็คือที่มาที่ทำให้งานแต่งของทั้งคู่เป็นที่กล่าวขานไปทั้งประเทศ อีกทั้งคนมางานก็ต่างฮาครืน ระเบิดเสียงหัวเราะ หรือถ้าเป็นผู้รากมากดีหน่อยก็จะกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง ก็จะไม่ให้งานแต่งของทั้งคู่เป็นประเด็นทอร์คออฟเดอะทาวน์ได้ยังไง ในเมื่อชุดเจ้าสาวแต่เจ้าสาวไม่ได้ใส่ เช่นเดียวกับชุดเจ้าบ่าวแต่เจ้าบ่าวไม่ได้ใส่ นั่นก็เพราะปิยฉัตรบังคับให้ทั้งคู่สลับชุดกัน ซึ่งในคราแรกนั้นจอมพลออกอาการโวยลั่น แต่พอเจอเธอขึงตา และแหวใส่ว่าจะไม่แต่งเท่านั้นแหละ พ่อเจ้าประคุณก็ว่าง่ายขึ้นมาทันทีประหนึ่งโดนสะกดจิต จับให้แต่งหญิงทั้งหน้า วิกผม และสวมชุดเจ้าสาวหรูหราฟูฟ่องก็ไม่ปริปากบ่น น่ารักเสียจนเธอต้องหอมแก้มให้รางวัลคนทำหน้าเหยเกเพราะสุขล้นนั้นหลายต่อหลายครั้ง ส่วนเธอน่ะเหรอโคตรสบาย ได้สวมชุดเจ้าบ่าวเป็นทักซิโด้สีขาวถือว่าเข้าทางถนัด แต่พุงที่ยื่นออกมา
“แต่คุณก็ส่งข้อความมาได้นี่นา” “การส่งข้อความถึงคุณมันยิ่งทำให้ผมคิดถึงคุณ อยากได้ยินเสียง อยากเห็นหน้า อาการคิดถึงเมียของผมมันไม่ต่างจากอาการลงแดงนักหรอกทูนหัว” ที่สุดจอมพลก็สารภาพออกมาในสภาพโหนกแก้มแดงก่ำ มันชวนมองจนคนที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นยิ้มร่า ก่อนจะทำใจกล้ายื่นหน้าไปจูบแก้มสากเร็วๆ หนึ่งที และนั่นก็ทำเอาจอมพลถึงกับตาโต อ้าปากค้าง หัวใจพองฟูคับอก “ขอบคุณนะคะที่คิดถึงฉัน” เธอเอ่ยเสียงหวานหยดจนคนฟังใจสั่น ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโรงพยาบาลคงได้หาทางปล้ำคนท้องให้หนำใจ และถ้ารู้ว่าแค่เจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ แล้วจะได้ความน่ารักจากเมียขนาดนี้เขายอมเจ็บตัวทั้งปี“ก็เมียทั้งคนนี่ครับ” น้ำคำสั้นๆ ง่ายๆ แต่ความหมายโคตรดี๊ดีทำเอาคนฟังอุ่นซ่านไปทั้งใจ ปิยฉัตรยิ้มจนแก้มปริ ดวงตายิบหยี ก่อนจะฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ แต่นิ่งไปสักพักถึงได้เอ่ยออกมา“จะเป็นคุณพ่อลูกสองแล้ว ต้องรู้จักปล่อยวางรู้ไหมคะ อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ขอให้มันเป็นเพียงอดีต โดยเฉพาะเรื่องของแม่คุณ และเรื่องของอรอุมา ต่อให้ผู้หญิงทั้งโลกจะเลว แต่ขอให้คุณมั่นใจได้ว่าไม่ใช่ปี่ ปี่ไม่มีวันหักหลังหรือทรยศคุณ เหมือนอย่างที่แม่ของคุณแล
เขาบอกจะไปแค่เกือบหนึ่งเดือน แต่นี่เลยหนึ่งเดือนมาเป็นอาทิตย์แล้วพ่อของอีหนูในท้องก็ยังไม่โผล่มาให้เห็น ทำเอาว่าที่คุณแม่ซึ่งจะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ากระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก เธอหมั่นเช็กข้อความมือถือที่พ่อของลูกมักจะส่งมาสัพยอกหยอกเย้าเป็นประจำ แต่กลับไม่มีแม้แต่ข้อความเดียวในรอบอาทิตย์ ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาไม่โทรมาหา พอเธอตัดสินใจเป็นฝ่ายติดต่อไปก็ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ ความกังวลและเป็นห่วงจอมพลสารพัดทำให้ปิยฉัตรไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ทานข้าวก็ไม่ค่อยลง นอนก็ไม่หลับ ทั้งที่ตั้งแต่ท้องมาเธอคลั่งไคล้การกินและการนอนหนักเอามากๆ และสภาพเสื่อมโทรมคงไปเตะตาของเพื่อนรักอย่างธารธาราเข้า อีกฝ่ายถึงได้ทิ้งสามีมาชวนเธอไปหาอะไรอร่อยๆ ยัดลงท้องในช่วงหัวคำของสุดสัปดาห์ “ไปกันยังคะคุณแม่” ธารธาราเอ่ยเย้าเล็กๆ ครั้นเห็นเธอพยักหน้าเนือยๆ ก็ตั้งท่าจะไปช่วยถือของที่วางอยู่ข้างกายให้ ทว่ายังไม่ทันจะได้ไปไหนโทรทัศน์ซึ่งแขวนอยู่เหนือศีรษะก็มีการรายงานข่าวด่วนที่ทำให้ทั้งคู่นิ่งจังงัง ‘เครื่องบินของสายการบินดังของอเมริกาไถลออกนอกรันเวย์ ขณะกัปตันกำลังนำเครื่องลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ผ







